1 คนสงสัย
จริงหรือ อย.เตือนว่า ไม่ควรซื้อกรดทีซีเอมาใช้เองเพื่อหวังหน้าขาวใส เพราะกรดเข้มข้นสูงเสี่ยงหน้าพังได้
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการจำหน่ายกรดทีซีเอ (Trichloroacetic Acid : TCA) ทางสื่อเฟซบุ๊กชื่อ Ac-beauty และเว็บไซต์ https://www.facebook.com/Acbeauty/
จากการตรวจสอบพบภาพผลิตภัณฑ์ยากรดทีซีเอที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. และข้อความโฆษณาขายยาแสดงสรรพคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น ลอกฝ้า กระ จุดด่างดำ แต้มไฝ หลุมสิว เป็นต้น กระกวนใจ จึงขอเตือนไปยังวัยรุ่นที่รักความงามต้องการมีผิวขาวใสเรียบเนียน อย่าหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้โดยเด็ดขาด เพราะกรดทีซีเอเป็นยาที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคผิวหนัง และต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
naydoitall
 •  3 ปีที่แล้ว
meter: true
1 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
anonymous เลือกให้ข้อความนี้✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด

เหตุผล

จากการตรวจสอบพบภาพผลิตภัณฑ์ยากรดทีซีเอที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. และข้อความโฆษณาขายยาแสดงสรรพคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น ลอกฝ้า กระ จุดด่างด

ที่มา

https://news.thaipbs.or.th/content/292964

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือ ใช้เปลือกแตงกวา เปลือกหัวไชเท้า เปลือกมะเขือเทศ และสารส้ม มาผสมกันแล้วทาบริเวณที่เป็นฝ้า รักษาฝ้าที่ใบหน้าได้
    มีการแจกสูตรผ่านเฟซบุค โลชั่นผักรักษาฝ้า หน้าใครเป็นฝ้า จุดด่างดำ รอยกระ เพียงใช้เปลือกแตงกวา เปลือกหัวไชเท้า เปลือกมะเขือเทศ และสารส้ม มาผสมกันแล้วทาบริเวณที่เป็นฝ้า ใช้ทาบำรุง จะช่วยลดฝ้ากระจุดด่างดำ
    naydoitall
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือ จะมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เช่น แจกคูปอง 3 พันบาท ให้คนไทย 10ล้านคน เที่ยวในประเทศไทยหลังคลายล็อคโควิด
    แหล่งข่าวจากททท.เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าเตรียมนำมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศเสนอต่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนำไปหารือกับกระทรวงการคลัง โดยพยายามเริ่มต้นมาตรการในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้หรือตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป มาตรการเตรียวไว้ เช่น รัฐเข้าไปช่วยจ่ายส่วนลดที่พักและโรงแรม 50% นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอช้อปช่วยชาติ ลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยว ทั้งนี้คาดว่าไม่เกินกลางเดือนมิถุนายนนี้รูปแบบต่างๆ จะชัดเจนและนำเสนอไปยังครม. หลังจากนั้นนำเข้าคณะกรรมการกลั่นกรอง สศช.เพื่อขอใช้เงินจากพ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของการฟื้นฟู 4 แสนล้านบาท เบื้องต้น กระทรวงเที่ยวฯ หารือสศช.กันวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท มาช่วยท่องเที่ยว แต่ถ้าไม่เพียงพออาจจะขอเพิ่มเติมได้
