1 คนสงสัย
เมื่อลูกข้าพเจ้าป่วยด้วยโรคร้ายแรงและเรื้อรัง
โดย นางศิราณี เอกัคคตาจิต 38/31บ้านธรรมรัตน์ ซอยธานี11 ถ.ธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000
โทร ,แฟ็ก 044-615040


ครอบครัวเรามีลูก 4 คน ผู้ชายล้วน พ่อบ้านชื่อ นพ.ศิริพงษ์ เอกัคคตาจิต รับราชการทำงานที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ จบแพทย์จุฬารุ่น 24 ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ ซี 9 ข้าพเจ้าเป็นแม่บ้านเต็มขั้น และความไม่เที่ยงก็เกิดขึ้น เช้าวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 ตื่นเช้ามาดูลูกคนที่ 3 ชื่อศักดา เอกัคคตาจิต เขาบอกยืนได้ขาข้างเดียว เจ็บข้อเท้าและเข่ามาก เราก็ไม่คิดว่าเป็นอะไรมาก เป็นจังหวะใกล้จะเปิดเทอมแรกของการเข้ามหาวิทยาลัย เขาเรียนแพทย์ศิริราชโดยสอบเข้าโควต้า แพทย์ศิริราช และสอบแข่งขันวิชาเคมีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2539 ไปนอนป่วยอยู่โรงพยาบาลศิริราช 2 อาทิตย์ หมอบอกให้ยาแก้ปวด แล้วดูอาการ ให้ใช้ไม้เท้าไปเรียนได้ 2 อาทิตย์ ปรากฏว่าอาการกำเริบเจ็บขยายมาที่หัวไหล่ทั้ง 2 ข้าง ต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งครั้งนี้หมอตรวจอาการแล้วถามข้าพเจ้าว่ามีลูกกี่คน ตอบว่ามี 4 คน คนโตทำงานแล้ว คนที่ 2 เรียนแพทย์ขอนแก่น คนป่วยเป็นคนที่ 3 รู้สึกหมอที่ถามมีสีหน้าดีขึ้นเพราะเขารู้แล้วว่าโรคที่ลูกเป็นอยู่นี้เข้าข่ายปวดข้อจูวีหน่ายรูมาตอย เพราะเจ็บข้อก่อนอายุ 17 ปีซึ่งค่อนข้างร้ายแรง เพราะแม้สถิติการรักษาต่างประเทศก็ยาก มีให้ได้ก็ยาแก้ปวดเท่านั้น เป็นมากหลายปีหน่อยก็จะพิการได้ หมอที่รักษา เขาก็บอกให้แม่ทำใจ และให้ยาแก้ปวดมากินที่บ้าน ความรู้สึกของแม่แทบล่มสลาย วันแล้ววันเล่าไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น จุกปวดกระเพาะอาหารขนาดหนักเพราะกินยาแก้ปวด กินยาเคลือบกระเพาะอาหารเต็มที่ก็ยังเจ็บท้องอยู่ นรกบนดินเป็นเช่นนี้เอง กินยาแก้ปวดข้ออย่างแรงเช้าเย็นแก้ได้ชั่วคราวต้องกินประจำ แม้ปวดกระเพาะอาหารก็ต้องกิน เจาะเลือดค่าอีเอสอาร์อยู่ระหว่าง 50-90 มม.ต่อชม.ซึ่งค่าปกติไม่เกิน 20 มม.ต่อชม. กินยามากจนถึงหูอื้อแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นช่วงนี้เขาก็ไปอยู่วัดกับหลวงพ่อ 5-6 เดือน ทำเรื่องลาเรียน 1 ปีระยะนี้ขาเริ่มลีบเพราะเจ็บข้อเท้ามากต้องนอนกับที่ เราเป็นชาวพุทธช่วงไหนที่จิตมีสมาธิก็อธิษฐานขอให้ลูกได้พบหนทางรักษาที่ถูกต้องด้วยเถิด จะได้หยุดยาแก้ปวดนี้เสียที ชีวิตที่เหลืออยู่นี้จะขนขวายทำแต่ความดี แล้วโชคก็มาถึง วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 ดร.พรพรรณและคุณเฉซึ่งเป็นญาติกับอาจารย์นิศา เชนะกุล ได้มาที่บ้านเพื่อไปกราบหลวงปู่ที่วัดเขาน้อย เขามาเห็นลูกชายป่วยเขาก็แนะนำให้ทานนมธัญพืช และน้ำผักปั่นที่มีคุณค่าอาหารโดยทานนมธัญพืชก่อนอาหารวันละ 1 แก้วและน้ำผักปั่นวันละ 4-5 แก้วทานได้ 20 วันหมอก็ให้เจาะอีเอสอาร์ดู ปรากฏว่าอีเอสอาร์ลดเหลือ 36 มม.