1549 ข้อความ
- 1 คนสงสัยคำแนะนำจาก แพทย์หญิง Bonnie Henryโอ๊ยยยยยยยย! สบายใจ อ่านแล้วค่อยหายเครียดลงหน่อย อิอิอิอ แพทย์หญิง Bonnie Henry เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประจำจังหวัดบริติชโคลัมเบีย แคนาดา ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกในตำแหน่งนี้ เธอยังเป็นรองศาสตราจารย์ ที่มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย เธอมีพื้นฐานด้านระบาดวิทยา และเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน เธอยังมาจาก PEI (เกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด) ภูมิปัญญาของ ดร. บอนนี่ เฮนรี่ 1. เราอาจต้องอยู่กับ COVID-19 เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อย่าปฏิเสธหรือตื่นตระหนก อย่าทำให้ชีวิตของเราไร้ประโยชน์ มาเรียนรู้ที่จะอยู่กับข้อเท็จจริงนี้ กันเถอะ 2. คุณไม่สามารถทำลายไวรัส COVID-19 ที่เจาะผนังเซลล์ได้ โดยการดื่มน้ำร้อนมากๆ อีกทั้งจะทำให้คุณเข้าห้องน้ำ บ่อยขึ้นด้วย 3. การล้างมือและ รักษาระยะ -ห่-า-ง ทางกายภาพ——สองเมตร ✅ เป็นวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการป้องกันของคุณ 4. หากคุณไม่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่บ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อพื้นผิว ที่บ้านของคุณ 5. ตู้สินค้า ปั๊มน้ำมัน รถเข็น และ ตู้เอทีเอ็ม ไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ หากมีการล้างมือบ่อย จากใช้ชีวิตตามปกติ 6. โควิด -19 ไม่มีความเสี่ยง ที่แสดงให้เห็นว่า COVID-19 ติดต่อทางอาหารได้ 7. คุณสามารถสูญเสียความรู้สึก ในการดมกลิ่น ด้วยอาการแพ้ และการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก 🦠นี่เป็นเพียงอาการไม่เฉพาะเจาะจง ของ COVID-19🦠 8. เมื่ออยู่บ้าน คุณไม่จำเป็นต้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วน แล้วไปอาบน้ำ 🖐🏽 ไม่ควรถึงกับหวาดระแวง 9. ไวรัส COVID-19 ไม่ค้างอยู่ ในอากาศเป็นเวลานาน นี่คือการติดเชื้อในระบบ ทางเดินหายใจที่ต้องสัมผัสใกล้ชิด 10. อากาศสะอาด คุณสามารถเดินผ่านสวนและ ผ่านสวนสาธารณะ (เพียงแค่รักษาระยะป้องกัน ทางกายภาพของคุณ) 11. ควรใช้สบู่ธรรมดาเพื่อป้องกัน ไวรัสโควิด -19 🖐🏽 ไม่ใช่สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะนี่คือไวรัส ไม่ใช่ แบคทีเรีย 12. คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ การสั่งอาหารของคุณ แต่คุณสามารถอุ่นทั้งหมด ในไมโครเวฟได้หากต้องการ 13. โอกาสที่จะนำ COVID-19 กลับบ้านพร้อมกับรองเท้า ก็เหมือนกับการถูกฟ้าผ่า 2 ครั้ง ในหนึ่งวัน 👉🏾 ฉันทำงานกับไวรัสมา 20 ปี การติดเชื้อไม่แพร่กระจายแบบนั้น 14. คุณไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ ด้วยน้ำส้มสายชู น้ำอ้อย และขิง! #สิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อภูมิคุ้มกัน #ไม่ใช่การรักษา 15. การสวมหน้ากากอนามัย เป็นเวลานาน อาจจะรบกวน การหายใจและระดับออกซิเจน ของคุณลดลง 😷 จงสวมใส่ในฝูงชนเท่านั้น 16. การสวมถุงมือ ก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเช่นกัน ไวรัสสามารถสะสมเข้าไปในถุงมือ และแพร่เชื้อได้ง่าย หากคุณสัมผัสใบหน้า ดังนั้นจึงควรล้างมือเป็นประจำ ✅ จะดีกว่า #ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง #เมื่อร่างกายอยู่ในสภาพแวดล้อม #ที่ปลอดเชื้อ แม้ว่าคุณจะกินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ควรจะออกจากบ้าน ไป สวนสาธารณะ / ชายหาด ✅ เป็นประจำ #ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นตามการสัมผัส ❌ ไม่ใช่โดยการนั่งอยู่บ้านและ บริโภคอาหารทอด / เผ็ด / หวาน และเครื่องดื่มเติมอากาศ 🧠 จงฉลาด ใช้ชีวิต 🗣🦻🏼รับทราบข้อมูล อย่างมีเหตุผล ❌ อย่าวิตก จนเกินไป ✅ ชีวิตจะปลอดภัย 🗣 ——— 🗣 หลังแชร์ข้อมูลนี้ ให้เพื่อนที่ แวนคูเวอร์ แคนาดา 📲 เพื่อนตอบมาว่า @Piangporn ดีใจมากว่าชื่อเสียงคุณหมอหญิง Bonnie Henry ไปถึงเมืองไทยแล้ว คุณหมอท่านน่ารักมากค่ะ คนที่นี่ (แคนาดา) ก็ประทับใจการอุทิศตัว ทำงานหนัก(มาก) เลยมีแฟนคลับ มากมาย ฮับ (เพื่อนที่แคนาดา) ชอบฟังเวลาคุณหมอออกมาแถลงข่าว รายงานสถานการณ์หวัดโควิด พูดเป็นระบบ อิงข้อมูลวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญแสดงความเอื้ออาทร ผู้ป่วยและญาติ เจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาล ฯลฯ แบบเสมอต้น เสมอปลาย เป็นตัวอย่างของ การแพทย์ที่มีความเป็นมนุษย์ อย่างแท้จริง ทุกครั้งก่อนจบแถลงข่าว คุณหมอจะมีสามคำหลัก เตือนใจประชาชน จนท่องกันได้ คือ BE KIND, BE CALM, BE SAVE.ล้อเลียนMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัย😢อันนี้ของจริง ไหนๆ Covid-19 ก็กลับมา ระบาดใหญ่จนได้😓 🤓ในฐานะคนเรียน จุลชีววิทยาและจบมาเป็น Microbiologist ขอให้ข้อมูลซึ่งเพิ่งหารือกับเพื่อนๆกลุ่มนักจุลชีววิทยาจนเข้าใจรายละเอียดตรงกันแล้วมาแบ่งปันดังนี้😍 1. การแพร่ระบาดในขณะนี้ ติดต่อจากสารคัดหลั่งคือเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย เป็นหลัก 2. เชื้อไวรัสไม่ได้ลอยในอากาศ มันจะตายทันทีที่ออกมาสัมผัสอากาศ ที่มันออกมากระจายได้เพราะมันอยู่ในเซลล์ของเยื่อบุจมูกปากที่หลุดออกมากับน้ำมูก น้ำลาย 3. การติดเชื้อเกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งเหล่านี้และนำเซลล์เยื่อเมือกนี้ไปเข้าตาหรือทางเดินหายใจ (อวัยวะที่มีเยื่อเมือกบุ เช่น ตา จมูก ปาก) 4. ไวรัสไม่สามารถเจาะผ่านผิวหนังเข้าร่างกาย ถ้าอยู่บนพื้นผิวมันจะตายเมื่อเซลล์ของคนป่วยที่หุ้มมันอยู่แห้งตาย เพราะตัวมันเองไม่มีชีวิต มันอาศัยในเซลล์ที่มีชีวิต ถ้าเซลล์หลุดออกจากร่างกายจะหมดชีวิตในเวลาไม่นานไวรัสก็ตายตามไปด้วย ***ในส่วนของการป้องกันนั้นทำได้ดังนี้*** 1. ใส่มาสก์เพื่อป้องกัน 2 ทาง 1.1 สำหรับคนที่ติดเชื้อใส่แล้วป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อได้เพราะเวลาไอจามเซลล์เยื่อบุซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของไวรัสมีขนาดใหญ่กว่ารูของผ้าจะออกมาไม่ได้ ไม่ต้องห่วงว่าไวรัสจะเล็กกว่าและออกมาได้เพราะไวรัสอยู่ในเซลล์เยื่อเมือกอีกที 1.2 สำหรับคนที่ไม่เป็น การใส่มาสก์ช่วยป้องกันสารคัดหลั่งกระเด็นมาเข้าหน้าหรือจมูกปากและถ้ากระเด็นมาติดที่มาสก์ เชื้อก็ไม่เข้าเพราะมันอยู่ในเยื่อบุซึงใหญ่กว่ารูผ้า นอกจากนี้การใส่มาสก์ช่วยลดโอกาสที่มือจะไปสัมผัส ตา จมูก ปาก 2. ใส่ faceshield ช่วยป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งกระเด็นมาโดนมาสก์ และยังช่วยป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งที่อาจหลุดรอดจากมาสก์กระเด็นออกไปยังผู้อื่น 3. การล้างมือ สำคัญมากๆ เพราะมือคืออวัยวะที่นำเชื้อไม่ว่าจะมีสารคัดหลั่งตกอยู่ที่พื้นผิวใดๆไปเข้า ตา จมูก ปาก แม้แต่การใส่/ถอดมาสก์ ก็ต้องระมัดระวังว่าสารคัดหลั่งที่เปื้อนมาสก์จะโดนมือ และมือนำไปเข้าตา จมูก ปาก ดังนั้นต้องท่องจำไว้เสมอว่า "เราต้องไม่เอามือที่ยังไม่ฟอกล้างสะอาดไปโดนหน้า" 4. ผม โดยเฉพาะผมยาว เป็นที่ๆมีสารคัดหลั่งมาติดได้ง่ายมาก ถ้ามีคนไอใกล้ๆแล้วเสมหะเล็กๆกระเด็นมาติด เมื่อเราเสยผมมือเปื้อนทันที และถ้ามือโดนหน้าโดยไม่ล้างก็นำเชื้อเข้าแล้ว ดังนั้นถ้ามีโอกาสเมื่อกลับเข้าบ้านควรอาบน้ำสระผมทันที และ"เราต้องไม่เอามือที่ยังไม่ฟอกล้างสะอาดไปโดนหน้า" 5. เสื้อผ้า เหมือนกับเรื่องผม ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อเข้าบ้านและแช่น้ำใส่น้ำยาซักไว้แค่นี้ไวรัสก็ตายแล้ว 6. ถอดรองเท้าไว้นอกห้องก็เพียงพอแล้ว ไวรัสไม่ได้ทนจนติดรองเท้ากลับไปในบ้านได้ แต่เชื้อแบคทีเรียทนได้ เราถอดก็ดีเป็นการรักษาความสะอาด 🌸หวังใจว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์พอจะช่วยบรรเทาภาระของบุคคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่และหนักหนาสาหัสเป็นที่สุดครั้งนี้ลงได้บ้าง🌼 ปล: ขอเชิญแบ่งปันกันตามสะดวกค่ะทุกๆท่าน ไม่ต้องให้เครดิตแหม่มหรอกค่ะเพราะนี่เป็นการรวบรวมความเห็นจากนักจุลชีววิทยาหลายๆคนค่ะโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยบ้านหมุนรักษาด้วยน้ำมะพร้าว • ไปรักษาที่โรงพยาบาล เขาจะเข็มมุ่งไปที่ “น้ำในหู” • ส่วนหมอแผนไทยเข็มมุ่งไปที่ “ไตสกปรก” • วิธีแก้ไข - ดื่มน้ำมะพร้าวพร้อมกันห้าลูก เพื่อเพิ่มความดันให้ขับผลึกเกลือที่ค้างในไตออกมา (สำหรับกรณีคนปัสสาวะได้ปกติเพียงมีอาการบ้านหมุน) ปล. ท่านที่ปัสสาวะขัดห้ามกินน้ำทุกชนิดมากๆเพราะฉี่ไม่ออก อันตรายครับ - หลังดื่มน้ำมะพร้าวประมาณหนึ่งชั่วโมงจะปวดปัสสาวะมาก (รีบไปฉี่อย่าอั้นเด็ดขาด) • ผมจะสอนให้ครับให้สังเกตปัสสาวะ - พิจารณากลิ่น กลิ่นฉุนมากบ่งชี้ว่าอะไรค้างคาภายในไต ถ้ากินยามากกลิ่นยานำ ถ้ากินผักผลไม้พวกกรดสูง เช่น ทุเรียน สะตอ กลิ่นไม่ต้องบรรยาย ฯ - พิจารณาสี สีเหลืองเข้ม (ดุจขมิ้น) หรือดำออกแดง(ดุจชานหมาก) หรือสีอื่นๆที่ไม่ใสเหมือนน้ำบ่อ แสดงว่าไตยังทำงานได้ แต่ขับของเสียไม่ทัน จึงเก็บสะสมสารพิษจนป่วย นี่แหละสาเหตุบ้านหมุน - หลังปัสสาวะแล้วทยอยดื่มเรื่อยๆทีละลูก ให้ปัสสาวะอีก - หลังปัสสาวะก็กินน้ำมะพร้าวอีก สลับไปเรื่อยๆจนฉี่ใสและไม่มีกลิ่นก็หยุดกินน้ำมะพร้าวครับ • ปล. ถ้าปวดฉี่ห้ามอั้นฉี่ครับ เพราะจะปวดหัวมาก • หลังจากนี้หนึ่งสัปดาห์อาการบ้านหมุนหรือแพ้อาหารจะค่อยๆบรรเทาลงตามลำดับจนหายปกติ - น้ำมะพร้าวกินรักษาจริงๆ คือห้าลูกแรก - ส่วนที่เหลือกินน้ำมะพร้าวเพื่อบำรุงป้องกันไต - รักษาแบบหมอแผนไทยไม่เร็ว ค่อยเป็นค่อยไป หายก็หยุดกินครับ • เป็นอีกหนึ่งทางเลือก - ท่านอาจหายหรืออาจไม่หาย (ถ้าไม่หายก็ไปหาวิธีอื่นรักษาต่อไปเองนะครับ ถ้ากลัวน้ำมะพร้าวทำให้ป่วยโน้นนี่นั้น ท่านก็อย่ากิน เอาที่ท่านเชื่อเป็นสำคัญ) - บ้านหมุนหลายสาเหตุต้องว่าเคสบายเคส แต่วิธีนี้ที่ผมแนะนำผู้ป่วยส่วนใหญ่หายครับ - รวมถึงแพ้อาหารจนปากเจ่อหน้าบวม ก็ใช้วิธีนี้รักษา - ให้ดีควรกิน 204 ยากษัยเส้น ขับลมพิษในไส้ กินยาสามวันๆละ 5 แคปซูล มื้อเดียวก่อนนอนช่วงท้องว่าง เช้าต้องถ่ายเหลว ถ้าถ่ายมากกว่าสามครั้ง แก้ไขด้วยการดื่มน้ำเย็นใส่น้ำแข็งแก้วใหญ่ๆจะหยุดถ่าย - ผมให้กิน 204 เพื่อขับพิษในลำไส้ด้วยอีกทางหนึ่ง ล้างเส้นอึ ล้างเส้นฉี่เมื่อเลือดลมเดินดีดีทุกเรื่องครับ • ผมเอาประสบการณ์รักษาตนเองเมื่อเจอพิษผงชูรสที่เขมร ลาว หรือเวียดนาม - ผมใช้วิธีนี้ล้าง สำหรับผมสามวันหายเป็นปกติ - ท่านต้องทดลองกินเองว่ากี่วันหาย ให้จดบันทึกและแจ้งคนในครอบครัวทราบ ภายภาคหน้าท่านป่วยลูกหลานจะได้แก้ไขให้ได้ถูกครับ • พวกเราเหล่าผู้เฒ่าเต่า เรามามีสุขภาพดีวิถีบวรเวชกันนะครับ เราเน้นธรรมชาติบำบัดรักษาจ๊ะ หมอบวร จันทร์โภคาไพบูลย์ไม่ระบุชื่อ• 6 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 2 คนสงสัยโคโรน่าแพร่ผ่านทางสายเลือดมีผู้โพสต์ลงในอินเตอร์เน็ตว่าเชื้อโคโรน่าถ่ายทอดไปยังลูกๆได้ มีการอ้างอิงถึงแม่ลูกคู่หนึ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์และเมื่อคลอดลูก ลูกลับติดเชื่อละเสียชีวิตstd48019• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเช็กด่วน 8 หุ้นกู้ 3 บริษัทดังพร้อมขาย มิ.ย.นี้ เปิดรายย่อยซื้อได้จ่ายดอกสูงสุด 5.25%ตลาดหุ้นกู้กำลังอยู่ในจังหวะที่น่าสนใจ ด้วยภาวะดอกเบี้ยนโยบายที่สูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดหุ้นกู้ต้องจ่ายผลตอบแทนที่สูงให้กับผู้ซื้อหุ้นกู้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณา คือ ภาวะของความเสี่ยงหลังจากบางบริษัทอาจมีปัญหาสภาพคล่องและมีผลต่อการชำระคืนหนี้ ทั้งนี้เมื่อส่องตลาดหุ้นกู้ในเดือน มิ.ย. พบว่า มีหุ้นกู้ที่ 3 บริษัทที่เปิดให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าลงทุนได้std46517• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ต้องห้ามตามหลักศาสนายอมรับว่าทีมงานต่อต้านข่าวปลอมทำงานกันอย่างยากลำบากด้วยข้อจำกัดด้านภาษาและวัฒนธรรม จากกรณีพบผู้มีเชื้อสายเอเชียใต้ (ภูมิภาคที่ประกอบด้วยประเทศอินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล ภูฏาน และมัลดีฟส์) ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษมีแนวโน้มปฏิเสธการรับวัคซีนโควิด-19 โดยต้องทำงานร่วมกับผู้นำศาสนา อธิบายให้ศาสนิกชนเหล่านี้มั่นใจว่าวัคซีนโควิด-19 ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม ทาง Newsweek ก็มีการตรวจสอบว่าเป็นข่าวลวงเช่นกัน โดยเฉพาะในวัคซีนของไฟเซอร์ ส่วนในประเทศอินโดนีเซียที่ประชากรนับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นฉีดวัคซีนไปแล้ววัคซีนโควิดstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอมนุษย์การกล่าวถึงพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) ในกระบวนการผลิตและการทำงานของวัคซีน นำไปสู่ความกังวลว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนจะมีผลข้างเคียงคือรหัสพันธุกรรมของตนจะเปลี่ยนไปด้วย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ชี้แจงเรื่องนี้ว่า วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีทั้ง 2 ชนิด แม้จะส่งสารพันธุกรรมเข้าไปในร่างกายมนุษย์ แต่สารนั้นจะไม่เข้าไปถึงนิวเคลียสอันเป็นที่เก็บดีเอ็นเอ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อดีเอ็นเอแต่อย่างใด ทางสำนักข่าวบีบีซีและรอยเตอร์ตรวจสอบแล้วพบว่าข่าววัคซีนเปลี่ยนดีเอ็นเอนี้ไม่เป็นความจริงวัคซีนโควิดstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแม่จริงๆ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เป็นคนอุบลฯ จริงหรือไม่แม่จริงๆ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เป็นคนอุบลฯภาคอีสานChalita khatawong• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--start3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่❗️ ห้ามดื่มน้ำมะพร้าวช่วงมีประจำเดือน🥛🥥คนไทยมีความเชื่อว่าการดื่มน้ำมะพร้าวช่วงมีประจำเดือนอาจทำให้เลือดมีกลิ่นคาวมากขึ้น, ประจำเดือนผิดปกติ, หรือปวดท้องมากขึ้น ความจริง ไม่มีข้อห้ามทางการแพทย์ในการดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงมีประจำเดือน แต่การดื่มในปริมาณมากเกินไปอาจมีผล เนื่องจากน้ำมะพร้าวมีไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย อาจส่งผลต่อการบีบตัวของมดลูกหรือการหลั่งประจำเดือน อย่างไรก็ตาม การดื่มในปริมาณที่เหมาะสมสามารถมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการฟื้นฟูร่างกายที่อ่อนเพลียจากการสูญเสียเลือด คำแนะนำจากแพทย์ ควรดื่มน้ำมะพร้าวในปริมาณที่เหมาะสม (ประมาณหนึ่งแก้วต่อวัน) หากไม่มีอาการผิดปกติ หากมีความกังวลควรหลีกเลี่ยงการดื่มในช่วงมีประจำเดือน และเน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมายเหตุ: ข้อมูลปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของการดื่มน้ำมะพร้าวช่วงมีประจำเดือนสุขภาพ65011215039• 10 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! เฟซบุ๊กแจ้งเตือนแอดมินเพจหน่วยงานต่าง ๆ ให้กรอกข้อมูลก่อนโดนลบเพจตามที่พบข้อมูลบนสื่อออนไลน์เรื่องเฟซบุ๊กแจ้งเตือนแอดมินเพจหน่วยงานต่าง ๆ ให้กรอกข้อมูลก่อนโดนลบเพจ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ จากการตรวจเจอข้อมูลเรื่องพบเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่งส่งข้อความถึงแอดมินเพจเฟซบุ๊กเพจอื่นให้กรอกข้อมูล ทางสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า มีการแจ้งเตือนจากเครือข่ายของ Cyber community by NCSA ว่า ในปัจจุบันมีแฮกเกอร์ส่งข้อความหลอกลวง เพื่อให้แอดมินเพจเฟซบุ๊กของหน่วยงานกรอกข้อมูลเพื่อแฮกเกอร์จะเข้ามาทำการแฮกข้อมูล และอาจสื่อสารข้อมูลข่าวปลอมออกไป ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ncsa.or.th หรือ โทร. 02-142-6888 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : หากพบเห็นเพจที่มีลักษณะดังกล่าว หรือมีการส่งข้อความชักชวนให้กรอกข้อมูลใด ๆ ให้สันนิษฐานไว้ได้เลยว่าเป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจเข้ามาแฮกข้อมูล และส่งผลให้เกิดความเสียหายได้ผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมstd46361• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปลัดอำเภอวังนํ้าเย็นขับรถเสยท้ายรถพ่วงดับที่เกิดเหตุพบรถเก๋งสีขาว ชนท้ายรถบรรทุกพ่วงอย่างรุนแรง จนด้านหน้ารถยุบไปถึงที่นั่งคนขับ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ทราบชื่อ นายธนกร อักษรคง หรือ ป. คิงส์ ปลัดอำเภออำเภอวังน้ำเย็น มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เพิ่งย้ายมาเป็นปลัดอำเภอวังน้ำเย็นได้ไม่นานstd47875• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโรนัลโด้ย้ายกลับไปสปอร์ติ้งลิสบอนคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงขั้นต้องออกโรงสยบข่าวลือด้วยตัวเอง ยืนยันว่า ข่าวการย้ายกลับไปค้าแข้งให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไม่เป็นความจริง อย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้ Sport TV สื่อของโปรตุเกส ได้ออกมารายงานข่าวว่า โรนัลโด้ ที่กำลังมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีม กำลังเจรจาย้ายกลับไปเล่นให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน โดยสื่อดังกล่าว อ้างอิงภาพรถของ CR7 ว่าจอดอยู่ในสนาม เอสตาดิโอ โฆเซ่ อัลวาลาเด้ ของทีมสปอร์ติ้ง กระทั่ง ล่าสุด โรนัลโด้ ก็ออกมาตอบโต้ข่าวดังกล่าว แบบทันที โดยโดยไปตอบในช่องคอมเมนท์ ของโพสต์ข่าวดังกล่าว ว่า "Fake" เพื่อเป็นการยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่อย่างใดstd48324• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมกระปุกขาวใส 3วัน ! 7วัน !กำลังฮิตบนติ๊กต่อก อ้างเนรมิตผิวขาวใสใน 3-7 วัน เตือนอันตรายก่อโรคผิวหนังได้ในระยะยาว และอันตรายถึงชีวิต พร้อมแนะนำ ผิวสุขภาพดี ไม่จำเป็นต้องขาวstd48136• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม แจ้งเตือน 13 แอปพลิเคชันอันตราย ดูดเงิน อ่านข้อความ และสอดแนมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย โพสต์สเตตัสในช่วงเช้าของวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ระบุว่า “มีรายงานจาก Kaspersky บริษัทรักษาความปลอดภัยด้านไอทีว่า พบแอปพลิเคชัน Joker หรือแอปที่มีโฮสต์มัลแวร์อันตราย ที่สามารถขโมยเงินสดของผู้ใช้ อ่านข้อความ และสอดแนมการทำงานต่างๆ ภายในเครื่องได้ โดยมีทั้งสิ้น 13 แอป และแนะนำให้ผู้ใช้ลบทิ้งทันที” ข้อสังเกตคือ แอปต่างๆ อาจหยุดทำงานโดยไม่มีเหตุผล, อุปกรณ์ทำงานช้าลงกว่าเดิมมาก หรืออาจรู้สึกว่าแบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติมาก เพราะมีการเรียกใช้งานทรัพยากรในเครื่องพุ่งสูงขึ้นstd48370• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยกกต.โต้ข่าวปลอม! รับรอง ส.ส.เขต 100 คน เป็นความเท็จกกต.ร่อนเอกสารโต้! ข่าวรับรอง ส.ส.เขต 100 รายชื่อ เป็นข่าวปลอม แจงอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบเรื่องคัดค้าน ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบรับรอง ส.ส. วันที่ 14 มิถุนายน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แจ้งว่า ตามที่เว็บไซต์ https://www.brighttv.co.th ได้โพสต์ข้อความว่า "เลือกตั้ง 66เดินหน้าแล้ว กกต. รับรอง ส.ส. แบบแบ่งเขต ไปแล้วกว่า 100 รายชื่อ คาดว่าภายใน พรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) จะมีการรับรอง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ" กกต. ขอชี้แจงว่า ข้อความที่นำมาโพสต์เป็นความเท็จ เนื่องจาก ขณะนี้อยู่ใน ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบการร้องคัดค้าน รวมทั้งข้อมูลที่ได้รับรายงานจาก ผู้ตรวจการเลือกตั้ง และข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก ที่ได้รับจากแหล่งข้อมูลต่างๆภาคใต้std48370• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยเทคนิคการทำ IF ให้ถูกวิธี ลดจริง ไม่ทรมาน และไม่เสียสุขภาพการทำ IF เป็นเทคนิคการลดน้ำหนัก