1 คนสงสัย
อสส.จ่าเงินค่าตอบแทน 8000 บาทจริงหรือไม่
ไม่ระบุชื่อ
 •  6 เดือนที่แล้ว
0 ความเห็น

ข่าวการเมือง

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! กฟน. จัดโครงการไฟฟ้า ล้างแอร์ช่วยชาติ
    จากการส่งต่อข่าวสารประชาสัมพันธ์ว่า กฟน. จัดโครงการไฟฟ้า ล้างแอร์ช่วยชาติ และให้บริการรับชำระค่าไฟฟ้า หรือแจ้งเอกสารเตือนตัดไฟฟ้า ทางการไฟฟ้านครหลวง กระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการล้างแอร์ลดโลกร้อน รวมถึงไม่มีตัวแทนให้บริการล้างเครื่องปรับอากาศหรือให้พนักงานรับชำระค่าไฟฟ้า เก็บเงินค่าเปลี่ยนเครื่องวัดค่าไฟ ทั้งยังไปดำเนินการตรวจซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าเก็บค่าบริการนอกสถานที่แต่อย่างใด ยกเว้นกรณีที่ กฟน. จัดกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์กับชุมชน หรือโครงการต่าง ๆ ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทราบผ่านช่องทางสื่อสารทางการของ กฟน. หรือสื่อมวลชนทราบก่อนทุกครั้ง ระวังการแอบอ้างว่าเป็นบริษัทที่ได้รับการว่าจ้างจากการไฟฟ้าต่าง ๆ หรือการแอบอ้างว่าเป็นพนักงานของ กฟน. การแสดงบัตรพนักงานปลอม
    yossakornkodphat
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ด่วนมากๆลับสุดยอด พรรคก้าวไกล”ผวาหนาวสุดขีด ! :grin::kissing_heart:#แชร์ด่วนนายกรัฐมนตรีอยู่ยาว โดยวันนี้ นายก รัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ไปปฎิบัติหน้าทีใน ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี “รักษาการ อย่างเร่งรีบ โดยอาจจะต้องทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกยาวนานทีเดียว หลังฝ่ายกฎหมายระดับประเทศทุกฝ่ายให้ความเห็นต่อ”นายกฯพล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า พรรคก้าวไกลมีโอกาสถูกยุบพรรคสูงมาก ทั้งการเลือกตั้งหนนี้อาจจะเข้าข่ายเป็นโมฆะ ให้รัฐบาลรักษาการตามกฎหมายไปก่อน เนื่องจากรัฐบาลต้องรอผลวินิจฉัยของ ”คณะกรรมการเลือกตั้ง กกต. ปปช. และศาลรัฐธรรมนูญ ว่า การเลือกตั้งดังกล่าวเป็นโมฆะหรือไม่ และการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ถือหุ้นไอทีวีอยู่นั้นผิดด้วยกฏหมายว่าด้วยการเลือกตั้งหรือไม่ ทั้งการที่พรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีเจตนาพฤติกรรมชัดแจ้ง ในการยกเลิกมาตรา 112 และแก้ไขมาตรา 112 อีกทั้งสนับสนุน ”ขบวนการแก๊งหมิ่นให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างชัดแจ้งและเปิดเผย ”เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรไทย” จึงต้องรอให้คณะกรรมการ กกต. ปปช.และศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยพิพากษาการกระทำทั้งหมดของพรรคก้าวไกล ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน โดยหากคณะกรรมการ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ มีความเห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ จะส่งผลให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล จะต้องชดใช้เงินในการเลือกตั้งใหม่ไม่ต่ำกว่า 8000 ล้านบาท และเป็นสาเหตุอย่างยิ่งที่ นายกรัฐมนตรี พลเอก.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องไล่เบี้ยเงินค่าเลือกตั้งใหม่ จากพรรคก้าวไกล ในจำนวนเงินดังกล่าว 8000 ล้านบาท อย่างเร่งรีบ เร่งด่วน เพื่อนำมาใช้ในการเลือกตั้งใหม่ให้ถูกต้องตามกฏหมายว่าด้วยการเลือกตั้งต่อไป … :grin::kissing_heart::grin: #พรรคก้าวไกลไปเรียนมาใหม่นะ #ถ้าจะคิดรบกับทหาร #พรรคก้าวไกล #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ #หัวเราะที่หลังดังกว่านะนายจ๋าาา..:grin::kissing_heart: Cr.คเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    📌แจ้งเตือน! ธนาคารออมสินไม่มีให้บริการสินเชื่อทาง LINE / ไม่มีการขอให้ลูกค้าโอนเงินค่าธรรมเนียมใด ๆ ผ่านทาง LINE รวมถึงไม่มีการใช้ LINE สอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าด้วย ทั้งนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่แอบอ้างชื่อธนาคารโดยเร่งด่วนต่อไป
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ตำรวจช่างฯซ่อมรถฟรีทั่วประเทศ จริงหรือ
    มีการส่งต่อข้อมูลว่าตำรวจช่าง จราจรตามโครงการพระราชดำริ ซ่อมรถให้ฟรี ใครขับรถไปเสียที่ไหนในประเทศไทยให้โทร ไปที่หมายเลข 02-3546324 จ่ายเงินเฉพาะค่าอะไหล่ ที่นำมาให้ไม่รับเงินค่าอื่นๆ นั้น จริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    #ตะลึง​ คนไทยวันนี้ซื้อยาสีฟัน ยังต้องเสียเงินเพิ่มค่าพ่วงตราฮาลาล เพื่อเพิ่มความรวยให้แขกอิสลาม ยาสีฟันไม่มีส่วนผสมของหมูอยู่แล้ว​ แต่คนไทยผู้บริโภค ยังต้องเสียเงินจ่ายเพิ่มให้แขกอิสลาม​ ค่าตราฮาลาลถึง​ 6​ รายการ ผู้ผลิตยาสีฟัน​ เคยถามคนไทย ทั้งประเทศบ้างมั้ย? เมื่อเค้ารู้แล้วว่าอยู่ๆต้อง มาเสียเงินค่าฮาลาลเพิ่มใน สินค้าที่เค้าซื้อ เคยถามความรู้สึกของคนไทย ส่วนใหญ่ของประเทศไทย บ้างมั้ย? ว่าถ้าเค้ารู้ความจริงแล้วว่าอยู่ๆต้องซื้อสินค้าพ่วงเสียค่าฮาลาลให้แขกอิสลาม เค้าจะรู้สึกกันอย่างไร? https://youtu.be/hWVFHKQm6XU
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เจ้าหน้าที่ กฟภ. โทรติดต่อเรื่องคืนเงินค่าไฟฟ้า จากจดหน่วยในมิเตอร์ผิด
    ไม่ระบุชื่อ
     •  8 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    21 กย 63 อสมทั่วประเทศมีเฮ รับเงิน 3500 บาท จริวหรือ
    เช็กเลยเงินเข้าหรือยัง! โอนเงินค่าตอบแทน อสม. 3,500 บาท ดีเดย์ 21 กย 63
    naydoitall
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หลุมพรางสร้างความเกลียดชังทางศาสนาอิสลาม
    หลุมพราง บ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา By ประสาร มฤคพิทักษ์ | pmarukpitak@yahoo.com21 ก.พ. 2565 เวลา 11:49 น. หลุมพราง บ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา กระบวนการสร้างความเป็นอื่นให้กับบุคคลต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างผิวพรรณ จะใช้สองมือแบ่งกันทำหน้าที่ มือขวาสร้างโรงน้ำแข็ง เพื่อปั้นน้ำเป็นตัว ส่วนมือซ้าย ขุดหลุมพราง บ่มเพาะความจงเกลียดจงชังให้คนอื่นตกหลุมพรางนั้น ในบรรดาข่าวโกหก (Fake News) ที่อยู่บนหน้าจอไฟฟ้า หรือสื่อออนไลน์ ทั้งหลายนั้น ข่าวโกหกเรื่องศาสนาอิสลามมีพื้นที่ค่อนข้างมาก ส่งกันได้ทุกวัน ทั้งๆ ที่ 90% เป็นข่าวโกหก 1.โกหกว่า ศาสนาอิสลามกำลังยึดครองประเทศไทย โดยมีการออก พ.ร.บ. คุ้มครองศาสนาอิสลาม 10 ฉบับ ว่ามีมัสยิดใหม่เกิดขึ้นมาก ว่ามีการทำลายวัดในพุทธศาสนาหลายแห่ง ความจริง กรมการปกครอง ชี้แจงแล้วว่า มีกฎหมายเกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามเพียง 4 ฉบับ คือ (1) พ.ร.บ. ว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ. 2489 (2) พ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. 2524 (3) พ.ร.บ.การบริหารองค์การศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 (4) พ.ร.บ.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2545 ไม่ปรากฏว่ามีกฎหมายคุ้มครองศาสนาอิสลามแต่อย่างใดเลย 2.โกหกเรื่องศาสนาอิสลามจะตั้งศาลอิสลาม เพื่อคนมุสลิมไม่ต้องขึ้นศาลไทยปกติ โดยจะระดมรายชื่อ 10 ล้านคน เพื่อถวายฎีกา โดยอ้างว่า “เพื่อเอกราชทางอำนาจของศาลไทยไม่เสียไปอยู่ในมือมุสลิมที่กำลังจะกลืนไทยพุทธหมดแล้ว” ความจริง ไม่มีเรื่องดังกล่าวเลย จะมีก็แต่การนำหลักศาสนาอิสลามเรื่องครอบครัวและมรดกมาใช้สำหรับพิจารณาคดีที่คู่ความทั้งสองฝ่ายเป็นมุสลิม และอยู่ในเขตอำนาจศาลในพื้นที่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล เท่านั้น ตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว (พ.ศ. 2489 ข้อ 3.1) 3.โกหกว่ารัฐบาลต้องเอาภาษีประชาชนสร้างมัสยิดให้ชาวมุสลิมทุกจังหวัด ความจริง มัสยิดเป็นศาสนสถานของอิสลาม ดังที่คาธอลิคมีโบสถ์ พุทธศาสนามีวัด ศาสนาอิสลามมีมัสยิดจำนวน 3,965 แห่ง ตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. ปี 2540 มัสยิดทุกแห่งที่สร้างขึ้นมาจากเงินศรัทธาของชาวไทยมุสลิม รัฐบาลไม่ได้จ่ายเงินสร้างแต่อย่างใด ยกเว้นบางจังหวัดเช่น ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนเงินบูรณะซ่อมแซม ส่วนมัสยิดนครศรีธรรมราชเป็นงบผูกพัน 3 ปี (2557 - 2559) ตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน 4.โกหกว่ารัฐบาลจ่ายเงินค่าเดินทาง ที่พัก อาหาร ให้ชาวมุสลิมไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ซาอุดิอาระเบีย ความจริง ไม่มีเรื่องดังกล่าวเลย ผู้แสวงบุญทุกคนจ่ายเงินเองทั้งสิ้น 5.โกหกว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีสมาชิกที่เป็น สนช. ถึง 63 คน (จากสมาชิกทั้งหมด 233 คน) ที่เป็นมุสลิม กล่าวหาว่า สนช. จำนวนนี้ผลักดัน “ให้มีกฎหมายจัดตั้งศาลซารีอะห์เพื่อให้คนไทยที่มีคดีความกับคนมุสลิมต้องขึ้นศาลนี้ โดยมีผู้พิพากษาเป็นคนมุสลิม” นี่เป็นข่าวเก่าที่แพร่กระจายกันมา ตั้งแต่ 5 ปีก่อน แต่ยังกระจายกันอยู่จนเดี๋ยวนี้ ความจริง สนช. ชุดนั้นมีมุสลิมเพียง 4 คน คือ นิพนธ์ นราพิทักษ์กุล วิทยา ฉายสุวรรณ อนุมัติ อาหมัด และ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ (ถืออิสลามตามคู่สมรส) เท่านั้น ไม่มีการร่างกฎหมาย ดังกล่าว ไม่มีการเสนอ ไม่มีการพิจารณาใดๆ ทั้งนั้น ยังมีข่าวโกหกอีกหลายอย่าง เช่น สัญลักษณ์ Green Industry ของ กท.อุตสาหกรรม สีเขียวบนสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็หาว่า “เป็นตราฮาลาลเพื่อเอาใจมุสลิม” ข่าวโกหกว่าชาวไทยมุสลิมกู้เงินธนาคารอิสลาม “โดยไม่ต้องใช้หนี้คืนได้” ข่าวโกหกว่า พ.ร.บ.ฮัจย์ “ทำให้อิสลามเข้าควบคุมการปกครอง” กระทรวงมหาดไทย ข่าวโกหกว่าผู้นำซาอุดิอาระเบียแต่งตั้ง “ให้นายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคนอิสลามเข้าไทยแบบผิดกฎหมายได้” ทั้งหมดนี้เป็นข่าวโกหกอย่างสิ้นเชิงที่นำมาเผยแพร่กันโดยเฉพาะในกลุ่มไลน์ที่แพร่กระจายอย่างเสรีและยากต่อการควบคุม บทเรียน 6 ตุลาคม 2519 ของขบวนการขวาพิฆาตซ้ายที่ปั้นข่าวเท็จกลายเป็นโศกนาฏกรรมล้อมปราบที่ ม. ธรรมศาสตร์ มีการเผานั่งยางนักศึกษา มีการฆ่าแขวนคอ ที่สนามหลวง แม้แต่การโฆษณาชวนเชื่อของ ฮิตเลอร์ และนาซีเยอรมันที่สร้างความรังเกียจทางเชื้อชาติ สังหารคนยิวไป 6 ล้านคน จะไม่เก็บรับบทเรียนกันบ้างหรือไร เมื่อ 16 ก.พ. 2565 ณ วัดราชบพิธฯ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระวโรกาสให้ ดร.มูฮัมหมัด บิน อับดุลการีม อัลอีซา เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก (OIC) เข้าเฝ้า ทรงรับสั่งว่า “คนไทยคุ้นเคยกับวัฒนธรรมประเพณีของศาสนาอิสลามมานานแล้ว อย่างน้อยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีชาวมุสลิมจากตะวันออกกลางเข้ามาค้าขายหรือรับราชการในเมืองไทย มีผู้สืบเชื้อสายมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นสกุลใหญ่ที่รู้จักกว้างขวาง..... .....ยามที่ชาวมุสลิมมีการงานประเพณีใด ชาวพุทธก็นำสิ่งของไปช่วยงาน ในขณะที่ ถ้าชาวพุทธมีการงานประเพณีใด ชาวมุสลิมก็นำสิ่งของมาช่วยงานเช่นเดียวกัน ทรงสามารถยืนยันได้ เพราะได้เคยทอดพระเนตรเห็นประจักษ์มาด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้ “พระมหากษัตริย์ไทย” ทุกพระองค์ มีพระบรมราชปณิธานที่จะพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์บำรุงทุกศาสนา พระบรมราโชบายเช่นนี้ จึงทำให้เมืองไทย มีความสงบร่มเย็นด้วยสามัคคีธรรมเสมอมา” เลขาธิการ OIC กราบทูลแสดงความปิติยิ่งในพระดำรัส และยังกราบทูลถวายคำยืนยันว่า “บุคคลใดผู้ยุยงให้ผู้คนในสังคมรู้สึกแตกแยกบาดหมางกัน โดนอ้างความแตกต่างกันทางศาสนา บุคคลนั้นไม่ได้ชื่อว่าเป็นมุสลิมที่แท้จริง....... ......เพราะการก่อให้เกิดความร้าวฉานนั้น เป็นความชั่วร้ายที่ไม่อาจกล่าวได้ว่า เป็นตัวแทนของศาสนาใดๆ ในโลก ผู้ที่กระทำการเช่นนั้น ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเขาเอง” สมเด็จพระสังฆราช และผู้นำองค์กรมุสลิมโลก ได้แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์แห่งความสมานฉันท์ที่มีมายาวนานตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และไม่ปรารถนาจะเห็นความขัดข้องหมองใจใดๆ เลย กลุ่มสร้างความเกลียดชังทางศาสนา ไม่เรียนรู้เลยหรือว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงทำให้ชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ ภาคภูมิใจที่ได้เป็นคนไทย ในแผ่นดินแห่งนี้ เมื่อปี 2511 พระองค์ท่านเสด็จไปงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติองค์ศาสดาพระมูฮัมหมัด โดยมีการเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน เป็นการเปิดงาน พระองค์ตรัสกับ นายต่วน สุวรรณศาสน์ อดีตจุฬาราชมนตรีว่า “พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่ถูกเชิญในวันนี้ เขาอ่านได้จับใจไพเราะเหลือเกิน แต่ทำอย่างไรที่จะให้พสกนิกรเรา ทั้งชาวไทยหรือไม่ใช่ก็ตามที และทุกหน่วยงานองค์กรของรัฐได้เข้าใจว่า อัลกุรอานซึ่งเป็นธรรมนูญชีวิต และเป็นคำบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ มีความหมายอย่างไร” แล้วพระองค์ท่าน ก็พระราชทานทุนทรัพย์ก้อนแรกให้กับอดีตจุฬาราชมนตรี เพื่อหาคนแปล จึงได้เกิด “พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน” ฉบับแปลเป็นภาษาไทยที่เป็นคุณูปการยิ่งต่อการศึกษาศาสนาอิสลามของชาวไทยมุสลิมทั้งปวง ต่อเนื่องมาถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่เสด็จงานเมาลิดกลาง และพระราชทานพระกรุณาให้กับชาวไทยมุสลิมโดยไม่ทรงแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนาใดๆ เลย การเอาเรื่องเท็จมาปั้นแต่งโฆษณาว่าเป็นเรื่องจริง การหยิบเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเป็นเรื่อง การเอาเรื่องเล็กมาขยายเป็นเรื่องใหญ่ การเอาเฉพาะส่วนมาแทนที่ส่วนทั้งหมดเป็นวิสัยของมนุษย์ จำพวกไหน กระบวนการด้อยค่าบุคคลต่างศาสนา ด้วยวิธีสร้างความเป็นอื่น ขุดหลุมพรางบ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา จะใจร้ายอำมหิตไปถึงไหน จึงโกหกมดเท็จรายวันไม่หยุดหย่อน เหมือนไม่เกรงนรกหมกไหม้ หรืออย่างไร.
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    (ประกาศ)อันตรายสูงสุด มีผู้พยายามสร้างสงครามศาสนาในไทย (see-no-evil ) (newspaper)ข้อมูลข่าวสาร…ทางสื่อสังคมออนไลน์…ที่ออกมามากในช่วงหลัง … โดยเฉพาะ เกี่ยวกับศาสนาอิสลามนั้น…ส่วนใหญ่ไม่ตรงตามความเป็นจริง…หรือ เป็นข้อมูลเท็จ…ที่มีการเสริมเพิ่มความเท็จเข้าไปค่อนข้างมาก…มีลักษณะ…เป็นการนำเข้าข้อมูล…และ…เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ…ผ่านระบบคอมพิวเตอร์…ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมาย…ผู้ที่ส่งต่อข้อมูลต่างๆดังกล่าว ย่อมจะมีความผิดไปด้วย…จึงต้องระวังในการส่งต่อให้มาก ~ เช่น ข้อมูลเท็จที่ว่า… รัฐบาลชุดปัจจุบัน …ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี …ได้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างมัสยิด และมัสยิดกลางประจำจังหวัด…จำนวนหลายแห่ง ตลอดจนตั้งเงินเดือนโต๊ะอิหม่าม เดือนละ 18,000 บาท และ คณะกรรมการประจำมัสยิดมีเงินเดือนทุกคน นั้น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงว่า ข่าวสารดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเรื่องเท็จ และเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงขอให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อประชาชนทุกคนจะได้ทราบความจริง ดังนี้ 1.มัสยิดกลางประจำจังหวัด…ที่กล่าวอ้างถึงในสื่อสังคมออนไลน์ข้างต้น มีข้อเท็จจริง ดังนี้ 1.1 มัสยิดกลาง…ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช …ก่อสร้างด้วยงบประมาณแผ่นดิน จำนวน 104 ล้านบาทเศษ แต่เป็นโครงการที่ผูกพันมาจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น (พ.ศ.2555) มิใช่ รัฐบาลในปัจจุบัน โดยเป็นงบผูกพัน 3 ปี พ.ศ.2557-2559 ซึ่งมอบหมายให้กรมการปกครอง เป็นหน่วยขอรับงบประมาณ และโอนจัดสรรให้แก่ จ.นครศรีธรรมราช มิได้เป็นการอนุมัติของ ครม.ชุดปัจจุบันแต่อย่างใด 1.2 มัสยิดกลางประจำจังหวัดนนทบุรี …เป็นการก่อสร้างอาคารศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลาม…จังหวัดนนทบุรี …ซึ่งก่อสร้างด้วยงบประมาณ…ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี จำนวน 85 ล้านบาท …มิได้เกิดจากการอนุมัติของ ครม.ชุดปัจจุบัน 1.3 มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี …จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา เป็นมัสยิดกลาง…ที่มีมาแต่ดั้งเดิมแล้ว บางแห่งสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2424 พ.ศ.2468 และ พ.ศ.2497 โดยเงินส่วนใหญ่…ที่ใช้ในการก่อสร้าง…ก็มาจากเงินบริจาคของประชาชนในพื้นที่ …แต่อาจมีการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลในขณะนั้นบ้าง …ตามนโยบายด้านความมั่นคง …มิใช่การก่อสร้างขึ้นใหม่แต่อย่างใด… ซึ่งรัฐบาลในยุคต่อๆ มา (หลายรัฐบาล) ได้จัดสรรงบประมาณ…เพื่อการบูรณะและต่อเติมให้มีความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย…ต่อชาวไทยมุสลิม…ที่มาประกอบกิจกรรมทางศาสนา …ซึ่งใช้งบประมาณจำนวน 22 ล้านบาทบ้าง 28 ล้านบาทบ้าง สูงสุดประมาณ 35 ล้านบาทเท่านั้น มิใช่ เป็นเงินจำนวนมาก ที่กล่าวอ้างโจมตี 1.4 มัสยิดกลางประจำจังหวัดภูเก็ต …มีจุดประสงค์ให้เป็นศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามจังหวัดภูเก็ต…และศูนย์พัฒนาอาหารฮาลาล …ไม่ใช่อาคารมัสยิดกลางประจำจังหวัด …ก่อสร้างโดยงบประมาณขององค์ปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต …และเงินบริจาคของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต …จำนวน 250 ล้านบาทเศษ…มิใช่ งบประมาณจากรัฐบาล 1.5 สำหรับจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด และ จังหวัดบึงกาฬ ยังไม่มีมัสยิดกลาง จะมีเฉพาะมัสยิดทั่วๆ ไป ซึ่งมาจากเงินบริจาคของประชาชนเท่านั้น 2. เนื่องจากผู้นำศาสนาอิสลาม…มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ.2540 ในการดูแลพี่น้องชาวไทยมุสลิมในเรื่องต่างๆ เช่น การจัดทำทะเบียนสัปปุรุษ การสอนหลักธรรมศาสนาให้สัปปุรุษ การออกหนังสือรับรองการสมรสตามหลักศาสนา การจัดกิจกรรมทางศาสนา และการประนีประนอมข้อพิพาท ว่าด้วยครอบครัวและมรดกตามหลักศาสนา ดังนั้น รัฐจึงได้กำหนดให้ผู้นำทางศาสนาบางตำแหน่ง…ได้รับเงินค่าตอบแทนมาตั้งแต่ พ.ศ.2539 ซึ่งก็ได้มีการปรับปรุงค่าตอบแทนให้เหมาะสมกับสภาพทางเศรษฐกิจโดยปัจจุบัน 2.1 อิหม่าม ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 1,200 บาท 2.2 คอเต็บ และบิหลั่น เดือนละ 1,000 บาท 2.3 ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 1,900, 2,700 หรือ 3,500 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนมัสยิดในแต่ละจังหวัด 2.4 กรรมการอิสลามประจำจังหวัด และกรรมการอิสลามประจำมัสยิด ไม่มีค่าตอบแทนแต่อย่างใด 2.5 นอกจากนี้ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และกรรมการอิสลามประจำจังหวัดได้รับค่าเบี้ยประชุมครั้งละ 1,100 บาท ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ.2547 อีกด้วย ~ อนึ่ง ได้ทราบว่า นายกฯประยุทธ์ ฯ ได้ชี้แจงว่า "ตนเองและภริยานั้น เป็นผู้นับถือศาสนาพุทธ 100% และ ห้อยพระตลอด ส่วนภริยาก็สวดมนต์ไหว้พระตลอด ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม ตามการกล่าวหาในสื่อสังคมออนไลน์ ~ ดังนั้น ข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์…ในกรณีต่างๆดังกล่าว …จึงเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ…และบิดเบือนข้อเท็จจริง …เพื่อสร้างความขัดแย้งในสังคมไทย …ซึ่งเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม …อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเข้าใจผิดต่อรัฐบาลชุดปัจจุบัน …นอกจากนี้การกระทำดังกล่าว…ยังเป็นการนำเข้าข้อมูลและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ…ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาอีกด้วย จึงเป็นสิ่งที่พวกเรา พึงต้องระวังการส่งต่อข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จด้วยนะครับ (Unity)(Unity)(Unity)(Unity)(Unity)
    ไม่ระบุชื่อ
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    คนไทยที่ติดโควิด-19 ได้รับสิทธิรักษาฟรีทุกโรงพยาบาล
    คนไทยที่ติดโควิด-19 ได้รับสิทธิรักษาฟรีทุกโรงพยาบาล หากมีข้อสงสัยการจ่ายเงินค่ารักษา มีการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล หรือสอบถามค่ารักษา ได้ที่ สปสช. โทร. 1330 หรือ สบส. โทร .1426
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false