    naydoitall
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ยันฮี ครีมสิว-ฝ้า กระ เป็นเครื่องสำอาง อันตราย หรือคะ
    ยันฮี ครีมสิว-ฝ้า กระ เป็นเครื่องสำอาง อันตราย หรือคะ
    Mrs.Doubt
     •  5 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    พิษจากดื่มน้ำเย็นิจริงหรือไม่
    ■พิษจากดื่มน้ำเย็น■ ~~~~~~~~~~~~~ ★จะปวดหลัง ข้อเข่า ไตอ่อนแอ •••••••○••••••○•••••• ◆ใครจะไปเชื่อว่า.. การดื่มน้ำเย็นจะมีพิษ มีภัย และให้โทษได้ถึงขนาดนี้ ((((▶ ♣หมอได้พบผู้ป่วย ที่มีอาการแขนขาอ่อน แรง หรือที่เรียกกันว่า โรคอัมพฤกษ์ ซึ่งสืบค้นต้นตอไปๆมาๆ ก็พบว่า สาเหตุมาจากพฤติกรรมการดื่มน้ำเย็น หรือ น้ำแข็งเป็นประจำนั่นเอง ผู้ป่วยเล่าให้ฟังว่า ไม่กินผักมาตั้งแต่เล็กๆ รับประทานแต่เนื้อสัตว์ ที่สำคัญคือชอบดื่มน้ำ เย็นเป็นประจำมาตั้งแต่ เด็ก และต้องเป็นน้ำเย็นจากตู้เย็นเท่านั้น ■ก่อนที่จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้น ร่างกายผู้ป่วยได้ส่งสัญญาณเตือนมาหลายครั้ง เช่น มึนเวียนศีรษะง่าย เห็นเหมือนแสงไฟแวบๆขณะกระพริบตา การพูดเริ่มติดๆขัดๆ สุดท้ายเกิดอาการวูบกะทันหัน ต้องนำส่งโรงพยาบาล เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งผู้ป่วยก็ไม่สามารถขยับร่างกายซีกซ้ายได้แล้ว นี่คืออาการของโรคเส้นเลือดตีบที่สมองในวัยเพียง 40 ปี ที่ชอบทานแต่น้ำเย็นมาตลอดเวลา ★การดื่มน้ำเย็น สำหรับคนไทยนั้น ทำให้ "ไต ต้องรับกำจัดความเย็น ออกจากร่างกาย อย่างรวดเร็ว" ขับน้ำเย็นมากักเก็บ ไว้ที่กระเพาะปัสสาวะ เตรียมขับออกเป็น น้ำปัสสาวะทำให้ผู้ที่ ชอบทานน้ำเย็นก็ยิ่ง ขาดน้ำจนเลือดข้น หนืดไปหมด ประกอบกับหลอดเลือดที่เริ่มแข็งกระด้างไม่ยืดหยุ่น ทำให้มีคราบไขมัน และของเสียไปยึดเกาะตามผนังหลอดเลือด จนเกิดการพอกพูน กลายเป็นโรคหลอด เลือดตีบ ก็เพราะน้ำเย็นที่ชอบ ทานเป็นประจำนั่นเอง ★ไตของเราเปรียบ เสมือนเครื่องกรองน้ำ อันน่าอัศจรรย์ ทำหน้าที่ช่วยกรอง ของเสียออกจากเลือด แล้วขับออกทาง ปัสสาวะการทำหน้าที่ ตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุดของไตนั้น ถ้าเราไปซ้ำเติมด้วยการรับประทานสิ่งที่เป็นพิษต่อร่างกายรวมทั้ง ★น้ำเย็นด้วยก็จะทำให้ เกิดภาวะไตอ่อนแอและจะส่งสัญญาณร้อง ให้เราทราบดังนี้ ★1.ปัสสาวะบ่อยขึ้น อั้นปัสสาวะไม่ได้นาน ดื่มน้ำเข้าไปแล้วต้อง วิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยๆ กลางคืนก็ต้องลุกขึ้นเข้าห้องน้ำหลายเที่ยว ★2.มีอาการปวดหลัง ปวดเอวบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลานั่งนานๆ ★3.ปวดเมื่อยตามข้อ และ ร่างกายง่าย เช่น ปวดข้อเข่า ปวดต้นคอ ★4.หลอดเลือดตีบตัน หรือ หลอดเลือดแข็งได้ง่าย ★หากใครยังทาน....... ●น้ำเย็น นมเย็น ●กาแฟเย็น น้ำอัดลม ●น้ำหวานเย็น ชาเย็น อยู่เป็นประจำ ●มีอาการปวดหลังแน่ๆ ก็ต้องดูแลตนเองง่ายๆ ดังนี้ ■1.ปรับเลือดที่หนืดข้น ให้หายข้นด้วยการเพิ่ม น้ำเข้ากระแสเลือด โดยทานน้ำอุ่นให้ได้ 8-10 แก้ว ทุกวัน ■2.ทำให้เลือดไหล เวียนสะดวกอย่าง ต่อเนื่องด้วยการ..... ■ออกกำลังเป็นประจำที่สามารถทำได้ หรือ อาจใช้การจัดกระดูก ช่วยให้เลือดไหลเวียน สม่ำเสมอ ■3.ไม่กินอาหาร..... ◆เนื้อสัตว์ ของทอด ◆ของหวานจัดเพราะ ◆ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ปริมาณมากจนทำให้ หลอดเลือดแข็ง หรือ ตีบตันได้ง่าย ■4.งดการทานน้ำเย็น เด็ดขาดรู้แล้วอย่า เฉยเมยนะควรปฎิบัติ ด้วยและรู้แล้วอย่า เก็บไว้คนเดียวโปรด แบ่งปันให้คนรอบข้าง ของตัวเรา (((((((▪ ★พันเอก ดร.นพ.ดำรง หมอประจำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (((((((▪ (💐
    Mrs.Doubt
     •  3 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ชัชชาติฯและทักษิณฯต้องชี้แจง ให้ได้ว่า การบินไทยประสพความฉิบหายเพราะใคร??? คุณชัชชาติต้องชี้เเจงให้กระจ่างในหลายๆหัวข้อ..เกี่ยวกับการอนุมัติใบอนุญาติการบินเเบบไม่ยั้ง..ให้บริษัท/บุคคลต่างๆถึงเกือบ40 ใบอนุญาติในช่วงเวลา2556-2557 ให้มาเเข่งบริการกับการบินไทย.. เป็นคำถามว่าคุณชัชชาติจะต้องรับผิดชอบต่อวิกฤติการบินต่างๆที่ตามมาหรือไม่..เป็นว่าที่ผู้ว่า กทมที่ต้องตอบให้คนการบินไทยรับรู้ให้กระจ่าง.. ก่อนการเลือกตั้งกทมครั้งนี้..เพราะชาวการบินไทยหลายหมื่นคนรอฟังคำตอบท่านอยู่ในหัวข้อต่างๆดังนี้ 1.มีประเทศไหนในโลกที่เคยอนุมัติใบอนุญาติการให้บริการการบินประเภทต่างๆในเวลาปีเดียวถึงเกือบ40ใบหรือไม่? 2.กระทรวงคมนาคมมีการศึกษามาก่อนเเล้วใช่ไหม..ว่าจำนวนใบอนุญาติเพิ่มเติมอีกเท่าใด..ที่เหมาะสมกับการให้บริการด้านการท่องเที่ยวเเละการขนส่งสินค้าทางอากาศ?หน่วยงานใดเป็นผู้ศึกษา? 3.ได้มีการศึกษาถึงผลกระทบต่างๆที่มีต่อการบินไทยเเละอุตสาหกรรมการบินโดยรวม..ถ้าอนุมัติใบอนุญาติถึงประมาณ40ใบอนุญาติในเวลาเเค่1ปี?เกินความจำเป็นหรือไม่? 4.การอนุญาติมีขั้นตอนการปฏิบัติเเละกรอบคุณสมบัติต่างๆของผู้ยื่นขอใบอนุญาติหรือไม่? มีปัจจัยอะไร นอกจากการเเสดงสถานภาพทางการเงิน? 5.ขอคำอธิบายจากปากของคุณชัชชาติว่าผลของการอนุมัติของกระทรวงคมนาคมชุดระดับจักรวาลนี้มีผลหรือไม่ที่ในปี2558ทำให้อุตสาหกรรมการบินของทั้งประเทศถูกปักธงเเดงจาก องค์กรควบคุมด้านการบิน(ICAO)ประเทศไทยขาดมาตรฐานการบินขาดความน่าเชื่อถือ..รวมถึงความปลอดภัยจากปัจจัยต่างๆ..รวมๆกันถึงประมาณถึง 30 ข้อ(30ข้อนะครับ!!!!!).. จนนำไปสู่วิกฤติด้านการบินของประเทศ(ซึ่งไม่เคยเกิดมาก่อนตลอดเวลา40ปีของอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย) ●ใบอนญาติจำนวนหนึ่งต้องถูกยึดคืนใช่หรือไม่?สท้อนถึงการใช้อำนาจเกินขอบเขตอันควรหรือไม่? ●ประเทศไทยถูกICAOห้ามขยายเที่ยวบินเกือบทันทีในต่างประเทศในปี2558- 2560?สร้างความเสียหายเเก่การบินไทยหรือไม่? ●ในฐานะสายการบินเเห่งชาติ.. การบินไทยได้รับการหารือร่วมกับกระทรวงฯถึงจำนวน/ประเภท/ความถี่.ฯลฯในการเพิ่มใบอนุญาติ3โหลกว่านี้หรือไม่..เเละกับหน่วยงานใดในการบินไทย?กับระดับไหน?คณะกรรมการบริษัทเเละDDในขณะนั้นเห็นชอบด้วยใช่ไหม?สอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัติที่ได้รักษากันมาที่เรียกว่าการปฏิบัติต่อกันเชิง"ธรรมาภิบาลที่เหมาะสม"หรือไม่? ●การให้สิทธิการบินหลายๆประเภทนั้นคุณชัชชาติรู้ถึง"ผลกระทบต่อประเทศเเละต่อสายการบินเเห่งชาตืก่อนหน้าเเล้วใช่ไหม? ●หน่วยงานที่กระทรวงใช้ในการทำภารกิจที่ใหญ่ขนาดนี้มีองค์ความรู้เเละความสามารถได้มาตรฐานพอเพียงต่อกรรมที่ก่อนี้เเค่ไหนเพียงใด?ใครควรรับผิดชอบหรือไม่? ●ความด้อยมาตรฐานการบิน"ของทั้งประเทศ"ถึงประมาณ30ข้อที่ตัดสินโดยICAO..ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการระดมอนุมัติใบอนุญาติอย่างเมามันใน1ปีนั้น..ใช่ไหม? ●ทำไมบริษัทที่ถูกยึดใบอนุญาติกลับ..จึงไม่มีรายใดฟ้องกระทรวงหรือฟ้องกรมฯที่เกี่ยวข้องเลยเเม้เเต่รายเดียว..คาดว่าเป็นเพราะเหคุผลใด? ●ใช่หรือไม่ที่รัฐบาลต่อมา(คสช)ถึงกับต้องใช้ม.44เข้าไปเเก้วิกฤติเเละกระทรวงคมนาคมต้องถึงกับต้องจ้างฝรั่งผู้ชำนาญการเพิ่มชุดใหญ่? เเล้วมันสท้อนระดับสติปัญญา/ความสามารถเเละสมรรถนะของผู้รับผิดชอบในกระทรวงคมนาคมนี้ว่าควรอยู่ในระดับไหน? สอบผ่านหรือไม่? ●การบินไทย(ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น)ได้รับการดูแลหรือชดเชยอะไรบ้างจากความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดของอุตสาหกรรมการบินของไทยนี้? หรือช่าง...มัน? ผมก็ชอบคุณชัชชาติที่พูดบนเวทีเก่ง..เเต่คนการบินไทยทั้วที่ทำงานอยู่..และเกษียณเเล้ว..เเละต้องจำใจจากจำนวนหลายหมื่นคนต้องได้รับคำตอบโดยตรงจากอดีตรีฐมนตรีคมนาคมให้กระจ่างในความเสียหายมหาศาลนี้..มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะมีคนการบินไทยหน้าไหนที่มันจะลงคะเเนนให้คุณชัชชาติ..ให้สื่อเเบบคุณสุทธิขัยหยุ่นหรือคุณสนธิ(ก็ยิ่งดี)สัมภาษณ์คุณชัชชาติออกรายการก่อนการเลือกตั้งจะมีขึ้นสักครั้ง..คนการบินไทยเเละครอบครัวรักคุณเท่าฟ้า รอฟังคำตอบของคุณก่อนหย่อนบัตรเลือกตั้งอยู่..เรายินดีรับฟังเเละให้โอกาสนักการเมืองเสมอ..กล้าๆหน่อย!
    ไม่ระบุชื่อ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    คำแนะนำนี้ จริงหรือไม่
    ผู้เข้ารับวัคซีน รบกวนดื่มน้ำเยอะๆ งด 🚫 ทาน - กาแฟ - ชา - ยาไมเกรน : cafergot relpex - ยาต้านเศร้า กลุ่ม SSRI SNRI : fluoxetine sertraline duloxetine - alcohol - ยาลดนำ้มูก nasal decongestant: pseudoephedrine และ - หากมีประวัติศีรษะกระเเทกให้เลื่อนการฉีดไปก่อน - หากมีประวัติMI เจ็บหน้าอก ให้เลื่อนฉีดไปก่อน รอรายงานผลจากวัคซีนSinovac ของทั่วประเทศ ****เพื่อลดโอกาสเกิด cerebral vasospasm และ peripheral vasospam** ** แจ้งเพื่อทราบครับ
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    มิจฉาชีพหลอกเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า หลอกให้ติดเบรกเกอร์แพง จริงหรือ
    นางบัวบาน อยู่สุข อายุ 48 ปี ชาวบ้านบ้านหัวหนอง อ.บัวใหญ่ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า มีชาย 2 คน อายุ 50-60 ปี อ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ขอตรวจเช็กระบบไฟในบ้าน ดูท่าทีรีบร้อน พอตรวจเสร็จ บอกว่า คัตเอาท์เดิมชำรุดใช้การไม่ได้ ต้องติดตั้งชุดเบรกเกอร์ใหม่ ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องระบบไฟ ประกอบกับในหมู่บ้านพึ่งเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้กุฏิวัดเสียหายทั้งหลัง จากไฟฟ้าลัดวงจร จึงตัดสินใจยอมติดตั้ง พอติดเสร็จ ถูกเรียกเก็บเงิน 3,500 บาท ตนเองตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะแพงขนาดนี้ จึงขอให้ลดราคา สุดท้ายลดเหลือ 3,000 บาท จึงจำใจต้องจ่าย กระทั่งทราบว่าเบรกเกอร์ที่ติดราคาจริงแค่ 500-700 บาท แพงกว่าท้องตลาดหลายเท่า และมีชาวบ้านหลายคนหลงเชื่อเสียเงินไปจำนวนมาก จริงหรือ
    anonymous
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กระชาย แก้โรคกระดูกเสื่อม
    หมอยังแปลกใจ!! ผู้ป่วย โรคกระดูกเสื่อม หลังหายไป 1 เดือนกลับ @sgt3846b หมอยังแปลกใจ!! ผู้ป่วย โรคกระดูกเสื่อม หลังหายไป 1 เดือนกลับมาตรวจใหม่ มวลกระดูกแน่นปึ้ก เผยยาสูตรพิเศษ ปวดเข่า ปวดหลัง หายสิ้น!! กินอยู่ประมาณ ๑ เดือน ไปตรวจใหม่ หมอที่รพ.ศิริราช ตกใจ สงสัยว่าไปทำอะไรมา มวลกระดูกถึงแน่นปึ้กขนาดนี้ !!!!! โรคกระดูกเสื่อม เกิดจากการเสื่อมสมรรถภาพของกระดูกในร่างกายของเรา ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จากการทาน จากการเคลื่อนไหวมากเกินไป มักจะเกิดในวั#ยกลางคน วัยสูงอายุ สังเกตเห็นได้ชัดว่าเมื่อเคลื่อนไหวจะมีเสียงกร๊อบแกร๊บ กร๊อบแกร๊บ บางทีก็จะปวดตตรงข้อกระดูก รู้สึกขัดๆปวดๆ เคลื่อนไหวลำบาก นั่งคุกเข่า นั่งยองๆ นั่งพับเพียบก็จะลุกขึ้นยาก การรักษาโรคกระดูกเสื่อมนั้นส่วนใหญ่คนมักจะพึ่งยาแผนปัจจุบัน อาหารเสริมต่างๆ เช่น แคลเซียมแคปซูล วันนี้นายข้าวต้ม ขอแนะนำสูตรสมุนไพรพิเศษ อาจทำให้เราหายขาด หรือบรรเทาอาการโรคกระดูกเสื่อมได้ คือ ทานแบบภูมิปัญญาไทย ด้วย น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง เรื่องจริงจากผู้ป่วยโรคกระดูกเสื่อม “หมอเพชร” หรือ ดร. กฤษณา รัตนชาลี ศัลยแพทย์ด้านหัวใจ วัย 60 ต้นๆ เรียน จบแพทย์จากอังกฤษ และทำงานประจำอยู่ที่ต่างประเทศ เพิ่งบินกลับมาปฏิบัติธรรม ที่วัดเขาฯ เป็นครั้งแรก เล่าให้ฟังถึงเพื่อนหมอ ซึ่งไปตรวจที่ รพ.ศิริราช พบว่า เป็นโรคกระดูกเสื่อมเฉียบพลัน รพ. ให้ยามากินมากมาย หมอเพชรบอกเพื่อน เอายาทิ้งไป และลองกินน้ำกระชาย ซึ่งตามสูตรธรรมชาติบำบัดเป๊ะยิ่งกว่า ท่าน อ.สุทธิวัสส์ ซะอีก คือ ห้ามเพื่อนใช้เครื่องปั่นไฟฟ้า ให้ใช้ครกหินอ่างศิลาตำๆ พอกระชายแหลก ก็เอามากรองด้วย “กระชอนไม้” ปูรองด้วยผ้าขาวบาง จนได้หัวเชื้อ มาผสมกับ น้ำผึ้ง และน้ำมะนาว กินอยู่ประมาณ ๑ เดือน ไปตรวจใหม่ หมอที่รพ.ศิริราช ตกใจ สงสัยว่าไปทำอะไรมา มวลกระดูกถึงแน่นปึ้กขนาดนี้!!!!! คนไข้ก็ไม่กล้าบอก หมอถามต่ออีกว่าแล้วยาที่ให้ไปกินหมดรึยัง?…..ยังค่ะ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อนหมอเพชรคนนี้ก็กินน้ำกระชายเป็นเครื่องดื่มประจำตัว ประจำบ้าน แล้วไม่เคยป่วยด้วยโรคกระดูกเสื่อมอีกเลย อย่าลืมนำวิธีรักษาโรคกระดูกเสื่อม ด้วยภูมิปัญญาไทย ไปใช้กันด้วย น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง เป็นสูตรธรรมชาติบำบัด ที่จะสามารถช่วยให้ร่างกายสร้างมวลกระดูกใหม่ขึ้นมา แล้วไปเสริมสร้างกระดูกที่เสื่อมอยู่ให้แน่นเหมือนเดิม