14090 ข้อความ
- 1 คนสงสัยเสียดสีมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยภาคใต้มีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 2 คนสงสัยผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมิจฉาชีพสามารถดูดเงินจากบัญชีฝากประจำได้แล้วหรือมิจฉาชีพสามารถดูดเงินจากบัญชีฝากประจำได้แล้วหรือผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยสกมช เผยแพร่รายชื่อแอปปลิเคชันที่เป็นอันตราย จริงไหมสกมช เผยแพร่รายชื่อแอปปลิเคชันที่เป็นอันตราย เสี่ยงต่อการโดนดูดเงินหรือข้อมูลออกจากเครื่อง หากใครมีแอปฯ ดังกล่าว ให้รีบลบออกโดยด่วนผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเสียดสีมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทำไมคนแก่ที่อายุ เกิน70 ปี ไม่กี่ปี ก็จะจากไป ?ทำไมคนแก่ที่อายุ เกิน70 ปี ไม่กี่ปี ก็จะจากไป ? ตอบ มีเหตุผล 3 ประการ ที่เป็นเช่นนั้น ถ้ามีใครที่อายุเกิน 70 ปี และเป็นเช่นนั้น ให้ฟังคลิปนี้แล้วปรับตัวตามก็จะช่วยให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนั้นไปได้ ตามการวิจัยกล่าวว่า อายุ 70 ปีขึ้นไป จะดำเนินชีวิตต่อไปก็ยากยิ่งนัก เพราะในช่วงอายุ 70-75 สภาพร่างกายจะทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก 3 ประการต่อไปนี้ 1 จิตใจแก่ ( จิตใจถดถอย) จิตใจที่ท้อแท้ ถดถอย ทำให้ร่างกายที่ยังไม่ถึงเวลาถดถอย จะถดถอยก่อนเวลาเพราะจิตใจเป็นเหตุ การที่จิตใจท้อแท้ ถดถอยส่งผลให้อารมณ์ ความรู้สึก สภาพร่างกายแย่ไป ไม่สบายใจ ไม่มีความสุข 2. การสูญเสียความมั่นใจ คนอายุเกิน 70 มักขาดความมั่นใจ คิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ ไม่สามารถตามทันโลก ตามทันสังคม มักคิดว่า ถูกสังคมทอดทิ้งเสียแล้ว เขาจะยิ่งรู้สึกว่า ตนเองไร้ค่า ตนเองไม่มีประโยชน์เลย ในโลกที่ก้าวกระโดดนี้ ตนเองไม่สามาถชำระเงินผ่านมือถือ หรือใช้เครืองมื่อที่สังคมกำลังใช้กัน ก้าวไม่ทันโลก ไปไม่เป็น และแย่ยิ่งกว่านั้น ยังรู้สึกถูกลูกหลานทอดทิ้ง คุยไม่รู้เรื่องกับลูกหลาน ตามไม่ทัน ยิ่งทำให้อยากอยู่ตามลำพัง ไม่พูดไม่คุยกับใคร เก็บตัว สถานการณ์แบบนี้ ถ้าปล่อยไป อาจทำให้เจ็บป่วยง่าย เพราะสภาพจิตใจที่หมดหวัง คนกลุ่มนี้ มักคิดถึงคู่ของตนที่จากไป ขาดคู่ ชีวิตไม่เหมือนเดิม เกิดการชงักงัน ดำเนินชีวิตต่อไปได้ยาก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้ ไม่นานจะเห็นคนนึงที่เพิ่งจากไป ไม่นานอีกคนก็จะจากไปด้วย 3. ความรู้สึกสูญเสียตัวตน อายุ เกิน 70 รู้สึกว่า ไม่ใช่คนสำคัญแล้ว ไม่ใช่เป็นผู้นำอีกต่อไป กลายเป็นคนอื่นนำ บอกเขาให้ทำตาม ยิ่งถ้าสุขภาพไม่ดี ต้องให้คนอื่นมาดูแล เขาจะยิ่งรู้สึกว่า ตนเองไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ดังใจ รู้สึกอับอายว่า ตนทำอะไรไม่ได้ สูญเสียเกียรติ และกลายเป็นภาระของลูกหลาน สังคม ไร้ค่า ไร้ความหมาย หดหู่ ลักษณะแบบนี้ ถ้าไม่สามารถปรับสภาพจิตใจของตนแล้ว จะทำให้สภาพการณ์ยิ่งแย่ไปกว่าเดิม ขอเสนอ ทางแก้ไข 6 ประการดังต่อไปนี้ 1 เอาใจใส่คู่ของตน เอาใจใส่ดูแลคู่ของตน รักษาถนอมน้ำใจ สร้างความตื่นเต้น ความน่ารักกับคู่ของตน ไม่ต้องไปสนใจเลี้ยงดูหลานหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับลูกของคุณ จำไว้ว่า คู่ของคุณคือของแท้ ที่อยู่ด้วยกับคุณ เป็นคู่ทุกข์คู่ยากที่แท้จริง ถนอมไว้ 2. มีรังเป็นของตนเอง ( บ้าน) บ้านใหญ่บ้านโต แต่ไม่ใช่ของคุณก็ไม่มีประโยชน์ อายุมากแล้วควรมีบ้านที่เป็นของตนเอง แม้จะเป็นบ้านที่เล็กๆ เอาไว้หลบแดดหลบฝนกำบังพายุ เป็นที่พักพิง สงบ ที่ไม่มีใครจะมาไล่เราไปได้ บ้านของพ่อแม่มักเป็นบ้านของลูก แต่บ้านของลูกอาจไม่ใช่บ้านของพ่อแม่ ดังนั้น คนเราแก่แล้ว ต้องมีบ้านของตนเอง เพราะบ้านเป็นที่สุดท้าย เป็นรังที่ๆเราจะได้พัก เป็นพื้นฐานที่ต่ำสุดที่ทุกคนที่แก่แล้วต้องมี 3. มีเงินก้นถุง คนแก่แล้ว ไม่ควรที่จะแก่แบบมือเปล่า คือ แก่แบบที่ไม่มีอะไรติดตัวเลย แม้เงินจะไม่ใช่แก้วสารพัดนึก แต่การไม่มีเงินหรือสมบัติอะไรเลย เป็นความประมาทที่ให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด แก่แล้ว อย่าขี้เหนียวกับตนเองเกินไป อยากกินอะไร ก็กิน อยากไปเที่ยว ก็ไป อยากมีความสุข ก็ให้ตนเองมีความสุข ต้องรู้จักการใช้ชีวิตให้เป็น แต่อย่าลืม เหลือเงินให้กับตัวเองยามฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้ 4 มีสมบัติชิ้นสุดท้าย สมบัติชิ้นสุดท้าย คือ สุขภาพที่ดี , สุขภาพที่ดี คือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่มีค่าที่สุดของเรา และยังเป็นสมบัติของบุตรหลานด้วย ช่วยลูกหลานประหยัดทั้งเวลาและทรัพย์ เมื่อเรามีสุขภาพที่ดี มีสุขภาพที่ดีแล้ว จึงสามารถมีชีวิตที่ดีได้ และไม่เป็นภาระลูกหลาน 5 มีเพื่อนเก่า เพื่อนเก่านำมาซึ่งความชื่นบาน มีเวลานัดเพื่อนๆ ไปเที่ยวด้วยกัน เดินป่า ท่องเที่ยว เล่นไพ่ ฝึกสมอง