(2461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยจริงหรือ สามารถชมภาพยนตร์ในโรงหนังได้ แต่ห้ามนำน้ำและป๊อปคอร์นเข้าไปกินในโรงสามารถนั่งติดกันได้มากสุดแค่ 2 คน จากนั้นเว้นระยะห่าง 3 ที่นั่ง เพื่อให้ได้ระยะห่างที่เหมาะสม 1-2 เมตร ส่วนที่นั่งแต่ละแถวไม่จำเป็นต้องเว้น แต่ให้จัดแบบสับหว่างกันไม่ให้นั่งตรงกัน ขณะผู้เข้าชมภาพยนตร์ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอด ทั้งนี้ ระหว่างการชมภาพยนตร์ที่ต้องขอความร่วมมือคือห้ามรับประทานน้ำดื่มและป๊อปคอร์น เนื่องจากต้องถอดหน้ากากอนามัยและอาจสัมผัสใบหน้า ละอองฝอยน้ำลายอาจกระเด็นออกมา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค และหากมีการขายเครื่องดื่มและอาหาร โรงภาพยนตร์ต้องจัดพื้นที่ให้เหมือนกับร้านอาหารภายนอกที่มีฉากกั้นระหว่างการรับประทานโควิด 2019naydoitall• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำต้มกระเทียมรักษาโรคจากไวรัสโคโรนาได้จริงหรือ?มีกระแสในอินเทอร์เน็ตว่า การดื่มน้ำต้มกระเทียม ช่วยรักษาโรคโควิด-19 ได้ โดยมีภาพที่ถูกแชร์ต่อมีข้อความเกี่ยวกับการนำเอากระเทียมมาต้มน้ำดื่มรักษาไวรัสโคโรนา และบอกวิธีปรุงมาด้วยคือ ใช้กระเทียม 8 ลูก (8 หัว) แกะเปลือกออก ต้มกับน้ำ 7 แก้ว ต้มจนกระเทียมสุก ดื่มวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ครั้งละ 1-2 แก้ว ต่อครั้งยาสมุนไพรโควิด 2019naruemonjoy• 6 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่พบข้อมูลปริมาณสารคอร์ไดซิปินในผลิตภัณฑ์ ภูมิถั่งเช่า ตามที่โฆษณาอวดอ้างผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภูมิถั่งเช่า โฆษณาชวนเชื่อทางสื่อโซเชียลว่ามีสรรพคุณ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค ทางเว็บไซต์ Anti-Fake News Center Thailand ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีผลิตภัณฑ์ภูมิถั่งเช่า ที่ใช้ข้อความแสดงสรรพคุณว่าช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคได้นั้น ทางอย. ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ยื่นขอใบอนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในชื่อ ภูมิถั่งเช่า (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถั่งเช่าชนิดผงผสมวิตามินซี) / PUMTANGCHOW (DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT CORDYCEPS POWDER PLUS VITAMIN C ) เลข อย. 74-2-03357-5-0178 ซึ่งในการยื่นขออนุญาตไม่มีการยื่นข้อมูลปริมาณสารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) และข้อมูลประสิทธิผลในการเพิ่มภูมิต้านทานโรค ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่มีผลในการบำบัดบรรเทา หรือรักษาโรค และต้องแสดงคำเตือนดังกล่าวบนฉลาก จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการโฆษณาของผลิตภัณฑ์นี้ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ หรือหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือโทรสายด่วน อย. 1556std46777• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกลุ่มเป้าหมายเงินดิจิทัลเฟส 2 ที่โอนเงินไม่สำเร็จ อาจถูกตัดสิทธิไม่ระบุชื่อ• 9 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยซื้อสลากดิจิทัลจากแอปฯ เป๋าตัง เรทจ่าย 3 ตัว 1,100 บาท เรทจ่าย 2 ตัว 110 บาท ได้ที่เพจเป๋าตังพลัสผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 1 คนสงสัย1. น้ำยาบ้วนปาก 2. Fluvoxamine (50mg) 3. Niclosamide (crushed/powdered) 4. Bromhexine (8mg) 5. Cyproheptadine (4mg) ร้านขายยาช่วย stock ด้วยครับ สำหรับผู้ป่วยช่วง Home isolationไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย15 พ.ค. 2564 ออมสิน ขยายฐานสินเชื่อโควิด อีก 2 ล้านคน กู้แล้ว กู้ได้อีก จริงหรือไม่ออมสิน ขยายฐานสินเชื่อโควิด อีก 2 ล้านคน กู้แล้ว กู้ได้อีก จริงหรือไม่โควิด 2019Mrs.Doubt• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอ่าวมาหยาเปิดให้เที่ยวได้ปีหน้า จริงหรืออ่าวมาหยาปิดให้ธรรมชาติฟื้นฟูมา 2 ปีแล้ว ปีหน้าพร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้อีกครั้งnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกองทัพภาคที่ 2 สั่งอพยพประชาชนแนวชายแดน 4 จังหวัด หลังกัมพูชาเปิดฉากยิงภูผาเหล็ก–พลาญหินแปดก้อนข่าวไทยกัมพูชาไม่ระบุชื่อ• 10 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยปรับฐานเงินเดือนครู รอบ 2ไม่ระบุชื่อ• 9 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกัญชาช่วยบรรเทาอาการลมชักเฉียบพลันได้กรณีที่มีข้อมูลในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกัญชาช่วยบรรเทาอาการลมชักเฉียบพลันได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีคำแนะนำด้านสุขภาพว่ากัญชาช่วยบรรเทาอาการลมชักเฉียบพลันได้ ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า พืชกัญชามีสารสำคัญ CBD และ THC ซึ่งมีฤทธิ์การลดชัก แต่ THC มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ในขณะที่ CBD ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท มีหลักฐานเชิงประจักษ์ในปัจจุบันสามารถนำสาร CBD มารักษาโรคลมชักรักษายากในเด็ก อย่างมีประสิทธิผลแต่ก็มีผลข้างเคียงในประเทศไทยมีการศึกษาการใช้สารสกัดกัญชา CBD สูง ในการรักษาโรคลมชักรักษายากในเด็กพบว่ามีประสิทธิผลและมีผลข้างเคียงเช่นกัน โดยทั่วไปในผู้ป่วยที่มีอาการชักจะหยุดชักเองภายใน 2 – 3 นาที แต่ถ้าชักนานเกิน 5 นาที จะมีโอกาสชักต่อเนื่องรุนแรงมากขึ้น ในผู้ป่วยที่ชักต่อเนื่องต้องให้ยาเพื่อให้หยุดชัก ได้แก่ diazepam หรือ benzodiazepine ทางเส้นเลือด หรือการสวนทวาร จะทำให้ชักหยุดเร็วขึ้น โดยในวิดีโอแสดงถึงอาการชักของผู้ป่วยเด็กชนิดเกร็งกระตุกทั้งตัว ซึ่งไม่ได้แจ้งว่ามีระยะเวลาชักกี่นาที แต่หลังจากหยดน้ำมันกัญชาแล้วผู้ป่วยหยุดชัก ข้อสันนิษฐานคือ ผู้ป่วยอาจหยุดชักเองพอดีเวลากับการหยดยา การหยดน้ำมันกัญชาทางปากทำให้หยุดชักได้ จากการศึกษาสารสกัดกัญชาจะใช้รักษาโรคลมชักในผู้ป่วยที่รักษาต่อเนื่องเป็นการรักษาระยะยาวโดยค่อยๆ ปรับขนาดยาทีละน้อยเพื่อป้องกันชักซ้ำ ไม่ได้ใช้เพื่อหยุดชักในผู้ป่วยขณะชักระยะเฉียบพลัน (acute seizure) ผู้ป่วยหยุดชักในวิดีโอจึงเป็นข้อสันนิษฐานข้อที่ 1std48890• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเปิดตัว ร้านอาหารกัญชา แห่งแรกในไทย ‘เติมเต็มทุกคำ สุขล้ำทุกเวลา’ . ‘กัญชารส’ ผุดร้านอาหารเอาใจสายเขียว จัดเต็มเมนูกัญชา ชูรสชาติด้วยสมุนไพรไทยโบราณ ในรูปแบบอาหารฟิวก์ชั่นกัญชาไทย จัดเต็ม 4 เมนูเด็ดมัดใจผู้นิยมสมุนไพร . 1.“รื่นเริง บันเทิงยำ” ...เติมเต็มทุกคำ สุขล้ำทุกเวลา (ใส่กัญชา 5 ใบต่อจาน) 2.“กระเพราสุขใจ” กินมื้อไหนก็ไม่เบื่อ (ใส่กัญชา 1/2 ใบต่อจาน) 3.“ขนมปังคิกคัก” กินเสริมเวลาพัก แล้วจะรักทุกคำ (ใส่กัญชา 2 ใบต่อจาน) 4.