ต่อชม.ลูกชายก็ร้องออกมาว่าเขาคงรอดตายและหายได้จากการทานอาหารนี้ ก็เริ่มมีกำลังใจรับประทานนมธัญพืชและน้ำผักปั่นมากขึ้นกินนมธัญพืชและน้ำผักปั่นอย่างละ 6-7 แก้วทุกวันและแช่น้ำร้อนสลับกับน้ำเย็นอย่างละ 3 นาทีและเ ริ่มไปอยู่วัดอีกเพื่อจะได้อยู่กับธรรมชาติ นอนหัวค่ำ(3ทุ่ม)และทานเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด พอทานได้ 1 เดือนก็หยุดยาทุกชนิด อีเอสอาร์ก็ลดลงเรื่อย ๆ เหลือ 20 มม.ต่อชม. ต่อมาก็เหลือ 12 ก็เท่ากับคนปกติ เจาะอีกครั้งหนึ่งก่อนไปเรียนวันที่ 1 มิถุนายน 2541 ค่าอีเอสอาร์เท่ากับ 1 มม.ต่อชม. เม็ดเลือดแดงจาก 33% เป็น 48% เม็ดเลือดขาวจาก 13500 ก็เหลือ 6500 พอไปเรียนได้ 5-6 เดือน เขาก็สามารถบริจาคเลือดให้กับโรงพยาบาลศิริราชได้ ญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดแม้นเพื่อนหมอด้วยกันก็รู้สึกเหมือนปาฎิหาริย์ ใครจะคาดคิดว่าจะหายจากโรคด้วยอาหาร
ข้าพเจ้าจึงต้องการเผยแพร่ให้ผู้ที่มีอาการปวดข้อเรื้อรังลองมาดื่มน้ำผักปั่น และนมธัญพืช อย่างละ 8-12 แก้วต่อวันเพื่อไม่ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากในการซื้อยาแก้ปวดข้อและยาป้องกันโรคกระเพาะอาหารเป็นแผล ซึ่งต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศทำให้เสียดุลย์การค้าระหว่างประเทศ และให้นอนแต่หัวค่ำ 3 ทุ่ม ทำจิตใจให้เบิกบาน นั่งสมาธิ ถ่ายอุจจาระทุกวันโดยกินอาหารที่มีกากใย ซึ่งเป็นอาหารธรรมชาติที่ไม่ผ่านขบวนการปรุงแต่ง ได้แก่เมล็ดธัญพืช ผักสด ผลไม้สด ไข่ขาว ไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ สัตว์ปีก กินแต่เนื้อ ปลาโดยนึ่งหรือต้มไม่ควรทอด เพราะจะมีไขมันมาก ไม่กินอาหารกระป๋องเพราะต้อง ผ่านขบวนการปรุงแต่ง ทำให้เสียคุณค่าอาหาร ไม่นอนอยู่ใกล้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยอย่าให้มีเครื่องทีวี ,วิทยุ,เครื่องคอมพิวเตอร์และตู้เย็นอยู่ในห้องนอน ออกกำลังกาย ทำกายภาพบำบัด เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อลีบ ก็อาจหายจากโรคปวดข้อเรื้อรังและไม่มีความพิการของแขนขาข้างที่ปวดข้อได้โดยปกติ
สูตรน้ำผักปั่น
1. ผักกาดหอม 2 ใบ (กล้ามเนื้อกระดูก เส้นเอ็น และทำให้ปอดแข็งแรง)
2. คี่นฉ่าย 2 ก้าน (ช่วยการหมุนเวียนโลหิตและหลอดเลือดแข็งแรง)
3. มะเขือเทศ 1 ลูก (เม็ดเลือดแข็งแรง)
4. หอมใหญ่ 1/4 ลูก ( หัวใจ แข็งแรง)
5. น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ ( ให้พลังงานรวม)
6. มะนาว 1 ลูก (ช่วยฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน)
7. แอปเปิ้ล 1 ลูก (ให้พลังงานสำรองม้ามสูงมาก)
8. น้ำเปล่า 2-4 แก้ว
วิธีล้างผัก ข้อควรระวังเรื่องการล้างสารพิษตกค้าง
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ลิตร แช่ผัก 1 กก. นาน 45 นาที กรณีพืช ผักและผลไม้มากควรใช้อ่างใบใหญ่ และแช่พืช ผักในอ่างที่ผสมน้ำส้มสายชู แล้ว เมื่อล้างเสร็จแล้วปั่นกินได้เลยผักที่เหลือแช่ตู้เย็นเก็บไว้ปั่นวันหลัง
