14080 ข้อความ
- 1 คนสงสัย..ฝรั่งเคยขำว่า ทำไมคนไทยชอบใช้กระดาษชำระบนโต๊ะอาหาร..ไม่ใช้ให้ถูกที่ถูกทาง..ทั้งที่คนไทยมองว่า ก็มันสะอาดเหมือนกันมิใช่หรือ..สงสัยคนไทยจะเข้าใจผิดกันหมดทั้งปท. แล้วกระมัง..ลองอ่านดูนะ... --------------------------------------- กระดาษทิชชู …แต่ละแบบ …แต่ละชนิด…ไม่เหมือนกัน ~ ต้องเรียนรู้ว่า…ไม่ควรใช้ปนกัน... ~ เพราะ มันถูกผลิตโดยมีคุณสมบัติสำหรับการใช้ที่ต่างกัน ~ ทั้งนี้…สังเกตดูจากรูปร่าง ที่เห็น…ก็น่าจะเดาได้ว่า…ต้องใช้กับงานที่ไม่เหมือนกัน ...เพราะ สารหรือวัตถุดิบ…ที่ใช้ในการผลิตกระดาษ…ไม่เหมือนกัน……ควรใช้ให้เหมาะสมจึงจะเกิดประโยชน์สูงดังนี้ 1. กระดาษชำระ (Toilet paper)…ที่เห็นเป็นม้วนๆ ~ ไม่ควรนำไปเช็ดหน้าเช็ดตา ไม่ควรนำไปห่ออาหาร …ไม่ควรใช้รองอาหารหรือ…ไม่ควรใช้ซับน้ำมัน …เพราะในกระบวนการผลิต …มีการใช้สารจำพวกสารโซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) และ…สารไดออกซิน …ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งและ…ยังคงอยู่ในเนื้อกระดาษ 2. กระดาษเช็ดหน้า (Tissue Paper) ~ ใช้สำหรับซับหน้า…หลังจากการล้างหน้า…หรือ…ล้างเครื่องสำอาง มีความเหนียว-นุ่ม เป็นพิเศษ…ใช้แล้วจึงไม่ควรทิ้งในชักโครก จะทำให้ท่อตันได้ง่าย 3. กระดาษเช็ดปาก (Table paper napkins) ~ ใช้สำหรับบนโต๊ะอาหาร ใช้แทนผ้าเช็ดปาก…สำหรับการรับประทานอาหาร ไม่ควรใช้กระดาษชำระแทน - ที่เห็นใช้กันมากทั่วไป…และไม่ควรทิ้งลงในชักโครก …เพราะจะทำให้ท่อน้ำตันได้ง่าย 4. กระดาษเช็ดมือ (Paper Hand Towel) ~ มีความเหนียว …ไม่เปื่อยยุ่ย…หรือขาดง่าย…เมื่อสัมผัสกับน้ำ …ซึมซับน้ำได้ดี …ผลิตเพื่อใช้กับผิวหนัง …แต่ไม่ควรนำไปสัมผัสกับอาหาร… หรือใช้ซับน้ำมันจากอาหาร 5. กระดาษอเนกประสงค์ (Paper Towel) ~ สำหรับใช้ในงานบ้านทั่วไป …แทนผ้าเช็ดพื้น…หรือผ้าเช็ดโต๊ะ ใช้ซับน้ำมันจากการทอดได้……แต่ไม่ควรนำมาใช้กับผิวหนัง ข้อมูลจาก ; สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.), ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อดีตอธิบดีกรมอนามัยสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย▪︎เราต้องเดินทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน และวันหนึ่งๆ เราต้องเดินลงน้ำหนักบนขาทั้ง 2 ข้างของเราหลายชั่วโมง ●ข้อมูลจาก American Podiatric Medical Association รายงานว่า โดยเฉลี่ยมนุษย์เดินวันละ 8,000-10,000 ก้าว ซึ่งเท่ากับว่าตลอดชีวิตเราจะต้องเดินประมาณ 207,000 กิโลเมตร หรือเป็นระยะทางเท่ากับเส้นรอบวงของโลกถึง 4 รอบ ● การเดินของมนุษย์มีกลไกที่ซับซ้อนมาก ☆ไม่ใช่เพียงแค่การก้าวเท้าไปข้างหน้า ☆ แต่ต้องอาศัยการทำงานของกล้ามเนื้อหลายมัด ☆ศีรษะ ข้อกระดูกสันหลัง ข้อไหล่ ข้อสะโพก ข้อเข่า และข้อเท้า เพื่อให้ร่างกายทรงตัวอยู่ได้ ●ยิ่งเดินมาก ยิ่งทำให้ข้อเสื่อม จริงหรือ(?) ▪︎ใครว่ายิ่งเดินมาก ยิ่งทำให้ข้อเสื่อม ต้องบอกเลยว่า ความเชื่อนี้เชยไปแล้วค่ะ ● จากงานวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่พบว่า 🔺️การเดินหรือวิ่งอย่างถูกต้อง และต่อเนื่องจะช่วยป้องกันข้อเสื่อม 🔺️ส่วนการไม่เดินไม่วิ่ง หรือขาดการออกกำลังกายกลับเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อเสื่อม ● เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น 🔺️คำตอบคือ การเดินหรือวิ่งก่อให้เกิดแรงกดที่กระดูกอ่อนผิวข้อ ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำคอยรับแรงกระแทกในข้อ แรงกดและปล่อยอย่างเป็นจังหวะจากการเดินและวิ่ง จะเป็นการเพิ่มการหมุนเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อ ▪︎น้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อมีความสำคัญ เพราะสารอาหารของเซลล์กระดูกอ่อนไม่มีเลือดมาเลี้ยง ▪︎จึงได้รับสารอาหารและออกซิเจนจากน้ำหล่อเลี้ยงข้อเท่านั้น ▪︎ การเคลื่อนไหวข้อที่ทำให้เกิดแรงกดที่กระดูกอ่อนอย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอ ▪︎จึงเป็นการให้สารอาหารแก่กระดูกอ่อน กระตุ้นการสร้างและซ่อมส่วนที่สึกหรอ ช่วยลดความเสี่ยงข้อเสื่อมได้ 🔺️วันนี้หมอมีเคล็ด (ไม่) ลับของการเดิน ที่จะช่วยลดความเสื่อม และป้องกันการบาดเจ็บของข้อเข่า และกระดูกสันหลังมาฝากค่ะ (one).ปรับท่าเดินให้ถูกต้อง เพราะท่าเดินที่ถูกต้องจะช่วยให้บุคลิกดีขึ้นและดูสง่างาม โดย ● ตามองตรง ไม่ก้มศีรษะ เพราะการก้มศีรษะจะไปเพิ่มการลงน้ำหนักที่กระดูกสันหลังบริเวณคอและหลัง ทำให้มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลังตามมาได้ ●ไม่เกร็งระหว่างเดิน ผ่อนคลายตั้งแต่มือ ข้อนิ้วมือ อาจจะงอข้อศอกเล็กน้อย และก้าวเท้าให้เหมาะสม ไม่ยาว ไม่สั้นจนเกินไป จะลดอาการปวดเกร็งของเข่า และกล้ามเนื้อต้นขาได้ ● ขณะที่เดินให้ลงน้ำหนักที่ส้นเท้าก่อน ตามมาด้วยเหยียบเท้าให้เต็มฝ่าเท้า ส่วนเท้าอีกข้างให้ยกส้นเท้าขึ้นก่อนเช่นกัน จะเป็นการช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าแข้ง (two)เลือกรองเท้าให้เหมาะสม ▪︎โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเดินไกลๆ ควรเลือกรองเท้าหุ้มส้นที่สวมสบาย โดยควรลองสวมรองเท้าเดินก่อนที่จะเดินทางไกล (three)หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าส้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสวมรองเท้าที่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่งเพราะเมื่อสวมส้นสูงจะทำให้หลังงอ และมีการโน้มตัวไปด้านหน้า ร่างกายจึงพยายามรักษาสมดุลด้วยการต้าน หรือเกร็งไม่ให้ลำตัวและแผ่นหลังเอนไปข้างหน้ามากเกินไป ส่งผลให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลัง ● หากมีพฤติกรรมนี้เป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้กระดูกเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาทได้ (four).แขม่วพุงหรือแขม่วท้องเวลาเดิน เป็นการฝึกบริหารกล้ามเนื้อหลังมัดลึก ทำได้ดังนี้คือ ● ขั้นที่ 1 หายใจเข้าและออกให้สุด จำความรู้สึกไว้ว่าการหายใจเข้าและออกแบบลึกสุดๆ คิดเป็นการหายใจแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ● ขั้นที่ 2 หายใจเข้าประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แขม่วท้องค้างไว้ นับ 1-10 แล้วหายใจออก คลายหน้าท้อง โดยขณะเกร็งหรือแขม่ว ให้ผ่อนคลายในระดับที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับผู้อื่นได้ ●การแขม่วพุงยังมีประโยชน์อีกมากมาย เช่น เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ลดแรงกระทำ และช่วยกระจายแรงกระทำต่อกระดูกสันหลัง เพิ่มความมั่นคงให้กระดูกสันหลัง ป้องกันการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุบริเวณหลังส่วนล่าง ทำให้ประสิทธิภาพการหายใจดีขึ้น กระชับหน้าท้อง ทำให้หน้าท้องแบนราบ บุคลิกภาพดี (five)ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ● คนที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 10 กิโลกรัม จะมีแรงกดต่อข้อเข่าเพิ่มขึ้น 40 กิโลกรัม หรือ 4 เท่าของน้ำหนักตัวทุกๆ ย่างก้าวที่เดิน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงการเกิดอาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อม ●โดยน้ำหนักตัวที่เหมาะสมสำหรับชาวไทย คือ ค่าดัชนีมวลกาย ระหว่าง 19-25 กิโลกรัมต่อตารางเมตร (six)ไม่ควรหิ้วหรือถือของหนัก โดยเฉพาะของที่มีน้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัม เพราะถึงแม้ว่าน้ำหนักตัวจะไม่มาก แต่ดันหิ้วของหนักมาก โดยเฉพาะกระเป๋าถือของผู้หญิง ก็จะเพิ่มแรงกดต่อกระดูกเช่นกัน (seven)หมั่นบริหารกล้ามเนื้อต้นขา ด้วยการเหยียดเข่าให้ตรงและเกร็งค้างไว้ครั้งละ 5 วินาที ประมาณวันละ 10-20 ครั้ง หรืออาจเข้ายิมเล่นเวต เพื่อเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีสะโพกกว้าง ซึ่งมีแนวโน้มเกิดปัญหาปวดเข่าได้ง่าย การออกกำลังกายด้วยวิธีดังกล่าว จะสร้างกล้ามเนื้อให้ช่วยรั้งกระดูกสะบ้าเข้าด้านใน เพื่อลดปัญหาปวดเข่าในระยะยาว (eight)หลีกเลี่ยงการขึ้น-ลงบันไดบ่อยเกินไป เช่น เดินขึ้น-ลง บ้าน 3 ชั้น มากกว่าวันละ 5 ครั้ง ควรวางแผนการหยิบของใช้ให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินขึ้น-ลง (nine)หลีกเลี่ยงการยืนพักขาลงน้ำหนักไปที่ขาข้างเดียว ●การยืนที่ถูกต้อง ควรลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างเท่าๆ กัน โดยยืนแยกขาให้กว้างเท่าช่วงสะโพก จึงจะเกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกาย (one)(zero)เป็นคนช่างสังเกต ▪︎โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการเจ็บปวดหลังการเดิน ▪︎ ควรสังเกตว่าเรามีอาการเจ็บตรงไหน เพื่อตรวจสอบว่า ตรงไหนที่เราอาจจะมีปัญหา จะได้รีบแก้ไข ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามจนแก้ไขไม่ได้ 🔺️การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย ทำได้ทุกเวลา โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ●แนะนำให้เดินอย่างน้อยวันละ 10,000 ก้าว หรือเดินอย่างน้อยวันละ 30 นาที สะสมให้ได้สัปดาห์ละ 150 นาที ⭐ขอให้คุณผู้อ่านเดินอย่างมีความสุข สุขภาพแข็งแรงกันทุกๆ ท่านเลยนะคะ 🔺️พันเอกหญิง รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงสุมาภา ชัยอำนวย (คุณหมอยุ้ย)ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยดืมกาแฟกับเครื่องชูกำลังทำให้เกิดอาการช็อค จริงหรือไม่ ?ดืมกาแฟกับเครื่องชูกำลังทำให้เกิดอาการช็อค หมดสติAZ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแจ้งย้ำสมาชิกให้ทราบอีกครั้ง ประมาณ2เดือนที่แล้วมีเจ้าหน้าที่เคอรี่มาส่งกล่องพัสดุ ผมบอกว่าไม่ได้สั่งอะไร เจ้าหน้าที่บอกให้เซ็นรับไปก่อนถ้าไม่ใช่ค่อยส่งคืนที่หลัง พอดีสังเกตุที่กล่องไม่มีชื่อและเบอร์โทรของผู้ส่ง จึงยืนยันที่ว่าจะไม่รับ เจ้าหน้าไม่ว่าอะไรรับของคืนแล้วขับรถไปเลย หลังจากนั้นประมาณ5นาทีมีตำรวจในเครื่องแบบ1คนและนอกเครื่องแบบ1คน ขี่มอร์ไซค์มาจอดหน้าบ้าน พยามจะเรียกให้เปิดประตู แต่ผมไม่เปิด แกล้งโทรหาตำรวจ ส.น.ให้มันได้ยิน มันขี่รถออกไปเลย ที่เล่ามาเพราะวันนี้เพื่อนโทรมามีเหตุการณ์นี้ที่บ้านเค้าเหมือนกัน ดีที่นึกได้ว่าผมเคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง รีบโทรหาตำรวจ มันเผ่งหนีเลย ย้ำน่ะครับ มิจฉาชีพแบบนี้กำลังระบาดภาคใต้ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัย🎤🎤🎤สาระน่ารู้📣📣📣 ด่วน! เตือนภัยๆๆๆๆ *** เขาขโมยใช้ Sim กันได้แล้ว ช่วยกันส่งต่อด้วยนะ... > sim ของมือถือโดนลักลอบใช้ได้แล้ว !! > โปรดระวัง ถ้าคุณได้รับสัญญาณโทร ศัพท์บนมือถือของคุณว่า > ช่างเทคนิค Cellnet หรือ Vodafone บอกคุณว่า > พวกเขากำลังทำการตรวจเช็คโทรศัพท์ของคุณ > และบอกให้คุณต้องกด # 90 หรือ 90 # > ตอนนี้มีบริษัทหลอกลวงฉ้อฉล วางอุบายนี้ขึ้นมา > ถ้าคุณได้รับสัญญาณโทรศัพท์ดังกล่าว คุณต้องวางสายโทรศัพท์ทันที > ถ้าคุณกด # 90 หรือ 90 # ล่ะก็ พวกเขาจะสามารถเข้าไปใน sim card > ของคุณได้ > และสามารถทำการใช้โทร.ออกจาก sim card นั้น > โดยค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น จะเป็นของคุณ > กรุณาบอกคนอื่นๆด้วย > ปล่อย ไวรัส อย่าเปิด แถมข้อมูลยังโดนแฮ็กด้วยบอกต่อด้วย โหด มาก ; > เตือนทุก คน ฟอร์เวิร์ดต่อด้วย นะ ! > Virus ชื่อ kali มันจะมากับเมล์ชื่อ Let watchTV . > อย่า เปิด เพราะ harddisk คุณจะเกลี้ยงทุกอย่างโดย ทันทีผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพึ่งรู้.. การขยับนิ้วมือ ทำทุกวัน อย่างน้อยครั้งละสามนาท จะทำให้แข็งแรง ไม่ปวด บ่า ไหล่ แขนแข็งแรง เป็น ความรู้ของจีนมีมานานกว่า พันปีแล้ว ทำตามในวีดีโอแค่วันละ10 นาที จะทำให้เส้นเลือดฝอย ที่เริ่มอุดตันตั้งแต่อายุ 40 พื้นตัวคืนมา (ยิ่งอายุมากก็ ยิ่งตันมาก) ทำให้ร่างกายดี ลองทำดู จะ ไม่เป็น อัลไซเมอร์ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอุบลฯพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 5 คนกรณีมีข่าวลือว่าพบผู้ป่วยโควิดในอุบลฯเพิ่มที่วารินฯ สอบถามทางสสจ.อุบลฯได้ข้อเท็จจริงดังนี้ มีชายเพศทางเลือกเป็นคนสว่างวีระวงศ์ มาจากสัตหีบ ไปงานศพที่วารินฯ และออกเที่ยวที่อุบลฯ มาวันที่ 6 กลับวันที่ 8 มกรา แล้ววันที่ 9 ไปกินเหล้ากับเพื่อน ที่สัตหีบ วันที่ 14 เพื่อนโทรฯมาว่าชายเพศทางเลือกติดโควิด ไทม์ไลน์มาอุบลฯ จึงสอบย้อนกลับ ตรวจเพื่อน 5 คน ที่เสี่ยงสูง ผลเพิ่งออกมาเมื่อสักครู่ว่าเป็นลบทั้งหมด ดังนั้นข่าวลือที่ว่า 5 คนติดโควิดจึงไม่เป็นความจริง คาดว่าชายเพศทางเลือกอาจติดโควิดจากวงสุรากับเพื่อนที่สัตหีบ หลังจากไปอุบลฯ 19-01-64 ศูนย์ EOC สสจ.