13254 ข้อความ
- 1 คนสงสัยเมืองเชียงใหม่จะจมบาดาลใน 6 ชั่วโมงภาคเหนือสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกรมการข้าว เตือนภัยอย่าหลงเชื่อ เพจเฟซบุ๊ก พันธ์ทวีมอลล์ คอร์ปอเรชั่นภาคอีสานผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยธอส. ประกาศโครงการเงินกู้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย โดยพักชำระหนี้นาน 3 เดือนภาคเหนือสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนเงินดิจิทัลวอลเล็ตใหม่ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนได้ที่ธนาคารออมสิน กรุงไทยไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกทม. ออกกฎใหม่ สามารถขายแผงลอยบนถนนหรือพื้นที่สาธารณะได้ไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพบรถทัศนศึกษาโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.นครพนม เกิดกลุ่มควันขึ้น ขณะเดินทางภาคอีสานไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเงินเดือนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจาก 600 บาท เป็น 1,000 บาท เริ่มต้นเดือนตุลาคมนี้ไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยปากกาฟอกฟันขาวอันตรายไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปากกาฟอกฟันขาวอันตรายจริงหรือไม่ ?“ปากกาฟอกฟันขาว” อันตรายจริงหรือไม่ ? ปากกาฟอกฟันขาวที่กำลังเป็นที่นิยมบนโลกออนไลน์ อุปกรณ์ช่วยเสริมความมันใจให้กับรอยยิ้ม ที่ราคาจับต้องได้ แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่มีอันตรายที่ซ่อนอยู่ จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า กรมอนามัยได้ให้ข้อมูลว่าอุปกรณ์ฟอกฟันขาว ที่ขายกันตามอินเตอร์เน็ตนั้น อาจจะมีสาร "ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์" สูงกว่า6 % และอาจจะสูงถึง15 % ซึ่งปกติ ถ้าสูงกว่า 6% ต้องได้รับความควบคุม โดย อย. เพราะสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซต์ ซึ่งมีฤทธิ์ในการฟอกสีให้ขาวขึ้นนั้น ถ้ามีความเข้มข้นสูงมาก จะเป็นอันตราย กัดกร่อนเนื้อฟัน ทำให้เนื้อฟันเสียหาย และเสียวฟันมากขึ้นได้ ถาดที่ใช้ครอบฟัน ในการฟอกสีฟัน ก็ควรทำเป็นรายบุคคลโดยทันตแพทย์ จึงจะพอดีกับฟันของแต่ละคน เพราะถ้าไม่พอดี สารฟอกฟันจะไปโดนเหงือก อาจทำให้เหงือกบวม อักเสบได้ การฟอกสีฟัน สิ่งแรกที่ควรทำคือการมาพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยสาเหตุของสีฟันเพื่อวางแผนการรักษา ตรวจสุขภาพฟันให้แน่ชัดว่าไม่มีฟันผุ อาการเสียวฟัน เนื่องจากภาวะเหงือกร่น หลังจากนั้นจะขูดหินปูน หรือขัดคราบสีออก แล้วจึงพิมพ์ปากคนไข้เพื่อสร้างแบบจำลองฟัน นำมาทำถาดฟอกสีฟันโดยทำการบันทึกสีของฟันก่อน จากนั้นจึงทำการรักษาต่อไป (แหล่งข้อมูล : https://www.thaihealth.or.th และ https://cofact.org) ทพ.พิชัย งามวิริยะพงศ์ ทันตแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ให้ข้อมูลว่า สารที่ใช้ในการฟอกสีฟันมีส่วนประกอบหลัก คือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือ คาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ แส่วนมากจะใช้ความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 25-40% แล้วนำน้ำยาทาบนฟันทิ้งไว้ ทำ 3 รอบ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยมีการใส่อุปกรณ์ที่ทำมาเพื่อป้องกันเหงื่อให้คนไข้ โดยจะได้รับการพิมพ์ฟันทั้งฟันบนและฟันล่าง เป็นถาดสำหรับแต้มน้ำยาฟอกสีฟันเฉพาะบุคคลนั้น ๆ เพราะแต่ละบุคคลจะมีลักษณะฟันที่ไม่เหมือนกัน เป็นการป้องกันไม่ให้ตัวน้ำยาไหลไปโดนเหงือกได้ และหลังทำเสร็จควรจะงดอาหารประเภทที่มีการติดสีมาก ๆ เช่น เครื่องดื่มน้ำอัดลม ชา กาแฟ และงดการสูบบุหรี่ บางครั้งสามารถเกิดอาการเสียวฟันได้ชั่วคราวประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาจจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารเย็นจัดไปก่อน ทั้งนี้ ทพ.พิชัย ให้ข้อแนะนำว่า ทันตแพทย์ไม่แนะนำการซื้อปากกาฟอกฟันขาวที่ให้ไปทำด้วยตนเอง การฟอกฟันขาวหรือการรักษาฟันจากอาการต่าง ๆ ควรปรึกษาก่อนทุกครั้ง เพื่อที่จะได้ตรวจและเลือกแนวทางการรรักษา หากซื้อผลิตภัณฑ์ทำเองอาจเกิดผลที่เป็นอันตรายได้ และถ้าหากตัดสินใจการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต้องได้รับการควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และดูว่าผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ไม่สูงกว่า 6% ตามที่ อย. กำหนด และควรมีคาร์บอกซี่โพลิเมทิลีน เป็นสารหนืดที่ทำไม่ไห้น้ำยาเหลวจนเกิน เพื่อให้น้ำยาเกาะติดบนผิวฟันได้ เพราะถ้าน้ำยาไหลไปโดยเหงือกอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือไปทำให้เกิดเคมีคอลเบิร์นต่อเหงือกจะเกิดปัญหาตามมาได้ คนที่ไม่สามารถฟอกฟันขาวได้ 1.หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร 2.คนที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เพราะชั้นเคลือบยังไม่ได้แข็งแรงมากพอ 3.ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพฟัน ควรได้รับการรักษาให้เรียบร้อยเสียก่อน เช่น ฟันผุแบบไม่รู้ตัว ฟันเป็นรู ฟันสึกจากการแปรงฟันแรงเป็นช่องเว้าเข้าไปแถวเหงือก ฟันร้าว มีรอยร้าวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า หรือเดิมคนไข้เสียวฟันอยู่แล้วแค่กินน้ำเย็นกับไอศกรีมก็เสียวฟัน แล้วยังพยายามจะไปฟอกสีฟันก็จะเกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมาได้ 4.คนที่มีการอุดฟัน อาจจะต้องมาตรวจกับทันตแพทย์ก่อนว่าวัสดุต่าง ๆ มันอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือเปล่า เพราะบางคนแบบอาจจะอุดตั้งแต่เด็กแล้วมีรูหรือมีช่อง น้ำยาเคมีเกิดมันเล็ดลอดแทรกเข้าไป ทำให้เกิดโพรงประสาทฟันอักเสบได้ 5.ไม่เคยรักษาโรคเหงือก เลือดออกตามไรฟัน หินปูนเกาะเต็มฟันหน้าทั้งบนทั้งล่าง ต้องรักษาโรคเหงือกให้เรียบร้อยเสียก่อน ดังนั้น การฟอกสีฟันควรทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การจะซื้อปากกาฟอกฟันขาวมาใช้เองอาจจะไม่ได้เห็นผลเท่าที่ควร หรือเกิดอันตรายต่อตัวผู้บริโภคได้ และควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนรักษาฟันทุกครั้งสุขภาพธนกฤต ราชัย• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกัญชารักษาโรคซึมเศร้าได้จริงไหม?ในปัจจุบัน กัญชาถูกพูดถึงมากขึ้นในแง่ของสรรพคุณทางยา และหนึ่งในโรคที่หลายคนสงสัยว่ากัญชาจะช่วยรักษาได้คือ โรคซึมเศร้า แต่ความจริงแล้ว กัญชาช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้จริงหรือไม่? ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า กัญชาไม่ได้เป็นยาที่รักษาโรคซึมเศร้าได้โดยตรง แต่สาร CBD ที่อยู่ในกัญชา มีศักยภาพในการช่วยบรรเทาอาการบางอย่าง เช่น ความวิตกกังวล การนอนไม่หลับ และอาการปวดเรื้อรัง ซึ่งเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.rama.mahidol.ac.th ) กัญชามีกลไกเข้าไปลดการกระตุ้นในสมอง ทำให้อาการดีขึ้นร่วมกับการนอนหลับ ส่วนการใช้กับโรคซึมเศร้า ยังไม่มีผลการวิจัยที่ชัดเจน ในทางกลับกันพบว่าอาจจะส่งผลเสียต่อการดำเนินโรค ตัวอย่างเช่น กลุ่มโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคอารมณ์สองขั้ว โรคจิตเภท ปัญหานอนไม่หลับ ส่วนในด้านกลไกการทำงาน สันนิษฐานว่าสารในกัญชาอาจช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้โดยการปรับระดับสารสื่อประสาทในสมอง เช่น เซโรโทนินและโดปามีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับอารมณ์และความสุขนั่นเอง (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://suicide.dmh.go.th/abstract/details.asp?id=3607 ) ดังนั้น แม้ว่าจะมีหลักฐานบางส่วนบ่งชี้ว่ากัญชามีสารช่วยบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าได้ แต่การใช้กัญชาในการรักษาโรคซึมเศร้ายังคงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาและวิจัยเพิ่มเติม การตัดสินใจใช้กัญชาในการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอแพทย์จะประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดยาสมุนไพรPongsapak Laonet• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย🚨อำเภอลับแล ขอแจ้งเตือน 🚨 พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินบนภูเขาถล่ม ให้เตรียมอพยพประชาชนไปจุดปลอดภัย หากมีปริมาณฝนมากกว่าหรือเท่า 100 มิลลิเมตร . 🚨ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินถล่ม อำเภอลับแล ได้รับการแจ้งเตือนจากศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินถล่มจังหวัดอุตรดิตถ์ 📌ศูนย์ฯอุตรดิตถ์ ได้ติดตามวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนที่ผ่านมาพบว่า มีฝนตกหนักเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอลับแล ส่งผลให้ปริมาณความอุ้มน้ำของดินบนภูเขามีค่าวัดสูงมาก อาจจะทำให้เกิดการถล่มของดินบนภูเขาได้ 📌ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น ทางอำเภอลับแล จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อำเภอลับแล ดำเนินการสำรวจข้อมูลกลุ่มเปราะบาง แยกรายประเภท ทั้งผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และหากมีปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่เท่ากับหรือมากกว่า 100 มิลลิเมตร ให้เตรียมการอพยพประชาชนไปยังจุดปลอดภัย โดยให้ดำเนินการอพยพกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก พร้อมทั้งกำหนดรายชื่อผู้นำอพยพในแต่ละหมู่บ้าน 📌มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมสถานที่อพยพ 📌 ให้กำนันแต่ละตำบล ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ดำเนินการเป็นผู้นำการอพยพประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของตนเองไปยังพื้นที่ปลอดภัยภาคเหนือสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่กินเม็ดชาไข่มุกทําให้เป็นมะเร็ง...!!