1 คนสงสัย
แผ่นดีท็อกซ์เท้า สรรพคุณมากมาย
admin
 •  5 ปีที่แล้ว
meter: false
1 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
admin เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

"อย่าหลงเชื่อ แผ่นดีท็อกซ์เท้า โฆษณาเกินจริง"มีการโฆษณาขาย "แผ่นดีท็อกซ์เท้า" อ้างสารพัดคุณวิเศษ ว่า ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิต ช่วยกระ

ที่มา

https://oryor.com/อย/detail/media_specif⋯KrO9GyJTY4GKT2jEXddM4U5NbZ2kaz32sPjAxNO0

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    รายงานต่างประเทศพบว่า อาการเริ่มแรกของโควิดทำให้นิ้วเท้าอักเสบ จริงหรือไม่
    อาการที่สังเกตได้ของโควิด นอกจากอาการไข้ ไอแห้ง หรือบางทีมีน้ำมูก บางทีมีอาการแน่นหน้าอก แต่ในต่างประเทศมีรายงานว่านิ้วเท้าจะอักเสบเป็นสีม่วง อาการคล้ายหิมะกัดเท้า เจ็บแสบ เป็นอาการที่สังเกตได้เบื้องต้นของโควิด จริงหรือคะ
    anonymous
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ ให้ร่วมบุญช่วยช้าง มีการแนบเลขบัญชี เป็นเรื่องจริงหรือไม่
    21-4-64 พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ พระครูอ๊อด เป็นเจ้าภาพ 200,000 บาท #ไม่รู้ว่าจะช่วยเจ้าได้หรือไม่ #ครั้งหนึ่งในชีวิตไถ่ชีวิตช้าง #ฝากบุญใหญ่ให้ญาติธรรมทั้งหลาย #วันนี้ไปดูช้างเห็นแล้วสงสารอยากจะไถ่ชีวิตช้างเชือกนี้มาก เหมือนเขาอยากให้เราช่วยปลดโซ่พันธนาการออกจากเท้าให้ สังเกตุเห็นเอางวงจับที่โซ่หลายครั้ง เลยถามเจ้าของเขาก็อยากจะขาย เลี้ยงไม่ไหวเพราะพิษโควิด #หากไถ่ชีวิตช้างเชือกนี้ได้คงจะเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ และจะขอน้อมถวายให้เป็นมรดกแห่งความเมตตาเป็นพุทธบูชาในวันวิสาขบูชา (วันพุธที่ 26 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้) และจะมอบช้างเชือกนี้ ให้เป็นมรดกของแผ่นดินเพื่ออนุรักษ์ ต่อไป ช้างอายุแค่ 8 ปี ราคา 1,180,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนแปดหมื่นบาท) #วันนี้เลยตัดสินใจ รวบรวมปัจจัยที่โยมถวายพระครูอ๊อดมา จากการเทศน์ การบรรยาย งานสวด และ การสอนหนังสือ มาเททำบุญไถ่ชีวิตให้เจ้าทั้งหมดเลยนะ จำนวน 200,000 บาท #ใจอยากทำก็ทำ ทำแล้วสุขใจพระครูอ๊อดไม่คิดอะไรมาก #แค่อยากให้โยมที่ถวายปัจจัยพระครูอ๊อดมาได้บุญมากๆ แอบตั้งชื่อช้างเชือกนี้ไว้ในใจว่า #เจ้าพลแสน (วาสนาพระครูอ๊อดยังน้อย ไม่รู้จะช่วยเจ้าได้แค่ไหนนะ) #ร่วมบุญได้ที่ "ธ.กรุงไทย 540-0-18694-7" #สอบถามราละเอียดได้ที่ 0808500184 พระครูสังฆรักษ์วีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน (พระครูอ๊อด) วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ ร่วมบุญได้ไม่เกินวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นี้ (วันที่ 26 พฤษภาคม คือ วันวิสาขาบูชา) #อานิสงส์ช่วยเหลือชีวิตเป็นทาน 1. เป็นผู้ต่อชีวิต ย่อมได้ชีวิตที่ยืนยาว ปลอดภัย มีความสุข และตราบใด ที่ยังไม่สิ้นอายุขัยบุคคลนั้น จะไม่มีกรรมใดๆมาตัดรอนได้ 2. สัตว์ที่พ้นจากที่คุมขังแล้ว อยู่ด้วยความปลอดภัยย่อมดีใจ ปลาบปลื้มใจ ฉันใด บุคคลผู้ให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน ก็ย่อมได้รับความปลาบปลื้มใจฉันนั้น 3. ผู้ไห้ชีวิตสัตว์เป็นทานอยู่เป็นนิจ เขาเหล่านี้ย่อมพบแต่มิตร ปราศจากศัตรูมาแผ้วพาน 4.การช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากที่คุมขัง และอันตราย ย่อมส่งผลให้สามารถหลุดพ้น จากเครื่องพันธนาการน้อยใหญ่ ทั้งหลาย #ขออานิสงส์แห่งบุญใหญ่ครั้งนี้จงเกิดแก่ญาติธรรมทุกท่านและครอบครัวอย่างมหาศาล 1 แชร์ 1 บุญใหญ่
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือ ใช้เปลือกแตงกวา เปลือกหัวไชเท้า เปลือกมะเขือเทศ และสารส้ม มาผสมกันแล้วทาบริเวณที่เป็นฝ้า รักษาฝ้าที่ใบหน้าได้
    มีการแจกสูตรผ่านเฟซบุค โลชั่นผักรักษาฝ้า หน้าใครเป็นฝ้า จุดด่างดำ รอยกระ เพียงใช้เปลือกแตงกวา เปลือกหัวไชเท้า เปลือกมะเขือเทศ และสารส้ม มาผสมกันแล้วทาบริเวณที่เป็นฝ้า ใช้ทาบำรุง จะช่วยลดฝ้ากระจุดด่างดำ
    naydoitall
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    โรค ฉี่หนูระบาดที่สงขลาจริงหรือคะ
    โรคเลปโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนูที่มักจะระบาดในช่วงฤดูฝนกำลังระบาดที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่สงขลาในขณะนี้ เตือนประชาชนที่ย่ำโคลน น้ำขังด้วยเท้าเปล่าเสี่ยงติดโรคทางบาดแผลหรือรอยถลอกที่เท้า อาการคือปวดศีรษะ มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณน่องให้รีบพบแพทย์จริงหรือคะ
    anonymous
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อ่านหน่อยนะ เตรียมตัวไว้นะ คนเยอะแยะบอกเราว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ติดไวรัสโคโรน่า แต่ไม่ยักมีใครสักคนบอกว่า ถ้าเกิดติดไวรัสแล้ว จะต้องทำอย่างไร ขอบคุณนะ คุณพยาบาลในจักรภพอังกฤษที่รวบรวมคำแนะนำนี้ให้เรา นี่เป็นคำแนะนำที่มีเหตุผลบางประการ จากพยาบาลทั่วไปในอังกฤษ นี่เป็นสิ่งที่ดิฉันเจอคำแนะนำว่า แรกที่สุดต้องทำอย่างไร จึงจะหลีกพ้นจากการติดไวรัส: • ล้างมือให้สะอาดหมดจด รักษาอนามัยร่างกาย อยู่ห่างๆ​ ผู้คน แต่ที่ดิฉันไม่เคยเห็นเลย คือ คำแนะนำว่า ถ้าเกิดติดไวรัสขึ้นมาจริงๆ​ จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ซึ่งนี่อาจจะเกิดขึ้นกับพวกเราได้นะ ดังนั้น ในฐานะเป็นพยาบาลเพื่อนใกล้บ้าน ดิฉันขอให้คำแนะนำบางประการ: ถ้าคุณ เกิดติดเชื้อ โควิด-19 ขึ้นมา คุณต้องรู้จักเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อน คล้ายๆกับว่า คุณรู้แล้วว่าคุณโดนไอ้เจ้าเชื้อทางเดินลมหายใจเล่นงานเข้าแล้ว เช่น เป็นมีภาวะหลอดลมอักเสบ หรือ ภาวะปอดบวม คุณต้องนึกไว้นะว่าอาการเหล่านี้จะเกิดกับตัวคุณ คุณต้องเริ่มทำสิ่งต่อไปนี้เดี๋ยวนี้เลย : ให้แสงแดดชะโลมทั่วตัววันละ 20 นาทีทุกวัน (หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้) แสงแดดจะเพิ่มระดับไวตามิน D ให้คุณมากมาย นี่จะไปเสริมความสามารถของภูมิคุ้มกันของตัวคุณ ถ้ามีกำลังทรัพย์ ให้กินอาหารเสริมดีๆ ร่วมกับไวตามิน C 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน รวมทั้ง สังกะสี ซิลิเนียม และ สารกลูทาไธโอน น้ำมันตับปลายี่ห้อ Scott’s Emulsion ก็เป็นอาหารบำรุงชั้นดีทีเดียว (น้ำมันตับปลาค้อด) สิ่งที่คุณจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าเข้าไว้ก่อน คือ: *กระดาษ Kleenex* *ยาพาราเซตามอล Paracetamol* *ยาแก้ไอ ตามที่ชอบ (ให้ดูฉลากยาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่า ยาแก้ไอจะไม่มียาพาราเซตามอลไปเพิ่มอีก) *ยาอมผสมสังกะสี *สะเปรย์พ่นคอ เช่น Andolex หรือ TCP *น้ำผึ้งกับมะนาวก็ได้นะ ดีทีเดียวละ​ ! ยาหม่อง Vicks* vaporub ก็ดีนะ คนใช้กันเยอะ *เครื่องลดความชื้น ก็ควรจะซื้อมาใช้ในห้องที่คุณจะนอนทั้งคืน (คุณอาจจะใช้วิธีอาบน้ำอุ่นจากฝักบัว และนั่งในห้องน้ำ หายใจเอาไอน้ำเข้าตัวก็ได้นะ) ถ้าคุณเคยเป็นหอบหืด และหมอเคยจ่ายยาพ่นให้ ต้องแน่ใจนะว่า มันยังไม่หมดอายุ ให้หายาพ่นมาสำรองไว้นะ *อาหารการกิน* นี่เป็นเวลาเหมาะแก่การทำอาหารดีๆกิน ให้ทำซุบไว้เยอะๆเลย ใส่ตู้เย็นเอาไว้ พร้อมทุกเมื่อ *น้ำ น้ำ น้ำ* ตุนไว้เลยนะ ของเหลวใสๆที่คุณชอบนั่นแหละ เอาไว้ดื่มกิน น้ำประปาก็น่าจะดีนะ บางครั้งบางคราวคุณอาจนะต้องใช้ *การจัดการกับอาการที่เกิดขึ้น เมื่อมีไข้สูงกว่า 38°c ให้กินยา Paracetamol จะดีกว่ายา Ibuprofen. *พักผ่อนเยอะๆ * คุณไม่ควรออกจากบ้านนะ​ ! ถึงแม้ว่าคุณรู้สึกดีขึ้น ไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ก็อาจจะมีเชื้อไวรัสอยู่กับตัวไปตั้ง 14 วัน ดังนั้น คนแก่กับคนที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว อย่าไปใกล้เขานะ *ใส่ถุงมือและหน้ากากอนามัย* เพื่อป้องกันไม่ให้กระจายเชื้อไปให้คนอื่นในบ้านของคุณเอง *กักตัว* ในห้องนอน ถ้าคุณไม่ได้อยู่แต่ลำพัง ให้บอกเพื่อนและคนในครอบครัวให้ วางสิ่งที่จะส่งให้คุณไว้ภายนอก เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสติดต่อ *ทำความสะอาด* ซักผ้าปูที่นอน เสื้อผ้าบ่อยๆ และล้างห้องน้ำด้วยน้ำยาทำความสะอาดด้วย *คุณไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล เว้นไว้แต่ว่า คุณกำลังหายใจลำบาก หรือมีไข้สูงมาก(มากกว่า 39°C) แล้ว ใช้หยูกยาต่างๆ​ ไม่ได้ผล กับผู้ใหญ่ ที่มีสุขภาพดีแล้ว 90% สามารถดูแลได้ที่บ้าน โดยการพักผ่อน ดื่มน้ำ กินยาที่หาซื้อได้จากร้านขายยา ถ้าคุณกังวล หรือไม่สบายใจ​ รู้สึกว่า ตัวเองอาการจะหนักขึ้น *ความเสี่ยงที่มีอยู่แล้ว* ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพปอด (เช่น​ หายใจติดขัด ถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด) หรือกำลังได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ต้องคุยกับหมอแล้วละว่า คุณควรจะทำอย่างไร หากคุณเกิดไม่สบายขึ้นมา *สำหรับเด็กๆ* พ่อแม่ออกจะโล่งใจว่า โคโรนาไวรัส ญาติดีกับเด็กมาก มันมักจะเป็นไม่กี่วันก็หาย (แต่มันก็ยังเป็นเชื้อโรคติดต่อนะ) จึงต้องคำนึงถึงสภาพเด็กๆ​ ด้วย . *ให้มีสติและตระเตรียมตามควรแก่เหตุ* แล้วทุกอย่างจะไม่เสียหาย จะบอกคุณเอาไว้ว่า ค่า pH ของโคโรนาไวรัสทั้งหลาย มีได้ตั้งแต่ 5.5 ถึง 8.5. สิ่งที่เราต้องทำ ในการจัดการกับไวรัสโคโรนา คือ เราต้องกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง โดยมีค่า pH สูงกว่าของไวรัส ดังที่บอกไว้ข้างบนนี้ อาหารเหล่านั้น เช่น *มะนาวฝรั่ง - 9.9pH* *มะนาว - 8.2pH* *อะโวคาโด - 15.6pH* *กระเทียม - 13.2pH* *มะม่วง - 8.7pH* *ส้มเขียวหวาน - 8.5pH* *สับปะรด - 12.7pH* *ดอกเก็กฮวย(?) - 22.7pH* *ส้ม - 9.2pH* คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณติดไวรัสโคโรนาเข้าให้แล้ว? 1. คันคอ 2. คอแห้ง 3. ไอแห้งๆ 4. มีไข้ตัวร้อน 5. หายใจถี่ หอบ 6. ไม่ได้กลิ่น และไม่รู้รส 7. นิ้วเท้า มีสีเขียวคล้ำ หรือดำ ดังนั้น เมื่อใดมีอาการอย่างนี้ให้กินน้ำอุ่น ร่วมกับน้ำมะนาวเข้าไปเลย อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ กรุณาส่งต่อๆไปให้คนในครอบครัวและเพื่อนๆด้วยนะ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อันตรายจากการใช้กระชายมากเกินไป จริงหรือไม่
    (loud volume) มีคำเตือนจาก นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หลังจากเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนปีที่ผ่านมา มีผู้แชร์ข้อมูลประสบปัญหาการใช้สมุนไพร โดยระบุว่า ดื่มน้ำกระชาย 10 วัน ร่างกายทรุดไร้เรี่ยวแรง “ผมนำทั้งหมด (กระชาย น้ำผึ้ง น้ำมะนาว) มาปั่นเป็นน้ำสำหรับดื่ม โดยดื่มเช้าและเย็น ดื่ม 2 จอกทุกวันเป็นเวลา 10 วัน ผมเริ่มป่วย แขนขาอ่อนแรง พูดเริ่มไม่ชัด เกือบจะเป็นปากเบี้ยว เดินก้าวเท้าไม่ได้ โดยซีกขวาผิดปกติคล้ายอัมพฤกษ์ ในที่สุดต้องไปพบแพทย์ ต้องนอนโรงพยาบาล 6 วัน ตรวจสแกนสมอง สแกนทุกอย่าง ผลเอกซเรย์พบว่า เลือดหนืดไปเลี้ยงก้านสมองไม่ทัน ประเด็นสำคัญคือ กระชายไม่ควรกินเยอะทุกวัน และในผู้สูงอายุยิ่งต้องระวังจะทำให้เลือดหนืด และเสี่ยงป่วย ขณะนี้อาการฟื้นตัวดีขึ้น 80-90% แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ดีเต็ม 100% ยังเดินไม่สมบูรณ์” นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า สมุนไพรอย่างกระชาย หากรับประทานเป็นอาหารสามารถรับประทานได้ เพราะการประกอบอาหารไม่ได้ใช้จำนวนมาก แต่การรับประทานตามหลักก็ไม่ได้แนะนำให้บริโภคทุกวัน แม้แต่เป็นอาหารตามหลักโภชนาการก็ไม่แนะนำให้บริโภคอะไรประจำทุกวัน แต่ต้องบริโภคหลากหลาย หากรับประทานด้วยจุดประสงค์ทางยา หรือการบำรุงร่างกาย ต้องอยู่ภายใต้แพทย์และแพทย์แผนไท ยแนะนำ ยิ่งผู้สูงอายุยิ่งต้องระวัง
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ⚠️ สำคัญ!! โปรดอ่าน‼️ 1. แพทย์คนหนึ่งเตือนว่า ... ที่ 40 องศาถ้าคุณดื่มน้ำน้ำแข็งทันทีหลอดเลือดขนาดเล็กอาจระเบิดได้ เพื่อนของเขาเพิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อล้างเท้าด้วยน้ำเย็น จากนั้นดวงตาของเขามองไม่เห็นอย่างชัดเจน มีเพียงหูเท่านั้นที่ได้ยินเสียง เขาก็เสียขีวิตในเวลาต่อมา 2. อุณหภูมิในบางสถานที่มีถึง 38 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า แต่อุณหภูมิของความรู้สึกของร่างกายควรสูงกว่า อันตรายไม่ได้มีแค่จากการดื่มน้ำเย็นเท่านั้น แม้แต่ล้างมือ / ล้างหน้า / ล้างเท้า ด้วยน้ำเย็นๆก็อันตราย คุณจะต้องไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่ร้อนกระทบกับน้ำเย็นแบบทันที คุณต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพื่อให้ร่างกายเย็นลง และ ปรับเป็นอุณหภูมิในร่ม ดื่มน้ำอุ่นประมาณ 34 ถึง 36 องศาเซลเซียส 3. ผู้ชายที่เคยแข็งแรงมากคนหนึ่ง ปัจจุบันเป็นโรคหลอดเลือดสมอง เขาอยู่ในสภาพที่ไม่ดี ชายคนนั้นเล่าว่า "เร็ว ๆ นี้ในวันที่อากาศร้อน ผมกลับบ้านเพื่อให้เย็นลงอย่างรวดเร็วจากความร้อน ผมอาบน้ำเย็นทันที ผมรู้สึกว่าไม่สามารถขยับขากรรไกรได้อย่างถูกต้อง รถพยาบาลส่งผมไปโรงพยาบาลนั่นช่วยชีวิตผมไว้ " ⚠️โปรดจำไว้ว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่อากาศร้อน ให้หลีกเลี่ยงน้ำเย็นเพราะจะทำให้หลอดเลือดหดตัวอย่างรวดเร็ว‼️ ผู้ใหญ่ที่มีเด็กเล็ก หรือ คนชราที่บ้านควรแจ้งผู้ดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้ สภาพอากาศไม่ปกติ มันอาจจะรู้สึกดีถ้าดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ แต่มันอันตรายมาก‼️
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หัวไชเท้า ❤ เมื่อทานผักผลไม้และสมุนไพรได้ อาหารเสริมจึงไม่ได้มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะอาหารเสริมก็สกัดมาจากพืชผัก ผลไม้และสมุนไพรเช่นเดียวกัน ตามคำนิยามที่ว่า ทานอาหารเป็นยานั่นเอง สำหรับหัวไชเท้านี้เป็นอาหารทางการแพทย์ที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก เป็นผักตระกูลกระหล่ำ ความพิเศษและแตกต่างจากไม้ตระกูลกะหล่ำที่เหลือคือ หัวไชเท้ามีองค์ประกอบสองส่วน คือมีรากและหัวไชเท้าช่วยเติมเต็มระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อเราทานเข้าไป กำมะถันที่มีอยู่ในหัวไชเท้าจะขับไล่เชื้อโรคทุกชนิดและทำหน้าที่เป็นมูลไส้เดือน มันจะช่วยฆ่าหนอนพยาธิในลำไส้และปรสิตอื่น ๆ ทั้งหมดได้อีกด้วย หัวไชเท้ามีส่วนประกอบของ ออร์กาโนซัลเฟอร์ช่วยให้หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำสะอาดและสร้างเกราะป้องกันในตัวเพื่อป้องกันไม่ให้คราบจุลินทรีย์เกาะติดกับเยื่อบุ หัวไชเท้าช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและปัญหาหลอดเลือดหัวใจอื่น ๆ ได้ดี เพราะหัวไชเท้าช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล ชนิดที่ดี และลดคอเลสเตอรอล ชนิดที่ไม่ดี หัวไชเท้าช่วยขับไล่มะเร็งได้เกือบทุกชนิด เพราะสามารถฟื้นฟูไต ตับ ตับอ่อน และม้ามได้เป็นอย่างดี ใบของหัวไชเท้าไม่ต้องทิ้งเพราะเป็นหนึ่งในอาหารรักษาร่างกาย ที่ดีมาก เช่นกัน เพราะใบไม้หัวไชเท้าเป็นพรีไบโอติกที่มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับสองรองจาก บลูเบอร์รี่ป่า เลยทีเดียว ทั้งหัวไชเท้าและใบและมีสารอาหารจำนวนมาก เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟโตเคมิคอล และอัลคาลอยด์ ต้านมะเร็ง และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยซ่อมแซมลำไส้ใหญ่ และส่วนอื่น ๆ ของลำไส้ที่สูญเสียความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร สารอาหารของมันนั้นถูกดูดซึมโดยระบบย่อยอาหารที่ทำงานผิดปกติมากที่สุด และดูดซึมได้ดีกว่าอาหารอื่น ๆ เนื่องจากมีเอนไซม์สูง จริง ๆ แล้ว ใบหัวไชเท้าเป็นอาหารป่า แม้ว่าจะปลูกในสวนหรือในฟาร์มก็ตาม ใบไม้เหล่านี้ช่วยกำจัดสารพิษทั้ง 4 อย่างออกจากร่างกาย คือ กำจัดดีดีที รังสี โลหะหนัก ไวรัส ทานได้ทั้งสดและต้มใส่ซุบน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มจืดหรือแกงส้ม ส่วนทานสดโดยจิ้มน้ำพริกหรือทานกับชูชิ ปั่นดื่มจะดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำความสะอาดโลหะหนักในระดับที่รุนแรง และกำจัดสารปรอท ตะกั่ว สารหนู และอะลูมิเนียมออกจากร่างกาย มีพลังเกือบเท่าผักชี ใบและหัวไชเท้าช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทรวมถึงโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เอแอลเอส ( ALS ) และโรคไลม์ ( Lyme ) ทางระบบประสาท หัวไชเท้าจึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผักใบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับสุขภาพของผู้คนนั่นเอง โดย Boos Day ❤
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อาการบอกเหตุและการรับมือ เมื่อผู้หญิงหัวใจวาย ประสบการณ์จริงจากพยาบาลชำนาญการ ========================== พวกเราคงเคยดูหนังและมีบทของคนหัวใจวายในบางฉากที่ดาราผู้ชายเอามือกุมหน้าอก ปวดจนมีอาการหน้าบูดเบี้ยว เหงื่อออกแล้วก็ล้มลงกองบนพื้น (สูตรนี้ตลอด ) ดิฉันจะบอกว่าอาการหัวใจวายในผู้หญิงนั้นแตกต่างออกไปดังเรื่องจริงต่อไปนี้ “เวลา 22.30 น. ฉันกำลังนั่งเล่นอย่างสบายใจกับแมวคู่ใจ พร้อมกับอ่านหนังสือเพลินๆพร้อมกับขำๆกับเนื้อหาในหนังสือ จู่ๆฉันก็รู้สึกจุกเสียดแน่นท้อง(อาการคล้ายมีก้อนอาหารขนาดใหญ่ไปกระจุกตัวขวางหลอดอาหารอยู่)ทั้งๆที่ฉันไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่ 17.00 น. สักพักอาการค่อยเบาลงก็มีอาการใหม่เหมือนสันหลังและกระดูกหน้าอกถูกบิดเป็นเกลียวจากล่างขึ้นบนจนขึ้นไปถึงคอหอย กรามและขากรรไกร ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกแค่เอ๊ะอีกแล้ว รู้แน่แล้วว่าเพราะเคยอ่านมาว่าอาการปวดเกร็งบริเวณขากรรไกรเป็นสัญญาณบอกเหตุหัวใจขาดเลือด ฉันภาวนาในใจนึกถึงพระเจ้า”โปรดช่วยลูกด้วยลูกกำลังหัวใจวาย” ฉันโยนแมวออกไปจากตักย่ำเท้าลงกับพื้นเพื่อจะเดินไปโทรศัพธ์แต่แล้วฉันก็ล้มลงกองกับพื้น ฉันใช้ความพยายามยึดเก้าอี้เพื่อพยุงตัวขึ้นไปโทรศัพธ์เรียกรถพยาบาลฉุกเฉิน ค่อยๆเล่าอาการว่าฉันสงสัยว่าหัวใจวายเพราะมีแรงกดบริเวณหน้าอกและแผ่ขยายไปบริเวณขากรรไกร และกราม เจ้าหน้าที่ปลายสายบอกฉันให้ค่อยพยุงตัวเองไปที่หน้าประตู ปลดกลอนประตูแล้วนอนราบแถวๆใกล้ประตู ฉันทำตามคำแนะนำแล้วก็หมดสติไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นหมอพาฉันออกมาจากเปลพยาบาล หมอถามฉันว่า”ทานยาอะไรมาไหม?” ฉันไม่มีแรงตอบคำถาม ไม่มีกระทั่งสัมปชัญญะที่จะทบทวนหาคำตอบ และม่อยหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าหมอโรคหัวใจและทีมได้ขยายหลอดเลือดหัวใจด้านขวาด้วยบอลลูน(บางคนเรียกว่าStent)ผ่านทางเส้นเลือดแดงที่แขนเสร็จแล้ว ฉันลองลำดับเหตูการณ์ดูแล้ว พบว่า กว่าที่ฉันจะสามารถโทรศัพธ์ตามรถพยาบาลได้ไม่น่าจะต่ำกว่า20-30นาที นับว่ายังเป็นโชคดีของฉันที่บ้านฉันอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก จากเหตุการณ์นี้ฉันจึงอยากแชร์กับทุกท่านถึงนาทีวิกฤติว่าควารทำอย่างไร จึงจะปลอดภัย 1. จำเอาไว้ว่าอาการหัวใจวายของผู้หญิงนั้นแตกต่างไปจากอาการที่เกิดขึ้นกับผู้ชาย อย่ารอจนกระทั่งมีอาการขากรรไกรแข็ง ปวดบริเวณกระดูกสันอก ทันทีที่มีอาการจุกเสียดท้องอย่างแรงไม่มีปี่มีขลุ่ยทั้งๆที่ไม่ได้ทานอะไรเลยนั่นแหละสํญญาณบอกเหตุเริ่มแล้ว หลายๆคนคิดไปว่ามีอาการกรดไหลย้อน อาหารไม่ย่อย กินยาแล้วก็ไปนอนพัก คาดว่าประเดี๋ยวอาการก็ทุเลา...แต่เธอก็หลับไม่ตื่นอีกเลย 2. ฉันยังพอมีสติโทรเรียกรถพยาบาล แต่จะดีไปกว่านั้นหากฉันรีบทานแอสไพรินสักเม็ดระหว่างรอรถพยาบาล แต่อย่าได้คิดขับรถไปเองเป็นอันขาด และอย่าได้ให้สามีขี้ตื่น ขับรถให้เพราะเขาอาจไม่มีสติพอจะพาคุณไปถึงโรงพยาบาล อาจขับลงข้างทางเสียก่อน ให้เรียกรถพยาบาลเท่านั้นเพราะบนรถจะมีถังอ็อกซิเจนและเครื่องปั้มหัวใจ 3. อย่าเขาข้างตัวเองว่าคงไม่ใช่หัวใจวายหรอกน่า คลอเรสโตรอลของฉันก็ปกติดีออก เพราะมีงานวิจัยมากมายชี้ตรงกันว่าระดับคลอเรสโตรอลสูงๆไม่ได้สัมพันธ์ใดๆกับอาการหัวใจวาย แต่อาการหัวใจวายสัมพันธ์กับความเครียดต่อเนื่อง และการอักเสบเรื้อรังในร่างกายทำใหกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนและสารคัดหลั่งที่เป็นพิษต่อเส้นเลือดหัวใจ ดังนั้นหากต้องสะดุ้งตื่นกลางดึก ด้วยอาการปวดเกร็งบริเวณกรามและขากรรไกรให้รีบทำตามที่แนะนำทันทีเพราะคุณเหลือเวลาไม่มากนัก https://www.facebook.com/419951058051062/posts/2204633902916093/
    ไม่ระบุชื่อ
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    (foot)คนญี่ปุ่นนิยมใส่ถุงเท้าก่อนเข้านอน ทั้ง 4 ฤดู หมอญี่ปุ่นวิจัยแล้วพบว่า การใส่ถุงเท้านอน ช่วยให้เท้าอบอุ่นทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายดีขึ้น ช่วยให้หลับง่ายขึ้นกว่าคนที่ไม่สวมถุงเท้านอน จากการวิจัยของหมออเมริกาก็พบว่า อาสาสมัครสองกลุ่มใส่กับไม่ใส่ถุงเท้านอน ผลปรากฏว่า กลุ่มใส่ถุงเท้านอนหลับได้ง่ายกว่ากลุ่มไม่ใส่ถุงเท้า การใส่ถุงเท้านอนยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ดีจากการหลับลึก ด้วยการสวมถุงเท้านอน ส าเหตุนี้เองคนญี่ปุ่นจึงมีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก คนที่อายุมากกว่า 100ปี จำนวน 86,000คน จากประชากร 120 ล้านคน อายุยืนเฉลี่ย 83 ปี นอนวันละ 8ชม. ฉะนั้นจึงแนะนำให้ใส่ถุงเท้านอนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
    ไม่ระบุชื่อ
     •  8 เดือนที่แล้ว
    meter: false