14182 ข้อความ
- 1 คนสงสัยผู้คนอายุเกิน 60 ควรได้รับการแชร์เรื่องนี้หมอ Arnaldo Liechtenstein ถามนักศึกษาแพทย์ ในห้องเรียนว่า อะไรคือต้นเหตุของ ความเลอะเลือนในผู้สูงอายุ บางคนตอบว่า เนื้องอกในสมอง บางคนว่า อาการเริ่มต้นของอัลไซเมอร์ หมอบอกว่า No และคำตอบ คือ 3 สาเหตุหลัก 1.เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ 2.ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ 3.การขาดน้ำ มันดูเหมือนเรื่องตลก คนอายุเกิน60 ความรู้สึกกระหายน้ำ จะหายไป และความสม่ำเสมอ ในการดื่มเครื่องดื่ม จะหมดไป และ เมื่อไม่มีคนรอบข้าง คอยย้ำเตือน ให้ดื่มของเหลว เขาก็จะเข้าสู่ภาวะ ขาดน้ำอย่างรวดเร็ว การขาดน้ำ จะมีผลความเสียหาย รุนแรงทั่วร่างกาย อาจจะเกิดความเลอะเลือน ขึ้นทันที ความดันโลหิตลดลง มีอาการใจสั่นเพิ่มขึ้น อาการปวดร้าวในทรวงอก อาจเข้าสู่ภาวะโคม่า อาจถึงแก่ความตาย นิสัย ลืมดื่มน้ำและของเหลว เมื่ออายุ 60 นี้ ทำให้ร่างกายมีน้ำไม่เกิน 50% ของที่ควรจะมี คนอายุ 60 มีแหล่งน้ำสำรอง ในร่างกายน้อย นี่คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ การเข้าสู่ภาวะชรา มันมีความซับซ้อนอยู่ภายใน แม้พวกเขาจะอยู่ใน ภาวะขาดน้ำ แต่เขากลับรู้สึก ไม่ชอบการดื่มน้ำ เหตุเพราะ กลไกในร่างกาย ไม่สมดุลย์ และทำงานได้ไม่ดีพอ สรุป คนอายุเกิน60 มีภาวะการขาดน้ำได้ง่าย ไม่เพียงเพราะ เขามีแหล่งน้ำสำรองน้อย แต่ยังเพราะร่างกายเขา ไม่รู้สึกถึงการขาดน้ำ นี่คือสองคำแนะนำ 1.สร้างนิสัยการดื่มของเหลว ในที่นี้รวมถึง น้ำเปล่า น้ำผลไม้ ชา น้ำมะพร้าว นม ซุป ผลไม้ที่มีน้ำเยอะ เช่นแตงโม เมล่อน พีช สัปปะรด ส้ม ควรจำไว้ว่า ทุกสองชั่วโมง ต้องดื่มกินของเหลวเหล่านี้ 2.คำเตือนสำหรับสมาชิก ในครอบครัว ต้องคอยให้น้ำ และของเหลว แก่คนอายุเกิน 60 ในบ้าน และคอยสังเกตเขาด้วย ถ้าเราสังเกตเห็นว่า เขาปฏิเสธการดื่มน้ำ ถึงสองวัน จะเริ่มเห็นอาการหงุดหงิด หายใจเบาลง ขาดสมาธิ นั่นคือ ภาวะของการขาดน้ำ ช่วยกันกระตุ้น ให้เกิดการดื่มน้ำมากขึ้น ส่งต่อข้อมูลนี้ให้ผู้อื่น เพื่อน และครอบครัว ควรจะได้รับรู้เรื่องนี้ เพื่อมีสุขภาพที่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น ผู้คนอายุเกิน 60 ควรได้รับการแชร์เรื่องนี้Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฝังเข็ม รักษาภาวะซึมเศร้า ได้จริงไหมฝังเข็ม รักษาภาวะซึมเศร้าMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเรื่อง mobile application@Pantip เมื่อเช้าได้ข้อเท็จจริงและแนวทางปฏิบัติมาจากฝ่าย cybersecurity แล้วค่ะ เรื่อง mobile application 1) โจรสามารถเข้ามือถือเราผ่านระบบ remote ได้ หากเราอนุญาต ผ่านการ click link ที่โจรส่งมา => ดังนั้นไม่ควร click link ใดๆ 2) แม้ remote มาเข้าหน้าจอได้ โจรก็จะเข้า mobile app ไม่ได้ หากไม่มี Pin นอกจากเจ้าของ app