ปั่นส่วนผสมทั้งหมดแล้วต้องกินทันทีถ้าจะเก็บไว้กินต้องแช่ตู้เย็นไว้ ไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 1 วัน

สูตรนมธัญพืช
1. เม็ดบัว 1 ส่วน
2. ลูกเดือย 1 ส่วน
3. ข้าวกล้อง 1 ส่วน
วิธีทำ แช่เม็ดบัว และลูกเดือยในน้ำร้อน 2 ชม. แล้วนำไปต้มจนสุกประมาณ ครึ่งชม. หุงข้าวกล้อง
จนสุก แล้วเอามาอย่างละ 1 ขีด หรือ 100 กรัม ปั่นจนเข้ากันดีใส่น้ำสะอาดต้มสุกพออุ่นพร้อมกัน จะได้นมธัญพืชที่มีคุณค่าอาหารดื่มได้เลย แต่มันจะจืด ถ้าใส่นมไวตามิลค์คนให้เข้ากันจะได้นมธัญพืชที่หวานตามจำนวนที่ใส่ตามต้องการ ถ้าต้องการเก็บเม็ดบัวและลูกเดือยที่ต้มสุกแล้วเอาไว้ปั่นกับข้าวกล้องวันหลังให้แช่ไว้ตู้เย็นช่องแข็งจะเก็บไว้ได้นาน
เอกสารอ้างอิง
1. ดร. รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงศ์ ความรู้เบื้องต้นเรื่องสุขภาพและธรรมชาติ โดยชมรมบ้านสุขภาพสมุทรปราการและระยอง
เอกสารเผยแพร่ ปี 2540 โทร 02-3944267
ไม่ระบุชื่อ
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น

ยาสมุนไพรภาคอีสาน

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    โรงพยาบาลราชวิถี ศาสตราจารย์เฉิน หุ่ยเหริน เน้นย้ำว่า หากทุกคนที่ได้รับข้อความนี้ สามารถส่งต่อให้คนอื่นได้สิบคน รับรองว่าจะมีชีวิตหนึ่งอย่างน้อยที่จะได้รับการช่วยชีวิต... ฉันได้ทำส่วนของฉันแล้ว หวังว่าคุณจะช่วยทำส่วนของคุณด้วย ขอบคุณ! 🍋 น้ำมะนาวร้อนสามารถช่วยชีวิตคุณได้ตลอดไป 🍋 ถึงจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องดู แล้วบอกคนอื่น ส่งต่อความรักออกไป! 🍋 น้ำมะนาวร้อน - ฆ่าเซลล์มะเร็งเท่านั้น! 🍋 หั่นมะนาว 2-3 ชิ้นบางๆ ใส่ในแก้ว เติมน้ำร้อน มันจะกลายเป็น "น้ำด่าง" ดื่มทุกวัน จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน 🍋 น้ำมะนาวร้อนสามารถปล่อยสารต้านมะเร็งที่ขมขื่น ซึ่งเป็นความก้าวหน้าใหม่ในการรักษามะเร็งในวงการแพทย์ น้ำมะนาวแช่แข็งมีแค่วิตามินซี เหมือนกับมะเขือเทศที่ต้องปรุงสุกถึงจะมีไลโคปีน 🍋 น้ำมะนาวร้อนมีผลต่อซีสต์และเนื้องอก ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถรักษามะเร็งทุกประเภทได้ 🍋 การใช้สารสกัดจากมะนาวในการรักษา จะทำลายเซลล์มะเร็งเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์ที่มีสุขภาพดี 🍋 นอกจากนี้... กรดมะนาวและฟลาโวนอยด์ในน้ำมะนาว สามารถปรับความดันโลหิต ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำลึก ปรับการไหลเวียนของเลือด ลดการเกิดลิ่มเลือด อ่านเสร็จแล้ว บอกคนอื่น ครอบครัว เพื่อน ส่งต่อความรักออกไป! ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีนะคะ 🙏🏻💖
    ไม่ระบุชื่อ
     •  7 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด เห็ดมีอันตรายจริงหรือ
    คนชอบกินเห็ดต้องอ่านให้จบ คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด ? คนขายเห็ดไม่กินเห็ด ? เห็ดนานาชนิด ที่เรารู้จักและคนก็ชอบกิน เพราะรสชาติที่อร่อยกินง่าย และเรารู้แต่ประโยชน์ที่มีอยู่ในเห็ดมากมาย แต่เราไม่เคยรู้ถึง....ผลเสียของเห็ด หมายเหตุ เห็ดที่พูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึง ทุกโรงเพาะเห็ดหรือเห็ดทั้งหมด แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เห็ดชนิดใดที่ปลอดภัย จึงอยากให้ทุกคนโปรดใคร่ครวญพิจารณา ยังไม่มีนักวิชาการคนใด พูดถึงผลเสียของเห็ด เราจะรู้กันแต่ประโยชน์ของเห็ด โดยเฉพาะถ้าเรากินเห็ด 3 ชนิดจะช่วยป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อสุขภาพ แต่เราไม่เคยรู้ที่มาที่ไป จากผลเสียที่ติดมากับเห็ดเลย จนมาวันนี้ ได้คุยกับคนขายเห็ดโดยเฉพาะเห็ดนางฟ้า วันนี้เรื่องราวที่จะมาเล่า. คำพูดคือความจริงทุกคำ ถ้าผู้อ่านช่วยส่งต่อเอาบุญ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ขอให้ทุกคนที่ชอบกินเห็ด ได้ป้องกันที่ตัวเรา ว่าเราควรจะกินเห็ดต่อไปหรือจะเลิกกินเห็ด จะได้ป้องกันตนเองจากโรคร้ายที่จะตามมาจากรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง จากการได้คุยเปิดใจ กับคนขายเห็ดหรือคนเพาะเห็ดขาย คุณมนัสมีอาชีพขายเห็ด ขายส่งต่อกับพ่อค้าแม่ค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำมาจนเข้าปีที่ 20 สิ่งหนึ่งที่รู้ในใจคือ จะไม่ให้ลูกและครอบครัวตัวเองกินเห็ดที่ขายเลย จนกระทั่งผลที่สุด....ร่างกายตัวเองทรุด หมดเรี่ยวหมดแรง ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัว เป็นมาแบบนี้มาเป็นเดือน ๆ จนไปให้หมอตรวจร่างกาย หมอบอกว่ามีเชื้อมะเร็งในกระแสเลือด แต่หาจุดที่เป็นไม่เจอ แต่ฟังจากหมอพูดว่า มะเร็งถ้าเป็นระยะที่ 1 หรือที่ 2 คงไม่พบ นี่อาจจะเป็นระยะ 3 หรือ 4 แต่หมอก็ยังเช็คไม่ได้ว่าเป็นตรงไหน คุณมนัสก็กลับบ้านมาด้วยใจหดหู่หมดกำลังใจ แต่มีลูกที่น่ารักถึง 7 คน มีภรรยาที่น่ารัก แม่พ่อและญาติที่รักอีกหลายชีวิต ที่จะทำให้ต้องสู้กับโรคร้าย จนกระทั่งคุณมนัสได้เปิดใจ เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลยคือ สาเหตุที่ทำให้เป็นมะเร็ง คือน่าจะมาจากสาเหตุ จากการสูดดมสารในตัวเห็ดที่ตัวเองต้องทำขายทุกวันนั้นเอง เราถามว่าทำไมถึงทำให้คิดอย่างนั้น คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การปลูกเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเข็ม จะต้องใช้ยาฆ่าหนอนหรือยาฆ่าแมลง และต้องใช้เป็นจำนวนมากทุกรอบ ที่ต้องการผลผลิตที่มากและดี ต้องไม่ให้มีหนอนและแมลง แล้วคุณมนัสไม้รู้หรือถึงได้เอามาขาย คุณมนัสตอบรู้ครับ เลยไม่ให้คนในครอบครัวกินเลย รวมทั้งเพื่อนพ้องที่ตัวเองรักก็ไม่แนะนำให้กิน เพื่อนบางคนถามผมว่า ทำไมไม่เอาเห็ดมาฝากบ้าง ทั้งที่มีอาชีพขายส่งเห็ด ในใจผมรู้แต่ไม่รู้จะตอบเพื่อนว่าไง แต่ไม่เคยเอาเห็ดนางฟ้าไปฝากใครเลย จนมาวันนี้เหมือนกับว่า สิ่งที่เจอจะเป็นเวรกรรมที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ ที่มาทำให้เป็นมะแร็ง ทั้งที่ไม่ได้กินเห็ดนางฟ้า ครอบครัวก็ไม่เคยกินเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเลย แต่ส่งขายให้คนกินทั้งประเทศ เวรกรรมจะมาย้อนที่หรือไม่ จึงถามไปว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น คุณมนัสเล่าต่อว่า ก่อนที่จะเป็นแบบนี้ เขาได้เห็นเจ้าของโรงเพาะเห็ด ที่ส่งเห็ดมาให้เป็นประจำ เป็นมะแร็งเต้านมและตัดเต้านมไปแล้ว และก็ไม่รู้ว่าจะหายหรือไม่ และลูกน้องที่ทำงานกับโรงเพาะเห็ด ก็มีอาการเจ็บป่วยไปทีละคนสองคนอย่างต่อเนื่อง และทุกคนที่ทำงานโรงเพาะเห็ด แต่ละคนมีสุขภาพไม่ดีกันเกือบทุกคน คุณมนัสไม่ได้เพาะเห็ดเอง แต่ผมเป็นผู้รับมาจำหน่ายต่อ ซึ่งล่าสุดก็มาพบเชื้อมะเร็งในกระแสเลือด จากนั้นจึงตั้งคำถามไปว่า เพราะอะไรที่ทำให้ทุกคนที่ทำงานตรงจุดนี้ จึงมีร่างกายไม่แข็งแรง คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การเพาะเห็ดต้องใช้ยาสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหนอนอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะเจ้าของโรงงานเพาะเห็ดและลูกน้อง ต้องสูดดมสารเคมีเหล่านั้น ถึงแม้คนปลูกเห็ดจะไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด แต่การสูดดมสารพิษพวกนี้ทุก ๆ วัน. มันก็สะสมในร่างกาย พอสะสมมาก ๆ ทุกวัน ๆ เลยมาแสดงอาการตอนมันเต็มที่แล้ว เมื่อขายเห็ดให้คนกินทั้งประเทศ แล้วผลเสียที่มีต่อคนอื่นต่อประชาชนคนที่ไม่รู้ เราก็จะเป็นบาปโดยที่ไม่รู้ตัวไหม เลยย้อนถามคุณมนัสว่า คุณมนัสเชื่อเรื่องเวรกรรมไหม โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวร คุณมนัสตอบมาวันนี้เข้าใจและเชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรม หลังจากเจอด้วยตัวเอง และคุณมนัสฝากบอกมาว่า ให้ประชาชนทุกคนจงรู้ว่า เห็ดถึงมีประโยชน์มาก แต่ก็มีโทษที่แอบแฝงมามากเช่นกัน เพราะถ้าคนที่เพาะเห็ดขายเพื่อหาผลกำไรมาก หรือต้องการกำไรมาก ก็จะใช้ยาฉีดที่เป็นอันตรายมากต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินเห็ด เริ่มแรกอาจมีผลข้างเคียง แต่นานไปถ้าสะสมมาก ๆ ก็จะเป็นเหมือนเจ้าของโรงเพาะเห็ดและคุณมนัสผู้ขายส่งต่อ หรือคนใกล้ชิดที่ทำอาชีพนี้ ซึ่งแต่ละคนก็มีสุขภาพที่ย่ำแย่กันทุกคน เรื่องราวที่เล่าให้ฟังนี้ ขอให้ประชาชนผู้บริโภค ได้เตรียมพร้อมและรู้ทัน ว่าควรกินเห็ดต่อหรือควรหลีกเลี่ยงการกินเห็ด เนื่องจาก คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด เพราะแบบนี้นี่เองหรือ โปรดส่งต่อเป็นวิทยาทาน
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แมว-สุนัข ห้ามกินกระดูก อันตรายถึงชีวิต จริงหรือ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    รับประทานผักกาดขาวหมัก รักษาตับอักเสบ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวบิดเบือน แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์
    ข่าวบิดเบือน แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ . ตามที่มีการโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องแพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน . กรณีการโพสต์ให้ข้อมูลโดยระบุว่าพบกรดเบนโซอิกในก๋วยเตี๋ยวประเภทต่างๆ โดยแพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า จากที่มีการแชร์ข้อมูลผลตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเมื่อปี 2550 ซึ่งสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในฐานะห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านการตรวจวิเคราะห์อาหารของประเทศ ได้มีการตรวจวิเคราะห์เฝ้าระวังการใช้วัตถุกันเสีย (กรดเบนโซอิคและกรดซอร์บิค) ในอาหารประเภทเส้นมาอย่างต่อเนื่อง . นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งการผลิตอาหารประเภทเส้น บางชนิดมีการใช้วัตถุกันเสีย เพื่อช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต หรือทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุให้อาหารเน่าเสีย หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกรดเบนโซอิกทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย แต่หากได้รับในปริมาณน้อยร่างกายสามารถขับออกไปได้ ซึ่งข้อมูลของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยวัตถุเจือปนอาหารขององค์การอาหารและเกษตรและองค์การอนามัยโลกแห่งสหประชาชาติ (The joint FAO/WHO Expert Committee on Food Additives, JECFA) ได้ประเมินและกำหนดค่าความปลอดภัย (ADI) พบว่า มีความเป็นพิษต่อคนและสัตว์น้อย . อย่างไรก็ตามวัตถุกันเสียทั้งสองชนิดมีข้อกำหนดการใช้ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 418) พ.ศ.2563 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการใช้ และอัตราส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 2) สำหรับกรดเบนโซอิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในอาหารประเภทเส้นที่ผ่านกระบวนการต้ม การนึ่ง การปรุงให้สุกการพรีเจลาทิไนซ์ (Pre-gelatinized) หรือแช่เยือกแข็ง และเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป ส่วนกรดซอร์บิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เฉพาะอาหารประเภทเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป . เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเส้นที่ทำจากแป้งอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพัฒนาผู้ผลิตให้มีความรู้ความเข้าใจการใช้วัตถุกันเสียอย่างถูกต้อง ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ อย.กำหนด ซึ่งผู้ผลิตจะต้องควบคุมกระบวนการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน GMP สำหรับผู้บริโภคควรเลือกซื้อและบริโภคอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ สะอาด ถูกสุขอนามัย และไม่ควรรับประทานอาหารซ้ำๆ กันเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ . ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www3.dmsc.moph.go.th หรือโทร. 02 9510000 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลที่มีการบอกต่อดังกล่าวเป็นข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์เมื่อปี 2550 แต่ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ประเภทเส้นที่ทำจากแป้งให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน GMP . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . Website : https://www.antifakenewscenter.com/
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    รับประทานทำให้เป็นโรคเกาต์จริงหรือ
    เห็นหลายคนบอกว่าการรับประทานไก่ส่งผลให้เราเป็นโรคเกาต์ได้ จนเราไม่กล้ารับประทานไก่เลย ตกลงเป็นเกาต์จริงหรือเปล่าคะ
    chanaphornphomngern
     •  5 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กินมะเขือเทศช่วยป้องกันโรคต่อมลูกหมากได้
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ดื่มน้ำมะนาวฆ่าเชื้อโควิด19 ไม่ได้
    กรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ ถึงสรรพคุณของมะนาว ที่อ้างว่าสามารถรักษาโรคโควิด-19 จึงนำข้อมูลนี้ สอบถามกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกัน แห่งประเทศไทย ระบุว่า มะนาวมีวิตามินซีสูง ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันแต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ ดร.นพ.พรเทพ กล่าวว่า “สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป็นการฆ่าเชื้อโรค แต่ไปทำให้เชื้อโรคไม่สามารถฝังเข้าไปในเซลล์ของทางเดินหายใจและปอดได้ง่าย และให้กำจัดออกทิ้งไป ยังไม่มียาใดๆ ทั้งสิ้น ในการฆ่าเชื้อไวรัส ในโลกนี้ ยาที่มีอยู่ ที่ใช้ตอนนี้คือ ยาฟาวิราเวียร์ ก็เพียงแต่ทำให้เชื้อมันอ่อนแรง และร่างกายกำจัดมันด้วยการกินมันด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวเท่านั้นเอง แต่อย่าไปเข้าใจผิดว่าถ้าเราป่วยหนัก แล้วไปถินพวกนี้จะทำให้เชื้อหมดไปจากร่างกาย มันเป็นไปไม่ได้” ดร.นพ.พรเทพ กล่าว อ้างอิง: Workpoint Today
    naruemonjoy
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    น้ำมะพร้าว
    มีคนบอกว่ากินน้ำมะพร้าวแล้วจะขาวขึ้น?
    เอลฟ์😃
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 2 คนสงสัย
    กินข้าวกล้องควบคุมน้ำหนักได้จริงหรอ???
    เมื่อเปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการของข้าวกล้อง กับข้าวขาว จะพบว่ามีปริมาณพอ ๆ กันแต่ข้าวกล้องจะมีวิตามิน และเกลือแร่ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า และเนื่องจากข้าวกล้องยังมีเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวอยู่ ทำให้ร่างกายย่อยข้าวกล้องได้ช้ากว่าข้าวขาว ร่างกายจึงนำเอาน้ำตาลที่ได้จากการย่อยข้าวไปใช้เป็นพลังงานได้น้อยกว่า นอกจากนี้ใยอาหารที่มีในข้าวกล้องยังช่วยให้อิ่มนาน ดังนั้นหากบริโภคข้าวกล้องในปริมาณที่เหมาะสม ลดการกินจุบจิบ ควบคู่กับการออกกำลังกายจะช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
    anonymous
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false