1 คนสงสัย
สิ่งของ 6 อย่างที่ห้ามวางไว้ในรถยนต์
ไม่ระบุชื่อ
 •  9 เดือนที่แล้ว
meter: true
1 ความเห็น

ผู้บริโภคเฝ้าระวัง

thanathun เลือกให้ข้อความนี้✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด

เหตุผล

1.ไฟแช็ก กรณีจอดรถตากแดดที่มีอุณหภูมิร้อนสูง จะทำปฏิกิริยากับสารเคมีเหลวภายในตัวไฟแช็ก และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ไฟแช็กจะระเบิดตัวเองทำให้เกิดไฟลุ

ที่มา

https://tna.mcot.net/sureandshare-1345606

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    จ่อเลิกขายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 95 และE85 ดัน E20 ขึ้นแท่นน้ำมันหลัก พร้อมอัพราคาพืชเอทานอล . รถยนต์ส่วนใหญ่บนท้องถนนในประเทศไทยนิยมใช้น้ำมัน แก๊สโซฮอล์ 91 กับ 95 ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 70% ของปริมาณการใช้น้ำมันทุกประเภทในยานพาหนะ แต่อีกไม่นานเราอาจไม่ได้เติมน้ำมันประเภทนี้อีกต่อไป รวมถึงน้ำมัน E85 ด้วย เพราะมีข่าวว่ากระทรวงพลังงาน โดยเจ้ากระทรวงที่ควบต่ำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอย่างนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เดินหน้าแผนพลังงานระยะยาวแน่! . สำหรับการยกเลิกน้ำมันทั้ง 3 ประเภทนั้น หากมองเหตุผลเบื้องต้นอย่างแรกคือ รถที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลงปริมาณลงเรื่อยๆ ตามกาลเวลา รถใหม่ๆ จะใช้น้ำมัน E85 E20 หรือเติมน้ำมันได้หลากหลายประเภทอยู่แล้ว แต่เมื่อเจาะลึกลงไปดูต้นทางที่จะทำให้เกิดการยกเลิกนี้ ก็มาจากแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว หรือ TIEB ฉบับใหม่ระหว่าง พ.ศ. 2561 - 2580 โดยมีองค์ประกอบหลักๆ 5 แผนด้วยกัน ได้แก่ - แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (Power Development Plan) - แผนอนุรักษ์พลังงาน (Energy Efficiency Plan) - แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (Alternative Energy Development Plan) - แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan) - แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ถือว่าเป็นพลังงานชนิดที่มีสัดส่วนการใช้สูงมากๆ ในภาคการขนส่ง . เบื้องต้นรองนายกผู้เป็นเจ้ากระทรวงก็ได้เห็นชอบให้คงเป้าหมายของแผนบูรณาการข้างต้นต่อไป เนื่องจากจัดทำกันมาตั้งแต่ยุคของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเจ้ากระทรวง พร้อมสั่งให้มีการวัดผลสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงทุกๆ ปี ตลอดระยะเวลาแผนช่วง 5 ปีที่ต้องชัดเจน โดยเฉพาะแผนบริหารจัดการน้ำมัน ด้วยกำหนดให้น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ B10 และ E20 กลายมาเป็นน้ำมันมาตรฐานของประเทศ และยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 และ E85 แทน . เมื่อหาเหตุผลอื่นๆ ประกอบเพิ่มเติมในการยกเลิกการใช้น้ำมันเหล่านี้ มันมีปัจจัยหนึ่งมาจาการที่ภาครัฐต้องการเข้าไปช่วยเพิ่มราคาของวัตถุดิบที่เป็นผลิตผลทางการเกษตรก็คือ มันสำปะหลัง และอ้อย เนื่องจากปัจจุบันถูกนำมาใช้ผลิตเป็นเอทานอล ในสัดส่วนประมาณ 27% ของการผลิตเอทานอลทั้งหมด . โดยก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานก็เคยมีการประกาศให้น้ำมันดีเซล B10 หรือน้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10% ในทุกลิตรกลายเป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานของประเทศเมื่อ 1 มกราคม 2563 เพื่อสนับสนุนราคาผลผลิตปาล์ม โดยปั๊มน้ำมันทุกแห่งก็จะมีเวลาปรับตัวมา 4 - 5 เดือน ในการเปลี่ยนป้ายชื่อผลิตภัณฑ์ที่ตู้จ่ายน้ำมัน จาก “ดีเซลB10” เป็น “ดีเซล” ซึ่งน้ำมันดีเซลที่ขายกันทุกวันนี้ จะถูกเปลี่ยนชื่อเรียกว่า ดีเซล B7 ให้กลายเป็นน้ำมันทางเลือกสำหรับรถเก่าและรถยุโรป น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ก็ให้เป็นน้ำมันทางเลือกสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคมนี้ . หากมีการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ น้ำมันไบโอดีเซล B10 จะช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบหรือ CPO ได้ปีละ 2.2 ล้านตัน และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ หรือ B100 ได้วันละ 6.5 ล้านลิตร . กลับมาที่การยกเลิกน้ำมันโซฮอล์ 91 กันต่อ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า มันสร้างความสันสนงุนงงพอควรให้หมู่ประชาชนที่ต้องเจอกกับการเปลี่ยนแปลในช่วงแรกๆ แต่ไม่ใช่ประชาชนที่สับสนอย่างเดียว ทางผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันก็สับสนพอควร และปั๊มน้ำมันในบ้านเราส่วนใหญ่มีหัวจ่ายไม่มากนัก การจะเก็บสำรองน้ำมันหลายๆ ชนิดไว้ก็ล้วนเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งนั้น หากรวมน้ำมันเบนซิน กับดีเซลในบ้านเรารวมๆ กันมีถึง 11 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นสูตรพรีเมียม หรือสูตรธรรมดา ให้เป็นประเภทเดียวกันในหมวดหมู่เดียวกัน ก็จะเป็นการประหยัดต้นทุนของปั๊มน้ำมัน ฉะนั้นปั๊มน้ำมันขนาดกลาง และขนาดเล็กก็จะได้ให้บริการได้ลงตัวมากขึ้น . ถัดมาคือเรื่องของแก๊สโซฮอล์ E20 ที่ถูกมองเป็นพระรองมาตลอด แม้ว่าจะเป็นน้ำมันราคาถูกกว่า ประหยัดกว่า คุณภาพตามมาตรฐาน แต่คนเลือกเติมน้อยกว่าเนื่องจากมองว่าเวลาขับขี่แล้วรู้สึกเครื่องยนต์ไม่แรง การเผาไหม้สู้น้ำมันสูตรอื่นไม่ได้ จังหวะนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการเดินหน้าครั้งสำคัญของวงการพลังงานไทยอีกครั้ง เพื่อส่งเสริมให้ลดประเภทน้ำมันลง และใช้ E20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน ด้วยการตั้งเป้าปริมาณการใช้ E20 ไม่ต่ำกว่า 50% ของความความต้องการใช้น้ำมันเบนซินภายในปี 2564 และยกมาตรฐานน้ำมันของไทยเป็นมาตรฐานยุโรป ระดับ 5 ในปี 2567 . ส่วนมาตรฐานน้ำมันยูโร คืออะไร เป็นมาตรฐานการรับมือมลพิษทางอากาศ หรือ Euro Emissions Standards เพื่อควบคุมอัตราการปล่อยมลพิษของรถยนต์ หากย้อนไปดูการกำหนดใช้ครั้งแรกที่เริ่มกันมาตั้งแต่ปี 1992 โดยรายละเอียดทางเทคนิคเบื้องต้นนั้น ข้อกำหนดของมาตรฐานยูโร 1 จะมีการระบุว่ารถยนต์ต้องเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแบบไร้สารตะกั่ว และให้มีอุปกรณ์เครื่องฟอกไอเสียเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) จนพัฒนามาต่อเนื่องมาเป็น ยูโร 2 ในปี 1996, ยูโร 3 ในปี 2000 ยูโร 4 ที่บ้านเราใช้กันอยู่คือการกำหนดให้รถยนต์ที่ผ่านการทดสอบจะต้องมีปริมาณการปล่อยสารมลพิษไอเสียต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ประกอบไปด้วย คาร์บอนมอนออกไซด์ต้องไม่เกิน 0.5 g/km. ไนโตรออกไซด์ต้องไม่เกิน 0.25 g/km ขณะที่ยูโร 5 จะเพิ่มความเข้มงวดขึ้นไปอีกขั้น โดยต้องลดลง 28% จากยูโร 4 . ขณะที่คุณนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานบอกไว้ว่า หากรัฐมนตรีเห็นชอบน่าจะใช้เวลาประมาณ 9 เดือนหลังจากแผนอนุมัติ โดยแบ่งเป็นช่วง 3 เดือนแรก จะทำการสนับสนุนให้ประชาชนมาเติมน้ำมัน E20 เพิ่มขึ้น ทั้งการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาสนับสนุนด้านราคา ต่อจากนั้นช่วง 3 - 6 เดือน ก็ทำการกำหนดให้โรงกลั่นน้ำมันหยุดทำการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 พร้อมใช้กลไกราคาให้โซฮอล์ 91 กับโซฮอล์ 95 มีราคาเท่ากัน ลดส่วนต่าง E20 ให้ถูกกว่า 95 และเมื่อครบแผนการ 9 เดือน ก็เชื่อว่าจะสามารถดันให้ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานได้เต็มรูปแบบ . แล้วรถยนต์รุ่นเก่าจะทำอย่างไร?...ทางแรกอาจจะเปลี่ยนไปใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ก่อน เพราะยังไม่ยกเลิก ซึ่งมีราคาสูงกว่า 91 ไม่มากนัก หากรวมๆ กับประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่ดีขึ้นก็ถือว่ารับได้อยู่ อีกทางที่สายประหยัดสามารถเลือกได้นั่นคือ การนำรูปไปติดกล่องจูนเครื่องยนต์ให้รองรับน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ E20 หรือ E85 แต่ต้องยอมรับว่าการจะไปติดกล่องอะไรก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกับเครื่องยนต์ ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของท่อน้ำมันเร็วขึ้น ยิ่งหากถึงคราวซวยเจอช่างหรืออู่รถติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็ย่อมมาพร้อมค่าใช้จ่ายที่งอกมาอีกด้วย . หากทางเลือกแรกไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งการจูนกล่องเครื่องยนต์ให้รองรับ หรือเปลี่ยนน้ำมัน ยังไม่โดนใจคุณ ทางเลือกอื่นก็ยังมีให้ แต่ทางนี้ต้องเป็นคนที่ทำใจได้ตอนขายรถ เนื่องจากให้นำรถไปติดแก๊ส เพราะแก๊ส LPG NGV ใดๆ ก็ตามจะทำให้รถยนต์สุดรักของคุณราคาตกลงไปด้วย ประกอบกับความเสี่ยงจากความร้อนในการเผาไหม้ระบบแก๊ส สูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วขึ้นกว่าเดิม รถยนต์เสื่อมสภาพไวกว่าปกติ และเครื่องยนต์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ออกแบบมาให้ทนความร้อนสูงมากนัก รวมถึงโอกาสเวลาเกิดอุบัติเหตุมักจะรุนแรงกว่า แม้อุบัติเหตุบนถนนไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ยิ่งเกิดขึ้นกับรถติดแก๊สนั้นจะยิ่งอันตราย เพราะแก๊สรั่วแล้วติดไฟได้ง่าย ด้วยคุณสมบัติการเป็นเชื้อเพลงชั้นดี ฉะนั้นต้องมองให้หลายมิติ . ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะทางเลือกอื่นๆ ก็ยังมี ไม่ว่าจะเป็นการยกเครื่องยนต์ใหม่ ใส่เครื่องยนต์ตัวใหม่เลย ไปจนถึงหาเครื่องยนต์เก่าตามเซียงกงมาให้อู่รถจัดการให้ แต่ต้องมีความเชี่ยวชาญเสียหน่อย และทางเลือกสุดท้ายสำหรับผู้ที่มีกำลังทรัพย์อาจเลือกการเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ ที่ตอบโจทย์มากกว่า อย่างไรก็ตามต้องคำนวนค่าใช้จ่ายที่ตามมาด้วย ดีไม่ดีอาจจะเข้าสุภาษิตที่ว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายเอาได้ . ทั้งนี้ การจะเคาะเริ่มการยกเลิกเมื่อไหร่นั้น ยังต้องดูความชัดเจนจากเจ้ากระทรวงพลังงานอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะประกาศชัดๆเมื่อใด . #น้ำมัน #แก๊สโซฮอล์ #91 #E20 #พลังงาน