บอกเอง หรือพิมพ์ PIN ไว้ใน note หรือตรงไหนสักแห่งในมือถือที่โจรสามารถมองเห็นจากการ remote ได้ แต่โจรจะไปเอา pin ออกมาเองจาก mobile application ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ พบว่า มี user ที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ที่ยอมบอก PIN ให้กับโจรเอง เพราะรู้เท่าไหม่ถึงการณ์ จึงนำไปสู่การป้องกันข้อที่ 3 ที่กำลังดำเนินการคือ 3) ปี 2023 ทุกธนาคารกำหนดให้ การ remote เข้าหน้าจอมือถือ จะไม่สามารถเข้า mobile application ได้ อดีตอาจเข้าได้หากมี PIN แต่ตอนนี้ ต่อให้มี PIN ก็เข้าไม่ได้ PIN จะทำงานก็ต่อเมื่อเจ้าของมือถือกดจากหน้าจอเองเท่านั้น และต้องไม่ใช่ในระหว่างที่มีการ remote ด้วย 4. สำหรับความเสี่ยงเรื่อง เอาข้อมูลส่วนตัวไปลงแอพใหม่ในมือถือเครื่องใหม่ อดีตอาจทำได้ เพราะธนาคารอำนวยความสะดวกให้คนที่มีอุปกรณ์หลายเครื่องใช้พร้อมกันได้ แต่ตอนนี้ธนาคารใหญ่ๆ ทั้งหมด กำหนดเรื่อง single device แล้ว คือ ลง mobile application ได้ ในมือถือเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น หากจะลงเครื่องใหม่ จะต้อง disable เครื่องเก่าก่อนค่ะ คนที่ถือเครื่องที่ใช้อยู่จะต้องมีการอนุญาตให้ลงเครื่องใหม่ จึงจะลงได้ ดังนั้นค่ะ *แนวทางในการป้องกัน* คือ 1.อย่าคลิกลิงค์ใดๆ จากคนไม่รู้จักและที่ดูดีมีประโยชน์เกินจริง 2.อย่ายอมให้ใคร remote เข้าเครื่องได้ การ remote เจ้าของเครื่องต้อง accept เขาจึงจะเข้าได้ หากเราไม่ accept ผ่านหน้าจอเราเข้าก็เข้าไม่ได้ 3.อย่าพิมพ์ PIN หรือรหัสผ่านอะไรไว้ตาม note หรืออะไรในมือถือ ถ้าจะพิมพ์ก็เอาที่ใกล้เคียง พอให้เราช่วยนึกออกก็พอ อย่าเขียนตรงๆ เพราะโจรจะเดายาก ถ้าเดาผิดหลายครั้ง ระบบก็จะ lock โจรก็ทำรายการไม่ได้ เราอาจจะลำบากไปปลดล็อคกับด้วยตัวเอง แต่ก็ปลอดภัยกว่าให้โจรเข้าระบบเราได้ค่ะ ประมาณนี้ค่ะทุกท่าน ขอให้ปลอดภัยในการใช้ mobile application ค่ะผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลบแอ๊ปธนาคารที่ไม่ค่อยใช้ออกจากโทรศัพท์ เหลือเงินในแอ๊ปธนาคารให้น้อยเท่าที่จำเป็นนะครับลบแอ๊ปธนาคารที่ไม่ค่อยใช้ออกจากโทรศัพท์ เหลือเงินในแอ๊ปธนาคารให้น้อยเท่าที่จำเป็นนะครับ อย่าใช้wi-fi สาธารณะ ร้านค้า โรงแรม สนามบินฯลฯ ใช้อินเตอร์เน็ตของเราเองปลอดภัยกว่า ถ้าไปที่สถานที่นอกบ้าน นอกที่ทำงานของเรา ใช้เพาเวอร์แบงค์ชาร์ทมือถือดีกว่านะครับMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคิด❓ก่อนคลิก📣คิด❓ก่อนคลิก 3 ทางรอด ป้องกันไม่ให้โดนดูดเงิน ล้วงข้อมูล จากแอปควบคุมมือถือ ที่ผู้เสียหายอาจเผลอคลิกลิงก์เปิดสิทธิให้มิจฉาชีพเข้ามาล้วงข้อมูล 📍มือถือเปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์ของเรา ถ้าใครมาล้วงได้แล้ว เงินเราอาจหมดกระเป๋าไม่รู้ตัว แต่หากเผลอไผลคลิกลิงก์ หรือโดนหลอกไปแล้ว ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านแอปและโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับบริการทางการเงินทันที รวมถึงแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องที่ และแจ้งความออนไลน์ที่ www.thaipoliceonlice.com โดยทันทีผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง! ตอนนี้คนจีนเป็นโรคมะเร็งสูง! บัญชีดำอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 1. ผงชูรส (MSG) 2. หมากฝรั่ง 3. ตับหมู 4. ผักดอง หัวไชเท้าแห้ง 5. น้ำผลไม้บรรจุขวด 6. ไข่เยี่ยวม้า 7. เต้าหู้เหม็น 8. ปาท่องโก๋ ส่งต่อให้คนที่คุณห่วงใยมากที่สุดด้วยนะครับมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมะเร็ง กับ มะนาว🟣 ถ้ารักตัวเองก็อ่าน.. ถ้าคิดแค่อยู่แค่วันนี้ พรุ่งนี้ไม่สน ไรจะเกิดก็เกิด ก็ปัดผ่านไป... 👉ขอเล่า.. ผมได้ไปตรวจสุขภาพ ทำอัลตราซาวน์ เมื่อปลายปี 59 พบติ่งเนื้อในถุงน้ำดี ยาว 4 มม. หมอบอกไม่เป็นไร ถือว่าผิดปกติเล็กน้อย อีก 6 เดือน ให้ไปอัลตราซาวน์ใหม่ ครั้งที่ 2 รอบนี้พบว่า ติ่งเนื้อ มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6 มม. หมอบอก ยังไม่เป็นไรอีก อีก 6 เดือน ให้ไปอัลตราซาวด์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ผมไม่ได้ไปตามนัด คิดว่าจะไม่ไปแล้ว จนกระทั่ง เลยกำหนดไป 2 เดือนกว่า ลูกๆจึงขอร้องให้ไปตรวจ จึงได้ไปทำ อัลตร้าซาวน์อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 คราวนี้พบว่า ติ่งเนื้อเดิม เพิ่มขนาดขึ้นเป็น 1 ซม. หมอบอก ควรผ่าตัดถุงน้ำดีออก เพราะหากปล่อยไว้ ติ่งเนื้อ อาจกลายเป็น เนื้อร้ายได้ (ผมตรวจที่ โรงพยาบาลเอกชน ที่กรุงเทพฯ) เมื่อสอบถามค่าใช้จ่าย เห็นว่าสูงพอสมควร จึงขอประวัติ ไปรักษาต่อเนื่อง ที่โรงพยาบาลรัฐบาล (ผมใช้สิทธิ์ ข้าราชการ เบิกค่าใช้จ่ายได้) เป็นโรงพยาบาลใหญ่ ในกรุงเทพฯ เช่นกัน หมอดูผลตรวจแล้ว แนะนำว่า หากติ่งเนื้อ มีขนาดใหญ่กว่า 1 ซม. ควรผ่าตัดถุงน้ำดีออก ไม่ควรเก็บไว้ โดยท่านให้เวลาอีก 4 เดือน เพื่อมาอัลตราซาวด์ ซ้ำอีกครั้ง ก่อนผ่าตัด ผมกลับบ้านที่ นครศรีธรรมราช เล่าให้บางคนได้ฟัง หลังพูดคุยกับ คุณณัชชา ปรีชา (ติ้ม) ได้แนะนำ ให้ผมดื่ม น้ำมะนาวในน้ำร้อน ผมจึงทำดื่มมาตลอด โดยใช้มะนาวสด วันละประมาณ ครึ่งลูก หั่นเป็นแว่นบางๆ 4-5 แว่น ใส่แก้วรินน้ำร้อนใส่ วางไว้ให้เย็น ดื่มหมดแก้ว เติมน้ำร้อนใหม่ ดื่มซ้ำไปตลอดวัน แล้วจึงเททิ้ง ในตอนเย็น ทำอยู่ 3 เดือน ก่อนไปพบหมอ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 61 ผมได้มาทำอันตราซาวน์ อีกครั้ง ตามกำหนด และนัดฟังผลตรวจ ในวันที่ 2 พ.ย. 61 ตามนัด หมอบอก ไม่พบเห็น ติ่งเนื้อ ในถุงน้ำดีแล้ว แต่เห็นเป็นก้อนนิ่ว เล็กๆ ขนาดใหญ่สุด 5 มม. หมอถามผมว่า มีอาการอย่างไรบ้าง ผมเล่าตามตรงว่า ไม่มีอาการอะไรผิดปกติเลย หมอจึงว่า ถ้าอย่างนั้น ไม่ต้องผ่าตัด อีก 6 เดือน (28 เม.