1 คนสงสัย
ข่าวไฟไหม้ห้องเก็บเอกสารกรมสรรพสามิต
ตามที่มีการแชร์ข้อความบนสื่อออนไลน์ว่า ไฟไหม้ห้องเก็บเอกสารกรมสรรพสามิต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลที่ปรากฏให้เห็นนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการแชร์ข้อความบนสื่อออนไลน์เรื่องเกิดเหตุไฟไหม้ห้องเก็บเอกสารของกรมสรรพสามิต ทางกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง เนื่องจากห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องส่วนวางแผนและพัฒนาคุณภาพการบริหารงาน สำนักแผนภาษี ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามแม้จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินทางราชการและเอกสารบางส่วน แต่ไม่สร้างความเสียหายด้านข้อมูล เนื่องจากกรมสรรพสามิตได้มีการบันทึกเอกสารทั้งหมดไว้ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลแล้ว

website 2193

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.excise.go.th หรือโทร 02 241 5600

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อความดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง เนื่องจากห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องส่วนวางแผนและพัฒนาคุณภาพการบริหารงาน สำนักแผนภาษี ไม่ใช่ห้องเก็บเอกสาร
pacharagunjitjueawong
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! แป้งหมี่ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้
    กรณีที่มีผู้บอกต่อข้อมูลโดยระบุว่า แป้งหมี่มีสรรพคุณช่วยทำให้ไม่เป็นแผลพุพองหรือเป็นรอยแดงจากแผลน้ำร้อนลวก แผลไฟไหม้นั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า แป้งหมี่ไม่สามารถรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ อีกทั้งยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการที่แผลจะติดเชื้อ โดยเมื่อเกิดบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หลังจากทำความสะอาดบาดแผลเสร็จแล้ว การใช้ความเย็นมาประคบบริเวณที่เกิดแผลจะสามารถบรรเทาอาการปวดได้
    Akkarawin Ratchananon
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    บีบหัวใจ พี่ชายวัย 13 หอบน้อง 5 ขวบหนีตายไฟไหม้ ชาวบ้านกังวล ปีนี้เกิดเหตุถี่มาก
    พี่ชายวัย 13 หอบน้อง 5 ขวบ หนีตายไฟไหม้ ด้านชาวบ้านจ่อทำบุญ ไม่สบายใจปีนี้ไฟไหม้บ่อย เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นที่บ้านของนางสำราญ ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดราษฎร์บรรทม หมู่ 2 ตำบลบ่อโพง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจากคลิปของนายวัลลภ ยุทธศาสตร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อโพง ซึ่งนำรถดับเพลิงเข้าอำนวยการดับไฟ เปลวเพลิงได้ลุกโหมส่วนของตัวบ้านชั้นบนซึ่งเป็นไม้อย่างรุนแรง เปลวเพลิงลุกผมเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ ทำให้เกิดกลุ่มควันไฟมองได้เห็นในระยะหลายกิโลเมตร รถดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลบ่อโพงไม่เพียงพอ ประกอบกับแหล่งน้ำอยู่ห่างไกล ต้องขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลนครหลวง และกรมสรรพาวุธกองวัตถุระเบิดรวมทั้งหมด 4 คัน ช่วยกันฉีดน้ำนานกว่า 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เปลวเพลิงได้ลุกไหม้พื้นบ้าน-ฝาบ้านวอดไปกับกองเพลิง หลังคาสังกะสีถูกความร้อนจนบิดงอ นายสมชัย อายุ 35 ปี สามีนางสำราญ บอกว่า โชคดีที่ลูกชายคนเล็กวัย 5 ขวบ นอนอยู่บนชั้น 2 ตื่นขึ้นมาเห็นเปลวเพลิงลุกไหม้ จึงรีบวิ่งลงมาเรียกพี่ชายวัย 13 ปีให้ไปตามชาวบ้านมาช่วย ไม่เช่นนั้นนอนหลับเพลินอาจจะถูกไฟคลอกตายค่ากองเพลิงอย่างแน่นอน พี่ชายวัย 13 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนอยู่ชั้นล่าง น้องมาเรียกให้วิ่งขึ้นไปดู เห็นไฟลุกไหม้รุนแรงออกมาทางโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่กลางบ้าน คาดว่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ ซึ่งขณะเกิดเหตุตนอยู่กับน้อง 2 คน ส่วนพ่อและแม่ออกไปทำงานแต่เช้า ตอนนี้ยังตามหาแมวที่เลี้ยงไว้ทั้งหมด 10 ตัว ไม่รู้ถูกไฟไหม้ไปบ้างหรือเปล่า เพราะตามเจอได้เพียง 3 ตัวเท่านั้น ตนเป็นห่วงแมว เพราะเลี้ยงดูเหมือนเป็นเพื่อนเป็นสมาชิกในครอบครัวสำหรับ ด้านการช่วยเหลือทาง อบต.บ่อโพง และอำเภอนครหลวง ได้เข้ามาดูแลจัดหาเต็นท์ที่พักอยู่อาศัย และจะช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนตามระเบียบการช่วยเหลือของทางราชการอย่างเต็มที่ สำหรับหมู่บ้านนี้ชาวบ้านเริ่มเป็นกังวลเนื่องจากในรอบปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุไฟไหม้ติดต่อกันหลายครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ได้เกิดไฟไหม้โบสถ์วัดราษฎร์บรรทม ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ได้รับความเสียหาย หลังจากดับไฟผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ไฟก็มาลุกไหม้โบสถ์ซ้ำอีกระลอก และล่าสุดยังมาไหม้บ้านของนางสำราญ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก มีชาวบ้านหลายคนบอกอยากทำบุญให้กับหมู่บ้านเพื่อเป็นสิริมงคลให้กลับหมู่บ้านและความสบายใจของชาวบ้าน
    namnami
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แป้งหมี่ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้
    กรณีที่มีผู้บอกต่อข้อมูลโดยระบุว่า แป้งหมี่มีสรรพคุณช่วยทำให้ไม่เป็นแผลพุพองหรือเป็นรอยแดงจากแผลน้ำร้อนลวก แผลไฟไหม้นั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า แป้งหมี่ไม่สามารถรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ อีกทั้งยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการที่แผลจะติดเชื้อ
