1435 ข้อความ
- 1 คนสงสัยจุดจบประเทศไทยเพื่อนส่งมาจาก USA จุดจบประเทศไทย ...... เรื่องนี้"คนไทยทุกคน"ควรที่จะได้รู้ ..... ประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้มีเกิด มีดับ ตลอดเวลา ..... สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค ซึ่งเป็นสถาบันที่ สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14 ประเทศ ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หัวเราะจนฟันกระเด็น แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง ! ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็น ติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศ อาเจะ และอีกหลายประเทศ ที่จะเกิดตามมา ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า "ประเทศไทย"จะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศ แน่นอน ! ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ "การค้าเสรี"จะมีผลสมบูรณ์ สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้ เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน เนื่องจาก สินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่า. สินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากในอีก ไม่ถึง10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก GMOs และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้ "วิกฤต"ที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย "รัฐบาลไทย"จะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้ เนื่องจาก"ธนาคารไทย"กลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เขาสามารถตั้งราคา ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า เขาจะไม่มีกำไร (เช่น สัมปทาน พลังงาน ที่กำลังเป็นอยู่ขนะนี้ ) ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้ ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้ การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา "คนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ " ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้ (เช่น ภาคกลาง จ.สุพรรณ อ่างทอง ชัยนาท อยุธยา ฯ ) และธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Lotus, Carrefour, ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat, McDonal, สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ ดังนั้น "เงินตรา"ของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด ... เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้ ... รัฐจะอยู่ได้ อย่างไร? (นี่คือโจทย์ ใหญ่ ที่ คสช.พลเอก ประยุทธ ต้องรีบแก้ปัญหาคนจนก่อนฯ) 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็น"ความล้มเหลวของรัฐบาลไทย " การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณ"จันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา " จะขอแยกตัวตามมา เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของ"ต่างชาติ"หมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก นั่นหมายถึง "การซื้อประเทศไทยคล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จาก Russia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่ เรา "คนไทย "จะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ? ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า หนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์ บ่อยครั้งที่นิติภูมิ มองธุรกิจการเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามองอาเจนติน่า ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ ก่อนล่มจริง ... เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค ข้อคิด รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย แทนที่ไปเดิน lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส 86 บาท เหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ โลตัสเหมือนกัน นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู ของ 3 ห้างดัง ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 ปอร์เซ็นต์ สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5 บาทก็ซื้อที่นี่ เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ ถ้าซื้อจากห้าง 1,000 บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900 บาท ที่เหลือ 100 บาท ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้าง? ทั่วประเทศ คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้ ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด ผมอธิบาย วิธี"สิ้นชาติ"แบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้าน และลูกฟัง หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว ดีครับ ได้ผล ... ลูกเปลี่ยนวิธีกิน ... วิธีคิดไปเลย ... เปลี่ยนไปได้มาก พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ แล้วผมไป kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย ผมก็อธิบายคำว่า license ( ค่าลิขสิทธิ์ ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ์ ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทย ไม่มีลิขสิทธิ มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน ขนม"ต่างชาติ" ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ์ เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว ปล . ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ คิดว่า ช่วย กัน "ชาวไทย พิทักษ์ชาติไทย" ครับ ขอบคุณ ทุกท่าน ที่ "รักชาตินะครับข่าวการเมืองภาคใต้ภาคตะวันออก ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยFrom นายแพทย์สุธี ทุวิรัตน์ 25 ก.ค. 2564 สรุปประสบการณ์ในการดูแลรักษาครอบครัวที่ติดโควิดทั้งบ้าน 10 คน แบบ home isolation ครอบครัวนี้สมาชิก 10 คน ประกอบด้วย อากงและอาม่า อายุ ประมาณ 70 ปี อากงและอาม่า มีลูกชาย 1 คน ลูกสาว 2 คน ลูกชายเป็นพี่ชายคนโต แต่งงานมีลูกมีเมียแล้ว มีลูกอ่อน 2 คน เป็นฝาแฝด อายุ 2 ขวบ ลูกสาวคนโตก็แต่งงานแล้ว มีลูก 2 คน เริ่มเป็นวัยรุ่นแล้ว ทั้งหมด 10 ชีวิต อาศัยอยู่รวมกันอย่างค่อนข้างจะแออัดในห้องแถวย่านตลาดน้อย ครอบครัวนี้เกิดโชคร้าย ติดเชื้อโควิดโดยไม่รู้ตัวว่าติดได้อย่างไร ติดจากใคร โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้ วันที่ 12/7/64 อากงเริ่มมีอาการไอ วันที่ 15/7/64 ลูกสาวคนโตเริ่มมีอาการไอ วันที่ 17/7/64 ลูกสะใภ้ กับอาม่า เริ่มมีไข้ ไอ วันที่ 18/7/64 หลาน 2 คนที่เป็นวัยรุ่น เริ่มมีไข้ต่ำๆ, ลูกสาว อาการมากขึ้น เริ่มมีอาการเจ็บคอ ทั้งบ้านก็ยังไม่เฉลียวใจว่าติดเชื้อโควิดกันทั้งบ้านแล้ว วันที่ 19/7/64 ลูกสะใภ้ มีไข้สูง ไปตรวจที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน พยาบาลแนะนำให้แยกกักตัวเอง เพราะสงสัยจะเป็นโควิด ลูกชายและลูกสะใภ้แยกตัวไปนอนที่คอนโด วันที่ 21/7/64 ลูกสะใภ้รู้ผล และรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม, ลูกชายไปหาซื้อชุดตรวจมาได้ 4 ชุด ตรวจเสียไป 2 ชุด ผลตรวจ อาม่าเป็นบวก ลูกสาวเป็นลบ วันที่ 21/7/64 ผลการตรวจ rapid test ของอาม่าเป็นบวก ลูกชายพาอาม่าไปตรวจที่โรงพยาบาล แจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าผลตรวจ rapid test เป็นบวก แต่โรงพยาบาลไม่ตรวจให้, ครอบครัวนี้เริ่มสติแตก พยายามดิ้นรนโทรติดต่อหาที่ตรวจแต่หาไม่ได้เลย มีที่พอจะรับตรวจ ก็อยู่ไกล และจำกัดจำนวนตรวจ ต้องไปวัดดวงรอว่าจะได้รับการตรวจ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่ครอบครัวนี้จะไปตรวจได้ เพราะทุกคนเริ่มป่วยและมีอาการแล้ว รวมทั้งเป็นคนแก่และเด็ก สุดท้ายมีเพื่อนของลูกชายช่วยนัดจองคิวตรวจอากงและอาม่าได้ 2 คน ได้คิวตรวจที่แลบเอกชนในวันที่ 23/7/64 วันที่ 21/7/64 ลูกชายไปต้องไปนอนค้างคืนที่โรงพยาบาลจุฬา เพื่อแย่งจองคิวตรวจที่จำกัดวันละ 50 คน วันที่ 22/7/64 ลูกชายได้รับการตรวจที่ รพ.จุฬา ผลเป็นบวก ได้รับการรักษาที่ รพ.จุฬา วันที่ 22/7/64 หลานอายุ 2 ขวบ 2 คนเริ่มมีไข้ ประมาณ37.5ให้ทานยาลดไข้ และเช็ดตัว ไข้ลง วันที่ 23/7/64 เด็ก 2 คนเริ่มมีไข้สูง 38.8 และ 38.6 เช็ดตัวไข้ไม่ลง นอนซึม วันที่ 24/7/64 เด็ก 2 คนอาการดีขึ้น ไข้ประมาณ 37.5 เริ่มทานขนมได้ วันที่ 25/7/64 ลูกสาว 2 คน และหลาน 2 คนที่เป็นวัยรุ่น จองคิวตรวจได้ที่ หน่วยตรวจเชิงรุกของกทม.ที่เขตดุสิต และไปรับการตรวจแล้ว ได้รับการแจ้งว่าต้องรอผล 2 วัน จะแจ้งทาง sms ตั้งแต่วันที่ 21/7/64 ที่รู้ว่ามีคนในครอบครัวนี้ติดโควิด ครอบครัวนี้พยายามหาทางที่จะติดต่อแจ้งไปหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 1330 1668 1669 สาธารณสุข แต่ก็ถูกปฏิเสธไม่ยอมรับแจ้ง โดยอ้างว่าเป็นกฎที่จะรับแจ้งขึ้นทะเบียนเป็นผู้ติดเชื้อโควิดได้ ต้องมีผลการตรวจแบบ RT PCR เท่านั้น แม้ว่าครอบครัวนี้จะพยายามชี้แจงว่าเป็นผู้ติดเชื้อ เพราะมีคนในครอบครัวติดเชื้อและรักษาตัวในรพ.สนามแล้ว และคนที่เหลือในครอบครัวหาที่ตรวจโควิดไม่ได้ ขนาดเอาผลการตรวจของภรรยาลูกชายคนโตและบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ไม่ยอมรับแจ้ง และไล่ให้ต้องไปตรวจด้วย RT PCR มาก่อนเท่านั้น เมื่อรู้ว่าติดโควิดทั้งครอบครัว ก็ดิ้นรนหาซื้อชุดตรวจ และหาซื้อยาฟ้าทะลายโจร กระชาย ทั้งยาไทยและยาจีน ทุกตัวที่โฆษณาว่ารักษาโควิดได้ มากินกันทั้งครอบครัว น้องผมที่เป็นลูกเขยของบ้านนี้ ติดต่อขอความช่วยเหลือจากผมในคืนวันที่ 21/7 ผมได้โทรไปสอบถามอาการของคนในครอบครัวนี้พบว่า อาม่า และน้องสะใภ้ผม เริ่มมีอาการไอมากและหอบเหนื่อย พูดได้ไม่เยอะ พูดไปไอไป เชื้อน่าจะเริ่มลงปอดแล้ว ผมประเมินดูแล้วมั่นใจว่าหาเตียงในโรงพยาบาลไม่ได้แน่ๆ ครอบครัวนี้น่าจะเป็นผู้ติดเชื้อโควิดสีเหลือง และมี 2 คนที่น่าจะกำลังเป็นสีแดง โอกาสที่จะรอดของครอบครัวนี้คือ รักษาตัวที่บ้าน ผมตัดสินใจที่จะไม่เสียเวลาไปในการติดต่อหาเตียงตามโรงพยาบาลต่างๆ การหายาฟาวิพิราเวียมาให้เร็วที่สุด คือทางรอดเดียวของครอบครัวนี้ เพื่อป้องกันไวรัสลงปอด และลดการแพร่เชื้อไวรัส แม้ว่าจะติดเชื้อกันทั้งบ้านแล้ว แต่การอยู่กันอย่างแออัด 10 คนในห้องแถวเล็กๆ จะมีไวรัสออกมากับลมหายใจตลอดเวลา และทุกคนก็หายใจเอาไวรัสของคนในครอบครัวอีก 9 คนตลอดเวลา น่าจะทำให้อาการของโรคกำเริบมากขึ้นทุกคน วันที่ 22/7 ผมและน้องชายพยายามติดต่อหาซื้อยาฟาวิพิราเวีย จากเพื่อนที่อยู่โรงพยาบาลเอกชน แต่ไม่สามารถหาซื้อได้เลย ทุกโรงพยาบาลยืนยันว่าการจะจ่ายยา ต้องสั่งโดยหมอ infectious และต้องมีใบตรวจด้วย RT PCR ของแต่ละคนเท่านั้น ผมและน้องชายพยายามติดต่อหาที่ตรวจ RT PCR และ RAT แต่ก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับตรวจ ขนาดน้องชายผมเป็น FT โรงพยาบาลเอกชน บอกว่าเป็นญาติและนามสกุลเดียวกัน ก็ยังไม่รับตรวจ และไม่จ่ายยาฟาวิพิราเวียให้ ผมเลยต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆศิริราช ต้องขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจ และช่วยหายาฟาวิพิราเวีย ได้ 3 ชุด เมื่อได้ยามาแล้ว ผมให้อากง และอาม่า กับลูกสาวที่เริ่มมีอาการหายใจเหนื่อยหอบได้ทานยาก่อน เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงและเริ่มมีอาการหนักแล้ว วันที่ 23/7 หลังจากได้ยาฟาวิพิราเวียไป 2 โดส อาม่าและลูกสาวที่อาการหนักที่สุด อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คุยได้มากขึ้นไอน้อยลง และต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่ช่วยหายาฟาวิพิราเวียร์ มาให้อีก 3 ชุด และส่ง pulse oximeter มาให้ วัดออกซิเจน อาม่าและลูกสาว ได้ประมาณ 94 ส่วนคนอื่นได้ 96 ยกเว้นเด็ก 2 ขวบ 2 คน วัดได้ 93 แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะนิ้วเด็กหรือเปล่าเลยวัดได้ต่ำกว่าความเป็นจริง แต่อาการเด็กก็เริ่มมีไข้สูงและเริ่มซึมแล้ว แนะนำให้ทานยาลดไข้พาราเซต และเช็ดตัวบ่อยๆ และวางแผนว่าถ้าวันที่ 24/7 อาการแย่ลง จะแบ่งยาฟาวิพิราเวียของลูกสาวคนที่ไม่มีอาการ มาให้เด็กทั้ง 2 คน แต่โชคดีที่ เมื่อวานนี้ไข้เริ่มลด และเด็กอาการดีขึ้น วันที่ 25/7 ทุกคนในครอบครัวอาการดีขึ้นแล้ว แต่จมูกยังไม่ได้กลิ่น วัดออกซิเจน ได้ 98 ทุกคน สรุป 1. ยาฟาวิพิราเวีย จำเป็นมากสำหรับการรักษาตัวเองที่บ้าน และต้องรีบให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้อาการหนัก 2. สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาทางไกลคือ การให้กำลังใจ เพราะคนไข้จะวิตกกังวลมาก กลัวตาย กลัวไปทุกเรื่อง ผมโทรไปถามอาการและชวนพูดคุยบ่อยมาก ทุก 2-3 ชั่วโมง 3. ควรจะต้องมียาลดไข้ ยาแก้ไอ และฟ้าทะลายโจร ติดบ้านไว้ 4. ตอนนี้โควิดมันแพร่กระจายไปทั่วแล้ว แม้แต่อยู่แต่ในบ้านยังติดโควิดได้ ครอบครัวนี้อากงอาม่าและลูกสาว 2 คนอยู่แต่ในบ้าน มีแต่ลูกชายและลูกสะใภ้ที่ทำงานนอกบ้าน แต่อากงติดเชื้อเป็นคนแรกเลย ยังไม่รู้ว่าติดได้อย่างไร ยิ่งทำให้สงสัยว่าน่าจะติดจาก airborne 5. ให้ทานน้ำเยอะๆ ผมสั่งให้กินน้ำอย่างน้อยวันละ 3 ลิตร และทุกครั้งที่โทรไปจะกระตุ้นให้กินน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยเรื่อง hydration 6. ผมให้คนไข้ทุกคน วัดไข้ จับชีพจร และนับการหายใจทุก 1 ชั่วโมง บันทึกไว้ วัตถุประสงค์เพื่อให้คนไข้ได้รู้จักสังเกตุอาการตนเอง ต่อมาเมื่อมี pulse oximeter ผมก็เปลี่ยนมาให้ทุกคนบันทึก ออกซิเจนและชีพจร ของตนเอง ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อที่เราจะได้ให้คนไข้ได้รู้การเปลี่ยนแปลงของตนเอง และช่วยให้ผมที่เป็นหมอสามารถที่จะมาประเมินทบทวนอาการของคนไข้ย้อนหลังได้ 7. ในกรณีเลวร้ายสุดๆ คือยาฟาวิพิราเวียไม่ได้ผล และคนไข้เริ่มมีอาการปอดอักเสบชัดเจน ผมจะไม่พยายามไปหาออกซิเจนมาให้ เพราะรู้ว่าไม่ได้ผล มีแต่จะทำให้คนไข้ทรมานมากขึ้น เพราะคนไข้ที่ปอดอักเสบรุนแรง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็น high flow oxygen แต่ผมจะทดลองให้การรักษา ด้วยวิธีการที่ยังไม่เคยมีใครทดลองมาก่อน แต่อาจจะได้ผลสามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยได้ ซึ่งถ้าเพื่อนๆมีญาติหรือคนในครอบครัวที่เริ่มมีปอดอักเสบและไม่สามารถหาเตียงในไอซียูได้ หลังไมค์มาคุยกันนะครับ ยินดีแชร์ให้ฟังครับ แล้วเพื่อนๆให้คนไข้ตัดสินใจเองว่าจะทดลองรักษาตัวตามสูตรของผมหรือไม่ 8. ตอนนี้การติดเชื้อแพร่ระบาดเข้าไปในครัวเรือนแล้ว เมื่อพบผู้ติดเชื้อ 1 คน สมาชิกในครอบครัวจะติดเชื้อไปแล้วทุกคน ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข ต้องยกเลิกกฎที่บังคับให้ต้องมีผลตรวจ RT PCR ทุกคนถึงจะรับลงทะเบียนเข้าระบบ ควรจะใช้แค่ผลการตรวจ rapid test และกระทรวงสาธารณสุข ต้องมีหน้าทีจัดหาชุดตรวจ ATK ส่งไปให้คนในครอบครัวผู้ป่วยทุกคน เพื่อที่จะรีบตรวจและคัดกรองผู้ติดเชื้อ ไม่ใช่ผลักภาระให้ผู้ป่วยทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือคนแก่ต้องไปดิ้นรน หาที่จองคิวตรวจด้วยตัวเอง และก็เอาเชื้อไปแพร่ให้คนรอบข้าง แบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ 9. ครอบครัวนี้น่าจะเริ่มติดเชื้อวันที่ 12/7/64 จนกระทั่งวันนี้ (25/7/64) ก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงการตรวจด้วย RT PCR และไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 10. ช่วยกันเรียกร้องกดดันให้กระทรวงสาธารณสุข ยกเลิกระเบียบคำสั่งที่การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ติดเชื้อต้องมีผลการตรวจยืนยันด้วย RT PCR เท่านั้น ในสถานการณ์ปัจจุบันที่การระบาดอย่างหนัก ควรจะยืนยันด้วยผลการตรวจ ATK ก็น่าจะเพียงพอแล้ว และต้องเป็นหน้าที่ของสธ. สปสช. ที่ต้องจัดหาและจัดส่งชุดตรวจ ATK ไปให้ครอบครัวของผู้ติดเชื้อ เพื่อที่จะคัดกรองหาผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ 11. ถ้าคิดว่าโพสนี้เป็นประโยชน์ สามารถแชร์ต่อไปได้ครับ นายแพทย์สุธี ทุวิรัตน์ 25 ก.ค. 2564โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยชาลดบวมขับโซเดียม ทำได้จริงหรือไม่ ?