14068 ข้อความ
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย(sos) อยากจะมาแชร์ประสบการณ์อันโหดร้าย เพื่อเตือนคนอื่นๆ เรื่องมีอยู่ว่า วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรากลับบ้านไปไหว้ป๊า (เทศกาลไว้พระจันทร์ ต้องไหว้ป๊าล่วงหน้า 1 วัน) พอไหว้เสร็จ ก็กินข้าวกับครอบครัว และด้วยความที่นี้เป็นคนชอบกินผลไม้ทุกอย่างในโลก ก็เด็ดผลไม้กินไปเรื่อยๆ จนมาถึง ลองกอง พอเราจับไปที่ลองกอง ยังไม่ทันเด็ดกิน รู้สึกเหมือนหนังสติ๊กดีดใส่นิ้วอย่างแรงมาก(!?) จนเราสบัดมือ เพื่อเอาสิ่งที่เกาะนิ้วอยู่ออก ตามสัญชาตญาณ เราไม่ทันมองว่า มันคือตัวอะไร รู้แต่พี่ชายตีมันตาย ณ ตอนนั้นเลย เรารู้แต่ว่า หลังจากสบัดมือปุ๊ป เราก็ปวดมากเลย ปวดทันที แบบน้ำตาไหล จนพี่ชายต้องพาไปส่งที่ รพ. เข้าไปแผนกฉุกเฉิน ระหว่างทางคือร้องไห้ตลอดเวลา โดนกัดที่ปลายนิ้ว แต่มันปวดลามมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนปวดทั้งมือ ระหว่างรอหมอ คือปวดถึงรักแร้ ขยับไม่ได้เลย หมอมาถึง ม๊ากับพี่ชายบอกว่าโดนแมงป่องต่อยมา แต่ตัวมันเล็ก ยังสีขาวๆ อยู่ หมอเลยฉีดยาชาบล้อคความปวด ฉีดยาแก้ปวดให้ แล้วให้ดูอาการก่อน(..) แต่เชื่อมั้ยว่า มันแทบไม่ช่วยอะไรเลย ผ่านไปแล้ว 30 นาที ปวดมากอีก มากแบบดิ้นบิดตัวไปมา หมอต้องฉีดยาอีก แล้วให้กลับบ้าน บอกว่า ถ้าไม่ไหวให้กลับมาแอดมิทฯ เราเลยกลับมา กินยาแก้แพ้ และแก้ปวด แต่คือมันก็ช่วยได้นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ มันปวดแบบ จนร้องไห้ ปวดที่สุดในชีวิต คือผ่านมีดหมอมานักต่อนักก็เบากว่านี้ (!?) ม๊าเห็นเราเจ็บ นางก็เจ็บแทน เปิดเน็ตดู ลองทำทุกอย่าง มะนาว ผงชูรส ภูมิปัญญาพื้นบ้านอะไร ทำหมด ก็เหมือนเดิม จนช่วงค่ำ ม๊าบอกว่าไม่รู้ทำไงแล้ว ให้เราอัดยาน้ำเขากุยแก้ร้อนใน แล้วโป๊ะบัวหิมะ ในตู้เย็นทิ้งไว้ เหลือเชื่อ คือมันดีขึ้นเลย แบบดีขึ้นชัดมาก จนเราหลับได้ (คือปวดจนเพลียอยู่แล้วด้วย) แล้วก็หลับยาวจนเช้า อาการถึงค่อยๆ ดีขึ้นมาเรื่อยๆ เพิ่งมารู้ทีหลังว่า วันที่เราป่วย พี่ชายกับหลานชายช่วยกันค้นหาข้อมูลว่า แมงป่องมันมีกี่ชนิดกันแน่ ทำไมเราปวดมากขนาดนี้ เพิ่งรู้ว่าที่เราเข้าใจว่ามันตัวเล็ก มันเด็ก คือไม่ใช่ แต่แมงป่องพันธ์นี้ มันตัวเต็มวัยคือขนาดเท่านี้ พิษรุนแรงกว่าตัวใหญ่ (สีดำๆ หรือแมงป่องงวงช้าง) 20เท่า เป็นพันธ์ที่มีพิษรุนแรงมากที่สุดในไทย ชอบอยู่ในผลไม้เช่น เงาะ ลำไย และลองกอง ที่สำคัญ ไม่มียาขับพิษ ทำได้แค่ทนทรมานจนพิษหมดไปเอง (แต่บัวหิมะจากประเทศจีนคือช่วยได้ดีจริงนะ) (two thumbs up) เพื่อนๆ คนไหน ที่ชอบกินผลไม้ประเภทพวงต่างๆ ควรระวังให้มากๆ ใส่ตะกร้าล้างให้แน่ใจ ว่าไม่มีแมลงพวกนี้อยู่นะ นี่คือเข็ด ไม่กล้าจับลองกองเลย โดนแล้วเข็ดไปนาน(..)(dazed face)เตือนคนรอบๆ ตัวด้วยจ้ะ (ขอร้อง) ปล.ขอบคุณม๊า ที่ดูแลหนูอย่างดีมาก มากจริงๆ เวลาหนูเจ็บป่วยน๊า เลิฟยูว ❤️❤️ ปล.รูปประกอบจาก น้ำหวาน(..)(big smile)ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยงานจะยุ่งขนาดไหน ก็ต้องอ่าน เพียงกินแค่ส้มโอ ก็ทำให้เกือบเสียชีวิตได้ อันตราย...จำเป็นต้องระวัง!! วันนี้ที่เมืองเจียงซี มีผู้สูงวัยคนหนึ่งกินส้มโอเข้าไป หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงรู้สึกผิดปกติ ที่บ้านจึงพาไปโรงพยาบาล ขณะที่เดินทางไปโรงพยาบาล ผู้สูงวัยก็รู้สึกโลกหมุน หัวใจเต้นเร็ว และก็เป็นลมไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาลตรวจร่างกายเรียบร้อย แพทย์ที่รักษาดูอาการได้วิเคราะห์สาเหตุออกมาว่า ส้มโอไม่มีพิษภัยต่อร่างกาย ถ้าจะมีปัญหาคือก่อนกินส้มโอ ผู้สูงวัยได้กินยา ลดความดัน แพทย์ได้แนะนำว่า ส้มโอมีผลต่อการทำงานของยา ลดความดัน ทำให้ยา กลายเป็นพิษร้ายแรงต่อร่างกายได้ ภายในส้มโอมีสาร Coumarin ซึ่งมีผลต่อเอนไซม์ในตับ ทำให้การทำงานของเอนไซม์นั้นลดลง ซึ่งเอนไซม์นี้มีผลต่อการเผาผลาญยา เมื่อยาเผาผลาญไม่ได้ ทำให้ความเข้มข้นของยาในเลือดเข้มข้นขึ้น ทำให้สะสมกลายเป็นพิษต่อร่างกายได้ นอกจากนี้ ในส้มโอยังมีสารที่เรียกว่า Naringenin ทำให้ยาเข้าไปในลำไส้ได้เร็วขึ้น เมื่อยาถูกดูดซึมเข้าไป ก็จะทำให้ในเลือดมีความเข้มข้นของยาสูง ทำให้ร่างกายของคนเกิดอาการมึนหัวหรือความดันเลือดต่ำได้ แพทย์ผู้ชำนาญการได้เตือนว่า การกินส้มโอแบบนี้ให้โทษแก่ร่างกาย หากเป็นห่วงคนรอบตัว กรุณาส่งต่อให้พวกเขา! 1.ส้มโอไม่ควรกินพร้อมกับอาหารทะเล เพราะส้มโอมีวิตามินซีสูง ในอาหารทะเลจะมีธาตุสารหนูสูง วิตามินซีและสารหนู เมื่อเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้เกิดสารจำพวกอาร์เซนิกไตรออกไซด์ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย ซึ่งหากร่างกายได้รับเป็นปริมาณมาก อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ 2.ส้มโอไม่สามารถกินร่วมกับยาบางชนิดได้ เช่น ยาลดไขมันในเส้นเลือด, ยาแก้แพ้ (Terfenadine), ยากดภูมิคุ้มกัน (Cyclosporine), คาเฟอีน, ยาต้านแคลเซียม (Calcium Channel Blocker), ยาลดอาการปวด (Cisapride) เป็นต้น ดังนั้นผู้ป่วยที่รับประทานยาเหล่านี้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ไม่ควรกินส้มโอหรือน้ำส้มโอ เรื่องนี้กรุณาอย่าเก็บไว้ดูเพียงคนเดียว ส่งต่อให้คนอื่นให้ได้มากที่สุด สิ่งนี้อาจช่วยชีวิตคนรอบข้างและเพื่อนๆ ของคุณให้พ้นจากอันตรายเหล่านี้ได้ ช่วงนี้เป็นช่วงที่คนนิยมกินส้มโอ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน หวังว่าคุณจะเป็นคนแรกที่ส่งต่อเรื่องราวที่มีประโยชน์นี้ ยิ่งส่งต่อมาก ก็จะทำให้คนยิ่งระมัดระวังกันมากขึ้น เพียงใช้เวลาแค่หนึ่งวินาทีในการส่งต่อแก่คนรู้จัก ขอบคุณมากๆไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยวัคซีน ChulaCOV-19 ป้องกันโควิดได้ 94% เทียบเท่า Pfizer จริงหรือวัคซีน ChulaCOV-19 ป้องกันโควิดได้ 94% เทียบเท่า Pfizer จริงหรือวัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเชื้อไวรัสโควิดสามารถปะปนออกมากับควันบุหรี่ ใช่หรือไม่เชื้อไวรัสโควิดสามารถปะปนออกมากับควันบุหรี่ ใช่หรือไม่โควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://twitter.com/pnvich/status/1427235960207462402?s=21ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยคนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด เห็ดมีอันตรายจริงหรือคนชอบกินเห็ดต้องอ่านให้จบ คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด ? คนขายเห็ดไม่กินเห็ด ? เห็ดนานาชนิด ที่เรารู้จักและคนก็ชอบกิน เพราะรสชาติที่อร่อยกินง่าย และเรารู้แต่ประโยชน์ที่มีอยู่ในเห็ดมากมาย แต่เราไม่เคยรู้ถึง....ผลเสียของเห็ด หมายเหตุ เห็ดที่พูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึง ทุกโรงเพาะเห็ดหรือเห็ดทั้งหมด แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เห็ดชนิดใดที่ปลอดภัย จึงอยากให้ทุกคนโปรดใคร่ครวญพิจารณา ยังไม่มีนักวิชาการคนใด พูดถึงผลเสียของเห็ด เราจะรู้กันแต่ประโยชน์ของเห็ด โดยเฉพาะถ้าเรากินเห็ด 3 ชนิดจะช่วยป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อสุขภาพ แต่เราไม่เคยรู้ที่มาที่ไป จากผลเสียที่ติดมากับเห็ดเลย จนมาวันนี้ ได้คุยกับคนขายเห็ดโดยเฉพาะเห็ดนางฟ้า วันนี้เรื่องราวที่จะมาเล่า. คำพูดคือความจริงทุกคำ ถ้าผู้อ่านช่วยส่งต่อเอาบุญ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ขอให้ทุกคนที่ชอบกินเห็ด ได้ป้องกันที่ตัวเรา ว่าเราควรจะกินเห็ดต่อไปหรือจะเลิกกินเห็ด จะได้ป้องกันตนเองจากโรคร้ายที่จะตามมาจากรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง จากการได้คุยเปิดใจ กับคนขายเห็ดหรือคนเพาะเห็ดขาย คุณมนัสมีอาชีพขายเห็ด ขายส่งต่อกับพ่อค้าแม่ค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำมาจนเข้าปีที่ 20 สิ่งหนึ่งที่รู้ในใจคือ จะไม่ให้ลูกและครอบครัวตัวเองกินเห็ดที่ขายเลย จนกระทั่งผลที่สุด....