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เขียนได้โดนมากๆ ขอแชร์ให้คนไทยทุกคนได้อ่าน “ชีวิตจะดีหรือเลว อยู่ที่ตัวคุณเอง ไม่ใช่รัฐบาล” ไม่ทราบชื่อผู้เขียน…แต่เขียนสะท้อนความจริงได้ดีมาก วันนี้ ผมอยากให้คุณเปิดใจเป็นกลาง มองโลกแห่งความเป็นจริง แล้วอ่านสิ่งที่ผมเขียน... ประชาชน เรียกร้องหา การพัฒนาที่ดี เศรษฐกิจที่ดี ชีวิตที่ดี สวัสดิการที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี ขอให้ทุกคนรวยขึ้น มีความสุขมากขึ้น มีคนจนหมดไป แต่ตัวเองกลับทำตัวตรงข้าม คือ ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น อยากให้ประเทศพัฒนา แต่ไม่เคยพัฒนาคุณภาพตัวเอง นายกคนไหน ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ถ้าคนในประเทศยังขี้เกียจ ขาดจิตสำนึก ขาดคุณธรรม ขาดสติ ไร้ปัญญา ไร้การศึกษา หรือมีการศึกษาสูง แต่จิตสำนึกต่ำ คุณธรรมต่ำ คิดแต่จะด่าว่า โทษแต่คนอื่น ไม่เคยโทษตัวเอง หรือนอนรอแต่ความหวัง ลมๆแล้งๆ หวังคนอื่นมาช่วย แต่ไม่เคยช่วยตัวเองอย่างจริงจัง ประเทศนี้ มีปัญหามาตั้งแต่ รากเหง้าของประเทศ เป็นศูนย์รวม ของคนจำ นวนไม่น้อย ที่จอม 'ขี้เกียจ' 'มักง่าย' และ 'รอคอยความหวัง' เห็นแก่ตัว เก่งแต่พูดเก่งแต่โพสต์ พอลงมือทำจริงๆ ก็ทำไม่ได้ อย่างที่คุยโม้โอ้อวด จริงไหม? ต่อให้นายกรัฐมนตรี เก่งกาจแค่ไหน แก้ปัญหาชาติได้ดีเพียงไร หรือ มีทีมงานไม่โกงกิน แต่บางที ปัญหามาจากรากเหง้าของประเทศ ที่จริงๆแล้ว แก้เท่าไหร่ ก็ไม่สำเร็จหรอก เพราะอาจจะต้องแก้ที่ "คนในชาติก่อน" “จิตสำนึกที่ดี นั้น มีกันบ้างมั้ย” - ด้านสถาบันครอบครัว เพราะความเคยชินของคนไทย ปลูกฝังสั่งสอน ความมักง่าย ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม เลี้ยงเด็กตามมีตามเกิด บางคน แม้รวย ก็เลี้ยงดูลูกแบบตามใจ จนมากเกินไป เหมือนนิทานเรื่อง พ่อแม่รังแกฉัน เลี้ยงผิดๆ ถูกๆ บางบ้าน พูดจาหยาบคาย มึงกูกับลูกตั้งแต่เด็กๆ ปัญหาไม่พร้อมที่จะมีลูกก่อนวัยอันควร สอนกันมาแบบผิดๆ สมองเด็ก ก็ฝังลึกกันแบบผิดๆ​ ที่น่ากลัวคือ พ่อแม่คนเหล่านั้น สอนลูกไม่ เป็น ไม่รู้จักผิด/ชอบ/ชั่ว/ดี แม้บางคน พ่อแม่ เป็นถึง ศ.บ้าง รศ.บ้าง บางคนพ่วง ดร. อีกด้วย แต่มีลูกสาว ขนาดเป็นนิสิตจุฬาฯ ในปี 2563 กล้าที่จะแก้ผ้าให้ผู้ชายถ่ายรูปที่เสาชิงช้า อนาคตของชาติ จึงดูไร้คุณภาพ หรือที่เราเรียกว่า อนาคตของสังคมไทย มีแต่ “ขยะสังคม” รัฐบาล ไม่ได้มีหน้าที่ อยู่บ้านเดียวกับคุณ และคอยอบรมสั่งสอน จนลูกคุณโต หรือ จนมีหน้าที่การงาน - ด้านความยากจน หนักไม่เอา เบาไม่สู้ หมิ่นเงินน้อย คอยวาสนา บ้าเรื่องดวง ผัวทิ้งทำเสน่ห์คุณไสย งานไกลขี้เกียจไป อ้างว่าไม่มีรถขับ งานใกล้ เงินน้อยขี้เกียจทำ กู้เงินมาขายอาหาร ขายไม่เป็น ทำไม่สะอาด ทำไม่อร่อย ปากไม่ดี พอเจ๊ง ก็โทษรัฐบาล โทษเศรษฐกิจ โทษอากาศมันร้อน ฝนมันตก โทษคนไม่เดิน แต่ไม่เคยโทษตัวเอง เพราะไม่เคยมองเห็นตัวเอง ที่เป็นต้นเหตุปัญหาทั้งปวง คนจน ที่ขยันก็มีเยอะ แต่ต้องฉลาด มีสมองพัฒนา ใฝ่สูงใฝ่ก้าวไปข้างหน้า เป็นคนจนไม่ผิด แต่จนแล้วโง่ แถมขี้เกียจ เเบบนี้ผิด บางคนที่จน ไม่มีเงินจะเรียน ก็เรียนจบได้ด็อคเตอร์ ก็มีไม่น้อย มิใช่ เอาแต่มานั่งบ่น สิ่งนั้นไม่ดี สิ่งนี้ไม่ดี แต่ไม่เคยโทษตัวเอง ใครจะมาช่วยได้ล่ะ แล้วทำไมคนจน ที่เค้ามีฐานะดีขึ้น ทำงานด้วยสมอง และ มีสองมือเหมือนกัน ก็มีเยอะมากมายที่เขาได้ดี มีความเจริญก้าวหน้า เพราะเค้าไม่มีข้ออ้างแบบคุณนั่นเอง - ด้านการศึกษา ไม่รู้เค้าเลี้ยงลูกกันยังไง เด็กบางคนถึงไม่สนใจการเรียน ไม่ชอบมีการ บ้าน ไม่ชอบการสอบเก็บคะแนน อ้างว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดความเครียด ไม่ต้องการใส่เครื่องแบบ ไม่ต้องการไว้ผมทรงนักเรียน ไม่เห็นคุณค่าการศึกษา เพราะมีพ่อแม่ไร้คุณภาพ เด็กหลายคนจึงไร้การศึกษาที่ดีและสูง แทนที่จะสอนลูกว่า เรามันจนนะลูก ต้องตั้งใจเรียน​ จะได้​ทุนเรียนปริญญา เอาจริงๆนะ ถ้าลูกรักเรียนต่อ ให้พ่อแม่จนแค่ไหน ก็หาเงินมาให้ลูกเรียนจนจบปริญญาได้ เด็กหลายคนเกเร ไม่สนใจการเรียน พ่อแม่ก็ตัดหางปล่อยวัด ไม่รู้จะทำอะไร ก็กลายเป็นเด็กเกเร เด็กแว๊นซ์ ลักขโมย ดื่มเหล้า ข่มขืน ติดยา ขายตัว สร้างความเดือดร้อน พ่อแม่มันยังไร้คุณภาพ จะเอาปัญญาที่ไหนไปสอนลูก บางครอบครัว พ่อแม่ มีคุณภาพดี แต่ไม่เคยสอนเรื่องคุณ ธรรมและจริยะธรรมที่ดีให้แก่ลูก พอเกิดเรื่องก็บอก “ลูกฉันเป็นคนดี” กันทั้งนั้น ก็เพราะคิดแบบนี้ ลูกมันถึงเป็นแบบนี้ ผิด/ชอบ/ชั่ว/ดี คนเป็นพ่อแม่ ยังแยกแยะไม่ออก - ด้านสิ่งแวดล้อม ถามซิ เลิกเผาป่า เลิกเผาขยะกันหรือยัง​ ข่าวออกมาโครมๆ แต่จิตสำนึกไม่ มีเลย อ้างว่าต้องทำมาหากิน ก็ทำแบบนี้ทุกปี จริงๆแล้วการเผาป่ามันถูกต้องหรือไม่ มันก่อให้เกิดฝุ่นพิษ ควันพิษ เป็นการทำร้ายสุขภาพ หรือเราปล่อยให้ทำๆกันมาจนชิน ไม่รู้สึกอะไร พอรัฐหรือหน่วยงาน เข้ามาห้ามก็ด่า...นี่คือสันดานคนเหล่านั้น คือความเห็นแก่ตัว ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม​ เสียหายปีละเท่าไหร่​...กินตรงไหนทิ้งตรงนั้น คนที่อาศัยตามริมคลอง ก็ทิ้งลงคลองง่ายดี พอน้ำเน่าเหม็น ก็บ่น แล้วมาบอกว่า มันเป็นหน้าที่ของคนเก็บขยะ มีหน้าที่เก็บก็เก็บไป​ คุณจะให้บ้านเมืองมันเจริญได้ไง! ในเมื่อจิตใจคุณยังต่ำตมอยู่เลย -โกง/คอรัปชั่น​ เจอกันเยอะมั้ย​ ไม่ว่าจะคนรวย คนจน คนในระดับไหน การศึกษาสูง ต่ำ ไม่แตกต่างกัน ​ เป็นเรื่องนิสัย​/สันดาน พอมีโอกาส​ ก็โกงกันทั้งนั้น จิตสำนึกความซื่อสัตย์ไม่มี คนรวยโกงคนจน นักการเมืองโกงชาติ จิตใจทำด้วยอะไร ความเห็นแก่ตัวไง เงินคือพระ เจ้าสำหรับพวกมัน และค่านิยมคนไทย “มีเงินเรียกน้อง มีทองเรียกพี่” เป็นพวก ไอ้/อี ที่บ้าเงิน - ด้านการจราจร มีกี่คนที่ทำตามกฎจราจร 100% บ้าง ทางม้าลายรถต้องหยุดให้คนข้าม พวกคุณทราบกันหรือเปล่า ใช้ถนน ผิดกฎหมาย แล้วคิดว่าตัวเองถูก ดูอย่างข่าวป้าทุบรถ และข่าวจอดรถขวางหน้าบ้าน ทางเข้าออกคนอื่น โดยไร้จิตสำนึกว่า คนในบ้านเขาขับรถเข้า/ออกไม่ได้ มีบ่อย มีหลายๆคดี เรียกตัวเองว่า ชาวพุทธ แต่ไร้ ศีลธรรม การยับยั้งอารมณ์ ใครมีปืนมีมีด ก็ยิงก็ฟันเลย เถื่อนมาก แม้แต่ในโรงพยาบาล ก็ยังบุกไปทำร้ายร่างกายกัน และ พาลไปทำร้ายหมอและพยาบาลอีก แบบนี้ก็มีอยู่ในสังคมไทย แกล้งขับรถขวางทาง ไม่ให้รถ Ambulance ผ่าน ก็มีข่าวมาแล้ว ขับช้า เสือกขับแช่ยาว ในเลนขวาสุด ก็มีให้เห็นบ่อยๆในเวลาไปต่างจังหวัด อยากจอดข้างทางก็จอด เพื่อกินข้าว ที่ร้านอร่อยของตน บนถนนรถติด ขายของริมฟุตบาท ล้นออกมาบนพื้นที่ถนนรถวิ่ง รถยนต์/รถมอเตอร์ ไซค์ก็จอดซื้อกันตรงนั้น ทำให้รถติดในซอย ในเมื่อพฤติกรรมคนไทยจำนวนไม่น้อย มันเป็นแบบเนี้ย รัฐบาลจะไปช่วยอะไรได้ หวังแต่จะให้รัฐแก้ปัญหา และพัฒนาชาติ ตัวคุณเองยังแก้ปัญ หาตัวเองไม่ได้ และพัฒนาสมอง คุณภาพตัวเองไม่ได้เลย ถามตัวเองก่อน ด่ารัฐบาล "ทำหน้าที่ตัวเอง" ในฐานะพลเมืองของชาติ ดีที่สุดรึยัง พูดให้คิด มองความจริงให้ออก อย่าหลอก อย่าหลงตัวเอง เจ็บแต่จริง​ หันมามองตัวเองกันหน่อย​ ค่อยๆแก้​ ต่อให้รัฐบาล​/ผู้นำคนไหนๆ​ แปลงร่างมาจากเทวดาชั้นฟ้า​ ปัญหา​เมืองไทย ก็ไม่มีวันหมด แก้รัฐธรรม นูญ ก็เพื่อประโยชน์ของนักการเมือง เป็นสำคัญ ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชา ชนอย่างแท้จริง แก้แล้ว ก็เพื่อให้นัก การเมืองกลุ่มใหม่ เข้ามาแสวงหาอำนาจ และ ผลประโยชน์ในกลุ่มพรรคพวกเพื่อนพ้องเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องนมนานมา แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น มาให้เห็นตลอดเวลา​ที่ผ่านมา นักการเมืองโกงแล้ว หนีคดีไปต่างประเทศ ส่วนลูกน้อง ที่เคยเป็นคนดี แต่ยอมทำตาม ด้วยเกรงบารมี ก็ต้องติดคุกหัวโตไป เรายังอยากให้คนกลุ่มนี้ มาหาวิธีโกงชาติ โกงแผ่นดินกันอีกหรือ รักชาติ รักแผ่นดิน​ ให้จริงๆกันบ้างเถิด อย่าอ้างความรักชาติ จนน้ำลายไหล เพราะอดอยากปากแห้งมานาน หันกลับมามองตน แล้วเปลี่ยนแปลงตัวเองและ คนใกล้ตัวกันหน่อย สงสารนักรบชุดขาว และ อสม. ที่เขาเสียสละ และเสี่ยงกับโรค​ COVID-19 ที่ มากกว่าเรา อย่าได้เพิ่มปัญหาให้สังคมและประเทศของเราให้มากกว่า ที่มีอยู่ และเป็นอยู่เลย ในปัจจุบัน ทุกประเทศก็มีปัญหาเศรษฐกิจ ประชา ชนทุกประเทศก็ย่ำแย่เดือดร้อนกันทั้งนั้น มิใช่คนไทยเท่านั้นที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ. ขอบคุณผู้เขียน และ ขอบคุณทุกคนที่แชร์กันต่อไปและแชร์ให้มากก่อนถึงวันเลือกตั้ง.
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ตอนนี้ทางการจีนโล๊ะพวกจีนเทาและจีนมิจฉาขีพออกนอกประเทศเป็นล้านๆ คน เข้ามาอยู่เมืองไทยมหาศาล มาตั้งแก๊งในเขมรลาวพม่าหากินกับคนไทยอีกไม่รู้เท่าไหร่ ทางการจีนทำคลิปนี่เพื่อเตือนภัย ให้ระวังกระเป๋าถือตลอดเวลา ห้ามวางไว้ในรถ หน้ามอไซด์ หน้าจักรยานและบนรถเข็นในห้างเป็นอันขาด ไม่อยากเสียเงินเสียทรัพย์ พวกชั่วๆ เหล่านี้ถ้าได้มือถือไป ก่อนขายทิ้งจะล้วงข้อมูลก่อน!!! คนไทยทั้งประเทศต้องขอบคุณ คุณชูวิทย์ อีกครั้งที่เปิดโปงเรื่องจีนเทาอย่างค่อเนื่อง!!