จากกระแสบนโลกออนไลน์ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการกินเม็ด ชานมไข่มุกที่ส่งมาจากประเทศไต้หวัน จะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเพราะ มีสาร ที่เป็นอันตรายต่อตับ ไต ระบบเลือด และระบบประสาท ซึ่งเป็น สาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งต่างๆ จากข้อความดังกล่าวที่มีการแชร์บน โลกออนไลน์นั้น ได้มีการตรวจสอบโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) และได้ชี้แจงข้อสรุปว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง จากการที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประเทศไต้หวัน ได้มีการตรวจ สอบสิ่งที่พบจริงในเม็ดไข่มุกคือสารอะซิโตฟีโนน ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ ชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายอัลมอนด์ มักถูกใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมน้ำหอมและอุตสาหกรรมยา ในเม็ดไข่มุกบางยี่ห้ออาจพบ สารเหล่านี้ในปริมาณน้อยมากแต่ไม่ใช่สารก่อมะเร็งดังที่ข่าวลือกล่าวอ้าง (อ้างอิงข้อมูลจากเว็ปไซต์ https://shorturl.asia/i74FQ ) และข้อมูลจากงานวิจัยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เม็ดไข่มุกเสริมใยอาหารพร้อมบริโภค ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่าในเม็ดไข่มุก หลายยี่ห้อมีส่วนผสมของแป้งมันสำปะหลังเป็นหลัก ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเป็นสาร อาหารหลักชนิดหนึ่งที่ร่างกายเราต้องการและสวนผสมอื่นประกอบด้วย ผงเห็ดนางฟ้า เมือกกระเจี๊ยบเขียว อินูลิน แป้งดัดแปร คอนยัค คาราจีแนน น้ำตาล น้ำ เพียงเท่านั้น เป็นส่วนประกอบที่สามารถบริโภคได้ปกติทั่วไป (อ้างอิงข้อมูลโดยเว็บไซต์ https://shorturl.asia/mR2zQ ) ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการกินเม็ดชาไข่มุกนั้นไม่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ดังที่แชร์ กันเพราะไม่มีสารประกอบใดๆที่เป็นอัตรายหรือก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่ถึงแม้ว่า การกินเม็ดไข่มุกไม่ได้ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็ง แต่ถ้าหากเราบริโภคไข่มุกในปริมาณที่ มากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ แทนได้เช่นกันสุขภาพมะเร็งประมุขตรัย ผิงอัน• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์มือถือสามารถดูดเงินในบัญชีออกไปได้ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการหลอกให้ลงทุนแชร์ลูกโช่ (Ponzi scheme)ผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้ค้าหาบเร่-แผงลอยต้องเป็นคนไทย มีบัตรคนจนและต้องยื่นภาษีเงินได้การเงินไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสังเกตเหตุแผ่นดินไหวได้จากต้นไมยราบ เพราะเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อย ใบของต้นไมยราบจะหุบลงไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเร่งศึกษาแอปฯ ทางรัฐ ช่วยเตือนภัยพิบัติ พร้อมส่ง SMS แจ้งเตือนภัยพิบัติแก่ประชาชนสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรับประทานปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง สามารถลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ 36%สุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยบริเวณพื้นที่น้ำตกคลองวังเจ้า น้ำตกเต่าดำ และลานกางเต็นท์น้ำตกเต่าดำ เปิดให้บริการการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 เป็นต้นไปภาคเหนือไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมีคลิปคนโยนของลงจากตึกร้างกลางเมืองพัทยา ชาวบ้านหวั่นเป็นขโมยภาคตะวันออกKANTA• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรับประทานปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง สามารถลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ 36%ไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสเปรย์รักษาแผล กำจัดรอยแผลจากการผ่าตัด ไฟไหม้ การบาดเจ็บ แผลเป็นนูน มี อย. รับรองอย. เพิกถอนไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยปปง. จับมือ 2 ธนาคาร คืนเงินเหยื่อจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปิดให้ลงทะเบียนขอรับเงินคืน ผ่านทางเพจสมาคมเสริมสร้างภัยทางออนไลน์ผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น