(2461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ตอนนี้ WHO ประกาศให้ ละตินอเมริกาเป็นศูนย์กลางระบาดโรคโควิด-19 แห่งใหม่อเมริกาใต้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ของโรคโควิด-19 ไปแล้ว เพราะหลายประเทศในภูมิภาคนี้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ประเทศที่ร้ายแรงที่สุด คือ บราซิล เพราะมีผู้เสียชีวิตเกิน 21,000 ราย และติดเชื้อกว่า 340,000 คน ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯโควิด 2019naydoitall• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยบ.อาหารเสริมผิวขาว อ้างเป็นของปลอม หลังหญิง 19 ปีกินตรวจเจอสารเสพติดเด็กหญิงวัย 19 ปี ไปตรวจสุขภาพ เพื่อเตรียมก่อนเข้าเรียนคณะเภสัช แต่ผลตรวจกลับพบสาร ”เมทแอมเฟตามีน” (สารในยาบ้า) ในปัสสาวะ ไม่ผ่านการตรวจโรคเข้าเรียน คาดผสมมาในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อผิวขาวที่ซื้อมากินจากอินเตอร์เน็ตนั้น ล่าสุด ตัวแทนบริษัทอาหารเสริมผิวขาวได้ติดต่อมาพูดคุยกับแม่ผู้เสียหาย ยืนยันว่า ไม่มีทางใส่สาร"เมทแอมเฟตามีน"ในผลิตภัณฑ์อย่างแน่นอน คาดว่า ตัวยาที่เด็กกินเข้าไป เป็นของปลอมที่ทำเลียนแบบ และนำมาวางขาย อยากให้ส่งมาให้ทางบริษัทตรวจสอบเพื่อความชัดเจน ขณะที่ ทีมข่าวสอบถามอาจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่าในกรณี มีข้อน่าสงสัยอยู่ 2 อย่าง แม่ช็อก เจอสาร "เมทแอมเฟตามีน" หลังลูกสาวกินยาผิวขาว บุกทลายเครือข่ายอาหารเสริมลดอ้วน ผสมสารอันตรายไซบูทรามีน คือทางโรงงานที่ผลิตแอมใส่สารดังกล่าวลงไป ซึ่งถือว่ามีความผิด หรือตัวน้องโกหก ซึ่งต้องมีการนำตัวยามาตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง และให้คณะเภสัชนำตรวจปัสสาวะน้องอีกครั้ง ด้วยขั้นตอนพิเศษเพื่อจะได้ทราบว่าเป็นสารอะไรกันแน่ โดยวันนี้ ผู้เสียหาย เข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เอาไว้แล้วโดยจะทำทุกอย่างเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของลูก ว่าไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะก่อนหน้านี้ไปตรวจร่างกายเพื่อส่งเอกสารไปยังมหาวิทยาลัยแล้ว 3 ครั้ง ไม่เคยเจอสารนี้ ก่อนจะมากินเม็ดเดียวดังกล่าววันรุ่งขึ้นไปตรวจก็เจอสารเลยstd48940• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปัญหาคู่กับเมืองไทย จอดรถทิ้งไว้ร้อนมาก ขึ้นรถไปควรทำยังไงดีเพื่อให้เรารู้สึกเย็นไวสุด!? . สหพันธ์รถยนต์ของญี่ปุ่น (JAF) เค้าพิสูจน์มาให้แล้วว่า อะไรคือคำตอบของเรื่องนี้ โดยทดลองด้วยการใช้รถที่อุณหภูมิภายในรถ เริ่มต้นสูงถึง 55 องศา . 1.เปิดปิดประตูรถ 5 ครั้ง 🔅อุณหภูมิลดลงทันทีจาก 55 เหลือ 47.5 องศา แต่ก็ยังร้อนอยู่ . 2.เปิดแอร์รถแรงสุด กดปุ่มให้สามารถ ดึงอากาศจากภายนอกเข้ามาในรถ แล้วรอ 10 นาที (โดยไม่ต้องเปิดกระจก) 🔅อุณหภูมิค่อยๆ ลดลงไป ใช้เวลา 10 นาที จาก 55 ลงมาเหลือ 29.5 องศา . 3. เปิดแอร์รถแรงสุด กดปุ่มให้อากาศหมุนเวียนแค่ภายในรถ แล้วรอ 10 นาที (โดยไม่ต้องเปิดกระจก) 🔅 อุณหภูมิค่อยๆ ลดลงไป ใช้เวลา 10 นาที จาก 55 ลงมาเหลือ 27.5 องศา . . แต่ทั้ง 3 วิธีนี้ก็ยังไม่สุด อันแรกลดความร้อนได้ไม่มาก ส่วนวิธีที่ 2,3 ก็ต้องรอนานมากกว่า 10 นาที กว่าอุณหภูมิภายในตัวรถถึงจะเริ่มเย็น . . =================== ฉะนั้น ทาง JAF เค้าพิสูจน์ต่อ เพื่อค้นหาวิธีที่ตอบโจทย์มากที่สุด ได้คำตอบว่า หากต้องการลดอุณหภูมิภายในรถไวๆ แล้วได้ผลดี คือต้องอาศัย “เปิดแอร์รถ” + “ต้องแล่นรถออกไปด้วย” โดยจากการพิสูจน์พบว่า 🔅ให้ลดกระจกทุกบานลงให้สุด + 🔅เปิดแอร์แรงสุด + 