“เล้งแซ่บซดเพลิน” ช่วยเจริญอาหาร (ใส่กัญชา 5 ใบต่อจาน) . ทั้งนี้ร้านอาหารดังกล่าวจัดทำขึ้นโดย โรงพยาบาลอภัยภูเบศ ถือเป็นหนึ่งในเมนูคนรุกสุขภาพรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการต่อยอดนโยบาย ‘ปลดล็อคกัญชา’ ซึ่งอนุมัติให้สามารถใช้ กิ่ง-ก้าน-ใบ ของต้นกัญชา โดยไม่ผิดกฎหมาย โดยต้องได้รับการรับรองร่วมกับภาครัฐและสามารถยืนยันผลผลิตกัญชาจากสหกรณ์ชุมชนได้ ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ ของผู้ที่สนใจเริ่มต้นธุรกิจอาหารสีเขียว ในประเทศไทยซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่อาหารอร่อยและรสชาติเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในโลก ใครสนใจเชิญไปชิมที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา อภัยภูเบศ จ.ปราจีนบุรี 037-211-088 (ต่อ 3123) .ยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย.พบอาหารเสริม อวดสรรพคุณทางเพศเกินจริง อย่าหลงซื้ออย.พบอาหารเสริม อวดสรรพคุณทางเพศเกินจริง อย่าหลงซื้อ พบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Blue M Gold โฆษณาโอ้อวดสรรพคุณทางเพศเกินจริง อย.ตรวจสอบ พบสถานที่ผลิตอยู่ในสถานะพักใช้ใบอนุญาต เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อซื้อมาบริโภค เพราะอาจได้รับอันตราย วันนื้ (16 พ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Blue M Gold ผ่านทางเว็บไซต์และสื่อโซเชียลมีเดีย มีข้อความโฆษณาชวนเชื่อสามารถเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย ปลุกอารมณ์ทางเพศ อย.ได้ดำเนินการตรวจสอบพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับอนุญาตโดยใช้ชื่อ สารสกัดจากกระชายดำ, ซอยโปรตีน ไอโซเลต, สารสกัดใบแป๊ะก๊วย,สารสกัดจากถั่งเช่า, สารสกัดจากโสม, สารสกัดจากเห็ดหลินจือ, สารสกัดจากหอยนางรม, ซิงก์อมิโนแอซิดคีเลต, วิตามินอี (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) เลขสารบบอาหาร 12-2-00129-1-0253 และสถานที่ผลิตอยู่ในสถานะพักใช้ใบอนุญาตstd47884• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 ตัดสิทธิแล้วคนไม่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย‘หน้ากากผ้า-หน้ากากอนามัย’ ใส่ต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงไม่ทำให้ขาดออกซิเจนเตือนพ่อแม่ไม่ควรสวมหน้ากากให้เด็กต่ำกว่า 2 ขวบ เสี่ยงภาวะคาร์บอนไดออกไซด์คั่งโควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Super Height ช่วยเพิ่มความสูงเลิกเตี้ย สูงขึ้น 2-4 เซน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Super Height สามารถช่วยเพิ่มความสูง บำรุงกระดูก และเสริมภูมิคุ้มกันได้naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเปิดลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับ "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" รายใหม่ ปี 64 ได้แล้ว จริงหรือผู้สูงอายุที่อายุครบ 60 ปีขึ้นไป หรือเกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย.2505 สามารถไปลงสิทธิ์รับเบี้ยผู้สูงอายุรายใหม่ ปี 64naydoitall• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยWOW เคเอฟซีมอบ 2 กล่องใหญ่เพื่อฉลองครบรอบ 89 ปี คลิกที่นี่เพื่อรับกล่องของคุณ:: http://www.kfc-box.club/naydoitall• 6 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยโลกร้อน : งานวิจัยพบ เฟซบุ๊กไม่จัดการกับข้อมูลที่พยายามปฏิเสธเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศงานวิจัย 2 ชิ้นพบว่า เฟซบุ๊กไม่จัดการระงับเนื้อหาที่พยายามบอกว่าภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องโกหก ศูนย์ต่อต้านความเกลียดชังดิจิทัล (Center for Countering Digital Hate) และสถาบันเพื่อการหารือเชิงยุทธศาสตร์ (Institute for Strategic Dialogue) บอกว่า เฟซบุ๊กเข้าไปจัดการกับโพสต์ที่พยายามทำให้คนเข้าใจผิดเรื่องโลกร้อนไม่ถึง 10% ของโพสต์ที่มีเนื้อหาแบบนี้ทั้งหมด ด้านเฟซบุ๊กบอกว่า นี่เป็นแค่สัดส่วนเล็ก ๆ เท่านั้นของข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งหมด ศูนย์ต่อต้านความเกลียดชังดิจิทัลเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่คอยสังเกตการณ์และต่อต้านความเกลียดชังและข้อมูลเท็จบนโลกออนไลน์ นักวิจัยพบว่า จากโพสต์ 7,000 โพสต์ที่บอกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็น "เรื่องหลอกลวง" ที่คน "ประสาท" กันไปเอง มีแค่ 8% เท่านั้นที่เฟซบุ๊กเข้าไปกำกับระบุว่าเป็นข้อมูลเท็จ ช่วงก่อนหน้านี้ปีนี้ เฟซบุ๊กออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดการกับเนื้อหาที่พยายามปฏิเสธวิกฤตด้านสภาพภูมิอากาศKittikawin Phuangsaard• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยตัดไฟเมืองชายแดน 2 จุด สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ภาคเหนือไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยร้อนตับแตกแต่ไม่อยากเปิดแอร์! คนญี่ปุ่นแชร์เคล็ดลับ "ทำความเย็น" ในห้องด้วยน้ำ 2 ขวด ทำง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน อากาศร้อนอบอ้าวในฤดูร้อนทำให้หลายๆ คนรู้สึกอึดอัดและเหนื่อยล้า และไม่ใช่ทุกครอบครัวจะสามารถเปิดเครื่องปรับอากาศได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน สำหรับครอบครัวผู้มีรายได้น้อย หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เช่าห้องขนาดเล็กซึ่งไม่มีเครื่องปรับอากาศ การอยู่ในห้องท่ามกลางอากาศร้อนก็ไม่ต่างจากฝันร้าย ดังนั้น เคล็ดลับป้องกันความร้อนที่แชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก วิธีทำให้ห้องเย็นลงด้วยขวดน้ำ 2 ขวดนั้น ทั้งประหยัดเงิน เรียบง่าย และค่อนข้างมีประโยชน์โดยเฉพาะกับห้องขนาดเล็ก จึงมักได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ตามข้อมูลจาก World Of Buzz ชาวญี่ปุ่นชื่อ "ฮิโรโคจิ คันโป" เจ้าของบัญชี Twitter@hirokoujiKanpo ได้แชร์วิธีที่ง่ายๆ แต่มีประโยชน์อย่างมาก ในการทำให้ห้องเย็นลงโดยไม่ใช้เครื่องปรับอากาศ แต่ใช้เพียงขวดน้ำขนาด 500 มล. จำนวน 2 ขวดเท่านั้น ขั้นตอนที่ 1: เทน้ำลงในขวดทั้ง 2 ขวด ปริมาณน้ำเพียงประมาณ 3/4 ของขวด (ระวังอย่าเติมน้ำมากเกินไป) ขั้นตอนที่ 2: ใส่น้ำ 2 ขวด ไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น จนกว่าน้ำด้านในจะกลายเป็นน้ำแข็ง ขั้นตอนที่ 3: นำขวดน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งทั้ง 2 ขวดออกมา ใส่ไว้ในถังโลหะแล้วตั้งทิ้งไว้ในห้อง ฮิโรโคจิ คันโป บอกว่า เพียงทำเช่นนี้ห้องก็จะแห้งและเย็นขึ้น โดยเกิดจากกระบวนการลดความชื้น เมื่อความชื้นในอากาศควบแน่นเป็นหยดน้ำขนาดเล็ก เนื่องจากการสัมผัสกับพื้นผิวเย็นของขวดน้ำ นอกจากนี้ เขายังไม่ลืมย้ำเตือนว่าอย่าเติมขวดน้ำจนเต็มขวด เพราะเมื่อน้ำกลายเป็นน้ำแข็งปริมาตรของมันจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระดับน้ำที่เทลงในขวดก่อนหน้า ซึ่งน้ำแข็งจะพองตัวและทำให้ขวดเสียหายได้ แม้ว่าเคล็ดลับดังกล่าวจะถูกแบ่งปันมาตั้งแต่ปี 2022 แต่เมื่อหน้าร้อนวนมาอีกครั้ง ชาวเน็ตหลายคนก็ยังคงทำตามคำแนะนำของเขา และบอกว่าการนำขวดพลาสติกกลับมาใช้ใหม่เช่นนี้ ทั้งมีประหยัด เรียบง่าย และมีประโยชน์ มันช่างคุ้มค่าแก่การลองทำตามดู และแน่นอนว่าหากต้องการให้ห้องเย็นลงมากกว่านี้อีก ก็สามารถเพิ่มจำนวนขวดน้ำได้!สภาพอากาศมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสุดปัง! ชาวเน็ตไทยไม่ยอมแพ้ ปั๊มยอดคลิกมินิเกม “Popcat” ขึ้นอันดับ 1 ของโลกThailand Web Stat MGR Online Hot Share หน้าหลัก Online Section Hot Share สุดปัง! ชาวเน็ตไทยไม่ยอมแพ้ ปั๊มยอดคลิกมินิเกม “Popcat” ขึ้นอันดับ 1 ของโลก เผยแพร่: 15 ส.ค. 2564 16:27 ปรับปรุง: 15 ส.ค. 2564 16:27 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ 18,180 จากกรณีแฮชแท็ก #Popcat ติดในเทรนด์ Twitter ของประเทศไทยในช่วงคืนที่ผ่านมา โดยในแฮชแท็กดังกล่าวเกิดจากที่ชาวเน็ตไทยร่วมพูดคุยกันถึงเรื่องมินิเกมที่มีชื่อว่า “POPCAT” ซึ่งล่าสุดนั้นการรวมพลังของคนไทยทำให้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกแล้ว ad วันนี้ (15 ส.ค.) ในโลกออนไลน์มีชาวเน็ตจำนวนมากพร้อมใจกันลงสนามแข่งขันเกม “Popcat” หรือ “เจ้าแมวอ้าปาก” ที่ไม่ว่าจะเปิดไปที่ไหนก็จะมีคำว่า “Popcat” ขึ้นมาให้เห็นอยู่ตลอด โดยเกมดังกล่าวที่กลายเป็นปรากฎการณ์เพิ่มความสามัคคีให้คนทั้งประเทศ เข้าไปเล่น เนื่องจากเกม “Popcat” มีการแข่งกับหลายประเทศทั่วโลกและนับคะแนนแบบเรียลไทม์ ซึ่งไม่มีใครทราบว่าผู้ชนะนั้นจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน ซึ่งการนับคะแนนจะนับโดยใช้วิธีการใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าจอโทรศัพท์ หรือ ให้คลิกเม้าส์ และจะปรากฎภาพของเจ้าแมวเหมียวหรือที่มีชื่อว่า “โอ๊ตมีล” อ้าปากกว้าง และคะแนนตัวเลขก็จะวิ่งขึ้นตามจำนวนการจิ้มของแต่ละคนรวมทั้งประเทศ ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 16.15 น. ประเทศไทยมีคะแนนรวมกว่า 2.4 หมื่นล้านครั้ง และขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนอันดับ 2 คือ ไต้หวันที่มีคะแนน กว่า 1.6 หมื่นล้าน และอันดับ 3 ประเทศมาเลเซีย มีคะแนน กว่า 1.1 หมื่นล้านมีม24phophiangliz• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่? "ดื่มน้ำอัดลมมาก เสี่ยงฟันผุ"จริงหรือไม่? "ดื่มน้ำอัดลมมาก เสี่ยงฟันผุ" กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เตือนคนไทยดื่มน้ำอัดลมมาก จะส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก เป็นต้นเหตุของการเกิดฟันสึกกร่อนมากที่สุด และเสี่ยงเกิดโรคฟันผุและโรคอ้วนตามมาได้ แนะนำควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ดีที่สุด พร้อมแปรงฟันด้วยสูตร 2-2-2 เพื่อสร้างสุขภาพช่องปากที่ดี นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะส่งผลเสียต่อร่างกาย ได้แก่ ฟันสึกกร่อน ฟันผุ อ้วน กระดูกพรุน และกระดูกเปราะ เนื่องจากน้ำหวานชนิดอัดลมมีกรดคาร์บอนิกค่อนข้างมาก ซึ่งสารดังกล่าวจะกีดขวางการดูดซึมแคลเซียมของกระดูก และยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ เพราะร่างกายจะหลั่งสารอินซูลินออกมามากเกินจำเป็น ซึ่งในระยะยาวร่างกายจะผลิตอินซูลินได้น้อยลง จนทำให้ร่างกายเกิดโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว ซึ่งน้ำอัดลม 1 กระป๋อง (ขนาด 325 ซีซี) มีปริมาณน้ำตาล 8-12 ช้อนชา จะเท่ากับน้ำตาลในลูกอม จำนวน 17 เม็ด หากกินรวมกันหลายอย่างอาจทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย และเกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดว่าร่างกายควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน หรือปริมาณ 6 ช้อนชา นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า น้ำอัดลมยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดฟันสึกกร่อนได้มากที่สุด เพราะนอกจากน้ำอัดลมจะมีกรดคาร์บอนิกแล้ว ยังมีส่วนประกอบคือน้ำตาลกับน้ำ หากไม่มีการทำความสะอาดช่องปากและฟันจะก่อให้เกิดฟันผุได้ จากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพประเทศไทยครั้งที่ 8 พ.ศ. 2560 พบว่า เด็กเล็กอายุ 5 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 75.6 เด็กวัยเรียนอายุ 12 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 52.0 และกลุ่มอายุ 15 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 62.7 สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปาก และพฤติกรรมการบริโภคของเด็กที่นิยมกินอาหารหรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุแล้ว ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อและสร้างปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร มีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโตและบุคลิกภาพ รวมถึงมีผลกระทบต่อการเรียนด้วย ที่สำคัญ ปัญหาฟันผุยังนำไปสู่การสูญเสียฟันที่เริ่มต้นในวัยเด็กและสะสมจนกลายเป็นการสูญเสียฟันทั้งปากจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ในวัยสูงอายุ ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับร่างกายก็คือน้ำเปล่า เพราะในน้ำเปล่ามีส่วนช่วยให้ร่างกายสดชื่น เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ช่วยให้ระบบย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ไตแข็งแรง โดยใน 1 วัน ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดีและควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดอื่น ๆ ที่มีการเติมน้ำตาลอีกด้วย เช่น ขนมหวาน ลูกกวาด เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในแต่ละวันเกินจำเป็นจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ ควรแปรงฟันให้สะอาดทั่วถึงทั้งในตอนเช้า หลังอาหารกลางวัน และก่อนนอน ด้วยสูตร 2 2 2 คือ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ให้ทั่วทุกซี่ทุกด้านนานอย่างน้อย 2 นาที แปรงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน และไม่ควรกินอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้เวลาช่องปากสะอาดนานที่สุด และยังเป็นการป้องกันโรคฟันผุในระยะยาวอีกด้วย ข้อมูล : ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เครือข่าย : มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดอีสานโคแฟค• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการตรวจเชื่อโควิด19การขึ้น 1 ขีดหรือ 2 ขีด ของ ATK เป็นเพียงค่าของความเป็นกรด - ด่าง อาจจะไม่ได้ติดเชื้อโควิด 19std48370• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจากหมอ โสภณ เมฆธน อดีตปลัด สธ และผู้ช่วยรัฐมนตรี สธ Covid-19: ความหวังและความยากลำบาก Update ข่าวดีและข่าวร้าย