1 คนสงสัย
รักษามะเร็งระยะสุดท้ายด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย
ผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด
std47850
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น

ผู้บริโภคเฝ้าระวัง

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย
    กรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย
    std46418
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมากฎหมายของสหรัฐอเมริกามีผลบังคับใช้: 🎯สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อย คำเตือนที่ 99-33 ออกห้ามสิ่งต่อไปนี้ อาหารญี่ปุ่นที่นำเข้าสู่สหรัฐอเมริกา: 📎นมสด 📎เนย 📎ผงนม 📎นมผงทารกและอื่น ๆ 📎ผลิตภัณฑ์นม 📎ผัก มันเทศ เกลือ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ 📎ข้าว 📎ข้าวสาลีทั้งหมด 📎ปลา; 📎เนื้อสัตว์และสัตว์ปีก 📎หอย; 📎หอยเม่น; 📎ส้มโอ ส้ม; 📎แอปเปิ้ล กีวีและผลไม้อื่น ๆ ❌สาเหตุคือการปนเปื้อนของ Radionuclide ในที่สุดญี่ปุ่นก็ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมการปล่อยน้ำเสียกัมมันตภาพรังสีวันละหลายล้านตันของฟุกุชิมะซึ่งไหลลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้หลายคนป่วยด้วยโรคมะเร็งหรือ โรคต่างๆส่งผลกระทบร้ายแรงต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศทั่วโลกนึกไม่ถึง! ❌อย่ากินอาหารญี่ปุ่น 💢ในน่านน้ำชายฝั่งของสหรัฐอเมริกาพบว่าค่ากัมมันตภาพรังสีสูงขึ้นเรื่อย ๆ พยายามอย่าไปญี่ปุ่นให้มากที่สุดจะดีที่สุดไม่ควรไป 💢รัฐบาลออสเตรเลียหยุดการออกวีซ่าสำหรับชาวญี่ปุ่น 💢สหรัฐอเมริกายังหยุดการอพยพชาวอเมริกันของชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันสถานการณ์ในญี่ปุ่นเลวร้ายกว่าที่เราคิดมากกว่า 70 ของดินแดนทั้งหมดของญี่ปุ่นเต็มไปด้วยมลพิษ วัสดุกัมมันตภาพรังสีของญี่ปุ่นได้ไหลลงสู่มหาสมุทรและพื้นที่ของมหาสมุทรที่ได้รับผลกระทบก็กว้างขึ้น เป็นเรื่องร้ายแรงกว่าที่คิดรัฐบาลญี่ปุ่นกลัวว่าจะเกิดความตื่นตระหนกพวกเขาจะยอมแพ้หรือโกหกเพื่อบอกคนรอบข้าง ห้ามรับประทานอาหารทะเลหรือเห็ดใด ๆ ในญี่ปุ่น หลังจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดวัสดุกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เสียหายในญี่ปุ่นเริ่มไหลลงสู่มหาสมุทรหรือบริเวณโดยรอบและเริ่มถูกค้นพบ ❌อาหารทะเลและพืชที่มีรูปร่างผิดปกติ ❌เห็ดแปรรูป ❌ปลาเผา ❌อาหารทะเลแปรรูป อาหารที่สัมผัสกับสารกัมมันตภาพรังสีจะกระตุ้นภายใน 1-2 ปีหลังรับประทานอาหาร 🅾️มะเร็งหลอดอาหาร 🅾️มะเร็งต่อมน้ำเหลือง 🅾️มะเร็งเม็ดเลือดขาว ฯลฯ โดยเฉพาะเด็กเล็กและสตรีมีครรภ์จะส่งผลกระทบมากขึ้น ประเทศเพื่อนบ้านหยุดการค้าอาหารทะเลกับญี่ปุ่น: ห้ามนำเข้า📎แฮร์ริ่งหอยเห็ดหอมจากญี่ปุ่น กัมมันตภาพรังสีของปลาที่จับได้ในน่านน้ำใกล้ญี่ปุ่นถึง 380 เท่า จากนี้ไปไม่เคยกินอาหารทะเลญี่ปุ่นหรือซาซิมิ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สึนามิระเบิดนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นการสำรวจนักท่องเที่ยวชาวจีนในญี่ปุ่นที่เดินทางไปญี่ปุ่นและรับประทานอาหารญี่ปุ่นมาหลายครั้งพบว่ามีโรคแปลก ๆ ที่แตกต่างกันไปและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ! และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของญี่ปุ่นที่ปนเปื้อนจากนิวเคลียสกัมมันตภาพรังสีก็ถูกส่งไปยังนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ! ญี่ปุ่นกินอาหารนำเข้าจากประเทศอื่น! เพื่อนที่รักและเพื่อนร่วมชาติ เพื่อสุขภาพของคนที่คุณรักและคนรุ่นต่อไปโปรดแบ่งปันในพื้นที่ WeChat ของคุณและต่อต้านอาหารที่ปนเปื้อนนิวเคลียร์ทั้งหมดในญี่ปุ่นทันที อย่าซื้อ. จำไว้!
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ยาลดน้ำหนัก
    นักโภชนาการและสมุนไพรไทย นายไพบูลย์ ภูมิแสง การอดอาหาร การออกกำลังกาย การดูดไขมัน เหล่านี้เป็นวิธีหลักที่ใช้กำจัดน้ำหนักส่วนเกินที่นิยมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากจำนวนของผู้ที่เป็นโรคอ้วนที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น วิธีที่กล่าวมาข้างต้นคงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพดีสักเท่าใดนัก S Factor ได้กลายเป็น ผู้พลิกวงการ สูตรการรักษาที่ช่วยกระตุ้นการลดน้ำหนักอย่างเป็นธรรมชาติ นายไพบูลย์ ภูมิแสง ผู้อำนวยการศูนย์สมุนไพรศึกษาและนักโภชนาการอาวุโส ประสบการณ์ในสายอาชีพ 27 ปี S Factor คืออะไร? หากร่างกายของคุณขาดวิตามิน A คุณสามารถรับประทานผักบุ้งได้ หากร่างกายคุณขาดฟอสฟอรัส คุณสามารถรับประทานปลาได้ หากร่างกายคุณขาดวิตามิน C คุณสามารถรับประทานแบล็คเคอแรนต์ได้ เฉพาะ S Factor เท่านั้นที่มีสารอาหารที่ซึ่งสามารถเร่งให้เกิดการเผาผลาญมวลไขมันในร่างกายของมนุษย์ได้ โดยเฉพาะ บี-แครอทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ยอดเยี่ยม ที่ไม่เพียงแต่สามารถช่วยเผาผลาญไขมันได้เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยปรับระบบการทำงานของร่างกายทั้งหมดได้อีกด้วย S Factor ได้รับการทดสอบทางคลินิกแล้วว่าสามารถช่วยกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึมได้ ฟื้นฟูการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและลดความอยากอาหารได้ ผลิตภัณฑ์นี้เป็นออร์แกนิก 100% และสามารถช่วยกระตุ้นกระบวนการทำงานในร่างกายของมนุษย์ได้ ไม่จำเป็นต้องอดอาหารอย่างเข้มงวดเนื่องจากกระบวนการของระบบเมตาบอลิซึมทำงานได้ดีและเผาผลาญมวลไขมันได้ การรับประทานอาหารที่สมดุลสามารถส่งผลอย่างเพียงพอในการรักษาระดับการเผาผลาญของร่างกาย การออกกำลังกายที่หนักหน่วงก็ไม่จำเป็นด้วยเช่นเดียวกัน เพียงแค่ออกกำลังกายด้วยการยืดกล้ามเนื้อตามธรรมดาก็เพียงพอ คุณสมบัติหลักของ S Factor: - เผาผลาญไขมัน - ลดความอยากอาหาร - ปรับระบบต่อมไร้ท่อให้เป็นปกติ - ฟื้นฟูร่างกายและขับสารพิษออกจากร่างกาย - ปรับปรุงรูปร่างให้สมส่วนด้วยการเผาผลาญมวลไขมัน เนื่องจากมีระบบเมตาบอลิซึมที่เข้มข้น ไขมันใต้ผิวหนังในบริเวณที่มีปัญหาของคนที่ใช้ S Factor ก็จะถูกเผาผลาญได้ด้วยความเร็วถึง 0.5 กิโลกรัมต่อวัน! S Factor มีประสิทธิภาพสูงมาก แม้แต่ในเคสที่เกิดปัญหาน้ำหนักตัวเกินเนื่องมาจากความผิดปกติของฮอร์โมน หากคุณมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนแล้ว ผลิตภัณฑ์นี้คือคำตอบที่คุณต้องการ! อาหารเสริมนี้มีจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ แต่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักเพาะกายและครูฝึกเนื่องจาก มันช่วยกระตุ้นการลดน้ำหนักให้เร็วขึ้น และ รักษาสัดส่วนของไขมันให้อยู่ในระดับต่ำ ในร่างกายได้
    diazp121phoenix
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    "จิงจูฉ่าย" เป็นผัก มหัศจรรย์ สามารถใช้รักษามะเร็งได้ !
    "จิงจูฉ่าย" เป็นผัก มหัศจรรย์ สามารถใช้รักษามะเร็งได้ ! ———————————— “ผม..นิกกี้ อิทธิเกษม KU37 อดีตนายกสมาคมม.เกษตรฯแห่งอเมริกา จะขอเล่าประสบการณ์ที่เคยสัมผัสมากับตัวเองเมื่อปี 2007 เพื่อเป็นcaseตัวอย่างและเป็นทางออกให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้งหลาย        ผมมีร้านอาหารอยู่ในเขต N.Hooywood วันหนึ่งกลางปี 2007 ผมได้มีโอกาสเจอลูกศิษย์เก่าที่เคยมาเรียนแจกไพ่ที่ร้าน ถามทุกข์สุขกันไปมา ถึงได้รู้ว่าเขาเคยเป็นมะเร็งที่คอ 1 ครั้ง,มะเร็งที่ต่อมลูกหมาก 1 ครั้ง ปัจจุบันหายเป็นปลิดทิ้ง รวมทั้งพี่น้องญาติอีก8คนที่เป็นมะเร็งภายในเวลา5 ปี ทุกคนหายหมด ผมจึงเกิดความกระตือรือร้นที่จะถามว่า มีวิธีรักษากันอย่างไร?  วันนั้นคุณแม่เขามาด้วยจึงอธิบายให้ฟังว่า "ฉันมีต้นจิงจูฉ่ายอยู่ในสวนหลังบ้านเยอะ ปกติก็จะใส่ในแกงจืดให้ลูกๆกินเป็นประจำ เพราะคนจีนบอกต่อๆกันมาถึงสรรพคุณช่วยฟอกเลือดและขับสารพิษออกจากร่างกายทำ ให้ลูกๆไม่ค่อยเป็นอะไร วันหนึ่งลูกฉันไปตรวจหมอกลับมา บอกว่าเป็นมะเร็ง อีก 2 เดือนต้องไปฉายแสง ฉันจึงลองเอาจิงจูฉ่าย1กำมือมาตำ จะได้น้ำออกมาแก้ว(เล็ก)หนึ่ง ให้เขากินตอนเช้าทุกวัน 2 เดือน ถัดมาไปตรวจหมอ หมอถามไปทำอะไรมา ทุกอย่างปกติหมด มะเร็งได้หายไปแล้ว"         หลังจากคุยกันพักหนึ่ง ผมก็ได้ข้อสรุปออกมาว่า คน8คนเป็นมะเร็งในที่ต่างกัน กินน้ำจิงจูฮวยฉ่าย 2-3 เดือน ทุกคนหายหมด(ไม่มีใครต้องทำคีโมเลย) ผมจึงเกิดความเชื่อถือขึ้นมาระดับหนึ่ง         ก่อนหน้านั้น พี่สะใภ้ผม 2 คน (ปี2006) เป็นมะเร็งที่เต้านม,มดลูก คนหนึ่งต้องทำคีโม ใช้วิธี"นั่งสมาธิ"ทุกวัน 8 เดือน หายเป็นปกติ         ต่อมาผมได้ต้นจิงจูฉ่ายมา1 ต้น จากคุณแม่ของลูกศิษย์ จึงรีบนำมาเพาะขยาย ปลายปี 2008 ผมได้รู้ว่าแม่ค้าที่เช่าที่ในร้านผมคนหนึ่งเป็นมะเร็งเต้านมขั้น 3 หน้าคล้ำ เดินตัวแข็งแล้ว ผมรีบเชิญมานั่งคุยเล่าเรื่องจิงจูฉ่ายให้ฟังและเรื่องพี่สะใภ้นั่งสมาธิ ก็เลยแนะนำให้ทำ 2 อย่างควบคู่กันไป เชื่อไหมว่า 3 เดือนถัดไป หายเป็นปลิดทิ้ง (ผมให้เขาไปเพียง1ต้นไปปลูกและ เด็ดใบทานเลยวันละ1ใบ เพราะมีน้อย ก็ยังได้ผล)         ปี 2009 ผมมีต้นจิงจูฉ่ายมากขึ้นและแจกจ่ายให้กับคนรู้จักหลายคน ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่าง 3 เดือน ทุกคนอาการดีขึ้นหมด ถ้าเราอยากช่วยผู้ที่เรารักและห่วงใยซึ่งกำลังเผชิญกับโรคร้ายนี้ ผมแนะนำวิธีนี้ ถ้าคุณต้องทำคีโมก็ทำไป กินใบจิงจูฉ่ายและนั่งสมาธิผมว่าคุณมีโอกาสหาย         ผมพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าผักชนิดนี้ แพมย์จีนโบราณเรียกว่า"ยาเย็น"เป็น"หยิน"ช่วยฟอกเลือด,ขับสารพิษ..ฆ่าเชื้อ ไวรัสทุกชนิด.. เพื่อนku37 คนหนึ่งลองให้ลูกกิน เนื้องอกที่คอก็ยุบลง      เนื่องจากที่ LA.เรามีน้อยมาก ถ้าเกิดใครต้องการมากๆ (จริงๆต้องทานวันละ1กำ )ลองคุยกับคุณน้อยที่สวนคุณน้อย จ.เชียงใหม่ เขาขายกก.ละ 35 บาท     ใครเป็นมะเร็งลองดูซิครับ ทานแล้วยังไงก็ไม่มีผลข้างเคียง แต่ คุณมีโอกาสหายครับ. ใครที่เคยสั่ง "เกาเหลาเลือดหมู" มาทาน เคยสงสัยกันไหมว่า ในชามเกาเหลาของเราจะมีผักสีเขียวชนิดหนึ่ง ที่ไม่ใช่ผักกาดหอม ขึ้นฉ่าย หรือใบตำลึงใส่ชามมาด้วย หลายคนไม่ทราบว่าเจ้าผักชนิดนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร แล้วมีสรรพคุณอย่างไร เอ้า...ใครที่ไม่รู้ ตามกระปุกดอทคอมมาเลยค่ะ          เจ้าผักชนิดนี้เรียกว่า "จิงจูฉ่าย" ค่ะ หรือที่ชาวต่างชาติเรียกว่า "เซเลอรี่" (Celery) เป็นผักสมุนไพรชนิดหนึ่งของจีน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Apium graveolens L. ลักษณะต้น "จิงจูฉ่าย" จะเป็นกอคล้ายใบบัวบก สามารถเจริญงอกงามได้ดีในที่ที่มีแสงแดดรำไร ชื้น ดินโปร่งแต่ไม่แฉะ ชอบอากาศเย็นมากกว่าอากาศร้อน  คุณค่าทางโภชนาการของ "จิงจูฉ่าย" มีไม่น้อยทีเดียวค่ะ เพราะ "จิงจูฉ่าย" 100 กรัม ให้พลังงาน 392 กิโลแคลอรี ประกอบด้วยสารอาหารนานาชนิด คือ โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, เส้นใย, แคลเซียม, เหล็ก, ฟอสฟอรัส, วิตามินเอ, วิตามินบี6, วิตามินซี และวิตามินอี          มาที่สรรพคุณทางยากันบ้างดีกว่า จุดเด่นของ "จิงจูฉ่าย" คือมีกลิ่นหอม คล้าย ๆ กับตั้งโอ๋ ยิ่งโดนความร้อนจะยิ่งหอม และยิ่งเพิ่มสรรพคุณมากขึ้น โดยกลิ่นหอมของ "จิงจูฉ่าย" มาจากน้ำมันหอมระเหยที่มีอยู่ในลำต้นและใบนั่นเอง ประกอบด้วยสารไลโมนีน ซิลนีน และสารกลัยโคไซด์ที่มีชื่อว่า อะปิอิน ซึ่ง สารเหล่านี้มีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดัน แถมยังช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ด้วย ส่วนต้นสด และเมล็ดของ "จิงจูฉ่าย" มีโซเดียมต่ำ จึงดีต่อผู้ป่วยโรคไต           นอกจากนี้ ในทางการแพทย์เชื่อว่า "จิงจูฉ่าย" เป็นยาเย็น จึงช่วยบำรุงปอด ช่วยฟอกเลือด เลือดลมหมุนเวียนได้สะดวก คนจีนจึงนิยมนำผักชนิดนี้มาปรุงเป็นอาหารรับประทานในหน้าหนาว เพื่อช่วยในเรื่องการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลให้ร่างกายได้ดีนั่นเอง  ส่วนที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมเราจึงมักเห็น "จิงจูฉ่าย" อยู่ในเกาเหลาเลือดหมู นั่นก็เพราะ "จิงจูฉ่าย" มีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นคาวเลือดได้ดีด้วยค่ะ แต่จริง ๆ แล้ว "จิงจูฉ่าย" ไม่ได้ใช้ทำอาหารได้เพียงแค่ต้มเลือดหมูเท่านั้นนะ เพราะอาหารประเภทแกงจืดทั้งหลาย หรือผัดผัก ผัดฉ่าก็สามารถใช้ "จิงจูฉ่าย" เป็นส่วนผสมที่ลงตัวน่ารับประทานไม่แพ้กันจิงจูฉ่าย  ในรูปแบบชา  คัดวัตถุดิบใบจิงจูฉ่ายคุณภาพ  ปลอดสาร ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน สะอาดปลอดภัย ไม่มีสารปนเปื้อน รสชาติหอมหวานไม่ขม ดื่มง่าย โดยกระบวนการหมัก นวดอย่างพิถีพิถัน และอบด้วยไฟอ่อนเพื่อให้คงคุณค่าทางโภชนาการ และสรรพคุณทางยา  ชาจิงจูฉ่ายจึงมีประโยชน์มากมาย  และเนื่องจากเป็๋นสมุนไพรจึงไม่มีผลข้างเคียง ในกรณีที่บริโภคเป็นปริมาณมากอยกได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากเพื่อนในเวปค่ะLiked By: PinKen มะเร็งระยะสุดท้าย 2 ปี ไม่เข้ารับรักษา ค่ามะเร็งล…: https://youtu.be/uITAm2Gi5mQ
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อย่าเชื่อ! รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย
    กรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800
    std46556
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    น้ำแข็งยูนิตใส่ฟอร์มาลิน
    ยุโรปไม่มีน้ำแข็งขายเพราะเป็นเมืองหนาว ไปญี่ปุ่น จีน ตะวันออกกลางไม่มีน้ำแข็งขาย ##ลองมาฟังข้อมูลนี้แล้วคิดเองน่ะครับ กลุ่มสมาคมฯส่งมาให้อ่าน ทำไมคนไทยถึงตายด้วยโรคมะเร็ง. อันดับ1 พึ่งจะรู้ว่าน้ำแข็ง ยูนิค...ที่กินกัน ผสม"ฟอร์มาลีน" เพื่อไม่ให้ น้ำแข็ง ละลายเร็วในน้ำก็มีคลอรีน วันๆ คนไทยกิน ความตายเพิ่มเข้า ไปทุกวัน ตื่นมาหิวน้ำก็กิน น้ำประปาใส่ คลอรีน สายๆมาร้อนๆ ก็กินน้ำแข็งใส่ ฟอร์มาลิน ถ้าไม่ใส่เขาบอกว่าน้ำแข็งจะแข็งตัวช้า แถมละลายเร็ว วันหนึ่งๆ เราเอา ไอ้ตัวอันตรายเข้า ไปในร่างกาย อย่างน้อย 2 ตัวนี้ อื่นๆอีก นับไม่ถ้วน ถึงบางอ้อว่า ทำไม คนไทยจึงเป็น มะเร็ง อันดับ 1 ของโลก เรื่องนี้จริง ฝรั่งที่มา เที่ยวภูเก็ตเขาจะ ไม่กินน้ำแข็งหลอดบ้านเราเลย ถามเขา ได้คำตอบ ตรงกันว่าใส่สาร ฟอร์มาลิน เรื่องจริงๆแชร์กันมากๆ ผู้ใหญ่นะ ไม่ทัน แล้ว แต่สงสาร ลูกๆ หลาน ช่วยกันหน่อย คิดว่าเอาบุญ
    Hiiiii
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 7 คนสงสัย
    อย่าเชื่อ! รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย
    กรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้
    std46777
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    Dr. กัป บอกว่า ไม่มีใคร?? ตายเพราะมะเร็ง ยกเว้นความสะเพร่า : 1. ขั้นตอนแรกคือ การหยุดน้ำตาลทั้งหมด >> ถ้าไม่มีน้ำตาล ในร่างกายของคุณ >> เซลล์มะเร็ง ก็จะตาย อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ผสมผลไม้ มะนาว ทั้งหมด กับน้ำร้อนสักแก้ว แล้วดื่มมัน ประมาณ 3 เดือน #มะเร็งจะแพ้ การวิจัย โดยวิทยาลัย maryland ของยาบอกว่า #มันดีกว่าการรักษาด้วยคีโม 3. ขั้นตอนที่ 3 คือ การดื่มน้ำมันมะพร้าวอินทรีย์ 3 ช้อน เช้าและกลางคืน >> มะเร็งจะหายไป คุณสามารถเลือก 1 ใน 2 การรักษานี้ หลังจาก หลีกเลี่ยงน้ำตาล ความไม่รู้ ไม่ใช่ข้ออ้าง ; ฉันได้แชร์ข้อมูลนี้ มานานกว่า 5 ปี บางทีตอนนี้ เพิ่งมาถึงคุณ แต่มันยังช้ากว่าไม่เคยให้ทุกคนรอบตัวคุณรู้ " ดร. guruprasad reddy b v รัฐการแพทย์ ของมหาวิทยาลัยมอสโก ประเทศรัสเซีย อ้อนวอนทุกคน ที่ได้รับข้อมูลนี้ เพื่อส่งต่อ ให้กับอีก 10 คน >> แน่นอน!! อย่างน้อย 1 ชีวิต จะได้รับการบันทึกไว้ ^^ 🙋ฉันได้ทำส่วนของฉัน แล้วหวังว่า คุณจะสามารถช่วยได้ โดยการทำส่วนของคุณ ขอบคุณ 🙏 1. การดื่มน้ำมะนาว สามารถป้องกันมะเร็งได้ แต่จำไว้ว่า อย่า!! เพิ่มน้ำตาล >> น้ำมะนาวร้อน มีประโยชน์กว่า น้ำมะนาวเย็นๆ 2. หั่นเป็นแพ 5 ชิ้น แล้วแช่ด้วยน้ำร้อนสักแก้ว 30 นาที แล้วดื่ม 3. มันสำปะหลังสด แต่ต้องต้มด้วย เปิดหม้อวิตามิน b17 อยู่บนมันสำปะหลัง ที่สามารถปิดเซลล์มะเร็งได้ 🌿>> บ่อยครั้ง มื้อเย็นสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ ของมะเร็งลำไส้ : มะเร็งกระเพาะอาหาร 🌿>> อย่า!! ดื่มชา ในช่วงประจำเดือน 🌿>> ลดการดื่มนมถั่วเหลือง ไม่ควรเพิ่มน้ำตาล หรือไข่ ในนมถั่วเหลือง 👉>> ไม่กินมะเขือเทศ ตอนท้องว่าง 👉>> ดื่มน้ำเปล่าสักแก้ว ทุกเช้า ก่อนอาหาร เพื่อป้องกันนิ่ว 💥>> งด!! อาหาร 3 ชั่วโมง ก่อนนอน 💥>> หลีกเลี่ยงสุรา เพราะไม่มีประสิทธิภาพ ทางโภชนาการ แต่สามารถทำให้เกิดโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ ‼️>> อย่า!! กินขนมปัง ในขณะที่มันร้อนจาก เตาอบ หรือเครื่องปิ้งขนมปัง ‼️>> ไม่ชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ?? ที่อยู่ข้างๆคุณ ในขณะที่คุณหลับ 🙋>> ดื่มน้ำเปล่า 10 แก้ว ทุกวัน : ป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ 🙋>> ดื่มน้ำเพิ่ม ระหว่างวัน ลดตอนกลางคืน 🔥>> อย่า!! ดื่มกาแฟ มากกว่า 2 แก้วต่อวัน เพราะมันสามารถทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และกระเพาะอาหารได้ 🔥>> กินอาหารที่เลี่ยนเล็กน้อย หรือหลีกเลี่ยงมัน เพราะใช้เวลา 5-7 ชั่วโมง ในการย่อย ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย ✨>> หลัง 5 โมงเย็น กินให้น้อยลง ✨>> อาหาร 6 ชนิด ที่ทำให้คุณมีความสุข : กล้วย, ส้มบาหลี, ผักโขม, ฟักทอง, พีช 😭>> นอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้มีการทำงานของสมองเสื่อมสภาพ .. พยายามพักผ่อน เพราะจะทำให้เราเด็กลง 🥰#น้ำมะนาวที่ไม่มีน้ำตาลสามารถดูแลสุขภาพของคุณและทำให้คุณรู้สึกสดชื่น 📌 #น้ำมะนาวร้อนฆ่าเซลล์มะเร็ง >> แช่มะนาวชิ้นเท่าๆกัน 3 ชิ้นกับน้ำร้อน ดื่มเป็นประจำทุกวัน .. anti-oxsidan #รสชาติขมในน้ำมะนาวร้อนเป็นสารที่ดีที่สุดในการฆ่าเซลล์มะเร็ง #น้ำมะนาวเย็นประกอบด้วยวิตามินซีเท่านั้นซึ่งมันไม่ช่วยป้องกันมะเร็ง #น้ำมะนาวร้อนสามารถควบคุมการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งได้ การทดสอบทางคลินิก ได้พิสูจน์แล้วว่า น้ำมะนาวร้อน ทำงานได้ดี เพื่อยับยั้งเซลล์มะเร็ง การรักษาด้วยน้ำมะนาว(ร้อน) จะทำลายเซลล์ที่ชั่วร้าย เท่านั้น แต่ไม่มีผลต่อเซลล์ที่ดี ต่อไป .. กรด citric และมะนาว polyphenol ในน้ำมะนาว ช่วยลดความดันสูง การป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และป้องกันการแข็งตัวของเลือด ไม่ว่า คุณจะยุ่งแค่ไหน?? โปรดหาเวลาอ่านสิ่งนี้ แล้วบอกให้คนอื่นกระจายความรัก❤️ให้กับคนอื่นๆด้วย * ความสวยงาม ของการแบ่งปัน * Cr.อ่านเจอแล้วนำมาฝาก #ขอบคุณเจ้าของบทความ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย
    กรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย
    std47983
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ผลงานวิจัยเกิดโรคมะเร็งของรัสเซีย ----- รัสเซียทำอะไรชอบเปิดเผยให้โลกรู้ทุกอย่างไม่เหมือนอเมริกาที่รู้อะไรเก็บเป็นความลับหมด แล้วมนุษย์บนโลกใบนี้จะเชื่อว่าระบอบการปกครองแบบไหนดีที่สุดของมนุษยชาติ หรือถูกอเมริกาหลอกมาตลอดว่าระบอบเขาดีสุด หรือระบอบรัสเซีย-จีนดีสุดกันแน่ ในท้ายสุดมนุษย์รุ่นต่อๆไปจะอยู่กับระบอบไหนถึงจะมีชีวิตรอดยาวนาน ไม่ใช่ผลาญทรัพย์กรธรรมชาติโลกที่ว่ายุโรปและอเมริกาผลาญจนประเทศตัวเองไม่มีอะไรเหลือ แล้วไปปล้นคนอื่นกินเข้าประเทศตัวเอง คนที่เป็นมะเร็งเสียชีวิตเพราะอะไร ผลงานวิจัยฯ ของรัสเซีย อ้างว่าเหตุผลการเสียชีวิตมิได้เกิดจากมะเร็ง ยกเว้นความสะเพร่าของผู้ป่วย เมื่อผู้ป่วยทราบว่ามีเซลล์มะเร็ง ให้รีบปฏิบัติ 1. ขั้นตอนแรกคือ การหยุดน้ำตาลทั้งหมด ถ้าไม่มีน้ำตาล ในร่างกายของคุณจำนวนมาก เซลล์มะเร็ง ก็จะตาย อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ผสมผลไม้ มะนาว ทั้งหมด กับน้ำร้อนสักแก้ว แล้วดื่มมัน ประมาณ 3 เดือน เซลล์มะเร็งจะแพ้ การปฏิบัติดังกล่าวดีกว่าการรักษาด้วยคีโม 3. ขั้นตอนที่ 3 คือ การดื่มน้ำมันมะพร้าว อินทรีย์ 3 ช้อนโต๊ะ เช้าและกลางคืน เซลล์มะเร็งจะค่อยๆ หายไป ท่านสามารถเลือก 1 ใน 2 วิธีนี้ หลังจากหลีกเลี่ยงน้ำตาล ที่ผ่านมา ความไม่รู้ ไม่ใช่ความผิด ข้อมูลนี้เผยแพร่มานานกว่า 5 ปี ซึ่งปัจจุบันนี้ เพิ่งมาถึงคุณ แต่ที่สำคัญที่สุด มันยังช้ากว่าการที่คุณไม่เคยให้ข้อมูลนี้กับทุกคนรอบตัวคุณเพื่อได้รู้เห็นงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมอสโก รัสเซีย ผมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงขอให้ทุกท่านที่ได้รับข้อมูลนี้ กรุณาส่งต่อบทความนี้ให้กับคน ที่ท่านรักอีก 1 คน ผมเชื่อว่าแน่นอน! อย่างน้อย 1 ชีวิต จะได้รับประโยชน์ และจะบันทึกไว้ ส่วน ผมได้ทำในส่วนของผมแล้ว หวังว่าท่านจะสามารถช่วยเผยแพร่ โดยการทำส่วนของคุณ กล่าวคือ 1. การดื่มน้ำมะนาว สามารถป้องกันมะเร็งได้ แต่จำไว้ว่า อย่าผสมน้ำตาล น้ำมะนาวร้อน มีประโยชน์กว่า น้ำมะนาวเย็นๆ 2. หั่นเป็นแว่น 5 ชิ้น แล้วแช่ด้วยน้ำร้อนสักแก้วทิ้งไว้ 20- 30 นาที แล้วค่อยดื่ม 3. มันสำปะหลัง นำไปต้ม แต่ต้องต้มด้วย เปิดฝาหม้อวิตามิน B 17 อยู่ในมันสำปะหลัง ที่สามารถปิดเซลล์มะเร็งได้ บ่อยครั้ง การกินมื้อเย็นสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ ของมะเร็งลำไส้ - มะเร็งกระเพาะอาหาร - ผู้หญิง อย่าดื่มชาในช่วงมีรอบเดือน และ การดื่มน้ำถั่วเหลือง นั้น ไม่ควรเพิ่มน้ำตาล หรือไข่ ในน้ำถั่วเหลือง ไม่กินมะเขือเทศ ตอนท้องว่าง ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ทุกเช้า ก่อนอาหาร เพื่อป้องกันนิ่ว ไม่กินอาหารในช่วง 3 ชั่วโมง ก่อนนอน หลีกเลี่ยงสุรา เพราะไม่มีประสิทธิภาพ ทางโภชนาการ แต่สามารถทำให้เกิดโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ อย่ากินขนมปัง ในขณะที่ร้อนจาก เตาอบ หรือเครื่องปิ้งขนมปัง ไม่ชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ ที่อยู่ข้างๆ ตัวคุณ ในขณะที่คุณหลับ ดื่มน้ำเปล่าวันละ 10 แก้ว ป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ ให้ดื่มน้ำต่อเนื่องระหว่างวัน ลดช่วงกลางคืน และ อย่าดื่มกาแฟ มากกว่า 2 แก้วต่อวัน เพราะมันสามารถทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และมีปัญหาต่อกระเพาะอาหารได้ กินอาหารที่เลี่ยนได้เล็กน้อย หรือหลีกเลี่ยงมัน เพราะต้องใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงในการย่อย ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย หลัง 17:00 น.กินอาหารให้น้อยลง ประการสำคัญอาหาร 6 ชนิด ที่ทำให้คุณมีความสุข ได้แก่ กล้วย, ส้มบาหลี, ผักโขม, ฟักทอง, ลูกพีช อนึ่ง การนอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้มีการทำงานของสมองเสื่อมสภาพ พยายามนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะจะทำให้เราอ่อนกว่าวัย อย่าลืม น้ำมะนาวที่ไม่มีน้ำตาล สามารถดูแลสุขภาพของคุณและทำให้คุณรู้สึกสดชื่น น้ำมะนาวร้อนฆ่าเซลล์มะเร็ง แช่มะนาวชิ้นเท่าๆกัน 5 ชิ้นกับน้ำร้อน ดื่มเป็นประจำทุกวัน anti-oxsidan รสชาติขมในน้ำมะนาวร้อนเป็นสารที่ดีที่สุดในการฆ่าเซลล์มะเร็ง น้ำมะนาวเย็นประกอบด้วยวิตามินซีเท่านั้น ซึ่งไม่ช่วยป้องกันมะเร็ง น้ำมะนาวร้อนสามารถควบคุมการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งได้ การทดสอบทางคลินิก พิสูจน์แล้วว่า น้ำมะนาวร้อน ทำงานได้ดี เพื่อยับยั้งเซลล์มะเร็ง การรักษาด้วยน้ำมะนาวร้อน จะทำลายเซลล์ที่ชั่วร้าย เท่านั้น แต่ไม่มีผลกระทบต่อเซลล์ที่ดี กรด citric และมะนาว polyphenol ในน้ำมะนาว ช่วยลดความดันสูง และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และป้องกันการแข็งตัวของเลือด ถึงแม้ คุณจะยุ่งแค่ไหน เมื่ออ่านข้อความนี้ของผมแล้ว ช่วยถ่ายทอดให้ผู้อื่นด้วยครับ❤ การแบ่งปัน ถือเป็นวิทยาทาน ด้วยความปรารถนาดี ผศ.ดร.ศ.สำเร็จผล #มะเร็ง #โรคมะเร็ง #มะเร็งหายได้
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 เดือนที่แล้ว
    meter: false