และลดไขมันที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน แต่หลายครั้งที่อ่านรีวิวพบว่าบางคนทำแล้วเห็นผลไว บางคนทำแล้วไม่เห็นผล แถมยังโยโย่ นั่นเป็นเพราะการทำ IF ไม่ดีหรือเปล่า? สำหรับมือใหม่หัดทำ IF และคนที่ทำ IF มาพักได้ใหญ่ๆ แต่รู้สึกทรมานกับการอดอาหาร เครียด วิตกกังวล หรือมีอาการโยโย่ นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังทำ IF ผิดวิธี วันนี้ OfficeMate จะพาไปขจัดความเชื่อผิดๆ ของการทำ IF พร้อมเทคนิคการทำ IF แบบถูกต้อง ทำแล้วเห็นผล ลดจริง แถมไม่ทรมาน ไปดูกันเลย! IF คืออะไร? IF เรียกเต็มๆ ว่า Intermittent Fasting การทำ IF เป็นเทคนิคการลดน้ำหนัก และลดไขมันโดยจำกัดเวลาการกินอาหาร ช่วงที่กิน เราเรียกว่า Feeding และช่วงอดอาหารจะเรียกว่า Fasting ในช่วง Fasting หรือช่วงที่อดอาหารนั้น ตามหลักการแล้วจะสามารถดื่มได้แต่น้ำเปล่า หรือกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาล เมื่อเราอดอาหาร ร่างกายจะได้หยุดพักจากการย่อย ระดับอินซูลินในร่างกายจะลดลง ส่งผลให้ระดับโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เพิ่มสูงขึ้น (ฮอร์โมน 2 ตัวนี้ ทำงานคนละเวลากัน) ซึ่งโกรทฮอร์โมนนี้ มีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย ช่วยเบิร์นไขมัน และร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ การทำ IF จึงช่วยลดน้ำหนัก และลดไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายลงได้ ประโยชน์ของการทำ IF ช่วยลดน้ำหนัก และลดไขมันสะสม ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ช่วยลดการอักเสบของร่างกาย เนื่องจากร่างกายมีเวลาซ่อมแซมตัวเองเพิ่มขึ้น ในช่วง Fasting ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจ เบาหวาน ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำให้สุขภาพดีขึ้น ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินได้ดีขึ้น (ร่างกายดื้ออินซูลิน เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยน้ำตาล เป็นสาเหตุทำให้มะเร็งโตหรือไม่ความคิดที่ว่าเซลล์มะเร็งเจริญเติบโตใน น้ำตาล มีมาตั้งแต่ปี 1924 ของ ดร. Otto Warburg’s ในชื่อเรื่องว่า “On Metabolism of Tumors” Warburg ซึ่งได้รับรางวัลโนเบล ในสาขานักชีววิทยาด้านเซลล์ ในงานวิจัยที่มหาวิทยาลัย Duke เซลล์มะเร็งจะใช้น้ำตาลในอัตราที่สูงเพื่อที่จะไม่ทำตามคำสั่งของเซลล์เพื่อที่จะถูกทำลาย ตามวงจรเหมือนเซลล์ทั่วไป ที่จะตายลงเมื่อถึงเวลา ทำให้มีความเชื่อว่าการงดกินน้ำตาลจะทำให้เซลล์มะเร็งไม่เติบโต อันที่จริงแล้วการงดน้ำตาลโดยเด็ดขาด จะทำให้เซลล์ปกติเองก็อ่อนแอไปด้วย เพราะเซลล์ปกติก็ต้องการน้ำตาลในมื้ออาหารเช่นกัน การทำให้เซลล์ทั้งหมดขาดน้ำตาลจะไม่ฆ่าหรือป้องกันมะเร็งอย่างที่คิด แต่อาจจะทำให้เราขาดภาวะสมดุลทางโภชนาการของ ร่างกายอ่อนแอ และอาจเป็นสาเหตุการลุกลามของมะเร็งมากกว่า สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือเราควรรับประทานน้ำตาลธรรมชาติบ้างในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำผลไม้ธรรมชาติ แต่ควรลดการเติมแต่งจากน้ำตาลเสริม เช่น ขนมหวาน การทานกาแฟเติมน้ำตาลมากๆ กล่าวง่ายๆ การทานน้ำตาลเกินความจำเป็นของร่างกาย จะเป็นการไปเสริมการเติบโตของมะเร็ง แต่หากเราทานน้ำตาลธรรมชาติเพียงพอแก่ร่างกายไปใช้ ย่อมทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอและแข็งแรงขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้นผู้ป่วยมะเร็งไม่ควรทานอาหารรสหวานจัด และรวมถึงผู้ที่ยังไม่ป่วย จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงมะเร็ง และโรคอื่น ๆ อีกมากมายเช่นกันน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเล่นมือถือจนหน้าเบี้ยวที่ 6 มี.ค.66 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย | Anti-Fake News Center Thailand แจ้งว่า ตามที่มีข้อมูลในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องเล่นมือถือนาน ๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูป ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีข้อมูลเตือนว่าการเล่นมือถือเป็นระยะเวลานาน จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ หน้าผิดรูป ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน โดยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เมื่อมีความผิดปกติของเส้นประสาทจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือมีลักษณะขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น มักเป็นใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย เช่น เกิดตามหลังอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทโดยตรง, การติดเชื้อบริเวณต่อมน้ำลายใกล้ๆเส้นประสาท, การพบเนื้องอกกดเบียดเส้นประสาท หรือเกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาทเอง (Bell’s palsy) เป็นต้น สำหรับภาวะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือ Bell’s palsy นั้น การอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าวเกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีสาเหตุที่สรุปได้ชัดเจน แต่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดขึ้นเร็วระยะเวลาภายใน 48 ชั่วโมง เช่น กล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก รับประทานอาหารและดื่มน้ำลำบาก ร่วมกับอาจมีอาการหูข้างนั้นได้ยินเสียงก้องกว่าปกติ รับรสผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยภาวะดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ โดยการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการรักษาด้วยยาหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงแรกที่มีอาการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าในระยะยาว ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ การพักผ่อนน้อย ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขแอคปลอมNutt Tahom• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็งจากที่มีการแชร์ข้อความบนสื่อออนไลน์ว่าเม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้นมีสารสไตรีน และสารกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ;PCBs) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งได้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง จากที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไต้หวันได้มีการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีสารสไตรีน (Styrene) แต่พบสารอะซิโตฟีโนน (Acetophenone) และสารประกอบกลุ่มโพลีโบรมีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polybrominated Biphenyl;PBBs) ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก แต่ไม่ใช่สารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ;PCBs) จึงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งอย่างที่ได้มีการแชร์ โดยเม็ดชานมไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง การกินเม็ดชานมไข่มุกก็เหมือนการกินแป้ง จึงยังสามารถกินชานมไข่มุกได้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่ากลัว คือการกินชานมไข่มุกในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจได้ เพราะนอกจากในเม็ดไข่มุกจะประกอบไปด้วยแป้งมันสำปะหลังแล้วนั้น ในน้ำชานมยังประกอบไปด้วยน้ำตาล น้ำเชื่อม ครีมเทียม นมข้นหวาน ซึ่งจัดได้ว่าชานมไข่มุก เป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่สูง และมีคุณค่าทางสารอาหารน้อย จึงควรกินชานมไข่มุกนาน ๆ ครั้งเท่านั้น หรือหากต้องการกินอาจลดปริมาณน้ำตาล หลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมในชานมไข่มุกมีมน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! เล่นมือถือนาน ๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูปจากกรณีที่มีการเตือนภัยว่าการเล่นมือถือเป็นระยะเวลานาน จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ หน้าผิดรูป ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน โดยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เมื่อมีความผิดปกติของเส้นประสาทจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือมีลักษณะขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น มักเป็นใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย เช่น เกิดตามหลังอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทโดยตรง, การติดเชื้อบริเวณต่อมน้ำลายใกล้ๆเส้นประสาท, การพบเนื้องอกกดเบียดเส้นประสาท หรือเกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาทเอง (Bell’s palsy) เป็นต้น สำหรับภาวะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือ Bell’s palsy นั้น การอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าวเกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีสาเหตุที่สรุปได้ชัดเจน แต่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดขึ้นเร็วระยะเวลาภายใน 48 ชั่วโมง เช่นกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก รับประทานอาหารและดื่มน้ำลำบาก ร่วมกับอาจมีอาการหูข้างนั้นได้ยินเสียงก้องกว่าปกติ รับรสผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยภาวะดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ โดยการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการรักษาด้วยยาหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงแรกที่มีอาการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าในระยะยาวมีมน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินเหล้าแล้วหายเป็นโรคหวัดแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดภูมิต้านทานในร่างกาย อีกทั้งยังอาจไปละลายตัวยารักษาอาการหวัดที่คุณกินเข้าไปอีกด้วย ดังนั้นหากรู้ตัวว่ากำลังป่วยอยู่ ก็ลด ละ เลิก จากสุรา รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิดจะดีกว่าแอคปลอมNutt Tahom• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกกต.โต้ข่าวปลอม รับรองสส.เขต 100 คน เป็นความเท็จกกต.ร่อนเอกสารโต้! ข่าวรับรอง ส.ส.เขต 100 รายชื่อ เป็นข่าวปลอม แจงอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบเรื่องคัดค้าน ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบรับรอง ส.ส.std47729• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรายงานทางการแพทย์ชี้ ไข่เป็ดปนเปื้อนเชื้อไทฟอยด์จากที่มีการแชร์ข้อความว่า มีรายงานทางการแพทย์มากมายที่บอกว่า ไข่เป็ดปนเปื้อนเชื้อไทฟอยด์ กินไข่เป็ดแบบไม่สุกเต็มที่ เชื้อไม่ถูกฆ่าตาย ทางสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรคไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสากน้อย เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อ Salmonella Typhi หรือ Salmonella Paratyphi ซึ่งติดต่อจาก “คนสู่คน” ซึ่งไม่ได้เกิดจากการบริโภคไข่ไก่หรือไข่เป็ด โดยเชื้อชนิดนี้จะปนเปื้อนอยู่ในอุจจาระของคนstd46207• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโจมตีพรรคคู่แข่ง-เพิ่มคะแนนนิยมให้กับพรรคช่วงเลือกตั้ง 2566” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-22 พฤษภาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของนิด้าโพล สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0std49570• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปวดท้องตรงไหน เป็นโรคอะไรบ้างปวดเป็นประจำเวลาหิวหรืออิ่ม อาจเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร หากปวดรุนแรงหรืออาเจียนด้วยอาจเป็นตับอ่อนอักเสบ หากคลำเจอก้อนเนื้อขนาดใหญ่ และแข็งแสดงว่าตับโต หรือหากคลำได้ก้อนสามเหลี่ยมแบนเล็กๆ อาจเป็นกระดูกลิ้นปี่ หากอืดแน่นท้องเป็นๆ หายๆ เป็นเวลานาน อาจเป็นนิ่วในถุงน้ำดีstd47798• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