อุบลราชธานีโควิด 2019สุชัย เจริญมุขยนันท• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย่าลืมกินยานะครับ (Don't forget to take your M.E.D.S) วันก่อนนั่งดูรายการของ Tom Ferry ชอบตอนนี้มาก เค้าบอกว่า "คุณไม่จำเป็นต้องมีวันร้าย ๆ ใช่มั้ย?" "ถ้าคุณต้องการเริ่มต้นวันดี ๆ ถึงเวลาที่คุณต้องกระตุ้นตัวเองด้วยการกินยา (MEDS) แล้ว, เชื่อผม!" ยา 5 เม็ดที่เค้าพูดถึง คือ 1. Meditation นั่งสมาธิ นี่ขนาดฝรั่งเค้ายังนั่งสมาธิเลย เราคนไทยเมืองพุทธแท้ ๆ ผมว่าเราน่าจะเริ่มปฏิบัติกันนะครับ นั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ 15 นาที ตอนตื่นเช้าหรือก่อนนอนก็ได้ อันนี้ยาเม็ดแรกครับ 2. Exercise ออกกำลังกายให้เหนื่อย แต่ไม่เหนื่อยมากเกินไป อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ใน fat burn zone อย่างน้อย 150 นาที ต่อสัปดาห์ นี่คือยาเม็ดที่สองของวันครับ 3. Diet อาหารก็สำคัญ ลดการกินของมัน แป้ง น้ำตาลลง กินผักผลไม้ให้มากขึ้น สุขภาพแข็งแรงขึ้นแน่นอนครับ นี่ไง ยาเม็ดที่สามของวันนี้ 4. Sleep การนอน ให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืนขึ้นไปนะครับ ถ้าหลับไม่พอ ไปหลับซ่อมช่วงกลางวันซัก 15-20 นาที ก็มีประโยชน์ อย่าเครียดมากครับ เวลานอนแก้อะไรไม่ได้แล้ว นอน ๆ ไปเถอะ คิดไปก็เท่านั้น 5. Social คบเพื่อนดี สังคมดี เราก็จะมีความสุขครับ เลือกคบคนดี ๆ หากหลีกเลี่ยงคนไม่ดีไม่ได้ ก็ทำใจ "เมตตา" กันไปครับ เค้าก็เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เช่นเดียวกันกับเรา เค้าต้องลำบากลำบนหาเงินหาทอง ต้องรักษาญาติพี่น้องที่เจ็บป่วย และสุดท้ายตัวเองก็เจ็บป่วยและตายจากไป เช่นเดียวกันกับเรา เหมือนกันทุกคนนั่นแหละครับ อภัย และ เมตตา กันครับ เราจะสบายใจเอง สรุป ยา 5 เม็ด ที่เล่ามา อย่าลืมกินทุกวันเลยนะครับไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยห้ามพระและสามเณรยุ่งเกี่ยวกับการเมืองจริงหรือมหาเภรสมาคมไม่อนุญาตให้พระและสามเณรยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมืองจริงหรือanonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยลงทะเบียน คนละครึ่งรอบเก็บตก 1 ล้านสิทธิ วันที่ 20 ม.ค. อย่าพลาดโครงการคนละครึ่ง รอบเก็บตกในวันที่ 20 มกราคม 2564 ซึ่งคาดว่าจะมีสิทธิ์คงเหลือมากกว่า 1 ล้านสิทธิ โดยเป็นสิทธิที่คงเหลือจากเฟสแรก จำนวน 5 แสนสิทธิ์ และเฟส 2 จำนวน 5 แสนสิทธิ์ ซึ่งมาจากที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์ และผู้ที่ได้รับสิทธิ์ แต่ยังไม่มีการใช้จ่ายภายใน 14 วัน ซึ่งจะต้องรอสรุปตัวเลขอีกครั้งanonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเสียชีวิตบนทางหลวง ได้รับเงินชดเชยจากกรมทางหลวง 15,000 บาท จริงหรือมีข่าวลือที่ว่า หากเกิดอุบัติเหตุบนทางหลวงถนนสายต่างๆ ถึงขั้นเสียชีวิต ญาติสามารถติดต่อขอรับเงินช่วยเหลือจากแขวงการทางฯ ได้รายละ 15,000 บาท ข่าวจริงหรือanonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโฆษณา ใช้อุปกรณ์ Power Factor Saver สามารถประหยัดค่าไฟ 50% จริงหรือโฆษณาอุปกรณ์ Power Factor Saver ได้ระบุว่าหากนำไปเสียบกับเต้ารับไฟฟ้าภายในบ้านจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน ได้สูงสุดถึง 50% จริงหรือanonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคณบดีของโรงพยาบาลศิริราชได้ออกมาแนะนำวิธีการรักษาโรคโควิด ให้ทานวิตามินซี 3,000-5,000 มิลิกรัม จริงหรือคลิปวิดีโอความยาว 3 นาที 18 วินาทีแสดงผู้ชายใส่เสื้อสีขาวลายแถบสีชมพู-ขาว กำลังพูดเรื่องการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเพื่อต้านโรคโควิด-19 ในช่วงวินาทีที่ 21 เขาพูดว่า “สิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาโควิด คือว่าทำอย่างไรให้ร่างกายของเราเนี่ยแข็งแรงมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทานอาหารให้ครบทุกหมู่ และประการสำคัญครับ ต้องทานวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินซี เพราะเป็นวิตามินที่สำคัญมาก เพราะต้องทานวิตามินซีให้ได้วันหนึ่ง 3,000 ถึง 5,000 มิลิกรัม” รักษาได้ จริงหรือโควิด 2019anonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกาละแมร์โฆษณาอาหารเสริมเกินจริง ผิด อย.ไหมกาละแมร์ พัชรศรี ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการรีวิวอาหารเสริม พร้อมอวดสรรพคุณว่า“กว่าคนจะเชื่อได้ ต้องทานจนหมดกล่อง ทานแล้วกรอบหน้าชัด เหนียงหาย หน้ายก ตาที่เคยหนังตาตกก็เป็นตา 2 ชั้น รอยย่นหาย ร่องแก้มตื้น ทำให้จมูกเข้ารูป” เข้าข่ายเกินจริง อย.สามารถเอาผิดได้ จริงหรือความสวยความงามanonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสธ.ยืนยันว่าส่งข้อความเตือนแอป "หมอชนะ" 3,000 หมายเลขโทรศัพท์ เป็นของจริงมีประชาชนจำนวนไม่น้อย ได้แชร์ข้อความที่ หมอชนะ ส่งข้อความเข้ามาแจ้งเตือนในมือถือกันไม่น้อยเลยทีเดียว บางคนได้ข้อความเดิมๆถึง 3 ข้อความ สธ.ยันส่งข้อความเตือนแอป "หมอชนะ" 3,000 หมายเลขโทรศัพท์จริงanonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกระทรวงการคลัง เตือนประชาชน "เราชนะ" ไม่มีแอปลงทะเบียน จริงหรือตามที่ได้ปรากฏว่ามีการเผยแพร่ “แอปพลิเคชันลงทะเบียนเราชนะ” ตามสื่อต่างๆ นั้น กระทรวงการคลัง ขอเรียนว่า แอปพลิเคชันดังกล่าว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับโครงการเราชนะของรัฐบาลและกระทรวงการคลังแต่อย่างใดโควิด 2019anonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยต้องใช้เวลาพิจารณาวัคซีนโควิด-19 นานถึง 3 เดือน กับ อย. จริงหรือนายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมาขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไซโนแวค ประเทศจีน โดยอ้างว่า อย. ต้องใช้เวลา 3 เดือนในการพิจารณาวัคซีนดังกล่าว จริงหรือโควิด 2019anonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยธนาคารกรุงเทพ ส่ง SMS และอีเมล ให้ผู้ใช้งานอัปเกรดแอปพลิเคชั่น ของจริงหรือเปล่ามีข้อความ หรืออีเมลจากธนาคารกรุงเทพ ส่งถึงผู้ใช้งาน โดยข้อความได้แนบลิงก์ เพื่อให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ในการติดตั้งโปรแกรม หรืออัปเดตระบบใด ๆ ลงบนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ของจริงหรือเปล่าanonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแอสไพริน รักษาโควิดได้ จริงหรือมีการแชร์ข้อความประเด็นเรื่อง รักษาโควิด-19 ด้วยตนเองง่ายๆ แค่รับประทานยาแอสไพริน จริงหรือโควิด 2019anonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพ.ร.บ.ข้าวจะจัดเก็บ 17% จากการซื้อขาย และห้ามขายข้าวด้วยตนเอง จริงหรือมีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องรัฐบาลบังคับใช้ พ.ร.บ.ข้าว โดยระบุเนื้อหาว่า ห้ามขายข้าวเอง การซื้อขายข้าวต้องผ่านรัฐ ฝ่าฝืนมีโทษคุก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท จริงหรือanonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจีนผงะ! เจอเชื้อโควิด-19 ในไอศกรีม สั่งปิดโรงงาน ตรวจพนักงานหาเชื้อวุ่น https://www.matichon.co.th/foreign/news_2533466โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยปัตตานีตีไข่แตก !! มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย จริงหรือไม่ ?ปัตตานีมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่หนึ่งราย จริงหรือไม่ ?โควิด 2019AZ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย#ขอเชิญชวนทำบุญ ถวายกุศลแด่ครูอาจารย์ทั้งทางโลกทางธรรมกันนะครับ# บุญซ่อมแซมและปิดทองพระประธานอุโบสถวัดโตนด หลวงพ่อสำเร็จ พระประธานประจำอุโบสถวัดโตนด ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งได้สร้างมาในสมัยอยุธยา ได้เกิดรอยร้าวตั้งแต่ สถานการณ์น้ำท่วมในปี พ.ศ.2554 ทำให้เกิดความชื้น ปูนกะเทาะ เกิดรอยร้าว จากองค์พระประธาน ในการนี้ทางคณะกรรมการวัดโตนด มีความเห็นตรงกันว่า วัดจะต้องรีบบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระประธาน เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการะต่อไป อานิสงส์ในการบูรณะพระประธาน 1. ช่วยยกชีวิตตกต่ำ ให้รุ่งเรืองขึ้น 2. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้ว ก็จะเลิกเว้นการจองเวร 3. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัย สามารถร่วมบุญได้ที่ ชื่อบัญชี บูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระประธานและอุโบสถ วัดโตนด ธนาคารออมสิน สาขาบางกรวย เลขที่บัญชี 020350809461 สอบถามได้ที่ เจ้าอาวาสวัดโตนด 0823330444 Cr.#วัดโตนด บางกรวย นนทบุรีไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยด่วน !! นอร์เวย์เสียชีวิต 23 คนหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เร่งสอบสวนในรายละเอียด https://www.blockdit.com/posts/60025351aa01130ce29cf61eโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหมอยง แจงประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 ขึ้นกับพื้นที่ อย่ายึดติดที่ตัวเลข 2021-01-14 17:21:56 สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ม.ค. 2564)--นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่รัฐบาลจะนำเข้ามาฉีดให้ประชาชน ว่า การพิจารณาเรื่องประสิทธิภาพนั้นอย่าไปยึดติดที่ตัวเลข ขอให้ยึดความเป็นจริง เนื่องจากผลทดสอบในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน สำหรับวัคซีนของบริษัท ซิโนแว็กเทคโนโลยี จำกัด นั้น ทดสอบที่ตุรกีในบุคคลทั่วไปให้ประสิทธิภาพ 90%, อินโดนีเซียทดสอบในบุคคลทั่วไป 60% ขณะที่บราซิลทดสอบในบุคลากรทางแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูงให้ประสิทธิภาพเหลือ 50% ซึ่งวัตถุประสงค์ของการผลิตวัคซีนมี 3 ประการ คือ 1.ฉีดแล้วป้องกันการติดเชื้อ 2.ฉีดแล้วติดเชื้อแล้วแต่ไม่เป็นโรค และ 3.ฉีดแล้วเป็นโรคแล้วไม่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต "ตอนนี้ตลาดเป็นของผู้ขาย เพราะกำลังขาดแคลน ถ้าจะให้เลือกวัคซีนที่ดีที่สุดอาจซื้อไม่ได้ แต่องค์การอนามัยโลกบอกป้องกันได้เกิน 50% ก็ยอมรับได้ ถึงแม้เราอยากได้ที่ป้องกันถึง 100%" นพ.ยง กล่าว ตนเองคงไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วจะมีภูมิต้านทานได้นานแค่ไหน เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ อย่างกรณีวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส ที่ก่อนหน้านี้ระบุว่าฉีดเข็มเดียวป้องกันได้ตลอดชีวิต ตอนนี้ต้องฉีดเพิ่มอีกเข็ม และจากการศึกษาเชื้อไวรัสโควิด-19 พบการกลายพันธุ์มีน้อยกว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่ประมาณสิบเท่า ซึ้งไม่กระทบต่อการผลิตวัคซีน "ถามว่าจะป้องกันได้กี่ปี นานแค่ไหน บอกได้เลยว่าไม่รู้ เพราะวัคซีนนำมาใช้แค่ 3-4 เดือน จะให้บอกว่าป้องกันนานแค่ไหน ไม่มีใครรู้ ต้องติดตามกันต่อไป ความรู้ใหม่จะเกิดขึ้น ถ้าฉีดแล้วยังติดเชื้อก็ต้องฉีดกระตุ้นใหม่ ซึ่งอาจจะอยู่ได้อีก 5 ปี" นพ.ยง กล่าว ส่วนการตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่ขึ้นอยู่ความเสี่ยงของแต่ละคน เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูง โดยผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีมีโอกาสเสียชีวิต 3-4% ผู้ที่มีอายุเกิน 70 ปีมีโอกาสเสียชีวิต 10% และผู้ที่มีอายุเกิน 80 ปีมีโอกาสเสียชีวิต 20% แต่ถ้าเป็นผู้ที่อายุน้อยถึงจะติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ต่อไปโรคนี้อาจเป็นโรคไข้หวัดธรรมดาที่ติดต่อได้ง่ายในเด็กๆ แต่ติดเชื้อแล้วไม่มีอาการ ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันเอง แต่ไวรัสชนิดนี้จะไม่มีวันหายไปแต่จะมีวิวัฒนาการที่ไม่ทำให้เกิดอาการรุนแรง ปัจจุบันทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วราว 30 ล้านโดส โดยเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายที่ฉีดในจีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน และวัคซีนชนิด mRNA ของไฟเซอร์ฯ ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะเจรจานำวัคซีนที่มีใช้แล้วเข้ามาทดลองฉีดในประเทศไทยว่าจะมีการตอบสนองอย่างไร ตนเองได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน มีผู้ตอบแบบสอบถามกลับมากว่า 3.3 หมื่นคน โดยประชาชนส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นที่จะรับการฉีดวัคซีน 55% มีผู้ที่ไม่ฉีด 5% เนื่องจากก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขเกิดความกังวลว่าอาจสูญเสียงบประมาณไปเปล่าๆ หากมีการนำเข้าวัคซีนแล้วประชาชนไม่สนใจ นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังให้ความเชื่อมั่นกับวัคซีนที่ผลิตจากประเทศแถบยุโรปและอเมริกามากกว่าวัคซีนที่ผลิตจากที่อื่น อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนยึดมั่นตามมาตรการชีวอนามัย เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย เว้นระยะห่าง ซึ่งตนเองมีประสบการณ์จากการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขแล้วไม่ติดเชื้อหลังกักกันโรคครบกำหนดแล้ว --อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น