🔅กดปุ่มปิดหมุนเวียนอากาศให้รถดึงอากาศจากภายนอกรถเข้ามาในรถด้วย จากนั้นให้แล่นรถออกไปเลย เพื่อไล่อากาศร้อนในรถออกไปทันที . เมื่อแล่นรถครบ 2 นาทีแล้ว 🔅ให้ปิดกระจกทุกบาน + 🔅กดปุ่มหมุนเวียนอากาศให้อากาศหมุนเวียนแค่ภายในรถ เพียงเท่านี้อากาศในรถก็จะเย็นทันที จากการทดลองนี้สามารถเปลี่ยนจาก รถอุณหภูมิสูงมาก 55 องศา กลายเป็น 28 องศา ภายใน 2 นาที!!! ชอบมากที่ญี่ปุ่นทดลองให้เห็นภาพเลย ดูแล้วอยากทดลองตามด้วย . แล้วเพื่อนๆ ล่ะ ทุกวันนี้ใช้วิธีไหนกันอยู่บ้าง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ร้อนสาหัสแบบทุกวันนี้ Boom JapanSalaryman Cr: ANN News, JAFสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเปิดรายชื่อประเทศ ที่ประกาศ❌ห้ามนำเข้า ‘กัญชา-กัญชง’📌เปิดรายชื่อประเทศ ที่ประกาศ❌ห้ามนำเข้า ‘กัญชา-กัญชง’🪴❌ ➡️หากตรวจเจอมีโทษทั้งจำ- ทั้งปรับ สูงสุดถึงขั้น ประหารชีวิต ➡️สถานทูตไทยหลายประเทศ ประกาศข่าวย้ำเตือนคนไทย ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ห้ามนำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ (ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดกัญชา-กัญชง) เข้าประเทศ ระวังโทษแรง สูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต เปิดรายชื่อประเทศที่ประกาศห้ามนำเข้า‘กัญชา-กัญชง’ ❌1.สิงคโปร์ มีครอบครอง-เสพ จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ทั้งจำ-ปรับ ลักลอบ นำเข้า อาจมีโทษประหารชีวิต ❌2.เกาหลีใต้ ลักลอบ จำคุก 5 ปี ขึ้นไป หรือ ตลอดชีวิต ปลูกหรือ จำหน่าย จำคุกอย่างน้อย 1 ปี ครอบครอง-เสพ จำคุกไม่เกิน 5 ปีและ ถูกเนรเทศ ห้ามเข้าประเทศอีก ❌3.ภูฏาน นำเข้า จำคุกระหว่าง 1 เดือน - 3 ปี ขึ้นอยู่กับปริมาณที่นำเข้าหรือครอบครอง ผู้ครอบครองกัญชา หรือ สารสกัดกัญชา เพื่อจำหน่าย มากกว่า 50 กรัม ขึ้นไป มีโทษจำคุก 5-9 ปี ❌4.สหราชอาณาจักร ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 5-14 ปี หรือทั้งจำและปรับ ❌5.บังกลาเทศ โทษแตกต่างตามปริมาณที่นำเข้า หรือ ครอบครอง โทษสูงสุด ประหารชีวิต ( มีปริมาณมากกว่า 2 กก.) ❌6.ญี่ปุ่น ครอบครอง นำเข้า ส่งออก จำคุกไม่เกิน 7 ปี จำหน่าย จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 3 ล้านเยน ❌7.เวียดนาม ห้ามใช้ทั้งในการแพทย์-ชีวิตประจำวัน มีครอบครอง โทษปรับตั้งแต่ 5,000.000 - 5000,000,000 ดอง และ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึงประหารชีวิต ❌8.อินโดนีเซีย ฝ่าฝืนปรับขั้นต่ำ 1 พันล้าน รูเปียห์ จำคุก 5 ปี - ตลอดชีวิตหรือโทษสูงสุดประหารชีวิต ❌9.ศรีลังกา หรือ มัลดีฟส์ มีโทษปรับและจำคุก โทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต ❌10.จอร์แดน อิรัก และ ปาเลสไตน์ ครอบครอง หรือ เสพผิดกฏหมาย รับโทษรุนแรงตามกฏหมายท้องถิ่น.อินโดนีเซีย ฝ่าฝืนปรับขั้นต่ำ 1 พันล้าน รูเปียห์ จำคุก 5 ปี - ตลอดชีวิตหรือโทษสูงสุดประหารชีวิต ❌9.ศรีลังกา หรือ มัลดีฟส์ มีโทษปรับและจำคุก โทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต ❌10.จอร์แดน อิรัก และ ปาเลสไตน์ ครอบครอง หรือ เสพผิดกฏหมาย รับโทษรุนแรงตามกฏหมายท้องถิ่นยาสมุนไพรผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันตามที่มีการโฆษณาทางสื่อโซเชียลเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอกเพื่อทำความสะอาด สวยงามแต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ โดยเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ข้อมูลว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้นครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณที่โกหก เพราะครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์ที่หลอกลวงสรรพคุณให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ถือเป็นการโฆษณาที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขอเตือนผู้บริโภคให้คิดก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการโฆษณาสรรพคุณต่าง ๆ ว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกายได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th และหากพบเห็นการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงขอให้แจ้งร้องเรียนมาที่สายด่วน อย. 1556ความสวยความงามอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48423• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันตามที่มีการโฆษณาทางสื่อโซเชียลเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอกเพื่อทำความสะอาด สวยงามแต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ โดยเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ข้อมูลว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้นครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณที่โกหก เพราะครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์ที่หลอกลวงสรรพคุณให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ถือเป็นการโฆษณาที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขอเตือนผู้บริโภคให้คิดก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการโฆษณาสรรพคุณต่าง ๆ ว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกายได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th และหากพบเห็นการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงขอให้แจ้งร้องเรียนมาที่สายด่วน อย. 1556 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เนื่องจากครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ความสวยความงามอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังpeekapatpeekapat• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอมอย่าแชร์! ผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงตามที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีการแชร์ข้อความว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิง ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฝีดาษลิงแต่อย่างใด โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae จัดอยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เชื้อไวรัสฝีดาษลิงพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า เป็นต้น รวมทั้งคนก็สามารถติดโรคได้ จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน การประกอบอาหารจากเนื้อสัตว์ป่า หรือกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ หรืออาจติดทางอ้อมจากการสัมผัสที่นอนของสัตว์ป่วย การแพร่เชื้อจากคนสู่คนแม้มีโอกาสน้อย แต่อาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ผิวหนังที่เป็นตุ่ม หรืออุปกรณ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อเมื่อคนรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 7-14 วัน อาจนานถึง 21 วัน โดยอาการเริ่มแรกจะมีไข้ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น อ่อนเพลีย จากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นบริเวณแขนขา และอาจจะเกิดบนหน้าและลำตัวได้ด้วย ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา อาการป่วยจะประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคเองได้ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคฝีดาษลิงที่เฉพาะเจาะจง แต่สามารถควบคุมการระบาดได้ด้วย การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษ ซึ่งสามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ 85%std47897• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงตามที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีการแชร์ข้อความว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิง ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฝีดาษลิงแต่อย่างใด โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae จัดอยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เชื้อไวรัสฝีดาษลิงพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า เป็นต้น รวมทั้งคนก็สามารถติดโรคได้ จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน การประกอบอาหารจากเนื้อสัตว์ป่า หรือกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ หรืออาจติดทางอ้อมจากการสัมผัสที่นอนของสัตว์ป่วย การแพร่เชื้อจากคนสู่คนแม้มีโอกาสน้อย แต่อาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ผิวหนังที่เป็นตุ่ม หรืออุปกรณ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อ เมื่อคนรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 7-14 วัน อาจนานถึง 21 วัน โดยอาการเริ่มแรกจะมีไข้ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น อ่อนเพลีย จากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นบริเวณแขนขา และอาจจะเกิดบนหน้าและลำตัวได้ด้วย ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา อาการป่วยจะประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคเองได้ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคฝีดาษลิงที่เฉพาะเจาะจง แต่สามารถควบคุมการระบาดได้ด้วย การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษ ซึ่งสามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ 85%pgolfpaotung• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“มะเร็งลำไส้” มะเร็งอันดับ 3 ของไทย อายุ 50 ปีขึ้นไป ตรวจก่อน รู้ก่อน ป้องกันได้ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย สำหรับประชาชนคนไทยทุกคนที่มีอายุ 50 – 70 ปี สามารถใช้สิทธิตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้จำนวน 1 ครั้งในทุกๆ 2 ปี ตรวจสอบสิทธิของตนเองได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง ฟังก์ชันกระเป๋าสุขภาพ เลือกสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค หากตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็ง สิทธิบัตรทองจะครอบคลุมการดูแลรักษาทั้งหมด ทั้งการผ่าตัด เคมีบำบัด รังสีรักษา ฮอร์โมน ข้อมูลเพิ่มเติม www.nhso.go.th/news/4407 สอบถามรายละเอียด สายด่วน สปสช. 1330มะเร็งไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยออมสินเปิดลงทะเบียนกู้เงิน 500,000 บาท ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกกรณีที่มีการส่งต่อข่าวสารเรื่องออมสินเปิดลงทะเบียนกู้เงิน 500,000 บาท ไม่เกิน 2 ปี ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ร้อยละ 1.25% ต่อปี ผ่านเพจ Mymo ทางธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เพจเฟซบุ๊ก “Mymo” ไม่ใช่เพจของธนาคาร และไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับธนาคารออมสิน ข้อมูลที่เพจนำมาเผยแพร่เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง ธนาคารไม่มีการเปิดให้ลงทะเบียนเงินกู้ และไม่มีนโยบายให้บริการเงินกู้ผ่านทางเฟซบุ๊กstd46489• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยออมสินเปิดลงทะเบียนกู้เงิน 500,000 บาท ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกมีการส่งต่อข่าวสารเรื่องออมสินเปิดลงทะเบียนกู้เงิน 500,000 บาท ไม่เกิน 2 ปี ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ร้อยละ 1.25% ต่อปี ผ่านเพจ Mymo ทางธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เพจเฟซบุ๊ก “Mymo” ไม่ใช่เพจของธนาคาร และไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับธนาคารออมสิน ข้อมูลที่เพจนำมาเผยแพร่เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง ธนาคารไม่มีการเปิดให้ลงทะเบียนเงินกู้ และไม่มีนโยบายให้บริการเงินกู้ผ่านทางเฟซบุ๊กแอคปลอมstd46317• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาเพิ่มความสูงตัวช่วยเพิ่มความสูง #เน้นเพิ่มสูงบำรุงกระดูก -เพิ่มความสูง เพิ่มความแข็งแรง -แคลเซียมช่วยบำรุง ดูแลมวลกระดูก -ข้อต่อ ไขข้อ บำรุงให้กระดูกเเข็งแรง -ไม่ปวดเข่า ไม่ปวดข้อ - กระดูกแข็งแรง ส่วนสูงเพิ่มขึ้น 1 กระปุก 50 แคปซูล ปลอดภัย มีอย. 1310856550013 ‼️โปรเฉพาะ 88 ท่านแรกลดมากกว่า 50% จาก (ปกติราคา 590.-)‼️ 1 กระปุก ราคา 290.- ส่งฟรี 2 กระปุก ราคา 490.- ส่งฟรี 4 แถม 1 กระปุก ราคา 990.- ส่งฟรี 7 แถม 3 กระปุก ราคา 1,800.- ส่งฟรี #aikocalcium #calcium #แคลเซียมเร่งสูง #เพิ่มมวลกระดูก #อยากสูง #กระดูกเสื่อมstd48297• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง! ตอนนี้คนจีนเป็นโรคมะเร็งสูง! บัญชีดำอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 1. ผงชูรส (MSG) 2. หมากฝรั่ง 3. ตับหมู 4. ผักดอง หัวไชเท้าแห้ง 5. น้ำผลไม้บรรจุขวด 6. ไข่เยี่ยวม้า 7. เต้าหู้เหม็น 8. ปาท่องโก๋ ส่งต่อให้คนที่คุณห่วงใยมากที่สุดด้วยนะครับมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหมอจุฬาฯ เตือน ดื่มน้ำเมา ลดประสิทธิภาพวัคซีนโควิด เสี่ยง เม็ดเลือดขาวทำงานผิดปกติ หมอจุฬาฯ เตือน ดื่มน้ำเมา ลดประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 เสี่ยง เม็ดเลือดขาวทำงานผิดปกติ ไม่กำจัดเชื้อโรค ติดเชื้อง่าย ปอดอักเสบรุนแรง ห่วงฉีดวัคซีนโควิดให้กลุ่มคนติดสุรา แนะ หยุดดื่ม 2-3 วันความสวยความงามมะเร็งลดความอ้วนยาสมุนไพรโควิด 2019วัคซีนโควิดอย. เพิกถอนภาคใต้ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยคนไม่ฉีดวัคซีนต่อไป จะทำอะไรจะกลายเป็นอุปสรรค กลายเป็นบุคคลต้องห้ามของสังคม 1.ห้ามเข้าห้างฯ 2.ห้ามเข้าตลาด 3.ห้ามเข้าอาคารสถานที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งชุมชน 4.ห้ามเข้าโรงแรม 5.ห้ามขับรถยนต์โดยสาร 6.ห้ามขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างทุกประเภท 7.ห้ามขึ้นเครื่องบิน 8.ห้ามขึ้นรถโดยสาร 9.ห้ามเข้าวัด 10.ห้ามเข้าโรงเรียน 11.ห้ามเข้าปั้มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ ร้านชา-กาแฟ 12.ห้ามเข้าโรงพยาบาล 13.ห้ามเข้าสนามไดร์กอล์ฟ และสนามกอล์ฟ ทุกสนาม ยกเว้นเข้าไปเพื่อฉีดวัคซีน ห้าม......ฯลฯ สรุป..