คุยสร้างสรรค์ คนแก่แล้ว ทำสิ่งที่เคยฝันอยากทำแต่ไม่มีเวลาทำ ทำตามความฝัน แก่แล้ว มีคู่ มีเพื่อนร่วมกัน เราจะไม่รู้สึก เปล่าเปลี่ยว เหงา แต่ชีวิตมีแต่ความร่าเริง สนุกสนาน มีสุข 6. มีความสุข ตลอดชีวิต เหนื่อยมาทั้งชีวิต เครียดมาตลอด บัดนี้เป็นเวลาที่จะมีความสุข ให้ทุกวันเป็นวันแห่งความสุข 6 ประการที่บอก ถ้าได้ไปลองทำ จะเห็นผลและทุกๆวัน ชีวิตก็จะค่อยๆเปลี่ยนไป และความคิดที่ว่า เราแก่แล้ว ไม่มีความประโยชน์แล้ว ความคิดนี้จะค่อยๆหายไป จะยิ่งหนุ่มยื่งสาวขึ้นทุกวัน รวมทั้งท่าทีในใจ ทัศนคติ อารมณ์ สุขภาพก็จะเริ่มเปลี่ยนไปและดีขึ้นเรื่อยๆมะเร็งMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้คนอายุเกิน 60 ควรได้รับการแชร์เรื่องนี้หมอ Arnaldo Liechtenstein ถามนักศึกษาแพทย์ ในห้องเรียนว่า อะไรคือต้นเหตุของ ความเลอะเลือนในผู้สูงอายุ บางคนตอบว่า เนื้องอกในสมอง บางคนว่า อาการเริ่มต้นของอัลไซเมอร์ หมอบอกว่า No และคำตอบ คือ 3 สาเหตุหลัก 1.เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ 2.ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ 3.การขาดน้ำ มันดูเหมือนเรื่องตลก คนอายุเกิน60 ความรู้สึกกระหายน้ำ จะหายไป และความสม่ำเสมอ ในการดื่มเครื่องดื่ม จะหมดไป และ เมื่อไม่มีคนรอบข้าง คอยย้ำเตือน ให้ดื่มของเหลว เขาก็จะเข้าสู่ภาวะ ขาดน้ำอย่างรวดเร็ว การขาดน้ำ จะมีผลความเสียหาย รุนแรงทั่วร่างกาย อาจจะเกิดความเลอะเลือน ขึ้นทันที ความดันโลหิตลดลง มีอาการใจสั่นเพิ่มขึ้น อาการปวดร้าวในทรวงอก อาจเข้าสู่ภาวะโคม่า อาจถึงแก่ความตาย นิสัย ลืมดื่มน้ำและของเหลว เมื่ออายุ 60 นี้ ทำให้ร่างกายมีน้ำไม่เกิน 50% ของที่ควรจะมี คนอายุ 60 มีแหล่งน้ำสำรอง ในร่างกายน้อย นี่คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ การเข้าสู่ภาวะชรา มันมีความซับซ้อนอยู่ภายใน แม้พวกเขาจะอยู่ใน ภาวะขาดน้ำ แต่เขากลับรู้สึก ไม่ชอบการดื่มน้ำ เหตุเพราะ กลไกในร่างกาย ไม่สมดุลย์ และทำงานได้ไม่ดีพอ สรุป คนอายุเกิน60 มีภาวะการขาดน้ำได้ง่าย ไม่เพียงเพราะ เขามีแหล่งน้ำสำรองน้อย แต่ยังเพราะร่างกายเขา ไม่รู้สึกถึงการขาดน้ำ นี่คือสองคำแนะนำ 1.สร้างนิสัยการดื่มของเหลว ในที่นี้รวมถึง น้ำเปล่า น้ำผลไม้ ชา น้ำมะพร้าว นม ซุป ผลไม้ที่มีน้ำเยอะ เช่นแตงโม เมล่อน พีช สัปปะรด ส้ม ควรจำไว้ว่า ทุกสองชั่วโมง ต้องดื่มกินของเหลวเหล่านี้ 2.