13122 ข้อความ
- 1 คนสงสัยรายชื่อ 42 จังหวัด ลดเงินสมทบประกันสังคม ม.33 และ ม.39 เหลือ 283 บาท ถึง มี.ค. 68การเงินไม่ระบุชื่อ• 3 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกินได้ "องุ่นไชน์มัสแคท" อย.แนะล้างให้ถูกวิธีเพื่อลดสารตกค้างผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรีบซักเสื้อกันหนาว! กรมอุตุฯ ประกาศเมืองไทย เข้าสู่ฤดูหนาว 29ต.ค.อุณหภูมิต่ำ6-8 องศาสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 3 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวการเมืองการเงินไม่ระบุชื่อ• 3 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 3 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://vt.tiktok.com/ZSjRwdkbC/ไม่ระบุชื่อ• 3 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมีมไม่ระบุชื่อ• 3 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัยร้านรับซื้อของเก่าจังหวัดปราจีนบุรี เกิดระเบิดไฟไหม้ภาคตะวันออกKANTA• 4 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 4 วันที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยWI-FI สาธารณะอันตรายจริงหรือไม่?WI-FI สาธารณะถือว่าสามารถพบเห็นได้ทั่วไปและสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายเพียงแค่ไม่กี่คลิกแต่ภัยร้ายที่แฝงมากับ WI-FI สาธารณะนั้นก็มีมากพอๆกับความสะดวกสบายที่ได้รับ จากการสัมภาษณ์ ผศ.ดร.วุฒิชัย วิเชียรไชย อาจารย์สังกัดภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ข้อมูลว่าการใช้ WI-FI สาธารณะมีความเสี่ยงต่อการโดนขโมยข้อมูลสูงมากและยังสามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาแทรกกลางระหว่างผู้ใช้กับเครื่อข่าย (man in the middle) ที่จะเป็นการดักจับข้อมูลของเหยื่อโดยอาศัย WI-FI สาธารณะเป็นตัวกลาง หรือจะเป็นการปล่อย WI-FI ปลอมโดยการแอบอ้างเป็น WI-FI สาธารณะเพื่อให้เหยื่อหลงเข้ามาใช้และด้วยวิธีการเหล่านี้ทำให้มิจฉาชีพสามารถล่วงเอาข้อมูลต่างๆของเราเช่น รหัส ATM หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆของเราได้ ซึ่ง ผศ.ดร.วุฒิชัย วิเชียรไชย ได้ให้ข้อแนะนำในการใช้ WI-FI สาธารณะว่า 1 ไม่ทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างเชื่อมต่อ WI-FI สาธารณะ 2 เข้าเว็บไซต์ที่ได้มาตรฐานเช่นเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย https เนื่องจากมีระบบป้องกันการแฮกทำให้แฮกเกอร์ล่วงข้อมูลได้ยากขึ้น 3 อัพเดทแอพพลิเคชั่นให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแอพธนาคารหรือแอพต่างๆเมื่อมีการอัพเดทโปรแกรมเมอร์มักจะใส่หรือพัฒนาระบบป้องการการแฮกเข้ามาด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้แม้ว่า WI-FI สาธารจะมีความเสี่ยงต่อการโดนแฮกข้อมูลแต่ด้วยเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันทำให้การโดนแฮกข้อมูลเป็นไปได้ยากมาขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นการระมัดระวังตัวเรื่องการใช้ WI-FI สาธารณะก็เป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงตลอดเวลา (ข้อมูลจาก 9arm) ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการใช้ WI-FI สาธารณะมีความอันตรายจริงแต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ความอันตรายจาก WI-FI สาธารณะลดลงเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นตัวผู้ใช้ก็ควรระมัดระวังเรื่องการใช้เครื่อข่าย WI-FI สาธารณะอยู่เสมอผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมflukerattanin• 5 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยจริงหรือไม่? เว็บไซต์พนันออนไลน์ในประเทศไทยยังคงผิดกฎหมายเว็บไซต์การพนันเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการเดิมพันเกมการพนันต่าง ๆ ในรูปแบบออนไลน์ที่เข้าถึงง่าย หากแต่ในประเทศไทย การพนันทุกประเภทยังถือว่าผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 (ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.royalthaipolice.go.th/ ) จากการสัมภาษณ์ ผศ.ศักดิ์ชาย สุนทรธนาภิรมย์ อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลว่า "การพนันออนไลน์ในประเทศไทยนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมายและในปัจจุบันยังไม่มีช่องทางใดที่จะสามารถจดทะเบียนหรือดำเนินการใด ๆ ให้ถูกกฎหมายได้ ไม่ว่าจะแอบอ้างว่าจดทะเบียนถูกลิขสิทธิ์จากในประเทศหรือต่างประเทศก็ยังคงผิดกฎหมาย เนื่องจากประเทศไทยไม่มีการอนุญาตให้เล่นการพนันใด ๆ ดังนั้นการที่เว็บไซต์พนันออนไลน์แอบอ้างว่ามีการจดลิขสิทธิ์หรือจดแจ้งอย่างถูกกฎหมายจึงไม่เป็นความจริง" ทั้งนี้ ผศ.ศักดิ์ชาย ยังให้คำแนะนำว่า "อย่าหลงเชื่อโฆษณาที่มาจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ เนื่องจากเว็บไซต์พนันออนไลน์มักจะมีการโฆษณาเกินจริงเพื่อดึงดูดความน่าสนใจ และหลีกเลี่ยงการเล่นพนัน เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ข้อมูลต่าง ๆ บนเว็บไซต์การพนันเหล่านั้นอาจไม่ถูกต้องหรือเป็นความจริง เนื่องจากหวังหลอกลวงเงินจากผู้ใช้ และหากพบเห็นเว็บพนันออนไลน์ สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ สายด่วน 1212 ได้ทันที" (ข้อมูลเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567) ดังนั้นแล้วเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ให้บริการในประเทศไทยยังคงผิดกฎหมาย มีโทษทั้งผู้เล่นและผู้ให้บริการ ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้ นอกจากนี้ การพนันออนไลน์ยังเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาทางการเงินและสุขภาพจิต การระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมการพนันออนไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญ (ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.mdes.go.th/home )การเงินผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมthippwanlohasan.g• 5 วันที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวการเมืองแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 5 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแรงงานอ.ศรีราชา จ.ชลบุรีถูกบริษัทรับเหมาต่างชาติ ค้างค่าแรงงานภาคตะวันออกKANTA• 6 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 6 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 6 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัยชาวบ้านจ.ปราจีนบุรีได้รับผลกระทบจากโรงงานสารเคมีระเบิดภาคตะวันออกKANTA• 6 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกลุ่มนักท่องเที่ยวยิงหนังสติ๊กใส่สัตว์ใน สวนสัตว์เปิดเขาเขียวภาคตะวันออกKANTA• 6 วันที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเสาต่อม่อสะพานบางปะกงชำรุดภาคตะวันออกKANTA• 6 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไฮโซ คนมีตังค์ กินผักไฮโดรโพรนิกส์ เป็นมะเร็งเต็มบ้านเต็มเมืองไม่มีใครรับผิดชอบ งานวิจัยเมื่อสามปีที่แล้ว โรงพยาบาลใหญ่ห้าแห่งใน กทมฯ วิจัยสาเหตุมะเร็งเพิ่มขึ้น สามร้อย% เกิดจากกินผักไฮโดร เพราะ ตัว P มากเกินขนาดเป็นสาเหตุเกิดมะเร็งเต้านม ข่าวปิดสนิท เพราะนายทุนปลูกผักไฮโดร ได้ซื้อกรรมการอาหารและยาไปเก้าคนจากสิบห้าคน ข่าวจึงเงียบมาถึงทุกวันนี้ครับ เรื่องนี้ได้มีการเปิดเผยผลงานวิจัยโดยสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทยสามปีแล้ว ควรงดบริโภคผักไฮโดร เพื่อความปลอดภัย # ตัวหนังสือเล็ก 2บรรทัดล่าง แสดงว่า นิวซีแลนด์รู้ตั้งแต่ปี2003 ออสเตรเลียรู้ตั้งแต่ปี2008,2011 เมืองไทยปิดกันจนถึงปี 2018 ยังบริโภคโดยเข้าใจว่าปลอดภัยจากสารพิษทั้งมวลข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 6 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัย""_____ ธุรกิจขายสินค้าโดยวิธีการสมัครสมาชิก และให้สมาชิกซื้อสินค้านั้น จะเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ จะดูจาก ""#รายได้"" ว่า ได้มาจากอะไร ซึ่งศาลฎีกาเองก็ดูจากรายได้เช่นกัน ว่า #รายได้ที่แท้จริงนั้นมาจากอะไร โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 3 ประเภท ประเภทที่ 1. #รายได้จากการสมัครสมาชิก ถ้ารายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าสมัครสมาชิก และมีแนวทางการประกอบกิจการไปที่การแนะนำให้หาสมาชิกเป็นส่วนใหญ่ วิธีการแบบนี้ เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่ ถือว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชนได้ #เพราะไม่ได้เน้นที่การขายสินค้าและรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการขายสินค้า ประเภทที่ 2. #รายได้มาจากการสมัครสมาชิก และ #การบังคับซื้อสินค้า วิธีการนี้ดูเผินๆเหมือนจะเป็นการตั้งใจประกอบธุรกิจ แต่ถ้าดูให้ละเอียดจะพบว่า ไม่ได้มีเจตนาประกอบธุรกิจจริงๆ #แต่เป็นการหลอกให้ซื้อสินค้าไปเยอะๆแต่ไม่สามารถขายสินค้าได้ ฉะนั้น รายได้จริงๆของเจ้าของธุรกิจ จึงไม่ใช่ผลกำไรจากการขายสินค้าทั่วไป #แต่เป็นรายได้ที่ได้จากการให้สมาชิกต้องซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง [** รายได้ของธุรกิจ จะต้องได้จากการขายสินให้คนทั่วไป ไม่ใช่รายได้จากการบังคับให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวน มากๆ / เรียกว่า ""รายได้หรือกำไรเทียม"" ] วิธีการแบบนี้เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่เช่นกัน เพราะรายได้ที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าทั่วไป #แต่เกิดจากการหลอกลวงให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมากๆ ประเภที่ 3. #รายได้มาจากการาขายสินค้าทั่วไป ธุรกิจประเภทนี้ถือเป็นธุรกิจทั่วๆไป คือ นำสินออกขาย ถ้าขายได้ก็ได้กำไร ถ้าขายไม่ได้ก็ขาดทุน โดยจะไม่มีรายได้จากค่าสมาชิก หรือรายได้จากการบังคับซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ #ธุรกิจที่กำลังเป็นข่าวดังอยู่ในตอนนี้ เข้าลักษณะที่ 2. คือ มีสินค้าจริง แต่จะให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ #แต่สินค้าจะขายไม่ได้ หรือจะขายได้น้อย #และถ้าไปดูรายได้ของบริษัทแม่จริงๆ ก็จะพบว่ รายได้หรือกำไร #มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิก ส่วนสมาชิกจะนำสินค้าไปขายได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อรายได้หรือกำไรของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าให้แก่คนทั่วไป แต่เกิดจากการซื้ของสมาชิกเอง ก็แสดงว่า #รายได้หรือกำไรของบริษัทนั้นมีขึ้นก่อนที่จะนำสินค้าออกขายให้แก่คนทั่วไปโดยสมาชิก ดู ไทมไลน์ ดังนี้ 1. ผลิตสินค้า 2.หาสมาชิก 3. ให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมาก [** รายได้ของบริษัท] 4. สมาชิกนำสินค้าที่ซื้อไปขาย จะเห็นว่า รายได้ของบริษัท #เกิดขึ้นก่อน ที่สมาชิกจะเอาสินค้าไปขาย และเป็นรายได้ที่มาจากสมาชิกเอง วิธีการที่จะหลอกสมาชิกให้มาสมัครเป็นสมาชิก และให้ซื้อสินค้าในจำนวนมากๆได้นั้น จะต้องอาศัยเครื่องมือ ที่เรียกว่า ""#ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์"" ธุรกิจพวกนี้จะให้ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์มาช่วยโปรโมทธุรกิจของตนเอง "" ........ #โดยมีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าให้เยอะขึ้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกนำสินค้าไปขายได้ง่ายขึ้น .........."" ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2901/2547 วินิจฉัยว่า "" ..... ถ้ารายได้หรือผลกำไร มาจากค่าสมัครสมาชิก และจะได้มากขึ้นเมื่อสามารถชักชวนคนอื่นให้เข้ามาเป็นสมาชิกได้ #อันแสดงว่ารายได้หรือผลกำไรไม่ได้ขึ้นอยู่กับสินค้าหรือบริการ แต่ขึ้นอยู่กับการชักชวนหรือการหาสมาชิกให้ได้จำนวนมากๆ #และเมื่อรายได้หรือผลกำไรเกิดจากค่าสมัครสมาชิกไม่ได้เกิดจากสินค้าหรือบริการโดยตรง จึงต้องตามความหมายของบทนิยามคำว่า "กู้ยืมเงิน" และ "ผลประโยชน์ตอบแทน" ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ม. 3 จึงเป็นความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ....." ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1172/2566 วินิจฉัยว่า "" ..... จำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในกิจการและธุรกิจของจำเลย #แต่จำเลยกลับไม่มีกิจการใดๆเลยที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนได้ตามที่จำเลยโฆษณา ดังนั้น การโฆษณาชักชวนของจำเลยจึงเป็นการหลอกลวง อันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ....."" ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 326/2566 วินิจฉัยว่า "" ..... จำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน กับ บริษัท อ. แต่กลับพบว่า ในขณะที่จำเลยชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนนั้น บริษัท อ. #ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทตามกฎหมาย ซึ่งการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทหรือไม่นั้น ถือเป็นสาระสำคัญที่ทำให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่า บริษัท อ.นั้น ยังไม่ได้จดทะเบียนตั้งบริษัท #แต่กลับปกปิดความจริงข้อนี้เอาไว้ จึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ....."" #คดีตามข่าว เส้นแบ่งว่าจะเป็นฉ้อโกงหรือไม่ ให้ดูจากรายได้ของบริษัท ว่า รายได้หรือกำไรมาจากการที่สมาชิกขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปได้ หรือเป็นรายได้หรือกำไรที่ได้มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิกเอง ถ้ารายได้ของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วๆไป แต่เกิดจากการบังคับหรือหลอกลวงให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ แบบนี้ก็จะเข้าข่ายฉ้อโกง โดยศาลจะถือว่า ""#รู้อยู่แล้วว่าสินค้าไม่สามารถขายได้"" และการใช้ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์มาโฆษณานั้น #ก็ด้วยวัตถุประสงค์ให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมการขายหรือช่วยให้สมาชิกขายสินค้าได้แต่อย่างใด (1) รายได้บริษัท มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิก (2) การใช้ดารามาโฆษณา เพื่อให้สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น (3) บริษัทได้รายได้ไปก่อนที่สมาชิกจะนำสินค้าไปขาย (4) พยายามชักจูงใจให้สมาชิกซื้อสินค้ามากกว่าขายสินค้าทั่วไป (5) สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะโฆษณาไม่ใช่เกิดจากการใช้จริง (6) บริษัทเน้นรายได้ที่จะไดจากสมาชิกเป็นหลัก โดยไม่สนใจว่า สมาชิกจะขายสินค้าได้หรือไม่ (7) สุดท้ายบริษัทเท่านั้นที่มีรายได้ ส่วนสมาชิกส่วนใหญ่ขาดทุน เพราะขายสินค้าไม่ได้ แต่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทเพื่อซื้อสินค้าไป ก่อน (8) สมาชิกสนใจธุรกิจ เพราะ การโฆษณาชวนเชื่อ #ไม่ได้สนใจ #เพราะสินค้าขายดี จะเห็นว่า ธุรกิจแบบนี้ มีลักษณะที่ดูยากว่าเป็นการฉ้อโกง เพราะเขามีตัวสินค้าอยู่จริง และสินค้าเขาอาจจะดีจริงก็ได้เช่นกัน #แต่ขอให้ดูรายได้ของบริษัทว่ามาจากอะไร เพราะศาลเองก็จะดูเช่นกันว่า ถ้ามีเจตนาจะขายสินค้าหรือบริการจริงๆ ก็จะต้องเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการ #และรายได้หลักก็ควรเป็นรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการแก่บุคคลทั่วไป ไม่ใช่รายได้หลักเกิดจากการให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ รายได้หลักเกิดการการซื้อสินค้าของสมาชิก #ก็ย่อมแสดงว่า บริษัททราบอยู่ก่อนแล้ว่าสินค้าหรือบริการ ไม่สามารถขายได้หรือถ้าขายได้ก็ทำรายได้ไม่ถึงกับที่ตนเองโฆษณา #ซึ่งในที่สุดสมาชิกก็จะขาดทุนเพราะสินค้าขายไม่ได้ อันถือว่าผิดหลักการค้าขายทั่วไป ที่จะต้อนเน้นไปที่การขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปได้ ไม่ใช่เน้นส่งเสริมให้สมาชิกซื้อสินค้าเยอะๆ _____"" #คดีโลกคดีธรรมการเงินผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 6 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัยตำรวจนอกเครื่องแบบสามารถจ่ายใบสั่งได้หรือไม่ปัจจุบันก็ยังมีเหตุการณ์ประชาชนบางส่วนที่เห็นภาพของตำรวจนอกเครื่องแบบจ่ายใบสั่งจนทำให้ผู้คนเกิดความเข้าใจผิดและเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในกระทู้ออนไลน์ จากการสัมภาษณ์ ร.ต.อ. อภิรัฐน์ เอกวารีย์ ตำแหน่งรองสารวัตรจราจรสำนักงานสถานีตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ 2567 ได้ให้ข้อมูลว่า ตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรระบุไว้ชัดเจนไว้ว่า - การทำงานจะต้องอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน - จะต้องทำงานด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ - ให้แต่งเครื่องแบบขณะปฏิบัติหน้าที่โดยบ่งบอกถึงสายงานของตัวเอง การออกใบสั่งของเจ้าพนักงานจราจร จะใช้มาตรา 140 ในการออกใบสั่ง ซึ่งระบุไว้ว่า เมื่อปรากฏแก่เจ้าพนักงานจราจร ไม่ว่าพบด้วยตนเอง หรือโดยการใช้เครื่องอุปกรณ์ หรือโดยวิธีการอื่นใดว่า ผู้ขับขี่ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือ ตามกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง ที่เป็นความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว หรือมีโทษจำคุกไม่เกิน หนึ่งเดือนและมีโทษปรับ เจ้าพนักงานจราจรจะว่ากล่าวตักเตือนหรือออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ผู้นั้นชำระค่าปรับ ตามที่เปรียบเทียบก็ได้ (แหล่งที่มา http://www.ratchakitcha.soc.go.th/.../2562/A/067/T_0067.PDF) ดังนั้น ตำรวจนอกเครื่องแบบไม่สามารถจ่ายใบสั่งได้โดยตรง เนื่องจากตามกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าระหว่างปฏิบัติหน้าที่จะต้องสวมเครื่องแบบขณะปฏิบัติหน้าที่เสมอ เพื่อความโปร่งใส และประชาชนจะต้องสามารถตรวจสอบหรือยืนยันตัวตนได้จริงว่าคือเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงผู้บริโภคเฝ้าระวังyyutthasat• 6 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกทพ. เปิดให้ขึ้นทางด่วนฟรี 61 ด่าน วันที่ 23 ตุลาคมนี้ไม่ระบุชื่อ• 7 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยวิธีการถูมือด้วยจุดอวี๋จี๋ทั้ง 2 ข้าง เป็นเวลา 3 นาที ทำให้สุขภาพดีไม่ระบุชื่อ• 7 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยประกาศ เปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยหลวงเชียงดาว 11 พฤศจิกายน 2567ไม่ระบุชื่อ• 7 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น