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เรื่องนี้น่าสนใจมาก...หากประสบผลสำเร็จ คนที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดคงจะสบายสักที...... --------‐--‐-----//------------------ มนุษย์จะมีอายุขัยเพิ่มขึ้น! ทำความรู้จัก “อนุภาคนาโน” ที่ถูกค้นพบเมื่อปีที่แล้ว และอาจทำให้ “โรคหัวใจ” กลายเป็นแค่ประวัติศาสตร์ ทุกวันนี้ เวลาได้ยินข่าวคนดังเสียชีวิต มักมีสาเหตุมาจาก “มะเร็ง” และพานคิดว่ามะเร็งน่าจะเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมนุษย์ แต่นั่นคือความเข้าใจผิด เพราะสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมนุษย์ปัจจุบันคือ “โรคหัวใจ” หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ “โรคหัวใจและหลอดเลือด” มนุษย์ที่เสียชีวิตเพราะโรคกลุ่มนี้ในแต่ละปีมากถึง 30% และเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 แซงหน้ามะเร็ง 1.เราอาจสังเกตว่า “คนสมัยก่อน” มักจะไม่ได้ตายเพราะ “โรคมะเร็ง” หรือ “โรคหัวใจ” . เหตุที่ช่วงหลังมานี้ “โรคมะเร็ง” และ “โรคหัวใจ” ขึ้นอันดับ 1 และ 2 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ามนุษย์ปัจจุบันอายุยืนขึ้น เราไม่ค่อยตายจากสงครามและโรคติดเชื้อต่างๆ แบบในอดีต พออยู่มาจนแก่ . เราจึงเผชิญหน้ากับโรคที่โดยทั่วไปใช้เวลาพัฒนาหลายสิบปีกว่าจะพัฒนาจนคร่าชีวิตผู้คนได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด โรคไต ฯลฯ 2.ก่อนหน้านี้ โรคที่ฆ่ามนุษย์เป็นอันดับ 1 คือ “มะเร็ง” เหตุที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะคำว่า “มะเร็ง” นั้นกินความกว้างมากๆ เพราะเกิดจากการที่เซลล์ของอวัยวะร่างกายกลายพันธุ์เป็นเนื้อร้าย เรียกได้ว่าเกิดเนื้อร้ายส่วนไหนก็นับเป็นมะเร็งหมด พอแก่ตัวไป แนวโน้มที่เซลล์จะกลายพันธุ์ก็ยิ่งเยอะมากขึ้น . ผลในทางสถิติคนก็เลยเป็นมะเร็งกันเยอะ และในอดีตเป็นโรคที่ “ไม่มีทางรักษา” . แต่ยุคหลังๆ เริ่มมีแนวทางการรักษาใหม่ๆ เริ่มมีเทคนิคการคัดกรองที่ดีขึ้น คนก็เลย “จัดการ” กับมะเร็งได้ดีกว่าก่อนมาก ส่งผลให้ “โรคหัวใจ” เป็นโรคที่กลายเป็นภัยต่อชีวิตอันดับ 1 ของมนุษย์ 3.คำว่า “โรคหัวใจ” ในความหมายของโรคหัวใจและหลอดเลือดก็เป็นคำที่กินความกว้างมากคือ กินความตั้งแต่ภาวะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ตีบทำให้อวัยวะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไปจนถึงภาวะผิดปกติทางกายภาพของหัวใจที่ส่งผลต่อการสูบฉีดเลือด . อย่างไรก็ดี สิ่งที่ใกล้ชิดกับโรคหัวใจที่สุดก็คือภาวะอย่าง ‘หลอดเลือดแข็งตัว’ (atherosclerosis) หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ไขมันเกาะผนังหลอดเลือด” ในระดับที่เรียกได้ว่า เป็นภาวะยอดฮิตที่คนจะป่วย และพัฒนาไปเป็นโรคหัวใจในที่สุด . แม้ว่าคนจะนิยมเรียกกันแบบนี้ แต่สิ่งที่ไปพอกผนังหลอดเลือดนั้นไม่ใช่ “ไขมัน” แต่คือซากเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายขณะที่มันพยายามจะทำลายคอเลสเตอรอลที่หลุดเข้ามาในผนังหลอดเลือด . (ซึ่งคอเลสเตรอลไม่ใช่ไขมัน ร่างกายใช้คอเลสเตอรอลเป็นพลังงานไม่ได้ ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดๆ ว่าเวลาเรา “เบิร์น” ตอนออกกำลังกาย แล้วจะเอาคอเลสเตอรอลมาใช้ ร่างกายเราไม่ได้ทำงานอย่างนั้น) . พอซากเซลล์เม็ดเลือดขาวตายสะสมกันในผนังหลอดเลือดมากๆ หลอดเลือดก็จะหนาขึ้นและยืดหยุ่นน้อยลง เราเลยเรียกภาวะนี้ว่า “หลอดเลือดแข็งตัว” 4.ถ้าที่ว่ามาฟังเข้าใจยากไป ก็คิดซะว่าหลอดเลือดเราเป็น “ท่อ” ก็ได้ . ภาวะที่ว่ามาคือภาวะ “ท่อตัน” และพอ “ท่อตัน” เลือดก็จะไปต่อไม่ได้ ซึ่งถ้านั่นเป็นอวัยวะสำคัญอย่างหัวใจหรือสมอง เราก็จะเสียชีวิต (ทั้งนี้เวลาเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้จะเรียก Heart Attack ส่วนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ จะเรียก Stroke สองภาวะนี้มีสาเหตุพื้นฐานคือ “ท่อตัน” นั่นเอง) . ดังนั้นปัญหาที่คร่าชีวิตมนุษย์แบบนับไม่ถ้วน ก็คือเรื่องง่ายๆ อย่าง “ท่อตัน” นี่เอง เพียงแต่ท่อที่ว่าคือเส้นเลือดแดงในร่างกายที่คอยส่งออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงอวัยวะ 5.คำถามต่อมาคือ แล้วภาวะ “ท่อตัน” นี่จัดการแค่ใส่ “น้ำยาล้างท่อ” ลงไปไม่ได้หรือ? . คำตอบคือ “ไม่ได้” เพราะฉะนั้นวิธีการรักษาจึงต้อง “ผ่าตัด” “ทำบอลลูน” และ “ทำบายพาส” กันให้วุ่นวาย . วิธีการรักษาปัจจุบันคือ ถ้า “ท่อตัน” ทำได้แต่ผ่าตัด (ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่) ซึ่งก่อนผ่าตัด เราก็ต้องระบุให้ได้ว่า “ท่อ” ตรงส่วนไหนตัน โดยการ “ฉีดสี” และทำ MRI . ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ บอกเลยว่า “แพงมาก” แม้ว่าประกันสังคมจะครอบคลุมค่ารักษา แต่ไม่ว่าจะเป็นในประเทศยุโรปหรือไทย คุณต้องผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างละเอียด ถึงจะได้ทำการวินิจฉัยว่าคุณกำลังจะ “ท่อตัน” ตรงส่วนไหนของร่างกาย เรียกว่าผู้ป่วยจะได้ทำเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น . ปัญหาคือทุกวันนี้ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าร่างกายของเรา “กำลังจะท่อตัน” ตรงไหน เพราะมันไม่มีทางจะมองเห็นเส้นเลือดในร่างกายของเราด้วยการวินิจฉัยทั่วๆ ไป การไป “ตรวจสุขภาพประจำปี” ซึ่งตรวจด้วยวิธีทั่วไป ก็ไม่มีทางรู้ได้ 6.ปกติเราจะรู้ได้ว่า ตัวเรามีความเสี่ยงต่อโรคกลุ่มนี้ก็ต่อเมื่อไปตรวจสุขภาพแล้วพบว่า ค่าความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลสูง และวิธีการ “พยุงอาการ” ของกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดหลักๆ คือเขาจะให้กิน “ยาลดความดัน” กับ “ยาลดคอเลสเตอรอล” ซึ่งต้องกินไปตลอดชีวิต . และผลหลักๆ คือการชะลอภาวะ “หลอดเลือดแข็งตัว” หรือลดความเสี่ยงของการที่คุณจะ “ท่อตัน” จนเลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่พอ จนพิการหรือถึงแก่ความตายในที่สุด . นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งก็เน้นว่าคือการ “ชะลอ” เท่านั้น ยังไม่ใช่การ “รักษา” และที่เป็นแบบนี้ เพราะระบบสาธารณสุขไม่ว่าที่ใดในโลก ยังไม่มีต้นทุนพอที่จะจับคนทุกคนมาฉีดสีและทำ MRI เพื่อหาว่าคนๆ นั้นกำลังจะ “ท่อตัน” ตรงไหนของร่างกาย . ผลก็คือ วิธีชะลอดังกล่าวก็เลยให้กินยาไปเรื่อยๆ แทน เพราะนั่นสมเหตุสมผลในเชิงงบประมาณมากกว่า ถ้าต้องจัดการกับ “กลุ่มเสี่ยง” จำนวนมากหลักล้านคน 7.ประเด็นคือ ภาวะหลอดเลือดแข็งตัวเป็นภาวะที่แทบทุกคนที่อยู่ในสังคมสมัยใหม่แก่ตัวไปยังไงก็เป็น ไม่ว่าจะด้วยอาหาร ด้วยวิถีชีวิต และด้วยอายุที่ยืนขึ้น . เรียกได้ว่าถ้า “ท่อยังไม่ตัน” เมื่อแก่ตัวไป ทุกคนกำลังก้าวเดินไปสู่ภาวะ “ท่อกำลังจะตัน” . ดังนั้น ถ้าจะว่ากันในแง่หนึ่งแล้ว นี่คือ “โรคของทุกคน” ที่ในทางเทคนิค ในปัจจุบันยังไม่มี “ยารักษา” ใดๆ ที่จะแจกจ่ายให้ทุกๆ คนกินทีเดียวแล้วหายได้ 8.แต่ก็อย่างที่บอกไว้ในชื่อเรื่อง ต่อไปนี้โรคหัวใจอาจเป็นแค่อดีต . เพราะเมื่อต้นปี 2020 ในขณะที่ชาวโลกกำลังตื่นตระหนกกับโรคระบาดใหม่อย่างโควิด-19 นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้ตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาหลักๆ คือพวกเขาค้นพบอนุภาคนาโนที่จะ “คืนชีพ” ให้พวกเซลล์ภูมิคุ้มกันที่กินคอเลสเตอรอลแล้วตายในผนังหลอดเลือด ให้ฟื้นขึ้นมากินพวกคอเลสเตอรอลและซากเซลล์ที่ตายไปแล้วในผนังหลอดเลือด . ผลก็คือ สิ่งที่ไปพอกผนังหลอดเลือดจน “แข็งตัว” ก็จะค่อยๆ ลดลงไป และผนังหลอดเลือดก็จะเป็นปกติในที่สุด . หรือพูดให้มันง่ายกว่านั้น “อนุภาคนาโน” ก็คือ “น้ำยาล้างท่อ” ของ “ภาวะท่อตัน” ในหลอดเลือดนั่นเอง . เรียกได้ว่ามีอนุภาคนี้คือจบเลย เราไม่ต้องรู้ด้วยซ้ำว่า “ท่อตัน” ตรงไหน ฉีดเข้าไปในเลือด อนุภาคนี้จะค่อยๆ จัดการท่อที่ตันเอง ไม่ต่างจากที่คุณเทน้ำยาล้างท่อตอนต่อตัน คุณไม่ต้องรู้หรอกว่ามันตันตรงส่วนไหน น้ำยาจัดการให้หมด . และนี่ก็ไม่ใช่แค่คอนเซปต์ลอยๆ เพราะขณะนี้ อนุภาคนี้ทดลองในหนูสำเร็จแล้ว และก็ไม่แปลกเลยที่อีกไม่นานก็น่าจะได้ทดลองในมนุษย์แน่ๆ . ถ้าสำเร็จ ถึงตอนนั้น คนที่ต้องกินยาทุกวันไปตลอดชีวิตก็อาจไม่ต้องกินกันอีกแล้ว . และถ้ามากไปกว่านั้น นี่อาจเป็นการบอกลาโรคหัวใจและหลอดเลือดสำหรับคนแทบทั้งหมดในโลกก็เป็นได้ อ้างอิง: ScienceDaily. Nanoparticle chomps away plaques that cause heart attacks. https://bit.ly/3dzPx9V NHI. Plaque-eating nanoparticles may help prevent heart attacks. https://bit.ly/3iTUNX2 #Nanoparticle Cr.BrandThink
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จากหมอ โสภณ เมฆธน อดีตปลัด สธ และผู้ช่วยรัฐมนตรี สธ Covid-19: ความหวังและความยากลำบาก Update ข่าวดีและข่าวร้าย หลังผ่านไป 18 วัน จากนี้ไปข้างหน้าเราต้องเตรียมตั้งรับกับสิ่งใด และมองย้อนหลังไปเราทำกันมาได้ขนาดไหน ผมทำกราฟมาอธิบายให้ครับ ประเมินสถานการณ์ตัวเลข ณ วันนี้: 1. ข่าวดีสำคัญ สงกรานต์ที่เงียบมาก ทำให้เราสามารถช่วยกันหนี %Increase ระดับ 40% ของ British Variant มาได้แล้ว วันนี้ตัวเลขมาอยู่ที่ 15.26% และเริ่มเข้าสู่ Negative Exponential Curve ของกราฟ %Increase เราซื้อเวลาสำเร็จระดับนึง 2. ข่าวร้าย การผ่านตัวเลขระดับ 13,000 ที่ %Increase ระดับ 15.26% ถือว่าร้ายแรงมาก แทบไม่เคยมีประเทศใดจบที่ต่ำกว่าแสนและไม่มีประเทศใดที่เจอแบบนี้ครั้งแรกแล้วระบบสาธารณสุขไม่ล่มอย่างหนัก EURO5 โดนแบบนี้ไปเมื่อ Wave#1 เอาตัวไม่รอดทั้งที่เป็น Variant ที่รุนแรงน้อยกว่านี้ ดังนั้นอย่าไปเดินตามและทำตาม EURO5 ครับ 3. ตัวเลข 13,000 ใหญ่กว่าทั้ง Wave#2 ของไทยเราที่ตัดแรงงานต่างด้าวออกไปแล้วซึ่งแค่ 9,300 เท่านั้น โดย Wave#3 นี้แทบไม่มีตัวเลขจากแรงงานต่างด้าวเลย 4. ความหวังสำคัญ ผมมีข้อมูลพอทำกราฟของ Best Case Scenario ได้แล้ว กราฟบอกเราว่า ถ้าช่วยกันสู้เต็มที่ ยังสามารถต่ำกว่าแสนได้ครับ กราฟตัวเลขจริงเปรี่ยบเทียบ 3 Wave: ข่าวร้าย: เส้นสีแดงของ Wave#3 เห็นได้ชัดเจนนะครับว่า หนักหนาสาหัสกว่า Wave 1 และ 2 แบบเทียบกันไม่ได้เลย นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมทีมงานสาธารณสุขของเราจึงทำงานหนักมากตอนนี้ และทำไมศบค.จึงต้องวางมาตรการที่เข้มข้นมาก ถึงแม้จะไม่สามารถ Lockdown ได้เพราะแรงกดดันรอบทิศก็ตาม และทุกคนควรตระหนักอย่างยิ่งและทำตามมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัดครับ จากข้อมูล 17 วัน ผม Fine Tune พารามิเตอร์ต่างๆของกราฟใหม่ และมองไปข้างหน้า 1 เดือนได้ตามนี้ครับ กราฟ Total Case ประเมินไปข้างหน้า 1 เดือนครึ่ง: ข่าวร้าย: 1. ถึงจะทำดีที่สุดเต็มที่ ปลายเดือนเม.ย.ก็น่าจะถึง 35,000 คือจากนี้ไปอีก 13 วันเตรียมรับอีกอย่างน้อย ประมาณ 20,000 ครับ 2. ตัวเลข Daily New Case จะยืนอยู่ระดับ 1,600 - 1,800 ไปอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ 3. ตัวเลข Daily New Case จะอยู่ระดับ >1,000 ไปจนสิ้นเดือนเม.ย. เดือนพ.ค.เราจึงจะเริ่มเห็นระดับที่ต่ำกว่าพันอย่างมีนัยะสำคัญ 4. วันที่ 18 พ.ค. เปิดเทอมตัวเลขจะอยู่แถวๆ 44,000 และมี Daily New Case ประมาณ 215 จะเป็นการตัดสินใจที่ยากมากครับ 5. วันที่ 31 พ.ค. ตัวเลขจะอยู่แถวๆ 45,500 และมี Daily New Case ประมาณ 48 จะใกล้จบถ้าไม่มีใครการ์ดตกยืนระยะไม่อยู่เสียก่อน 6. นี่คือ Best Case Scenario 7. แทบไม่เคยมีใครวิ่งตามเส้น Best Case Scenario นี้ได้ ยกเว้น จีน ออสเตรเลีย เกาหลี และประเทศไทยเราเองใน Wave#1 และ Wave #2 ช่วงเดือนม.ค. ข่าวดี: 1. อย่างน้อยวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็ยังอยู่แถวๆ 15,000 ซึ่งต่ำกว่า 40,000 ซึ่งเป็น Worst Case มาก 2. ถ้าช่วยกันจะสามารถจบได้ภายใน 2 เดือนโดยอยู่แถว 45,000 ครับ 3. เราเคยวิ่งตาม Curve แบบนี้สำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง ถ้าร่วมมือกันทำเต็มที่ครับ กราฟ %Increase ข่าวดี: %Increase ลดลงมาอยู่ที่ 15.26% แล้ว และลู่เข้าสู่กราฟ Negative Exponential ที่มี Time Constant 9.1 มาแล้ว 5 วัน ซึ่งหมายถึงเรากำลังเริ่มตั้งหลักได้และสงกรานต์ที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดีครับ จากนี้ไปต้องรักษา Momentum ให้ได้ และอย่าให้การเริ่มกลับมาทำงานหลังวันหยุดเปลี่ยนแนวโน้มของกราฟนี้เด็ดขาด ข่าวร้าย: ไม่มีสำหรับกราฟนี้ คำแนะนำที่สำคัญที่สุด "อย่าทำแบบ EURO5 โดยเฉพาะอังกฤษ ห้ามเอาพวกเขามาเป็นบรรทัดฐานโดยเด็ดขาดครับ" สาเหตุครับ 1. พวกเขาทุกประเทศตายมาแล้วเป็นแสน ประเทศไหนยังไม่ถึงแสน เดี๋ยวก็จะถึงครับ 2. อัตราการตายของ EURO 5 อยู่ที่ 1.9 - 3.0% มากว่าเรากว่า 10 เท่า 3.อังกฤษอยู่ใน Lockdown รวมกัน 2 ครั้งกว่า 7 เดือน มากกว่าไทยเราที่อยู่ใน Full Lockdown 1.5 เดือน Semi Lockdown ประมาณ 1.5 เดือนเท่านั้น 4. เศรษฐกิจก็แย่กว่าเรา UK Annual GDP fell by 9.9% in 2020, the largest yearly fall on record 5. มีคนตายคาบ้านเยอะมากเพราะโรงพยาบาลไม่พอ โรงพยาบาลสนามก็ไม่พอ การรักษาตัวอยู่บ้านคือทางสุดท้ายเพราะจนแต้มนะครับ ไม่ใช่ทางเลือกที่ใครต้องการเลย แม้แต่ญี่ปุ่นก็ตายคาบ้านไปหลายศพเช่นกันครับ 6. อังกฤษไม่มีตัวเลขอะไรที่ดีกว่าเราเลยนะครับ ยกเว้นอัตราการฉีดวัคซีน สิ่งที่ต้องทำอย่างตั้งใจทุกฝ่ายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า 1. ช่วยกันรักษาปกป้องระบบสาธารณสุขของเรา นี่คือ 1st Priority ครับ กำลังใจของทีมงานสาธารณสุขสำคัญมาก ครั้งนี้พวกเขาหลายคนมีโอกาสติดเชื้อและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ มันเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก อย่าโกหก Timeline อย่าปล่อยปละละเลยจนติดเชื้อมากเกินไปจนล้นร.พ. 2. ภาคเอกชนใหญ่ต้องช่วยกันสร้างรพ.สนามและ Hospitel อย่าให้ต้องรักษาตัวอยู่บ้านกัน เพราะเมื่อนั้นอัตราการตายจะพุ่งสูงทันที อย่าให้ได้มีใครต้องเสียชีวิตที่บ้านโดยไม่ทันถึงมือหมอเลยนะครับ 3. ต้อง Work from Home กันอย่างจริงจังมากๆ ใครทำได้ต้องทำ คนทำไม่ได้มีเยอะครับ เขาจะเสี่ยงน้อยลง ต้องช่วยกันรักษา Momentum ของเราไปอีก 1 - 2 เดือน ให้สำเร็จครับ 4. ป้องกันการติดเชื้อในภาคอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ครับ โดยเฉพาะชลบุรี ระยอง 5. อย่าให้เกิด Cluster ตลาดและแรงงานต่างด้าวขึ้นมาซ้ำเติม เพราะเราไม่มีทรัพยากรจะไปปิดกรณีแบบนั้นอีกแล้ว 6. โรงเรียนจะเปิดเทอม 18 พ.ค. ต้องช่วยกันทำให้สำเร็จให้ได้ เด็กรุ่นนี้เรียนออนไลน์กันมานานมากจนแย่แล้ว มันไม่ดีกับพวกเขาเลย อย่าให้อบายมุขและความละเลยเป็นสาเหตุทำให้เด็กต้องอดไปโรงเรียนอีกเลยนะครับ 7. ยึดกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี กลับคืนมาให้ได้ และต้องรักษาหัวเมืองใหญ่ โคราช ขอนแก่น อุบล อุดร นครศรี สุราษฎร์ สงขลา เอาไว้ให้สำเร็จครับ 8. ดีเดย์วันที่ 1 มิ.ย. วัคซีนต้องปูพรมครับ ไม่งั้นโดน Wave#4 แน่ ภาคเอกชนต้องช่วยกันเสริมทัพแล้วล่ะครับ ภาครัฐอย่างเดียวเอาไม่อยู่แน่ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกคนจากนี้ไปอีก 1 เดือนคือการมีวินัยและดูแลตัวเอง อย่าป่วยไข้ อย่าขับรถเร็วประมาทจนเกิดอุบัติเหตุ ระบบสาธารณสุขของเราคือด่านหน้าที่ตอนนี้ข้าศึกบุกมาเต็มกำลังจนยากแก่การรับมือแล้ว ขอเพียงพวกเรามีวินัย ดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพ มีน้ำใจแบ่งปันช่วยเหลือ อยู่บ้านให้มากๆเข้าไว้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยบุคลากรด่านหน้าและประเทศชาติได้มากแล้วครับ ช่วยกันครับ เรายังมีความหวังอยู่เสมอครับ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    คำแนะนำที่ถูกต้องของแพทย์ที่ รพ รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ อจ ธนัญญา วันนี้มาคุยเรื่อง #selfisolation กันนะคะ
    คำแนะนำที่ถูกต้องของแพทย์ที่ รพ รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ อจ ธนัญญา วันนี้มาคุยเรื่อง #selfisolation กันนะคะ อย่างที่ทราบ ยอดเคสใหม่ ทำลายสถิติใหม่ทุกวัน เคสหนักก็มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว สุดท้ายระบบสาธารณสุขจะรองรับดูแลทุกคนที่ติดเชื้อไม่ไหว ดีที่เรารู้จักมันพอสมควรแล้ว เหมือนที่เรารู้ว่าต้องดูแลตัวเองอย่างไรเวลาเป็นหวัด ใช่ค่ะ วัคซีนทำให้โควิดกลายเป็นแค่ไข้หวัด ดังนั้นหากคุณเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง อายุน้อยกว่า 60 ปี BMI < 30 ได้รับวัคซีนครบ กระตุ้นแล้วไม่เกิน 3 เดือน คุณคือผู้ที่สามารถดูแลตนเองที่บ้านได้ค่ะ ไม่น่ากลัวเลย เกิดวันนึงมีอาการแสบคอ เจ็บคอ คัดจมูก ไอ ไข้ ปวดเมื่อยตามตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วสงสัยว่าตัวเองจะเป็นโควิดมั้ยก็เอา ATK มาจิ้มจมูกให้สิ้นสงสัย ถ้าขึ้น 2 ขีดก็คือใช่ มงลงที่คุณค่ะ (ไม่ต้องไปสืบหาว่าติดมาจากไหน ชั้นไม่ได้ออกไปไหนเลยนะ ติดได้ยังไง… เพราะตอนนี้มันอยู่ทุกที่แล้ว เหมือนเวลาเป็นหวัด เราก็ไม่เคยไปหาว่าติดจากไหน คิดซะว่าออกไปตากฝนมาเนอะ) พอขึ้น 2 ขีดแล้วตั้งสตินะคะ อย่ากรีดร้อง เดี๋ยวเชื้อฟุ้งกระจาย ค่อยๆดึงแมสก์ขึ้นมาปิดจมูกแล้วเดินเงียบๆเข้าห้องปิดประตูไป จากนั้นส่งไลน์กรุ๊ปครอบครัว และเพื่อนฝูงที่เราเจอในช่วง 3 วันที่ผ่านมา แจ้งให้ทราบว่า หนูมงลงแล้วนะคะ ช่วยตรวจ ATK ของตัวเองว่าใครเป็นบ้าง ใครที่เป็น ก็ทำแบบเดียวกันตามสเต็ปถัดไป ส่วนที่ยังไม่เป็นก็กักตัวค่ะ อีก 3 วันดูอาการแล้ว ATK อีกสักทีตอน 7 วัน กักต่อครบ 10 วัน ไม่มีอาการอะไรก็ได้ไปเวทีต่อไปค่ะ หลังจากเข้าห้อง และแจ้งคนรอบตัวแล้วทำดังนี้นะคะ 1.โทรไปลางาน แจ้งที่ทำงาน เจ้านาย ลูกน้องให้เรียบร้อย 2. แจ้ง 1330 (โทรไม่ติดไม่เป็นไรนะคะ ค่อยๆโทร แค่โทรไปแจ้งว่าเราติดเฉยๆนะ ไม่ต้องพยายามหาเตียง หายาอะไร หรือถ้าโทรไม่ได้จริงๆ ข้ามข้อนี้ไปเลยค่ะ) 3. สังเกตอาการตัวเอง นึกดีๆว่าเราเริ่มมีอาการวันแรกวันไหน นับเป็น day 0 เก็บเอาไว้ในใจนะคะ 4. มีอาการอะไรก็กินยาตามนั้น ลดไข้ ลดน้ำมูก ยาอมแก้เจ็บคอ ลดเสมหะ แก้ไอ (เตรียมติดบ้านไว้เลยนะคะ) 5. ข้อนี้ไอเท็มเสริม ถ้ามีก็อุ่นใจขึ้น คือ ปรอทวัดไข้ กับ ที่วัดออกซิเจนปลายนิ้ว (มีติดไว้และฝึกวัดไว้ก่อน ตอนเป็นจะได้ไม่ลน) วัดวันละครั้งหรือสองครั้งเช้าเย็นก็พอนะ จะได้ไม่ ปสด มาก ถ้าวัดได้ข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ ติดต่อรพ. หรือ 1330 นะคะ - ไข้ > 37.5 องศาเซลเซียส เกิน 3 วัน - รู้สึกเหนื่อย แน่นอก ไอมาก วัดออกซิเจนได้ < 96% หรือ วัดออกซิเจนหลังออกกำลังกายแล้วลดลง > 3% 6. นอนดูซีรีส์ หรือทำงานที่คั่งค้างให้เสร็จ หรือจะเข้าเรียนออนไลน์ ประชุมออนไลน์ อะไรก็ทำไปค่ะ นับวันไป พอถึง day 7 คุณหายแล้วค่ะ จากนั้นก็นอนต่อแบบสบายใจขึ้น ไปจนครบ 10 วัน 7. แจ้งที่ทำงานกับคนรอบข้าง ไปว่าครบ 10 วันชั้นจะกลับไปทำงานแล้วจ้า เป็นอันครบกระบวนการ self isolation ที่บ้านแบบชิลๆ (ไม่ต้องพกฟาวิ กระชายขาว ฟ้าทะลายโจนอะไรไว้ก็ได้นะ เพราะระลอกนี้มันไม่ค่อยช่วยอะไร) แต่ๆๆๆๆ ถ้าคุณมีโรคประจำตัวที่ทำให้ภูมิอ่อนแอ เช่น เบาหวานที่คุมไม่ดี น้ำหนักเกิน ไตวายเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง หอบหืด กินยากดภูมิ อายุเกิน 60 ยังไม่ได้วัคซีน หรือยังไม่ได้กระตุ้น ติดต่อรพ.เลยค่ะ ถึงตอนนี้สิ่งที่ให้เตรียมไว้คือ 1. ที่แยกเพื่อกักตัว 2. ยาสามัญประจำบ้าน 3. ปรอทวัดไข้ และที่วัดออกซิเจนปลายนิ้ว 4. อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ (อย่าลืมที่ชาร์จ) 5. คนส่งอาหารถึงหน้าประตู 6. ถุงแยกขยะในห้อง กับถังใส่เสื้อผ้าซักแล้ว (เก็บไว้ซักทีเดียว ตอนกักตัวครบ) ใครยังไม่ฉีดวัคซีน หรือยังไม่ได้กระตุ้น ไปฉีดซะนะคะ ที่นอนไอซียูตอนนี้ ไม่มีใครฉีดเลยค่ะ /เตือนแล้วนะ