คำเตือนสำหรับสมาชิก ในครอบครัว ต้องคอยให้น้ำ และของเหลว แก่คนอายุเกิน 60 ในบ้าน และคอยสังเกตเขาด้วย ถ้าเราสังเกตเห็นว่า เขาปฏิเสธการดื่มน้ำ ถึงสองวัน จะเริ่มเห็นอาการหงุดหงิด หายใจเบาลง ขาดสมาธิ นั่นคือ ภาวะของการขาดน้ำ ช่วยกันกระตุ้น ให้เกิดการดื่มน้ำมากขึ้น ส่งต่อข้อมูลนี้ให้ผู้อื่น เพื่อน และครอบครัว ควรจะได้รับรู้เรื่องนี้ เพื่อมีสุขภาพที่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น ผู้คนอายุเกิน 60 ควรได้รับการแชร์เรื่องนี้Mrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฝังเข็ม รักษาภาวะซึมเศร้า ได้จริงไหมฝังเข็ม รักษาภาวะซึมเศร้าMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเรื่อง mobile application@Pantip เมื่อเช้าได้ข้อเท็จจริงและแนวทางปฏิบัติมาจากฝ่าย cybersecurity แล้วค่ะ เรื่อง mobile application 1) โจรสามารถเข้ามือถือเราผ่านระบบ remote ได้ หากเราอนุญาต ผ่านการ click link ที่โจรส่งมา => ดังนั้นไม่ควร click link ใดๆ 2) แม้ remote มาเข้าหน้าจอได้ โจรก็จะเข้า mobile app ไม่ได้ หากไม่มี Pin นอกจากเจ้าของ app บอกเอง หรือพิมพ์ PIN ไว้ใน note หรือตรงไหนสักแห่งในมือถือที่โจรสามารถมองเห็นจากการ remote ได้ แต่โจรจะไปเอา pin ออกมาเองจาก mobile application ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ พบว่า มี user ที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ที่ยอมบอก PIN ให้กับโจรเอง เพราะรู้เท่าไหม่ถึงการณ์ จึงนำไปสู่การป้องกันข้อที่ 3 ที่กำลังดำเนินการคือ 3) ปี 2023 ทุกธนาคารกำหนดให้ การ remote เข้าหน้าจอมือถือ จะไม่สามารถเข้า mobile application ได้ อดีตอาจเข้าได้หากมี PIN แต่ตอนนี้ ต่อให้มี PIN ก็เข้าไม่ได้ PIN จะทำงานก็ต่อเมื่อเจ้าของมือถือกดจากหน้าจอเองเท่านั้น และต้องไม่ใช่ในระหว่างที่มีการ remote ด้วย 4. สำหรับความเสี่ยงเรื่อง เอาข้อมูลส่วนตัวไปลงแอพใหม่ในมือถือเครื่องใหม่ อดีตอาจทำได้ เพราะธนาคารอำนวยความสะดวกให้คนที่มีอุปกรณ์หลายเครื่องใช้พร้อมกันได้ แต่ตอนนี้ธนาคารใหญ่ๆ ทั้งหมด กำหนดเรื่อง single device แล้ว คือ ลง mobile application ได้ ในมือถือเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น หากจะลงเครื่องใหม่ จะต้อง disable เครื่องเก่าก่อนค่ะ คนที่ถือเครื่องที่ใช้อยู่จะต้องมีการอนุญาตให้ลงเครื่องใหม่ จึงจะลงได้ ดังนั้นค่ะ *แนวทางในการป้องกัน* คือ 1.อย่าคลิกลิงค์ใดๆ จากคนไม่รู้จักและที่ดูดีมีประโยชน์เกินจริง 2.อย่ายอมให้ใคร remote เข้าเครื่องได้ การ remote เจ้าของเครื่องต้อง accept เขาจึงจะเข้าได้ หากเราไม่ accept ผ่านหน้าจอเราเข้าก็เข้าไม่ได้ 3.อย่าพิมพ์ PIN หรือรหัสผ่านอะไรไว้ตาม note หรืออะไรในมือถือ ถ้าจะพิมพ์ก็เอาที่ใกล้เคียง พอให้เราช่วยนึกออกก็พอ อย่าเขียนตรงๆ เพราะโจรจะเดายาก ถ้าเดาผิดหลายครั้ง ระบบก็จะ lock โจรก็ทำรายการไม่ได้ เราอาจจะลำบากไปปลดล็อคกับด้วยตัวเอง แต่ก็ปลอดภัยกว่าให้โจรเข้าระบบเราได้ค่ะ ประมาณนี้ค่ะทุกท่าน ขอให้ปลอดภัยในการใช้ mobile application ค่ะผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลบแอ๊ปธนาคารที่ไม่ค่อยใช้ออกจากโทรศัพท์ เหลือเงินในแอ๊ปธนาคารให้น้อยเท่าที่จำเป็นนะครับลบแอ๊ปธนาคารที่ไม่ค่อยใช้ออกจากโทรศัพท์ เหลือเงินในแอ๊ปธนาคารให้น้อยเท่าที่จำเป็นนะครับ อย่าใช้wi-fi สาธารณะ ร้านค้า โรงแรม สนามบินฯลฯ ใช้อินเตอร์เน็ตของเราเองปลอดภัยกว่า ถ้าไปที่สถานที่นอกบ้าน นอกที่ทำงานของเรา ใช้เพาเวอร์แบงค์ชาร์ทมือถือดีกว่านะครับMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคิด❓ก่อนคลิก📣คิด❓ก่อนคลิก 3 ทางรอด ป้องกันไม่ให้โดนดูดเงิน ล้วงข้อมูล จากแอปควบคุมมือถือ ที่ผู้เสียหายอาจเผลอคลิกลิงก์เปิดสิทธิให้มิจฉาชีพเข้ามาล้วงข้อมูล 📍มือถือเปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์ของเรา ถ้าใครมาล้วงได้แล้ว เงินเราอาจหมดกระเป๋าไม่รู้ตัว แต่หากเผลอไผลคลิกลิงก์ หรือโดนหลอกไปแล้ว ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านแอปและโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับบริการทางการเงินทันที รวมถึงแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องที่ และแจ้งความออนไลน์ที่ www.thaipoliceonlice.com โดยทันทีผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง!ผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง! ตอนนี้คนจีนเป็นโรคมะเร็งสูง! บัญชีดำอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 1. ผงชูรส (MSG) 2. หมากฝรั่ง 3. ตับหมู 4. ผักดอง หัวไชเท้าแห้ง 5. น้ำผลไม้บรรจุขวด 6. ไข่เยี่ยวม้า 7. เต้าหู้เหม็น 8. ปาท่องโก๋ ส่งต่อให้คนที่คุณห่วงใยมากที่สุดด้วยนะครับมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมะเร็ง กับ มะนาว🟣 ถ้ารักตัวเองก็อ่าน.. ถ้าคิดแค่อยู่แค่วันนี้ พรุ่งนี้ไม่สน ไรจะเกิดก็เกิด ก็ปัดผ่านไป... 