1 คนสงสัย
น้ำมะกรูดช่วยลดไขมันจริงหรือไม่
ไม่ระบุชื่อ
 •  3 ปีที่แล้ว
meter: middle
2 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
Thanathun. เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

างสำนักโภชนาการ กรมอนามัย ได้ชี้แจงว่า ข้อมูลบทความดังกล่าวมีเนื้อหาที่บิดเบือน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันแน่ชัด เกี่

ที่มา

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000041193
Mrs.Doubt เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

จากข้อมูลทางสมุนไพร พบว่า น้ำมะกรูด !! ช่วยล้างสารพิษ ลดไขมันในเลือด สรรพคุณยาดีสำหรับร่างกาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อมูลที่บิดเบือนว่ากรณี

ที่มา

https://www.tnews.co.th/politic/365218
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000041193

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ดื่มน้ำขิงผสมน้ำผึ้งทุกวันลดน้ำหนักขจัดไขมันได้จริงไหม?
    admin
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ซีบัคธอร์น มีสรรพคุณช่วยลดไขมันในตับ จริงหรือไม่
    ยาที่มีส่วนผสมของซีบัคธอร์น มีสรรพคุณช่วยลดไขมันในตับ จริงหรือไม่
    Mrs.Doubt
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ลองดู สัก 1 เดือนไม่เสียเงิน / กลุ่มแพทย์ชาวญี่ปุ่น ยืนยันว่า "น้ำอุ่น"มีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100% เช่น: 1 ไมเกรน 2 ความดันโลหิตสูง 3 ความดันโลหิตต่ำ 4 อาการปวดข้อ 5 เพิ่มขึ้นและลดลง ของการเต้นของหัวใจ อย่างฉับพลัน 6 โรคลมชัก 7 เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล 8 ไอ 9 ไม่สบายตัว 10 หอบหืด 11 ไอแบบช่วง 12 การอุดตันของหลอดเลือดดำ 13โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและปัสสาวะ 14 ปัญหาในกระเพาะอาหาร 15 การย่อยอาหารไม่ดี 16 โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา หู และลำคอ 17 ปวดศีรษะ #ใช้น้ำอุ่นอย่างไร# ลุกขึ้นในตอนเช้า และดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้ว เมื่อท้องว่างเปล่า คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำให้ได้ 4 แก้วในตอนที่เริ่มต้น แต่ไม่ช้าคุณจะทำได้..... #หมายเหตุ: อย่าพึ่งกินอะไรตามหลังจากดื่มน้ำผ่านไป 45 นาที การบำบัดด้วยน้ำอุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายใน หรืออาการทัองผูก เช่น ○โรคเบาหวาน ภายใน 30 วัน ○ความดันโลหิต ใน 30 วัน ○ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ใน 10 วัน ○มะเร็งทุกชนิด ภายใน 9 เดือน ○การอุดตันของเส้นเลือด ใน 6 เดือน ○การย่อยอาหารไม่ดี ใน 10 วัน ○มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้อง ใน 10 วัน ○ปัญหาจมูกหูและลำคอ ใน 10 วัน ○ปัญหาผู้หญิง ใน 15 วัน ○โรคหัวใจ ใน 30 วัน ○ปวดหัว / ไมเกรน ใน 3 วัน ○คอเลสเตอรอล ภายใน 4 เดือน ○โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 9 เดือน ○หอบหืด ภายใน 4 เดือน #พึงระลึกไว้เสมอว่า น้ำเย็นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ หากน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณในวัยเด็ก ก็จะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา #น้ำเย็นจะปิด 4 หลอดเลือดดำของหัวใจและทำให้หัวใจวาย เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการหัวใจวาย #นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับเป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น #*น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่ และส่งผลต่อมะเร็ง ##โปรดอย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ เพื่อตัวคุณเอง บอกให้ใครบางคนซึ่งอาจช่วยชีวิตคนอื่นได้น
    ไม่ระบุชื่อ
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สมุนไพรนี้ เพื่อตับและไต แก้ปวดตามข้อ ปวดหลัง ฯลฯ ได้จริงหรือ
    สมุนไพรเพื่อตับและไต แก้ปวดตามข้อ ปวดหลัง ปวดเอว ไขมันพอกตับ แก้เบาหวานลดน้ำตาลในเลือด ช่วยปกป้องตับ บำรุงตับและไต ต้นลูกใต้ใบนอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ต่อระบบทางเดินปัสสาวะอย่างมาก เพราะลูกใต้ใบช่วยทั้งการขับนิ่ว ขับปัสสาวะ ลดการอักเสบ ติดเชื้อ จึงกล่าวได้ว่าลูกใต้ใบเป็นสมุนไพรเพื่อตับและไตอย่างแท้จริง วิธีใช้ สามารถใช้ต้นสดล้างน้ำให้สะอาด นำมาต้มหรือชงกิน ถ้าปรุงยากันตามตำรา จะใช้ลูกใต้ใบสดทั้งห้า (คือใช้ทั้งต้นรวมใบ ดอก ลูก ลำต้น และราก) หนึ่งกำมือ (ถ้าต้นแห้งก็กะประมาณเหลือครึ่งหนึ่ง) น้ำ 3 แก้ว นำมาต้มเคี่ยวไปเรื่อยๆ ให้เหลือ 1 แก้ว กินละครั้งละ 1/2-1 แก้ว วันล 3-4 ครั้งเวลาก่อนอาหาร และสำหรับคนที่รู้จักสรรพคุณลูกใต้ใบดีก็จะรู้ว่า ลูกใต้ใบสามารถนำมาชงน้ำกินแบบน้ำชา เพื่อบำรุงร่างกาย แก้ปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอวได้ด้วย #ลูกใต้ใบ ดูน้อยลง
    kongdet.the
     •  8 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ยาสมุนไพรจีนแผ่นแปะลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญไขมัน
    จากที่มีผู้ให้คำแนะนำว่า ยาสมุนไพรจีนแผ่นแปะลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญไขมัน ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า แผ่นแปะลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมัน ตามที่ปรากฏดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรส่วนประกอบของสมุนไพร โดยมีการกล่าวอ้างสรรพคุณ คือ ใช้สำหรับลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ช่วยเผาผลาญไขมัน ซึ่งจากการสืบค้นในระบบฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว ไม่พบผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวนี้
    tachin12403
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขน เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมจริงหรือไม่
    ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาหรือฉีดใต้วงแขน เพื่อช่วยลดความเปียกชื้นหรือป้องกันกลิ่นตัวที่เกิดจากการทำงานของต่อมเหงื่อใต้วงแขน ซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยเข้าไปยับยั้งเหงื่อที่หลั่งจาก Eccrine sweat glands (ต่อมเหงื่อที่ทำหน้าที่หลั่งเหงื่อ เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย) เมื่อระงับเหงื่อได้กลิ่นกายก็จะลดลง (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://shorturl.asia/93IHs ) มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่เกิดเนื่องจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนมทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้องอก โดยหากไม่ได้รับการรักษา มะเร็งจะโตขึ้นและกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ก่อนที่จะกระจายไปอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก จนเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.gj.mahidol.ac.th/main/knowledge-2/breast-cancer/ ) จากการสัมภาษณ์ เภสัชกร ณภัทร นวลสกุลกฤป เภสัชกรปฏิบัติการประจำร้านขายยาเภสัชกรอิ่ม ได้ให้ข้อมูลว่า “การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนเป็นประจำ อาจเสี่ยงที่จะได้รับสารที่มีชื่อว่า อลูมิเนียมคลอไฮเดรต ซึ่งมีการศึกษาที่ระบุว่าสารชนิดนี้สามารถเปลี่ยนเป็น เอสโตรเจน คือฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งอาจจะมีความสัมพันธ์กับมะเร็งเต้านมได้ แต่สารนี้มีการใช้กันมาอย่างยาวนานในทางการแพทย์ จุดประสงค์หลักที่ใช้คือเพื่อทำให้ต่อมเหงื่อมีขนาดเล็กลง จะช่วยลดปริมาณเหงื่อ ช่วยลดการอับชื้น และลดโอกาสเกิดกลิ่นกายได้ ซึ่งสารชนิดนี้เมื่อโดนกับเหงื่อจะกลายเป็นของแข็ง และมีโอกาสน้อยมากที่ร่างกายจะดูดซึมเข้าไป ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานที่ชัดเจนว่าสารตัวนี้มีความสัมพันธุ์กับมะเร็งเต้านมอย่างไร ดังนั้นจึงสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนได้ตามปกติ แต่ควรเลือกแบรนด์ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนที่เป็นที่นิยมในตลาดและมีความน่าเชื่อถือ” ทั้งนี้ เภสัชกร ณภัทร นวลสกุลกฤป ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดมะเร็งเต้านมอีกด้วยว่า “สิ่งที่สัมพันธ์กับมะเร็งเต้านม สาเหตุหลักเกิดจากคุณพ่อ คุณแม่ หรือคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งคือการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนั้นเอง และอีกสาเหตุที่มีความเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งเต้านมคือกิจวัตรประจำวันบางอย่าง เช่น การกินอาหารที่มีไขมันสูง การมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด หรือแม้กระทั่งการกินยาคุมต่อเนื่องนานเกิน 5ปี และไม่มีการเว้นพัก ซึ่งถ้าเกิดว่ามีความกังวลในเรื่องของมะเร็งเต้านม ก็ควรที่จะตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม และตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ” (ข้อมูลเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567) ดังนั้น การใช้ผลิตระงับกลิ่นกายใต้วงแขนไม่ได้ทำให้มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนที่เป็นที่รู้จัก และมีความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัย ทั้งนี้หากมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงเรื่องมะเร็งเต้านม ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเป็นประจำทุกปี
    Amy Onanong
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    น้ำประปาสามารถดื่มได้หรือไม่?
    ในทุกวันนี้มนุษย์เราต้องการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ดี การซื้อน้ำดื่มมาบริโภคก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายจำนวนมากในแต่ละเดือน จนทำให้ใครหลายคนเริ่มหาวิธีนำน้ำประปามาบริโภค แล้วปัจจุบันน้ำประปายังสะอาดและสามารถดื่มได้หรือไม่ (แหล่งข้อมูลจาก https://wells.co.th/is-tap-water-safe/) (https://uu.co.th/th/article/blog/is-tap-water-safe-to-drink#precautions-when-drinking-tap-water) จากการสัมภาษณ์ คุณคงกฤษ นาแซง ตำแหน่งนายช่างเครื่องกล6 การประปาส่วนภูมิภาคสาขามหาสารคาม ได้ข้อมูลว่า น้ำประปาสามารถดื่มได้ เนื่องจากได้รับการรับรองจะกรมอนามัยตามโครงการ “น้ำประปาดื่มได้” มีคุณภาพน้ำประปาตามเกณฑ์คุณภาพน้ำบริโภค ซึ่งก็จะมีการออกตรวจสอบน้ำตามชุมชนตามบ้านผู้ใช้น้ำ โดยมีหน่วยงานผลิต หน่วยงานของนักวิทยาศาสตร์ และกรมอนามัย อีกทั้งยังมีการผลิตน้ำประปาที่ได้มาตรฐานตามขั้นตอนการผลิตตั้งแต่การสูบน้ำดิบจากแหล่งน้ำ การเติมสารเคมีฆ่าเชื้อโรค การตกตะกอนของน้ำ การกรอง ไปจนถึงการสูบน้ำเพื่อส่งไปยังบ้านผู้ใช้น้ำ อีกทั้งยังมีการเฝ้าระวังตรวจสอบน้ำทุก ๆวันในแต่ละชุมชนซึ่งจะตรวจสอบค่าของคลอรีนที่ควบคุมไว้อยู่ที่ 0.2 มิลลิกรัม หากต่ำกว่า 0.2 มิลลิกรัมประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคก็จะลดลงนั่นเอง ทั้งนี้ ก่อนนำน้ำประปาจากก๊อกมาดื่มจึงควรระวังเรื่องความสะอาด และความปลอดภัยของน้ำประปาก่อนเสมอ แต่เพื่อความสบายใจว่าเมื่อดื่มน้ำประปาไปแล้วจะไม่ส่งผลต่อสุขภาพ ก็ควรติดตั้งเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กเอาไว้อีกขั้นก็ได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าน้ำประปาที่ผ่านระบบการกรองน้ำประปามาแล้วจะมีความสะอาด ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของมนุษย์อยู่ดี ไม่ว่าจะนำไปต้มดื่ม ผ่านความร้อน หรือวิธีการใด ๆ ก็ตาม แต่หากต้องการดื่มน้ำประปาได้อย่างปลอดภัย การติดตั้งเครื่องกรองน้ำไว้ในบ้านจึงถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เพราะเครื่องกรองน้ำจะช่วยกรองน้ำประปาอีกครั้ง ทำให้น้ำสะอาดมากขึ้นจนอยู่ในระดับมาตรฐาน ที่จะสามารถนำมาใช้ดื่มได้อย่างปลอดภัยต่อร่างกาย แหล่งข้อมูลจาก(https://www.taksak.co.th/can-drink-tap-water/)
    Chennarong Yongmong
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือไม่ที่น้ำผึ้งช่วยรักษาแผลในช่องปากได้?
    จริงหรือไม่ที่น้ำผึ้งช่วยรักษาแผลในช่องปากได้?
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อย. เตือน ผลิตภัณฑ์ Efferin โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงกับข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นเท็จ
    พบการโฆษณาผลิตภัณฑ์ Efferin (เอฟเฟอร์ริน) ทางสื่อออนไลน์ โดยระบุสรรพคุณ “กระตุ้นการเผาผลาญได้อย่างดีเยี่ยม...ส่งเสริมการกำจัดไขมันขั้นสุด...กระตุ้นเนื้อเยื่อไขมันสีน้ำตาล... ช่วยลดคลอเรสเตอรอลในเลือด ช่วยสลายและใช้งานไขมัน กำจัดไขมันส่วนเกินจากกระแสเลือด ทำให้เนื้อเยื่อไขมันลดลง... มีประสิทธิภาพในการต้านภาวะซึมเศร้า… ช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น” เป็นต้น ทั้งยังมีการสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับแพทย์หญิงชื่อดังชาวไทยถูกไล่ออกจากประเทศชั้นนำ เนื่องจากปฏิเสธที่จะขายผลิตภัณฑ์เผาผลาญไขมันสูตรพิเศษให้แก่บริษัทยาในประเทศนั้น จึงได้กลับประเทศไทยและร่วมกับผู้ทรงอิทธิพลผลิตผลิตภัณฑ์เอฟเฟอร์รินขายเฉพาะในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เป็นข้อมูลลวง โดยผลิตภัณฑ์ Efferin ขออนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในชื่อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอฟเฟอร์ริน / Efferin Dietary Supplement Product เลขสารบบอาหาร 10-1-03958-5-0272 โฆษณาดังกล่าวแสดงข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นเท็จ และแสดงคุณประโยชน์หรือสรรพคุณของอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากในการยื่นขออนุญาตไม่มีการยื่นข้อมูลเพื่อประเมินประสิทธิผลตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด อีกทั้งผลิตภัณฑ์อาหารไม่มีผลในการบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรค นอกจากนี้ยังพบมีการแอบอ้างชื่อบุคลากรทางการแพทย์ในตำแหน่ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพต่อมไร้ท่อเป็นผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเบาหวานและนักโภชนาการเป็นผู้รับรองผลิตภัณฑ์แต่แท้จริงแล้วนั้น ไม่มีตำแหน่งดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง และภาพหญิง-ชายที่อ้างว่าเป็นผู้คิดค้นและรับรองผลิตภัณฑ์นั้น เป็นภาพหญิง-ชายที่เผยแพร่ทั่วไปอยู่บนอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว ฉะนั้นผู้บริโภคโปรดระมัดระวังอย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์ที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง หรือสร้างเรื่องราวดึงดูดความสนใจที่เป็นไปไม่ได้ หากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวควรปรับพฤติกรรมการบริโภค ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ไม่ควรหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาโอ้อวดเกินจริงทางสื่อออนไลน์ เพราะอาจมีสารที่เป็นอันตราย มีผลข้างเคียงรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากผู้บริโภคพบเห็นเบาะแสการโฆษณา การผลิต / จำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556 หรือ Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
    std47993
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    การนอนดึกเป็นการตั้งใจทำร้ายตนเอง อย่างร้ายแรงที่สุด(ถึงกับทำให้เป็นมะเร็งได้ จริงหรือ
    🙋‍♀️อดีตนอนดึกมาตลอด ปัจจุบันนอนไม่เกิน 4 ทุ่มครึ่ง อย่าให้สายเกินแก้ รีบปฎิบัติด่วน ❤️ด้วยรักและหวังดีอย่างจริงใจครับ ● บ้านไหนมีคน นอนดึก จำเป็นต้องอ่านบทความนี้นะครับ ● เพราะอะไร ? เพราะการนอนดึกๆ ทำให้ "อวัยวะสำคัญๆ" ของร่างกาย เช่น สมอง หัวใจ หลอดเลือด ต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมไธรอยด์ และภูมิคุ้มกันร่างกายเสียหาย จึงเป็นเรื่องที่ต้องไม่ประมาท มาฟังหมอด้านเวชศาสตร์ชลอวัย อธิบายให้เข้าใจกัน 🔷️ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เล่าให้ฟังถึง ● ผลเสียของการนอนดึก ▪️ใครที่นอนเกิน 5 ทุ่มครื่ง จะมีผลทำให้ 5 อวัยวะหลักเสื่อมโทรมเร็วขึ้น ทั้ง 1▪️ สมอง 2▪️ หัวใจ 3▪️ หลอดเลือด 4▪️ ต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมไธรอยด์ และ 5 ▪️ ภูมิคุ้มกันร่างกาย 🔷️ แต่ถ้าปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็นคนนอนเร็วขึ้น ตั้งแต่ 4 ทุ่มไม่เกิน 5 ทุ่มครึ่งซึ่งเป็นนาทีทองของการนอน ก็จะช่วยให้มีสุขภาพดีขึ้นถึง 10 ประการ ดังนี้ :- 1. สมองสร้างเคมีสุข อย่างที่รู้ว่า สมองเป็นหัวเรือใหญ่ในการแจกงานให้อวัยวะต่างๆ แม้แต่เวลานอนก็ยังมอบรางวัลให้ร่างกาย ทั้ง ▪️ เคมีนิทรา (เมลาโทนิน) ▪️ เคมีสุข (ซีโรโทนิน) ▪️และฮอร์โมนเพศ ▪️แถมยังมีเคมีบำรุงร่างกายออกมา ช่วยควบคุมระบบในตัวเราให้ทำงานราบรื่น ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น สร้างเกราะป้องกันอาการป่วยเจ็บได้ด้วย 2. สร้างเคมีหนุ่มสาวปกติแล้ว เคมีหนุ่มสาวที่เรียกว่า โกรทฮอร์โมน จะค่อย ๆ ลดลงตามวัย รวมทั้งการนอนดึกก็ทำให้โกรทฮอร์โมนน้อยลงไปด้วย ☆แต่ถ้าเราเข้านอนเร็ว สักราว 4 ทุ่ม ไม่เกิน 5 ทุ่มครึ่ง ☆สมองจะช่วยผลิตโกรทฮอร์โมนธรรมชาติให้ ☆สรุปว่ายิ่งเราหลับไว หลับสนิท ☆ เราก็ยิ่งดูอ่อนเยาว์ ☆เพราะโกรทฮอร์โมน จะหลั่งในช่วงเวลา 00.00-01.30 น. รวมเวลา 1 ชม.ครึ่งเท่านั้น ซึ่งจะช่วยซ่อมเสริมภูมิต้านทานโรค ให้มีพลังร่างกายที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น 3. ความจำดีขึ้น การศึกษาจากสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA) ระบุว่า ☆คนที่นอนหลับได้ในช่วง 4 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่ม ปรากฏผลงานวิจัยติดตาม พบว่า ☆ มีผลต่อความจำ ความมีสมาธิ อย่างมีนัยสำคัญ ☆และ ลดอุบัติเหตุลงได้มากขึ้น ☆นั่นก็เพราะเวลาเรานอน สมองจะมีกลไกช่วยจัดระเบียบ คล้ายกับการแยกอีเมลขยะออกไป ☆แต่ถ้าเราอดนอน เราจะรู้สึกมึน ลืมง่าย หรือ ไม่ก็ลิ้นพันกัน คิดอย่างพูดอย่าง หรือ อาจเผลอเรอได้ง่ายๆ ดังนั้น ต้องนอนให้เต็มอิ่ม จะได้เป็นการชาร์จแบตให้สมอง พร้อมรับความจำใหม่ๆ ได้ดี 4. คุมความดันโลหิตได้ การนอนหลับเร็ว ☆จะช่วยให้ระบบประสาทอัตโนมัติทั้งหลาย และกลไกทางชีวิวิทยา ที่เป็นเหมือนฟันเฟืองขนาดจิ๋ว ที่ทำงานซับซ้อน ☆ช่วยควบคุมหัวใจ และความดันโลหิตให้สงบลง ไม่แกว่งขึ้นลงง่ายเหมือนกับตอนตื่นนอน 5. ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนสึกหรอ คนก็เหมือนเครื่องยนต์ ทำงานมาหนัก ก็ต้องหยุดพักบ้างจริงไหม ☆ซึ่งการนอนก็เหมือนเข้าอู่ซ่อมรถ ช่วยซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอ ☆ช่วยให้สมองได้พักผ่อน ☆กล้ามเนื้อคลายตัว ☆หัวใจสงบขึ้น ☆ความดันลดลง โดยเฉพาะ ☆ถ้าหลับลึกได้ในช่วง 00.00 - 01.30 น. ในแต่ละคืน สุขภาพย่อมแข็งแรง เสมือนย้อนไปในช่วงที่อยู่ในวัยเบญจเพศได้ 6. ลดความเสี่ยงโรคอ้วน ☆ถ้าเรานอนเร็ว จะทำให้เราไม่หิวกลางดึก อันเป็นต้นเหตุที่ทำให้อ้วน ☆นอกจากนั้น ยังมีกลไกดับหิวด้วยการสร้างเคมีดับหิวขึ้นมา ทำให้การนอนเร็วช่วยคุมน้ำหนักตัวได้ดีกว่า ☆อีกทั้งยังกระตุ้นเตาเผาในร่างกาย ให้ทำงานได้ดี ☆ ช่วยให้ไม่อ้วนง่าย ไม่สร้างเคมีเก็บไขมันมากด้วย 7. มีความสุขง่ายขึ้น ☆ยิ่งอดนอนมาก สมองของเราก็ยิ่งอึมครึม ทำให้ขาดสมาธิ ความจำก็ไม่ดี อะไรมากระทบนิดกระทบหน่อย ก็หงุดหงิดอา รมณ์เสียแล้ว แล้วจะมีความสุขได้อย่างไรล่ะ ☆ แต่ถ้าเราลองนอนให้เร็วขึ้น เราจะได้นอนอย่างเต็มอิ่ม ร่างกายและสมองได้พักผ่อน ความจำดี มีสมาธิ มองอะไรก็มีความสุขได้ง่ายขึ้นจริง ๆ นะ 8. ได้ล้างพิษ เวลาที่เรานอน จะเป็นช่วงเวลาที่อวัยวะอย่าง ตับ ไต ลำไส้ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ช่วยล้างพิษทำงานได้ดีขึ้น ลองสังเกตดูสิ ถ้าใครชอบอดนอน หรือ นอนดึก นอกจากหน้าตาดูหม่นหมองแล้ว ยังมีปัญหาท้องผูกด้วย นั่นเพราะส่วนหนึ่งของพิษมาจากการนอนดึก เพราะฉะนั้นสาวๆ ที่ชอบปวดรอบเดือนบ่อย ๆ ให้แก้ไขด้วยการนอนให้เร็วขึ้น จะช่วยคุมเคมีปวดได้มากขึ้น 9. ไม่เสี่ยงโรคกำเริบ เครื่องยนต์ที่ทำงานเกินเวลา ก็เสียได้ นับประสาอะไรกับมนุษย์ที่ไม่ยอมพักผ่อน ไม่ยอมหลับยอมนอน ☆ความเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย ก็อาจทำให้โรคที่พกอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ พากันแผลงฤทธิ์ขึ้นได้ ☆โดยเฉพาะโรคหัวใจ ☆โรคหลอดเลือดสมอง ☆ความดันสูง ☆ เบาหวาน ☆ ภูมิแพ้ ☆โรคเครียด ☆โรคซึมเศร้า ☆ และโรคมะเร็ง เป็นต้น 10. ช่วยป้องกันการแก่ให้ช้าลง ☆ไม่อยากแก่ รีบชวนกันนอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม หรือ สูงสุด ไม่เกิน 5 ทุ่มครึ่ง ☆ เพราะ การนอนไม่ดึกมาก จะช่วยเสริมสร้างความเป็นหนุ่มสาว ☆ และช่วยให้หลับสนิทได้ง่ายขึ้น ☆ ไม่ทำร้ายร่างกายให้แก่ก่อนวัยอันควร ☆เพราะ จะช่วยป้องกันความเสื่อมชราให้ช้าลงได้ด้วย . 🔷️อยากมีสุขภาพที่ดีในระยะยาวอย่างยั่งยืน ต้องเปลี่ยนที่พฤติกรรม ฝึกให้เป็น นิสัย 🔷️ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ 🔷️ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ ▪️ จะทำให้เรามีภูมิต้านทานที่ดี หลายๆ คนบอกรู้แต่บางครั้งก็ยังทำไม่ได้ มาลองจัดระเบียบชีวิตกัน (บอกตัวเองด้วย ^^) เพราะไม่มีใครสามารถให้ สุขภาพ ที่ดีกับเราได้ ยกเว้นเราต้องทำให้ตัวเอง และร่างกายคือบ้านที่เราต้องรักษาเพื่อดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข การป้องกันดีกว่าการซ่อมแซม เราคงไม่อยากเอาเงินที่หามาได้ไปแลกกับความเจ็บป่วยและค่ารักษาพยาบาลที่แพงขึ้นทุกวัน . ด้วยรักและปรารถนาดี ❤️ ❤️
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false