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    https://verumachina.org/1tbc7KpX?utm_creative=%D0%9D%D0%BE%D0%B2%D0%BE%D0%B5+%D0%BE%D0%B1%D1%8A%D1%8F%D0%B2%D0%BB%D0%B5%D0%BD%D0%B8%D0%B5+%D1%81+%D1%86%D0%B5%D0%BB%D1%8C%D1%8E+%22%D0%9F%D1%80%D0%BE%D0%B4%D0%B0%D0%B6%D0%B8%22&utm_campaign=TH+Kan&utm_source=fb&utm_placement=Facebook_Right_Column&campaign_id=120212978566600770&adset_id=120212978566620770&ad_id=120212978566650770&adset_name=%D0%9D%D0%BE%D0%B2%D0%B0%D1%8F+%D0%B3%D1%80%D1%83%D0%BF%D0%BF%D0%B0+%D0%BE%D0%B1%D1%8A%D1%8F%D0%B2%D0%BB%D0%B5%D0%BD%D0%B8%D0%B9+%D1%81+%D1%86%D0%B5%D0%BB%D1%8C%D1%8E+%22%D0%9F%D1%80%D0%BE%D0%B4%D0%B0%D0%B6%D0%B8%22&smile=x623ve&pixel=318307531159004&token=EAAPlkd2ej9sBOxHGbCmZAetrfhC0dDxA2DktDk9FasyquhZCcUXSYeNR51314yAew809JvOH6k7tqp2deOE651fgq6OrK4kksqSZCLOwnK1mnMyW49yZB4hdGa82gzDVs2QSlfolwleqrHmhacKZCnLULpmqVZB7EFd79GfqlRHmEROCIZCC5JtSsV7rBDb6XlrTQZDZD&domain=verumachina.org&utm_medium=paid&utm_id=120212978566600770&utm_content=120212978566650770&utm_term=120212978566620770&fbclid=IwY2xjawGbGIxleHRuA2FlbQEwAGFkaWQBqxURMq-DwgEd_v9y6lCCAabplAD7dv_4Ln1zbHQvtsCDLWsSW06T3W8M1xFAjpbpwOhx_aem_KHE_8QsZmh4PvwAbK55EeA แฟนๆ เรียกร้องปล่อยตัวสุทธิชัย หยุ่น หลังสัมภาษณ์ประเด็นขัดแย้ง 3 วันที่ผ่านมา โดย อุดม สุขทรงวัน - "Thai Rath" ผู้สนับสนุนหลายร้อยคนออกมารวมตัวกันเพื่อปกป้อง สุทธิชัย หยุ่น หลังเกิดเหตุการณ์อื้อฉาวระหว่างการถ่ายทอดสดรายการยอดนิยม แฟนๆ ต่างพากันแสดงความไม่พอใจที่ทางรัฐบาลสั่งกักตัวเขา หลังถูกตั้งข้อหาปล่อยข้อมูลลับที่อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้เขาถูกกักบริเวณ และทางการได้สั่งห้ามไม่ให้เข้าถึงสื่อโดยเด็ดขาด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการออกอากาศรายการ “Thai PBS World” ซึ่งในระหว่างนั้น กันต์ กันต์ถาวร ได้เปิดเผยแหล่งรายได้เพิ่มเติมโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้ว่ารายได้ดังกล่าวจะเป็นรายได้ที่ถูกกฎหมาย แต่ทางการกังวลว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอาจนำไปสู่การเลิกจ้างจำนวนมาก เนื่องจากอาจทำให้รายได้ไม่เท่าเทียมกัน บทสัมภาษณ์ของ สุทธิชัย หยุ่น ถูกถอดออกจากช่องทีวีและแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมดเพียงครึ่งชั่วโมงหลังออกอากาศ อย่างไรก็ตาม ทีมบรรณาธิการของเราสามารถหาสำเนาบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมาได้ บทถอดเสียงรายการ "Thai PBS World" สุทธิชัย หยุ่น: เทพชัย หยง : "ฉันสงสัยมาตลอดว่าคุณใช้ชีวิตหรูหราได้อย่างไร แน่นอนว่าเงินเดือนไม่พอจ่ายทุกอย่าง เชื่อเถอะว่าคุณเจอคนรวยที่ชื่นชมคุณหรือยัง" สุทธิชัย หยุ่น : "ทุกสิ่งที่ฉันมี ฉันหามาด้วยตัวเอง แต่ปัญหาคือ งานของฉันไม่ใช่แหล่งรายได้เดียวของฉัน" เทพชัย หยง : "ฉันรู้ว่าคุณยุ่งแค่ไหน ไม่น่าจะมีเวลาทำธุระอื่นเลย ดูเหมือนคุณจะไม่ได้บอกเราทุกอย่าง..." สุทธิชัย หยุ่น : "ฉันไม่มีธุรกิจที่สอง แต่ฉันเริ่มสร้างรายได้จากแพลตฟอร์ม Nearest Edge เมื่อหนึ่งปีก่อน ฉันลงทุนเพียง 9,000 บาทไทย และเพิ่มการลงทุนอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ ฉันใช้ชีวิตด้วยรายได้รายวันจากแพลตฟอร์มนี้" เทพชัย หยง : "คุณทำรายได้ได้เท่าไร?" สุทธิชัย หยุ่น : "วันละ 70,000 ถึง 100,000 บาท ถึงแม้ว่าฉันจะหาเงินได้มากกว่านั้นก็ตาม ฉันชอบที่จะใช้เงินทันทีที่ได้รับในขณะที่ยังมีโอกาส" เทพชัย หยง : "คุณกำลังบอกว่าลงทุนแค่ 9,000 บาท ก็สามารถรวยได้ขนาดนั้นจริงหรือ ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ใครๆ ก็คงทำได้กันหมดแล้ว" สุทธิชัย หยุ่น : "อะไรที่ทำให้คุณไม่ทำสิ่งนี้ เชื่อฉันเถอะ การทำงานไม่ใช่หนทางเดียวที่จะหารายได้ เราอาศัยอยู่ในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ปัจจุบัน โปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถสร้างรายได้จริงได้เร็วกว่าคนทั่วไปหลายพันเท่า ฉันแปลกใจที่ผู้คนยังไม่รู้จัก Nearest Edge " เทพชัย หยง : "คุณพูดได้ง่ายๆ ว่าคุณรวยและมีชื่อเสียง คนอย่างคุณรู้เรื่องชีวิตของคนธรรมดาๆ อย่างไรบ้าง พวกเขาไปทำงานทุกวันเพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว" สุทธิชัย หยุ่น : "อย่าโทษฉันที่รวยได้จริงๆ นอกจากนี้ ใครๆ ก็สามารถหารายได้ได้เท่าฉันและสร้างรายได้ 1 ล้านเหรียญแรกได้ภายใน 1-2 เดือน" เทพชัย หยง : "1-2 เดือนจะได้เงินล้านเหรอ? พูดตรงๆ นะ สำหรับคนส่วนใหญ่มันเป็นไปไม่ได้" สุทธิชัย หยุ่น : "อยากจะเดิมพันไหมว่าฉันสามารถทำให้คุณรวยได้ภายใน 5 นาที ฉันหัวเราะเยาะคนที่บ่นตลอดเวลาว่าไม่มีเงิน โอกาสมีอยู่มากมายในร้อยปี แต่พวกคุณคนโง่ไม่ได้ใช้โอกาสเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์" เทพชัย หยง : "มาเดิมพันกัน ถ้าเมื่อสิ้นสุดการสนทนานี้ คุณยังไม่สามารถโน้มน้าวให้ฉันเชื่อว่าใครๆ ก็รวยได้เท่าคุณ คุณจะบริจาครายได้ต่อเดือนของคุณให้กับการกุศล ถือว่าตกลงไหม?" สุทธิชัย หยุ่น : "ตกลง ส่งโทรศัพท์ของคุณมาให้ฉันเดี๋ยวนี้" เทพชัย หยงยื่นโทรศัพท์ สุทธิชัย หยุ่นไม่รู้ว่าการกระทำของเขาถูกบันทึกไว้ในกล้อง เขาเปิด ลิงก์ ทางโทรศัพท์ กรอกรายละเอียด ฝากเงิน 9,000 บาท และส่งโทรศัพท์คืน เทพชัย หยง : "คุณเพิ่งทำอะไรไป?" สุทธิชัย หยุ่น : "ฉันลงทะเบียนคุณบนแพลตฟอร์ม Nearest Edge และเปิดใช้งานบัญชีแล้ว ฉันเติมเงินเข้าบัญชีของคุณเป็นจำนวน 9,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำในการเริ่มโปรแกรม มาดูกันว่าคุณจะทำเงินได้มากแค่ไหนในครึ่งชั่วโมง" เทพชัย หยง : "แพลตฟอร์มนี้คืออะไร และทำไมคุณไม่แจ้งให้ทุกคนทราบก่อนหน้านี้?" สุทธิชัย หยุ่น : "เป็นโปรแกรมที่ใช้ AI คล้ายกับ Chat GPT แต่ใช้เพื่อสร้างรายได้ สามารถซื้อขายหุ้น สกุลเงิน และพันธบัตร และมีประสิทธิภาพมากกว่าโปรแกรมเทรดอื่นๆ ถึงร้อยเท่า" เทพชัย หยง : "ฉันเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้าง แต่เท่าที่ฉันรู้ เรื่องแบบนี้ควรจะเป็นความลับ แต่คุณกลับบอกทุกคนอย่างเปิดเผยว่าผู้ชมสามารถสมัครได้ที่ไหน" สุทธิชัย หยุ่น : "จะลงทะเบียนได้อย่างไรหากไม่มีลิงก์ไปยัง Nearest Edge เชื่อเถอะว่าการค้นหาไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันจะไม่บอกใครเลยเพราะมันอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศเรา" เทพชัย หยง : "คุณรู้ไหมว่าเมื่อคุณหยิบโทรศัพท์ของฉัน กล้องจะจับภาพลิงก์ที่คุณใช้ลงทะเบียนได้ ทุกคนคงเห็นมันแล้ว ดังนั้นแหล่งที่มาของรายได้ลับของคุณจึงไม่ใช่ความลับอีกต่อไป" สุทธิชัย หยุ่น : "กรุณาหยุดออกอากาศ หากผู้คนเริ่มใช้แพลตฟอร์มนี้ อาจหมายถึงปัญหาใหญ่สำหรับเราทั้งคู่" เทพชัย หยง : "กลัวอะไรนักหนา?" สุทธิชัย หยุ่น : "ลองคิดดูสิ! หากทุกคนเริ่มหารายได้หลายพันบาทต่อวันจาก Nearest Edge ผู้คนก็คงจะเริ่มลาออกจากงาน ทำไมพวกเขาถึงต้องทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ในเมื่อโปรแกรมสามารถหารายได้ได้มากกว่านั้นมาก?" เทพชัย หยง : "วิธีการนี้ถูกกฎหมายขนาดไหน?" สุทธิชัย หยุ่น : "ความจริงก็คือ ทุกคนในรายชื่อของ Forbes ใช้แพลตฟอร์มนี้ รวมถึงนักการเมือง นักกฎหมาย ผู้ประกอบการ และนักลงทุนที่ร่ำรวย คุณคิดว่าฉันรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร มันเป็นเรื่องถูกต้องโดยอ้างอิงจากเทคโนโลยีขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์" ในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เทพชัย หยง และสุทธิชัย หยุ่น พูดคุยถึงผลกระทบของเทคโนโลยีสมัยใหม่ และคาดเดาว่าอาชีพใดอาจหายไปเนื่องจากปัญญาประดิษฐ์ สุทธิชัย หยุ่น : "แล้วเรากลับมาเดิมพันกันต่อไหม? ผ่านไป 30 นาทีแล้ว มาดูกันว่าคุณจะได้เท่าไหร่" เทพชัย หยง : "นี่มันเหลือเชื่อมาก ตอนนี้ฉันมีเงิน 10,693 บาทในบัญชีแล้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ได้เงินสุทธิ 1,693 บาทในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง!" สุทธิชัย หยุ่น : "ลองคำนวณดูว่าคุณสามารถสร้างรายได้ได้เท่าไรในหนึ่งเดือน โปรแกรมจะทำงานแม้ในขณะที่คุณหลับ คุณสามารถถอนกำไรได้ทุกวัน แต่หากคุณรอ คุณก็จะสามารถสร้างรายได้ 3 ล้านใน 3-4 เดือน" เทพชัย หยง : "แล้วลงทะเบียนด้วยลิงค์ของคุณเลยเหรอ? มันง่ายมากจนฉันรู้สึกโง่เลย" สุทธิชัย หยุ่น : "ใช่ เพียงลงทะเบียนและฝากเงินอย่างน้อย 9,000 บาทไทย โปรแกรมนี้จะทำการซื้อขายสกุลเงิน หุ้น และพันธบัตรด้วยตัวเอง แต่ต้องมีเงินทุนเริ่มต้นจึงจะทำงานได้ หลังจากนั้น ผู้จัดการจะโทรหาคุณเพื่อขอความช่วยเหลือในการตั้งค่าและเปิดใช้งานบัญชีของคุณ" เทพชัย หยง : "ยอดเยี่ยม! ฉันเห็นว่าการซื้อขายไม่ได้ทำกำไรเสมอไป แต่รายได้โดยรวมยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉันเคยพยายามทำความเข้าใจการซื้อขายสกุลเงินด้วยตัวเองมาก่อน แต่สำหรับฉันมันยากเกินไป ที่นี่ ฉันไม่ต้องทำอะไรเลย" สุทธิชัย หยุ่น : "ใช่ AI บางครั้งก็ทำผิดพลาดได้ แต่ถึงแม้คุณจะสูญเสียเงินบาทไทยไปบ้างในการซื้อขาย การซื้อขายครั้งต่อไปก็มักจะสร้างกำไรได้ดี" หลังจากนั้น การสัมภาษณ์ก็จบลง แต่สุทธิชัย หยุ่น ปัญหาเพิ่งเริ่มต้น... หลังจากออกอากาศ กันต์ กันต์ถาวร ถูกเรียกตัวขึ้นศาลตามคำร้องของธนาคารแห่งชาติ เขาถูกกล่าวหาว่าจงใจทำลายเศรษฐกิจ หลังจากที่เขาแชร์ลิงก์ที่สร้างรายได้ให้กับเขา ผู้คนนับพันใช้วิธีนี้และเริ่มเขียนรีวิว การชุมนุมทั้งหมดจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนคนดังคนนี้ ผู้คนต่างขอบคุณเขาสำหรับ Nearest Edge และเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขา เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสำนักงานอัยการได้ตรวจสอบบัญชีของ สุทธิชัย หยุ่นแล้วและไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ในการกระทำของเขา ในท้ายที่สุด รัฐบาลเองก็ยืนยันว่าทุกคนสามารถหารายได้โดยใช้ Nearest Edge ได้อย่างถูกกฎหมาย บรรณาธิการข่าวของเราคนหนึ่งตัดสินใจทดลองใช้แพลตฟอร์มนี้และเขียนรายงานโดยละเอียดอธิบายถึงประสบการณ์ของเขา สมนึก กุปตะ - บรรณาธิการข่าว วันที่ 1: "ฉันยอมรับว่าตอนแรกฉันไม่ไว้ใจแพลตฟอร์มนี้ แต่ฉันอยากลองด้วยตัวเองจริงๆ สิ่งแรกที่ฉันทำคือสร้างบัญชีในหน้าลงทะเบียนของระบบนี้ ฉันใช้เวลาประมาณ 2 นาที ผู้จัดการแพลตฟอร์มโทรมาหาฉันและยืนยันการลงทะเบียนของฉัน แต่หลังจากฝากเงินแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่กี่นาทีต่อมา ฉันก็รู้สึกดีใจ แต่แล้วฉันก็เห็นสถิติ - การซื้อขายครั้งแรกของฉันเป็นเงิน 740 บาทไทย ในช่วงไม่กี่นาทีแรกบนแพลตฟอร์ม ฉันสูญเสียเงินไปมากแล้ว แต่ในการซื้อขายครั้งต่อไปและครั้งต่อๆ มา ฉันก็ได้รับกำไร ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ยอดเงินของฉันเพิ่มขึ้นจาก 9,000 เป็น 9,273 บาทไทย!” วันที่ 2: "เช้านี้ฉันเริ่มเช็คยอดเงินคงเหลือ และพบว่ามียอดถึง 15,887 บาทแล้ว ลองนึกดูสิ ยอดเงินคงเหลือของฉันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในหนึ่งวัน ฉันตั้งใจจะถอนกำไรออกมา แต่ฉันตัดสินใจรออีกสัปดาห์หนึ่ง" วันที่ 7: "ฉันไม่ได้ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในแพลตฟอร์ม Nearest Edge เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ เป็นเรื่องยากเพราะฉันกลัวว่าเงินของฉันจะหายไป" แต่พอผมล็อกอินเข้าบัญชีซื้อขาย ก็เห็นรูปนี้ครับ กำไรเกือบ 85% ของการซื้อขายทั้งหมด ที่เหลือ 15% ขาดทุนแต่ก็คืนทุนได้ไม่ยาก ตอนนี้เงินคงเหลือของผมคือ 145,411 บาท! ผมถอนเงิน 140,000 บาทไปซื้อของขวัญให้ภรรยา เงินมาถึงภายใน 1 ชั่วโมง และเงินที่เหลือยังคงสร้างรายได้ให้ผมอย่างต่อเนื่อง นี่คือใบแจ้งยอดบัญชี: 1621A101 สมนึก กุปตะ 25 ซอยสุขุมวิท 53, 10110 กรุงเทพฯ รหัสการจำแนกประเภท ระดับชาติ 93-14-13 ชื่อบัญชี สมนึก กุปตะ โทรศัพท์ +66 2 127 5359 หมายเลขบัญชี 17845-21 SWIFT: BOTHTHBK วันที่ 10.10.2024 ธุรกรรม Nearest Edge Platform เดบิต 140000 เครดิต - สมดุล 518264 ขอขอบคุณที่เลือกธนาคารของเรา! "ไม่มีอะไรจะดีไปกว่า Nearest Edge ! หากฉันไม่ถอนเงินรายได้ของฉันออกไป เงิน 9,000 บาทไทยเริ่มต้นนั้นจะกลายเป็นเงิน 1 ล้านบาทในเวลาเพียง 11 สัปดาห์" นี่คือคำแนะนำสั้นๆ เกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นสร้างรายได้จาก Nearest Edge : 1. ใช้ลิงก์ที่จัดทำโดยสุทธิชัย หยุ่น 2. รอรับสายจากผู้จัดการส่วนตัวของคุณเพื่อยืนยันการลงทะเบียน 3. เติมเงินเข้าบัญชีของคุณ ขั้นต่ำในการเริ่มโปรแกรมคือ 9,000 บาท 4. ควบคุมผลกำไรของคุณด้วยผู้ช่วยส่วนตัว 5. ถอนรายได้ของคุณไปยังบัตรธนาคารใดก็ได้ 6. จนถึงวันที่ 08.11.2024 การลงทะเบียนบัญชีจะไม่มีค่าใช้จ่าย เยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ avatar 4 สุนีย์ รัตนรักษ์ 12 นาทีที่แล้ว มันได้ผลจริงเหรอ? ฉันเคยได้ยินเรื่องทำนองนี้มาบ้างแต่ไม่เห็นรีวิวเลย รายงาน avatar 8 แขก 16 นาทีที่แล้ว สุทธิชัย หยุ่นเป็นคนดีและทำหน้าที่ได้ดี ขอแสดงความนับถือ👏🔥 รายงาน avatar 5 วรรณา พิริยะ 32 นาทีที่แล้ว ฉันตื่นเต้นมาก! ใครจะคิดว่าการตัดสินใจของรัฐแบบนี้จะน่าสนใจกว่าการจ่ายเงินแบบธรรมดาๆ มาก ฉันประทับใจที่ Nearest Edge เป็นแพลตฟอร์มทางกฎหมายแห่งแรกในประเภทนี้ ความกลัวที่จะสูญเสียเงินเคยทำให้ฉันลังเล แม้ว่าฉันจะรู้ว่ามีการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมาก แต่สิ่งนี้ก็เป็นเพียงเส้นชีวิตเท่านั้น! รายงาน avatar 9 ศักดิ์ชัย ศรีสวัสดิ์ 50 นาทีที่แล้ว ฉันเพิ่งถอนเงินที่ได้มา... ใช้สมองของคุณแล้วลงทะเบียน คุณกำลังพลาดโอกาส และคุณจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต รายงาน avatar 13 แขก ศักดิ์ชัย ศรีสวัสดิ์ 11 นาทีที่แล้ว ฉันเองก็ระมัดระวังเว็บไซต์ประเภทนี้อยู่เสมอ ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาไม่ได้หลอกลวง แต่มีคนพูดถึงแพลตฟอร์มนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ฉันอ่านรีวิวของคนอื่นๆ ถามคนรู้จักสองสามคน (ปรากฏว่าพวกเขาเป็นนักลงทุนที่กระตือรือร้นมาเป็นเวลานาน) และในที่สุดก็เห็นบทความเกี่ยวกับคำกล่าวของประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ ฉันจึงตัดสินใจทันทีที่จะลองใช้เอง ฉันจะบอกสิ่งหนึ่ง: มันยอดเยี่ยมมาก นี่เป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาที่สุดในการสร้างรายได้ จริงๆ แล้ว คุณสามารถสร้างรายได้ในขณะที่นอนอยู่บนโถส้วม อย่าทำโทรศัพท์ตกน้ำ)))) รายงาน avatar 7 อารยา สงวนศรี 56 นาทีที่แล้ว ฉันได้ยินเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนี้มานานแล้วแต่ก็ลืมที่จะหาข้อมูลอยู่เสมอ ขอบคุณสำหรับข้อมูล :) รายงาน avatar 18 ปวีณา อมรรัตน์ 1 ชั่วโมงที่แล้ว ตอนนี้ฉันมีโอกาสได้ไปเที่ยวพักผ่อนในปีนี้ :) และสิ่งที่ดีที่สุดก็คือในขณะที่ฉันพักผ่อน ระบบก็จะทำเงินได้ทั้งวันทั้งคืน มันเป็นความฝันที่เป็นจริง! รายงาน avatar 11 วิทยา พรหมมาศ 1 ชั่วโมงที่แล้ว ฉันลงทะเบียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและได้รับเงินไปแล้ว 40,000 บาทไทย ! ขอแนะนำอย่างยิ่งสำหรับทุกคน 😏 รายงาน avatar 12 จารุวรรณ เจริญสุข 2 ชั่วโมงที่แล้ว นักข่าวของคุณได้รับเงินน้อยมากในช่วงหลายวันของการทดลอง ส่วนฉันแทบจะหาเงินได้ไม่เท่ากับบรรณาธิการของคุณในช่วงสี่วันนั้นเลย 😜😜😜😜😜 รายงาน avatar 33 สันติ รัตนาวดี 2 ชั่วโมงที่แล้ว พวกเราเพิ่งลงทะเบียนไป ขอให้โชคดีนะ! รายงาน avatar 22 วิไล นันทิกานต์ 2 ชั่วโมงที่แล้ว สมัครไป 2 วันยอดเงินคงเหลือตอนนี้ 67,000 บาท กำลังคิดว่าจะถอนเงินหรือเร็วไป ยังไม่ได้ทำอะไรเลย กลายเป็นได้เงินอัตโนมัติเฉยเลย 😅😅😅 รายงาน avatar 6 นรินทร์ พิพัฒน์ชัย 2 ชั่วโมงที่แล้ว ฉันตกใจมาก และเพื่อนๆ ของฉันก็ตกใจเช่นกัน ตอนแรกฉันคิดว่ามันเป็นการหลอกลวงประเภทหนึ่ง ไม่ชัดเจนว่าทำงานอย่างไรและอย่างไร แต่แล้วผู้จัดการก็ติดต่อฉันและอธิบายทุกอย่างอย่างละเอียด กลายเป็นว่าง่ายมาก! ฉันทำงานหนักมาตลอดและไม่คิดว่าจะหารายได้ด้วยวิธีนี้ได้..) สรุปสั้นๆ ก็คือ ฉันซื้อรถ ขอให้โชคดีทุกคน แนะนำแพลตฟอร์มนี้เป็นอย่างยิ่ง 👍 รายงาน avatar 6 วีระ วัฒนากุล 7 ชั่วโมงที่แล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูล ฉันเริ่มทำเมื่อ 4 สัปดาห์ที่แล้วในโครงการทดลองในฐานะบรรณาธิการข่าวของคุณ ฉันได้รับเช็ค 12 ใบ รวมเป็นเงินประมาณ 800,000 บาทไทย เจ๋งมาก
    Joke.Air
     •  1 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อยู่​นอร์เวย์​ค่ะ อยากบอกว่าตั้ง​สติแล้วอ่านตรงนี้น่ะค่ะเผื่อมีประโยชน์​ไม่มากก็น้อยค่ะ ตอนนี้​ คนไทยในนอร์เวย์​ติดโควิดสายพันธุ์​ใหม่​กันเยอะมาก หลายคนหายแล้ว แต่อีกหลายคนก็เริ่มเป็น​ ไม่มีใครได้ไปอยู๋​โรงบาลสักคน ยกเว้นเคสที่ไม่สามารถ​หายใจเองได้ หมอไห้กักตัวอยุ่​ในบ้าน เพื่อนฝูงช่วยกันผลัดเปลี่ยน​ทำอาหารไปวางไว้หน้าประตู​ทุกวัน การปฏิบัติ​คนไทยที่ติดโควิดในนอร์เวย์​คือ 1=หมอไห้กักตัวอยุ่​แต่ในบ้านห้ามออกไปไหน 2=ดื่มน้ำขิง​สำเสร็จ​รูป​ 3=ดื่ม​น้ำขิงสด 4= ดื่มน้ำมะนาวดื่มอะไร​ที่เกี่ยวกับร้อนๆห้ามดื่มน้ำเย็น​ 4=และนี่เลยค่ะตัวเอกของโรคนี้ที่คนไทยในนอร์เวย์​หายกันทุกคนโดยที่หมอในนอร์เวย์​ไม่ได้รักษา​แต่อย่างใด 👉ฟ้าทะลายโจรแบบแคบซูล)​ เป็นยาที่ฆ่าเขื้อไวรัสนี้อย่างดี และนอนๆๆพักผ่อนไห้มากที่สุดหายแน่นอนค่ะ เพื่อนสนิทเป็นทั้งครอบครัว เรานี่แหละ​ค่ะที่เอาฟ้าทะลาย​โจรไปไห้เขาได้กิน จากที่เขาเจ๊บคอแสบเหมือนโดนมีดกรีดหลอดคอ และไข้ขึ้นมาก ปวดหัวแทบระเบิด คืนเดียวเองไข้ลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ คอลดปวดแสบลง ลดลงเรื่อยๆจนตอนนี้เพื่อนหายปกติกทั้งครอบครัว​ได้2-3อาทิตย์​แล้ว​ค่ะ ยังไม่มีใครตายสักคนค่ะ ยกเว้นคนที่ติดมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับ​ปอดหรือคนที่สูบบุหรี่​ปอดไม่แข็งแรง​หรือหอบหืดที่อันตราย​ค่ะ เพราะ​โควิดมันเล็งปอดอย่างเดียว เมืองไทยเราหายานี้ง่าย มีขายทั่วไป เราเอามานอร์เวย์​แค่3กะปุ๊​กเราสละไห้เพื่อน ตอนนี้​เราเองก็ต้องดูแลตัวเองเชฟตัวเองไห้ดีที่สุด จนกว่าจะได้คิวฉีดวัคซีน​ ไม่ต้องกลัวค่ะ ทำตามที่บอกเลย จากประสบการณ์​จริงค่ะ เป็นกำ​ลัง​ใจ​ไห้​คนไทยทุกน่ะค่ะ​
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จากดร.อาทิตย์. อุไรรัตน์ ถึงคนไทยทั้งประเทศ ท่านรู้หรือไม่? มีเรื่องพวกนี้ เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ ฟังแล้วอย่าเมินเฉย. หนึ่งคะแนนเสี่ยงของท่านช่วยกันแก้วิบัติของชาติได้ " 5 ปีแห่งความทุกข์ระทมของประชาชน 5 ปีแห่งความหายนะของชาติบ้านเมือง บอกได้คำเดียวว่า หนักกว่านักการเมืองอาชีพ ชาตินี้คงจะหาผู้นำที่สร้างความบรรลัยให้ชาติบ้านเมืองมากเท่าลุงคนนี้ไม่มีอีกแล้ว โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ให้เจ้าสัว/นายทุน น่าเกลียดจริงๆ > ที่ดินรถไฟมักกะสันปอดของกรุงเทพฯที่ ร.5 ท่านประทานไว้เป็นสาธารณะประโยชน์กับคนไทย ก็ใส่พานประเคนให้เจ้าสัวซี.พี. > ยกที่ดินยาสูบให้นายทุนไปทำอหังสาฯ และยังปรับภาษีสรรพสามิตบุหรี่ไทย ทำให้บุหรี่ไทยแพงขึ้นเทียบเท่าบุหรี่นอก คนก็เลยหันไปสูบบุหรี่นอก ทำให้โรงงานยาสูบที่เคยกำไรหมื่นล้าน กลายเป็นขาดทุนหลายพันล้าน > ให้เจ้าสัวเจริญต่อสัญญาเช่าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยไม่ต้องประมูลแข่งขัน และแก้ไขสัญญาเช่าจาก 25 ปี เป็น 50 ปี > ให้ต่างชาติ+นายทุน เช่าที่รัฐ 99 ปี ปชช.ไม่เห็นด้วยก็เปลี่ยนเป็นให้เช่า 50 ปี ต่อสัญญาได้อีก 49 ปี สรุปคือให้เช่า 99 ปี > เดินหน้าโครงการเศรษฐกิจพิเศษ 10 จังหวัด(นิคมอุตสาหกรรม) บางพื้นที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม บางพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นิคมอุตสาหกรรมสกปรก อันตรายแค่ไหนก็ดูมาบตาพุดเป็นตัวอย่าง > ยกที่สาธารณะ ที่ป่า รวมถึงไล่ยึดที่ดินทำกินชาวบ้านไปยกให้นายทุนทำเศรษฐกิจพิเศษ > ให้ต่างชาติซื้อที่ดินใน 13 จังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ไม่อั้น > โครงการ EEC เอื้อประโยชน์สุดๆให้ต่างชาติและนายทุน ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 13 ปี / อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17% ต่ำสุดในอาเซียน / ยกเว้นภาษีนำเข้า เครื่องจักร วัตถุดิบ / สนับสนุนค่าใช้จ่าย ในการลงทุน การวิจัย / อนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ ที่ดิน / ให้สิทธิ์การเช่าที่ดินรัฐ ถึง 50 ปี และสามารถพิจารณา ต่ออายุอีก 49 ปี / วีซ่าทำงาน 5 ปี > มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช และ บางใหญ่-กาญจนบุรี ใช้เงินภาษีประชาชนสร้าง 1.4 แสนล้าน แต่ไม่มีปัญญาทำด่านเก็บเงิน ต้องให้เอกชนมาสัมปทานเป็นผู้ทำด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง โดยรัฐจ่ายค่าจ้างให้เอกชนปีละ 2,000 ล้าน สัญญา 30 ปี รวยแบบง่ายๆไม่ต้องมีความเสี่ยงใดๆ > ดึงโครงการทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และบางนา-ชลบุรี เข้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์เอื้อประโยชน์ให้นายทุนรวย > ค่าโง่คลองด่านคดียังไม่สิ้นสุด แต่รีบจ่ายงวดแรกไป สุดท้ายศาลตัดสินว่าไม่ต้องจ่ายค่าโง่ แต่ค่าโง่งวดแรกที่จ่ายไปก็ไม่ยอมทวงคืน > ส่อแววล้มมวยเรื่องค่าโง่เหมืองทองคำ ที่ถูกบริษัทคิงส์เกตจากออสเตรเลียฟ้องร้อง เพราะคิงส์เกตเคยติดสินบนรัฐมนตรีอุตสาหกรรมไทย และข้าราชการระดับสูงของไทย ในสมัย คสช. 3,000 ล้าน โดยทางตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียส่งหลักฐานการโอนเงินมาให้กลต.ไทย และได้ส่งต่อมาให้ปปช.อีกทีในปี 2558 แทนที่รัฐบาลจะเร่งรีบตรวจสอบเอาผิด เพื่อนำมาใช้ต่อสู้คดีถูกฟ้องเรียกค่าโง่ ซึ่งก็จะทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ ก็กลับดองเรื่องเงียบ ไม่เคยพูดถึงสักแอะ ส่อเจตนาจริงๆ > เบื้องหน้าสั่งปิดเหมืองทอง แต่เบื้องหลังยังเดินหน้า มีการไล่ยึดที่ดินชาวบ้านไปยกให้นายทุนทำเหมืองทอง > เอาเงินสำรองระหว่างประเทศไปเล่นหุ้น > ข้าวดี ตีเป็นข้าวเสื่อมราคาแล้วขายถูกเอื้อประโยชน์นายทุน > ขายเหมาเข่ง 11 รัฐวิสาหกิจสมบัติของชาติ โดยใช้แผนตบตาคนไทยด้วยการตั้งบรรษัทรัฐวิสาหกิจ อ้างให้รัฐดูแล แต่เปิดทางให้นายทุนเข้ามาถือครอง > ปลดล็อคผังเมืองเอื้อนายทุน โครงการที่ทำลายสิ่งแวดล้อม-ชุมชน ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป > ผ่านพรบ.แร่เอื้อนายทุน ทีนี้ประทานบัตรเหมืองแร่ไปทับที่ดินชาวบ้านคนไหน เจ้าของที่ดินก็จะกลายเป็นผู้บุกรุกที่ดินตนเอง > ไล่ยึดที่ดินทำกินชาวบ้านที่อยู่ทำกินมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ เพื่อไปยกให้นายทุนทำเหมืองแร่ ชาวบ้านคนไหนไม่ยอม ก็ฟ้องเอาติดคุก มีติดคุกไปหลายราย ผู้สูงวัยทั้งนั้น > เดินหน้ายัดเยียดเหมืองโปรแตซทำลายเกษตรกรรมที่ภาคอีสาน เอื้อนายทุน >ยัดเยียดการสร้างเขื่อนวังหีบ จ.นครศรีธรรมราช และแอบอ้างว่าเป็นโครงการพระราชดำริในหลวง ร.9 เพื่อให้ปชช.ยอมรับ ทั้งที่ในหลวงท่านไม่เคยยัดเยียดโครงการใดๆถ้าหากปชช.ไม่ต้องการ(โครงการนี้มีปชช.ทูลขอพระราชทาน ในหลวงท่านจึงได้ให้หน่วยงานรับผิดชอบไปศึกษาโครงการ แต่สรุปแล้วไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์ และยังไปทำลายป่าลุ่มน้ำชั้น 1 โครงการจึงล้มเลิกไป แต่ถูกดันโครงการอีกครั้งในรัฐบาลนี้และยังมีการแอบอ้างว่าเป็นโครงการของในหลวง สารเลวจริงๆ) > เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินสกปรกหลายจังหวัดเอื้อประโยชน์นายทุนเหมืองถ่านหิน ทั้งที่ทั่วโลกทยอยยกเลิก เพราะมันสกปรกมีมลพิษอันตราย > ยัดเยียดการขุดเจาะปิโตรเลียมที่บ้านนามูล ดูนสาด จ.ขอนแก่น เอื้อนายทุนบริษัทน้ำมัน มีชาวบ้านคัดค้าน ก็ส่งฝ่ายปกครองไปข่มขู่ให้ยินยอม > เชฟรอนโกงภาษี 3,000 ล้าน แทนที่จะไล่กลับอเมริกา กลับใจดีต่อสัมปทานให้แหล่งทานตะวันในอ่าวไทยของเชฟรอนไปอีก 10 ปี ที่สุดอุบาทว์คือ คิดค่าลงนามต่ออายุสัมปทานแค่ 15 ล้านบาท และส่วนแบ่งจากการขายเพียง 1% จากมูลค่าปิโตรเลียมของแหล่งนี้ 3-5 แสนล้านบาท(แหล่งนี้ขุดน้ำมันดิบมูลค่า 40 ล้านบาท/วัน ขุดวันเดียวก็ได้เงินมากกว่าที่จ่ายค่าลงนามต่อสัญญากับรัฐกว่าเท่าตัวแล้ว และแหล่งนี้ยังมีก๊าซธรรมชาติอีกมาก) > เชฟรอนเจตนาสำแดงใบขนน้ำมันปลอดภาษีเท็จซ้ำซาก ผิดกฏหมายอาญาแผ่นดิน ก็อุ้ม ไม่เอาผิด และยังให้ร่วมประมูลสัมปทาน > ส่วนกรณีนี้ยิ่งหนัก 7 บริษัทน้ำมันทำผิดกฏหมาย ลักลอบขุดน้ำมันในที่ส.ป.ก. ศาลปกครองจึงมีคำสั่งให้เลิกขุด แต่นอกจากคสช.จะไม่เอาผิดแล้ว ยังใช้ ม.44 ล้างผิดให้ และแก้กฏหมายส.ป.ก.อนุญาตให้เอกชนขุดน้ำมันในที่ส.ป.ก.ต่อไปได้ ขนาดคำสั่งศาลยังไร้ความหมาย แล้วบ้านนี้เมืองนี้จะอยู่กันอย่างไร > มีก๊าซ มีน้ำมันเต็มแผ่นดิน แทนที่จะขุดเอง เพื่อให้รายได้เข้ารัฐเต็มๆ ไม่ต้องไปแบ่งให้ใคร ก็ไปแจกสัมปทานให้ต่างชาติรวย > แจกสัมปทานปิโตรเลียมโดยเลือกระบบที่รัฐเสียประโยชน์ ระบบจ้างผลิตที่รัฐได้ประโยชน์ 80-90% ไม่เอา แต่เลือกระบบ PSC(จำแลง) ที่ได้ส่วนแบ่งแค่ 30% > แก้ไขพรบ.ปิโตรเลียมให้ไทยตกเป็นทาสบริษัทน้ำมันต่างชาติหนักข้อขึ้นกว่าเดิม > แก้ไขพรบ.ปิโตรเลียม ลดการจัดเก็บภาษีรายได้จากบริษัทน้ำมันผู้สัมปทาน จากเดิมเก็บอยู่ 50% ก็ลดเหลือ 20% > ก่อนคสช.เข้ามา เก็บภาษีรายได้จากผู้สัมปทานปิโตรเลียมได้ราว 1 แสนล้านบาท/ปี ปัจจุบันเก็บแค่ไม่ถึง 4 หมื่นล้านบาท/ปี > ขูดรีดภาษีน้ำมันปชช. อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตกว่าทุกรัฐบาล > ก่อนคสช.เข้ามา เก็บภาษีน้ำมันปชช.อยู่ราว 6 หมื่นล้านบาท/ปี ปัจจุบันเก็บ 2.2 แสนล้านบาท/ปี ขึ้นราคาก๊าซ LPG อย่างบ้าคลั่ง ขึ้นมากที่สุดกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านๆมาชนิดทิ้งไม่เห็นฝุ่น > ขึ้นลงราคาน้ำมันไม่เป็นธรรมกับปชช. ตลาดโลกขึ้น น้ำมันไทยรีบขึ้นราคาตาม ตลาดโลกลดลง น้ำมันไทยไม่ค่อยจะลงตาม และหลายครั้งขึ้นราคาสวนทางตลาดโลกแบบหน้าด้านๆ และตอนขึ้น 50 สตางค์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนตอนลง 20-40 สตางค์เป็นส่วนใหญ่ ขึ้นลงลักษณะนี้จนปชช.ด่าจนหมดคำด่าไปแล้ว > แยกธุรกิจค้าน้ำมันออกจากปตท.ไปยกให้นายทุน > ขายหุ้นโรงกลั่นบางจากที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ให้กลุ่มทุน > ขายหุ้นโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม(SPRC)ที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ให้นายทุน > ปตท.โกงท่อก๊าซ ก็ไม่ยอมทวงคืน > แยกท่อก๊าซออกจากปตท.ไปให้นายทุน > อุ้มธุรกิจปิโตรเคมีของปตท. ด้วยการยกเลิกเก็บเงินภาคปิโตรเคมีเข้ากองทุนน้ำมัน ทั้งที่เดิมเขาก็จ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันน้อยกว่าประชาชนอยู่แล้ว ทำให้ทุกวันนี้ภาคปิโตรเคมีไม่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันสักบาท ทั้งที่ใช้ก๊าซ LPG มากกว่าใคร ใช้มากกว่าภาคครัวเรือนที่คนไทยใช้หุงต้มกันทั้งประเทศอีก > เขมรบุกยึดที่นาคนไทยที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ก็ไม่ขับไล่ออกไป แถมให้คนของรัฐไปกล่อมชาวบ้านให้แบ่งที่ให้เขมร อ้างเพื่อความสัมพันธ์(น่าจับไปตัดคอทิ้งจริงๆ) > ปล่อยเขมรสร้างอนุสาวรีย์บนพื้นที่ทับซ้อนที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ละเมิดข้อตกลงไทย-เขมร ที่ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ทับซ้อน > ปล่อยเขมรเอาหลักเขตมาปักบนปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ คนไทยรักชาติจะถอนออก ก็สั่งทหารใหญ่ที่ดูแลให้ล้อมลวดหนามเอาไว้ไม่ให้ถอนออก(ระยำจริงๆ) > ปล่อยเขมรสร้างกาสิโนล้ำแดนที่ด่านช่องสายตะกู บุรีรัมย์ คุณวีระ สมความคิดจะไปตรวจสอบ ก็ถูกข่มขู่ > MOU43 เขียนสมัย ชวน หลีกภัย รองรับแผนที่เขมร จะทำให้ไทยเสียดินแดนบนบกในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-เขมร และ MOU44 ที่เขียนสมัย ทักษิณ ชินวัตร ไปรองรับไหล่ทวีปเขมร จะทำให้ไทยเสียพื้นที่ทางทะเลในบริเวณเกาะกูดที่มีน้ำมัน คสช.ก็กอดไว้เหนียวแน่น ไม่ยอมยกเลิก > ปล่อยเขมรบุกยึดดินแดนอย่างง่ายดายในหลายพื้นที่ ไม่คิดปกป้องอธิปไตย แต่ช็อปอาวุธกระจาย ทั้งรถถัง เครื่องบินรบ เรือดำน้ำ > ในหลวงเคยรับสั่งว่าทะเลบ้านเราตื้น ไม่เหมาะกับการมีเรือดำน้ำ แต่ลุงซื้อเรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล้านหน้าตาเฉย >อ้างศาสตร์พระราชา อ้างเศรษฐกิจพอเพียง แอบอ้างในหลวง โหนพระองค์ท่านเรียกคะแนนนิยมให้ตัวเอง แต่ทำตรงข้าม ทั้งอุ้มทุน ทั้งใช้จ่ายเกินตัว ฟาดแต่เมกกะโปรเจ็ควงเงินสูงๆ สร้างหนี้มากมายมหาศาล > เขียนรัฐธรรมนูญเปิดทางขายชาติให้ทางสะดวก ม.190 เดิม เรื่องหนังสือสัญญา การค้า การลงทุนระหว่างประเทศ ที่ทั้งประชาธิปัตย์ และเพื่อไทยพยายามแก้ไข เพื่อให้ผ่านสภาง่ายๆ โดยเรื่องที่จ้องกันตาเป็นมัน ก็คือเรื่องของการตกลงแบ่งผลประโยชน์พลังงานบนพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยกับเขมร แต่ประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยแก้ไม่สำเร็จ เพราะถูกปชช.รู้ทันคัดค้าน แต่สุดท้ายก็มาสำเร็จด้วยฝีมือลุงตู่ เพราะไปหลอกคนไทยว่าเป็นรธน.ปราบโกง และห้ามวิพากษ์วิจารณ์รธน.ก่อนลงประมามติ โดยโยกไปแก้ที่ ม.178 เพื่อหลบหลีกสายตาคนไทย > เขียนรธน.ม.146 ริดรอนอำนาจพระมหากษัตริย์ จากเดิมที่ร่างพระราชบัญญัติใดๆ ถ้าพระมหากษัตริย์ทรงไม่เห็นชอบด้วย และพระราชทานคืนมายังรัฐสภา หรือเมื่อครบ 90 วันแล้วยังไม่พระราชทานคืนมา รัฐสภาจะต้องปรึกษาร่างพระราชบัญญัตินั้นใหม่ ก็แก้ไขเป็นว่า ถ้าเสียง 2 ใน 3 ของสภาเห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัตินั้น ให้นายกฯนำร่างพระราชบัญญัติทูลเกล้าอีกครั้ง ถ้าพระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงปรมาภิไธย หรือไม่พระราชทานคืนมาภายใน 30 วัน ก็ให้นายกฯนำพระราชบัญญัตินั้นประกาศใช้ได้ เสมือนว่าพระมหากษัตริย์ได้ลงปรมาภิธัยแล้ว(หลังรธน.ผ่านการลงประชามติ และได้นำทูลเกล้า ก็ได้มีการตีกลับให้ไปแก้ไขในหมวดอำนาจพระมหากษัตริย์ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับมาตรานี้หรือเปล่า เพราะนายกฯปิดปากเงียบ) ฯลฯ ทุกเรื่องที่ว่าไป มาจากสื่อหลักๆ ผมเคยทำโพสต์และแชร์ออกไปแล้วทั้งนั้น นี่แค่เท่าที่จำได้นะ หรือถ้าใครมีข้อมูลเพิ่มเติม ก็มาบอกไว้ในคอมเม้นต์ได้ ผมจะนำมาใส่เพิ่มเติม อาทิตย์ อุไรรัตน์ ช่วยกันส่งต่อให้ประชนคนไทยทุกคนทราบทั่วกันอย่าได้เลือกมันกลับมาทำลายชาติบ้านเมืองของเราอีกเลย
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    .. # Post นี้ ตัองขอร้องให้อ่านเพื่อ Safety ของทุกครอบครัวนะคะ.. เป็น warning จากบริษัทSHELLค่ะ เรื่อง: คำเตือนจากบริษัทน้ำมันเชลล์ -- ต้องอ่าน!. Shell Oil Report!... (MUST READ) กรุณาส่งนี้ข่าวสารให้ทุกคนใน ครอบครัวและ เพื่อนของคุณ โดยเฉพาะผู้ที่ มีเด็กในรถกับ พวกเขาในขณะ เติมน้ำมัน. หากมีเกิด ขึ้น,พวกเขาอาจ จะไม่สามารถที่ จะช่วยเด็กออก มาทันเวลา ต้องอ่าน, แม้ว่าคุณจะไม่มีรถ คำเตือน จากบริษัทน้ำ มันเชลล์ -- ต้องอ่าน! แจ้งเตือนความ ปลอดภัย! นี่ คือสาเหตุที่เราไม่อนุญาตให้พกโทรศัพท์มือถือใน · พื้นที่ปฏิบัติการ, · พื้นที่จัดการและจัดเก็บโพรพิลี นออกไซด์ · พื้นที่ถ่่ายโพรเพน,น้ำมันและ ดีเซล บริษัท น้ำมันเชลล์เพิ่งออกคำเตือนเมื่อเร็วๆนี้หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น3ครั้ง ที่โทรศัพท์มือถือ (โทรศัพท์มือ ถือ)เกิดประกาย ไฟ ทำให้ไอน้ำมันลุกเป็นไฟระหว่างการดำเนินการเติมน้ำมัน ในกรณีแรก โทรศัพท์ ถูกวางไว้บน ฝากระโปรงหลัง ของรถในระหว่าง การเติมน้ำมัน พอดีมีคนโทร เข้ามาทำให้ เครื่อง โทรศัพท์ดัง และเกิดไฟลุกไหม้ตามมา ทำให้รถและ ปั๊มเติมน้ำมัน เบนซินติดไฟ ไหม้ยับเยิน ในกรณีที่สอง ในขณะที่เติม น้ำมันรถ เจ้าของรถรับสายโทรศัพท์ที่เข้ามา ทำให้ไอน้ำมันติดไฟลุกพรึ๊บขึ้นมา เผาไหม้ใบหน้าของเขาอย่างสาหัส! และในกรณีที่ สาม, มีคนถูกไฟไหม้ที่ต้นขาและขาหนีบ เนื่องจากขณะ ที่เขาเติม น้ำมันรถของเขา โทรศัพท์ซึ่ง อยู่ในกระเป๋า กางเกงของเขา ดังขึ้น และทำให้ไอน้ำมันติดไฟลุกพรึ๊บขึ้นมา คุณควรจะรู้ว่า โทรศัพท์มือ ถือสามารถจุด ติดเชื้อเพลิง หรือไอน้ำมัน ลุกไหม้ได้ โทรศัพท์มือถือ ที่สว่างขึ้น เมื่อเปิดหรือ ที่ดังขึ้น เมื่อมีสายเข้า มา จะปล่อยพลังงานเพียงพอที่จะให้เกิดประกายไฟสำหรับจุดไฟติด โทรศัพท์มือถือ ไม่ควรใช้ใน สถานีเติม น้ำมัน หรือในขณะเติมน้ำมันลงในเครื่องตัดหญ้า, เรือ ฯลฯ ไม่ควรใช้หรือ ควรปิดโทรศัพท์ มือถือ เมื่ออยุ่ใกล้วัสดุใดๆ ที่ปล่อยไอหรือ ฝุ่นที่สามารถ ลุกติดไฟหรือ ระเบิดขึ้นได้ (เช่นตัวทำ ละลาย, สารเคมี, แก๊ส, ฝุ่นจากธัญญะ พืช, ฯลฯ .. ) สรุป มีสี่กฎเพื่อ ความปลอดภัยในระหว่างการเติมน้ำมัน : 1) ดับเครื่องยนต์ 2) ไม่สูบบุหรี่ 3) อย่าใช้ โทรศัพท์มือถือ ของคุณ – ทิ้งมันไว้ภายในรถหรือปิดเครื่องเสีย 4) ถ้า ออกมายืนนอกรถ ในระหว่างการ เติมน้ำมัน อย่าเข้าไปในรถของคุณจนกว่าจะเติมน้ำมันเสร็จ บ๊อบ Renkes แห่งสถ าบันอุปกรณ์ปิโตรเลียมกำลังเตรียม ทำแคมเปญให้คน ตระหนัก ถึงการเกิดเพลิงไหม้ที่เป็นผลมาจาก'ไฟฟ้าสถิตย์'ที่ปั๊มน้ำมัน บริษัท ของเขาได้วิจัย 150 กรณีของการเกิดเพลิงไหม้เหล่านี้ ผลลัพธ์ ที่เขาได้ เป็นที่น่าแปลกใจมาก : 1) จาก 150 กรณี เกือบทั้งหมดเกิดกับพวกผู้หญิง 2) เกือบ ทุกกรณีเกิด ขึ้นเมื่อเจ้า ของรถกลับเข้า ไปในรถของพวก เขาในขณะที่หัว จ่ายน้ำมันยัง คงจ่ายน้ำมัน อยู่ . เมื่อ หัวจ่ายน้ำมัน หยุดจ่ายน้ำมัน พวกเขาก็ออกมาจากรถเพื่อไปดึงหัวจ่าย น้ำมันออก และไฟลุกติดขึ้น อันเป็นผลจากไฟฟ้าสถิตย์ 3) ส่วนใหญ่ใส่ รองเท้าที่ส้น รองเท้าทำด้วยยาง 4) ผู้ชายส่วนใหญ่ ไม่กลับเข้าไปในรถของพวกเขาจนกว่าจะเติมน้ำมัน เสร็จสมบูรณ์ นี่คือเหตุผลที่พวกเขาไม่ค่อยประสพไฟไหม้จากสาเหตประเภทนี้ 5) อย่าใช้ โทรศัพท์มือถือ ขณะเติมน้ำมัน 6) ไอที่ระเหยออก มา่จากน้ำมัน และหากมันไปสัมผัสไฟฟ้าสถิตย์ที่อยู่ใกล้ คือสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ 7) มี 29 ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าของรถกลับเข้าไปในรถและหัวจ่ายน้ำมัน ถูกแตะต้อง(แล้วอะไรคือ”ถูกแตะต้อง”? ถูกขยับ?)ในระหว่างการเติมน้ำมัน. รถที่ไฟไหม้มีหลากหลายยี่ห้อและรุ่น บางกรณีส่งผล ให้เกิดความ เสีย หายอย่างกว้าง ขวางกับรถ กับสถานีและกับตัวลูกค้า 8) เกิด17 เพลิงไหม้ · ก่อน · ระหว่างหรือ · ทันทีหลังจาก ฝา ถังน้ำมันถูก ถอดออกแต่ก่อน ที่จะเติมน้ำมันเริ่ม .. นาย Renkes เน้นว่า อย่ากลับ เข้ามาในรถของ คุณในขณะที่ น้ำมันกำลังไหล ถ้า คุณจำเป็นต้อง เข้าไปในรถของ คุณในขณะที่ น้ำมันกำลังไหล อยู่, ก่อน ที่คุณจะดึงหัว ฉีดออก ต้องแน่ใจว่า ในตอนคุณออกจาก รถ คุณได้สัมผัสโลหะในขณะที่คุณปิดประตู วิธีนี้จะถ่ายประจุของไฟฟ้าสถิตย์ออกจากร่างกายของคุณก่อนที่คุณจะยกหัวจ่าย น้ำมันขึ้นมา ดัง ที่ผมกล่าวถึง ก่อนหน้านี้แล้วสถาบัน ปิโตรเลียมอุ ปกรณ์พร้อม กับหลาย ๆ บริษัทตอนนี้ กำลัง พยายามอย่างมาก ที่จะทำให้ประชาชน ตระหนักถึง อันตรายนี้ ฉัน ขอให้คุณกรุณา ส่งนี้ข้อมูลแก่ ทุกคนในครอบ ครัวและเพื่อนของ คุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่้งผู้ที่มีเด็กใน รถกับพวกเขา ใน ขณะที่เติม น้ำมันที่ปั๊ม หาก มีเกิดขึ้นกับ พวกเขา พวก เขาอาจจะไม่ สามารถที่จะ เอาเด็กออกมา ได้ทันเวลา
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false