👉ขอเล่า.. ผมได้ไปตรวจสุขภาพ ทำอัลตราซาวน์ เมื่อปลายปี 59 พบติ่งเนื้อในถุงน้ำดี ยาว 4 มม. หมอบอกไม่เป็นไร ถือว่าผิดปกติเล็กน้อย อีก 6 เดือน ให้ไปอัลตราซาวน์ใหม่ ครั้งที่ 2 รอบนี้พบว่า ติ่งเนื้อ มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6 มม. หมอบอก ยังไม่เป็นไรอีก อีก 6 เดือน ให้ไปอัลตราซาวด์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ผมไม่ได้ไปตามนัด คิดว่าจะไม่ไปแล้ว จนกระทั่ง เลยกำหนดไป 2 เดือนกว่า ลูกๆจึงขอร้องให้ไปตรวจ จึงได้ไปทำ อัลตร้าซาวน์อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 คราวนี้พบว่า ติ่งเนื้อเดิม เพิ่มขนาดขึ้นเป็น 1 ซม. หมอบอก ควรผ่าตัดถุงน้ำดีออก เพราะหากปล่อยไว้ ติ่งเนื้อ อาจกลายเป็น เนื้อร้ายได้ (ผมตรวจที่ โรงพยาบาลเอกชน ที่กรุงเทพฯ) เมื่อสอบถามค่าใช้จ่าย เห็นว่าสูงพอสมควร จึงขอประวัติ ไปรักษาต่อเนื่อง ที่โรงพยาบาลรัฐบาล (ผมใช้สิทธิ์ ข้าราชการ เบิกค่าใช้จ่ายได้) เป็นโรงพยาบาลใหญ่ ในกรุงเทพฯ เช่นกัน หมอดูผลตรวจแล้ว แนะนำว่า หากติ่งเนื้อ มีขนาดใหญ่กว่า 1 ซม. ควรผ่าตัดถุงน้ำดีออก ไม่ควรเก็บไว้ โดยท่านให้เวลาอีก 4 เดือน เพื่อมาอัลตราซาวด์ ซ้ำอีกครั้ง ก่อนผ่าตัด ผมกลับบ้านที่ นครศรีธรรมราช เล่าให้บางคนได้ฟัง หลังพูดคุยกับ คุณณัชชา ปรีชา (ติ้ม) ได้แนะนำ ให้ผมดื่ม น้ำมะนาวในน้ำร้อน ผมจึงทำดื่มมาตลอด โดยใช้มะนาวสด วันละประมาณ ครึ่งลูก หั่นเป็นแว่นบางๆ 4-5 แว่น ใส่แก้วรินน้ำร้อนใส่ วางไว้ให้เย็น ดื่มหมดแก้ว เติมน้ำร้อนใหม่ ดื่มซ้ำไปตลอดวัน แล้วจึงเททิ้ง ในตอนเย็น ทำอยู่ 3 เดือน ก่อนไปพบหมอ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 61 ผมได้มาทำอันตราซาวน์ อีกครั้ง ตามกำหนด และนัดฟังผลตรวจ ในวันที่ 2 พ.ย. 61 ตามนัด หมอบอก ไม่พบเห็น ติ่งเนื้อ ในถุงน้ำดีแล้ว แต่เห็นเป็นก้อนนิ่ว เล็กๆ ขนาดใหญ่สุด 5 มม. หมอถามผมว่า มีอาการอย่างไรบ้าง ผมเล่าตามตรงว่า ไม่มีอาการอะไรผิดปกติเลย หมอจึงว่า ถ้าอย่างนั้น ไม่ต้องผ่าตัด อีก 6 เดือน (28 เม.ย.62) ค่อยมาตรวจซ้ำ เพื่อตรวจเช็ค ว่าเป็นอย่างไรบ้าง จึงบอกมายังทุกท่านว่า ‘การดื่มน้ำมะนาว ในน้ำร้อน’ ตามที่ผม ได้ทดลองด้วยตนเอง ได้ผลดังที่กล่าว ตามบทความข้างล่างนี้ ลองอ่านดูนะครับ อาจจะยาวไปสักนิด แต่มีประโยชน์มาก ขอบคุณเพื่อนณัชชา ปรีชา ที่แนะนำเคล็ดลับดีๆ ขอบคุณ คุณหมอ ที่คิดค้นวิจัย และเผยแพร่ เป็นอย่างสูง (หลังเมษายน 2562 ผลเป็นอย่างไร จะมาแจ้งความคืบหน้า ให้ทราบกัน อีกครั้งนะครับ เสถียร วัฒนาพันธุ์ 3 พ.ย. 61 ------------ **น้ำมะนาวร้อน ในโรงพยาบาลกองทัพบก แห่งกรุงปักกิ่ง (北京เป่ยจิง) มีศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง ชื่อเฉินฮุ้ยเหยิน กล่าวหนักแน่นว่า "ถ้าท่านผู้ใด ได้รับเอกสารนี้ แล้วสามารถส่งต่อๆไป ให้ผู้อื่นอีก ร่วมๆ 10 คนแล้ว แน่นอนที่สุด เราก็จะสามารถ ช่วยเหลือ ชีวิตคนอื่นๆอีก ได้อย่างน้อยๆ ก็ 1 คน” ผมได้ทำสิ่งนี้แล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านสามารถ ทำสิ่งนี้ด้วย ขอขอบคุณมากๆ น้ำมะนาวร้อนนี้ สามารถช่วยชีวิตของคุณ ได้ดีตลอดไป แม้คุณจะยุ่ง แค่ไหนก็ตาม ก็ขอให้คุณเปิดอ่าน ข้อความเหล่านี้ แล้วส่งต่อไป ให้คนที่คุณรักทุกๆคน ได้รับทราบ น้ำมะนาวร้อนนี้ ทำหน้าที่ฆ่าเซลมะเร็ง ให้ท่านนำมะนาว มาผลหนึ่ง แล้วทำการฝาน เป็นแว่นบางๆ นำมันใส่ลง ในแก้วน้ำ เทน้ำร้อนลงในแก้ว ทิ้งไว้สักครู่ น้ำมะนาว ก็จะกลายสภาพ เปลี่ยนเป็น * ด่าง * ทำดื่มมันทุกๆวัน มีผลดีต่อสุขภาพ ของทุกๆคน น้ำมะนาวร้อนนี้ มันจะปลดปล่อย สารรสขม ที่ต้านมะเร็งออกมา นี่คือความคืบหน้า ทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับ การบำบัด รักษาโรคมะเร็ง น้ำมะนาวที่เราแช่เย็นไว้ มันมีแค่วิตามิน ซี อย่างมะเขือเทศ ที่นำมาต้มสุก ก็มีแต่สารไลโปซีน น้ำมะนาวร้อนนี้ มีผลต่อการทำลายซีส และเนื้องอกต่างๆ ได้พิสูจน์ ให้เห็นแล้วว่า น้ำมะนาวร้อน สามารถรักษา โรคมะเร็ง ได้ทุกชนิด ใช้สารสกัด จากมะนาว มารักษาโรคมะเร็ง มาทำลายล้าง เซลมะเร็งร้าย ให้หมดไป น้ำมะนาวร้อน จะไม่ไปทำลาย และกระทบกระเทือน ต่อเซลที่แข็งแรงดีอื่นๆ ในร่างกายเลย นอกจากนี้ ในน้ำมะนาวร้อน ยังมีกรดซีตริก และกรดฟีนอล สามารถไปปรับระดับ ความดันสูง และยังช่วยป้องกัน ไม่ให้เกิดเส้นเลือดตีบ ปรับการไหลเวียน ของเลือดให้ดีขึ้น ลดการจับกัน จนแข็งตัวของเลือด หากอ่านข้อความเหล่านี้จบแล้ว ขอได้โปรดบอกต่อๆ ให้คนอื่นๆ คนในครอบครัว ญาติๆเพื่อนๆ และขอให้ ดูแลสุขภาพ ของตัวท่านเอง ให้มีสุขภาพแข็งแรง อยู่อย่างสม่ำเสมอนะครับยาสมุนไพรมะเร็งMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใช้ข้าวสารวางเพื่อดูดกลิ่นและความชื้นในห้องได้จริงไหมใช้ข้าวสารวางเพื่อดูดกลิ่นและความชื้นในห้องได้จริงไหมMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว