1 คนสงสัย
แล้งน้ำใจ! โซเชียลจวกคนแจ้งความ นศ.เปิดหมวกหาทุน
ท้วงติงกันทั้งโซเชียล เมื่อเพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองราชบุรี ราชบุรี โพสต์รายงานการปฏิบัติหน้าของตำรวจเมื่อได้รับแจ้งเหตุตามปกติทุกวัน แต่ครั้งนี้กลับเป็นเรื่องที่มีคนแจ้งความให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ โดยบอกกับตำรวจว่ามีคนเปิดเพลงเสียงดังรบกวน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่ก็พบว่าเป็นนักศึกษาสาวคนหนึ่ง เปิดหมวกร้องเพลงในตลาดเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับตัวเอง จึงได้แจ้งให้นักศึกษาคนดังกล่าวเบาเสียงลง ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
Faisol Bin Ahmad
 •  3 ปีที่แล้ว
1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
meter: middle
1 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
Faisol Bin Ahmad เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

ตำรวจเราปฏิบัติตามหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชนครับ เรารับแจ้งจากศูนย์ 191 ไม่ว่าจะรับแจ้งเหตุงูเข้าบ้าน หนูเข้าบ้าน ทะเลาะวิวาท

ที่มา

https://www.ejan.co/social-trend/แล้งน้ำใจ-โซเชียลจวกคนแจ้งความ-นศเปิดหมวกหาทุน
  • มี 1 ความเห็น เจ้าของลบไปแล้ว.
  • เพิ่มความเห็นใหม่

    กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

    คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    วันนี้ มีเงินเข้าบัญชี 1040 บาทกำลังนั่งงงอยู่ว่าใครโอนเงินมาให้นะ ไม่ถึง 5 นาทีมีคนโทรเข้ามาเป็นเสียงผู้หญิงบอกว่า คุณชื่อรินรดาใช่ไหมคะ หนูโอนเงินผิดบัญชีไปให้ช่วยโอนเงินคืนมาให้หนูด้วยหนูจะจ่ายค่าอาหาร...ก็ตอบไปว่า โอนไม่เป็นนะคะรับ ให้ไปสถานีตำรวจเล่าเรื่องให้ตำรวจฟัง.ให้แจ้งความไว้..ห้ามโอนเงินคืน พวกมิจฉาชีพแน่นอน ให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ...โทรแจ้งไปที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่บอก คุณห้ามโอนเงินคืนโดยเด็ดขาด ...เค้าอยากได้เงินคืนให้เขาติดต่อมาที่ธนาคารเอง ...บอกต่อครับ ใครโอนเงินเกลี้ยงบัญชี มาในรูปแบบใหม่ มุขเดิม ใช้ไม่ได้แล้ว
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    วันนี้ มีเงินเข้าบัญชี 1040 บาทกำลังนั่งงงอยู่ว่าใคร โอนเงินมาให้นะ ไม่ถึง 5 นาทีมีคนโทรเข้ามา เป็นเสียงผู้หญิงบอกว่า คุณชื่อรินรดาใช่ไหมคะ หนูโอนเงินผิดบัญชีไป ให้ช่วยโอนเงินคืนมาให้หนูด้วย หนูจะจ่ายค่าอาหาร.… ให้ตอบกลับไปว่า #โอนไม่เป็น ถ้าสะดวกให้ไปที่สถานีตำรวจเล่าเรื่อง ให้ตำรวจฟัง…และให้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้.. #ห้ามโอนเงินคืนเด็ดขาด เพราะพวกนี้คือมิจฉาชีพ โทรแจ้งไปที่ธนาคารว่ามีคนโอนเงินเข้ามา #เจ้าหน้าที่บอกว่า คุณห้ามโอนเงินคืนโดยเด็ดขาด ถ้าเค้าอยากได้เงินคืนให้เขาติดต่อมาที่ธนาคารเอง ใครโอนเงินคืน เงินเกลี้ยงบัญชีแน่นอน พวกมันมาในรูปแบบใหม่ เพราะมุขเดิมๆ ที่มันใช้อยู่ใช้ไม่ได้แล้ว บอกต่อคนที่คุณรักด้วย!! 🙏🏼
    ไม่ระบุชื่อ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หนังกลางแปลงมาแรงแชมป์ข่าวปลอม
    นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า สรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 8-14 ก.ค.65 โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม มีข้อความที่เข้ามาทั้งสิ้น 11,814,437 ข้อความ จากการคัดกรองมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) จำนวน 374 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ186 เรื่อง โดยพบว่าสัดส่วนกลุ่มข่าวสุขภาพเริ่มขยับสูงขึ้นมีจำนวนถึง 78 เรื่องเป็นข่าวเกี่ยวกับโควิด 17เรื่อง ... หนังกลางแปลงมาแรงแชมป์ข่าวปลอม อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากข้อมูลเชิงลึก (Insight) พบว่าข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุดประจำสัปดาห์ เป็นข่าวเกี่ยวกับกระแสกิจกรรมการฉายหนังกลางแปลงของ กทม. ซึ่งจะจัดขึ้นตลอดเดือน ก.ค.นี้ในชื่องานเทศกาล “กรุงเทพฯ กลางแปลง” โดยติดอยู่ในอันดับ 1 และ 2 สำหรับข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด ในรอบสัปดาห์ล่าสุดนี้ ได้แก่ อันดับ 1 กทม. จัดเทศกาลกรุงเทพฯ กลางแปลง ราคาจัดจ้างจอละ 8 ล้านบาท อันดับ 2 ผู้ว่าฯ กทม.สั่งปิดข่าวและห้ามสื่อลงข่าวการเกิดฟ้าผ่าลงบริเวณลานกิจกรรมหนังกลางแปลง อันดับ 3 กรุงไทยปล่อยสินเชื่อกรุงไทยใจปํ้า ผ่อน 300 บาท รู้ผล 5 นาที ผ่านไลน์ อันดับ 4 ไลน์ของอธิบดีกรมควบคุมโรค และอันดับ 5 กรมอุตุฯเตือน 4 ภาค เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง 70-80% และระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้น. ข่าวแนะนำ แกนนำก้าวไกล รวมตัว หารือก่อนโหวตนายกฯ 4 ส.ค. ม็อบมีหรือไม่ อยู่ที่ประชาชน การเมือง แกนนำก้าวไกล รวมตัว หารือก่อนโหวตนายกฯ 4 ส.ค. ม็อบมีหรือไม่ อยู่ที่ประชาชน "พิธา" โพสต์เฟซฯ ยืนยันหายดีจากอาการ "ไข้หวัดสายพันธุ์เอ" แล้ว politic "พิธา" โพสต์เฟซฯ ยืนยันหายดีจากอาการ "ไข้หวัดสายพันธุ์เอ" แล้ว รัฐ เตือน ประชาชน ระวังมิจฉาชีพอ้างหน่วยงานราชการหลอกขอข้อมูล ทำสูญเงิน การเมือง รัฐ เตือน ประชาชน ระวังมิจฉาชีพอ้างหน่วยงานราชการหลอกขอข้อมูล ทำสูญเงิน ฮุน มาเนต และดุลยภาพใหม่ทางการเมืองของกัมพูชา Spark ฮุน มาเนต และดุลยภาพใหม่ทางการเมืองของกัมพูชา วิดีโอแนะนำ ดูทั้งหมด ชาวเน็ตพูดเป็นเสียงเดียวกัน คล้าย พิธา หลังดูคลิปที่ ต่าย ชุติมา โพสต์ลง ชาวเน็ตพูดเป็นเสียงเดียวกัน คล้าย พิธา หลังดูคลิปที่ ต่าย ชุติมา โพสต์ลง คลิปเด่น ระทึก โจรใต้วางระเบิดใน สภ.เมืองยะลา ซุกถังดับเพลิง หนัก 15 กิโล ระทึก โจรใต้วางระเบิดใน สภ.เมืองยะลา ซุกถังดับเพลิง หนัก 15 กิโล
    std48963
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    คุณประเสริฐ ฯ เป็นผู้บริหารอาวุโส เคยทำงานบริษัท cp เกษียณอายุแล้ว ส่งมาให้ ................................. เรื่อง ตำราไม่ล้างไต ถ้าข้าพเจ้าได้รับตำรานี้ เมื่อ 25 ปีก่อน ลูก ๆ คงไม่ต้องมาร้องเพลงชื่อ “ คนอื่นมีแม่ ฉันไม่มี ” การที่จะเอาเมล็ดลิ้นจี่มาทำยานั้นง่ายมากสำหรับข้าพเจ้า เพราะที่บ้านปลูกต้นลิ้นจี่กว่า 50 ปีแล้ว แต่ไม่รู้ว่า มันคือยาวิเศษในการรักษาโรคไต คู่ชีวิตของข้าพเจ้าต้องทรมานเสียเวลา 14 ปี ในการฟอกไตและในที่สุด ก็ต้องจากไป ในไต้หวันมีผู้คนป่วยเป็นโรคไตจำนวนมากที่ต้องทำการฟอกไต การที่ต้องไปฟอกไตเพราะไตเสื่อมลง จนไม่มาสามารถขัยถ่าย ของเสียออก บางทีญาติ หรือเพื่อนของท่าน บางคนกำลังฟอกไตอยู่ จึงอยากให้ท่านช่วยเผยแพร่ตำราวิเศษออกไปให้ทั่ว จะเป็นบุญกุศลยิ่ง คนที่นำไปทดลองใช้ จะมีแต่ได้ ไม่มีเสียอย่างแน่นอน ช่วยได้ 1 คน เท่ากับช่วยทั้งครอบครัว ข้าพเจ้าเป็นโรคไตเพราะเป็นโรคเบาหวานนาน 20 ปี ความเป็นทุกข์ ทรมานนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเบื่อต่อชีวิต และคิดจะจบชีวิตตนเองหลายครั้ง แต่มาคิดได้ว่า ถ้าเราพ้นทุกข์แล้ว ทำให้หลายคนต้องรับทุกข์ต่อ ลูก หลาน หลายคนยังเรียนไม่จบ ยังตั้งตัวไม่ได้ เลยรับกรรมไปฟอกไตต่อ มีคนเสนอตำราลับ ตำราวิเศษให้ แต่ไม่เคยเชื่อ ข้าพเจ้าเชื่อแต่แพทย์แผนปัจจุบัน จึงเดินเข้าห้องฟอกไต ขอสู้กับมัจจุราชต่อไป ข้าพเจ้าเกิดนึกถึงคำพังเพยจีนว่า “ ม้าตายแล้ว ให้นึกว่ารักษาม้าเป็น ” บางทีชีวิตนี้อาจมีความหวัง จึงขอทดลอง หลังฟอกไตครั้งที่ 2 แล้ว คุณน้ามาเยี่ยม ถามว่า อยากลองตำราวิเศษไหม รับรองไม่ต้องฟอกไต อีกต่อไป ข้าพเจ้าก็ตกลงทันที ตอนบ่ายคุณน้า นำซุปเส้งจี้มา 1 หม้อ แบ่งดื่ม 2 ครั้ง วันที่ 2 นำมาอีก 1 หม้อ (ราว ชามครึ่ง) พร้อมให้กินเส้งจี้อีกครึ่งลูก ในวันนั้น ปรากฏว่า การถ่าย ปัสสวะดีขึ้น พอวันที่ 3 ซึ่งจะต้องฟอกไต แต่หมอตรวจแล้วว่า วันนี้ยังไม่ต้องฟอกก่อน ข้าพเจ้าได้ดื่มซุปเส้งจี๊ ประมาณ 1 อาทิตย์ ไปตรวจอีก คราวนี้หมอประหลาดใจมาก แจ้งว่า ไตปกติแล้ว ไม่ต้องฟอกแล้ว ตำราวิเศษ มีดังนี้.-- เมล็ดลิ้นจี่สด 7 เม็ด ทุบให้แตก แล้วใช้ผ้าขาวอย่างบาง ๆ ห่อไว้ ซื้อเส้งจี๊หมู 1 ลูก หั่นเป็นแผ่นบาง ล้างให้สะอาด ตัดเอาเอ็นสีขาวออก เอาน้ำซาวข้าวครั้งที่ 2 จำนวน 2 ชาม นำเข้าใส่ในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ทำการนึ่งเป็นเวลา 30 นาที เสร็จแล้วให้ดื่มหมดครั้งเดียว ก็จะได้ผล ข้าพเจ้าได้พ้นจากฟอกไต เพราะตำรานี้ จึงขอความกรุณาทุกท่าน ช่วยเผยแพร่ตำรานี่ แก่ผู้ป่วยเป็นโรคไต ให้พ้นทุกข์จากการฟอกไตด้วย จะเป็นบุญกุศลอย่างยิ่ง.(ใครที่ต้องฟอกไต ลองใช้วิธีนี้ดูไม่เสียหลาย ที่เขาว่าไว้ลางเนื้อชอบลางยา ส่งต่อเป็นวิทยาทานและเป็นบุญ นะครับ)
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ตัวเเทนผู้ส่งสารพระเจ้าของศาสนาคริสต์
    การประกาศเป็นบุญราศี (อังกฤษ: Beatification) คือกระบวนการที่คริสตจักรโรมันคาทอลิกกำหนดขึ้นเพื่อรับรองว่าบุคคลหนึ่งได้เข้าสู่สวรรค์และสามารถวอนขอพรจากพระเป็นเจ้าแทนมนุษย์บนโลกได้ กระบวนการนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สี่ของการประกาศเป็นนักบุญ ประวัติ แก้ไข แต่เดิมการประกาศเป็นบุญราศีเป็นกระบวนการที่แต่ละมุขมณฑลดำเนินการเอง และมักจะเป็นการยกย่องมรณสักขีในท้องถิ่นนั้น ๆ ตั้งแต่ ค.ศ. 1983 เป็นต้นมาศาสนจักรคาทอลิกกำหนดว่าต้องมีปาฏิหาริย์หนึ่งอย่างที่ (เชื่อว่า) เกิดจากการที่ผู้นั้นได้อ้อนวอนขอพรพระเจ้าตามการอธิษฐานของคริสต์ศาสนิกชน ในกรณีที่ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นมรณสักขี ศาสนจักรจะดำเนินการประกาศเป็นบุญราศีให้โดยไม่จำเป็นต้องมีเรื่องปาฏิหาริย์มารับรองความศักดิ์สิทธิ์ เพราะถือว่าการพลิชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในคริสต์ศาสนาถือเป็นวีรคุณธรรมที่แสดงความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว ความเคารพและการเฉลิมฉลองบุญราศีจะจำกัดเฉพาะภายในภูมิภาคหรือประชาคมที่บุญราศีนั้นเคยเกี่ยวข้องขณะยังมีชีวิตอยู่ จนเมื่อได้รับการประกาศเป็นนักบุญแล้วจึงจะได้รับความเคารพและจัดงานฉลองจากคริสต์ศาสนิกชนได้ทั่วโลก[1] เช่น คริสตจักรโรมันคาทอลิกในประเทศไทยกำหนดให้ฉลองเจ็ดบุญราศีมรณสักขีแห่งสองคอนในวันที่ 16 ธันวาคม[2] และฉลองบุญราศีนิโคลัส บุญเกิด กฤษบำรุง ในวันที่ 12 มกราคม[3] บุญราศีชาวไทย แก้ไข ชาวไทยได้รับการประกาศเป็นบุญราศี 2 ครั้ง รวม 8 องค์ ได้แก่ เจ็ดบุญราศีมรณสักขีแห่งสองคอน ผู้สร้างวีรกรรมความศรัทธาเมื่อ ค.ศ. 1940 ในสมัยที่ไทยมีกรณีพิพาทอินโดจีนกับฝรั่งเศส กรณีดินแดนในแถบอินโดจีน ช่วงนั้นมีคนไทยหลายคนเข้าใจผิดว่าศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของฝรั่งเศส ทางการไทยจึงได้มีคำสั่งให้ชาวบ้านเลิกนับถือศาสนาคริสต์ แต่มีชาวบ้านอยู่ 7 คนที่ไม่ยอมละทิ้งศาสนา นำโดยนายสีฟอง อ่อนพิทักษ์ (อายุ 33 ปี) , ภคินี 2 รูปคือ ซิสเตอร์พิลา ทิพย์สุข (อายุ 31 ปี) และซิสเตอร์คำบาง สีฟอง (อายุ 23 ปี) , สตรีสูงวัย 1 ท่านคือนางพุดทา ว่องไว (อายุ 59 ปี) , และเด็กสาวอีก 3 ท่านคือ นางสาวบุดสี ว่องไว (อายุ 16 ปี ), นางสาวคำไพ ว่องไว (อายุ 15 ปี) และเด็กหญิงพร ว่องไว (อายุ 14 ปี) ทั้งหมดถูกยื่นคำขาดว่าจะต้องถูกฆ่า หากไม่ยอมละทิ้งศาสนาคริสต์ ทั้ง 7 คนจึงพร้อมใจกันยอมสละชีวิตที่ป่าศักดิ์สิทธิ์ โดยมีตำรวจเป็นคนคร่าชีวิต ปี 1989 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ได้ประกาศสดุดีให้ทั้ง 7 คน เป็น "บุญราศีมรณสักขี" หมายถึง คริสตชนผู้ที่ประกอบกรรมดีและพลีชีพเพื่อประกาศยืนยันความเชื่อในพระเจ้าไม่ยอมละทิ้งศาสนา อีกทั้งประกาศให้มีพิธีรำลึกบุญราศีสองคอนทั้ง 7 ในวันที่ 16 ธันวาคม โดยมีการฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในมหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ซึ่งหลังจากการสถาปนาบุญราศีทั้ง 7 แล้ว โบสถ์สองคอน จึงได้จัดงานชุมนุมครั้งใหญ่ เพื่อฉลองบุญราศีที่ประเทศไทย เรียกงานนี้ว่า “งานสันติร่วมจิตใจเดียว” ในปีต่อ ๆ มา จัดเป็นงานวันรำลึกบุญราศีทั้ง 7 แต่เพื่อความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจอยากไปร่วมงาน การฉลองที่โบสถ์สองคอนจึงกำหนดให้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ใกล้เคียงกับวันที่ 16 ธันวาคมที่สุด [4] บุญราศีนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง[5] เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1895 และรับศีลล้างบาปวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1895 ที่โบสถ์นักบุญเปโตร สามพราน นครปฐม และรับศีลอนุกรมเป็นบาทหลวง โดยมุขนายกเรอเน-มารี-โฌแซ็ฟ แปโร เมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 1926 ที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ บาทหลวงบุญเกิดทำงานอภิบาลที่โบสถ์หลายแห่ง คือ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก, โบสถ์เซนต์นิโคลาส พิษณุโลก, อาสนวิหารพระหฤทัย เชียงใหม่, โบสถ์คาทอลิกในลำปาง, อาสนวิหารแม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด นครราชสีมา และโบสถ์นักบุญเทเรซา โนนแก้ว บาทหลวงบุญเกิดถูกจับในวันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์ หลังจากประกอบศาสนกิจที่โบสถ์นักบุญยอแซฟ บ้านหัน เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1941 ในข้อหาเป็นกบฏภายนอกราชอาณาจักร ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี ระหว่างอยู่ในคุกที่เรือนจำกลางบางขวางเป็นปีที่สาม ท่านป่วยเป็นวัณโรคเป็นเวลา 9 เดือน และถึงแก่กรรมในคุกนั้นเอง เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1944 รวมอายุ 49 ปี ศพของท่านถูกนำไปฝังไว้ที่วัดบางแพรกซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้เรือนจำ หลังจากนั้นในเดือนมีนาคม มุขนายกเรอเน-มารี-โฌแซ็ฟ แปโรจึงได้รับอนุญาตให้นำศพของท่านมาฝังที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ บาทหลวงนิโคลาสเป็นบาทหลวงที่เอาใจใส่งานอภิบาล มีใจเมตตาต่อคนยากจน และมีความกระตือรือร้นในการประกาศข่าวดี ระหว่างที่อยู่ในคุก ท่านได้สอนคำสอนและโปรดศีลล้างบาปให้นักโทษด้วยกันที่ใกล้ตายจำนวน 68 คน พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้เสนอกรณีของท่านให้สมณะกระทรวงการสถาปนานักบุญพิจารณา หลังจากตรวจสอบอย่างถ้วนถี่ชัดแจ้งว่าท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ พลีชีพเพราะเห็นแก่ความเชื่อในพระเป็นเจ้า สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ได้ประกาศรับรองความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน เมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2000 และประกอบพิธีสถาปนาเป็นบุญราศีมรณสักขี ในวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2000 ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ประเทศอิตาลี
    putilp148
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    https://verumachina.org/1tbc7KpX?utm_creative=%D0%9D%D0%BE%D0%B2%D0%BE%D0%B5+%D0%BE%D0%B1%D1%8A%D1%8F%D0%B2%D0%BB%D0%B5%D0%BD%D0%B8%D0%B5+%D1%81+%D1%86%D0%B5%D0%BB%D1%8C%D1%8E+%22%D0%9F%D1%80%D0%BE%D0%B4%D0%B0%D0%B6%D0%B8%22&utm_campaign=TH+Kan&utm_source=fb&utm_placement=Facebook_Right_Column&campaign_id=120212978566600770&adset_id=120212978566620770&ad_id=120212978566650770&adset_name=%D0%9D%D0%BE%D0%B2%D0%B0%D1%8F+%D0%B3%D1%80%D1%83%D0%BF%D0%BF%D0%B0+%D0%BE%D0%B1%D1%8A%D1%8F%D0%B2%D0%BB%D0%B5%D0%BD%D0%B8%D0%B9+%D1%81+%D1%86%D0%B5%D0%BB%D1%8C%D1%8E+%22%D0%9F%D1%80%D0%BE%D0%B4%D0%B0%D0%B6%D0%B8%22&smile=x623ve&pixel=318307531159004&token=EAAPlkd2ej9sBOxHGbCmZAetrfhC0dDxA2DktDk9FasyquhZCcUXSYeNR51314yAew809JvOH6k7tqp2deOE651fgq6OrK4kksqSZCLOwnK1mnMyW49yZB4hdGa82gzDVs2QSlfolwleqrHmhacKZCnLULpmqVZB7EFd79GfqlRHmEROCIZCC5JtSsV7rBDb6XlrTQZDZD&domain=verumachina.org&utm_medium=paid&utm_id=120212978566600770&utm_content=120212978566650770&utm_term=120212978566620770&fbclid=IwY2xjawGbGIxleHRuA2FlbQEwAGFkaWQBqxURMq-DwgEd_v9y6lCCAabplAD7dv_4Ln1zbHQvtsCDLWsSW06T3W8M1xFAjpbpwOhx_aem_KHE_8QsZmh4PvwAbK55EeA แฟนๆ เรียกร้องปล่อยตัวสุทธิชัย หยุ่น หลังสัมภาษณ์ประเด็นขัดแย้ง 3 วันที่ผ่านมา โดย อุดม สุขทรงวัน - "Thai Rath" ผู้สนับสนุนหลายร้อยคนออกมารวมตัวกันเพื่อปกป้อง สุทธิชัย หยุ่น หลังเกิดเหตุการณ์อื้อฉาวระหว่างการถ่ายทอดสดรายการยอดนิยม แฟนๆ ต่างพากันแสดงความไม่พอใจที่ทางรัฐบาลสั่งกักตัวเขา หลังถูกตั้งข้อหาปล่อยข้อมูลลับที่อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้เขาถูกกักบริเวณ และทางการได้สั่งห้ามไม่ให้เข้าถึงสื่อโดยเด็ดขาด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการออกอากาศรายการ “Thai PBS World” ซึ่งในระหว่างนั้น กันต์ กันต์ถาวร ได้เปิดเผยแหล่งรายได้เพิ่มเติมโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้ว่ารายได้ดังกล่าวจะเป็นรายได้ที่ถูกกฎหมาย แต่ทางการกังวลว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอาจนำไปสู่การเลิกจ้างจำนวนมาก เนื่องจากอาจทำให้รายได้ไม่เท่าเทียมกัน บทสัมภาษณ์ของ สุทธิชัย หยุ่น ถูกถอดออกจากช่องทีวีและแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมดเพียงครึ่งชั่วโมงหลังออกอากาศ อย่างไรก็ตาม ทีมบรรณาธิการของเราสามารถหาสำเนาบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมาได้ บทถอดเสียงรายการ "Thai PBS World" สุทธิชัย หยุ่น: เทพชัย หยง : "ฉันสงสัยมาตลอดว่าคุณใช้ชีวิตหรูหราได้อย่างไร แน่นอนว่าเงินเดือนไม่พอจ่ายทุกอย่าง เชื่อเถอะว่าคุณเจอคนรวยที่ชื่นชมคุณหรือยัง" สุทธิชัย หยุ่น : "ทุกสิ่งที่ฉันมี ฉันหามาด้วยตัวเอง แต่ปัญหาคือ งานของฉันไม่ใช่แหล่งรายได้เดียวของฉัน" เทพชัย หยง : "ฉันรู้ว่าคุณยุ่งแค่ไหน ไม่น่าจะมีเวลาทำธุระอื่นเลย ดูเหมือนคุณจะไม่ได้บอกเราทุกอย่าง..." สุทธิชัย หยุ่น : "ฉันไม่มีธุรกิจที่สอง แต่ฉันเริ่มสร้างรายได้จากแพลตฟอร์ม Nearest Edge เมื่อหนึ่งปีก่อน ฉันลงทุนเพียง 9,000 บาทไทย และเพิ่มการลงทุนอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ ฉันใช้ชีวิตด้วยรายได้รายวันจากแพลตฟอร์มนี้" เทพชัย หยง : "คุณทำรายได้ได้เท่าไร?" สุทธิชัย หยุ่น : "วันละ 70,000 ถึง 100,000 บาท ถึงแม้ว่าฉันจะหาเงินได้มากกว่านั้นก็ตาม ฉันชอบที่จะใช้เงินทันทีที่ได้รับในขณะที่ยังมีโอกาส" เทพชัย หยง : "คุณกำลังบอกว่าลงทุนแค่ 9,000 บาท ก็สามารถรวยได้ขนาดนั้นจริงหรือ ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ใครๆ ก็คงทำได้กันหมดแล้ว" สุทธิชัย หยุ่น : "อะไรที่ทำให้คุณไม่ทำสิ่งนี้ เชื่อฉันเถอะ การทำงานไม่ใช่หนทางเดียวที่จะหารายได้ เราอาศัยอยู่ในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ปัจจุบัน โปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถสร้างรายได้จริงได้เร็วกว่าคนทั่วไปหลายพันเท่า ฉันแปลกใจที่ผู้คนยังไม่รู้จัก Nearest Edge " เทพชัย หยง : "คุณพูดได้ง่ายๆ ว่าคุณรวยและมีชื่อเสียง คนอย่างคุณรู้เรื่องชีวิตของคนธรรมดาๆ อย่างไรบ้าง พวกเขาไปทำงานทุกวันเพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว" สุทธิชัย หยุ่น : "อย่าโทษฉันที่รวยได้จริงๆ นอกจากนี้ ใครๆ ก็สามารถหารายได้ได้เท่าฉันและสร้างรายได้ 1 ล้านเหรียญแรกได้ภายใน 1-2 เดือน" เทพชัย หยง : "1-2 เดือนจะได้เงินล้านเหรอ? พูดตรงๆ นะ สำหรับคนส่วนใหญ่มันเป็นไปไม่ได้" สุทธิชัย หยุ่น : "อยากจะเดิมพันไหมว่าฉันสามารถทำให้คุณรวยได้ภายใน 5 นาที ฉันหัวเราะเยาะคนที่บ่นตลอดเวลาว่าไม่มีเงิน โอกาสมีอยู่มากมายในร้อยปี แต่พวกคุณคนโง่ไม่ได้ใช้โอกาสเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์" เทพชัย หยง : "มาเดิมพันกัน ถ้าเมื่อสิ้นสุดการสนทนานี้ คุณยังไม่สามารถโน้มน้าวให้ฉันเชื่อว่าใครๆ ก็รวยได้เท่าคุณ คุณจะบริจาครายได้ต่อเดือนของคุณให้กับการกุศล ถือว่าตกลงไหม?" สุทธิชัย หยุ่น : "ตกลง ส่งโทรศัพท์ของคุณมาให้ฉันเดี๋ยวนี้" เทพชัย หยงยื่นโทรศัพท์ สุทธิชัย หยุ่นไม่รู้ว่าการกระทำของเขาถูกบันทึกไว้ในกล้อง เขาเปิด ลิงก์ ทางโทรศัพท์ กรอกรายละเอียด ฝากเงิน 9,000 บาท และส่งโทรศัพท์คืน เทพชัย หยง : "คุณเพิ่งทำอะไรไป?" สุทธิชัย หยุ่น : "ฉันลงทะเบียนคุณบนแพลตฟอร์ม Nearest Edge และเปิดใช้งานบัญชีแล้ว ฉันเติมเงินเข้าบัญชีของคุณเป็นจำนวน 9,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำในการเริ่มโปรแกรม มาดูกันว่าคุณจะทำเงินได้มากแค่ไหนในครึ่งชั่วโมง" เทพชัย หยง : "แพลตฟอร์มนี้คืออะไร และทำไมคุณไม่แจ้งให้ทุกคนทราบก่อนหน้านี้?" สุทธิชัย หยุ่น : "เป็นโปรแกรมที่ใช้ AI คล้ายกับ Chat GPT แต่ใช้เพื่อสร้างรายได้ สามารถซื้อขายหุ้น สกุลเงิน และพันธบัตร และมีประสิทธิภาพมากกว่าโปรแกรมเทรดอื่นๆ ถึงร้อยเท่า" เทพชัย หยง : "ฉันเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้าง แต่เท่าที่ฉันรู้ เรื่องแบบนี้ควรจะเป็นความลับ แต่คุณกลับบอกทุกคนอย่างเปิดเผยว่าผู้ชมสามารถสมัครได้ที่ไหน" สุทธิชัย หยุ่น : "จะลงทะเบียนได้อย่างไรหากไม่มีลิงก์ไปยัง Nearest Edge เชื่อเถอะว่าการค้นหาไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันจะไม่บอกใครเลยเพราะมันอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศเรา" เทพชัย หยง : "คุณรู้ไหมว่าเมื่อคุณหยิบโทรศัพท์ของฉัน กล้องจะจับภาพลิงก์ที่คุณใช้ลงทะเบียนได้ ทุกคนคงเห็นมันแล้ว ดังนั้นแหล่งที่มาของรายได้ลับของคุณจึงไม่ใช่ความลับอีกต่อไป" สุทธิชัย หยุ่น : "กรุณาหยุดออกอากาศ หากผู้คนเริ่มใช้แพลตฟอร์มนี้ อาจหมายถึงปัญหาใหญ่สำหรับเราทั้งคู่" เทพชัย หยง : "กลัวอะไรนักหนา?" สุทธิชัย หยุ่น : "ลองคิดดูสิ! หากทุกคนเริ่มหารายได้หลายพันบาทต่อวันจาก Nearest Edge ผู้คนก็คงจะเริ่มลาออกจากงาน ทำไมพวกเขาถึงต้องทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ในเมื่อโปรแกรมสามารถหารายได้ได้มากกว่านั้นมาก?" เทพชัย หยง : "วิธีการนี้ถูกกฎหมายขนาดไหน?" สุทธิชัย หยุ่น : "ความจริงก็คือ ทุกคนในรายชื่อของ Forbes ใช้แพลตฟอร์มนี้ รวมถึงนักการเมือง นักกฎหมาย ผู้ประกอบการ และนักลงทุนที่ร่ำรวย คุณคิดว่าฉันรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร มันเป็นเรื่องถูกต้องโดยอ้างอิงจากเทคโนโลยีขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์" ในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เทพชัย หยง และสุทธิชัย หยุ่น พูดคุยถึงผลกระทบของเทคโนโลยีสมัยใหม่ และคาดเดาว่าอาชีพใดอาจหายไปเนื่องจากปัญญาประดิษฐ์ สุทธิชัย หยุ่น : "แล้วเรากลับมาเดิมพันกันต่อไหม? ผ่านไป 30 นาทีแล้ว มาดูกันว่าคุณจะได้เท่าไหร่" เทพชัย หยง : "นี่มันเหลือเชื่อมาก ตอนนี้ฉันมีเงิน 10,693 บาทในบัญชีแล้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ได้เงินสุทธิ 1,693 บาทในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง!" สุทธิชัย หยุ่น : "ลองคำนวณดูว่าคุณสามารถสร้างรายได้ได้เท่าไรในหนึ่งเดือน โปรแกรมจะทำงานแม้ในขณะที่คุณหลับ คุณสามารถถอนกำไรได้ทุกวัน แต่หากคุณรอ คุณก็จะสามารถสร้างรายได้ 3 ล้านใน 3-4 เดือน" เทพชัย หยง : "แล้วลงทะเบียนด้วยลิงค์ของคุณเลยเหรอ? มันง่ายมากจนฉันรู้สึกโง่เลย" สุทธิชัย หยุ่น : "ใช่ เพียงลงทะเบียนและฝากเงินอย่างน้อย 9,000 บาทไทย โปรแกรมนี้จะทำการซื้อขายสกุลเงิน หุ้น และพันธบัตรด้วยตัวเอง แต่ต้องมีเงินทุนเริ่มต้นจึงจะทำงานได้ หลังจากนั้น ผู้จัดการจะโทรหาคุณเพื่อขอความช่วยเหลือในการตั้งค่าและเปิดใช้งานบัญชีของคุณ" เทพชัย หยง : "ยอดเยี่ยม! ฉันเห็นว่าการซื้อขายไม่ได้ทำกำไรเสมอไป แต่รายได้โดยรวมยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉันเคยพยายามทำความเข้าใจการซื้อขายสกุลเงินด้วยตัวเองมาก่อน แต่สำหรับฉันมันยากเกินไป ที่นี่ ฉันไม่ต้องทำอะไรเลย" สุทธิชัย หยุ่น : "ใช่ AI บางครั้งก็ทำผิดพลาดได้ แต่ถึงแม้คุณจะสูญเสียเงินบาทไทยไปบ้างในการซื้อขาย การซื้อขายครั้งต่อไปก็มักจะสร้างกำไรได้ดี" หลังจากนั้น การสัมภาษณ์ก็จบลง แต่สุทธิชัย หยุ่น ปัญหาเพิ่งเริ่มต้น... หลังจากออกอากาศ กันต์ กันต์ถาวร ถูกเรียกตัวขึ้นศาลตามคำร้องของธนาคารแห่งชาติ เขาถูกกล่าวหาว่าจงใจทำลายเศรษฐกิจ หลังจากที่เขาแชร์ลิงก์ที่สร้างรายได้ให้กับเขา ผู้คนนับพันใช้วิธีนี้และเริ่มเขียนรีวิว การชุมนุมทั้งหมดจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนคนดังคนนี้ ผู้คนต่างขอบคุณเขาสำหรับ Nearest Edge และเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขา เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสำนักงานอัยการได้ตรวจสอบบัญชีของ สุทธิชัย หยุ่นแล้วและไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ในการกระทำของเขา ในท้ายที่สุด รัฐบาลเองก็ยืนยันว่าทุกคนสามารถหารายได้โดยใช้ Nearest Edge ได้อย่างถูกกฎหมาย บรรณาธิการข่าวของเราคนหนึ่งตัดสินใจทดลองใช้แพลตฟอร์มนี้และเขียนรายงานโดยละเอียดอธิบายถึงประสบการณ์ของเขา สมนึก กุปตะ - บรรณาธิการข่าว วันที่ 1: "ฉันยอมรับว่าตอนแรกฉันไม่ไว้ใจแพลตฟอร์มนี้ แต่ฉันอยากลองด้วยตัวเองจริงๆ สิ่งแรกที่ฉันทำคือสร้างบัญชีในหน้าลงทะเบียนของระบบนี้ ฉันใช้เวลาประมาณ 2 นาที ผู้จัดการแพลตฟอร์มโทรมาหาฉันและยืนยันการลงทะเบียนของฉัน แต่หลังจากฝากเงินแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่กี่นาทีต่อมา ฉันก็รู้สึกดีใจ แต่แล้วฉันก็เห็นสถิติ - การซื้อขายครั้งแรกของฉันเป็นเงิน 740 บาทไทย ในช่วงไม่กี่นาทีแรกบนแพลตฟอร์ม ฉันสูญเสียเงินไปมากแล้ว แต่ในการซื้อขายครั้งต่อไปและครั้งต่อๆ มา ฉันก็ได้รับกำไร ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ยอดเงินของฉันเพิ่มขึ้นจาก 9,000 เป็น 9,273 บาทไทย!” วันที่ 2: "เช้านี้ฉันเริ่มเช็คยอดเงินคงเหลือ และพบว่ามียอดถึง 15,887 บาทแล้ว ลองนึกดูสิ ยอดเงินคงเหลือของฉันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในหนึ่งวัน ฉันตั้งใจจะถอนกำไรออกมา แต่ฉันตัดสินใจรออีกสัปดาห์หนึ่ง" วันที่ 7: "ฉันไม่ได้ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในแพลตฟอร์ม Nearest Edge เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ เป็นเรื่องยากเพราะฉันกลัวว่าเงินของฉันจะหายไป" แต่พอผมล็อกอินเข้าบัญชีซื้อขาย ก็เห็นรูปนี้ครับ กำไรเกือบ 85% ของการซื้อขายทั้งหมด ที่เหลือ 15% ขาดทุนแต่ก็คืนทุนได้ไม่ยาก ตอนนี้เงินคงเหลือของผมคือ 145,411 บาท! ผมถอนเงิน 140,000 บาทไปซื้อของขวัญให้ภรรยา เงินมาถึงภายใน 1 ชั่วโมง และเงินที่เหลือยังคงสร้างรายได้ให้ผมอย่างต่อเนื่อง นี่คือใบแจ้งยอดบัญชี: 1621A101 สมนึก กุปตะ 25 ซอยสุขุมวิท 53, 10110 กรุงเทพฯ รหัสการจำแนกประเภท ระดับชาติ 93-14-13 ชื่อบัญชี สมนึก กุปตะ โทรศัพท์ +66 2 127 5359 หมายเลขบัญชี 17845-21 SWIFT: BOTHTHBK วันที่ 10.10.2024 ธุรกรรม Nearest Edge Platform เดบิต 140000 เครดิต - สมดุล 518264 ขอขอบคุณที่เลือกธนาคารของเรา! "ไม่มีอะไรจะดีไปกว่า Nearest Edge ! หากฉันไม่ถอนเงินรายได้ของฉันออกไป เงิน 9,000 บาทไทยเริ่มต้นนั้นจะกลายเป็นเงิน 1 ล้านบาทในเวลาเพียง 11 สัปดาห์" นี่คือคำแนะนำสั้นๆ เกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นสร้างรายได้จาก Nearest Edge : 1. ใช้ลิงก์ที่จัดทำโดยสุทธิชัย หยุ่น 2. รอรับสายจากผู้จัดการส่วนตัวของคุณเพื่อยืนยันการลงทะเบียน 3. เติมเงินเข้าบัญชีของคุณ ขั้นต่ำในการเริ่มโปรแกรมคือ 9,000 บาท 4. ควบคุมผลกำไรของคุณด้วยผู้ช่วยส่วนตัว 5. ถอนรายได้ของคุณไปยังบัตรธนาคารใดก็ได้ 6. จนถึงวันที่ 08.11.2024 การลงทะเบียนบัญชีจะไม่มีค่าใช้จ่าย เยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ avatar 4 สุนีย์ รัตนรักษ์ 12 นาทีที่แล้ว มันได้ผลจริงเหรอ? ฉันเคยได้ยินเรื่องทำนองนี้มาบ้างแต่ไม่เห็นรีวิวเลย รายงาน avatar 8 แขก 16 นาทีที่แล้ว สุทธิชัย หยุ่นเป็นคนดีและทำหน้าที่ได้ดี ขอแสดงความนับถือ👏🔥 รายงาน avatar 5 วรรณา พิริยะ 32 นาทีที่แล้ว ฉันตื่นเต้นมาก! ใครจะคิดว่าการตัดสินใจของรัฐแบบนี้จะน่าสนใจกว่าการจ่ายเงินแบบธรรมดาๆ มาก ฉันประทับใจที่ Nearest Edge เป็นแพลตฟอร์มทางกฎหมายแห่งแรกในประเภทนี้ ความกลัวที่จะสูญเสียเงินเคยทำให้ฉันลังเล แม้ว่าฉันจะรู้ว่ามีการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมาก แต่สิ่งนี้ก็เป็นเพียงเส้นชีวิตเท่านั้น! รายงาน avatar 9 ศักดิ์ชัย ศรีสวัสดิ์ 50 นาทีที่แล้ว ฉันเพิ่งถอนเงินที่ได้มา... ใช้สมองของคุณแล้วลงทะเบียน คุณกำลังพลาดโอกาส และคุณจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต รายงาน avatar 13 แขก ศักดิ์ชัย ศรีสวัสดิ์ 11 นาทีที่แล้ว ฉันเองก็ระมัดระวังเว็บไซต์ประเภทนี้อยู่เสมอ ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาไม่ได้หลอกลวง แต่มีคนพูดถึงแพลตฟอร์มนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ฉันอ่านรีวิวของคนอื่นๆ ถามคนรู้จักสองสามคน (ปรากฏว่าพวกเขาเป็นนักลงทุนที่กระตือรือร้นมาเป็นเวลานาน) และในที่สุดก็เห็นบทความเกี่ยวกับคำกล่าวของประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ ฉันจึงตัดสินใจทันทีที่จะลองใช้เอง ฉันจะบอกสิ่งหนึ่ง: มันยอดเยี่ยมมาก นี่เป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาที่สุดในการสร้างรายได้ จริงๆ แล้ว คุณสามารถสร้างรายได้ในขณะที่นอนอยู่บนโถส้วม อย่าทำโทรศัพท์ตกน้ำ)))) รายงาน avatar 7 อารยา สงวนศรี 56 นาทีที่แล้ว ฉันได้ยินเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนี้มานานแล้วแต่ก็ลืมที่จะหาข้อมูลอยู่เสมอ ขอบคุณสำหรับข้อมูล :) รายงาน avatar 18 ปวีณา อมรรัตน์ 1 ชั่วโมงที่แล้ว ตอนนี้ฉันมีโอกาสได้ไปเที่ยวพักผ่อนในปีนี้ :) และสิ่งที่ดีที่สุดก็คือในขณะที่ฉันพักผ่อน ระบบก็จะทำเงินได้ทั้งวันทั้งคืน มันเป็นความฝันที่เป็นจริง! รายงาน avatar 11 วิทยา พรหมมาศ 1 ชั่วโมงที่แล้ว ฉันลงทะเบียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและได้รับเงินไปแล้ว 40,000 บาทไทย ! ขอแนะนำอย่างยิ่งสำหรับทุกคน 😏 รายงาน avatar 12 จารุวรรณ เจริญสุข 2 ชั่วโมงที่แล้ว นักข่าวของคุณได้รับเงินน้อยมากในช่วงหลายวันของการทดลอง ส่วนฉันแทบจะหาเงินได้ไม่เท่ากับบรรณาธิการของคุณในช่วงสี่วันนั้นเลย 😜😜😜😜😜 รายงาน avatar 33 สันติ รัตนาวดี 2 ชั่วโมงที่แล้ว พวกเราเพิ่งลงทะเบียนไป ขอให้โชคดีนะ! รายงาน avatar 22 วิไล นันทิกานต์ 2 ชั่วโมงที่แล้ว สมัครไป 2 วันยอดเงินคงเหลือตอนนี้ 67,000 บาท กำลังคิดว่าจะถอนเงินหรือเร็วไป ยังไม่ได้ทำอะไรเลย กลายเป็นได้เงินอัตโนมัติเฉยเลย 😅😅😅 รายงาน avatar 6 นรินทร์ พิพัฒน์ชัย 2 ชั่วโมงที่แล้ว ฉันตกใจมาก และเพื่อนๆ ของฉันก็ตกใจเช่นกัน ตอนแรกฉันคิดว่ามันเป็นการหลอกลวงประเภทหนึ่ง ไม่ชัดเจนว่าทำงานอย่างไรและอย่างไร แต่แล้วผู้จัดการก็ติดต่อฉันและอธิบายทุกอย่างอย่างละเอียด กลายเป็นว่าง่ายมาก! ฉันทำงานหนักมาตลอดและไม่คิดว่าจะหารายได้ด้วยวิธีนี้ได้..) สรุปสั้นๆ ก็คือ ฉันซื้อรถ ขอให้โชคดีทุกคน แนะนำแพลตฟอร์มนี้เป็นอย่างยิ่ง 👍 รายงาน avatar 6 วีระ วัฒนากุล 7 ชั่วโมงที่แล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูล ฉันเริ่มทำเมื่อ 4 สัปดาห์ที่แล้วในโครงการทดลองในฐานะบรรณาธิการข่าวของคุณ ฉันได้รับเช็ค 12 ใบ รวมเป็นเงินประมาณ 800,000 บาทไทย เจ๋งมาก
    Joke.Air
     •  14 วันที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ทักษิณ ผิด อะไร" อุ๋งอิ๋ง บอกไม่รู้ เอ้าจะบอกให้ 1. แก้ พรบ.สรรพสามิตโทรคมนาคม ให้เสียภาษีน้อยลง ได้ผลประโยชน์ 8,000 ล้าน 2. ลดสัมปทาน ITV ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ ที่เคยมีอุดมการณ์ เปลี่ยนมาทำลาย วัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลี มาฉาย และปิดสื่อความไม่ดี สร้างภาพดีๆ ให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%) 3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร 4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเอง คุมตำรวจ 5. ตั้ง วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจ พวกพ้องตัวเองคุม กกต. 6. ตั้ง สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจ พวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก 7. ตั้ง คงศักดิ์ วันทนา เป็น รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย สามีลูกน้ำ เพื่อนรักที่ช่วยแลกเช็คให้ สมัยยังจนอยู่ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ… มาคุมทุกเหล่า 8. กล่าวคําพูด ท้าทายพวกก่อการร้าย ในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอก อย่าไปใส่ใจ ทําให้เกิดความรุนแรง คนตายมากมายและหลุดปากด่า ทหารว่า “สมควรตาย” 9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000 ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนด แล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย 10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียม ทางเหนือก็ตายหมด ส่วนไทยได้ ขายธุรกิจช่อง สัญญาณดาวเทียม IP Star 11. เจรจาเซ็น FTA กับออสเตรเลีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้าน OTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ ขายธุรกิจช่องสัญญาณ IP Star 12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุน โครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของ ชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆที่ เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้วไม่รู้ ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับ การยกเว้นภาษีเงินได้อีก 16,459 ล้านบาทต่อปี 13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรกเปิด ขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไปหลังจาก แปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้ กองทุนน้ำมันของคนไทยขาดทุน กว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไร แทนที่จะเป็นของรัฐก็กลายเป็น กำไรของตระกูลพวกถือหุ้น 14. ซุกหุ้นภาคแรกให้เมียตัวเอง ขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค 2 ให้ลูกชายตัวเองขึ้นศาลรับผิด ไหนบอกว่ารักครอบครัวไง 15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย 0% ไม่กำหนดเวลาชำระคืนแถม ได้รับการเว้นภาษีจาก บีโอไอ อีกทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี 16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณา ที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับ การเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับ บริษัทอื่น 17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่าน สยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลาน เปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง 18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดี กับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ 19. ทักษิณพูดว่า”จังหวัดไหนเลือก ไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อน” น้ำท่วมภาคใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณ ไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ไปกิน ก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไปเดินตลาด หาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็ม สภาแล้วแต่ที่ต้องลงใต้ไปดู น้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจาก กลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ 20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการ เลือกตั้งให้สามารถโกงการ เลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี 20.1 ปั๊มตรายางอีกชุดรอ เวลาเปลี่ยนกล่องบัตรได้ ทุกเวลา 20.2 หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมี สามารถทำได้) 21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนก ทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบ ต้องตายแล้วยังไปแสดงการ กินไก่ไปหัวเราะไป เพื่อ ซีพี. นายทุนพรรคเท่านั้น 22. ทําให้เกิดการฆ่า ตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์ กว่า 2000 คน จากการปราบ ยาบ้าสั่งฆ่าคนได้หน้าตาเฉย โหดร้ายทารุณ 23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อน ทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้อง เอาเงินไปฟอกต่างประเทศ เอาเปรียบใน การทําธุรกิจ ผูกขาด ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคน ในวงการธุรกิจ เขารู้กันหมด ค้ากำไรเกินควร จนรํ่ารวย มหาศาล 24. โกงที่ดินวัดของสนาม กอล์ฟอัลไพน์มีคนโกงที่ดิน ธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้วทักษิณไปซื้อต่อทั้งๆ รู้ว่า ที่ดินนั้นได้มา ไม่ถูกต้องเพราะ ไม่กลัวบาปกรรม 25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐ ที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำ ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่ม แทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ ชัดเจนของการปฎิรูปการ ศึกษาไทย ประชาชนจะ ถูกหลอกอีก 4 ปี เอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจาก ประเทศไทยที่กฎหมายบอก ว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมี ใครบ้างที่เรียนฟรีถาม ผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย 26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษๆ รัฐบาล ชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลาย สิบปี กลับร้อนระอุกลาย เป็นแดนมิคสัญญี 27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดิน ไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไร แอบแฝงหรือเปล่า ตนเองน่า จะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดิน ไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ ตารางนิ้วเดียวไงใช้ อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็น ด้วย คิดไงท่านนายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมี เปลียนสัญญาได้ทุกๆ 5 ปี เหมือนทำธรุกิจเลยขอเชิญ ชาวไทยเรียกร้องอธิปไตย ชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็น ไทยที่มิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อ ด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกัน หมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม 2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือ สิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อน แหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่นะคุณ ยุคทักษิณคือ ยุคของเงิน เหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแก ประชาชน ยุคทหารฆ่าล้าง เผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรง อยู่เหนือเหตุผล 28. ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวงไปหว่านให้ราก หญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้า แบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือเข้ากระเป๋ามันเอง 29. ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจาก นายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออก จากตำแหน่ง 30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหา ภายในสภาสักหน่อย อภิปราย ไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมี ไม่พอ 31. วันที่ประกาศยุบสภา ประกาศพร้อมกันว่าให้ไป เลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง 32. คุณหญิงพจมาน อยากมี สมเด็จพระสังฆราชประจำ ตระกูลตัวเอง จึงให้ นายวิษณุ เครืองา ลงนาม แต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จ พระสังฆราช เมื่อ วันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกล มหาสังฆปรินายก ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราช พระราชทานรางวัลให้กับเด็ก นักเรียนที่ได้รับทุนของ มหามกุฏราชวิทยาลัยในการ ประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา 33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริต ของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุด ตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวน การสรรหา คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) คุณหญิงปิดห้องทำงานแล้ว ยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะ หาหลักฐานทุจริตที่ห้อง คุณหญิง ต่อมาคนดีอย่าง คุณหญิงก็ได้กลับมาทำงาน เหมือนเดิม 34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณไว้ 35,000 ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000 ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000 ล้าน เครื่องบิน เป็นแบบบินระยะไกล เสียค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับ ถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะ ซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อ ทำไมไม่ให้นักบินเป็นคนเลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความ ดูแลของ คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อน คุณหญิงพจมาน… 35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะ ไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดิน ครึ่งวัน อย่างมากก็วันเดียว ก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้ว นี่ไปถึง 4 วันเจรจาขายหุ้น แต่โกหกประชาชนคนไทย ว่าจะไปพักผ่อน บอก ตรงๆก็ได้ 36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้า ของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้านบาทต่อเครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาท ซึ่ง “ส่วนต่าง”ราคานี้ถูกนำไป ใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่า เป็นอุปกรณ์ที่ต้องการซื้อ เพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือ ประมาณ 1,432 ล้านบาท กะจะกิน1,432 ล้าน – 294.4 ล้าน = ? 37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยวบินการบินไทย ที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบิน ของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้การบินไทยซึ่ง เป็น สายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำหนังสือถึงหน่วยงาน ราชการว่านอกจากการบินไทย แล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิก ค่านั่งเครื่องบิน Low Cost ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มีเที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด (แย่ง จากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์ (ขายชาติ) 38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 “ไทยโมบาย” ของ ทีโอที มันให้ ทีโอทีตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอทีมีที่ดินอยู่ มากมายในต่างจังหวัด มันสั่ง ให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัดใช้เสาสัญญาณ ของAISโดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาท ทีโอที ได้ 1 บาท ..สุดยอดไหมละ 39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้ รับสัมปทานดาวเทียมไทยคม โดยการสนับสนุนอย่างดีจาก รัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดย อิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบ แน่นกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับ สนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดี ในยุคนี้คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ ได้เป็นรมว.กลาโหม และ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาสรานนท์ ได้เป็นผบ.สูงสุด 40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง( .112 ) 40.1. สำนัก ราชเลขาฯ ขอให้ รัฐบาลพิจารณาเครื่องบิน ราชพาหนะลำใหม่.. แทนลำเก่า ที่ ชำรุดมากแล้ว …..ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้า ให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน.. จาก ข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้ เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่ เชียงใหม่…… ถ้ารู้แบบนี้เแล้ว.. ยังคิดว่าพ่อทำเพื่อชาติอีกไหม? @Lung gard
    ไม่ระบุชื่อ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ปล้นครั้งประวัติศาสตร์! ทะลวงทุกระบบ “ขโมยเพชร” มหาศาล ตามของคืนไม่ได้จนวันนี้
    ผู้เขียน กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2003 มีข่าวครึกโครมดังไปทั่วโลกกับเหตุการณ์ “ขโมยเพชร” ที่นับได้ว่าเป็นการโจรกรรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และน่าจะบอกได้ว่าเป็นการโจรกรรมที่เกิดในพื้นที่ซึ่งมีระบบป้องกันดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จนเคยเชื่อกันว่า “ไม่สามารถถูกเจาะได้” แอนต์เวิร์ป ไดมอนด์ เซ็นเตอร์ (Antwerp Diamond Center) เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์รวมเพชรของโลก ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม ภายในมีตู้เซฟจำนวนเกือบ 200 ตู้ในห้องนิรภัย ซึ่งอยู่ลึกลงไปในใต้ดิน 2 ชั้น เก็บเพชรและเครื่องประดับอัญมณีของผู้เช่าตู้เซฟ มูลค่ารวมแล้วหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น รายงานข่าวบางแห่งบ่งชี้ตัวเลขระดับชั้นของการรักษาความปลอดภัยว่ามีมากถึง 10 ชั้น และต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงขั้นเปิดตู้เซฟได้ ทุกตู้ยังต้องเปิดด้วยรหัสและกุญแจเช่นเดียวกับประตูห้องนิรภัย ซึ่งทำให้เป็นที่มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้มาเช่าตู้เซฟ สถานที่แห่งนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาและทันสมัย แถมเพียบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิดทุกซอกทุกมุม มีสัญญาณเตือนภัยแทบทุกระบบที่มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาติดตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวและการสั่นสะเทือน เซนเซอร์จับความร้อนจากร่างกายมนุษย์ เซนเซอร์จับแสง มีแม้กระทั่งอุปกรณ์ตรวจจับแบบแม่เหล็ก ซึ่งทันทีที่ประตูนิรภัยหนา 1 ฟุตเปิดในเวลาที่ไม่ควรเปิด สัญญาณเตือนภัยจะแจ้งเหตุทันที รวมทั้งมีเครื่องกีดขวางยานพาหนะยุคไฮเทค มีกลไกบังคับให้หุบหายลงใต้ดิน และโผล่กลับขึ้นมาทำหน้าที่ของมันได้ทุกเวลา ที่สำคัญยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจนัก และเจ้าหน้าที่ก็พร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับแจ้งการก่อเหตุ ผู้ก่อการ “ขโมยเพชร” ก่อนหน้าเกิดคดีโจรกรรมเพชร 2 ปี คือในปี 2001 เชื่อว่าแผนปฏิบัติการการโจรกรรมได้เริ่มขึ้นอย่างแนบเนียนโดยชายวัยกลางคนชาวตูริน ประเทศอิตาลี ชื่อ ลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล ซึ่งเดินทางเข้ามาในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ที่ตั้งของไดมอนด์ เซ็นเตอร์ ฉากหน้าเขาคือนักออกแบบเครื่องประดับ นักธุรกิจค้าเพชร เข้ามาเช่าออฟฟิศและตู้เซฟที่ไดมอนด์ เซ็นเตอร์ เพื่อเปิดเป็นสำนักงานประกอบธุรกิจค้าเพชร ที่นี่นอกจากจะมีตู้เซฟให้เช่าแล้ว ยังมีห้องเพื่อใช้เป็นสำนักงานธุรกิจค้าอัญมณีของเหล่านักธุรกิจใช้เช่าอีกด้วย โนทาร์บาร์โทโลแฝงตัวเข้ามาเพื่อสำรวจเก็บรายละเอียดของสำนักงานนี้ เขาใช้เวลาเก็บข้อมูลต่างๆ ทั้งระบบความปลอดภัย กิจวัตรในแต่ละวันของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนต่างๆ ของอาคาร และเส้นทาง โดยรายละเอียดทั้งหมดที่ได้มา เขาใช้การจดจำ จากนั้นจะนำมาเขียนบันทึกในห้องทำงาน โนทาร์บาร์โทโลใช้เวลาร่วม 2 ปีแฝงตัวและเก็บข้อมูลในสถานที่แห่งนี้ แน่นอนว่าโนทาร์บาร์โทโลคงไม่ปฏิบัติการเพียงลำพัง เขามีผู้ร่วมขบวนการอีกคือ เอลิโอ ดอโนริโอ ผู้เชี่ยวชาญสัญญาณเตือนภัย คนช่างคิดที่สามารถเอาชนะมาตรการรักษาความปลอดภัยหลายระบบ เฟอร์ดนานโด ฟิน็อตโต อาชญากรมืออาชีพมากประสบการณ์ และ ปิเอโตร ทาวาโน เพื่อนเก่าแก่ที่โนทาร์บาร์โทโลไว้ใจ โนทาร์บาร์โทโลเล่ารายละเอียดทุกอย่างที่เขาเก็บข้อมูลมาให้ผู้ร่วมก่อการฟังอย่างละเอียด รวมทั้งร่วมวางแผนกันภายในร้านกาแฟนในตูรินเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต พวกเขาใช้เวลาเตรียมการรวม 27 เดือน นานกว่าระยะเวลาในหนังโจรกรรมแบบฮอลลีวูด ที่มักเล่าว่าสมาชิกแก๊งใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ ปฏิบัติการ “ขโมยเพชร” ครั้งประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ ปี 2003 ไล่เลี่ยกับช่วงวันวาเลนไทน์ ช่วงวันหยุด ไดมอนด์ เซนเตอร์ แห่งนี้หยุดทำการ ไม่มีการเปิดห้องนิรภัยและตู้เซฟทุกกรณี หากเปิดนอกเวลาทำการเช่นนี้สัญญาณเตือนภัยจะทำงานทันที แต่โนทาร์บาร์โทโลกลับเลือกใช้เวลานี้ปฏิบัติการ เนื่องจากปลอดคนและมีเวลาให้ปฏิบัติการได้มาก การเจาะระบบป้องกัน (โดยคร่าว) ด้วยระบบป้องกันภัยที่ทันสมัยและแน่นหนามาก การเจาะเข้าไปในตู้เซฟจึงต้องผ่านระบบป้องกันหลายด่าน ทั้งการใส่รหัสผ่าน ล็อกกุญแจ เซนเซอร์สนามแม่เหล็ก เซนเซอร์ตรวจจับความร้อน เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และเซนเซอร์แสง รายละเอียดมีข้อปลีกย่อยมากมาย ข้อมูลในที่นี้บอกเล่าอย่างคร่าวๆ โดยส่วนหนึ่งมาจากหลักฐานและการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้เชี่ยวชาญ โนทาร์บาร์โทโลและพวกจำเป็นต้องกำจัดอุปสรรคทีละด่าน ซึ่งผ่านการจำลองสถานการณ์ซักซ้อมมาอย่างดี พวกเขาเริ่มแผนการในช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ ทาวาโนทำหน้าที่เฝ้าติดตามฟังวิทยุสื่อสารของตำรวจ ทราบความเคลื่อนไหวของตำรวจจากวิทยุสื่อสาร เขาทำหน้าที่อยู่ที่ห้องพักของโนทาร์บาร์โทโล ส่วนโนทาร์บาร์โทโลกับพวกอีก 2 คน สวมถุงมือยาง ขับรถผ่านป้อมตำรวจ ประตูชั้นจอดรถเปิดขึ้น เขาหยุดรถชิดขอบทาง แต่ละคนพาดถุงบนไหล่ มุดผ่านใต้ขอบประตูม้วน พวกเขาใช้กุญแจดอกพิเศษที่ทำขึ้นเพื่อไขกุญแจประตูทางเข้า เดินลงบันไดถึงหน้าห้องนิรภัย ดอโนริโอใช้แผ่นเหล็กรูปตัวทีประกบแท่งแม่เหล็กทั้งสองที่ติดอยู่บานประตูและขอบประตูด้วยเทปกาวสองหน้า แล้วดึงมันหลุดออกมาโดยแท่งแม่เหล็กไม่แยกจากกัน สัญญาณแจ้งเตือนจึงไม่ดังขึ้น ช่วยให้เปิดห้องนิรภัยกว้างระดับหนึ่ง และสามารถแทรกตัวเข้าไปได้โดยปลอดสัญญาณแจ้งเตือน ตำรวจเชื่อว่าดอโนริโอติดตั้งกล้องวิดีโอเพื่อใช้บันทึกการหมุนรหัสประตูห้องนิรภัย แต่ทฤษฎีของตำรวจมีผู้แย้งว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะมีอุปกรณ์บังรอบตัวหมุนรหัส ป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นเลข ข้อสันนิษฐานอื่นก็คือ โนทาร์บาร์โทโลอาจได้รหัสมาโดยวิธีอื่น หรืออีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจคือ ประตูห้องนิรภัยนี้ไม่เคลียร์รหัสให้เอง หากเปิดแล้วต้องหมุนเคลียร์รหัสเอง ทั้งนี้ผู้ดูแลอาจลืมหรือขี้เกียจเคลียร์รหัส (เก่า) ทำให้รหัสคาอยู่ที่เดิม เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้กุญแจเพียงดอกเดียวเปิดประตูนิรภัยได้ ภายหลังตำรวจสรุปว่าคนร้ายใช้ชะแลงยาว 2 ฟุต งัดประตูห้องเก็บของ เพราะกุญแจที่ทำมาใช้การไม่ได้ (เสียงน่าจะดังมาก แต่ไม่มีสัญญาณเตือนภัย เนื่องจากในพื้นที่ไม่ได้ใช้การตรวจจับเสียง เพราะมองว่า หากมีคนทำของตก สัญญาณย่อมดังขึ้นทุกครั้ง) แต่ในห้องเก็บของมีกุญแจประตูนิรภัย จึงสามารถเปิดห้องนิรภัยได้ ข้างในห้องมืดสนิท และมีเครื่องตรวจจับแสงทำงานอยู่ พวกเขาใช้เทปกาว 2-3 ชิ้นปิดเซนเซอร์แสง แล้วทำการเปิดไฟ ด่านต่อมาคือเซนเซอร์ตรวจจับความร้อน พวกเขาเอาชนะมันด้วยการใช้สเปรย์ตกแต่งทรงผมฉีดใส่เครื่องจนทำให้เครื่องรวนไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวพวกเขาใช้แผ่นโฟมวางทับตัวเซ็นเซอร์ไม่ให้มันทำงาน ด่านสุดท้ายคือเปิดประตูตู้เซฟ พวกเขาประกอบอุปกรณ์ดึงฝาตู้เซฟที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ซึ่งแยกชิ้นส่วนใส่กระเป๋ามา และนำมาประกอบกันตรงกลางห้องนิรภัย เมื่อประกอบเสร็จพวกเขาก็ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเปิดตู้เซฟได้ หลังจากจัดการกับอุปสรรคแต่ละด่านเรียบร้อยแล้ว โนทาร์บาร์โทโลและพวกได้แบ่งหน้าที่กัน คนหนึ่งเปิดตู้เซฟให้เร็วที่สุด อีกสองคนทำหน้าที่แยกของมีค่า ทั้งเพชร นาฬิกา เครื่องประดับ และเงินสด แยกใส่ถุงอย่างละถุง โนทาร์บาร์โทโลเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเอาอะไรกลับไป และจะปล่อยสิ่งของอะไรไว้บ้างโดยประเมินจากมูลค่าของแต่ละชิ้น โดยรวมแล้วพวกเขาเปิดตู้เซฟได้ 109 ตู้ จาก 189 ตู้ เชื่อกันว่าทรัพย์สินที่กลุ่มนักโจรกรรมกวาดไปได้มีมูลค่ารวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตัวเลขมูลค่าของทรัพย์สินที่หายไปยังเป็นที่ถกเถียง จากปากของกลุ่มผู้ก่อการอ้างว่ามูลค่าของทรัพย์สินที่พวกเขาฉกไปอยู่แค่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอ้างว่าการโจรกรรมเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ใหญ่กว่าเพื่อเคลมเงินประกัน) ขณะที่การออกจากสถานที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องขนสมบัติที่หนักกลับไปพร้อมกับเครื่องมืออุปกรณ์ เดิมทีแล้ว “แก๊งตูริน” นี้จะเก็บทุกอย่างกลับไปเพื่อไม่ให้ตำรวจเก็บหลักฐาน แต่ครั้งนี้พวกเขาจำเป็นต้องทิ้งอุปกรณ์ โดยเช็ดถูให้สะอาดลบร่องรอยอื่นก่อน การหิ้วถุงเพชรขึ้นบันไดขณะออกจากสถานที่เกิดเหตุหลังจากคนดูต้นทางรายงานว่าปลอดโปร่งแล้วก็ต้องหิ้วถุงโดยก้าวอย่างระมัดระวังมากที่สุด ถุงเพชรอย่างเดียวก็หนักเข้าไปถึง 44 ปอนด์ (ราว 20 กิโลกรัม) ขณะที่แบกขึ้นไป คนร้ายอีกรายใช้กุญแจปลอมเข้าไปเปิดประตูห้องควบคุมระบบรักษาความปลอดภัย เอาเทปบันทึกภาพการก่อเหตุออกจากเครื่อง และใส่เทปเปล่าไปแทน เขายังมองหาเทปเก่าโดยเลือกช่วงเดือนที่ผ่านมาอีก 4 ม้วน เป็นเทปบันทึกภาพช่วงที่สมาชิกเข้ามาทำลายระบบเตือนภัยแม่เหล็กไปด้วย เมื่อคนดูต้นทางแจ้งว่าปลอดภัย พวกเขาก็ออกมาใส่ของที่ท้ายรถที่มาจอดเทียบชิดขอบทาง พวกเขานั่งเบียดกันในรถและขับหายไปตามถนน โฉมหน้าลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล วัย 51 ปีหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 ฉากหลังเป็น Diamond Center ใน Antwerp ประเทศเบลเยียม เมื่อ 18 ก.พ. 2013 หลังเกิดเหตุโจรกรรมเพชร (ภาพจาก STRINGER / BELGA / WIM HENDRIX /AFP) เรื่องเล็กในการ “ขโมยเพชร” ที่พลาดมหันต์ แม้พวกเขาจะทำการสำเร็จ แต่ปัญหาของพวกเขาคือการกำจัดขยะที่เป็นร่องรอยจากปฏิบัติการทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้วนักโจรกรรมอัจฉริยะระดับโลกต้องถึงจุดจบ โดยมีหลักฐานคือ “ถุงขยะ” หลังจาก “ขโมยเพชร” แล้ว พวกคนร้ายขับรถซึ่งมีถุงขยะอันบรรจุอุปกรณ์และสิ่งของที่เหลือใช้จากปฏิบัติการเต็มรถไปตามไฮเวย์ด้วยความกระวนกระวาย จนเลือกทิ้งถุงขยะโดยเร็วที่สุดเมื่อออกจากเมือง เลี่ยงความเสี่ยงโดนตำรวจเรียกจอดหากละเมิดกฎจราจร การทิ้งขยะตามสถานที่ส่วนบุคคลหรือเอกชนก็เป็นเรื่องเสี่ยง เพราะเจ้าของกิจการในเบลเยียมจริงจังกับการใช้ถังขยะโดยไม่ได้รับอนุญาต หลายแห่งล็อกฝาถัง หรือติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณถังขยะ ปั๊มน้ำมันบนไฮเวย์แทบทุกแห่งมีป้ายห้ามทิ้งสิ่งของส่วนตัว ขณะที่การเผาถุงก็ย่อมมีควันไฟที่เรียกความสนใจจากเจ้าหน้าที่ไฮเวย์ ในถุงพวกนี้มีถุงขยะที่ยัดถุงจากร้านค้าซึ่งดันมีใบเสร็จ ซองเอกสาร และเอกสารอื่นจากไดมอนด์ เซ็นเตอร์ และเลือกทิ้งข้างทางหลวงตรงถนนทางเข้าป่าฟลอร์ดัมบอส แต่แล้วดันมีผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินละแวกนั้นที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมาพบถุงขยะ และคู่สามีภรรยาคือกลุ่มที่โทรศัพท์แจ้งตำรวจ (แม้แต่คำถามว่า ใครกันแน่ที่รู้ว่าถุงขยะเกี่ยวกับการโจรกรรมที่เป็นข่าวดังเวลานั้น และออกไอเดียให้โทรศัพท์หาตำรวจ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่า สรุปแล้วเป็นสามีคือออกุสต์ ฟาน ดัมป์ หรือภรรยาของเขากันแน่) ถุงที่ฟาน ดัมป์ พบคือหลักฐานสำคัญที่ทางการแกะรอยได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิด ทำให้ผู้ก่อการทั้ง 4 คนถูกจับในที่สุด โดยเฉพาะใบเสร็จที่เมื่อตำรวจนำไปสอบถามกับแคชเชียร์ พนักงานจำได้ทันที และให้รูปพรรณกับตำรวจซึ่งเชื่อว่าเป็นดอโนริโอ และฟิน็อตโต ขณะที่ตำรวจเบลเยียมส่งข้อมูลผู้ต้องสงสัยให้ตำรวจสากล โนทาร์บาร์โทโลและพวกยังฉลองความสำเร็จ และกำลังเดินทางหลบหนี แต่เหลือสิ่งที่เขาต้องทำคือทำลายร่องรอยที่เหลือในแอนต์เวิร์ป อีกทั้งคืนรถเช่า และทำความสะอาดห้องพักซึ่งจากมาอย่างรีบร้อน และยังต้องรูดบัตรผ่านเข้า-ออกไดมอนด์ เซ็นเตอร์ เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นหลักฐาน เพราะตำรวจจะต้องตรวจสอบว่าผู้เช่ารายใดที่หายไปเลยหลังเกิดเหตุ เมื่อตำรวจตรวจสอบหลักฐานการเข้า-ออกของโนทาร์บาร์โทโล ก็พบว่าเขาอยู่ในกลุ่มสุดท้ายที่ออกจากอาคารก่อนวันเกิดเหตุ จึงนำภาพวิดีโอหลายชั่วโมงมาดู แล้วพบว่า หนุ่มใหญ่ชาวอิตาเลียนเข้า-ออกห้องนิรภัยทุกวันตลอดสัปดาห์ก่อนหน้าเกิดเหตุ ตำรวจเชื่อว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรม โนทาร์บาร์โทโลมั่นใจว่าไม่มีอะไรที่พาดพิงมาถึงเขา แม้ว่าในข่าวจะมีเรื่องพบถุงขยะแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่า เพื่อนร่วมงานฉีกใบจ้างงานติดตั้งกล้องที่ออฟฟิศของเขาแล้วโยนลงถังขยะในครัว ไม่รู้ว่าตำรวจค้นออฟฟิศและตู้เซฟของเขา การกลับที่เกิดเหตุย่อมเหมือนกับการฆ่าตัวตาย แต่โนทาร์บาร์โทโลมั่นใจ และความมั่นใจนั่นเองทำให้เขาโดนรวบตัว ทันทีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบูธด้านหน้าเห็นเขาก็คว้าโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่โดยพลัน ช่วงแรกเขายังคิดว่าตำรวจไม่มีหลักฐานพอ และยังเป็นเพียงพยาน แถมยังตีบทงง ไม่เข้าใจว่าควบคุมตัวผู้บริสุทธิ์อย่างเขาทำไม โนทาร์บาร์โทโลมีคำตอบให้ทุกคำถาม แต่ท้ายที่สุดก็จนกับหลักฐานหลายอย่าง ทั้งดีเอ็นเอบนแซนด์วิชไส้กรอกที่โนทาร์บาร์โทโลทำกินเอง แต่กินครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งโยนทิ้งถังขยะในครัวขณะเตรียมขนของหนีไปอิตาลี และมันไปโผล่ในถังขยะใกล้ป่าฟลอร์ดัมบอส และยังพบดีเอ็นเอของผู้ร่วมก่อการอีกหลายจุดที่เชื่อมเข้ากับหลักฐานการโจรกรรม แม้ว่าคนร้ายจะถูกจับกุมได้ แต่เพชรที่ถูกปล้นก็ไม่ได้กลับคืนสู่เจ้าของ เพราะไม่มีคนร้ายคนไหนบอกถึงที่อยู่ของเพชรที่ปล้นมา ช่วงที่โนทาร์บาร์โทโลอยู่ในคุกยังให้สัมภาษณ์แก่นิตยสารไวร์ด (Wired) ว่า การปล้นทั้งหมดเกิดจากแผนที่ผู้เช่าตู้เซฟซึ่งเป็นพ่อค้าเพชรชาวยิวหวังใช้เรียกค่าประกันจากไดมอนด์ เซ็นเตอร์ โดยที่พวกเขาซึ่งมีผู้เช่าตู้เซฟร่วมแผนการด้วยประมาณ 50-60 ราย จะไม่เอาเพชรหรือของมีค่าใส่ไว้ในตู้เซฟ และวางแผนการปล้นโดยจำลองห้องนิรภัยขึ้นมา แล้วเข้าปล้น เขายังกล่าวต่ออีกว่าแผนการครั้งนี้โดนพ่อค้าเพชรชาวยิวหักหลัง แต่มีหลายคนวิเคราะห์ว่าข้อมูลนี้เป็นเรื่องโกหกของโนทาร์บาร์โทโล เพราะสิ่งที่เขาเล่าย้อนแย้งอย่างมาก อีกทั้งเรื่องที่มีผู้เช่าตู้เซฟวางแผนร่วมกันนั้น ผู้เช่าตู้เซฟเห็นว่าเป็นเรื่องตลกที่ไม่มีทางเกิดขึ้น การที่โนทาร์บาร์โทโลให้สัมภาษณ์เช่นนี้ก็เพื่อโยนความผิดให้กับผู้อื่นหรือปกปิดข้อมูลและร่องรอย โนทาร์บาร์โทโลยังต้องการให้นำเรื่องราวของเขาไปทำภาพยนตร์ เพราะเขาหวังส่วนแบ่งรายได้จากสิทธิ์ของข้อมูลเพื่อนำไปใช้อย่างสบายหลังออกจากคุก อีกทั้งเป็นเงินที่ได้มาโดยถูกกฎหมาย และใช้ชีวิตอย่างหรูหราได้โดยอ้างแหล่งที่มาของเงินจากส่วนแบ่งการนำเรื่องราวไปสร้างเป็นภาพยนตร์ (ทั้งที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีวันเผยเรื่องจริง) ท้ายที่สุดแม้ว่าเขาจะถูกศาลตัดสินจำคุก 10 ปี และรับโทษติดคุก เขาก็ยังไม่ได้บอกที่ซ่อนอัญมณีและแผนการปล้น เขากับพวกอีก 3 คน ถูกปล่อยตัวก่อนกำหนด และหลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ ทั้งนี้ศาลได้ตัดสินคดีจนถึงที่สุดแล้ว คดีนี้จึงจบลง เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับคดีให้ความเห็นเมื่อปี 2009 ว่า แม้แต่โนทาร์บาร์โทโลนำเพชรหรือทรัพย์สินที่ปล้นมาขายก็อาจไม่สามารถแจ้งจับได้อีก เพราะไม่สามารถฟ้องซ้ำคดีที่ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาด นอกเหนือจากมีหลักฐานใหม่ แต่สิ่งที่ทำได้เบื้องต้นคือแค่ยึดเป็นของกลางไว้ และอาจดำเนินคดีในอิตาลีเกี่ยวกับการฟอกเงิน ในขณะที่กลุ่มเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกปล้นไปก็ไม่หวังกันแล้วว่าจะได้ของกลับคืน คนในแวดวงเพชรยังรู้สึกโกรธกับบทสรุป เมื่อพวกคนร้ายติดคุกไม่นาน ทรัพย์สินก็ไม่สามารถติดตามกลับมาได้ ที่สำคัญบทสรุปของเรื่องนี้ยังออกมาว่าการทำงานหนักของเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามคนร้ายและดำเนินคดี แลกมากับการจองจำผู้ก่อเหตุเพียงไม่กี่ปี และยังพิสูจน์อีกว่า ความเสี่ยง ความยากลำบาก การถูกจับและจองจำ อาจคุ้มค่ากับชีวิตหลังผ่านคดี เมื่อพวกที่ก่อการอาจใช้ชีวิตที่เหลือได้อย่างราบรื่นและสุขสบายจากสิ่งที่ได้จากการโจรกรรม
    putilp148
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false