(2461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยตำแหน่งสิวสามารถบอกโรคได้สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งของการเกิดสิวในที่ต่าง ๆ ของใบหน้าหรือร่างกายกับความผิดปกติหรือโรคในระบบอื่น ๆ นั้น ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยยืนยันหรือสนับสนุนความผิดปกติในเรื่องดังกล่าว โดยสิวเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของรูขุมขนและต่อมเหงื่อ (Pilosebaceous unit) เกิดได้ในทุกช่วงอายุ แต่มักจะเกิดมากที่สุดในช่วงวัยรุ่น กลไกการเกิดสิวเกี่ยวข้องกับการอุดตันของรูขุมขน การผลิต sebum หรือไขมันจากต่อมไขมันที่มากผิดปกติ เชื้อก่อโรค Cutibacterium acnes ที่ผิวหนัง และขบวนการอักเสบของร่างกาย โดยมีปัจจัยทางด้านกรรมพันธุ์ ฮอร์โมนโดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจน (androgen) ปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันของร่างกาย กรดไขมันจำเป็นที่ผิวหนังบางชนิด เป็นตัวส่งเสริมในการเกิดโรค สิวอาจสัมพันธ์กับโรคที่มีความผิดปกติของการผลิตฮอร์โมนเพศซึ่งจะสงสัยมากขึ้นในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยโดยเฉพาะผู้หญิงที่มีสิวรุนแรง มีสิวเห่อช่วงใกล้หรือช่วงที่มีประจำเดือน ร่วมกับมีหน้ามันมาก ขนดก ผมบางจากฮอร์โมน เสียงแหบเหมือนผู้ชาย เป็นต้น บางคนอาจพบมีความผิดปกติของประจำเดือนร่วมด้วยได้ ซึ่งกรณีที่มีความผิดปกติที่สงสัยจะต้องมีการตรวจเพิ่มเติมทางห้องปฏิบัติการต่อไปstd47789• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหลอกกันอีกแล้ว ! รู้ทันข่าวลวงก่อนแชร์ในโลกโซเชียลเคยสงสัยไหมว่า เว็บไซต์หรือแอคเคาท์บนโซเชียลถึงชอบสร้างข่าวลวง คำตอบง่าย ๆ นั่นก็คือ อยากได้ “ทราฟฟิค” ที่หมายถึงยอดผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือจำนวนผู้ติดตามนั่นเอง เพราะทราฟฟิคสามารถแปรเปลี่ยนเป็น “ต้นทุน” ในการหาสปอนเซอร์มากมาย ที่เดี๋ยวนี้การโปรโมทแบรนด์หรือข่าวสารต่าง ๆ บนโลกออนไลน์มีมูลค่าไม่แพ้สื่อสิ่งพิมพ์หรือทางโทรทัศน์เลย แล้วยังมีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นทุกวัน เพราะโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มด้วย ผู้คนต่างมีอีกชีวิตหนึ่งบนโลกโซเชียล การซื้อขายหรือการเนียน ๆ ประชาสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ เว็บไซต์หลอกลวงเหล่านี้มักนำเสนอด้วยหัวข้อ ภาพประกอบstd48100• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยบุกจับครีมเขมรฝาเเดงครีมเขมรฝาเเดง ในโลกโซเชียล ได้มีคนพูดกันว่า ขาวขึ้นใน7วัน สิวหายเกลี้ยง ทำให้คนหลงเชื่อกันมากความสวยความงามCoyi• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยBLACKPINK อาจได้รับข้อเสนอเงินมหาศาลเพื่อต่อสัญญากับ YGวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์ NH Investment & Securities คาดการณ์เอาไว้ในรายงานวิเคราะห์ของบริษัทว่า BLACKPINK อาจต่อสัญญากับ YG อีกครั้ง แต่สำนักข่าว Munhwa Ilbo รายงานเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ว่า คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ YG จะทำให้สาวๆ BLACKPINK ต่อสัญญากับค่ายได้ เพราะสมาชิกแต่ละคนก็ได้รับข้อเสนอและจำนวนเงินมากมายจากค่ายเพลงอื่นๆ ที่ติดต่อเข้ามาเช่นกันstd48391• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณา ‘สเปรย์พ่นคอ’ อ้างป้องกันเชื้อโควิด19สภาองค์กรของผู้บริโภค เตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณา ‘สเปรย์พ่นคอ’ อ้างป้องกันเชื้อโควิด19 ด้าน อย. ระบุแล้วเป็นโฆษณาเกินจริง มีข้อความไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค จากการที่สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) เตือน อย่าหลงเชื่อโฆษณา ‘สเปรย์ฟ้าทะลายโจรสำหรับพ่นปากและลำคอ’ อ้างสรรพคุณป้องกันโควิด-19 จึงแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการโฆษณาสเปรย์สำหรับพ่นลำคอข้างต้นว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48951• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยโควิด-19 : ทฤษฎีสมคบคิดและข้อมูลเท็จที่ทำให้คนยุโรปต่อต้านมาตรการโควิดในช่วงไม่นานมานี้ มีผู้คนออกมาประท้วงในหลายประเทศในยุโรปจนเกิดการปะทะรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากพวกเขาไม่พอใจที่ทางการกลับมาบังคับใช้มาตรการรับมือโควิด-19 อย่างเข้มงวดอีกครั้ง การประท้วงทั้งบนท้องถนนและในโลกโซเชียลมีเดีย มีการตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของทางการในการตัดสินใจดำเนินมาตรการดังกล่าว แต่ขณะเดียวกันก็มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยคนที่ออกไปร่วมการประท้วงด้วย อาทิ การกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย ตั้งแต่ การฉีดวัคซีนคือแผนการวางยาพิษต่อประชากร ไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลราวกับว่า "เผด็จการในการปราบปรามการประท้วง" เป็นต้นstd48075• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสเปรย์พ่คอป้องกันโควิดสภาองค์กรของผู้บริโภค เตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณา ‘สเปรย์พ่นคอ’ อ้างป้องกันเชื้อโควิด19 ด้าน อย. ระบุแล้วเป็นโฆษณาเกินจริง มีข้อความไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคstd48009• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยยาผีบอกรักษาทุกโรคยาผีบอก คือ ผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณที่โฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินกว่าความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นแก้ปวดเมื่อย รักษามะเร็ง โรคเก๊า ภูมิแพ้ รูมาตอยด์ ขับสารพิษ โดยจะมีลักษณะเป็นผงสีน้ำตาลอยู่ในบรรจุภัณฑ์สีใส อยู่ในหมวดหมู่ยาควบคุมพิเศษ ภายใต้การดูแลของแพทย์ ก่อนจะใช้ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพราะมีผลข้างเคียงสูง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว แม้ว่าในช่วงแรกที่ใช้นั้นมันจะบรรเทาอาการความเจ็บป่วยได้ก็ตามstd47611• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปลอมเป็นชาย/หญิงออกอุบายหลอกลวงตีสนิทแล้วหลอกลวงstd47712• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินฟ้าทะลายโจรหายจากโควิดจริงหรอยาฟ้าทะลายโจรมีสาร(Andrographolide) มีส่วนช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อโควิด-19 ในผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงจึงสามารถใช้รักษาในอาการเบื้องต้นได้เท่านั้น การทานยาฟ้าทะลายโจรไม่สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้โควิด 2019ยาสมุนไพรstd47912• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอาหารเสริมคอลลาเจนชงดื่ม ที่เน้นเรื่องการเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้น เนียนลื่น และขาวใสให้กับผิวความสวยความงามvaranya282551• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยสเปรย์พ่นคอจากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทั้งหมด พบว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนเป็นเครื่องสำอาง และได้รับอนุญาตจาก อย. แต่กลับมีการโฆษณาที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคหรืออาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม เช่น การอ้างสรรพคุณว่าสามารถป้องกันเชื้อโควิด – 19 สามารถป้องกันเชื้อ ต้านเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ สามารถดักจับเชื้อไวรัสก่อนลงปอด เป็นต้น ซึ่ง อย. ได้ส่งเรื่องให้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และดำเนินการตามกฎหมายกับโฆษณาที่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายstd48101• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสารพันเรื่องราวน่าพิศวงของ “เอเลียน” และความคืบหน้าของการค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวในปี 2021ข่าวคราวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับปรากฏการณ์ประหลาดอย่างจานบินหรือยูเอฟโอ, สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากนอกโลก, หรือแม้แต่จุลชีพตัวจิ๋วที่อาจอยู่ในมหาสมุทรหรือชั้นบรรยากาศของต่างดาว ล้วนเป็นเรื่องราวที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจติดตามกันมาโดยตลอด แต่ในปี 2021 ข่าวคราวเกี่ยวกับการค้นหาความจริงในเรื่องเหล่านี้ออกจะน่าผิดหวังอยู่ไม่น้อยstd46363• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยยันลูกเครียดทรงผม ม.3 โดดเสาฆ่าตัวตาย ถูกครูบังคับตัดสั้น แถมขู่ซ้ำให้ย้าย ร.ร.8 มิ.ย. 2566 05:19 น. ข่าว ทั่วไทย ใต้ ไทยรัฐฉบับพิมพ์ ยันลูกเครียดทรงผม ม.3 โดดเสาฆ่าตัวตาย ถูกครูบังคับตัดสั้น แถมขู่ซ้ำให้ย้าย ร.ร. ... นักเรียนชายชั้น ม.3 เครียดปีนเสา สัญญาณโทรศัพท์ดิ่งพื้นดับอนาถ หลังครูสั่งให้ตัดผมถึง 3 ครั้ง จนเครียดฆ่าตัว ตาย ส่วน ผอ.