1 คนสงสัย
อย.ย้ำข่าวยาพาราปนเปื้อนไวรัส ไม่เป็นความจริง
ภญ.สุภัทรา ระบุว่า ก่อนหน้านี้ อย.เคยชี้แจงไปแล้วว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่กลับพบว่ามีการนำมาเผยแพร่อีกครั้ง จึงขอย้ำว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด "แมคชูโปไวรัส" เป็นเชื้อที่ไม่สามารถเจริญเติบโตในที่แห้ง ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่ยาพาราเซตามอลจะปนเปื้อนเชื้อดังกล่าว จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าสามารถรับประทานยาพาราเซตามอลได้ตามปกติ พร้อมขอความร่วมมืออย่าหลงเชื่อและอย่าแชร์ข้อความดังกล่าว เพราะจะสร้างความตระหนก โดยประชาชนสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทางแอปพลิเคชัน อย. เช็ก ชัวร์ แชร์ หรือไลน์ FDAThai รวมถึงเว็บไซต์ www.oryor.com
std47872
 •  2 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 2 คนสงสัย
    รัฐทบทวนสิทธิโอนเงินเข้าบัญชี 5,000 บาท ในเดือนนี้
    โฆษกรัฐบาล เตือน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หลังข้อความว่อนโซเชียล “รัฐฯ ทบทวนสิทธิโอนเงินเข้าบัญชี 5,000 บาท ภายในเดือน มิ.ย.นี้” วอนหยุดแชร์ ป้องกันความสับสนและเข้าใจผิดขยายวงกว้าง วันที่ 8 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีการแชร์และส่งต่อข้อมูล “รัฐฯ ทบทวนสิทธิโอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 5,000 บาท ภายในเดือนมิถุนายนนี้” ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand : AFNC) ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ออกมาชี้แจงข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ
    std46298
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ต่างชาติเข้าถือหุ้นธนาคารกรุงไทย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ต่างชาติเข้าถือหุ้นธนาคารกรุงไทย . ตามที่มีการแชร์ข่าวสารเรื่องต่างชาติเข้าถือหุ้นธนาคารกรุงไทย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางธนาคารกรุงไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากกรณีที่มีผู้ส่งต่อข้อมูลว่า ธนาคารกรุงไทยถูกต่างชาติเข้าถือหุ้นหมดแล้วนั้น ทางธนาคารกรุงไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ธนาคารกรุงไทยถือหุ้นใหญ่ โดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยกองทุนฟื้นฟูฯ ถือหุ้นธนาคารกรุงไทยในสัดส่วน 55% ไม่ใช่ต่างชาติตามที่ถูกกล่าวอ้าง . ดังนั้นประชาชนควรระมัดระวังในการกรอกข้อมูลและไม่ควรกดลิงก์แปลก หรือน่าสงสัยที่ส่งโดยไม่ทราบที่มาชัดเจน และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โทร. Krungthai Contact Center 02-111-1111 หรือแจ้งผ่าน Facebook : Krungthai Care . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ธนาคารกรุงไทยถือหุ้นใหญ่ โดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถือหุ้นทั้งหมด 55% ไม่ใช่ต่างชาติตามที่ถูกกล่าวอ้าง . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : ธนาคารกรุงไทย . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวนโยบายรัฐ #ธนาคารกรุงไทย #ต่างชาติ #ถือหุ้น
    std48133
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    "แมคโดนัลด์" ปฏิเสธข่าวลือ เตรียมปิดสาขาทั้งหมดในเซ็นทรัล
    เฟซบุ๊กเพจ "McDonald's" ได้เผยแพร่ประกาศจาก บริษัท แมคไทย จำกัด ปฏิเสธว่า แมคโดนัลด์ ถอดสาขาออกจากห้างเซ็นทรัลทั้งหมด บริษัท แมคไทย จำกัด ขอชี้แจงให้ทราบโดยทั่วกันว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง แมคไทย ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจในห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้มอลล์ สแตนอโลน และไดร์ฟทรู เราจึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจร่วมกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ซึ่งเป็นพันธมิตรและกลุ่มธุรกิจรีเทลชั้นนำของเมืองไทย
    Patcharaporn Kraikaew
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 2 คนสงสัย
    อย.ย้ำอย่าแชร์ข่าวยาพาราปนเปื้อนไวรัส ไม่เป็นความจริง
    นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์อ้างถึงสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง เผยแพร่ข่าวห้ามกินยาพาราที่มีชื่อว่า P/500 เม็ดยาสีขาวและเคลือบมันจนเป็นประกาย เพราะมีไวรัสแมคชูโปปนเปื้อน
    std49571
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือไม่กินเม็ดชาไข่มุกทําให้เป็นมะเร็ง...!!