    std47991
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    .. # Post นี้ ตัองขอร้องให้อ่านเพื่อ Safety ของทุกครอบครัวนะคะ.. เป็น warning จากบริษัทSHELLค่ะ เรื่อง: คำเตือนจากบริษัทน้ำมันเชลล์ -- ต้องอ่าน!. Shell Oil Report!... (MUST READ) กรุณาส่งนี้ข่าวสารให้ทุกคนใน ครอบครัวและ เพื่อนของคุณ โดยเฉพาะผู้ที่ มีเด็กในรถกับ พวกเขาในขณะ เติมน้ำมัน. หากมีเกิด ขึ้น,พวกเขาอาจ จะไม่สามารถที่ จะช่วยเด็กออก มาทันเวลา ต้องอ่าน, แม้ว่าคุณจะไม่มีรถ คำเตือน จากบริษัทน้ำ มันเชลล์ -- ต้องอ่าน! แจ้งเตือนความ ปลอดภัย! นี่ คือสาเหตุที่เราไม่อนุญาตให้พกโทรศัพท์มือถือใน · พื้นที่ปฏิบัติการ, · พื้นที่จัดการและจัดเก็บโพรพิลี นออกไซด์ · พื้นที่ถ่่ายโพรเพน,น้ำมันและ ดีเซล บริษัท น้ำมันเชลล์เพิ่งออกคำเตือนเมื่อเร็วๆนี้หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น3ครั้ง ที่โทรศัพท์มือถือ (โทรศัพท์มือ ถือ)เกิดประกาย ไฟ ทำให้ไอน้ำมันลุกเป็นไฟระหว่างการดำเนินการเติมน้ำมัน ในกรณีแรก โทรศัพท์ ถูกวางไว้บน ฝากระโปรงหลัง ของรถในระหว่าง การเติมน้ำมัน พอดีมีคนโทร เข้ามาทำให้ เครื่อง โทรศัพท์ดัง และเกิดไฟลุกไหม้ตามมา ทำให้รถและ ปั๊มเติมน้ำมัน เบนซินติดไฟ ไหม้ยับเยิน ในกรณีที่สอง ในขณะที่เติม น้ำมันรถ เจ้าของรถรับสายโทรศัพท์ที่เข้ามา ทำให้ไอน้ำมันติดไฟลุกพรึ๊บขึ้นมา เผาไหม้ใบหน้าของเขาอย่างสาหัส! และในกรณีที่ สาม, มีคนถูกไฟไหม้ที่ต้นขาและขาหนีบ เนื่องจากขณะ ที่เขาเติม น้ำมันรถของเขา โทรศัพท์ซึ่ง อยู่ในกระเป๋า กางเกงของเขา ดังขึ้น และทำให้ไอน้ำมันติดไฟลุกพรึ๊บขึ้นมา คุณควรจะรู้ว่า โทรศัพท์มือ ถือสามารถจุด ติดเชื้อเพลิง หรือไอน้ำมัน ลุกไหม้ได้ โทรศัพท์มือถือ ที่สว่างขึ้น เมื่อเปิดหรือ ที่ดังขึ้น เมื่อมีสายเข้า มา จะปล่อยพลังงานเพียงพอที่จะให้เกิดประกายไฟสำหรับจุดไฟติด โทรศัพท์มือถือ ไม่ควรใช้ใน สถานีเติม น้ำมัน หรือในขณะเติมน้ำมันลงในเครื่องตัดหญ้า, เรือ ฯลฯ ไม่ควรใช้หรือ ควรปิดโทรศัพท์ มือถือ เมื่ออยุ่ใกล้วัสดุใดๆ ที่ปล่อยไอหรือ ฝุ่นที่สามารถ ลุกติดไฟหรือ ระเบิดขึ้นได้ (เช่นตัวทำ ละลาย, สารเคมี, แก๊ส, ฝุ่นจากธัญญะ พืช, ฯลฯ .. ) สรุป มีสี่กฎเพื่อ ความปลอดภัยในระหว่างการเติมน้ำมัน : 1) ดับเครื่องยนต์ 2) ไม่สูบบุหรี่ 3) อย่าใช้ โทรศัพท์มือถือ ของคุณ – ทิ้งมันไว้ภายในรถหรือปิดเครื่องเสีย 4) ถ้า ออกมายืนนอกรถ ในระหว่างการ เติมน้ำมัน อย่าเข้าไปในรถของคุณจนกว่าจะเติมน้ำมันเสร็จ บ๊อบ Renkes แห่งสถ าบันอุปกรณ์ปิโตรเลียมกำลังเตรียม ทำแคมเปญให้คน ตระหนัก ถึงการเกิดเพลิงไหม้ที่เป็นผลมาจาก'ไฟฟ้าสถิตย์'ที่ปั๊มน้ำมัน บริษัท ของเขาได้วิจัย 150 กรณีของการเกิดเพลิงไหม้เหล่านี้ ผลลัพธ์ ที่เขาได้ เป็นที่น่าแปลกใจมาก : 1) จาก 150 กรณี เกือบทั้งหมดเกิดกับพวกผู้หญิง 2) เกือบ ทุกกรณีเกิด ขึ้นเมื่อเจ้า ของรถกลับเข้า ไปในรถของพวก เขาในขณะที่หัว จ่ายน้ำมันยัง คงจ่ายน้ำมัน อยู่ . เมื่อ หัวจ่ายน้ำมัน หยุดจ่ายน้ำมัน พวกเขาก็ออกมาจากรถเพื่อไปดึงหัวจ่าย น้ำมันออก และไฟลุกติดขึ้น อันเป็นผลจากไฟฟ้าสถิตย์ 3) ส่วนใหญ่ใส่ รองเท้าที่ส้น รองเท้าทำด้วยยาง 4) ผู้ชายส่วนใหญ่ ไม่กลับเข้าไปในรถของพวกเขาจนกว่าจะเติมน้ำมัน เสร็จสมบูรณ์ นี่คือเหตุผลที่พวกเขาไม่ค่อยประสพไฟไหม้จากสาเหตประเภทนี้ 5) อย่าใช้ โทรศัพท์มือถือ ขณะเติมน้ำมัน 6) ไอที่ระเหยออก มา่จากน้ำมัน และหากมันไปสัมผัสไฟฟ้าสถิตย์ที่อยู่ใกล้ คือสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ 7) มี 29 ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าของรถกลับเข้าไปในรถและหัวจ่ายน้ำมัน ถูกแตะต้อง(แล้วอะไรคือ”ถูกแตะต้อง”? ถูกขยับ?)ในระหว่างการเติมน้ำมัน. รถที่ไฟไหม้มีหลากหลายยี่ห้อและรุ่น บางกรณีส่งผล ให้เกิดความ เสีย หายอย่างกว้าง ขวางกับรถ กับสถานีและกับตัวลูกค้า 8) เกิด17 เพลิงไหม้ · ก่อน · ระหว่างหรือ · ทันทีหลังจาก ฝา ถังน้ำมันถูก ถอดออกแต่ก่อน ที่จะเติมน้ำมันเริ่ม .. นาย Renkes เน้นว่า อย่ากลับ เข้ามาในรถของ คุณในขณะที่ น้ำมันกำลังไหล ถ้า คุณจำเป็นต้อง เข้าไปในรถของ คุณในขณะที่ น้ำมันกำลังไหล อยู่, ก่อน ที่คุณจะดึงหัว ฉีดออก ต้องแน่ใจว่า ในตอนคุณออกจาก รถ คุณได้สัมผัสโลหะในขณะที่คุณปิดประตู วิธีนี้จะถ่ายประจุของไฟฟ้าสถิตย์ออกจากร่างกายของคุณก่อนที่คุณจะยกหัวจ่าย น้ำมันขึ้นมา ดัง ที่ผมกล่าวถึง ก่อนหน้านี้แล้วสถาบัน ปิโตรเลียมอุ ปกรณ์พร้อม กับหลาย ๆ บริษัทตอนนี้ กำลัง พยายามอย่างมาก ที่จะทำให้ประชาชน ตระหนักถึง อันตรายนี้ ฉัน ขอให้คุณกรุณา ส่งนี้ข้อมูลแก่ ทุกคนในครอบ ครัวและเพื่อนของ คุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่้งผู้ที่มีเด็กใน รถกับพวกเขา ใน ขณะที่เติม น้ำมันที่ปั๊ม หาก มีเกิดขึ้นกับ พวกเขา พวก เขาอาจจะไม่ สามารถที่จะ เอาเด็กออกมา ได้ทันเวลา
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ไฟไหม้
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! ไฟไหม้ห้องเก็บเอกสารกรมสรรพสามิตตามที่มีการแชร์ข้อความบนสื่อออนไลน์ว่า ไฟไหม้ห้องเก็บเอกสารกรมสรรพสามิต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลที่ปรากฏให้เห็นนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการแชร์ข้อความบนสื่อออนไลน์เรื่องเกิดเหตุไฟไหม้ห้องเก็บเอกสารของกรมสรรพสามิต ทางกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง เนื่องจากห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องส่วนวางแผนและพัฒนาคุณภาพการบริหารงาน สำนักแผนภาษี ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามแม้จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินทางราชการและเอกสารบางส่วน แต่ไม่สร้างความเสียหายด้านข้อมูล เนื่องจากกรมสรรพสามิตได้มีการบันทึกเอกสารทั้งหมดไว้ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลแล้ว