หลังผ่านไป 18 วัน จากนี้ไปข้างหน้าเราต้องเตรียมตั้งรับกับสิ่งใด และมองย้อนหลังไปเราทำกันมาได้ขนาดไหน ผมทำกราฟมาอธิบายให้ครับ ประเมินสถานการณ์ตัวเลข ณ วันนี้: 1. ข่าวดีสำคัญ สงกรานต์ที่เงียบมาก ทำให้เราสามารถช่วยกันหนี %Increase ระดับ 40% ของ British Variant มาได้แล้ว วันนี้ตัวเลขมาอยู่ที่ 15.26% และเริ่มเข้าสู่ Negative Exponential Curve ของกราฟ %Increase เราซื้อเวลาสำเร็จระดับนึง 2. ข่าวร้าย การผ่านตัวเลขระดับ 13,000 ที่ %Increase ระดับ 15.26% ถือว่าร้ายแรงมาก แทบไม่เคยมีประเทศใดจบที่ต่ำกว่าแสนและไม่มีประเทศใดที่เจอแบบนี้ครั้งแรกแล้วระบบสาธารณสุขไม่ล่มอย่างหนัก EURO5 โดนแบบนี้ไปเมื่อ Wave#1 เอาตัวไม่รอดทั้งที่เป็น Variant ที่รุนแรงน้อยกว่านี้ ดังนั้นอย่าไปเดินตามและทำตาม EURO5 ครับ 3. ตัวเลข 13,000 ใหญ่กว่าทั้ง Wave#2 ของไทยเราที่ตัดแรงงานต่างด้าวออกไปแล้วซึ่งแค่ 9,300 เท่านั้น โดย Wave#3 นี้แทบไม่มีตัวเลขจากแรงงานต่างด้าวเลย 4. ความหวังสำคัญ ผมมีข้อมูลพอทำกราฟของ Best Case Scenario ได้แล้ว กราฟบอกเราว่า ถ้าช่วยกันสู้เต็มที่ ยังสามารถต่ำกว่าแสนได้ครับ กราฟตัวเลขจริงเปรี่ยบเทียบ 3 Wave: ข่าวร้าย: เส้นสีแดงของ Wave#3 เห็นได้ชัดเจนนะครับว่า หนักหนาสาหัสกว่า Wave 1 และ 2 แบบเทียบกันไม่ได้เลย นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมทีมงานสาธารณสุขของเราจึงทำงานหนักมากตอนนี้ และทำไมศบค.จึงต้องวางมาตรการที่เข้มข้นมาก ถึงแม้จะไม่สามารถ Lockdown ได้เพราะแรงกดดันรอบทิศก็ตาม และทุกคนควรตระหนักอย่างยิ่งและทำตามมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัดครับ จากข้อมูล 17 วัน ผม Fine Tune พารามิเตอร์ต่างๆของกราฟใหม่ และมองไปข้างหน้า 1 เดือนได้ตามนี้ครับ กราฟ Total Case ประเมินไปข้างหน้า 1 เดือนครึ่ง: ข่าวร้าย: 1. ถึงจะทำดีที่สุดเต็มที่ ปลายเดือนเม.ย.ก็น่าจะถึง 35,000 คือจากนี้ไปอีก 13 วันเตรียมรับอีกอย่างน้อย ประมาณ 20,000 ครับ 2. ตัวเลข Daily New Case จะยืนอยู่ระดับ 1,600 - 1,800 ไปอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ 3. ตัวเลข Daily New Case จะอยู่ระดับ >1,000 ไปจนสิ้นเดือนเม.ย. เดือนพ.ค.เราจึงจะเริ่มเห็นระดับที่ต่ำกว่าพันอย่างมีนัยะสำคัญ 4. วันที่ 18 พ.ค. เปิดเทอมตัวเลขจะอยู่แถวๆ 44,000 และมี Daily New Case ประมาณ 215 จะเป็นการตัดสินใจที่ยากมากครับ 5. วันที่ 31 พ.ค. ตัวเลขจะอยู่แถวๆ 45,500 และมี Daily New Case ประมาณ 48 จะใกล้จบถ้าไม่มีใครการ์ดตกยืนระยะไม่อยู่เสียก่อน 6. นี่คือ Best Case Scenario 7. แทบไม่เคยมีใครวิ่งตามเส้น Best Case Scenario นี้ได้ ยกเว้น จีน ออสเตรเลีย เกาหลี และประเทศไทยเราเองใน Wave#1 และ Wave #2 ช่วงเดือนม.ค. ข่าวดี: 1. อย่างน้อยวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็ยังอยู่แถวๆ 15,000 ซึ่งต่ำกว่า 40,000 ซึ่งเป็น Worst Case มาก 2. ถ้าช่วยกันจะสามารถจบได้ภายใน 2 เดือนโดยอยู่แถว 45,000 ครับ 3. เราเคยวิ่งตาม Curve แบบนี้สำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง ถ้าร่วมมือกันทำเต็มที่ครับ กราฟ %Increase ข่าวดี: %Increase ลดลงมาอยู่ที่ 15.26% แล้ว และลู่เข้าสู่กราฟ Negative Exponential ที่มี Time Constant 9.1 มาแล้ว 5 วัน ซึ่งหมายถึงเรากำลังเริ่มตั้งหลักได้และสงกรานต์ที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดีครับ จากนี้ไปต้องรักษา Momentum ให้ได้ และอย่าให้การเริ่มกลับมาทำงานหลังวันหยุดเปลี่ยนแนวโน้มของกราฟนี้เด็ดขาด ข่าวร้าย: ไม่มีสำหรับกราฟนี้ คำแนะนำที่สำคัญที่สุด "อย่าทำแบบ EURO5 โดยเฉพาะอังกฤษ ห้ามเอาพวกเขามาเป็นบรรทัดฐานโดยเด็ดขาดครับ" สาเหตุครับ 1. พวกเขาทุกประเทศตายมาแล้วเป็นแสน ประเทศไหนยังไม่ถึงแสน เดี๋ยวก็จะถึงครับ 2. อัตราการตายของ EURO 5 อยู่ที่ 1.9 - 3.0% มากว่าเรากว่า 10 เท่า 3.อังกฤษอยู่ใน Lockdown รวมกัน 2 ครั้งกว่า 7 เดือน มากกว่าไทยเราที่อยู่ใน Full Lockdown 1.5 เดือน Semi Lockdown ประมาณ 1.5 เดือนเท่านั้น 4. เศรษฐกิจก็แย่กว่าเรา UK Annual GDP fell by 9.9% in 2020, the largest yearly fall on record 5. มีคนตายคาบ้านเยอะมากเพราะโรงพยาบาลไม่พอ โรงพยาบาลสนามก็ไม่พอ การรักษาตัวอยู่บ้านคือทางสุดท้ายเพราะจนแต้มนะครับ ไม่ใช่ทางเลือกที่ใครต้องการเลย แม้แต่ญี่ปุ่นก็ตายคาบ้านไปหลายศพเช่นกันครับ 6. อังกฤษไม่มีตัวเลขอะไรที่ดีกว่าเราเลยนะครับ ยกเว้นอัตราการฉีดวัคซีน สิ่งที่ต้องทำอย่างตั้งใจทุกฝ่ายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า 1. ช่วยกันรักษาปกป้องระบบสาธารณสุขของเรา นี่คือ 1st Priority ครับ กำลังใจของทีมงานสาธารณสุขสำคัญมาก ครั้งนี้พวกเขาหลายคนมีโอกาสติดเชื้อและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ มันเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก อย่าโกหก Timeline อย่าปล่อยปละละเลยจนติดเชื้อมากเกินไปจนล้นร.พ. 2. ภาคเอกชนใหญ่ต้องช่วยกันสร้างรพ.สนามและ Hospitel อย่าให้ต้องรักษาตัวอยู่บ้านกัน เพราะเมื่อนั้นอัตราการตายจะพุ่งสูงทันที อย่าให้ได้มีใครต้องเสียชีวิตที่บ้านโดยไม่ทันถึงมือหมอเลยนะครับ 3. ต้อง Work from Home กันอย่างจริงจังมากๆ ใครทำได้ต้องทำ คนทำไม่ได้มีเยอะครับ เขาจะเสี่ยงน้อยลง ต้องช่วยกันรักษา Momentum ของเราไปอีก 1 - 2 เดือน ให้สำเร็จครับ 4. ป้องกันการติดเชื้อในภาคอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ครับ โดยเฉพาะชลบุรี ระยอง 5. อย่าให้เกิด Cluster ตลาดและแรงงานต่างด้าวขึ้นมาซ้ำเติม เพราะเราไม่มีทรัพยากรจะไปปิดกรณีแบบนั้นอีกแล้ว 6. โรงเรียนจะเปิดเทอม 18 พ.ค. ต้องช่วยกันทำให้สำเร็จให้ได้ เด็กรุ่นนี้เรียนออนไลน์กันมานานมากจนแย่แล้ว มันไม่ดีกับพวกเขาเลย อย่าให้อบายมุขและความละเลยเป็นสาเหตุทำให้เด็กต้องอดไปโรงเรียนอีกเลยนะครับ 7. ยึดกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี กลับคืนมาให้ได้ และต้องรักษาหัวเมืองใหญ่ โคราช ขอนแก่น อุบล อุดร นครศรี สุราษฎร์ สงขลา เอาไว้ให้สำเร็จครับ 8. ดีเดย์วันที่ 1 มิ.ย. วัคซีนต้องปูพรมครับ ไม่งั้นโดน Wave#4 แน่ ภาคเอกชนต้องช่วยกันเสริมทัพแล้วล่ะครับ ภาครัฐอย่างเดียวเอาไม่อยู่แน่ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกคนจากนี้ไปอีก 1 เดือนคือการมีวินัยและดูแลตัวเอง อย่าป่วยไข้ อย่าขับรถเร็วประมาทจนเกิดอุบัติเหตุ ระบบสาธารณสุขของเราคือด่านหน้าที่ตอนนี้ข้าศึกบุกมาเต็มกำลังจนยากแก่การรับมือแล้ว ขอเพียงพวกเรามีวินัย ดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพ มีน้ำใจแบ่งปันช่วยเหลือ อยู่บ้านให้มากๆเข้าไว้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยบุคลากรด่านหน้าและประเทศชาติได้มากแล้วครับ ช่วยกันครับ เรายังมีความหวังอยู่เสมอครับโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--start4 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