ส่วนผสม กระชาย 1 ขีด น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ มะนาว 2 ลูก วิธีทำ “น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง” รักษาโรคกระดูกเสื่อม 1. นำกระชายล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาตำ โดยใช้ครกหินอ่างศิลา หรือ ปั่นโดยใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้ละเอียดเติมน้ำสะอาดลงไป 2 แก้ว 2. นำกระชายที่ตำหรือปั่น มากรองผ้าขาวบาง จนได้หัวเชื้อ เอาแต่น้ำหัวเชื้อ 3. ใส่น้ำผึ้ง และ มะนาวผสมลงไปปรุงรสตามใจชอบ แนะนำให้ใช้วิธีการตำโดยใช้ครกหินอ่างศิลา จะช่วยในการบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติ เก็บในตู้เย็นทานไปจนกว่าจะหมด ครั้งละครึ่งแก้ว เช้า – เย็น สรรพคุณ บำรุงกระดูก (เพราะมี แคลเซียม สูง) บำรุงสมอง เพราะทำให้เลือดเลี้ยง สมองส่วนกลาง ดีขึ้น ปรับสมดุลของ ฮอร์โมน ปรับสมดุลของ ความดันโลหิต (ความดันโลหิตสูงจะลดลงความดันโลหิตต่ำ จะสูงขึ้น) แก้ โรคไต ทำให้ ไต ทำงานดีขึ้น ป้องกัน ไทรอยด์ เป็นพิษ บำรุง มดลูก แก้ปัญหา ผมหงอก ผมร่วง อาการ กระเพาะปัสสาวะ เกร็ง (กรณีนี้อาจใช้ เม็ดบัว ต้มกิน) ควบคุมไม่ให้ ต่อมลูกหมาก โต แก้ปัญหา ไส้เลื่อน เป็นยังไงกันบ้าง กับสูตรน้ำกระชาย น้ำผึ้ง มะนาว สูตรธรรมชาติบำบัดรักษาโรคกระดูกเสื่อม อย่าลืมนำวิธีรักษาโรคกระดูกเสื่อม ด้วยภูมิปัญญาไทย ไปใช้กันด้วยนะครับ ข้อมูลและภาพจาก naykhaotom / siamnews @sgt3846b แนวทางปฏิบัติ #1แชร์=1ธรรมทาน แชร์เยอะๆ ได้บุญคะ โปรดทราบ! ถ้าชอบ ฝาก กดติดตามเพจ กันด้วยนะค่ะ ถ้าข้อมูลนี่เป็นประโยชน์และสามารถช่วยใครได้อีกหลายๆ คน อย่าเก็บไว้อ่านคนเดียวละอย่าลืมส่งให้กับคุณที่คุณรักได้อ่านกันนะค่ะ
    Mrs.Doubt
     •  1 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 2 คนสงสัย
    ของจริง....มาแล้วนะครับ โควิด - 19 สายพันธุ์อังกฤษ British variant ( B.1.1.7 ) ที่ตอนนี้กำลังระบาดหนักไปทั้งโลกนะครับ ไม่ใช่แค่ที่ไทย ประเทศไทยน่ะหรือ ... ยังแค่เริ่มต้น แค่เริ่มต้นจริงๆนะ ที่อังกฤษ ต้นทางของเจ้าสายพันธุ์ดุนี้ มีคนเสียชีวิตกับไวรัสตัวนี้ไปแล้วประมาณ "หนึ่งแสนสองหมื่นคน" ช่วงที่พีคมากๆ มีคนตาย"ต่อวัน" คือ พันกว่าคน (ตายวันละพันกว่านะครับ พันหก เกือบๆพันเจ็ด เห็นตัวเลขแล้ว ขนลุกเลย) ช่วงผ่อนปรนล็อคดาวน์ที่อังกฤษตอนคริสมาสต์ มีการติดเชื้อแบบที่ติดกันทั้งครอบครัว เข้าโรงพยาบาลกันทั้งครอบครัว และ ตายกันทั้งครอบครัวเกิดขึ้นแล้วที่นั่น ช่วงที่เชื้อนี้กระจายกันแบบพีคๆ มีรายงานว่า ติดกันที่ตัวเลขต่อวันคือ หกหมื่นกว่าราย ย้ำ... วันละ หกหมื่นราย มีหลักฐานสนับสนุนทางการแพทย์ชัดเจน ว่าสายพันธุ๋นี้ติดง่ายกว่าสายพันธุ์อู่ฮั่น และ สายพันธุ์อินเดีย ที่เราเจอมาก่อนหน้านี้ และถ้าเราคิดว่า ที่ผ่านมา เรายังรอด ตอนนี้ก็สบายๆเหมือนเดิมก็ได้ ก็น่าจะประเมินเชื้อนี้ต่ำไปแล้ว... และถ้ายังเชื่อว่า สายพันธุ์นี้ อาการไม่รุนแรง ก็คิดใหม่นะครับ มีรายงานในประเทศไทยของเราพบว่า พบอาการรุนแรงในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง อาการเจ็บคอมาก เหมือนมีดบาด