13223 ข้อความ
- 1 คนสงสัยวิธีป้องกันฝีดาษลิงออกห่างจากผู้ติดเชื้อ ผู้ที่สงสัยเสี่ยงติดเชื้อ หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วย ไม่นำมือไปสัมผัสผื่น ตุ่ม หนอง ของผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อ เชื้อไวรัสฝีดาษลิงเป็นเชื้อที่มีโปรตีนหุ้ม ซึ่งสามารถถูกทำลายได้ด้วยแอลกอฮอล์ ดังนั้น เราจึงควรหมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่ การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัย สามารถช่วยป้องกันได้ทั้ง 3 โรค ได้แก่ โรคฝีดาษลิง โรคโควิด-19 และโรคไข้หวัดใหญ่nattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยอาการฝีดาษลิงระยะเวลาฟักตัวของโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) จะใช้ระยะเวลาในการฟักตัวประมาณ 7-14 วัน ผู้ติดเชื้อจะมีอาการแสดงต่างๆ ดังนี้ มีไข้ ไข้สูง ปวดตัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ปวดกระบอกตา ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วร่างกาย อาการต่อมน้ำเหลืองโต ถือเป็นจุดเด่นที่สังเกตได้ของโรคไข้ฝีดาษลิง สามารถเกิดขึ้นได้ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะจุดที่ไปสัมผัสโรคตามผิวหนัง เช่น คอ ไหปลาร้า ข้อศอก รักแร้ เป็นต้น หรือผ่านทางเยื่อบุทางเดินหายใจ จากการพูดคุย สัมผัสใกล้ชิด การจูบ ได้เช่นกัน ซึ่งอาการต่อมน้ำเหลืองโตนี้จะเป็นอาการที่แตกต่างจากโรคไข้สุกใส (Chickenpox) ที่เป็นไข้ออกผื่นลักษณะเดียวกัน มีผื่น ตุ่มหนอง หลังจากที่มีไข้มาประมาณ 3 วัน จะเข้าสู่ช่วงระยะออกผื่น โดยลักษณะผื่นของโรคฝีดาษลิงจะกินเวลานานประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยผื่นมักจะขึ้นที่บริเวณใบหน้า แขน และขา มากกว่าที่ลำตัว โดยลักษณะของผื่นจะเริ่มจาก จุดแดงๆ กลมๆ หลังจากนั้นผื่นจะกลายเป็น ตุ่มน้ำใส และ กลายเป็นตุ่มหนอง และกลายเป็นสะเก็ด ในเวลาต่อมา ซึ่งในช่วงที่ผื่นเป็นตุ่มน้ำใส และตุ่มหนอง จะเป็นช่วงระยะเวลาที่สามารถแพร่เชื้อได้สูงสุด หากผื่นเริ่มตกสะเก็ดแล้ว จะถือว่าพ้นจากระยะการแพร่เชื้อ ผื่นของโรคฝีดาษลิงจะกินลึกถึงชั้นผิวหนังด้านใน ทำให้หลังจากผื่นตกสะเก็ดจะทำเกิดรอยโรคหรือรอยแผลเป็นได้nattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยฝีดาษลิงคืออะไรโรคไข้ฝีดาษลิง หรือ ไข้ทรพิษลิง (Monkeypox) เกิดจาก ไวรัส Othopoxvirus ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับไวรัสโรคไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยพบเชื้อในสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระแต เป็นหลัก โดยค้นพบโรคนี้ครั้งแรกในลิง ซึ่งไปรับเชื้อมาโดยบังเอิญ จึงเป็นที่มาของชื่อโรค “ฝีดาษลิง” โรคฝีดาษลิงแพร่ระบาดอยู่ทั่วไปในทวีปแอฟริกา จนกลายเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic disease) ซึ่งพบอัตราการเสียชีวิต 1-10% ทั้งนี้การเสียชีวิตขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์หลักของโรคฝีดาษลิงnattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยกัญชารูเดอราลิสผู้ตีพิมพ์เรื่องราวกัญชาสายพันธุ์นี้คนแรก คือ นักพฤกษศาสตร์ชาวรัสเชีย ดี.อี. จานิสเชสกี้ (D. E. Janischewsky) เมื่อปี ค.ศ. 1924 (พ.ศ. 2467) กัญชาสายพันธุ์รูเดอราลิสมีแหล่ง กำเนิดบริเวณตอนกลางและตะวันออกของทวีปยุโรป รูเดอราลิส มีลำต้นเตี้ยที่สุดในบรรดา 3 สายพันธุ์ ดูคล้ายวัชพืช ใบกว้างมี 3 แฉก เติบโตเร็ว อยู่ได้ทั้งอากาศร้อนและเย็น ปริมาณสาร THC น้อย (เมื่อเทียบกับสองสายพันธุ์แรก) แต่มี CBD สูง มักนำไปผสมข้ามสายพันธุ์ (hybrid) กับซาติวาและอินดิกา เพื่อให้ได้ คุณสมบัติทางยายาสมุนไพรnattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยกัญชาอินดิกาผู้ค้นพบสายพันธุ์นี้คือ ฌอง-แบ๊บติสท์ ลามาร์ค (Jean-Baptiste Lamarck) ทหารนักชีววิทยา ชาวฝรั่งเศส ผู้ตั้งชื่อและตีพิมพ์ความรู้เรื่องกัญชาสายพันธุ์นี้ในปี ค.ศ. 1785 (พ.ศ. 2328) กัญชาสายพันธุ์อินดิกาได้ชื่อตามแหล่งกำเนิดที่ค้นพบในอินเดียและบริเวณตะวันออกกลาง อินดิกามีลำต้นพุ่มเตี้ย ความสูงเมื่อเติบโตเต็มที่ประมาณ 180 เซนติเมตร ใบกว้าง สั้น สีเขียวเข้ม (เมื่อเทียบกับซาติวา) กิ่งก้านดกหนา ระยะเวลาการเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยว 6-8 สัปดาห์ ชอบที่ร่มและอากาศเย็น อินดิกามีสาร CBD (Cannabidiol) ซึ่งออกฤทธิ์ระงับ ประสาท (Sedative) ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดอาการปวดเรื้อรังยาสมุนไพรnattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยกัญชาซาติวาเพาะปลูก ตั้งโดย คาโรรัส ลินเนียส Carolus Linnæus หรือ Carl Linnaeus) นักพฤกษศาสตร์ชาวสวีเดน โดยจัดวงศ์พืชชนิดนี้ไว้เมื่อปี ค.ศ. 1753 (พ.ศ. 2296) มีแหล่งกำเนิดบริเวณเส้นศูนย์สูตร เช่น โคลัมเบีย เม็กซิโก (ทวีปอเมริกา) ตอนกลางของทวีปแอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซาติวามีลำต้นหนา ความสูงเมื่อเติบโตเต็มที่ประมาณ 6 เมตร ใบยาว เรียว สีเขียวอ่อน (เมื่อเทียบกับอินดิกา) ระยะเวลาการเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยว 9-16 สัปดาห์ ชอบแดดและ อากาศร้อน ซาติวามีสาร THC (Tetrahydrocannabinol) ที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท (Psychoactive) สูงกว่าอินดิกายาสมุนไพรnattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักNature Dream Lemon Balm Booster Pillเน้นส่วนผสมที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันที่กินเข้าไปในแต่ละวัน กินก่อนมื้ออาหารก็จะช่วยให้ระบบเผาผลาญดีขึ้น ช่วยยับยั้งการสะสมของไขมันใหม่และส่งผลให้ร่างกายมีการสะสมไขมันน้อยลง ที่สำคัญตัวนี้ยังดีต่อระบบลำไส้ด้วยนะคะ เพราะช่วยดีท็อกซ์ ช่วยลดอาการท้องผูก แน่นท้องได้ดีเลยทีเดียวลดความอ้วนnattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักCHAME' Sye Sมีส่วนผสมอย่าง Chitosan ที่สกัดจากเห็ดเข็มทอง มาช่วยลดการดูดซึมแป้งและน้ำตาลในมื้ออาหาร มี Mango Juice Powder ที่ช่วยลดความอยากอาหารทำให้ไม่รู้สึกหิวระหว่างวัน ทั้งยังช่วยเผาผลาญไขมันใหม่ ช่วยสลายไขมันชนิดไม่ดีจากร่างกายด้วยลดความอ้วนnattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักDHC Diet Powerช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักจากแบรนด์ดังของญี่ปุ่น อย่าง DHC นั่นเองค่ะ ใครที่เป็นสาวกอาหารเสริมของแบรนด์นี้อยู่แล้วต้องไม่พลาดเลย โดยอาหารเสริมตัวนี้เค้าจะเน้นเรื่องการเผาผลาญไขมันเป็นหลักเลยค่ะ โดยมีส่วนผสมของวิตามินที่ช่วยในการลดน้ำหนักถึง 10 ชนิด ที่จะช่วยลดไขมันในร่างกายได้แบบเร่งด่วน เหมาะกับคนที่รักการกินอาหารประเภทมันๆ ทอดๆลดความอ้วนnattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักVISTRA L-Carnitineตัว VISTRA L-Carnitine นี้ จะช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินในร่างกายเพื่อเปลี่ยนเป็นมวลกล้ามเนื้อ กระตุ้นการหลั่ง Growth Hormone ซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันใหม่และดึงไขมันเก่ามาใช้ ทั้งนี้ยังเหมาะกับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอีกด้วยนะคะ เพราะเค้าจะช่วยซ่อมแซมเซลล์กล้ามเนื้อที่บาดเจ็บหลังการออกกำลังกาย ช่วยลดอาการอ่อนล้าที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อขณะออกกำลังกายได้ด้วยลดความอ้วนnattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักJEJUVITA XS Capsuleมีสารสกัดเด่นๆ อย่าง Chitosan ที่สกัดจากเห็ดเข็มทอง มาช่วยดักจับไขมัน ลดไขมันส่วนเกิน มีสารสกัด L-Carnitine L-Tartrate ที่มาช่วยเร่งการเผาผลาญ หยิบไขมันไปเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ดีสุดๆ นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากชาเขียว สารสกัดจากมังคุด สารสกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่ว และสารสกัดจากผลส้มแขก รวมถึงสารสกัดอีกหลากหลายชนิดใส่มาในแคปซูลเดียวอีกด้วย ถือว่าเป็นสารสกัดที่รวบรวมมาเพื่อช่วยกู้ร่างพังของเราให้ปังลดความอ้วนnattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยวัคซีนแอสตราเซเนก้าShop icon แชทกับเภสัช สั่งยาแบบไม่เสียค่าส่ง ติดตามประจำเดือน และอื่นๆ ที่ไม่มีในเว็บ ติดตั้ง Logo ค้นหาแพ็กเกจ วัคซีนโควิดแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) HDmall สรุปให้! ปิด วัคซีนแอสตราเซเนก้า (AstraZeneca) เป็นวัคซีนป้องกันโควิดชนิดไวรัลเวคเตอร์ (Viral Vector) ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทแอสตราเซเนก้า ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford University) กระบวนการทำงานหลักๆ คือการนำไวรัสชนิดอื่นมาดัดแปลงและฉีดเข้าร่างกาย เมื่อไวรัสเข้าสู่เซลล์ก็จะสร้างโปรตีนหนามที่คล้ายกับโคโรนาไวรัสขึ้นมา ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถตอบสนองเชื้อได้โดยไม่ป่วยเป็นโควิด จากการศึกษาพบว่าวัคซีนแอสตราเซเนก้า มีประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยสูงถึง 70% และมีประสิทธิภาพ 67% ต่อโควิดสายพันธุ์เดลต้าเมื่อฉีดครบ 2 เข็ม แต่ยังคงต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไปวัคซีนโควิดnattikasaunsawatsuga• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอาหารเสริมลดน้ำหนักเพอพีช ไฟเบอร์เพอพีช ไฟเบอร์ ช่วยคุณได้ พี่อั้ม - พี่เอ การันตี พี่อั้ม เป็นคนไม่ชอบทานผักท้องผูกตลอดๆ แต่ขับถ่ายดีขึ้นเพราะดื่ม เพอพีช ทุกวัน‼ลดความอ้วนkulanit1363• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักที่ผสมไซบูทรามีนมีความอันตรายอันตรายจากยาลดน้ำหนักผสม "ไซบูทรามีน"kulanit1363• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวการกินยาลดน้ำหนักของแบงค์สตางค์เป็นเรื่อง! “แบงค์สตางค์” เล่านาทีเฉียดตาย “ใจเต้นรัว – หายใจไม่ออก” หลังกินยาลดอ้วนนับ 10 แบรนด์kulanit1363• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข้าวแช่เย็นลดแคลอรีแนะกินข้าวเย็นลดแคลอรี บีบีซี – นักวิจัยพบวิธีลดแคลอรีในข้าวสวยโดยการหุงด้วยน้ำมันมะพร้าวและแช่ตู้เย็นไว้ครึ่งวันก่อนนำมารับประทาน ข้อมูลจากการศึกษาในข้าว 38 สายพันธ์ุโดยนักวิจัยศรีลังการะบุว่า การหุงข้าวโดยแช่ข้าวสารในน้ำที่เติมน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชาไว้ 40 นาที และเมื่อหุงเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงนำไปแช่ในตู้เย็นอีก 12 ชั่วโมงสามารถลดแคลอรีในข้าวได้ถึงร้อยละ 60 และวิธีหุงและเตรียมข้าวสวยดังกล่าวเป็นการทำให้แป้งในข้าวย่อยได้ยากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายได้รับพลังงานจากข้าวน้อยลงkulanit1363• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข้าวเย็นป้องกันมะเร็ง“ข้าวเย็น” ยิ่งกินยิ่งผอม ยิ่งทาน ยิ่งป้องกันมะเร็งร้ายkulanit1363• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข้าวสุกแช่เย็นดีจริงมั้ยคนขี้เกียจหุงข้าวบ่อยมีเฮ!! ‘ข้าวแช่ตู้เย็นข้ามคืน’ ดีต่อสุขภาพและคนที่กำลังลดน้ำหนัก!!kulanit1363• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกัญชาสามารถปลูกได้แบบถูกกฏหมาย4ตำรวจบุกจับคุณป้าที่ปลูกกัญชา แต่ถูกสั่งเด้งkulanit1363• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยกัญชากัญชาถูกถอดออกจากสิ่งเสพติดแล้ว แต่กัญชาก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเสพติดสารชนิดอื่นkulanit1363• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกัญชาสามารถรักษาโรคได้แพทย์กล่าวว่ากัญชาสามารถนำไปรักษาโรคได้4โรคเท่านั้นkulanit1363• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสามารถควบคุมการติดเชื้อได้จริงไหมUPDATE: อนุทิน ประชุมด่วนผู้บริหาร สธ. ยกระดับเฝ้าระวังฝีดาษลิง ยังไม่ประกาศห้ามเดินทาง มั่นใจพื้นฐานจากรับมือโควิด คุมระบาดได้ . วันนี้ (24 กรกฎาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเวลา 10.00 น. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเตรียมแนวทางรองรับโรคฝีดาษลิง ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข . อนุทินกล่าวว่า เรียกประชุมด่วนเนื่องมาจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern: PHEIC) เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา และก่อนหน้าการประกาศของ WHO ประเทศไทยก็พบผู้ป่วยยืนยันเป็นรายแรก เป็นชาวไนจีเรียที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 และอยู่ในประเทศไทยแบบผิดกฎหมาย . ในส่วนการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันในระยะ 1 เดือนที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม สถานการณ์ยังปลอดภัย แต่ขณะนี้ได้มอบหมายให้ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทั่วประเทศประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ระมัดระวังผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ แต่ยังไม่มีความจำเป็นในการประกาศห้ามผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแต่อย่างใด และการจะประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นโรคติดต่อระดับใดนั้น ในวันพรุ่งนี้ (25 กรกฎาคม) กรมควบคุมโรคจะประชุมร่วมกับคณะกรรมการวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์ และประกาศระดับการเฝ้าระวังต่อไป . อนุทินกล่าวว่า การที่ประเทศไทยดำเนินการในการดูแลป้องกันโรคโควิดมาได้เป็นอย่างดีมาตลอด จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้สามารถดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงได้ และมาตรการป้องกันตนเอง Universal Prevention ที่ประชาชนทำอยู่อย่างต่อเนื่องนี้ ก็จะสามารถป้องกันได้จากทั้งโควิดและฝีดาษลิง . อย่างไรก็ตาม แม้ในทางการแพทย์ขณะนี้จะได้ระบุถึงลักษณะของโรคไม่มีความรุนแรง แต่สภาพที่ปรากฏต่อคนทั่วไปมันดูแล้วน่าตระหนก โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการมีตุ่มน้ำ หนอง ผื่นตามลำตัว ดูแล้วไม่ใช่โรคผิวหนังธรรมดา และหากมีการสัมผัสก็แพร่เชื้อได้ จึงควรจะต้องยกระดับการเฝ้าระวัง มีระบบในการดูแลกรณีที่ผู้ป่วยเข้ามาในโรงพยาบาล ให้พิจารณาว่ากรณีมีผู้ป่วยเข้าข่ายจะขอควบคุมรักษาก่อนได้หรือไม่ รวมถึงดูแลเรื่องความพร้อมของเวชภัณฑ์ วัคซีน มีมาตรการด้านสาธารณสุขในการป้องกันแพร่เชื้อ คัดกรองให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบสาธารณสุขให้ได้ต่อเนื่อง . “ขณะนี้เรากำลังจะไปได้ดีการฟื้นตัวจากโควิด หากไปตามสถานที่ท่องเที่ยวจะเห็นว่าความคึกคักเริ่มกลับมา นักท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งไทยและต่างชาติ เป็นนิมิตหมายอันดี เป็นความสำเร็จที่ทำให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นเราได้” อนุทินกล่าว . ไตรศุลีกล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้อนุทินได้เรียกประชุมด่วนผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข หลังจาก WHO ประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยการประชุมดำเนินการแบบคู่ขนานทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์kulanit1363• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฝีดาษลิงคนที่5ของไทยไทยเจอฝีดาษลิงรายที่ 5 กลับจากดูไบ เร่งติดตาม 2 ต่างชาติ 15 สิงหาคม : นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 5 เป็นผู้หญิงไทย อายุ 25 ปี มีอาการป่วยที่ต่างประเทศ ก่อนเดินทางกลับมาจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงไทยวันที่ 14 ส.ค. เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้คัดกรอง ตรวจสอบ และสังเกตอาการ พบว่าเข้าข่ายสงสัย เนื่องจากสังเกตเห็นตุ่ม จากการซักประวัติก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงพามารับการตรวจวินิจฉัยใน รพ. โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นโรคฝีดาษลิง เข้าสู่การรักษาตามระบบปกติ ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามคนที่นั่งบนเครื่องบินใกล้กัน 2 ราย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ เพื่อแนะนำให้มาตรวจต่อไปkulanit1363• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฝีดาษลิง"ดร.อนันต์" เผยพบกรณีสุนัขติดฝีดาษลิงเป็นครั้งแรก โดยติดจากอยู่ใกล้เจ้าของที่ป่วยโรคนี้ ชี้อาการป่วยคล้ายมนุษย์kulanit1363• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนโควิด19UPDATE: ผลวิจัยเผย วัคซีน Moderna อาจมีประสิทธิภาพป้องกันเดลตาเหนือกว่า Pfizer ขณะที่โอกาสติดเชื้อหลังฉีดวัคซีนมีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป . บรรดานักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกยังคงเดินหน้าศึกษาวิจัยเกี่ยวกับไวรัสโควิดเพื่อที่จะค้นหาวิธีการรักษาโรคระบาดใหญ่ที่คร่าชีวิตประชากรโลกไปแล้วกว่า 4 ล้านคน โดยสำนักข่าว Reuters ได้สรุปสาระสำคัญจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดเกี่ยวกับโควิดไว้ดังนี้ . วัคซีนของ Moderna อาจป้องกันสายพันธุ์เดลตาได้ดีที่สุดในบรรดาวัคซีนป้องกันโควิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน . วัคซีนชนิด mRNA จาก Pfizer และ BioNTech อาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าวัคซีนของ Moderna เมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา ตามรายงานสองฉบับที่เผยแพร่บน medRxiv ซึ่งเป็นแหล่งรวมงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพก่อนตีพิมพ์ (Preprint) โดยรายงานวิจัยที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ระบุว่า ในการศึกษาผู้ป่วยมากกว่า 50,000 รายในระบบ Mayo Clinic Health System นักวิจัยพบว่า วัคซีน Moderna มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อที่ 76% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่สายพันธุ์เดลตากลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ลดลงจากระดับ 86% ในช่วงต้นปี 2564 ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน นักวิจัยกล่าวว่าประสิทธิภาพดังกล่าวของวัคซีน Pfizer-BioNTech ลดลงเหลือ 42% จาก 76% ดร.เวนกี ซูนดาราราจัน จาก nference บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลในแมสซาชูเซตส์ ซึ่งเป็นหัวหน้าการวิจัยของ Mayo Clinic กล่าวว่า แม้วัคซีนทั้งสองชนิดยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยหนักจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ผู้ที่ได้รับวัคซีน Pfizer หรือ Moderna เมื่อช่วงต้นปีนี้ อาจจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีน Moderna เป็นบูสเตอร์โดสในไม่ช้านี้ . นอกจากเดลตาแล้ว นักวิทยาศาสตร์กำลังจับตาดูการกลายพันธุ์ของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ . ในการศึกษาอีกฉบับหนึ่งที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในเมืองออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา พบว่า ผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีน Moderna สร้างการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสูงกว่าผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีน Pfizer-BioNTech โดยเฉพาะภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสายพันธุ์ที่น่ากังวล แอน-โคล้ด จินกราส จากสถาบันวิจัย Lunenfeld-Tanenbaum Research Institute ในโทรอนโต ซึ่งเป็นผู้นำการศึกษาวิจัยดังกล่าว ระบุว่า ผู้สูงอายุอาจจำเป็นต้องได้รับวัคซีนกระตุ้น และอาจต้องเสริมมาตรการป้องกันอื่นๆ ขณะที่โฆษกของ Pfizer แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานการวิจัยทั้ง 2 ฉบับว่า “เรายังคงเชื่อว่า... อาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพิ่มภายใน 6-12 เดือนหลังจากฉีดครบ 2 เข็มแล้ว เพื่อที่จะรักษาระดับการป้องกันสูงสุด” . การติดเชื้อหลังฉีดวัคซีนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เมื่อฉีดผ่านไปนานหลายเดือน . ข้อมูลใหม่เผยให้เห็นว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีน Pfizer-BioNTech เข็มที่ 2 นาน 5 เดือนขึ้นไป มีแนวโน้มที่จะติดโควิดมากกว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มยังไม่ถึง 5 เดือน นักวิจัยได้ทำการศึกษาในผู้ใหญ่ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเกือบ 34,000 คนในอิสราเอล เพื่อดูว่ากลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนแล้วยังติดเชื้อโควิดหรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่า พบผู้ติดเชื้อโดยรวม 1.8% ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมวิจัยได้เผยแพร่รายงานบน medRxiv โดยยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิ รายงานระบุว่า ผู้เข้าร่วมการทดลองทุกช่วงอายุมีโอกาสติดเชื้อสูงขึ้นเมื่อได้รับวัคซีนเข็ม 2 ไปแล้วอย่างน้อย 146 วัน ขณะที่ในบรรดาผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 60 ปีนั้น มีโอกาสติดเชื้อสูงขึ้นเกือบ 3 เท่าหลังฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายไปแล้วอย่างน้อย 146 วัน อย่างไรก็ดี ดร.ยูจีน เมอร์ซอน ผู้ร่วมเขียนรายงานวิจัย จาก Leumit Health Services ในอิสราเอล กล่าวว่า “มีผู้ป่วยน้อยมากที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และยังเร็วเกินไปที่จะประเมินความรุนแรงของการติดเชื้อใหม่เหล่านี้ในแง่ของการเข้าโรงพยาบาล ความจำเป็นในการใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือการเสียชีวิต” เขากล่าวเสริม “เรากำลังวางแผนที่จะทำการวิจัยนี้ต่อไป” . ถุงไข่ในรังไข่ไม่ได้รับอันตรายจากภูมิคุ้มกันโควิด . การศึกษาหนึ่งเผยว่า ถุงไข่ในรังไข่จะไม่ได้รับอันตรายจากภูมิคุ้มกันโควิด ไม่ว่าภูมิคุ้มกันเหล่านั้นจะเกิดจากการติดเชื้อหรือการฉีดวัคซีนก็ตาม นักวิจัยชาวอิสราเอลวิเคราะห์ของเหลวจากถุงรังไข่หรือถุงน้ำในผู้หญิง 32 คน ที่มีการเก็บไข่เพื่อนำมาผสมกับอสุจิในหลอดทดลอง โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ผู้หญิงที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและไม่ติดโควิดจำนวน 14 คน และอีกกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ที่หายจากโรคโควิด หรือได้รับวัคซีน Pfizer-BioNTech มาแล้ว และใน 2 กลุ่มนี้ นักวิจัยพบภูมิคุ้มกันไวรัสโควิดในถุงน้ำ ผลการทดลองพบว่า ทั้งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างกัน เมื่อพิจารณาจากความสามารถของถุงน้ำในการสร้างฮอร์โมนเพศหญิง บำรุงและหล่อเลี้ยงไข่ ซึ่งจะส่งผลให้ได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพดี นอกจากนี้จากการศึกษาไข่ที่ได้จากผู้ป่วยแต่ละคนก็ไม่พบความแตกต่างในอัตราของตัวอ่อนที่มีคุณภาพดี จากการเปิดเผยชอง ดร.ยาคอฟ เบนทอฟ จาก Hadassah-Hebrew University Medical Center ในกรุงเยรูซาเลม ซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียนรายงานที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Human Reproduction เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาkulanit1363• 2 ปีที่แล้ว