    arunrat17042552
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หนังสือเวียนครับพี่น้องแล้วต้องส่งต่อ ไม่ส่งต่อแล้วระบอบทักษิณยังเกาะกินเรื้อรัง ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่หลายคนคงยังไม่รู้ อ่านเสร็จแล้วโปรดส่งต่อ เพื่อเปิดโปงออกไปให้มากที่สุด..... ขอบคุณ อจ.ประพจน์ ท่ีส่งเนื้อความนี้มาแชร์ คล้ายมีทิศทางเดียวกับเนื้อความนี้: "ถาม...ทำไมวงจรอุบาทว์อาจหมุนกลับมาได้อีก" "คำตอบอยู่ข้างล่างนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง" ๑. ตระกูลชิน ยึดองคาพยพ รัฐวิสาหกิจเบ็ดเสร็จ ขุมสมบัติหลาย แสนล้านของชาติ ได้ถูกแบ่งขายครั้งแรกในน้ำมือรัฐบาลพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ ปตท. และหากมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ไม...่ร้องต่อศาลปกครอง กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ......... " เตรียมขาย กฟผ. " จนศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา........ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549 ให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจสิทธิ และประโยชน์ของบริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) พ.ศ.2548 และหากพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอยู่ในอำนาจป่านนี้สมบัติชาติคงถูกขายกินหมดแล้ว ๒. กระนั้นก็ตาม เมื่อมาถึงยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์เรืองอำนาจ ก็เข้ามาทำพฤติกรรมเดิมๆ สูบกินรัฐวิสาหกิจอีกครั้งภายใต้ระบบโครงสร้างความเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ ก็ได้ค่าเบี้ยประชุม โบนัส และเงินตอบแทน ตลอดจนการจัดซื้อจัดจ้าง จากงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ที่ระดับและอำนาจการตรวจสอบจะอ่อนด้อยกว่่า กระทรวง กรมต่างๆ ซ้ำร้ายกว่านั้น รัฐวิสาหกิจ ที่แปรรูปเป็นเอกชน ผลตอบแทนกรรมการ ตลอดจนการตรวจสอบจากรัฐในการบริหารงบลงทุนต่างๆ และการสนองตอบนโยบายสาธารณะ ก็ยิ่งน้อยลง ยกตัวอย่าง ปตท.ที่แปรรูปไป ยังเล่นแร่แปรธาตุดูดกินด้วย การถ่ายโอนผลประโยชน์ ทรัพย์สิน การลงทุนผ่านบริษัทลูกปตท. ที่อยู่นอกเขตการตรวจสอบภายใต้อำนาจรัฐออกไปเรื่อยๆ เงินไหลออกไป บริษัทลูก ทำให้บริษัทแม่ผลประกอบการไม่ดี แต่การตรวจสอบบริษัทลูกหรือบริษัทที่ ปตท.ร่วมทุน กลับยิ่งยากขึ้น และมาวันนี้ ยุคน้องสาว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็มีพฤติกรรมไม่ต่างกัน แต่คราวนี้ขยายวงกว้างกว่ามาก เกือบจะทุกรัฐวิสาหกิจ ทั้งด้านพลังงานสาธารณูปโภคและธนาคาร ที่เริ่มด้วย (1) การตั้งคนในธุรกิจตนเองมาเป็นกรรมการหวังกระทำบางอย่างหรือไม่ นอกจากนี้ยังต่างตอบแทนผู้ภักดีกล้าหาญด้วย (2) การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ. คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับ_กรรมการและพนักงาน รัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ให้คุณสมบัติต่ำลงและมีการเปิดช่องให้ผู้มาดำรงตำแหน่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนได้ แล้วแต่ รมว.คลัง จะพิจารณายกเว้น และ (3) การรวบเอาที่ดินของรัฐวิสาหกิจมาจัดสรรเองใหม่ พร้อมหลักฐานการจัดตั้งองค์กรใหม่มาจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดย (1) ตั้งคนใกล้ชิดเป็นกรรมการเกรดเอ รายชื่อต่อไปนี้ (อย่าได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ธุรกิจครอบครัวชินวัตร) - การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีพล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ พี่ชายต่างมารดาของคุณหญิง พจมาน ชินวัตร เป็นกรรมการและมีน้องรักพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างพล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นประธานกรรมการ - การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ตั้งนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล รองกก.ผู้อำนวยการบริษัท ไทยคม จำกัด(มหาชน) และนายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล ทนายความพ.ต.ท. ทักษิณ เป็นกรรมการไปคุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ก็ตั้ง ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการตลาด บมจ.ไทยคม ธุรกิจครอบครัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานคณะกรรมการ - บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด ขุมสมบัติอีกแห่งที่ตั้ง น.ต.ศิธา ทิวารี อดีต สส.ไทยรักไทย และเพื่อนสนิทพานทองแท้ ไปเป็นประธานกรรมการ ส่วนนายธานินทร์ อังสุวรังษี กรรมการอิสระ มาจากผู้บริหารบริษัทแคปปิตอลโอเค และบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ลูกน้องธุรกิจครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์และยังได้เป็น กก.ผู้จัดการ ธนาคารอิสลามฯ ก่อนจะมีคดี แล้วต้องเปลี่ยนตัวไม่นานนี้ - นอกจากนี้ยังตั้ง นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อัยการอาวุโสเป็นกรรมการ แต่พอไปดู เหตุใดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงใจป้ำตั้งนายธนพิชญ์ เป็น กรรมการรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง ได้แก่ บ.ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน), บ. ขนส่ง จำกัด และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้รับค่าตอบแทนรวมทั้งหมด 1,348,825.81 บาท อัยการอาวุโสท่านนี้มีประวัติอย่างไร เป็นอัยการที่รับผิดชอบคดีทุจริต จัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ ที่ไม่ยอมสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและพวกรวม 25 คน ในคดีซีทีเอ็กซ์ และสั่งไม่ฟ้องคดี การอนุมัติเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ให้ บริษัทเอกชน เช่น กลุ่มเครือกฤษดามหานคร วงเงินหลายร้อยล้านบาท ทั้งที่คตส.และป.ป.ช.ตั้งข้อหา นี่หรือไม่คือสาเหตุ -ขณะที่นายวัฒนา เตียงกูล ทนายความพรรคเพื่อไทย ก็เปลี่ยนเป็นมารับเงินเดือนในบอร์ดทอท. แทน - ในขณะที่ปตท.นอกจากจะตั้ง เบญจา หลุยเจริญ ที่ช่วยให้คดีขายหุ้นชินคอร์ป ไม่ต้องเสียภาษีสมัยเป็นรองอธิบดีกรมสรรพากร ก่อนไปเป็นประธานกรุงไทย และเป็น รมช.คลัง - ก็ยังตั้ง อัยการคนเก่งอย่างนาย จุลสิงห์ วสันตสิงห์ ผู้สั่งไม่ฟ้องคดีเลี่ยงภาษีของครอบครัวชินวัตร - ในเหตุผลเดียวกัน ก็ยังพ่วงนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้เร่งดำเนินการคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นกรรมการ - แต่ก็ยังไม่น่าสนใจเท่าการส่งนาย วรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ฯ จำกัด (มหาชน) ลูกน้องตนเองในธุรกิจครอบครัว มานั่งกุมขุมทรัพย์ที่ปตท. ส่วนบริษัทลูกของปตท. อย่าง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด ก็มีคำสั่งให้ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทนายความไทยรักไทย ไปคุม คณะกรรมการสลากกินแบ่งรับาล นายวีรภัทร ศรีไชยา ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณในคดีเลี่ยงภาษี 1.2 หมื่นล้านบาท ของพานทองแท้ และพินทองทา ชินวัตร และเป็นทนายความพรรคเพื่อไทย ที่ยื่นคำร้องขอให้ตุลาการทั้ง 8 คน เพิกถอนมติรับคำร้องและคำสั่งที่ให้รัฐสภารอการดำเนินการลงมติวาระ 3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ ตั้ง พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เพื่อนสนิท พ.ต.ท.ทักษิณ - ที่น่าตะลึงพึงเพริดคือ การตั้ง พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร อดีตหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นกรรมการและผู้อำนวยการกองสลาก ถามว่า หน่วยงานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของหรือ ?? ธนาคารกรุงไทย ที่นอกจากจะตั้ง นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ เป็นกรรมการแล้ว ยังตั้งลูกน้องในเครือชินคอร์ป อย่าง นางอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล ที่ใครๆก็รู้ว่าคือ ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ที่มีอีกตำแหน่งในฐานะ กรรมการ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น - ธนาคารออมสิน นอกจากจะตั้ง ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ ผู้บริหารระดับสูง ไทยคม อย่างที่กล่าวแล้ว ยังตั้งนายชัยธวัช เสาวพนธ์ กรรมการบริษัท วินโคสท์อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) ให้ไปเป็นกรรมการออมสินเพื่อหวังทำอะไร - องค์การเภสัชกรรมเหตุใด จึงตั้งเอานายสมชัย โกวิทเจริญกุล พี่เขยนายกฯเอง (สามี นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล (ชินวัตร) กรรมการ และ ผู้ถือหุ้น บริษัท เอ็มลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ - แต่ที่น่าสนใจคือ นายสมชัย โกวิทเจริญกุล คือ ผู้ถือหุ้นในบริษัท ฮัวถอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ จากประเทศจีน จึงน่าคิดว่าตั้งให้เข้าไปทำอะไรในองค์การเภสัชกรรม ?? - การประปานครหลวง ตั้ง นายเอกราช ช่างเหลา ที่เคยถูกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สั่งอายัดเงิน และ การทำธุรกรรมการเงินในช่วงชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 เนื่องจากศอฉ.เชื่อว่า เป็นท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะพบเงินหมุนเวียนในบัญชีร่วม 1,200 ล้านบาท - ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาค ตั้ง พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แกนนำนปช.และกลุ่มคนเสื้อแดงผู้ถูกออกหมายจับในคดีก่อความวุ่นวายปี’53 ไปนั่งคุม - นอกจากนี้ยังตั้ง นางอัมพร นิติสิริ ที่เป็นภรรยา ของ นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ไปเป็นกรรมการคุมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทั้งหมดกระทำภายใต้อำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์เองโดยตรง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ประธานคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ (กนท.) - และล่าสุดประธานคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ แม้จะมอบให้ใครดูแล แต่ด้วยตามกฎหมายการกำกับรัฐวิสาหกิจทุกฉบับ ก็สั่งให้มาเคาะครั้งสุดท้ายบนโต๊ะครม.ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั่งที่หัวโต๊ะ ขณะที่ การกระทำตาม (2) การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจฯ และ. 3) การจัดตั้งองค์กรใหม่มาจัดการเรื่อง อสังหาริมทรัพย์รัฐวิสาหกิจ นั้นจะได้กล่าวเจาะในตอนต่อไป หมดประเทศหรือยัง..........? เขาเป็นเจ้าของประเทศหรือ ? คุณ.....ยินยอม.....หรือ......? ลุกขึ้นเถิด...พี่น้องไทย.... อย่าให้....ชีวิตสูญเปล่า.... รักชาติ....แผ่นดินของเรา.. เหมือนดังพงศ์เผ่า......... ต้นตระกูลไทย........... ! .................. อ่านจบก็เข้าใจได้หรือยังครับ ว่าทำไมจึงต้องมีขบวนการ "ล้ม เจ้า"..เพื่อเข้ายึด "อำนาจใหม่"..ล้มล้างเจ้าทิ้งไป แล้ว เข้ายึดครองสร้างอำนาจใหม่ ภายใต้ระบบ "ประธานาธิบดี" ผู้มีอำนาจสูงสุด (ทีนี้ล่ะ..ได้สิ้นชาติทันตาเห็น) ...ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ก็จะต้องตกไปสู่มือของผู้มีอำนาจใหม่ที่จะทำเพื่อพวกพ้องและบริวาลตนเท่านั้น ประวัติศาสตร์กษัตริย์นักรบ ก็จะหายไปสิ้น เหลือแต่ประวัติใหม่ของโจรปล้นบัลลังก์ ที่นั่งเทียนเขียนอุปโหลกเรื่องดีให้เลวร้าย เรื่องเลวร้ายที่พวกมันทำฉิบหาย ให้ดูดี ตื่นนะ..พี่น้องไทย อย่าปล่อยให้ไฟไหม้ประเทศ กษัตริย์..ทำให้ชาติ นักการเมือง..ทำให้โคตร ของพวกมัน เปิดโปง ออกไปให้มากที่สุด.....หนังสือเวียนครับพี่น้องแล้วต้องส่งต่อ ไม่ส่งต่อแล้วระบอบทักษิณยังเกาะกินเรื้อรัง ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่หลายคนคงยังไม่รู้ อ่านเสร็จแล้วโปรดส่งต่อ เพื่อเปิดโปงออกไปให้มากที่สุด..... ขอบคุณ อจ.ประพจน์ ท่ีส่งเนื้อความนี้มาแชร์ คล้ายมีทิศทางเดียวกับเนื้อความนี้: "ถาม...ทำไมวงจรอุบาทว์อาจหมุนกลับมาได้อีก" "คำตอบอยู่ข้างล่างนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง" ๑. ตระกูลชิน ยึดองคาพยพ รัฐวิสาหกิจเบ็ดเสร็จ ขุมสมบัติหลาย แสนล้านของชาติ ได้ถูกแบ่งขายครั้งแรกในน้ำมือรัฐบาลพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ ปตท. และหากมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ไม...่ร้องต่อศาลปกครอง กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ......... " เตรียมขาย กฟผ. " จนศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา........ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549 ให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจสิทธิ และประโยชน์ของบริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) พ.ศ.2548 และหากพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอยู่ในอำนาจป่านนี้สมบัติชาติคงถูกขายกินหมดแล้ว ๒. กระนั้นก็ตาม เมื่อมาถึงยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์เรืองอำนาจ ก็เข้ามาทำพฤติกรรมเดิมๆ สูบกินรัฐวิสาหกิจอีกครั้งภายใต้ระบบโครงสร้างความเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ ก็ได้ค่าเบี้ยประชุม โบนัส และเงินตอบแทน ตลอดจนการจัดซื้อจัดจ้าง จากงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ที่ระดับและอำนาจการตรวจสอบจะอ่อนด้อยกว่่า กระทรวง กรมต่างๆ ซ้ำร้ายกว่านั้น รัฐวิสาหกิจ ที่แปรรูปเป็นเอกชน ผลตอบแทนกรรมการ ตลอดจนการตรวจสอบจากรัฐในการบริหารงบลงทุนต่างๆ และการสนองตอบนโยบายสาธารณะ ก็ยิ่งน้อยลง ยกตัวอย่าง ปตท.ที่แปรรูปไป ยังเล่นแร่แปรธาตุดูดกินด้วย การถ่ายโอนผลประโยชน์ ทรัพย์สิน การลงทุนผ่านบริษัทลูกปตท. ที่อยู่นอกเขตการตรวจสอบภายใต้อำนาจรัฐออกไปเรื่อยๆ เงินไหลออกไป บริษัทลูก ทำให้บริษัทแม่ผลประกอบการไม่ดี แต่การตรวจสอบบริษัทลูกหรือบริษัทที่ ปตท.ร่วมทุน กลับยิ่งยากขึ้น และมาวันนี้ ยุคน้องสาว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็มีพฤติกรรมไม่ต่างกัน แต่คราวนี้ขยายวงกว้างกว่ามาก เกือบจะทุกรัฐวิสาหกิจ ทั้งด้านพลังงานสาธารณูปโภคและธนาคาร ที่เริ่มด้วย (1) การตั้งคนในธุรกิจตนเองมาเป็นกรรมการหวังกระทำบางอย่างหรือไม่ นอกจากนี้ยังต่างตอบแทนผู้ภักดีกล้าหาญด้วย (2) การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ. คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับ_กรรมการและพนักงาน รัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ให้คุณสมบัติต่ำลงและมีการเปิดช่องให้ผู้มาดำรงตำแหน่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนได้ แล้วแต่ รมว.คลัง จะพิจารณายกเว้น
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กรมสรรพสามิตมีมติ ไม่ลดภาษีรถยนต์ 50% ตามข้อเสนอของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ จริงหรือคะ
    หลังจากที่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้ “ลดภาษีรถยนต์” ในส่วน ภาษีสรรพสามิต 50% และเปิดโครงการ รถเก่าแลกรถใหม่ โดยรัฐบาลสนับสนุน 1 แสนบาท พร้อมกับขยายเวลามาตรฐานไอเสีย ยูโร5, ยูโร6 ออกไปก่อน28 พฤษภาคม 2563 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยต์ไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ค่ายรถยนต์ทั่วประเทศ และสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว รวมถึงผู้ประกอบการสินเชื่อธุรกิจรถยนต์(ลิสซิ่ง)ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่วมกันแล้ว พบว่า ไม่มีความจำเป็นต้องปรับลด อัตราภาษีรถยนต์50% ให้กับค่ายรถยนต์ใหม่ตามที่เสนอมา จริงหรือคะ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ดร.พิสิฐขอบิณฑบาตงบศึกษาให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าจากกรมสรรพสามิต ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาพรบ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เมื่อวันที่11 มิ.ย.ที่รัฐสภา ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ ได้ขอบิณฑบาตงบศึกษาให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่อธิบดีกรมสรรพสามิตเสนอ โดยชี้ให้เห็นว่า WHO และ FDA ของสหรัฐไม่รับรองว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดการสูญบุหรี่โดยห้ามบริษัทกล่าวอ้าง ขณะนี้มีกว่า 40 ประเทศที่ห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้า เด็กในสหรัฐติดบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 4-5 ล้านคน ประเทศไทยแม้จะมีรายได้รัฐบาลจากบุหรี่ปีละ 6 หมื่นล้านบาท แต่ก็มีรายจ่ายรัฐบาลที่ต้องรักษาพยาบาลคนป่วย 6 หมื่นล้านบาท ความเสียหายทางเศรษฐกิจทั้งค่ายาและค่าใช้จ่ายอื่นอาจสูงถึง 2 แสนล้านบาทจึงไม่คุ้มกัน แถมมีคนเสียชีวิตปีหนึ่งๆ กว่า 9 หมื่นคนจากโรคภัยที่มากับบุหรี่ เทียบกับโควิดที่เสียชีวิต 980 กว่าคนตั้งแต่ต้นปีในประเทศไทย คนป่วยจากบุหรี่ขณะนี้สูงกว่า 1.2 ล้านคน โดยเฉพาะโรคถุงลมโป่งซึ่งคนป่วยจะมีอาการคล้ายคนจมน้ำที่หายใจไม่ออก ดังนั้น จึงขออธิบดีได้ทบทวนความคิดที่จะให้คนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าโดยหว้งจะได้ภาษี งานนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกกำลังพยายามล้อบบี้ โดยเข้ามาแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมาธิการการเงินการคลังที่เชียงราย มีความพยายามมาที่พรรคประชาธิปัตย์ แต่ตนก็ปฏิเสธที่จะไม่พบด้วย อธิบดีกรมสรรพสามิตได้ตอบตอนท้ายว่าขอรับข้อคิดเห็นของ ดร พิสิฐ ไปพิจารณา
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ปล้นครั้งประวัติศาสตร์! ทะลวงทุกระบบ “ขโมยเพชร” มหาศาล ตามของคืนไม่ได้จนวันนี้
    ผู้เขียน กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2003 มีข่าวครึกโครมดังไปทั่วโลกกับเหตุการณ์ “ขโมยเพชร” ที่นับได้ว่าเป็นการโจรกรรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และน่าจะบอกได้ว่าเป็นการโจรกรรมที่เกิดในพื้นที่ซึ่งมีระบบป้องกันดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จนเคยเชื่อกันว่า “ไม่สามารถถูกเจาะได้” แอนต์เวิร์ป ไดมอนด์ เซ็นเตอร์ (Antwerp Diamond Center) เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์รวมเพชรของโลก ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม ภายในมีตู้เซฟจำนวนเกือบ 200 ตู้ในห้องนิรภัย ซึ่งอยู่ลึกลงไปในใต้ดิน 2 ชั้น เก็บเพชรและเครื่องประดับอัญมณีของผู้เช่าตู้เซฟ มูลค่ารวมแล้วหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น รายงานข่าวบางแห่งบ่งชี้ตัวเลขระดับชั้นของการรักษาความปลอดภัยว่ามีมากถึง 10 ชั้น และต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงขั้นเปิดตู้เซฟได้ ทุกตู้ยังต้องเปิดด้วยรหัสและกุญแจเช่นเดียวกับประตูห้องนิรภัย ซึ่งทำให้เป็นที่มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้มาเช่าตู้เซฟ สถานที่แห่งนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาและทันสมัย แถมเพียบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิดทุกซอกทุกมุม มีสัญญาณเตือนภัยแทบทุกระบบที่มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาติดตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวและการสั่นสะเทือน เซนเซอร์จับความร้อนจากร่างกายมนุษย์ เซนเซอร์จับแสง มีแม้กระทั่งอุปกรณ์ตรวจจับแบบแม่เหล็ก ซึ่งทันทีที่ประตูนิรภัยหนา 1 ฟุตเปิดในเวลาที่ไม่ควรเปิด สัญญาณเตือนภัยจะแจ้งเหตุทันที รวมทั้งมีเครื่องกีดขวางยานพาหนะยุคไฮเทค มีกลไกบังคับให้หุบหายลงใต้ดิน และโผล่กลับขึ้นมาทำหน้าที่ของมันได้ทุกเวลา ที่สำคัญยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจนัก และเจ้าหน้าที่ก็พร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับแจ้งการก่อเหตุ ผู้ก่อการ “ขโมยเพชร” ก่อนหน้าเกิดคดีโจรกรรมเพชร 2 ปี คือในปี 2001 เชื่อว่าแผนปฏิบัติการการโจรกรรมได้เริ่มขึ้นอย่างแนบเนียนโดยชายวัยกลางคนชาวตูริน ประเทศอิตาลี ชื่อ ลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล ซึ่งเดินทางเข้ามาในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ที่ตั้งของไดมอนด์ เซ็นเตอร์ ฉากหน้าเขาคือนักออกแบบเครื่องประดับ นักธุรกิจค้าเพชร เข้ามาเช่าออฟฟิศและตู้เซฟที่ไดมอนด์ เซ็นเตอร์ เพื่อเปิดเป็นสำนักงานประกอบธุรกิจค้าเพชร ที่นี่นอกจากจะมีตู้เซฟให้เช่าแล้ว ยังมีห้องเพื่อใช้เป็นสำนักงานธุรกิจค้าอัญมณีของเหล่านักธุรกิจใช้เช่าอีกด้วย โนทาร์บาร์โทโลแฝงตัวเข้ามาเพื่อสำรวจเก็บรายละเอียดของสำนักงานนี้ เขาใช้เวลาเก็บข้อมูลต่างๆ ทั้งระบบความปลอดภัย กิจวัตรในแต่ละวันของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนต่างๆ ของอาคาร และเส้นทาง โดยรายละเอียดทั้งหมดที่ได้มา เขาใช้การจดจำ จากนั้นจะนำมาเขียนบันทึกในห้องทำงาน โนทาร์บาร์โทโลใช้เวลาร่วม 2 ปีแฝงตัวและเก็บข้อมูลในสถานที่แห่งนี้ แน่นอนว่าโนทาร์บาร์โทโลคงไม่ปฏิบัติการเพียงลำพัง เขามีผู้ร่วมขบวนการอีกคือ เอลิโอ ดอโนริโอ ผู้เชี่ยวชาญสัญญาณเตือนภัย คนช่างคิดที่สามารถเอาชนะมาตรการรักษาความปลอดภัยหลายระบบ เฟอร์ดนานโด ฟิน็อตโต อาชญากรมืออาชีพมากประสบการณ์ และ ปิเอโตร ทาวาโน เพื่อนเก่าแก่ที่โนทาร์บาร์โทโลไว้ใจ โนทาร์บาร์โทโลเล่ารายละเอียดทุกอย่างที่เขาเก็บข้อมูลมาให้ผู้ร่วมก่อการฟังอย่างละเอียด รวมทั้งร่วมวางแผนกันภายในร้านกาแฟนในตูรินเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต พวกเขาใช้เวลาเตรียมการรวม 27 เดือน นานกว่าระยะเวลาในหนังโจรกรรมแบบฮอลลีวูด ที่มักเล่าว่าสมาชิกแก๊งใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ ปฏิบัติการ “ขโมยเพชร” ครั้งประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ ปี 2003 ไล่เลี่ยกับช่วงวันวาเลนไทน์ ช่วงวันหยุด ไดมอนด์ เซนเตอร์ แห่งนี้หยุดทำการ ไม่มีการเปิดห้องนิรภัยและตู้เซฟทุกกรณี หากเปิดนอกเวลาทำการเช่นนี้สัญญาณเตือนภัยจะทำงานทันที แต่โนทาร์บาร์โทโลกลับเลือกใช้เวลานี้ปฏิบัติการ เนื่องจากปลอดคนและมีเวลาให้ปฏิบัติการได้มาก การเจาะระบบป้องกัน (โดยคร่าว) ด้วยระบบป้องกันภัยที่ทันสมัยและแน่นหนามาก การเจาะเข้าไปในตู้เซฟจึงต้องผ่านระบบป้องกันหลายด่าน ทั้งการใส่รหัสผ่าน ล็อกกุญแจ เซนเซอร์สนามแม่เหล็ก เซนเซอร์ตรวจจับความร้อน เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และเซนเซอร์แสง รายละเอียดมีข้อปลีกย่อยมากมาย ข้อมูลในที่นี้บอกเล่าอย่างคร่าวๆ โดยส่วนหนึ่งมาจากหลักฐานและการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้เชี่ยวชาญ โนทาร์บาร์โทโลและพวกจำเป็นต้องกำจัดอุปสรรคทีละด่าน ซึ่งผ่านการจำลองสถานการณ์ซักซ้อมมาอย่างดี พวกเขาเริ่มแผนการในช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ ทาวาโนทำหน้าที่เฝ้าติดตามฟังวิทยุสื่อสารของตำรวจ ทราบความเคลื่อนไหวของตำรวจจากวิทยุสื่อสาร เขาทำหน้าที่อยู่ที่ห้องพักของโนทาร์บาร์โทโล ส่วนโนทาร์บาร์โทโลกับพวกอีก 2 คน สวมถุงมือยาง ขับรถผ่านป้อมตำรวจ ประตูชั้นจอดรถเปิดขึ้น เขาหยุดรถชิดขอบทาง แต่ละคนพาดถุงบนไหล่ มุดผ่านใต้ขอบประตูม้วน พวกเขาใช้กุญแจดอกพิเศษที่ทำขึ้นเพื่อไขกุญแจประตูทางเข้า เดินลงบันไดถึงหน้าห้องนิรภัย ดอโนริโอใช้แผ่นเหล็กรูปตัวทีประกบแท่งแม่เหล็กทั้งสองที่ติดอยู่บานประตูและขอบประตูด้วยเทปกาวสองหน้า แล้วดึงมันหลุดออกมาโดยแท่งแม่เหล็กไม่แยกจากกัน สัญญาณแจ้งเตือนจึงไม่ดังขึ้น ช่วยให้เปิดห้องนิรภัยกว้างระดับหนึ่ง และสามารถแทรกตัวเข้าไปได้โดยปลอดสัญญาณแจ้งเตือน ตำรวจเชื่อว่าดอโนริโอติดตั้งกล้องวิดีโอเพื่อใช้บันทึกการหมุนรหัสประตูห้องนิรภัย แต่ทฤษฎีของตำรวจมีผู้แย้งว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะมีอุปกรณ์บังรอบตัวหมุนรหัส ป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นเลข ข้อสันนิษฐานอื่นก็คือ โนทาร์บาร์โทโลอาจได้รหัสมาโดยวิธีอื่น หรืออีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจคือ ประตูห้องนิรภัยนี้ไม่เคลียร์รหัสให้เอง หากเปิดแล้วต้องหมุนเคลียร์รหัสเอง ทั้งนี้ผู้ดูแลอาจลืมหรือขี้เกียจเคลียร์รหัส (เก่า) ทำให้รหัสคาอยู่ที่เดิม เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้กุญแจเพียงดอกเดียวเปิดประตูนิรภัยได้ ภายหลังตำรวจสรุปว่าคนร้ายใช้ชะแลงยาว 2 ฟุต งัดประตูห้องเก็บของ เพราะกุญแจที่ทำมาใช้การไม่ได้ (เสียงน่าจะดังมาก แต่ไม่มีสัญญาณเตือนภัย เนื่องจากในพื้นที่ไม่ได้ใช้การตรวจจับเสียง เพราะมองว่า หากมีคนทำของตก สัญญาณย่อมดังขึ้นทุกครั้ง) แต่ในห้องเก็บของมีกุญแจประตูนิรภัย จึงสามารถเปิดห้องนิรภัยได้ ข้างในห้องมืดสนิท และมีเครื่องตรวจจับแสงทำงานอยู่ พวกเขาใช้เทปกาว 2-3 ชิ้นปิดเซนเซอร์แสง แล้วทำการเปิดไฟ ด่านต่อมาคือเซนเซอร์ตรวจจับความร้อน พวกเขาเอาชนะมันด้วยการใช้สเปรย์ตกแต่งทรงผมฉีดใส่เครื่องจนทำให้เครื่องรวนไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวพวกเขาใช้แผ่นโฟมวางทับตัวเซ็นเซอร์ไม่ให้มันทำงาน ด่านสุดท้ายคือเปิดประตูตู้เซฟ พวกเขาประกอบอุปกรณ์ดึงฝาตู้เซฟที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ซึ่งแยกชิ้นส่วนใส่กระเป๋ามา และนำมาประกอบกันตรงกลางห้องนิรภัย เมื่อประกอบเสร็จพวกเขาก็ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเปิดตู้เซฟได้ หลังจากจัดการกับอุปสรรคแต่ละด่านเรียบร้อยแล้ว โนทาร์บาร์โทโลและพวกได้แบ่งหน้าที่กัน คนหนึ่งเปิดตู้เซฟให้เร็วที่สุด อีกสองคนทำหน้าที่แยกของมีค่า ทั้งเพชร นาฬิกา เครื่องประดับ และเงินสด แยกใส่ถุงอย่างละถุง โนทาร์บาร์โทโลเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเอาอะไรกลับไป และจะปล่อยสิ่งของอะไรไว้บ้างโดยประเมินจากมูลค่าของแต่ละชิ้น โดยรวมแล้วพวกเขาเปิดตู้เซฟได้ 109 ตู้ จาก 189 ตู้ เชื่อกันว่าทรัพย์สินที่กลุ่มนักโจรกรรมกวาดไปได้มีมูลค่ารวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตัวเลขมูลค่าของทรัพย์สินที่หายไปยังเป็นที่ถกเถียง จากปากของกลุ่มผู้ก่อการอ้างว่ามูลค่าของทรัพย์สินที่พวกเขาฉกไปอยู่แค่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอ้างว่าการโจรกรรมเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ใหญ่กว่าเพื่อเคลมเงินประกัน) ขณะที่การออกจากสถานที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องขนสมบัติที่หนักกลับไปพร้อมกับเครื่องมืออุปกรณ์ เดิมทีแล้ว “แก๊งตูริน” นี้จะเก็บทุกอย่างกลับไปเพื่อไม่ให้ตำรวจเก็บหลักฐาน แต่ครั้งนี้พวกเขาจำเป็นต้องทิ้งอุปกรณ์ โดยเช็ดถูให้สะอาดลบร่องรอยอื่นก่อน การหิ้วถุงเพชรขึ้นบันไดขณะออกจากสถานที่เกิดเหตุหลังจากคนดูต้นทางรายงานว่าปลอดโปร่งแล้วก็ต้องหิ้วถุงโดยก้าวอย่างระมัดระวังมากที่สุด ถุงเพชรอย่างเดียวก็หนักเข้าไปถึง 44 ปอนด์ (ราว 20 กิโลกรัม) ขณะที่แบกขึ้นไป คนร้ายอีกรายใช้กุญแจปลอมเข้าไปเปิดประตูห้องควบคุมระบบรักษาความปลอดภัย เอาเทปบันทึกภาพการก่อเหตุออกจากเครื่อง และใส่เทปเปล่าไปแทน เขายังมองหาเทปเก่าโดยเลือกช่วงเดือนที่ผ่านมาอีก 4 ม้วน เป็นเทปบันทึกภาพช่วงที่สมาชิกเข้ามาทำลายระบบเตือนภัยแม่เหล็กไปด้วย เมื่อคนดูต้นทางแจ้งว่าปลอดภัย พวกเขาก็ออกมาใส่ของที่ท้ายรถที่มาจอดเทียบชิดขอบทาง พวกเขานั่งเบียดกันในรถและขับหายไปตามถนน โฉมหน้าลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล วัย 51 ปีหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 ฉากหลังเป็น Diamond Center ใน Antwerp ประเทศเบลเยียม เมื่อ 18 ก.พ. 2013 หลังเกิดเหตุโจรกรรมเพชร (ภาพจาก STRINGER / BELGA / WIM HENDRIX /AFP) เรื่องเล็กในการ “ขโมยเพชร” ที่พลาดมหันต์ แม้พวกเขาจะทำการสำเร็จ แต่ปัญหาของพวกเขาคือการกำจัดขยะที่เป็นร่องรอยจากปฏิบัติการทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้วนักโจรกรรมอัจฉริยะระดับโลกต้องถึงจุดจบ โดยมีหลักฐานคือ “ถุงขยะ” หลังจาก “ขโมยเพชร” แล้ว พวกคนร้ายขับรถซึ่งมีถุงขยะอันบรรจุอุปกรณ์และสิ่งของที่เหลือใช้จากปฏิบัติการเต็มรถไปตามไฮเวย์ด้วยความกระวนกระวาย จนเลือกทิ้งถุงขยะโดยเร็วที่สุดเมื่อออกจากเมือง เลี่ยงความเสี่ยงโดนตำรวจเรียกจอดหากละเมิดกฎจราจร การทิ้งขยะตามสถานที่ส่วนบุคคลหรือเอกชนก็เป็นเรื่องเสี่ยง เพราะเจ้าของกิจการในเบลเยียมจริงจังกับการใช้ถังขยะโดยไม่ได้รับอนุญาต หลายแห่งล็อกฝาถัง หรือติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณถังขยะ ปั๊มน้ำมันบนไฮเวย์แทบทุกแห่งมีป้ายห้ามทิ้งสิ่งของส่วนตัว ขณะที่การเผาถุงก็ย่อมมีควันไฟที่เรียกความสนใจจากเจ้าหน้าที่ไฮเวย์ ในถุงพวกนี้มีถุงขยะที่ยัดถุงจากร้านค้าซึ่งดันมีใบเสร็จ ซองเอกสาร และเอกสารอื่นจากไดมอนด์ เซ็นเตอร์ และเลือกทิ้งข้างทางหลวงตรงถนนทางเข้าป่าฟลอร์ดัมบอส แต่แล้วดันมีผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินละแวกนั้นที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมาพบถุงขยะ และคู่สามีภรรยาคือกลุ่มที่โทรศัพท์แจ้งตำรวจ (แม้แต่คำถามว่า ใครกันแน่ที่รู้ว่าถุงขยะเกี่ยวกับการโจรกรรมที่เป็นข่าวดังเวลานั้น และออกไอเดียให้โทรศัพท์หาตำรวจ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่า สรุปแล้วเป็นสามีคือออกุสต์ ฟาน ดัมป์ หรือภรรยาของเขากันแน่) ถุงที่ฟาน ดัมป์ พบคือหลักฐานสำคัญที่ทางการแกะรอยได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิด ทำให้ผู้ก่อการทั้ง 4 คนถูกจับในที่สุด โดยเฉพาะใบเสร็จที่เมื่อตำรวจนำไปสอบถามกับแคชเชียร์ พนักงานจำได้ทันที และให้รูปพรรณกับตำรวจซึ่งเชื่อว่าเป็นดอโนริโอ และฟิน็อตโต ขณะที่ตำรวจเบลเยียมส่งข้อมูลผู้ต้องสงสัยให้ตำรวจสากล โนทาร์บาร์โทโลและพวกยังฉลองความสำเร็จ และกำลังเดินทางหลบหนี แต่เหลือสิ่งที่เขาต้องทำคือทำลายร่องรอยที่เหลือในแอนต์เวิร์ป อีกทั้งคืนรถเช่า และทำความสะอาดห้องพักซึ่งจากมาอย่างรีบร้อน และยังต้องรูดบัตรผ่านเข้า-ออกไดมอนด์ เซ็นเตอร์ เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นหลักฐาน เพราะตำรวจจะต้องตรวจสอบว่าผู้เช่ารายใดที่หายไปเลยหลังเกิดเหตุ เมื่อตำรวจตรวจสอบหลักฐานการเข้า-ออกของโนทาร์บาร์โทโล ก็พบว่าเขาอยู่ในกลุ่มสุดท้ายที่ออกจากอาคารก่อนวันเกิดเหตุ จึงนำภาพวิดีโอหลายชั่วโมงมาดู แล้วพบว่า หนุ่มใหญ่ชาวอิตาเลียนเข้า-ออกห้องนิรภัยทุกวันตลอดสัปดาห์ก่อนหน้าเกิดเหตุ ตำรวจเชื่อว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรม โนทาร์บาร์โทโลมั่นใจว่าไม่มีอะไรที่พาดพิงมาถึงเขา แม้ว่าในข่าวจะมีเรื่องพบถุงขยะแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่า เพื่อนร่วมงานฉีกใบจ้างงานติดตั้งกล้องที่ออฟฟิศของเขาแล้วโยนลงถังขยะในครัว ไม่รู้ว่าตำรวจค้นออฟฟิศและตู้เซฟของเขา การกลับที่เกิดเหตุย่อมเหมือนกับการฆ่าตัวตาย แต่โนทาร์บาร์โทโลมั่นใจ และความมั่นใจนั่นเองทำให้เขาโดนรวบตัว ทันทีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบูธด้านหน้าเห็นเขาก็คว้าโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่โดยพลัน ช่วงแรกเขายังคิดว่าตำรวจไม่มีหลักฐานพอ และยังเป็นเพียงพยาน แถมยังตีบทงง ไม่เข้าใจว่าควบคุมตัวผู้บริสุทธิ์อย่างเขาทำไม โนทาร์บาร์โทโลมีคำตอบให้ทุกคำถาม แต่ท้ายที่สุดก็จนกับหลักฐานหลายอย่าง ทั้งดีเอ็นเอบนแซนด์วิชไส้กรอกที่โนทาร์บาร์โทโลทำกินเอง แต่กินครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งโยนทิ้งถังขยะในครัวขณะเตรียมขนของหนีไปอิตาลี และมันไปโผล่ในถังขยะใกล้ป่าฟลอร์ดัมบอส และยังพบดีเอ็นเอของผู้ร่วมก่อการอีกหลายจุดที่เชื่อมเข้ากับหลักฐานการโจรกรรม แม้ว่าคนร้ายจะถูกจับกุมได้ แต่เพชรที่ถูกปล้นก็ไม่ได้กลับคืนสู่เจ้าของ เพราะไม่มีคนร้ายคนไหนบอกถึงที่อยู่ของเพชรที่ปล้นมา ช่วงที่โนทาร์บาร์โทโลอยู่ในคุกยังให้สัมภาษณ์แก่นิตยสารไวร์ด (Wired) ว่า การปล้นทั้งหมดเกิดจากแผนที่ผู้เช่าตู้เซฟซึ่งเป็นพ่อค้าเพชรชาวยิวหวังใช้เรียกค่าประกันจากไดมอนด์ เซ็นเตอร์ โดยที่พวกเขาซึ่งมีผู้เช่าตู้เซฟร่วมแผนการด้วยประมาณ 50-60 ราย จะไม่เอาเพชรหรือของมีค่าใส่ไว้ในตู้เซฟ และวางแผนการปล้นโดยจำลองห้องนิรภัยขึ้นมา แล้วเข้าปล้น เขายังกล่าวต่ออีกว่าแผนการครั้งนี้โดนพ่อค้าเพชรชาวยิวหักหลัง แต่มีหลายคนวิเคราะห์ว่าข้อมูลนี้เป็นเรื่องโกหกของโนทาร์บาร์โทโล เพราะสิ่งที่เขาเล่าย้อนแย้งอย่างมาก อีกทั้งเรื่องที่มีผู้เช่าตู้เซฟวางแผนร่วมกันนั้น ผู้เช่าตู้เซฟเห็นว่าเป็นเรื่องตลกที่ไม่มีทางเกิดขึ้น การที่โนทาร์บาร์โทโลให้สัมภาษณ์เช่นนี้ก็เพื่อโยนความผิดให้กับผู้อื่นหรือปกปิดข้อมูลและร่องรอย โนทาร์บาร์โทโลยังต้องการให้นำเรื่องราวของเขาไปทำภาพยนตร์ เพราะเขาหวังส่วนแบ่งรายได้จากสิทธิ์ของข้อมูลเพื่อนำไปใช้อย่างสบายหลังออกจากคุก อีกทั้งเป็นเงินที่ได้มาโดยถูกกฎหมาย และใช้ชีวิตอย่างหรูหราได้โดยอ้างแหล่งที่มาของเงินจากส่วนแบ่งการนำเรื่องราวไปสร้างเป็นภาพยนตร์ (ทั้งที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีวันเผยเรื่องจริง) ท้ายที่สุดแม้ว่าเขาจะถูกศาลตัดสินจำคุก 10 ปี และรับโทษติดคุก เขาก็ยังไม่ได้บอกที่ซ่อนอัญมณีและแผนการปล้น เขากับพวกอีก 3 คน ถูกปล่อยตัวก่อนกำหนด และหลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ ทั้งนี้ศาลได้ตัดสินคดีจนถึงที่สุดแล้ว คดีนี้จึงจบลง เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับคดีให้ความเห็นเมื่อปี 2009 ว่า แม้แต่โนทาร์บาร์โทโลนำเพชรหรือทรัพย์สินที่ปล้นมาขายก็อาจไม่สามารถแจ้งจับได้อีก เพราะไม่สามารถฟ้องซ้ำคดีที่ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาด นอกเหนือจากมีหลักฐานใหม่ แต่สิ่งที่ทำได้เบื้องต้นคือแค่ยึดเป็นของกลางไว้ และอาจดำเนินคดีในอิตาลีเกี่ยวกับการฟอกเงิน ในขณะที่กลุ่มเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกปล้นไปก็ไม่หวังกันแล้วว่าจะได้ของกลับคืน คนในแวดวงเพชรยังรู้สึกโกรธกับบทสรุป เมื่อพวกคนร้ายติดคุกไม่นาน ทรัพย์สินก็ไม่สามารถติดตามกลับมาได้ ที่สำคัญบทสรุปของเรื่องนี้ยังออกมาว่าการทำงานหนักของเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามคนร้ายและดำเนินคดี แลกมากับการจองจำผู้ก่อเหตุเพียงไม่กี่ปี และยังพิสูจน์อีกว่า ความเสี่ยง ความยากลำบาก การถูกจับและจองจำ อาจคุ้มค่ากับชีวิตหลังผ่านคดี เมื่อพวกที่ก่อการอาจใช้ชีวิตที่เหลือได้อย่างราบรื่นและสุขสบายจากสิ่งที่ได้จากการโจรกรรม
    putilp148
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false