โรงเรียนแจง ระเบียบของโรงเรียนกำหนดให้ผู้ปกครอง ตัวแทนนักเรียน และสภานักเรียนทำ ข้อตกลงร่วมกัน ทรงผมจะสั้น หรือยาวก็ได้แต่ต้องไม่ทำสีผม เชื่อนักเรียนเครียดเรื่องส่วนตัว ขณะที่พ่อเด็กย้ำลูกเครียดเรื่องทรงผม ถูกครูขู่หากไม่เปลี่ยน ทรงผมต้องย้ายโรงเรียน แต่ไม่ติดใจเอาความกับครู ยันลูกเครียดทรงผม ม.3 โดดเสาฆ่าตัวตาย ถูกครูบังคับตัดสั้น แถมขู่ซ้ำให้ย้าย ร.ร. เหตุนักเรียนกระโดดเสาสัญญาณโทรศัพท์ฆ่าตัวตายรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. ร.ต.ท.ทวีวิทย์ แก้วโรย รอง สว. (สอบสวน) สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุนักเรียนชายปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์กระโดดลงมาฆ่าตัวตายที่บริเวณในปั๊มน้ำมันไม่มีชื่อภายในซอยถนนยุทธศาสตร์ ต.ปากแพรก ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน ผกก.สภ.ทุ่งสง ตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลทุ่งสง และอาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจ ... ที่เกิดเหตุภายในปั๊มน้ำมันข้างร้านคาร์แคร์พบศพ ด.ช.รักษ์ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียน ชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สภาพนอนหงายในชุดพละของโรงเรียน แขนขาและคอหัก ใกล้กันมีเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หลังคากระเบื้องแตกทะลุกระจายเกลื่อนพื้น แพทย์ชันสูตรพบเสียชีวิตมาแล้ว 6-8 ชม. สอบสวนพนักงานปั๊มน้ำมันทราบว่า นอนอยู่ห้องพักติดกับปั๊มน้ำมันได้ยินเสียง ดังโครมสนั่นช่วงเวลา 22.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. แต่เข้าใจว่าเป็นเสียงรถชนกันไม่ได้ออกมาดู กระทั่งรุ่งเช้ามาทำงานเห็นเด็กผู้ชายนอนเสียชีวิตใกล้กับเสาสัญญาณโทรศัพท์ คาดผู้ตายปีนเสากระโดดฆ่าตัวตายeat47943• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใส่หน้ากากนานเลือดเป็นกรดจริงหรือไม่หลังจากมีข่าวออกมาว่าทั่วโลกโซเชียลว่า ใส่หน้ากากนาน ๆ จะทำให้ภาวะเลือดเป็นกรด เนื่องจากการใส่หน้ากากอนามัยจะทำให้เราหายใจเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่หายใจออกมากลับเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนJidapha Petlim• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยคนอายุน้อย คนผอม ระดับไขมันในเลือดปกติจะไม่มีโอกาสเป็นโรคหัวใจในคนอายุน้อยและระดับไขมันเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีโอกาสเกิดโรคน้อยกว่า และ ไม่ทีโอกาสเป็นโรคหัวใจstd48449• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://www.greenpeace.org/thailand/story/19662/plastic-3-everyday-foods-that-contain-microplastics/ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำมะพร้าวการดื่มน้ำมะพร้าวช่วยให้ผิวขาวขึ้นจริงไหม?ความสวยความงามPeupeu.• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://twitter.com/leahmcelrath/status/1427127075627053058?s=21ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอากาศร้อน ทำให้โควิดลดลงเนื่องจากเราเคยได้ยินกันมานักต่อนักแล้วว่า “ความร้อนสามารถฆ่าเชื้อโรคได้” ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารปรุงสุกร้อน ๆ การเอาช้อนส้อมจุ่มน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ ก็ล้วนแล้วแต่แสดงให้เราเห็นว่าความร้อนมีบทบาทมากแค่ไหนในการฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ตามวัตถุต่าง ๆ แล้วถ้าหากกล่าวถึงเชื้อไวรัสหรือโรคร้ายล่ะ ความร้อนเหล่านี้จะสามารถกำจัดมันได้ไหม หรือที่หลาย ๆ คนอาจสงสัยกันว่า “ฤดูร้อนจะทำให้ไวรัส COVID-19 หายไปได้หรือไม่” คำตอบที่ท่านสงสัยอยู่ในบทความนี้แล้ว ฤดูร้อนทำให้ COVID-19 ลดลง จากข้อมูลของ WHO ได้ไขข้อข้องใจเอาไว้ว่าโดยปกติแล้วเชื้อโรคไวรัสตัวอื่น ยกตัวอย่างเช่นไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีอัตราการแพร่ระบาดลดน้อยลงจริงเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน แต่หากนำไปเทียบกับ COVID-19 นั้นอาจมีส่วนช่วยในการลดอัตราการแพร่ระบาดได้ส่วนหนึ่ง เนื่องจากความชื้นในอากาศจะช่วยลดการลอยตัวฟุ้งกระจายของเชื้อโรคให้ตกลงสู่พื้นได้เร็วกว่าอากาศเย็น เป็นผลให้การแพร่เชื้อในอากาศลดลงนั่นเองโควิด 2019piradaparker• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนิยายเรื่องเงินดิจิทัลฉบับลูกทุ่ง ตอนที่1... เนื่องจากในขณะนี้มีการพูดถึงการที่รัฐบาลจะจ่ายเงินดิจิทัลให้กับประชาชนทุกคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนเงิน เทียบเท่าเงินบาทที่เป็นกระดาษที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ 10,000 บาทต่อคน กันอย่างกว้างขวาง ทำให้ชาวบ้านทั่วๆไปงุนงง ฟังคนโน้นพูดที คนนี้พูดที บางคนว่าดี บางคนว่าไม่ดี สับสนไปหมด ผมเลยอยากจะเอาเรื่องนี้มาพูดอธิบายใหม่เพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ เอาแบบลูกทุ่งที่ไม่ใช่แบบนักวิชาการ หรือนักการเมืองพูด เริ่มแรก โปรดเข้าใจก่อนว่า รัฐบาลไม่ได้เอาเงินกระดาษใบแดงๆมาแจกให้ หรือไม่ได้เอาเงินไปเข้าธนาคารให้เราแต่อย่างใด แต่รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่แทนธนาคารทั้งๆที่ไม่ใช้ธนาคาร เอาเงินดิจิทัลที่ตีมูลค่าว่าเท่ากับ 10,000 บาทมาจ่ายให้เราแทน ไอ้เงินดิจิทัลนี้พรรคเพื่อไทยก็สร้างขึ้นมาลอยๆโดยไม่มีอะไรมาค้ำเป็นหลักประกันมูลค่า เหมือนพิมพ์แบ็งค์กงเต็ก หรือคูปองออกมาแจก ถ้าให้เข้าใจง่ายๆ ให้นึกย้อนไปถึงยุคดึกดำบรรพ์ สมัยที่คนเรายังไม่มีเงินตราใช้ แต่เอาเปลือกหอยมาตีเป็นมูลค่า ไปใช้แรกสินค้าชนิดต่างๆ มายุคนี้พรรคเพื่อไทยก็ให้คอมพิวเตอร์มันมาสร้างเหรียญ (แทนที่จะเป็นเปลือกหอยแล้วตีมูลค่าว่าหนึ่งเหรียญมีคาเท่ากับหนึ่งบาท) ที่จับต้องไม่ได้ เก็บอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ลงทะเบียนไว้ว่าเหรียญดิจิทัลเลขที่เท่าไรถึงเลขที่เท่าไรเป็นของนายแดง เลขที่เท่าไรถึงเลขที่เท่าไรเป็นของนายดำ เลขที่ไหนบ้างเป็นของนายเขียว ฯลฯ .....ทำบัญชีแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบ 56 ล้านคน ทุกอย่างควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น ไม่มีใครเห็นอะไร ไม่มีใครจับต้องอะไรได้ เพราะมันเป็นประจุไฟฟ้าที่เก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์ เหมือนกับเวลาที่คุณถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือ คุณจับต้องรูปไม่ได้ แต่รู้ว่ามันมีอยู่และเปิดดูได้จากโทรศัพท์ ฉันใดก็ฉันนั้น ก่อนที่จะไปในรายละเอียดอื่นๆ ผมอยากจะขอเล่าประวัติความเป็นมาของเงินดิจิตทัลก่อน เมื่อเข้าใจที่มาที่ไปของเงินดิจิทัลนี้แล้วคุณจะมองเห็นภาพทั้งหมดชัดเจนยิ่งขึ้น เรื่องให้คอมพิวเตอร์สร้างเงินดิจิทัลขึ้นมานี้ พรรคเพื่อไทยหรือคนในพรรคเพื่อไทย หรือท่านนายกเศรษฐาไม่ได้เป็นคนคิดขึ้นมาคนแรกของโลก แต่เรื่องนี้มีคนญี่ปุ่นชื่อนายนากาโมโต้เป็นผู้คิดค้นขึ้นมาเป็นคนแรกของโลกเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นนายคนนี้เรียกมันว่า เหรียญคริปโต หรือคริปโตเคอร์เร็นซี่ และตั้งชื่อให้เหรียญชนิดนี้ของตนว่า “บิทคอยล์” พรรคเพื่อไทยก็ยืมไอเดียนี้มาใช้บ้าง ทีนี้มาดูกันว่าเรามีเงินที่พิมพ์บนกระดาษเป็นร้อยๆสกุลเงิน ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ โดยใช้กันมาหลายร้อยปีแล้ว ทำไมจะต้องคิดเงินดิจิทัลออกมาอีก? อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้คิด ประเด็นมันก็คือ เงินที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้มันไม่ตอบโจทย์ของมนุษย์บางกลุ่ม คนบางจำพวก กล่าวคือ ปัญหาข้อที่ 1 เงินที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ เวลาเราจะส่งไปให้คนอื่น เราต้องส่งผ่านธนาคาร มีธนาคารเป็นตัวกลาง เพราะเราต้องเปิดบัญชีไว้กับธนาคารเอาเงินแดงๆฝากเข้าบัญชีไว้ ตอนเราจะส่งไปให้คนอื่น เราต้องแจ้งธนาคารที่เรามีบัญชีอยู่ว่า เราจะส่งเงินจากบัญชีของเราไปให้ใคร ชื่ออะไร มีบัญชีอยู่กับธนาคารไหน เลขที่บัญชีอะไร จำนวนเงินเท่าไร การแจ้งนั้นก็ทำได้หลายวิธี จะเดินไปที่ธนาคารที่เราเปิดบัญชีไว้ หรือจะแจ้งทางโทรศัพท์มือถือก็ได้ ถ้าส่งกันภายในประเทศก็จบแค่นี้ ไม่มีค่าโอน ไม่มีการซักถามอะไรอีก แต่ที่สำคัญมากๆคือ การทำธุรกรรมนี้ถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของธนาคารไปอีกหลายปี ดังนั้นกำนันนกคนดังแห่งนครปฐมจะโอนไปให้ใครที่ไหน ไม่ว่าพลเรือน ตำรวจ ทหาร ฯลฯ กี่ครั้ง กี่หน เป็นจำนวนรวมทั้งหมดเท่าไร สามารถเช็คเส้นทางการเงินได้หมด (แต่ท่านบิ๊กโจ๊กชอบพูดสั้นๆเวลาให้สัมภาษณ์ว่า “เส้นเงิน” นั่นแหละ) ดังนั้นมนุษย์มาเฟีย นักการเมืองที่ฉ้อโกงทั่วโลกไม่ชอบการโอนเงินแบบนี้ เพราะมันจะนำมาเป็นหลักฐานมัดตัวได้ ปัญหาข้อที่ 2 หากเราโอนไปให้ผู้รับที่อยู่ต่างประเทศ แบ็งค์ชาติก็มีกฎเกณฑ์แถมเข้ามาอีก ว่าจำนวนเงินโอนที่จะโอนไปแต่ละครั้ง ต้องไม่เกินเท่าไร ถ้าเกินต้องขออนุญาตก่อน ต้องบอกว่าโอนไปทำไม ถ้าโอนไปเป็นค่าซื้อขายสินค้า ก็ต้องมีเอกสารต่างๆประกอบอีกเป็นบึกๆ นอกจากนั้นธนาคารยังคิดค่าโอนอีกเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่โอนไป เสียส่วนต่างในอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับสกุลเงินต่างประเทศอีกด้วย สรุปแล้วไม่ถูกจริตกับพวกค้าขายผิดกฎหมาย มาเฟีย นักการเมืองที่ฉ้อโกง พวกที่ต้องการฟอกเงิน ฯลฯ นี่แหละที่เป็นสาเหตุจูงใจ หรือแรงผลักดันให้นาย Nakamoto มานั่งคิดหาวิธีการว่าประชาชนชาวมาเฟียจะโอนเงินให้กันด้วยวิธีไหน จึงไม่ต้องผ่านธนาคารที่เป็นตัวกลาง ไม่ต้องเสียเงินให้ธนาคาร และที่สำคัญที่สุดไม่มีใครรู้ใครเห็น ไม่มีหลักฐาน ในที่สุดแล้วเมื่อสิบกว่าปีก่อนนายคนนี้ก็คิดสำเร็จ ออกเหรียญดิจิทัลของตัวเองออกมาชื่อเหรียญ “บิตคอยล์ (Bitcoin)” โดยระบุว่าจะแจกเหรียญนี้ให้กับประชาชนฟรีๆ โดยจะออกมาทั้งหมดแค่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น (เมืองไทยก็กำหนดว่าจะแจกแค่ ห้าแสนหกหมื่นล้านเหรียญเท่านั้น – ประเด็นนี้สำคัญนะครับจำไว้ให้ดี) ใครอยากได้เหรียญให้เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาดึงเอาเหรียญไป ---- ศัพท์ที่นักล่าเหรียญเค้าใช้คือ “การขุดหาเหรียญ” ผมจะไม่อธิบายในทางเทคนิคว่าทั้งหมดมันมีการทำงานอย่างไร เดี๋ยวเอกสารนี้จะกลายเป็นวิทยานิพนธ์ไป ประชาชนกินข้าวแกงอย่างเรารู้แค่นี้ก็พอ พอมีคนขุดเหรียญได้ คอมพิวเตอร์ควบคุมกลางของนายนากาโมโต้มันก็ลงบัญชีไว้ทันทีว่าเหรียญหมายเลขอะไรบ้างไปอยู่ที่คนไหน แต่มันไม่บอกให้ใครรู้ ใครจะมาบีบบังคับยังไงก็ไม่ได้ และพื่อให้ตัวเองปลอดภัยจากพวกมาเฟียที่จะมาจับตัวเอาไปรีด บีบบังคับ เอาความลับพวกนี้ไป นายนากาโมโต้ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ และปรากฏต่อมาชื่อที่ใช้ก็เป็นชื่อปลอม ในตอนนั้นก็มีแนวร่วมของนายคนนี้ออกมารณรงค์ให้คนออกมาใช้เหรียญนี้ในการซื้อขายจิรง โดยให้กำหนดมูลค่าของเหรียญกันเองตามความพอใจ มีประวัติระบุว่าการใช้เหรียญบิตคอยล์ในการซื้อขายครั้งแรกนั้น ทำกันแบบสนุกๆในอเมริกา โดยมีร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งขายพิซซ่าไปสองถาดแลกกับบิตคอยล์จำนวน 10,000 เหรียญ พอเหรียญนี้ตกไปอยู่ในมือของร้านขายพิซซ่า เจ้าคอมพิวเตอร์ก็ลงบัญชีต่อท้ายจากเจ้าของเดิมว่าเหรียญนี้ไปเป็นของร้านพิซซ่าแล้ว ทุกครั้งที่เหรียญเปลี่ยนเจ้าของ คอมพิวเตอร์ก็จะลงรหัสของเจ้าของใหม่ต่อท้ายไปเรื่อยๆยาวเป็นบัญชีเป็นหางว่าว เทคนิคนี้เรียกว่าบล็อกเชน เห็นไม๊ครับว่าการเปลี่ยนมือของเหรียญนั้นไม่มีธนาคารใดๆมาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครรู้ใครเห็นเก็บข้อมูลไม่ได้ นอกจากคอมพิวเตอร์ของนายนากาโมโต้ ที่มุดหายลงใต้ดินไปแล้ว มันก็เลยเป็นความลับที่บิ๊กโจ๊ก ปิ๊กต่อ ก็สืบไม่เจอ ครั้นพอเรื่องนี้รู้ไปถึงหูกลุ่มมาเฟีย พวกนี้ก็มองเห็นสวรรค์ของการฟอกเงินขึ้นมาทันใด อยากลองบ้าง ก็เลยมีการเปิดเว็บไซต์รับแลกเหรียญบิตคอยล์กับเงินแดงๆขึ้น ไม่ต้องไปเสียเวลาชุดหาเหรียญ โดยไม่ต้องเอาเหรียญนี้ไปซื้อสินค้าใดๆให้เสียเวลา ยิ่งความต้องการมีมากขึ้นเท่าไร คนก็ยิ่งให้ราคาที่ต้องการซื้อสูงขึ้นไป เหรียญก็มีจำนวนจำกัด คนก็แห่กันเข้าไปขุดมากขึ้น กว่าจะขุดได้ก็ใช้เวลาเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น......ตั้งแต่วันที่มีการใช้เหรียญบิตคอยล์ 10,000 เหรียญไปแลกซื้อพิซซ่าได้สองถาด จนถึงวันที่บิตคอยล์มีราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบิตคอยล์ ซึ่งอยู่ที่มากกว่า US$ 30,000. นั้นใช้เวลาไม่กี่ปี !!!!! จากนั้นคนก็แห่เข้ามาสร้างเงินดิจิทัลแบบเดียวกันอีกมากมายทั่วโลก ตั้งชื่อเหรียญไปต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยก็มีผู้ออกเหรียญต่างๆมาหลายชื่อ จนกระทั่งรัฐบาลแทบทุกประเทศทั่วโลกตกใจกลัวว่าหากไม่มีการหยุดยั้งการใช้เงินดิจิทัลนี้ การเงินของโลกคงจะเข้าขั้นวิกฤตเป็นแน่ ก็พากันมาออกกฎระเบียบต่างๆในการควบคุมการออกเหรียญดิจิทัล ไม่ปล่อยให้ออกกันแบบเสรีและมีกฎอื่นๆตามมาอีกเยอะ เช่นไม่อนุญาตให้ใช้จ่ายในการชำระหนี้แทนเงินแดงๆเป็นต้น ทำให้เหรียญที่ออกมาใหม่ๆในระยะหลังๆนี้ ไม่มีผู้สนใจ และมูลค่าไม่สูงมากเหมือนรุ่นแรกๆ เหรียญที่ออกโดยคนไทยก็แห้วแขวนดอยรอวันตายกันไป เอาละครับผมเล่าประวัติความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการสร้างเงินดิจิทัลขึ้นมาในโลกนี้ของนายนากาโมโต้ในการแก้ปัญหาที่ต้องโอนเงินผ่านธนาคารมาให้ท่านฟังแล้ว แรงบันดาลใจออกจะสีเทาๆชอบกลนะ ท่านพอมองเห็นอะไรในการเอาเงินดิจิทัลที่ออกโดยพรรคเพื่อไทยในนามของรัฐบาล มาให้คนไทยใช้ในการซื้อสินค้าแทนที่จะแจกเงินแดงๆแบบที่มีอยู่ในกระเป๋าทุกวันนี้ โดยการอ้างเหตุผลนานาประการ ผมคงจะขอจบตอนที่1 ไว้แค่นี้ก่อน ให้ท่านได้นอนคิดไปสักสองสามวัน ว่าท่านเห็นอะไร ...........................ในระหว่างที่ผมเขียนตอนที่ 2 เมื่อผมเขียนตอนที่สองเสร็จก็จะส่งมาให้ท่านอ่านต่อไป ...ขอกระซิบบอกให้ท่านทราบเบาๆว่า ในตอนหน้าผมจะบอกเคล็ดลับที่รัฐบาลไม่บอก ในการที่ท่านจะทำเงินได้มหาศาลจากเงินดิจิทัลของไทยได้อย่างไร เป็นเพียงเกาะกระแสร์ไว้ให้ดี อย่าพลาดนะครับ อ่านดีๆมีสิทธิรวยจ้า..... เขียนโดย ณรงค์ กุลาข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม ..ผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมเมื่อเร็วๆ นี้มีผู้ส่งข้อมูลให้ cofact.org ตรวจสอบ ว่าผักกระสังดีจริงหรือไม่ โดยโคแฟคชี้แจงข้อมูลว่าผักกระสังเป็นสมุนไพรที่มีประวัติการใช้เป็นยามายาวนาน หมอยาพื้นบ้านมักจะใช้ผักกระสังตำพอกฝี หรือคั้นเอาน้ำทาแผลฝีที่มีหนอง สาวๆ สมัยโบราณใช้น้ำต้มผักกระสังล้างหน้า ทำให้ผิวหน้าสดใส และยังนำมาสระผมทำให้ผมนุ่ม ป้องกันผมร่วง จากการศึกษาสมัยใหม่พบว่า ผักกระสังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรียหลายชนิด ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยกำจัดเนื้อตายทำให้ฝีแตกได้ง่าย และสิวยุบเร็วขึ้น แต่ผู้ที่แพ้พืชที่มีกลิ่นฉุนประเภท Mustard (พืชที่เป็นเครื่องเทศทั้งหลาย) ไม่ควรรับประทาน นั่นเป็นสรรพคุณที่พอเชื่อถือได้จากหลักฐานทางวิชาการ ซึ่งทางโคแฟคเองไม่ยืนยันว่าผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมได้ ดังนั้น การแอบอ้างสรรพคุณของผักกระสังว่าช่วยรักษามะเร็งเต้านม ด้วยการใช้ผักกระสัง นำมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปแปะ หรือทาที่ใต้ราวนม จะช่วย รักษามะเร็งเต้านมได้นั้นจึงเป็น้อมูลเท็จ ข้อมูลเรื่องผักกระสังเคยมีการเผยแพร่กันมาก่อนแล้ว เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2562 มีเว็บไซต์หนึ่งระบุประโยชน์และคุณค่าของผักกระสังแบบเกินจริงไว้ว่า ผักกระสัง ที่ขึ้นอยู่ตามข้างทางบางท่านอาจคิดว่าเป็นแค่วัชพืช ไม่มีประโยชน์หรือคุณค่าอะไร แต่รู้หรือไม่ ว่าผักกระสังนั้นมีสรรพคุณในการรักษาโรคได้หลากหลาย สามารถรักษาโรคอะไรได้บ้าง รักษา “โรคลักปิดลักเปิด” ในตำรายาไทยระบุไว้ว่าใบของผักกะสังใช้ในการรักษาโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งพอจะอธิบายได้ว่า ในผักกะสังมีวิตามินซีและสารอาหารสูง ซึ่งการรักษานั้นใช้ทั้งการกินและการบดต้นแปะบริเวณที่เลือดออกตามไรฟัน รักษา “เริม ฝี มะเร็งเต้านม” หมอยาพื้นบ้านของไทยใช้ผักกะสังเป็นยาไม่มากนักส่วนใหญ่ใช้พอกฝีและสิวโดยใช้ต้นสดตำพอกฝี หรือใช้น้ำคั้นทาสิว ในต่างประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ใช้ทั้งต้นสดบดประคบฝี หรือตุ่มหนอง และโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่นกัน ซึ่งจากการศึกษาสมัยใหม่พบว่าผักกระสังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรียหลายชนิด ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ซึ่งจะช่วยกำจัดเนื้อตายทำให้ฝีแตกได้ง่าย และสิวยุบเร็วขึ้น “ผักกะสังรักษาเริมและมะเร็งเต้านม” ความรู้นี้ไม่ค่อยแพร่หลายนักแต่แมะ (มือลอ มะแซ) ที่บ้านกำปงบือแน ตำบลจะกว๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลาบอกว่า ผักกะสังเป็นยารักษาเริม มะเร็งเต้านม และฝี ในการรักษาเริมนั้นจะนำต้นผักกะสังผสมกับขมิ้นและข้าวสาร (ฮูยงงูกุมาตอกูยิ) ตำให้ละเอียดแล้วพอกทิ้งไว้ 1 คืน และนำใบมาตำขยำแปะทาเม็ดที่เป็นใต้ราวนม แก้มะเร็งเต้านม ข้อมูลที่ว่าผักกะสังใช้รักษามะเร็งนี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยและเป็นที่น่าทึ่งตรงที่ว่ามีรายงานการศึกษาพบว่า สารในผักกะสังมีฤทธิ์ต้านมะเร็งด้วย นอกเหนือไปจากการแก้อักเสบและแก้ปวด “แก้อักเสบ ข้ออักเสบ เก๊าท์” หมอยาพื้นบ้านบางคนบอกว่ากินผักกะสังแก้ปวดข้อ ซึ่งในประเทศฟิลิปปินส์มีการกินผักกะสังสดๆ หรือนำมาต้มกิน เพื่อรักษาโรคเก๊าท์และข้ออักเสบ โดยนำผักกะสังต้นยาวสัก 20 เซนติเมตร ต้มกับน้ำ 2 แก้ว ให้เหลือประมาณ 1 แก้ว แบ่งรับประทานครั้งละ ครึ่งแก้ว เช้า-เย็น ปัจจุบันผักกะสังเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งที่ฟิลิปปินส์กำลังศึกษาวิจัยเพื่อใช้เป็นยารักษาโรคข้ออักเสบรวมทั้งโรคเก๊าท์จากการที่ผักกระสังสามารถลดปริมาณกรดยูริคในกระแสเลือด ประเด็นนี้อยู่ที่มีการแชร์และเชื่อกันมากว่า ผักกระสังสามารถรักษามะเร็งเต้านม ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเคยเปิดเผยกับ hfocus.org แล้วว่าพืชสมุนไพรต่างๆที่อ้างว่ารักษามะเร็งนั้น เป็นเพียงการทดลองในห้องปฏิบัติการ ยังไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือทางวิชาการว่าสมุนไพรชนิดใดสามารถรักษามะเร็งได้ อีกทั้งการรักษามะเร็งมีความละเอียดอ่อน นอกจากจะทราบว่าเป็นที่อวัยวะใดแล้ว ต้องเข้าสู่การประเมินระยะว่าอยู่ในระยะใดเพื่อทำการรักษาด้วย ข่าว ข่าวปลอม ผักกระสัง รักษามะเร็งเต้านม cofact 4350 views เรื่องที่เกี่ยวข้อง ข่าว สปสช. เตือน! ปชช.อย่าหลงเชื่อ SMS "หลอกให้อัปเดทข้อมูลบัตรทอง" เฟคนิวส์ สธ.เตือน! หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จ "โรคมะเร็ง" ต้องตรวจสอบก่อนแชร์ เฟคนิวส์ สธ.เตือนอย่าหลงเชื่อ!! กลุ่มมิจฉาชีพ "แชร์ลิงก์เว็บไซต์ปลอม" อ้างให้เงินช่วยโควิด ลวงเหยื่อกรอกข้อมูล เฟคนิวส์ อย่าเชื่อ! รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย อัพเดทล่าสุด ข่าว ปลัดสธ. พบกับผู้แทนพยาบาล 5 ชมรม ชู 4 ประเด็นแก้ปัญหากำลังคน ภาระงานพยาบาล ข่าว สถาบันยุวทัศน์ฯ-สสส. ชี้ “บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ต้นทางสู่ยาเสพติด” เฟคนิวส์ ข่าวปลอม! แก้โรคความดันโลหิตสูง แค่กำมือ – แบมือ ข่าว สธ. ผนึกกำลังสหวิชาชีพ ลดป่วย ลดตายโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเพิ่มจากหลายปัจจัยรุมเร้า infographic วายร้ายหน้าฝน "โรคฉี่หนู" สิทธิบัตรทอง รับบริการใส่รากฟันเทียม ฟรี กรณีการบรรจุข้าราชการปฏิบัติงานโควิดรอบสอง เตรียมพร้อมและเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหว เว็บไซต์ Hfocus.org เจาะลึกระบบสุขภาพ สำนักข่าว Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ อีเมล: hfocus1713@gmail.com มูลนิธิภิวัฒน์สาธารณสุขไทย เลขที่ 7 ถ.อธิบดี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 Copyright © Hfocus.org. All rights reserved. (Log in) Thailand Web Stat This site uses cookies. By continuing to browse thestd46557• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแชร์ค่ะ...! แถลงการณ์กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม คัดค้านการกระทำขององค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ในการเปลี่ยนแปลงเพลงประจำมหาวิทยาลัย ตามที่องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ได้เสนอเปลี่ยนแปลงเพลงประจำมหาวิทยาลัยจากเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง เป็นเพลงมอญดูดาว ในการทำกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยอมธ. โดยให้เหตุผลว่ามีเนื้อหาตรงกับเจตนารมณ์ของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยมากกว่า พร้อมทั้งนำเสนอผลการสำรวจความเห็นจากผู้ตอบแบบสำรวจ นั้น กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรมขอคัดค้านข้อเสนอดังกล่าว โดยมีหลักการและเหตุผลดังต่อไปนี้ 1. การกระทำดังกล่าวขัดต่อหลักการประชาธิปไตยและหลักการสันติประชาธรรม อันเป็นหัวใจหลักของชาวธรรมศาสตร์ทั้งหลายทั้งมวล แม้นผู้กระทำจะอ้างผลการสำรวจซึ่งมิทราบที่มาที่ไปและขาดหลักการตามระเบียบวิธีทางสถิติที่ถูกต้องมาสนับสนุน อมธ.จะต้องสำนึกว่าเป็นเพียงกลุ่มคนที่ได้รับการคัดเลือกจากนักศึกษาปัจจุบัน แม้จะมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและดำเนินกิจกรรม อมธ.ก็ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่น ซึ่งได้แก่ประชาคมธรรมศาสตร์ทั้งมวล ที่มีจำนวนหลายแสนคน การอ้างผลสำรวจจากกลุ่มคนเพียง ๕,๐๐๐ กว่าคน มิได้เป็นการเคารพสิทธิของผู้อื่น เป็นการดำเนินการตามหลักคณาธิปไตยที่พวกท่านต่อต้านเสียเอง การพยายามสร้างกระแสการเปลี่ยนแปลงโดยไม่เข้าใจบริบทที่แท้จริง ไม่เคารพสังคมและประชาคม ย่อมนำไปสู่ความเสื่อมศรัทธาและเกิดกระแสต่อต้านจากสังคมทั่วไป ทำให้ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเสียหายและเป็นที่ดูหมิ่นดูแคลนจากสังคม ดังนั้นอมธ. จึงควรใช้สติและปัญญาอย่างรอบคอบ ปลอดจากการถูกครอบงำทางความคิด เพื่อให้สมกับฐานะที่ยกตนเองเป็นปัญญาชน สร้างหรือแสวงหาการเปลี่ยนแปลงที่ดีในหลักการ “เข้าใจ เคารพ สงบสุข” 2. ผู้ดำเนินการขาดความรู้ความเข้าใจในประวัติความเป็นมาของเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทองอันเป็นที่รักและภาคภูมิใจของชาวธรรมศาสตร์ ทั้งนี้ เพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๓๖ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงประพันธ์ทำนองและพระราชทานให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๖ ในคราวเสด็จมาทรงดนตรีที่หอประชุมธรรมศาสตร์และทรงปลูกต้นยูงทองจำนวน ๕ ต้นในคราวเดียวกัน ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่มีนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เข้าเฝ้าและขอพระราชทานเพลงเพื่อแทนเพลงมอญดูดาวที่ประพันธ์โดยขุนวิจิตรมาตรา ในคราวที่เสด็จทรงดนตรีที่สวนอัมพรในปี ๒๕๐๔ ผู้ประพันธ์เนื้อเพลงยูงทองคือนายจรัญ บุณยรัตนพันธุ์ ซึ่งได้ประพันธ์ตามแนวที่มรว.เสนีย์ ปราโมช อดีตเสรีไทยที่มีความใกล้ชิดกับท่านผู้ประศาสน์การณ์ปรีดี พนมยงค์ และผู้นำคณะราษฎร์แนะนำให้ ดังนั้นเนื้อหาเพลงจึงกล่าวถึงสถานที่ที่สงบร่มเย็น มีธรรมจักรเป็นสัญลักษณ์ มีพระธรรมสถิตย์เพื่อรักสามัคคี รักความเป็นธรรม ดั่งเช่นอุดมการณ์ของท่านผู้ประศาสน์การณ์ เพลงพระราชนิพนธ์ยูงทองจึงถูกนำมาขับร้องในทุกครั้งก่อนที่จะมีการเริ่มกิจกรรมของชาวธรรมศาสตร์ เพื่อความสามัคคีและเป็นสิริมงคลแก่ชาวธรรมศาสตร์ทั้งมวล ฉะนั้นการกล่าวอ้างถึงเนื้อหาความเหมาะสมกว่าของเพลงมอญดูดาวจึงนับว่าเป็นการขาดการศึกษาอย่างถ่องแท้ ไม่สามารถเข้าถึงจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ได้ นับเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์อีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดีเพลงมอญดูดาวเป็นเพลงที่มีคุณค่าต่อจิตใจของชาวธรรมศาสตร์เช่นกันเพราะเนื้อหาระบุถึงความเป็นไทย รักชาติไทย บูชาไทย อีกทั้งมีทำนองเพลงไทยเดิม ซึ่งเป็นการอนุรักษณ์วัฒนธรรมที่ดีของชาวไทยไว้ 3. จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้น่าเชื่อได้ว่าผู้กระทำต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงโดยมีเจตนาที่จะทำลายความศรัทธา ทำลายสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของสังคมไทยในทุกๆ ภาคส่วนอย่างเป็นกระบวนการ ดังจะเห็นได้จากการบิดเบือนหลักฐานข้อมูลประวัติศาสตร์ วิทยานิพนธ์อัปยศ การให้ร้ายสถาบันต่างๆ การสร้างความแตกแยกทางสังคม สร้างความแตกแยกทางศาสนา มีขบวนการที่ดำเนินการในทุกระดับโดยมุ่งเป้าหมายไปยังเยาวชนคนรุ่นใหม่ สถาบันการศึกษาต่างๆ ถูกแทรกซึมด้วยบุคลากรและนักวิชาการที่มุ่งร้ายต่อประเทศ เข้าข่ายล้มล้างสถาบันและทำลายชาติบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง พยายามยกเลิกเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ที่เป็นที่เคารพนับถือ ปลูกฝังความคิดและอุดมการณ์ที่เป็นผลร้ายต่ออนาคตของประเทศไทย โดยอ้างประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพแบบผิดๆ เป็นหน้าที่ที่ประชาชนคนไทยทุกคนต้องรู้เท่าทันและช่วยกันต่อต้านความเลวร้ายนี้ ดังนั้นกลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรมจึงไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว และขอเรียกร้องให้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยทุกภาคส่วน โปรดทำความเข้าใจ ดูแลการจัดกิจกรรมของนักศึกษาให้มีเสรีภาพอย่างถูกต้อง ไม่ละเมิดต่อจิตวิญญาณและความรู้สึกของประชาคมธรรมศาสตร์และสังคมโดยรวม อีกทั้งต้องรักษาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและบริหารจัดการให้เกิดความก้าวหน้ารุ่งเรืองสืบไป จึงจักเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่เหมาะสมและรับผิดชอบตามที่ประชาคมได้มอบหมายต่อท่าน กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม ๗ กรกฏาคม ๒๕๖๕ข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยใช้โทรศัพท์มือถือขณะฝนตกเสี่ยงฟ้าผ่าหรือไม่ ?“โทรศัพท์มือถือมีความเข้มข้นของสัญญาณต่ำ และหากสนามแม่เหล็กในคลื่นโทรศัพท์มือถือสูงก็สามารถทำให้เกิดอันตรายกับคนได้โดยที่ไม่ต้องโดนฟ้าผ่าเพราะโทรศัพท์มือถือไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ฟ้าผ่า ต่อให้เราไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ แล้วไปยืนกลางแจ้งขณะฝนฟ้าคะนองก็มีโอกาสที่จะโดนฟ้าผ่าได้เช่นกัน”สภาพอากาศkimwa2002• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยเพื่อไทยถึงจุดต่ำสุด “ทักษิณ“ ไม่ช่วย รอวันพลิกเกม-เกมพลิก https://www.nationtv.tv/politic/378944420ข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