ว่าจะกลายเป็นบุคคลต้องห้ามของสังคมโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยภาพโรงงานของจีนในประเทศเมียนมาร์ถูกเผา เป็นข่าวลวงในโลกโซเชี่ยลภาพถ่าย 2 ภาพได้ถูกแชร์หลายร้อยครั้งในหลายโพสต์ทางเฟซบุ๊กพร้อมคำกล่าวอ้างว่าภาพดังกล่าวแสดงโรงงานของจีนในประเทศเมียนมาร์ถูกเผาโดยผู้ประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร คำกล่าวอ้างนี้เป็นเท็จ ภาพแรกแสดงโรงงานของจีนที่ถูกเผาในประเทศเวียดนามในปี 2557 และภาพที่สองเป็นภาพจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงงานในไต้หวันในปี 2563anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสรุป ประชุม บริษัท CPG การ์เม้นท์ -มีพนักงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว ประมาณ160คน น่าจะมีเพิ่มอีก ส่วนใหญ่เป็นต่างด้าว(พม่า) -ยังไม่มีพื้นที่กักตัว -พนักงาน มีที่พักในซอย เพชรเกษม50/2,50/3,52 -พื้นที่เสี่ยง5ชุมชนและ โรงเรียนวัดจันทร์ฯ -เชื่อว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก ตามโรงงานในเขตภาษีฯ -ขอ จนท.ตร.ช่วยตรวจสอบเพื่อไม่ให้ผู้ถูกกักตัวออกรอกพื้นที่ *พรุ่งนี้ 2 ก.พ.64 เวลา09.00น.จะมีรถตรวจเชื้อพระราชทาน มาตรวจเชื้อให้ ปช.ใน ซ.เพชรเกษม50/3 *วันพฤหัสบดี 4 ก.พ.64 เวลา 08.30 น.ที่วัดจันทร์ฯ รถตรวจเชื้อพระราชทาน มาตรวจเชื้อให้ ปช.ประมาณ500คนโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง! ตอนนี้คนจีนเป็นโรคมะเร็งสูง! บัญชีดำอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 1. ผงชูรส (MSG) 2. หมากฝรั่ง 3. ตับหมู 4. ผักดอง หัวไชเท้าแห้ง 5. น้ำผลไม้บรรจุขวด 6. ไข่เยี่ยวม้า 7. เต้าหู้เหม็น 8. ปาท่องโก๋ เพื่อสุขภาพของคุณ ส่งต่อ WeChat นี้ให้คนที่คุณห่วงใยมากที่สุด!มะเร็งไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle4 ความเห็น
- 1 คนสงสัยวัยรุ่นนิยมจัดฟันแฟชั่น โดยไม่ได้จัดกับทันตแพทย์ เสี่ยงอันตราย ติดเชื้อ เกิดแผลอักเสบได้ จริงหรือคะการจัดฟันแฟชั่น ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้มีรูปแบบพัฒนาไปจากเดิมมาก มีแหล่งขายรีเทนเนอร์ขนาดใหญ่ และร้านที่ลักลอบให้บริการติดอุปกรณ์ลวดดัดฟันแฟชั่นผิดกฎหมาย เช่น เปิดร้านเช่าเล็กๆ และมีพนักงาน 1-2 คนให้บริการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน นักศึกษา คิดค่าบริการในราคาถูก ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ผิดกฎหมายและอันตราย ทั้งจากการติดเชื้อ เกิดแผลอักเสบ และถึงแก่ชีวิตจากวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ จริงหรือคะanonymous• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยองค์การอนามัยโลก ยืนยันว่าการรับประทานเนื้อแดงและอาหารแปรรูป เสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ จริงหรือคะ"WHO ยืนยัน การรับประทานเนื้อแดงและอาหารแปรรูป เสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่" กรมการแพทย์ โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ตรวจสอบข้อมูลวิชาการพบข้อเท็จจริง คือ องค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ หรือ International Agency for Research on Cancer (IARC) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ เนื้อสัตว์แปรรูปเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 คือ สามารถก่อมะเร็งในมนุษย์ ส่วนเนื้อแดง เป็นกลุ่ม 2A คือ อาจจะก่อมะเร็งในมนุษย์ จริงหรือคะมะเร็งanonymous• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยช่วงนี้มีนักศึกษาจาก กทม บ้านอยู่ จ สุราษฎร์ ได้ทำแบงก์ปลอมออกมาขายให้กับพี่น้อง จ สุราษฎร์ธานี แบงก์ 1000 บาท ขาย 200 บาท เขาขายไปแล้ว 2 แสนใบ ขณะ แบงก์พัน ไปทั่วแลัว กำลังระบาด มา ทีนครศรี และ จังหวัด ใกล้เคียง ขอให้ พี่น้องทุกคนตรวจสอบใบพัน ทุกครั้งทีได้มาช่วงนี้ มิฉะนั้น ท่านต้องเสียใจไม่ระบุชื่อ• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเรื่องเกี่ยวกับมือถือห้ามใช้ที่ไหนบ้าง โดย Dr.Ademola ............ @ อันตรายใกล้ตัว....อย่าประมาท @. ต้องบอกต่อเรื่องนี้ต้องช่วยกันแชร์. เพราะ นึกไม่ถึงจริงๆว่าที่ปั๊มน้ำมันเขา..ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ ...แต่ในห้องครัว พบว่าแก๊สไวไฟ..ยิ่งกว่าน้ำมันอีก! ..ก็ต้องเชื่อ และทำตามด้วย @. รับสายก็ไม่ได้ เด็ดขาด...คุณเคยโทรศัพท์ หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัวบ้างไหม. ตอบตนเองดู. และลองฟังเรื่องจริงนี้ @. ผู้เขียนเล่าเอง ดิฉันชื่อ..Dr.Ademola เมื่อ 3 วันก่อนสามีของดิฉันซึ่งเป็นหมอเหมือนกัน ได้เจอประสบการณ์เป็นเหตุการณ์ อันเศร้าสลด ของ คนไข้ 6 รายที่ถูกส่งมาที่ตึกอุบัติเหตุ เกี่ยวกับโดนไฟลวก ซึ่งพวกเขาได้ประสบมา ตอนกำลังโทรศัพท์ หรือรับโทรศัพท์ ในห้องครัว ในขณะที่เตาแก๊สยังเปิดอยู่ ซึ่งแม้แต่ไมโครเวฟ. หรือ induction stoves ก็เป็นอันตรายได้เช่นกัน @บางคนทำอาหารทั้งๆที่โทรศัพท์ยังคาหูอยู่เลย! อันตรายสุดๆ!!...โปรดหยุดการใช้โทรศัพท์ มือถือในครัว...มันอันตราย..เหมือนกับโทรศัพท์ ในปั๊มน้ำมันจริงๆ .............. @ ย้ำอีกครั้ง....โปรดอย่าลืม 1. share เรื่องนี้ให้คนที่คุณรัก..และคนอื่นๆ รอบตัวคุณด้วย..ได้บุญและไม่เกิดความสูญเสีย 2.ถ้าจำเป็นรับสาย...เป็นเรื่องธุระด่วน จงเดินออกห่างจากแก๊ส อย่างน้อย สัก 10-12 ฟุตหรือ (2-5เมตร)ก่อน แล้วค่อยเปิด...โทรศัพท์ 3.จงจำไว้ว่า.. .."ความปลอดภัยของคุณ. เป็นความปลอดภัยของครอบครัว..และคนที่คุณรัก ของคุณเองเช่นกัน" .............. 4."ย้ำอีกครั้ง" ...อย่าโทร หรือ..รับโทรศัพท์ในครัว ขณะกำลังทำอาหาร "แก๊สจากถังแก๊ส....อันตรายสุดๆ ..ไม่ต่างจาก ปั๊มน้ำมัน ...ทั้งติดไฟไหม้....และระเบิดได้" .........ผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยราชาแห่งผลไม้คืออะไร? ถ้าตอบ: ทุเรียน คำตอบ ไม่ถูกต้อง ครับ สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ PAPAYA ผลไม้เขตร้อนที่ดูต่ำต้อย ซึ่งมีให้บริการตลอดทั้งปีกลายเป็น ราชาแห่งผลไม้ มะละกอ ได้รับการคัดเลือกจาก WHO (องค์การอนามัยโลก) เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันให้เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด เหตุผล ทำไม? นี่คือข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับมะละกอ คุณค่าทางโภชนาการของมะละกอมีดังนี้: 1. * แคลเซียม * เป็นสองเท่าของแอปเปิ้ล 2. * วิตามินซี * เป็น 13 เท่าของแอปเปิ้ล 7 เท่าของ กล้วย 7 เท่าของแตงโม 8 เท่าของเชอร์รี่ 1.3 เท่าของสับปะรด 3. * วิตามินเอ * เป็น 10 เท่าของผลไม้กีวี 18 เท่าของแอปเปิ้ล 1.5 เท่าของกล้วย 1.5 เท่าของแตงโม 15 เท่าของเชอร์รี่ และ 16 เท่าของสับปะรด 4. * วิตามินเค * เป็น 5 เท่าของกล้วย 2.5 เท่าของแตงโม และ 4 เท่าของสับปะรด 5. * แคโรทีนอยด์ * ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องดวงตา ได้แก่ ไลโคปีนเบต้าแคโรทีนลูทีนและซีแซนทีน มีมากกว่าผลไม้กีวี แอปเปิ้ล เชอร์รี่ และสับปะรดถึง 2,000 เท่า (กล้วยและฝรั่งไม่มีส่วนผสมดังกล่าว) แหล่งข้อมูลข้างต้นมาจากกระทรวงเกษตรของ สหรัฐอเมริกา (USDA) 2016 ไม่น่าเชื่อว่ามะละกอเป็นราชาแห่งผลไม้ สุดทึ่ง! “ ส้มตำจงเจริญ” มีที่ก็ปลูกมะละกอกันเถอะ เชื่อผม!ความสวยความงามไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวดี! คน กทม. จากที่ หมอพร้อม ระบุให้ ผู้ที่มีอายุ 18-59 ปี ต้องรอ วันที่ 19 กรกฎาคม จึงจะลงทะเบียน จองวัคซีนได้ คน กทม. ไม่ต้องรอ อีก 2 เดือนแล้วนะครับ ไปฉีด กัน เถอะ ****** กรุงเทพมหานคร ได้จัดให้บริการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของซิโนแวค (sinovac) ให้กับประชาชนอายุ 18-59 ปีที่สนใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 11 แห่ง ทั้งนี้ท่านที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถาม และขอรับบริการได้ด้วยตนเอง ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ( ตามรายชื่อโรงพยาบาลที่ทางกรุงเทพมหานคร กำหนดรายชื่อไว้ ดังนี้ ท่านที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดกับทางโรงพยาบาล ( ตามรายชื่อด้านล่างที่แจ้งนี้ ) เพื่อรับบัตรคิว เข้ารับบริการวัคซีนต้านโควิด -19 ค่ะ กำหนดรายชื่อไว้ ดังนี้ 1. โรงพยาบาลกลาง โทร 0-2220-8000 2. โรงพยาบาลตากสิน โทร 02-437-0123 3. โรงพยาบาลเจริญกรุง ประชารักษ์ โทร 02-289-7000 4. โรงพยาบาลลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร โทร 0-2326-9995, 02-326-7711 5. โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 0-2421-2222, 0-2444-0163 6. โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ โทร 0-2988-4100-1 7. โรงพยาบาลคลองสามวา โทร 02-150-1300 8. โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน โทร 02-405-0901-4 9. โรงพยาบาลบางนากรุงเทพมหานคร โทร 021800201-3 10. โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ซุตินธโร อุทิศ โทร 0-2429-3577-81 11. โรงพยาบาลสิรินธร โทร 02-328-6901-19 ประธาน อสส กทม.ขอแจ้งข่าว ให้ พี่น้อง อสส.กทม./และ อสม.ต่างจังหวัดทราบค่ะใครมีญาติที่มาพำนักย้ายทะเบียนราษฎร์ภูมิลำเนามาอยู่กรุงเทพฯก็ช่วยกันประชาสัมพันธ์ด้วยค่ะแนะนำให้มาฉีควัคซีนวัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโควิดระลอก 3* แคนาดา * ห้ามเที่ยวบินเข้าและออกและมีผู้เสียชีวิตรายวันเกิน 1,000 คน * ซาอุดีอาระเบีย * ถูกปิดกั้นและไม่มีเที่ยวบินขาเข้าและขาออก * แทนซาเนีย * ถูกบล็อกอย่างสมบูรณ์ * บราซิล * ตกอยู่ในบทที่อันตรายที่สุดโดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,100 คนในวันนี้ * สเปน * ได้ประกาศว่าสามารถขยายภาวะฉุกเฉินได้ * สหราชอาณาจักร * ประกาศปิดตัวหนึ่งเดือน * ฝรั่งเศส * ถูกล็อก 2 สัปดาห์ * เยอรมนี * ปิดผนึกเป็นเวลา 4 สัปดาห์ * อิตาลี * ติดตามอย่างใกล้ชิดในวันนี้ * ประเทศ / ภูมิภาคเหล่านี้ทั้งหมด * ได้รับการยืนยันแล้วว่า * โควิด 19 ระลอกที่สาม * ร้ายแรงกว่าคลื่นลูกแรก ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังและ * ใช้ความระมัดระวังทั้งหมด * เป็นผู้สื่อสารแจ้งเตือนระหว่างเพื่อนและครอบครัว * ช่วยทุกคนจากคลื่นลูกที่สาม * * อย่าตัดสินด้วยคลื่นลูกที่สองของการปิดล้อม * ไม่มีอะไรเกิดขึ้น * ... * ประวัติศาสตร์บอกเราว่าเช่นเดียวกับไข้หวัดสเปนในปี 1917-1919 คลื่นลูกที่ 3 นั้นอันตรายกว่าคลื่นลูกที่ 1 และ 2 มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน * * ปกป้องตัวเองและของคุณ ครอบครัว *. * รักษามาตรการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพสวมหน้ากากรักษาระยะห่างในสังคมล้างมือบ่อยๆ ฯลฯ ประวัติศาสตร์จะไม่โกหกให้เราไตร่ตรอง __________ * อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ใช้เองแชร์กับครอบครัวและเพื่อน ๆ * อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ใช้เองแบ่งปันกับครอบครัวและเพื่อนของคุณ *โควิด 2019Mrs.Doubt• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