ย.62) ค่อยมาตรวจซ้ำ เพื่อตรวจเช็ค ว่าเป็นอย่างไรบ้าง จึงบอกมายังทุกท่านว่า ‘การดื่มน้ำมะนาว ในน้ำร้อน’ ตามที่ผม ได้ทดลองด้วยตนเอง ได้ผลดังที่กล่าว ตามบทความข้างล่างนี้ ลองอ่านดูนะครับ อาจจะยาวไปสักนิด แต่มีประโยชน์มาก ขอบคุณเพื่อนณัชชา ปรีชา ที่แนะนำเคล็ดลับดีๆ ขอบคุณ คุณหมอ ที่คิดค้นวิจัย และเผยแพร่ เป็นอย่างสูง (หลังเมษายน 2562 ผลเป็นอย่างไร จะมาแจ้งความคืบหน้า ให้ทราบกัน อีกครั้งนะครับ เสถียร วัฒนาพันธุ์ 3 พ.ย. 61 ------------ **น้ำมะนาวร้อน ในโรงพยาบาลกองทัพบก แห่งกรุงปักกิ่ง (北京เป่ยจิง) มีศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง ชื่อเฉินฮุ้ยเหยิน กล่าวหนักแน่นว่า "ถ้าท่านผู้ใด ได้รับเอกสารนี้ แล้วสามารถส่งต่อๆไป ให้ผู้อื่นอีก ร่วมๆ 10 คนแล้ว แน่นอนที่สุด เราก็จะสามารถ ช่วยเหลือ ชีวิตคนอื่นๆอีก ได้อย่างน้อยๆ ก็ 1 คน” ผมได้ทำสิ่งนี้แล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านสามารถ ทำสิ่งนี้ด้วย ขอขอบคุณมากๆ น้ำมะนาวร้อนนี้ สามารถช่วยชีวิตของคุณ ได้ดีตลอดไป แม้คุณจะยุ่ง แค่ไหนก็ตาม ก็ขอให้คุณเปิดอ่าน ข้อความเหล่านี้ แล้วส่งต่อไป ให้คนที่คุณรักทุกๆคน ได้รับทราบ น้ำมะนาวร้อนนี้ ทำหน้าที่ฆ่าเซลมะเร็ง ให้ท่านนำมะนาว มาผลหนึ่ง แล้วทำการฝาน เป็นแว่นบางๆ นำมันใส่ลง ในแก้วน้ำ เทน้ำร้อนลงในแก้ว ทิ้งไว้สักครู่ น้ำมะนาว ก็จะกลายสภาพ เปลี่ยนเป็น * ด่าง * ทำดื่มมันทุกๆวัน มีผลดีต่อสุขภาพ ของทุกๆคน น้ำมะนาวร้อนนี้ มันจะปลดปล่อย สารรสขม ที่ต้านมะเร็งออกมา นี่คือความคืบหน้า ทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับ การบำบัด รักษาโรคมะเร็ง น้ำมะนาวที่เราแช่เย็นไว้ มันมีแค่วิตามิน ซี อย่างมะเขือเทศ ที่นำมาต้มสุก ก็มีแต่สารไลโปซีน น้ำมะนาวร้อนนี้ มีผลต่อการทำลายซีส และเนื้องอกต่างๆ ได้พิสูจน์ ให้เห็นแล้วว่า น้ำมะนาวร้อน สามารถรักษา โรคมะเร็ง ได้ทุกชนิด ใช้สารสกัด จากมะนาว มารักษาโรคมะเร็ง มาทำลายล้าง เซลมะเร็งร้าย ให้หมดไป น้ำมะนาวร้อน จะไม่ไปทำลาย และกระทบกระเทือน ต่อเซลที่แข็งแรงดีอื่นๆ ในร่างกายเลย นอกจากนี้ ในน้ำมะนาวร้อน ยังมีกรดซีตริก และกรดฟีนอล สามารถไปปรับระดับ ความดันสูง และยังช่วยป้องกัน ไม่ให้เกิดเส้นเลือดตีบ ปรับการไหลเวียน ของเลือดให้ดีขึ้น ลดการจับกัน จนแข็งตัวของเลือด หากอ่านข้อความเหล่านี้จบแล้ว ขอได้โปรดบอกต่อๆ ให้คนอื่นๆ คนในครอบครัว ญาติๆเพื่อนๆ และขอให้ ดูแลสุขภาพ ของตัวท่านเอง ให้มีสุขภาพแข็งแรง อยู่อย่างสม่ำเสมอนะครับยาสมุนไพรมะเร็งMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใช้ข้าวสารวางเพื่อดูดกลิ่นและความชื้นในห้องได้จริงไหมใช้ข้าวสารวางเพื่อดูดกลิ่นและความชื้นในห้องได้จริงไหมMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนผู้สูงอายุ‼️ เมื่อดื่มน้ำ ให้หยุดทุกอย่าง‼️และมุ่งเน้นไปที่การดื่มน้ำอย่างเดียว‼️เตือนผู้สูงอายุ‼️ เมื่อดื่มน้ำ ให้หยุดทุกอย่าง‼️และมุ่งเน้นไปที่การดื่มน้ำอย่างเดียว‼️ ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะสำลักเนื่องจากความเสื่อมของกล้ามเนื้อคอ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไม่เหมือนเดิม ทำให้การปิดเปิดระหว่างหลอดลมที่ไปสู่ปอดและหลอดอาหารที่ไปสู่กระเพาะทำไม่ทันการณ์ ต่อไปนี้คือข้อมูลที่ส่งต่อไปยังเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งเป็นผู้สูงอายุแล้ว โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งยังคงทำงานด้านการแพทย์อยู่ การเสียชีวิตด้วยโรคปอดบวมเนื่องจากการสำลักน้ำดื่ม (นม ซุป ฯลฯ) เป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ‼️ หากคุณมีผู้สูงอายุที่บ้าน โปรดทราบ 1. ใช้หลอดดูดน้ำและก้มศีรษะเมื่อกลืนกิน 2. โปรดดื่มน้ำซุปข้น ๆ แทนน้ำซุป น้ำซุปใสไหลเร็ว และสำลักง่ายเมื่อหายใจไม่ราบรื่น 3. กรุณาอย่าดื่มของเหลวในขณะที่ยังมีอาหารแข็งอยู่ในปากของคุณ และอย่าดื่มขณะเคี้ยว น้ำจะอยู่ในปากนานเกินไปและหากไม่ระวังน้ำจะไหลเข้าท่อลมและทำให้หายใจไม่ออก 4. อย่าพูดหรือหันศีรษะเมื่อคุณมีอาหารหรือน้ำอยู่ในปาก ของเหลวหรืออาหารจะไหลเข้าหลอดลม ถ้าไอจะหน้าแดง คอจะหนา ความดันเลือดสูงจะทะยานขึ้น และบางครั้งการสำลักอาจถึงแก่ชีวิตได้‼️ ตามคำกล่าวที่ว่า คนแก่ควรกลัวสองอย่าง คือ กลัว "สำลัก"‼️ กลัว "ล้ม"‼️ เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณต้องดื่มน้ำอย่างช้า ๆ อย่างตั้งใจ และระมัดระวังผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยภาคอีสานภาคตะวันออก ล้อเลียน เสียดสีมีมไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 3 คนสงสัยมะนาวยังสามารถฆ่าเชลมะเร็งได้ถึง 10000 เท่าล้างมะนาวให้สะอาดใส่ช่องแช่แข็ง พอมะนาวแข็งเอามาขูดทั้งลูกพร้อมผิวให้เป็นฝอย นำมาโรยบนผัก สลัด ไอศกรีม ซุบ ชีริล ก๋วยเตี๋ยว สปาเก็ตตี ข้าว ซูชิ อาหารจานปลา และอื่นๆ ใส่แล้วอาหารเหล่านั้นจะมีรสชาดทีดีอย่างคาดไม่ถึง ส่วนมากเรารู้เพียงแต่ว่าน้ำมะนาวมีวิตามิน C การไม่ทิ้งผิวมะนาว นอกจากไม่เป็นการสิ้นเปลืองยังทำให้เราได้รสชาตอาหารที่แปลกใหม่อีก ผิวมะนาวมีวิตามินมากกว่าน้ำมะนาว 5 ถึง 10 เท่า และนั่นคือสิ่งที่สูญเสียไปกับผิวมะนาว ผิวมะนาวช่วยให้เรายังดูหนุ่มและสาว และยังขับพิษที่มีอยู่ในร่างกายของเรา มะนาวยังสามารถฆ่าเชลมะเร็งได้ถึง 10000 เท่า เหตุที่เราไม่ค่อยรู้ถึงประโยชน์อันมหาสารของมะนาว ก็เพราะบริษัทผลิตยารายใหญ่พยายามปิดบัญชี ตอนนี้คุณควรบอกเพื่อนๆถึงคุณค่าของมะนาว นอกจากรสชาตของมัน มะนาวยังสามารถป้องกันผลข้างเคียงจากคีโมที่ใช้รักษามะเร็ง ผู้คนอีกมากเท่าไหร่ที่ต้องเสียชีวิตจากการที่บริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่ปกปิดข้อมูลนี้เพื่อผลประโยชน์ ของตัวเขาเอง ผลมะนาวได้รับการยืนยันจากบริษัทผลิตยแห่งหนึ่ง หลังการทดลองถึง 20 ครั้งตั้งแต่ปี 1970 ว่าสารที่ผลิตได้จากมะนาวสามารถฆ่าเชลมะเร็งได้ถึง 12 ชนิด เช่น มะเร็งเต้านม ต่อมลูกหมาก ปอด และยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ปาราสิต พยาธิ ความดัน คลายเครียดและความผิดปกติของเส้นประสาท สารที่สกัดได้จากมะนาว ยังให้ผลดีกว่าตัวยา Adriamycin ในคืโมที่ใช้รักษามะเร๋งได้ถึง 10000 เท่า ยังช่วยลดการเติบโตของของเชลมะเร็งร้าย โดยไม่ทำลายเชลที่ดีของร่างกายของผู้ป่วย ดังนั้นมะนาวแช่แข็งขูดฝอยจึงมีประโยชน์ต่อทุกส่านของร่างกาย ช่วยส่งข้อมูลนี้ให้เพื่อนๆเพื่อช่วยชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งยาสมุนไพรมะเร็งMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมีมไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://t.me/ishjay1960/32896 ศาลทหารพิพากษาลงโทษอดีตกรรมาธิการองค์การอาหารและยา สตีเฟน ฮาห์น โดย Michael Baxter -14 มกราคม 202378429 เมื่อวันศุกร์ ศาลทหารตัดสินลงโทษอดีตผู้บัญชาการองค์การอาหารและยา สตีเฟน ฮาห์น ในข้อหากบฏและมีส่วนในการฆาตกรรม หลังจากที่เขายอมรับว่าเขาและสมาชิกคนอื่นๆ ของหน่วยเฉพาะกิจไวรัสโคโรนาของทรัมป์ได้หลอกลวงประธานาธิบดีให้เชื่อว่าวัคซีนโควิด-19 ที่ยังไม่ได้ทดสอบนั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาผลักดันให้ทรัมป์เปิดปฏิบัติการ Warp Speedคำสารภาพของฮาห์นเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ เพราะเขายอมรับความบริสุทธิ์ของตนจนกระทั่งถึงเวลานั้น ทันทีหลังจากที่เขาถูกจับกุมเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ฮาห์นบอกกับเจ้าหน้าที่สืบสวนของ JAG ว่าเขารับใช้ประธานาธิบดีทรัมป์ด้วยศรัทธา ให้เกียรติ และความภักดี โดยยืนยันว่าเขาถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมโดยที่เขาไม่มีความรู้ เขาปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่ในบัญชีเงินเดือนของ Moderna และ Pfizer เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเขามีข้อมูลที่พิสูจน์ว่าการฉีดวัคซีนได้คร่าชีวิตหรือทำให้ผู้เข้าร่วมการทดลอง Covid-19 ป่วยหนัก ฮาห์นกล่าวว่าหลักฐานใด ๆ ที่กล่าวโทษถูกผลิตขึ้นหรือปลอมแปลงขึ้นเพื่อใส่ร้ายเขาในข้อหาก่ออาชญากรรมของคนอื่น นอกจากนี้ เขากล่าวกับผู้สืบสวนว่าเขาไม่สามารถหักหลังประธานาธิบดีทรัมป์ได้ เพราะการทรยศไม่ได้อยู่ใน "นิสัยของเขา" https://realrawnews.com/2023/01/military-tribunal-convicts-former-fda-commissioner-stephen-hahn/.วัคซีนโควิดข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโรคขี้เกียจเดินของผู้สูงวัย. โรคซาร์โคเพเนีย (Sarcopenia)โรคขี้เกียจเดินของผู้สูงวัย. โรคซาร์โคเพเนีย (Sarcopenia) คือ การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ โครงกระดูก และ ความแข็งแรงเป็นผลมาจากการแก่ตัว หรือ การเป็นผู้สูงอายุที่ขี้เกียจเดิน ผู้สูงอายุทุกท่าน ระวัง “ซาร์โคเพเนีย” จะมาเยือนท่าน:- 1. พยายามยืน/เดิน ให้มากขึ้น นั่ง/นอน เท่าที่จำเป็น! 2. หลังอายุ 60 ~ 70 ปี ยากที่จะลดน้ำหนักได้ โดยเฉพาะถ้าไม่ออกกำลังกาย และพึ่งพา การกินให้น้อยลงเพื่อลดน้ำหนัก! กล้ามเนื้อทั้งหมดอาจหายไป มันอันตรายมากนะ! 3. การเดิน การขี่จักรยาน เป็นการออกกำลังกายที่ดี และไม่เจ็บเข่า 4. ถ้าผู้สูงอายุป่วย และเข้าโรงพยาบาล การนอนเพียง 1 สัปดาห์ ผู้สูงอายุ จะเสียมวลกล้ามเนื้ออย่างน้อย 5% ! 5. ปกติผู้สูงอายุ จำนวนมาก ที่ไม่ทำอะไรด้วยตนเอง ที่จ้างผู้ช่วยคอยดูแล คอยพยุง จะยิ่งสูญเสียมวลกล้ามเนื้อเร็วขึ้น ! 6. ตราบใดที่ผู้สูงอายุ พยายามเดิน หรือเคลื่อนไหวด้วยตัวเองบ่อยๆ กล้ามเนื้อทั้งหมดของร่างกายจะเกี่ยวข้อง! รวมไปถึงการกลืนอาหาร ก็จักดีขึ้น 7. โรคซาร์โคเพเนีย นั้น ความจริง น่ากลัวมากกว่าโรคกระดูกพรุน ! เพราะ โรคซาร์โคเพเนียไม่เพียงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูงอีกด้วย 8. ผู้สูงอายุ ที่ไม่ค่อยเดิน หรือ ขาเคลื่อนไหวน้อย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาจะได้รับผลกระทบที่รุนแรง ดังนั้น อย่างน้อย ฝึกนั่งสควอต (ยืน/นั่ง ยอง วันละ 20-30 ครั้ง) หรือ ยืนขึ้นทันที เมื่อก้นของคุณ สัมผัสที่นั่งบนเก้าอี้ วันละ 20-30 ครั้งก็ยังดี ดังนั้น วันนี้ คุณต้องใส่ใจกับ ซาร์โคเพเนีย!แล้วนะ ขึ้น & ลงบันได ... การเดิน ในทุกวัน สามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้! เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น…สำหรับทุกคนเมื่อเป็นผู้สูงวัย... ▪️การศึกษา จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ในเดนมาร์กพบว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ของการไม่เดิน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา สามารถ ลดประสิทธิภาพของขาลงได้ถึง 1 ใน 3 ซึ่งเท่ากับอายุเพิ่มขึ้น 20 - 30 ปี !! งั้นเดินไปเถอะ ▪️เมื่อใด กล้ามเนื้อขาของเราอ่อนแอลง เราจะต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัวในภายหลัง ▪️ดังนั้น การเดินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ▪️ 50% ของกระดูก & 50% ของกล้ามเนื้อ อยู่ในสองขาของเรา ▪️ข้อต่อ & กระดูกที่ใหญ่ที่สุด & แข็งแรงที่สุด ก็อยู่ที่ขาของเรา ดังนั้น พยายามเดินให้ได้ ในทุกวันMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรู้ไว้ใช่ว่าดูไว้ก็ดีค่ะ..https://www.tiktok.com/@huan_kasarong/video/7188415850804677914ผู้บริโภคเฝ้าระวังnofarright• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle3 ความเห็น