จากโฆษณาสินค้าตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่อ้างว่า การดื่มชาช่วยลดการบวมจากการกินโซเดียม ส่งผลให้หลายคนเชื่อและหันมาซื้อชามาดื่มกันมากยาสมุนไพรลดความอ้วนSasikarn Permpol• 8 เดือนที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสงกรานต์เป็นของเขรม???เป็นประเพณีขึ้นปีใหม่ของไทย ซึ่งจะมีการเล่นสาดน้ำ แต่ทางเขมรมีการใช้คำว่า “สงกรานต์” ตามคำไทย แทนคำเดิม คือ “โจล-ชนัม-ทเม็ย” ซึ่งอันที่จริง ประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีร่วมของคนในพื้นที่อุษาคเนย์ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย แต่ถ้าถามถึงสงกรานต์ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนนักท่องเที่ยวแห่แหนเดินทางมา ก็คงไม่พ้น Songkran Festival Day ของไทยอย่างแน่นอนภาคอีสานภาคตะวันออก มีม เสียดสีstd48037• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยช้างเป็นสัตว์กัมพูชา????กัมพูชาได้นำคลิปช้างป่ากินอ้อยในประเทศไทย ไปลงเว็บไซต์ต่างชาติ ก่อนโพสต์อวดความน่ารัก ซ้ำอธิบายว่าเป็นสัตว์กัมพูชา ทั้งที่มีป้ายภาษาไทยเตือน “ระวังช้างป่าข้ามถนน” ปรากฏเด่นในคลิป.std48037• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเขรมเคลมว่าบัวขาวเป็นคนเขรมนักมวยไทยชื่อก้องโลก ก็ถูกเคลมว่าเป็นคนเขมร ก่อนที่บัวขาวจะออกมายันว่า ชาติพันธุ์ บัวขาว คือ คนไทย เชื้อสายกูย ไม่ใช่คนเขมร ตามที่เข้าใจกัน ชาวส่วย บางทีก็เรียก “กูย” พร้อมทวงค่าตัวไฟต์ล่าสุดที่ยังค้างอยู่ 2.2 ล้านบาท ที่ชกที่เขมรstd48037• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรวม 10 ข่าวปลอมโควิดที่มีคนหลงเชื่อมากที่สุดposttoday หน้าแรก รวม 10 ข่าวปลอมโควิดที่มีคนหลงเชื่อมากที่สุด รวม 10 ข่าวปลอมโควิดที่มีคนหลงเชื่อมากที่สุด 08 ธันวาคม 2564 แชร์ แม้ว่า 'ข่าวปลอม' จะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาอย่างยาวนาน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันกลับถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอย่างมาก และหลายคนเริ่มตระหนักถึงความน่ากลัวของข่าวปลอม ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดจนนำไปสู่การกระทำที่ส่งผลร้ายในภายหลัง โดยเฉพาะในช่วงที่ ไวรัสโควิด-19 เกิดการแพร่กระจายอย่างหนัก จนคร่าชีวิตคนทั่วโลกไปมากมาย ข่าวปลอม บนโลกออนไลน์เองก็เกิดการระบาดอย่างหนักเช่นกัน เราจะไปไล่เรียงกันว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา 10 ข่าวปลอมเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งนำไปสู่การเข้าใจผิดในสังคมมากมายนั้น มีข่าวอะไรกันบ้าง 1. เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช พบนักโทษติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1,300 คน เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 มีโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กระบุว่า เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชนั้นมีผู้ติดเชื้อโควิดทั้งหมดถึง 1,300 ราย โดยกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้ออกมาชี้แจงว่า รายงานดังกล่าวเป็นรายงานข้อมูลของวันที่ 24 ตุลาคม 2564 เวลา 16:00 น. ซึ่งพบผู้ติดเชื้อจากการตรวจ PCR+ATK จริง แต่เป็นจำนวน 347 ราย ไม่ใช่ 1,300 ราย ไม่ตรงตามโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กแต่อย่างใด 2. สหรัฐอเมริกาจะปล่อยเชื้อโควิดในประเทศไทย ผู้ที่ได้รับเชื้อจะมีอาการรุนแรงภายใน 2 ชม. และอยู่ได้ไม่เกิน 2-3 วัน ข้อมูลดังกล่าวถูกระบุว่า มีการแชร์ต่อกันในเฟซบุ๊กและในไลน์ จนสร้างความตื่นตระหนกให้ผู้ที่เข้าใจผิด ซึ่งทางกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำการตรวจสอบและพบว่าข้อความดังกล่าวไม่มีมูลความจริง 3. ยาฟ้าทะลายโจร สามารถกินก่อนติดเชื้อโควิด-19 ได้ แถมช่วยบำรุงรักษาตับ มีการแชร์ข้อมูลถึง ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรว่า สามารถรับประทานกันไว้ก่อนเพื่อป้องกันติดเชื้อโควิดได้โดยไม่ทำลายตับ แต่ช่วยบำรุงรักษาตับได้อีกด้วย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบและพบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นเท็จ โดยไม่พบงานวิจัยที่เชื่อมโยงในประเด็นดังกล่าวเลย ในทางกลับกัน หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน กลับจะยิ่งส่งผลรบกวนกับการทำงานของตับ ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อโควิด 2019ยาสมุนไพรพอเถอะบัง ตังผมหมด• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยบีเคิร์ฟเครื่องดื่มลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดน้ำหนัก และบำรุงผิวพรรณ แบบชงดื่มรส Strawberry ขาวใส ผอม สวย หุ่นดี ได้ง่ายๆ ช่วยลดไขมันในลำใส้ ขจัดสิ่งสกปรกตกค้างในลำไส้ ปรับสมดุลลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ ลดไขมันส่วนเกิน ป้องกันไขมันสะสมstd47803• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเลือดเป็นด่างมีโอกาสติดโควิด-19 ได้น้อยลงยังมีการแชร์ข้อมูลน้ำมะนาวผสมโซดา แต่คราวนี้ผสมน้ำส้มสายชูไปด้วยโดยอ้างว่าสูตรนี้ฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้แน่นอน เพราะจะไปทำลายไวรัสที่พบในลำคอโควิด 2019std46448• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเลือดเป็นด่างมีโอกาสติดโควิด-19 ได้น้อยลงเป็นเรื่องที่แชร์กันมากตั้งแต่ ไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดใหม่ ๆ เลยทีเดียว โดยมีการอ้างว่า คนที่กินเจ กินแต่ผักผลไม้ จะทำให้เลือดเป็นด่าง และเชื้อโควิด-19 จะไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ได้sg242728.no• 2 ปีที่แล้ว
- 7 คนสงสัยยืนตากแดด ฆ่าโควิด-19 ได้หนึ่งในหลายเรื่องเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการนำมาแชร์ซ้ำก็คือ การยืนตากแดดจะสามารถฆ่าเชื้อได้ ซึ่งทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการยืนตากแดดนั้นสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ เพราะเชื้อไวรัสตระกูลโควิด-19 นั้นสามารถทนทานต่อความร้อนได้ถึง 90 องศา ซึ่งความร้อนจากแสงแดดนั้นมีความร้อนไม่ถึงระดับนี้แน่นอน ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไวรัสชนิดนี้จะตายเมื่อโดนความร้อนที่อุณหภูมิ 56 องศาเซลเซียส เป็นเวลานานต่อเนื่อง 30 นาที ซึ่งแสงแดดก็ไม่สามารถทำให้เกิดความร้อนในระดับนี้ได้เช่นกันโควิด 2019Surayuth Chaiyo• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยต่อไปนี้ ทุกวันหยุด ขึ้นทางด่วนฟรี นาน 15 ปี จนถึงปี 2578ต่อไปนี้ ทุกวันหยุด ขึ้นทางด่วนฟรี นาน 15 ปี จนถึงปี 2578Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยอิสลาม วัคซีนฉีดวัคซีน• 4 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย.เร่งเอาผิด “อาหารเสริม” อีก 9 ตัว สวมเลข อย. โฆษณาเกินจริง บางตัวอ้างลดอ้วน เผาผลาญไขมัน เร่งระงับโฆษณา แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์ เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อซื้อมาบริโภค อาจได้รับอันตรายวันที่ 5 ก.ค. นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า อย.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก No Fat แล้วมีอาการใจสั่น ปากแห้ง หิวน้ำบ่อย จึงสงสัยว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจมีสารอันตรายและขอให้ตรวจสอบ ซึ่ง อย. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบเฟซบุ๊ก ชื่อ “ตุ้ยนุ้ยบ้านโป่ง รุ่งนภา แสงทอง” มีการโฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร No Fat โดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น สูตรเข้มข้นเห็นผลเร็วที่สุด 1 อาทิตย์ ลงไม่ต่ำกว่า 1-2 โล เร่งการเผาผลาญไขมันเก่าถึง 2 เท่า แขนขาเรียวเล็ก หน้าท้องยุบ แบนราบ ใจไม่สั่น เป็นต้น และยังไม่พบข้อมูลการขออนุญาตในชื่อผลิตภัณฑ์ “No Fat” แต่เลขสารบบอาหาร 13-1-04358-1-0032 ที่ระบุบนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์อื่นที่เคยได้รับอนุญาต แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว อย. ได้มีหนังสือสั่งระงับการโฆษณาและส่งเรื่องให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ราชบุรี ตรวจสอบสถานที่จำหน่ายพร้อมเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ส่งตรวจวิเคราะห์และดำเนินการตามกฎหมายต่อไปลดความอ้วนอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47740• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยดีอีเอส เผยสถิติ "เฟคนิวส์" ปี 65 พบบิดเบือนนโยบายรัฐมากสุดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เผยสถานการณ์ข่าวปลอมปี 2565 พบข่าวปลอมมุ่งบิดเบือนเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลและข่าวสารราชการมาแรงทั้งปี รองลงมาด้านสุขภาพและเตือนภัยพิบัติPimyada Thongjan• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโควิด-19 : ข่าวลวง 5 เรื่องของวัคซีน จากปนเปื้อนเนื้อหมูสู่เซลล์ตัวอ่อนจากการทำแท้งในขณะที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังเร่งฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ประชาชน แต่ยังคงมีข้อมูลเท็จที่สร้างความเข้าใจผิด และความลังเลใจในการฉีดวัคซีนแพร่สะพัดไปทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความพยายามหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคนี้ ทีมงานตรวจสอบความจริง (Reality Check) ของบีบีซี ได้ตรวจสอบข่าวลือ 5 ข้อที่ถูกเผยแพร่เป็นวงกว้าง และหาคำตอบมาหักล้างว่าทำไมคำกล่าวอ้างเหล่านี้จึงเป็นข้อมูลที่ผิดstd48313• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยชาไข่มุก 2 แก้ว/สัปดาห์ เสี่ยงมะเร็งอันตรายที่ซ่อนในความหวานมากเกินกว่าที่คาดคิด พญ.ชุติมา ศิริกุลชยานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และ อาจารย์ประจำวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต ถึงกับบอกว่า รสหวานทำให้สดชื่น ดื่มติดต่อกันต่อเนื่องก็จะติด แต่ภัยความหวานส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แม้จะยังไม่มีรายงานว่า คนไทยบริโภคหวานแล้วเป็นมะเร็งเหมือนเช่นเด็กหญิงชาวจีน แต่ก็พบว่า หากบริโภคหวานต่อเนื่องทุกวันในปริมาณที่เกินกำหนด อาจส่งผลต่อสุขภาพ ได้ เช่น โรคอ้วน อ้วนลงพุง โรคเบาหวาน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เซลล์ในร่างกายอักเสบ และนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งในอนาคต “ปกติในร่ายกายของคนเรา ผู้ชายต้องการพลังงานอยู่ที่ 2,000 แคลลอรี่ต่อวัน ผู้หญิง 1,800 แคลอรี่ต่อวัน หากต้องการบริโภคน้ำตาลหรือว่าของหวาน ควรบริโภคได้ไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด”มะเร็งstd48372• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอาหารเสริมเปลี่ยนหุ่นพังให้เป็นหุ่นปังภายใน7วันstd48033• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยเร่งเอาผิดอีก 9 อาหารเสริม สวมเลข อย.โฆษณาเกินจริงคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า อย.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก No Fat แล้วมีอาการใจสั่น ปากแห้ง หิวน้ำบ่อย จึงสงสัยว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจมีสารอันตรายและขอให้ตรวจสอบ ซึ่ง อย. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบเฟซบุ๊ก ชื่อ “ตุ้ยนุ้ยบ้านโป่ง รุ่งนภา แสงทอง” มีการโฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร No Fat โดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น สูตรเข้มข้นเห็นผลเร็วที่สุด 1 อาทิตย์ ลงไม่ต่ำกว่า 1-2 โล เร่งการเผาผลาญไขมันเก่าถึง 2 เท่า แขนขาเรียวเล็ก หน้าท้องยุบ แบนราบ ใจไม่สั่น เป็นต้น และยังไม่พบข้อมูลการขออนุญาตในชื่อผลิตภัณฑ์ “No Fat” แต่เลขสารบบอาหาร 13-1-04358-1-0032 ที่ระบุบนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์อื่นที่เคยได้รับอนุญาต แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว อย. ได้มีหนังสือสั่งระงับการโฆษณาและส่งเรื่องให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ราชบุรี ตรวจสอบสถานที่จำหน่ายพร้อมเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ส่งตรวจวิเคราะห์และดำเนินการตามกฎหมายจีจ้า เบญญาภา ฯ.• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาลดนน.ภายใน7วันสามารถลดนน.ได้ภายใน7วันstd47913• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเร่งเอาผิดอีก 9 อาหารเสริม สวมเลข อย.โฆษณาเกินจริงอย.เร่งเอาผิด “อาหารเสริม” อีก 9 ตัว สวมเลข อย. โฆษณาเกินจริง บางตัวอ้างลดอ้วน เผาผลาญไขมัน เร่งระงับโฆษณา แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์ เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อซื้อมาบริโภค อาจได้รับอันตราย MGR Online Thailand Web Stat MGR Online สุขภาพ หน้าหลัก ชุมชน-คุณภาพชีวิต สุขภาพ เร่งเอาผิดอีก 9 อาหารเสริม สวมเลข อย.โฆษณาเกินจริง เผยแพร่: 5 ก.ค. 2561 12:57 ปรับปรุง: 5 ก.ค. 2561 15:50 โดย: MGR Online 30,034 อย.เร่งเอาผิด “อาหารเสริม” อีก 9 ตัว สวมเลข อย. โฆษณาเกินจริง บางตัวอ้างลดอ้วน เผาผลาญไขมัน เร่งระงับโฆษณา แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์ เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อซื้อมาบริโภค อาจได้รับอันตราย วันนี้ (5 ก.ค.) นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า อย.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก No Fat แล้วมีอาการใจสั่น ปากแห้ง หิวน้ำบ่อย จึงสงสัยว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจมีสารอันตรายและขอให้ตรวจสอบ ซึ่ง อย. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบเฟซบุ๊ก ชื่อ “ตุ้ยนุ้ยบ้านโป่ง รุ่งนภา แสงทอง” มีการโฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร No Fat โดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น สูตรเข้มข้นเห็นผลเร็วที่สุด 1 อาทิตย์ ลงไม่ต่ำกว่า 1-2 โล เร่งการเผาผลาญไขมันเก่าถึง 2 เท่า แขนขาเรียวเล็ก หน้าท้องยุบ แบนราบ ใจไม่สั่น เป็นต้น และยังไม่พบข้อมูลการขออนุญาตในชื่อผลิตภัณฑ์ “No Fat” แต่เลขสารบบอาหาร 13-1-04358-1-0032 ที่ระบุบนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์อื่นที่เคยได้รับอนุญาต แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว อย. ได้มีหนังสือสั่งระงับการโฆษณาและส่งเรื่องให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ราชบุรี ตรวจสอบสถานที่จำหน่ายพร้อมเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ส่งตรวจวิเคราะห์และดำเนินการตามกฎหมายต่อไปstd46475• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยMs max to slimหุ่นเป๊ะสัดส่วนปังลดน้ำหนัก 10 กิโลใน 1 เดือนทำได้จริง ไม่จกตา ไม่มโนเปิดใจลองเลยลดความอ้วนstd46640• 2 ปีที่แล้ว
- 3 คนสงสัยเร่งเอาผิดอีก 9 อาหารเสริม สวมเลข อย.โฆษณาเกินจริงอย.เร่งเอาผิด “อาหารเสริม” อีก 9 ตัว สวมเลข อย. โฆษณาเกินจริง บางตัวอ้างลดอ้วน เผาผลาญไขมัน เร่งระงับโฆษณา แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์ เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อซื้อมาบริโภค อาจได้รับอันตรายstd48951• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลดจริง ลดไว เห็นผลภายใน7วันสูตรเข้มข้นเห็นผลเร็วที่สุด 1 อาทิตย์ ลงไม่ต่ำกว่า 1-2 โล เร่งการเผาผลาญไขมันเก่าถึง 2 เท่า แขนขาเรียวเล็ก หน้าท้องยุบ แบนราบ ใจไม่สั่นstd47985• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนัก สกัดจากธรรมชาติ ลดได้4-8กิโลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร No Fat โดยไม่ได้รับอนุญาต สูตรเข้มข้นเห็นผลเร็วที่สุด 1 อาทิตย์ ลงไม่ต่ำกว่า 1-2 โล เร่งการเผาผลาญไขมันเก่าถึง 2 เท่า แขนขาเรียวเล็ก หน้าท้องยุบ แบนราบ ใจไม่สั่นลดความอ้วนอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48146• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