ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องคนชรากินปาท่องโก๋ที่ใส่แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต ทำให้ไตทำงานหนัก ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมอนามัย หน่วยงานสำนักอนามัยผู้สูงอายุ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีการบอกต่อข้อมูลโดยระบุว่า หากให้ผู้สูงอายุ รับประทานปาท่องโก๋ที่ใส่แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต จะทำให้ไตทำงานหนัก ทางกรมอนามัย หน่วยงานสำนักอนามัยผู้สูงอายุ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า แอมโมเนียมไบคาร์บอเนตไม่มีโซเดียมเป็นส่วนประกอบ หากคนชรากินจะทำให้ไตทำงานหนัก ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ซึ่งปาท่องโก๋มีสารที่นิยมใช้ในการทำให้ขึ้นฟู 3 ชนิด คือ ผงฟู ยีสต์ และแอมโมเนียมไบคาร์บอเนต (NH₄HCO₃) จะช่วยให้ปาท่องโก๋กรอบพองฟู สารแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติในการทำให้เกิดการขึ้นฟูในขั้นตอนที่ต่างกัน
หากใช้แอมโมเนียมไบคาร์บอเนตในปริมาณที่เหมาะสม แก๊สจะระเหยออกไปหมดโดยจะไม่ส่งกลิ่นทิ้งไว้ในปาท่องโก๋ แต่การทอดด้วยน้ำมันไม่ร้อนจัด ทอดแบบแน่นเกินไป หรือใส่สารมากเกิน สารแอมโมเนียระเหยไม่หมด ทำให้เกิดกลิ่นของแอมโมเนีย ไม่เป็นอันตราย แต่จะทำให้ผู้ทอดระคายคอ
แต่ไม่ควรกินปาท่องโก๋เป็นประจำ เพราะให้พลังงานสูงราว 120 – 180 กิโลแคลอรี พลังงานส่วนใหญ่มาจากไขมัน มีไขมันอิ่มตัวสูง ส่งผลเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด และส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมา
และหากทอดแบบผ่านความร้อนนาน หรือผ่านการทอดในน้ำมันซ้ำ จะเกิดสารก่อมะเร็งได้ อันตรายต่อทั้งผู้ทอดและผู้บริโภค และการที่รับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง ส่งผลเสียต่อไต และความดันโลหิตสูง ผลที่ตามมาคือเกิดความดันในหน่วยไตสูงขึ้น และเกิดการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะมากขึ้น นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารบางอย่าง ทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น แต่ในปาท่องโก๋ไม่ได้ใส่เกลือหรือผงฟูมากขนาดนั้น หากไม่กินมากจนเกินไปก็ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย
จากกรณีที่มีการบอกต่อข้อมูลโดยระบุว่า หากให้ผู้สูงอายุ รับประทานปาท่องโก๋ที่ใส่แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต จะทำให้ไตทำงานหนัก ทางกรมอนามัย หน่วยงานสำนักอนามัยผู้สูงอายุ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า แอมโมเนียมไบคาร์บอเนตไม่มีโซเดียมเป็นส่วนประกอบ หากคนชรากินจะทำให้ไตทำงานหนัก ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ซึ่งปาท่องโก๋มีสารที่นิยมใช้ในการทำให้ขึ้นฟู 3 ชนิด คือ ผงฟู ยีสต์ และแอมโมเนียมไบคาร์บอเนต (NH₄HCO₃) จะช่วยให้ปาท่องโก๋กรอบพองฟู สารแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติในการทำให้เกิดการขึ้นฟูในขั้นตอนที่ต่างกัน
หากใช้แอมโมเนียมไบคาร์บอเนตในปริมาณที่เหมาะสม แก๊สจะระเหยออกไปหมดโดยจะไม่ส่งกลิ่นทิ้งไว้ในปาท่องโก๋ แต่การทอดด้วยน้ำมันไม่ร้อนจัด ทอดแบบแน่นเกินไป หรือใส่สารมากเกิน สารแอมโมเนียระเหยไม่หมด ทำให้เกิดกลิ่นของแอมโมเนีย ไม่เป็นอันตราย แต่จะทำให้ผู้ทอดระคายคอ
แต่ไม่ควรกินปาท่องโก๋เป็นประจำ เพราะให้พลังงานสูงราว 120 – 180 กิโลแคลอรี พลังงานส่วนใหญ่มาจากไขมัน มีไขมันอิ่มตัวสูง ส่งผลเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด และส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมา
และหากทอดแบบผ่านความร้อนนาน หรือผ่านการทอดในน้ำมันซ้ำ จะเกิดสารก่อมะเร็งได้ อันตรายต่อทั้งผู้ทอดและผู้บริโภค และการที่รับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง ส่งผลเสียต่อไต และความดันโลหิตสูง ผลที่ตามมาคือเกิดความดันในหน่วยไตสูงขึ้น และเกิดการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะมากขึ้น นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารบางอย่าง ทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น แต่ในปาท่องโก๋ไม่ได้ใส่เกลือหรือผงฟูมากขนาดนั้น หากไม่กินมากจนเกินไปก็ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย
ข่าวปลอม อย่าแชร์! คนชรากินปาท่องโก๋ที่ใส่แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต ทำให้ไตทำงานหนัก | ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม
https://www.antifakenewscenter.com/%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8%93%e0%b8%91%e0%b9%8c%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e/%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%a1-%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%8a%e0%b8%a3%e0%b9%8c-%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%a3%e0%b8%b2-3/ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องคนชรากินปาท่องโก๋ที่ใส่แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต ทำให้ไตทำงานหนัก ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมอนามัย หน่วยงานสำนักอนามัยผู้สูงอ