14073 ข้อความ
- 1 คนสงสัยเหงื่อออกที่มือ เสี่ยงเป็นมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโรงเรียนอนุบาลปัตตานี สามารถคลุมฮีญาบไปโรงเรียนได้แล้ว จริงหรือไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกทม. งดบริการงานทะเบียน ทำบัตรแรงงานต่างด้าว ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 จริงหรือ ?ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยห้ามซื้อ-ขายประทัดในช่วงเดือนรอมฎอน จริงหรือไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยญี่ปุ่นมีตู้หยอดเหรียญน้ำแร่มหัศจรรย์ฆ่าเชื้อโควิดไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยลูกองคมนตรีถูกจับที่อเมจริงไหมไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมีมไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยในวันที่ 17 เมษายน 1955 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล หมอพบว่าหลอดเลือดเอออร์ตาส่วนท้องปริแตก ทำให้เลือดไหลในช่องท้อง เขาต้องได้รับการผ่าตัด ทว่าอัจฉริยะของโลกบอกหมอว่าเขาไม่ปรารถนาจะรับการผ่าตัดใด ๆ เขากล่าวว่า “ฉันต้องการจากไปเมื่อฉันต้องการ มันไร้รสชาติที่ต่ออายุอย่างผิดธรรมชาติ ฉันทำงานของฉันจบแล้ว ถึงเวลาไปแล้ว ฉันจะจากไปอย่างสง่างาม” แล้วไอน์สไตน์ก็จากโลกไปในวันรุ่งขึ้น วัยเจ็ดสิบหก ง่าย ๆ เช่นนั้น เป็นเรื่องอัตโนมัติอย่างยิ่งสำหรับหมอและญาติคนไข้ที่จะยืดชีวิตคนไข้ให้อยู่ในโลกนานที่สุด โดยความคิดว่าการมีชีวิตยืนยาวที่สุดเป็นเรื่องดี ต่อให้รู้อยู่แก่ใจว่าการอยู่ในโลกนานกว่ากำหนดโดยมีสายช่วยชีวิตระโยงระยาง เป็นความทุกข์ที่เราสร้างขึ้นเอง กระนั้นก็ยังทำทุกวิถีทางเพื่อต่อชีวิตให้ยาวที่สุด คนไข้จำนวนมากในโลกมีชีวิตอยู่ในสภาพตายไปครึ่งตัว บางคนอยู่ในสภาวะโคม่านาน 10-20 ปี บางคนสมองตายแต่ยังหายใจอยู่ เพราะญาติไม่ยอมให้ถอดเครื่องช่วยชีวิต เหล่านี้เกิดขึ้นเพราะค่านิยมและความเชื่อว่า “ชีวิตเป็นของมีค่า” ไอน์สไตน์กลับมองว่า ‘ความมีค่า’ กับ ‘ความยาว’ ของชีวิต ไม่ได้อยู่ในสมการเดียวกัน เขารู้ว่าความยาวของเวลาเป็นเพียงมายา เพราะเวลาเป็นเพียงค่าสัมพัทธ์ ไอน์สไตน์สมแล้วที่เป็นคนฉลาดที่สุดคนหนึ่งในโลก มิเพียงจะเข้าใจหลักฟิสิกส์อย่างดีเยี่ยม หากยังสามารถใช้หลักฟิสิกส์ในชีวิตจริง! เข้าใจสมการชีวิตอย่างลึกซึ้ง และเขาก็ใช้ชีวิตเช่นแนวคิดเรื่องสัมพัทธภาพของเขา! ........... แนวคิดเรื่องสัมพัทธภาพอาจฟังดูซับซ้อนเกินเข้าใจ แต่เมื่อมองในมุมการเข้าถึงธรรมของพุทธ จะเข้าใจได้ง่ายขึ้นมาก เพราะปรัชญาพุทธอธิบายหลักการใช้ชีวิตให้มีทุกข์น้อยที่สุดได้โดยการละวางทวิลักษณ์ เนื่องจากมันเป็นมายา เป็นมายาอย่างไร? ชายคนหนึ่งเที่ยวรอบโลกอย่างสนุกสนานนานหกเดือน เขารู้สึกว่าเวลาหกเดือนสั้นอย่างยิ่ง แต่หากเขาต้องโทษจำคุกหกเดือน หกเดือนเท่ากันนั้นจะยาวนานอย่างยิ่ง นี่ก็คือสัมพัทธภาพ มันเกิดจากการเปรียบเทียบเวลาที่บวกความสนุกกับเวลาที่บวกความไม่สนุก ย่อมรู้สึกว่าแตกต่าง ทั้งที่เป็นเวลาเท่ากัน สมมุติว่าธรรมชาติสร้างให้มนุษย์ทั้งโลกมีอายุเฉลี่ย 30 ปี เราจะเคยชินกับตัวเลขนี้ และรู้สึกว่าถ้าใครอายุถึง 40 คือยืนยาวมาก แต่ใน พ.ศ. นี้ อายุเฉลี่ยของมนุษย์คือ 70-80 ปี ตัวเลข 40 ก็กลายเป็น ‘สั้น’ ขึ้นมาทันที ทั้งที่เป็นระยะเวลาเท่ากัน ถ้าวันหนึ่งในอนาคต อายุเฉลี่ยของมนุษย์สูงขึ้นถึง 150 ปี ตัวเลข 80 ที่เรารู้สึกว่า ‘ยาว’ ในวันนี้ก็จะกลายเป็น ‘สั้น’ ขึ้นมาทันที ความยาว-สั้นจึงเป็นสัมพัทธ์และเป็นมายา เมื่อเราเอามือแตะน้ำเดือด เรารู้สึกว่ามัน ‘ร้อน’ เมื่อแตะน้ำเย็น เรารู้สึกว่า ‘เย็น’ แล้วเราก็ตั้งเป็นกฎขึ้นมาว่า 100 องศาเซลเซียสคือร้อน 0 องศาคือเย็น ทว่าสัตว์น้ำหลายพันธุ์ซึ่งอาศัยบริเวณปล่องภูเขาไฟระอุใต้มหาสมุทรกลับอยู่ในน้ำเดือดปุดอย่างสบาย พวกมันไม่รู้สึกว่าบ้านน้ำเดือดของมันร้อนแต่อย่างไร เพราะพวกมันชินของพวกมันอย่างนั้น ถ้าพวกมันรู้สึก ‘ร้อน’ สุดทนทาน ก็คงย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นแล้ว ค่า ‘ร้อน’ จึงไม่สัมบูรณ์ ไม่ตายตัว ไม่ใช่ความจริงสูงสุด เพราะเราชาวมนุษย์กับสัตว์ใต้ทะเลพวกนั้นเห็นต่างกัน เราบอกว่าร้อนเพราะเราใช้มาตรฐานความเคยชินของเราวัด พวกมันบอกว่าไม่ร้อนเพราะใช้มาตรของพวกมันวัด ร้อน-เย็นจึงเป็นสัมพัทธ์และเป็นมายาเช่นเดียวกัน ทุกข์-สุขก็เป็นมายา ไม่ใช่ค่าตายตัว เป็นสัมพัทธภาพขององค์ประกอบต่าง ๆ ที่เราวัดด้วยความรู้สึกและอารมณ์ในแต่ละช่วงเวลา คนคนหนึ่งเห็นว่าเรื่องหนึ่งเป็นทุกข์มาก อีกคนหนึ่งมองเรื่องเดียวกันว่าทุกข์น้อยหรือไม่ทุกข์เลย มันไม่มีค่าสัมบูรณ์อย่างแท้จริง สัมพัทธภาพในโลกนี้ก็คือทวินิยม ร้อน-เย็น ยาว-สั้น เหล่านี้เป็นสิ่งที่เรากำหนดให้ตัวเองรู้สึกเองทั้งสิ้น โดยใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐาน เวลาต่างกันก็ทำให้มายาเดิมส่งผลต่างกันได้ เช่น ทุกครั้งที่รถคันอื่นแซง จะรู้สึกโกรธ แต่หากวันนั้นได้รับโบนัสห้าเดือน ถูกรถแซง อาจไม่รู้สึกโกรธอย่างที่เคยเป็น สามารถฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ด้วยซ้ำ ความรู้สึกที่เรียกว่า ‘ทุกข์’ มีหลายระดับ ขึ้นกับความรู้สึกและประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน ไม่เหมือนกันทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกัน ยึดมายาเป็นค่าสัมบูรณ์เมื่อไร เราก็ทุกข์เมื่อนั้น ความรู้สึกและความเคยชินทำให้เรามองข้ามข้อเท็จจริง แล้วติดฉลากสิ่งที่เราไม่ชอบว่า ‘ปัญหา’ ชีวิตก็คือสัมพัทธภาพ ความยาว-สั้นของเวลาชีวิตเป็นเพียงมายา จะอยู่ในโลกนานขึ้นอีกห้าปี สิบปี อาจไม่แตกต่างอะไร หากเวลาที่เรามีนั้นไร้คุณภาพหรือไร้ความหมาย ดังนั้นถ้าหลงคิดว่าตัวเลขอายุมาก ๆ คือดี ก็อาจหลงทาง มองคุณค่าของชีวิตผิดเพี้ยนไป ลองถามตัวเองว่าหากมีชีวิตยาวขึ้นอีกวันสองวัน ร้อยวัน สร้างความแตกต่างอะไรหรือไม่ หากไม่แตกต่าง จำนวนวันบนโลกก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เร็วหรือช้าไม่มีผลอะไรต่อโลกอีกแล้ว บางทีความยาวของชีวิตอาจไม่สำคัญเท่าว่าช่วงชีวิตที่มีลมหายใจ เจ้าของชีวิตทำอะไร ใช้ชีวิตอย่างไร ที่ทำให้การมีชีวิตอยู่บนโลกของเขานั้นดีกว่าการไม่มี เมื่อเข้าใจสัมพัทธภาพแห่งชีวิต เราก็จะเข้าใจมายาอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก และเมื่อนั้นเราก็อาจสามารถกำหนดชีวิตของเราได้เอง เมื่อพบทุกข์ ก็สามารถพิจารณาว่ามันเป็นเพียงระดับความรู้สึกที่เราสร้างขึ้นมาด้วยความเคยชินหรือด้วยประสบการณ์เก่า เมื่อเข้าใจเราก็อาจสามารถลดมาตรวัดความทุกข์ลง ทำให้รู้สึกแย่น้อยลงทั้งที่เป็น ‘ทุกข์’ อันเดิม ดังนั้นเวลาสุขอย่าลืมตอนทุกข์ เวลาทุกข์อย่าลืมตอนสุข เวลาเศร้าอย่าลืมตอนหัวเราะ เวลาหัวเราะอย่าลืมตอนเศร้า เวลาซึมอย่าลืมตอนสดชื่น เวลาเหงาอย่าลืมตอนมีเพื่อน ฯลฯ เพราะทุกอารมณ์เป็นเรื่องเดียวกัน ต่างที่ว่าจะไปจับตรงช่วงไหนของเรื่องนั้น . จากหนังสือ #ความสุขเล็กๆก็คือความสุขไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทากันแดดสองข้อนิ้วความสวยความงามไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมะขามป้อม สร้างภูมิคุ้มกัน สู้ภัยโควิด-19มะขามป้อม สร้างภูมิคุ้มกัน สู้ภัยโควิด-19musleem55• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวดีสำหรับมุสลิมในไทย สามารถไปทำอุมเราะห์ที่ซาอุดีอาระเบียได้ในราคาถูกลงแล้ว จริงหรือไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดังสนั่นโลก ไทยเข้าสู่กลียุค สามพลเอกแห่งกองทัพไทยถูกจับติดคุกอยู่ USA ฉลาดไหม ?? เอาลูกปืนและอาวุธ ที่ ทบ.ไทยผลิตไปขายพม่าแต่ไม่ขอรับเป็นเงินสด ขอรับเป็นยาเสพย์ติดแทน แล้วเอายาเสพย์ติดนี้ส่งออกไปขายใน USA ร่วมกับแกงค์ยากูซ่า เพิ่งโดน ยากูซ่ากลับใจ ร่วมมือกะ ตร สหรัฐฯ + FBI ลวงมาเที่ยว USA จับทันทีคาโรงแรมที่พัก ปัจจุบันติดคุกอยู่ใน USA ตั้งแต่ 5/เมษายน/2565 คนนึงคือ พลเอก สุขสันต์ จุลานนท์ อายุ 53 ปี ลูกชาย พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรีไทย พร้อมเพื่อน ยศ พลเอกอีกสองคน เตรียมรับพายุเศรษฐกิจโต้ตอบจาก USA จากการที่สามพลเอกไทยค้ายาเสพย์ติดให้ดีเถอะจ้า ทันควัน เริ่มจากห้ามกล้วยไม้ไทยไป USA ทันที ยอดส่งออกหายทันทีปีละหลายพันล้าน ปัจจุบันโรงเลี้ยงกล้วยไม้เริ่มปิดร้างเพียบ คนสวนกล้วยไม้ ตกงานระนาวนับพันคน ต่อมาก็ห้ามมะพร้าวน้ำหอมและผลไม้ไทยไป USA ตอนนี้มะพร้าวน้ำหอมเหลือราคาลูกละ 1-2 บาทจ้า ทั้งที่เข้าฤดูร้อน USA เคยผลิตไม่พอขาย ในราคาขายปลีกลูกละ 3-5 เหรียญสหรัฐ ล่าสุด สส.มะกันเสนอ สภาฯห้ามนำเข้าสินค้าไทยทั้งหมด อ้างกองทัพไทยเน่าสนิท ค้ามนุษย์ ค้ายาเสพย์ติด นายพลรวยอู้ฟู่ แถมโยงใยโรงเรียนเตรียมทหารจากรุ่นสู่รุ่น ทหารอยู่เหนือกฎหมาย แม้นายกฯก็เป็นทหาร แต่งตั้ง สว ขี้ข้ามาเลือกตนเองเป็นนายกฯหลังโค่นล้มรัฐบาลเลือกตั้ง ชักชวน EU แบนสินค้าไทย อ้างเยาวชนอเมริกัน ยุโรป ติดยาเสพย์ติดจากไทยเยอะมาก แถมทำไงก็แก้ไขไม่ได้เพราะนายพลไทยค้าเสียเอง ...................................... *..นายพลกะลานีเซียร่วมกับแก๊งค์ยากูซ่าค้าอาวุธข้ามชาติ+ยาเสพติดข้ามชาติ..* *..3นายพลแห่งกองทัพไทยค้าอาวุธและค้ายาเสพติดข้ามชาติร่วมกับแก๊งค์ซากูซ่า ถูกตำรวจสหรัฐอเมริกาจับติดคุก ซึ่งมีนายพลตระกูลจุลานนท์ร่วมแก๊งค์ด้วย(กองทัพไทยยอมรับแต่แถลงข่าวอย่างบิดเบือน.."นายพลกะลานีเซียค้ายา-ค้าอาวุธ-ค้ามนุษย์ รวมทั้งอาชีพสีเทาเป็นอาชีพหลักและไม่ใช่ครั้งแรก")..* https://youtu.be/ah-YAe_IFLEข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยห้ามกินฟ้าทะลายโจรกับยาฟาวิพิราเวียร์ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโครงการล้างแอร์ช่วยชาติ” มอบสิทธิ์ล้างแอร์ฟรีให้กับคนไทย 10,000 สิทธิ์ ทั่วประเทศ จริงหรือ🔴 กฟผ. ร่วมกับ สมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทย ลงนาม MOU “โครงการล้างแอร์ช่วยชาติ” มอบสิทธิ์ล้างแอร์ฟรีให้กับคนไทย 10,000 สิทธิ์ ทั่วประเทศ มุ่งเป้าประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เริ่มลงทะเบียนรับสิทธิ์ 18 เมษายน เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าจะครบ 10,000 สิทธิ์ทั่วประเทศ จำกัดสิทธิ์ครัวเรือนละ 1 สิทธิ์ต่อการล้างแอร์ฟรี 1 เครื่อง สนใจลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิ์ผ่านทางเว็บไซต์ กฟผ. www.egat.co.thMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น