    จากกระแสบนโลกออนไลน์ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการกินเม็ด ชานมไข่มุกที่ส่งมาจากประเทศไต้หวัน จะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเพราะ มีสาร ที่เป็นอันตรายต่อตับ ไต ระบบเลือด และระบบประสาท ซึ่งเป็น สาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งต่างๆ จากข้อความดังกล่าวที่มีการแชร์บน โลกออนไลน์นั้น ได้มีการตรวจสอบโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) และได้ชี้แจงข้อสรุปว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง จากการที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประเทศไต้หวัน ได้มีการตรวจ สอบสิ่งที่พบจริงในเม็ดไข่มุกคือสารอะซิโตฟีโนน ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ ชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายอัลมอนด์ มักถูกใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมน้ำหอมและอุตสาหกรรมยา ในเม็ดไข่มุกบางยี่ห้ออาจพบ สารเหล่านี้ในปริมาณน้อยมากแต่ไม่ใช่สารก่อมะเร็งดังที่ข่าวลือกล่าวอ้าง (อ้างอิงข้อมูลจากเว็ปไซต์ https://shorturl.asia/i74FQ ) และข้อมูลจากงานวิจัยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เม็ดไข่มุกเสริมใยอาหารพร้อมบริโภค ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่าในเม็ดไข่มุก หลายยี่ห้อมีส่วนผสมของแป้งมันสำปะหลังเป็นหลัก ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเป็นสาร อาหารหลักชนิดหนึ่งที่ร่างกายเราต้องการและสวนผสมอื่นประกอบด้วย ผงเห็ดนางฟ้า เมือกกระเจี๊ยบเขียว อินูลิน แป้งดัดแปร คอนยัค คาราจีแนน น้ำตาล น้ำ เพียงเท่านั้น เป็นส่วนประกอบที่สามารถบริโภคได้ปกติทั่วไป (อ้างอิงข้อมูลโดยเว็บไซต์ https://shorturl.asia/mR2zQ ) ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการกินเม็ดชาไข่มุกนั้นไม่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ดังที่แชร์ กันเพราะไม่มีสารประกอบใดๆที่เป็นอัตรายหรือก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่ถึงแม้ว่า การกินเม็ดไข่มุกไม่ได้ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็ง แต่ถ้าหากเราบริโภคไข่มุกในปริมาณที่ มากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ แทนได้เช่นกัน
    ประมุขตรัย ผิงอัน
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เศรษฐีอินเดียแห่เช่าเหมาลำเข้าประเทศไทย
    จากการที่มีความคลาดเคลื่อน-ข้อเท็จจริง ข่าวเศรษฐีอินเดียแห่เช่าเหมาลำหนีโควิด-19 เข้าประเทศไทยนั้น เครือข่ายอีสานโคแฟค มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี “อินเดีย” เข้าประเทศไทย พบว่า ศบค. ยืนยันว่า กรณีข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าไม่มีเครื่องบินเช่าเหมาลำจากประเทศอินเดีย มีเพียงการเตรียมการเพื่อรับคนไทยกลับบ้าน (Repatriation flight)) ตามภารกิจของกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้า - 1 พฤษภาคม จำนวน 1 คน - 8 พฤษภาคม จำนวน 70 คน - 15 พฤษภาคม จำนวน 60 คน - 22 พฤษภาคม ยังไม่มีผู้ลงทะเบียน นโยบายชัดเจนว่า...สำหรับชาวต่างชาติที่ประสงค์จะเดินทางมาจากประเทศอินเดีย และได้ยื่นขอหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (COE – Certificate of Entry) จะให้ ”ชะลอ” การออกหนังสือฯ ออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังมีความรุนแรง ที่มา 🌐https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/41183
    chetthaphat.msu
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! รัฐหลอกให้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา เพื่อจะเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง
    จากกรณีที่มีการพบข้อความในโลกโซเชียลว่า ใครไม่เคยเสียภาษีเลย ทำงานอิสระ เงินต่อปีเท่าไหร่ ถ้าเกิน 150,000 ตรวจย้อนหลังเจอเสียภาษีสองเท่า ชิมช้อปใช้มีคนโดนมาแล้ว ทางกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ตามที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า กรมสรรพากรจะนำข้อมูลของผู้ลงทะเบียน www.เราไม่ทิ้งกัน.com ไปใช้ในการตรวจสอบภาษีย้อนหลังของกลุ่มผู้มีอาชีพอิสระนั้น ขอแจ้งว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง กรมสรรพากรขอยืนยันว่า ผู้ลงทะเบียนผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com เพื่อรับเงินตามมาตรการฯ ดังกล่าวจะไม่ถูกนำข้อมูลการลงทะเบียนมาใช้ในการตรวจสอบภาษี
    std46541
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    พาวเวอร์แบงก์ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ดูดเงินจริงหรือไม่?
    จากข่าวลือเรื่องพาวเวอร์แบงก์ของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สามารถดูดเงินจากบัญชีของลูกค้าได้นั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ตามที่มีการโพสต์เตือนเกี่ยวกับที่ชาร์จแบตเตอรี่ (พาวเวอร์แบงก์) จาก SCB สามารถดูดเงินไปเข้าบัญชีมิจฉาชีพได้นั้น ทางธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง และยังไม่เคยมีกรณีลูกค้าถูกดูดเงินจากการใช้พาวเวอร์แบงก์ โดยธนาคารมีการมอบที่ชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) เป็นของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ตามเงื่อนไขในช่วงการจัดโปรโมชัน ไม่ใช่อุปกรณ์ขโมยข้อมูลหรือดูดเงินแต่อย่างใด ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.antifakenewscenter.com/ และ https://www.scb.co.th/th/personal-banking.html) ทั้งนี้ ก่อนที่จะเชื่อมต่ออุปกรณ์ใด ๆ เข้ากับเครื่องโทรศัพท์มือถือ ผู้ใช้งานควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าอุปกรณ์ดังกล่าวได้มาตรฐาน ไม่มีส่วนใดชำรุด และสามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ( ข้อมูลเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ.2567 ) ดังนั้นขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารหรือบริการต่าง ๆ ของธนาคารไทยพาณิชย์ สามารถติดตามที่เว็บไซต์ www.scb.co.th หรือโทร 0 2777 7777 #ธนาคารไทยพาณิชย์ #ชมรมสื่อสร้างสรรค์มมส #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมมหาวิทยาลัยมหาสารคาม #อีสานโคแฟค #สื่อสร้างสรรค์มมสofficial
    นอ นอ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    AIS เตือน อย่าหลงเชื่อข้อความปลอม หมายเลข 1175 และ .AIS1175 ไม่สามารถเข้าถึงบัญชีทางการเงินของประชาชนได้จากการรับสาย
    21 ก.ค. 2566 – จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย อ้างถึงเบอร์ 1175 และ .AIS 1175 ซึ่งเป็นเบอร์สำหรับการให้บริการลูกค้าของเอไอเอส ว่า หากรับสายจะทำให้มิจฉาชีพเข้าสู่บัญชีและเอาเงินไปได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องพูดสายนั้น บริษัท เอไอเอส ขอยืนยันว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง และไม่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยหมายเลข 1175 เป็นช่องทางให้ลูกค้าสามารถโทรเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับบริการต่างๆของเอไอเอส รวมถึงใช้โทรติดต่อลูกค้าเพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการใช้บริการ อาทิ การสมัครแพ็คเกจการใช้งาน รวมถึงบริการอื่นๆ เท่านั้น และไม่สามารถเข้าถึงบัญชีหรือแอพพลิเคชั่นทางการเงินของประชาชนได้จากการรับสาย ทั้งนี้ การแสดงเบอร์โทรเข้าของหมายเลขดังกล่าวบนหน้าจอมือถือของลูกค้า อาจแสดงได้ทั้งหมายเลข 1175 หรือ .AIS1175 หรือ .AIS Call Center ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา เอไอเอสได้มีการบันทึกเลขหมายดังกล่าวลงใน SIM Card เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า โดยปัจจุบันลูกค้าสามารถลบ หรือ แก้ไขการบันทึกหมายเลขดังกล่าวได้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าสงสัยว่าจะได้รับความเสียหายจากกรณีข้างต้น สามารถแจ้งมาที่บริการสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center ซึ่งเอไอเอส จะประสานงาน ร่วมตรวจสอบกับฝ่ายความมั่นคงอย่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ ตลอด 24 ชั่วโมง
    std48351
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false