เสมหะมีเลือด หายใจได้ไม่ปกติ จนกระทั่งพัฒนาไปสู่อาการปอดบวม ( pneumonia ) เกิดขึ้นได้เยอะมากนะครับ ลงปอดกันเป็นว่าเล่นเลย ซึ่ง ณ จุดนั้น ต้องรักษาแบบซีเรียสแล้วนะครับ โอกาสไปถึงโคม่า นอนไอซียู ใกล้เข้ามาแล้ว และแพทย์หลายๆท่านให้ความเห็นว่า การจัดการตอนอยู่ในไอซียูของโรคนี้ มีความซับซ้อนมาก ถ้าได้หมอเก่งๆระดับเทพ ว่าไปอย่าง แต่เอาเข้าจริงๆ บ้านเราไม่ได้มีหมอในระดับนั้น มากอย่างที่เราคิด คนสูงวัย น้ำหนักตัวเยอะ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ คนที่มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน หัวใจ หอบหืด ไม่จำกัดวัย ถ้าเราเข้าข่าย ก็ระวังให้มากกว่าคนอื่นๆเถอะครับ โอกาสรุนแรงไปถึงปอด สูงมากกก และที่เรายังไม่ได้ยินข่าวคนเสียชีวิตในครั้งนี้ จนทำให้หลายๆคนคิดแค่ว่า เป็นแค่หวัดกระจอกๆธรรมดาๆนั้น เพราะมันยังเป็นแค่การเริ่มต้น สงสัยว่าติด ไปตรวจ เข้าโรงพยาบาลได้เลย มีที่นอน มีหมอดูแล โคม่าขึ้นมา ยังมีหมอดูแล มีเครื่องช่วยหายใจอยู่ในตอนนี้ ก็เลยพอจะช่วยเหลือกันทัน แต่ว่า... ดูสถิติของวันนี้ 15 เมษายน ตามรูปสิครับ ไม่ต้องดูที่จำนวนคนติดเชื้อ 1,543 นะ ... มองผ่านไปได้เลย พันห้า บางคนจะคิดในใจว่า แล้วไง ไปดูที่จำนวนคนที่กำลังรักษาตัว นอนโรงพยาบาลอยู่ตอนนี้สิครับ ช่องสีเขียวๆน่ะ " 8,973 ราย " นี่คือคนที่กำลังนอนโรงพยาบาลตอนนี้อยู่ ซึ่งจะถึงหมื่นเตียง ในอีกวันสองวันนี้แน่นอน และคนพวกนี้จะยังต้องนอนยึดเตียงไปอีกเรื่อยๆ ไม่ต่ำกว่า 10 วัน นั่นหมายความว่า ถ้าเราเกิดติดโควิดขึ้นมา ในวันถัดๆไปหลังจากนี้ จะเหลือเตียงให้เรานอนรักษา .... น้อยลงไปทุกที และเตียงจะเริ่มทยอยกันเต็มไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเหมือนต่างประเทศ คือ ไม่มีเตียงให้ใครอีก คราวนี้ ต่อให้มีเงิน ก็หาเตียงนอนไม่ได้หรอกครับ จะโทรร้องเรียนที่เบอร์ไหน ใครก็คงช่วยไม่ได้ มีประกันกี่ฉบับ ก็ไม่มีผล ไม่ต้องพูดถึงโรงพยาบาลเอกชนหรอกนะครับ โรงพยาบาลสนาม .... ก็จะเต็มไปด้วย แย่ไปกว่านั้นก็คือ ... เรามีเครื่องช่วยหายใจไม่มากพอ เราหาซื้อตอนนี้ ไม่ทันหรอกนะครับ ทั้งโลก ใครก็อยากได้ แล้วในวันที่เกิดซวย ปอดบวม อาการโคม่า เราต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพื่อยื้อชีวิตนะครับ ถ้าในเวลานั้น ไม่มีเครื่องช่วยหายใจเหลือเลย เพราะคนก่อนหน้านี้ก็เอาไปใส่กันหมดแล้ว มันก็จะเหมือนกับที่ต่างประเทศ คือ เครื่องช่วยหายใจที่เหลืออยู่ 1 เครื่อง จะเลือกใส่ให้ใคร และที่เหลือ ก็ต้องปล่อยให้ตาย.... วันนั้นแหละ เราจะเข้าใจความหมายว่า ทำไม เราจึงควรช่วยกัน ในวันที่ยังทำได้ในวันนี้... ........................................ ....................................... พรุ่งนี้ จะมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ ทุกคนดูชินชากับโควิด รอดมาแล้วหลายครั้ง ยังไม่เห็นมีอะไร เดี๋ยวก็ลดลงไปเอง ตั้งแต่ระดับผู้นำ จนถึงคนธรรมดาๆข้างถนน ที่ผมยังเห็นนั่งดื่มกันสนุกสนานกันอยู่เลย ประเทศไทยเราโชคร้าย ตรงที่ได้เจอกับสายพันธุ์ที่ติดง่ายที่สุด ในวันที่เราประมาทที่สุด เพราะถ้ามาตั้งแต่รอบแรก ที่เรายังตื่นตัวกันอยู่ ก็คงไม่น่ากลัวอะไรมากนัก อ่านจบแล้ว ไม่ต้องประสาทกินหรอกนะครับ แต่ต้องกลับมายอมรับ และตระหนักจริงๆจังๆได้แล้ว ว่าเรากำลังเจอกับอะไรที่หนักหนาและรุนแรงกว่าเดิม ออกบ้านเท่าที่จำเป็นเถอะครับ หลีกเลี่ยงการไปในที่ซึ่งคนเยอะๆ งดไปเลย อย่าใส่หน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง แบบที่ทำไปอย่างงั้นๆเอง แต่จงทำมัน เหมือนเป็นสิ่งเดียวที่กำลังรักษาชีวิตเราไว้ เพราะมันช่วยได้จริงๆ... อย่าเบื่อการอยู่บ้าน เพราะเชื่อเถอะว่า สบายกว่าโรงพยาบาลสนาม สบายกว่าแอร์ในห้องไอซียู และไม่ต้องต่อคิวเครื่องช่วยหายใจจากใครนะครับ แล้วมันก็จะผ่านไป ไม่มีอะไรอยู่กับเราไปได้ตลอดหรอก แต่ต้องช่วยกัน และให้มันผ่านไปให้เร็วที่สุด อย่าให้มีสถิติการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ แล้วค่อยมาเสียใจ ไม่ต้องไปหวังพึ่งวัคซีนตอนนี้ ยี่ห้อแอสตร้า ---> เดนมาร์คสั่งหยุดใช้ถาวรแล้ว ส่วนยี่ห้อจอห์นสัน ---> อเมริกา สั่งหยุดใช้ไปแล้ว ซินโนแวคของจีน ประสิทธิภาพต่ำ แถมไม่ยอมเปิดเผยผลการทดลองเฟส 3 และตอนนี้จีนยังเร่งศึกษาทำวัคซีนตัวใหม่ แสดงว่า อีที่ออกมาขายนี้ ไม่ดีอย่างที่คิด ดีจริง จะปิดไว้ทำไม แล้วจะไปทำอันใหม่ทำไมอีก... คิดง่ายๆแค่นี้พอ ที่สำคัญ ประเทศไทย ยังฉีดได้ไม่ถึง 1% ของประชากรทั้งประเทศ ฉีดไป ก็เสี่ยงเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งถ้ามันไปตันในที่สำคัญๆ คือ ตายได้เลยนะครับ พึ่งตัวเอง ดูแลตัวเอง คือทางออกที่ดีที่สุด ที่ต้องทำในตอนนี้แล้ว... ช่วงนี้ครูโยคะทั้งหลาย งานอาจจะน้อยลงหน่อย ลำบากหน่อย แต่ยังหายใจได้ ยังแข็งแรง คือดีที่สุดแล้ว... งาน กับ เงิน ไม่ได้หายไปไหน มันแค่เลื่อนออกไปรอเราข้างหน้า คำว่า "เงินทอง ถ้าไม่ตาย หาใหม่ได้" น่าจะประโลมใจได้ดีที่สุดจริงๆในตอนนี้ ถ้าเราบอกว่า โควิดไม่กลัว กลัวอดตาย มากกว่า ..ก็ไม่ผิดหรอกครับ คนเรามีชีวิตที่ต่างกัน เพียงแต่เรากลัวอดตายได้ และก็กลัวโควิดไปด้วยพร้อมๆกันได้ โดยใช้สติคอยกำกับ ออกไปทำงาน ออกไปหาเงิน ถ้ามันจำเป็น แต่ก็ไปด้วยสติ ไปด้วยความระวังตัวที่สุด ไม่ได้เขียนเพื่อให้กลัวและอดตายอยู่ที่บ้านครับ แต่เขียนเพื่อให้ ออกไปทำงาน ด้วยความไม่ประมาท และระวังตัวให้มากที่สุด เท่านั้นเอง สำหรับใครที่พอจะเลือกได้... ก็ถึงเวลาที่เราจะได้เห็นตัวตนของเราจริงๆแล้วนะครับว่า "สุขภาพ กับ เงิน" เราเป็นคนที่จะเลือกอะไร...
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แพทย์แนะนำ ทดสอบเดินเร็ว 6 นาที ทุกวันเช้า-เย็น ทดสอบสมรรถภาพปอด จริงหรือ
    นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ กลุ่มงานอายุรกรรม รพ.มหาราชนครราชสีมา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า #ไม่ต้องแปลกใจถ้าหมอสั่งคนเป็น covid ให้ลงมาเดินออกแรง คนไข้ ​covid​ รอบนี้หลายๆคน​ อาการไม่เยอะ​  แต่อย่าพึ่งชะล่าใจ​ อาจจะเป็นปอดอักเสบได้ง่ายๆ หมอจะให้ผู้ป่วยออกแรง เพื่อเป็นการตรวจง่ายๆ คือ การเดิน 6 นาที​ สามารถเชคอาการปอดได้ จริงหรือ
    anonymous
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false