ร่างกายตัวเองทรุด หมดเรี่ยวหมดแรง ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัว เป็นมาแบบนี้มาเป็นเดือน ๆ จนไปให้หมอตรวจร่างกาย หมอบอกว่ามีเชื้อมะเร็งในกระแสเลือด แต่หาจุดที่เป็นไม่เจอ แต่ฟังจากหมอพูดว่า มะเร็งถ้าเป็นระยะที่ 1 หรือที่ 2 คงไม่พบ นี่อาจจะเป็นระยะ 3 หรือ 4 แต่หมอก็ยังเช็คไม่ได้ว่าเป็นตรงไหน คุณมนัสก็กลับบ้านมาด้วยใจหดหู่หมดกำลังใจ แต่มีลูกที่น่ารักถึง 7 คน มีภรรยาที่น่ารัก แม่พ่อและญาติที่รักอีกหลายชีวิต ที่จะทำให้ต้องสู้กับโรคร้าย จนกระทั่งคุณมนัสได้เปิดใจ เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลยคือ สาเหตุที่ทำให้เป็นมะเร็ง คือน่าจะมาจากสาเหตุ จากการสูดดมสารในตัวเห็ดที่ตัวเองต้องทำขายทุกวันนั้นเอง เราถามว่าทำไมถึงทำให้คิดอย่างนั้น คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การปลูกเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเข็ม จะต้องใช้ยาฆ่าหนอนหรือยาฆ่าแมลง และต้องใช้เป็นจำนวนมากทุกรอบ ที่ต้องการผลผลิตที่มากและดี ต้องไม่ให้มีหนอนและแมลง แล้วคุณมนัสไม้รู้หรือถึงได้เอามาขาย คุณมนัสตอบรู้ครับ เลยไม่ให้คนในครอบครัวกินเลย รวมทั้งเพื่อนพ้องที่ตัวเองรักก็ไม่แนะนำให้กิน เพื่อนบางคนถามผมว่า ทำไมไม่เอาเห็ดมาฝากบ้าง ทั้งที่มีอาชีพขายส่งเห็ด ในใจผมรู้แต่ไม่รู้จะตอบเพื่อนว่าไง แต่ไม่เคยเอาเห็ดนางฟ้าไปฝากใครเลย จนมาวันนี้เหมือนกับว่า สิ่งที่เจอจะเป็นเวรกรรมที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ ที่มาทำให้เป็นมะแร็ง ทั้งที่ไม่ได้กินเห็ดนางฟ้า ครอบครัวก็ไม่เคยกินเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเลย แต่ส่งขายให้คนกินทั้งประเทศ เวรกรรมจะมาย้อนที่หรือไม่ จึงถามไปว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น คุณมนัสเล่าต่อว่า ก่อนที่จะเป็นแบบนี้ เขาได้เห็นเจ้าของโรงเพาะเห็ด ที่ส่งเห็ดมาให้เป็นประจำ เป็นมะแร็งเต้านมและตัดเต้านมไปแล้ว และก็ไม่รู้ว่าจะหายหรือไม่ และลูกน้องที่ทำงานกับโรงเพาะเห็ด ก็มีอาการเจ็บป่วยไปทีละคนสองคนอย่างต่อเนื่อง และทุกคนที่ทำงานโรงเพาะเห็ด แต่ละคนมีสุขภาพไม่ดีกันเกือบทุกคน คุณมนัสไม่ได้เพาะเห็ดเอง แต่ผมเป็นผู้รับมาจำหน่ายต่อ ซึ่งล่าสุดก็มาพบเชื้อมะเร็งในกระแสเลือด จากนั้นจึงตั้งคำถามไปว่า เพราะอะไรที่ทำให้ทุกคนที่ทำงานตรงจุดนี้ จึงมีร่างกายไม่แข็งแรง คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การเพาะเห็ดต้องใช้ยาสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหนอนอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะเจ้าของโรงงานเพาะเห็ดและลูกน้อง ต้องสูดดมสารเคมีเหล่านั้น ถึงแม้คนปลูกเห็ดจะไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด แต่การสูดดมสารพิษพวกนี้ทุก ๆ วัน. มันก็สะสมในร่างกาย พอสะสมมาก ๆ ทุกวัน ๆ เลยมาแสดงอาการตอนมันเต็มที่แล้ว เมื่อขายเห็ดให้คนกินทั้งประเทศ แล้วผลเสียที่มีต่อคนอื่นต่อประชาชนคนที่ไม่รู้ เราก็จะเป็นบาปโดยที่ไม่รู้ตัวไหม เลยย้อนถามคุณมนัสว่า คุณมนัสเชื่อเรื่องเวรกรรมไหม โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวร คุณมนัสตอบมาวันนี้เข้าใจและเชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรม หลังจากเจอด้วยตัวเอง และคุณมนัสฝากบอกมาว่า ให้ประชาชนทุกคนจงรู้ว่า เห็ดถึงมีประโยชน์มาก แต่ก็มีโทษที่แอบแฝงมามากเช่นกัน เพราะถ้าคนที่เพาะเห็ดขายเพื่อหาผลกำไรมาก หรือต้องการกำไรมาก ก็จะใช้ยาฉีดที่เป็นอันตรายมากต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินเห็ด เริ่มแรกอาจมีผลข้างเคียง แต่นานไปถ้าสะสมมาก ๆ ก็จะเป็นเหมือนเจ้าของโรงเพาะเห็ดและคุณมนัสผู้ขายส่งต่อ หรือคนใกล้ชิดที่ทำอาชีพนี้ ซึ่งแต่ละคนก็มีสุขภาพที่ย่ำแย่กันทุกคน เรื่องราวที่เล่าให้ฟังนี้ ขอให้ประชาชนผู้บริโภค ได้เตรียมพร้อมและรู้ทัน ว่าควรกินเห็ดต่อหรือควรหลีกเลี่ยงการกินเห็ด เนื่องจาก คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด เพราะแบบนี้นี่เองหรือ โปรดส่งต่อเป็นวิทยาทานผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ3 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://twitter.com/leahmcelrath/status/1427127075627053058?s=21ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทำไมชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ของ Lepu ถึงมีปัญหา? ผมขออ้างอิงจากงานวิจัยในสเปน ที่ตีพิมพ์ใน Journal of Infection เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 286 คน โดยใช้ Antigen Test Kit 5 ยี่ห้อ มาเทียบกับผล PCR โดยแบ่งเป็นคนที่มีผล PCR เป็นบวก 101 คน และเป็นลบ 185 คน เพื่อความกระชับ ผมขอเทียบแค่ 2 ยี่ห้อนะครับ คือ Abbott และ Lepu Abbott มีความไว (Sensitivity) 38.6% ความจำเพาะ (Specificity) 99.5% Lepu มีความไว 45.5% ความจำเพาะ 89.2% โดยความไว คือ ในบรรดาคนที่ผล PCR เป็นบวก พบคนที่ ATK ตรวจเจอหรือเป็นบวกกี่เปอร์เซนต์ และความจำเพาะคือ ในบรรดาที่ผล PCR เป็นลบ พบคนที่ ATK ผลเป็นลบกี่เปอร์เซนต์ สาเหตุที่นักวิจัยใช้ความไวและความจำเพาะในการรายงานผลการวิจัย เพราะว่า ค่าสองค่านี้ จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามความชุก (Prevalence) ของโรค ซึ่งบางประเทศอาจมีคนติดเยอะ บางประเทศอาจมีคนติดน้อย ถึงแม้จะติดเยอะติดน้อยอย่างไร ค่าความไวและความจำเพาะของชุดทดสอบจะไม่เปลี่ยนแปลงตาม สิ่งที่คนวางนโยบายต้องการหาจริงๆ คือ 1. ค่าทำนายเมื่อผลเป็นบวก (Positive Predictive Value; PPV) คือ ในบรรดาคนที่ผล ATK เป็นบวก พบผล PCR เป็นบวกกี่เปอร์เซนต์ 2. ค่าทำนายเมื่อผลเป็นลบ (Negative Predictive Value; NPV) คือ ในบรรดาคนที่ผล ATK เป็นลบ พบผล PCR เป็นลบกี่เปอร์เซนต์ ค่า PPV และ NPV จะเปลี่ยนแปลงไปตามความชุกของโรค เรามาลองเอาตัวเลขใกล้เคียงการตรวจแพทย์ชนบทในกรุงเทพฯ มาใช้ละกันครับ สมมติว่า จากการตรวจ 15,000 คน มีคนเป็นโรคจริง 10% ถ้าคำนวณจากความไวและความจำเพาะข้างต้น ได้ผลดังภาพนะครับ ในบรรดาคนที่ตรวจด้วย Abbott จะเจอผลบวก 646 คน ซึ่งเป็นคนที่ผล PCR+ 579 คน และผล PCR- 67 คน ซึ่งคิดเป็น PPV อยู่ที่ 89.6% กล่าวคือ พบผลบวกลวง (False Positive) ที่ตรวจว่าติด แต่แท้จริงแล้วไม่ติด ประมาณ 10% แต่ถ้าตรวจด้วย Lepu จะเจอผลบวก 2,141 คน ซึ่งเป็นคนที่ผล PCR+ 689 คน และผล PCR- 1,458 คน ซึ่งคิดเป็น PPV อยู่ที่ 31.9% กล่าวคือพบผลบวกลวง ที่ตรวจว่าติด แต่แท้จริงแล้วไม่ติดถึง 68% พูดง่ายๆ คือ ในบรรดาคนที่ Lepu เป็นบวก 10 คน ติดจริง 3 คน ติดไม่จริง 7 คน แต่ Abbott บวก 10 คน ติดจริง 9 คน ติดไม่จริง 1 คน แปลกใจไหม ที่ FDA ของอเมริกาและอีกหลายประเทศ เขาถอนการอนุมัติ Lepu แล้ว อย. และ อภ. ไทย คิดอะไรอยู่ครับ? ********************************************* ถ้ายังดื้อดึง จะใช้ Lepu มันจะเกิดอะไรขึ้นครับ 1. เชื่อไหม ตรวจเลขพบเชื้อในประเทศอาจจะลดลง สมมตินะครับ ประเทศไทยมีนโยบายว่า ก่อนตรวจ PCR ต้องตรวจ ATK ก่อน ถ้าผล ATK เป็นบวก ถึงตรวจ PCR ได้ แล้วประเทศไทยจำกัดการตรวจที่ 50,000 คนต่อวัน ถ้าใช้ Abbott ตามตัวเลขข้างบน เราจะเจอคนติดเชื้อ 44,814 คน แต่ถ้าเราใช้ Lepu เราจะเจอคนติดเชื้อเพียงแค่ 15,950 คนเท่านั้น 2. ถ้ามีนโยบายว่า ถ้าเจอผล ATK+ ให้ส่งเข้ารักษาเลย มอบชุดวัดออกซิเจน ยาต่างๆ สมมติว่าค่าใช้จ่ายหัวละ 2000 บาท การตรวจด้วย Lepu พบคนเป็น ATK+ มากกว่า Abbott 3.31 เท่า (2141/646) แสดงว่าเราต้องจ่ายมากขึ้น 3.31 เท่า ทั้งที่คนส่วนมากในนั้นเป็นผลบวกลวง ซึ่งไม่คุ้มค่ากับเงินที่ประหยัดได้จากการประมูลเลย 3. คนที่พบผลบวกลวง จะเสียโอกาสทางหน้าที่การงาน ต้องกักตัวเองอยู่บ้าน กว่าจะได้คิวตรวจ PCR กว่าจะรอผล PCR เสียโอกาสทางเศรษฐกิจมากขนาดไหน ไม่นับรวมความวิตกจริตของตนเอง และคนรอบข้าง รวมถึง คนรอบข้างก็ต้องแห่กันไปตรวจเพิ่ม ให้เสียทรัพยากรมากขึ้นไปอีก ********************************************* ผมเชื่อว่า อภ. และ อย. มีคนจบชีวสถิติ (Biostatistics) หรือระบาดวิทยา (Epidemiology) โดยตรง คนเก่งมากกว่าผมมีจำนวนเยอะมากๆ เรื่องที่ผมเขียนน่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่ของพวกเขา แต่ถ้าเป็นเรื่องใหม่จริง และได้มีโอกาสอ่านโพสของผมแล้ว ช่วยพิจารณาใหม่เถอะครับ ไม่ใช่แค่ไม่สั่งซื้อ Lepu นะครับ ควรเอา Lepu ออกจากทะเบียน อย. ได้แล้วครับ PLEASE!!!!โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว