1 คนสงสัย
+ ทำไมพรรคเราจึงต่อต้านกฎหมายกัญชา ในเมื่อตอนแรกพรรคเราสนับสนุน ไม่คัดค้านอะไรเลย

- ถ้าไม่เอาไปสูบที่เกิดผลเสียต่อสุขภาพ จนมีการกำหนดให้เป็นยาเสพติด กัญชานั้นมีประโยชน์ใช้ทางการแพทย์มานานแล้ว พรรคเราจึงสนับสนุน อยากให้มีการปลูกกันอย่างเสรี เพื่อไม่ให้พวกเจ้า่สัวทั้งหลาย ไปปลูกและเอามาผลิตขายรูปแบบต่างๆ ในราคาแพง แบบสินค้าอื่นๆ ที่เขาผลิตขายในตอนนี้ พรรคเราจึงสนับสนุน

แต่มานึกได้ว่าพรรคที่เป็นต้นเรื่องในเรื่องกัญชาจะได้ประโยชน์ได้คะแนนเสียง ที่ใกล้จะถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่ในอีกไม่นานนี้ไปเต็มๆ พรรคเราจึงต้องเปลี่ยนมาคัดค้าน เอาความผิดเเรื่องผลเสีย โทษที่จะเกิดกับเยาวชนที่เอาไปสูบ โยนไปให้พรรคนั้นไง

+ 5555555555555 พรรคของเรานี่ชั่ว เอ๊ย ฉลาดจริงๆ

ไม่ระบุชื่อ
 •  2 ปีที่แล้ว
meter: middle
2 ความเห็น

ยาสมุนไพรข่าวการเมือง เสียดสี

Joke Air เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

.

ที่มา

เนื้อหา … ของข้อความนี้มีความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ข้อเท็จจริง
มุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับบางฝ่าย ที่มองว่า การที่บางพรรคเปลี่ยนจากสนับสนุนกัญชาในตอนแรกกลับมาคัดค้านในตอนหลัง อาจจะเป็นเพียงเรื่องของการเอาชนะกันทางการเมืองเท่านั้น
และจากสำนวนภาษา ด่าทอพรรคที่มีการกระทำดังกล่าวว่าชั่ว จึงชัดเจนว่าผู้เขียนอยู่ฝ่ายที่สนับสนุนทั้งกัญชาและพรรคการเมืองพรรคที่ดำเนินนโยบายกัญชา
https://prachatai.com/journal/2022/11/101397
https://www.naewna.com/politic/692693
  • มี 1 ความเห็น เจ้าของลบไปแล้ว.
  • เพิ่มความเห็นใหม่

    กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

    คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    “กฎแห่งกรรม” ของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ มีคนเล่าให้ฟังว่า... สมัยก่อน...คุณพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ...ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต.. > แกอยู่ในป่า...กับเพื่อน ๕ ~ ๖ คน...ทุกวันก็จะเปลี่ยนเวรกัน...ล่าสัตว์ป่า...มาทำอาหาร > วันหนึ่ง...เป็นเวรของคุณพงษ์เทพ คว้าปืนยาว...สะพายบ่า.เดินเข้าป่าไป... > อาหารโปรดของคุณพงษ์เทพ.....คือแกงเนื้อลิง... > พอเดิน เข้าป่าไปได้สักพัก. เห็นลิงตัวหนึ่ง...นั่งอยู่บนต้นไม้...หันหลังให้.. > แกก็รีบยกปืนประทับบ่า...ยิงเปรี้ยง...ไปที่ตัวลิง.. > เหตุการณ์แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น... > ปกติ...ลิงพอถูกยิง..จะหล่นตุ๊บ...จาก ต้นไม้ทันที... แต่ลิงตัวนี้...นั่งจับกิ่งไม้เฉย...ไม่หล่นลงมา... > จะว่ายิงไม่ถูก...ก็ไม่น่าเป็นไปได้...เพราะคุณพงษ์เทพ...แกยิงปืนแม่น... > ระยะแค่นี้ เป้าใหญ่ขนาดนี้...ไม่พลาดแน่นอน... > ในขณะที่กำลังสงสัยอยู่นั้น...ลิงตัวที่ถูกยิง...ร้องโหยหวน...เสียงดังมาก..... > ฝูงลิงที่แยกย้ายกันออกหากินอยู่บริเวณใกล้ ๆ ... วิ่งแห่กันเข้ามาหาลิงตัวที่ถูกยิง > แล้วร้องโหยหวน...เหมือนกันหมด... > แกตกใจ...ยืนตกตะลึง...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น... > สักครู่...ลิงตัวที่ถูกยิง. โยนวัตถุเล็ก ๆ...สีดำ ๆ..ชิ้นหนึ่ง...ให้กับลิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด... > แล้วก็หล่นตุ๊บ...ลงมาจากต้นไม้... > คุณพงษ์เทพ...รีบวิ่งไปดู...ลิงถูกยิงเข้าที่หลัง... ทะลุหน้าอก...เลือดแดงฉาน..เต็มตัว... > คุณพงษ์เทพเห็นแล้ว...ต้องเบือนหน้าหนี... > ลิงที่ตกลงมาเป็นลิงแม่ลูกอ่อน...ขณะที่ถูกยิง.เธอกำลังให้นม ลูก... > ลูกตัว น้อย...กำลังดูดนมอย่างมีความสุข... > ทันทีที่ถูกยิง..ถ้าเป็นลิงตัวอื่น... จะหล่นตุ๊บ...ลงจากต้นไม้..... > แม่ลิงตัวนี้...ยังหล่นไม่ได้...ยังตายไม่ได้.. > เพราะเธอยังมีภารกิจใหญ่หลวงที่ต้องทำ...คือ... > รักษาชีวิตลูกน้อย...ให้พ้นอันตราย... > เธอกัดฟัน...โหนกิ่งไม้ไว้.แม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ... > มองดูเลือดที่ไหลหยดเป็นทาง ด้วยความตกใจ... > พยายามรวบรวมพละกำลังที่ยังพอมี! เหลือทั้งหมด... > ตะโกนสุดเสียง...ร้องเรียก.ฝูงลิงเข้ามาใกล้ ๆ.. > แล้วก็ฝากฝัง...ให้เลี้ยงลูกน้อยแทนเธอ > หลังจากโยนลูกให้จ่าฝูงแล้ว...มองดูลูก...ถูกพาไป จนลับสายตาแล้ว.. แน่ใจว่า...ลูกปลอดภัยแล้ว... > จึงหลับตา...แล้วหล่นลงมา.....ตาย.. คุณพงษ์เทพ...ก้มมองหน้าลิง..แล้วร้องไห้... > เพราะที่เบ้าตาลิง...มีหยดน้ำตาใส ๆ. กำลังไหลริน... > คุณพงษ์เทพ..รีบเดินกลับที่พัก...เอาปืนไปเผาทิ้ง...ไม่ยอมออกล่าสัตว์อีกเลยตลอดชีวิต.. > และภาพความรักที่ยิ่งใหญ่..ของแม่ลิง...ที่มีต่อลูกน้อย ...... > เป็นแรงบันดาลใจ. ให้พงษ์เทพ...แต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง... > ชื่อว่า... “ลิงทะโมน” > เพื่อยกย่อง...เชิดชู...คุณค่าของความรัก...ที่แม่...มีต่อลูก พงษ์เทพต้องเผชิญชตากรรมตามสนองคือ เป็นมะเร็งขั้นรุนแรงที่ตับ ไปผ่าตัดที่ รพ.กรุงเทพ มีทรัพย์สินขายเกือบหมด ตอนนี้เหลือบ้านเพียงแห่งเดียวที่ปากช่องพออยู่อาศัย โรคร้ายปะทุยังไม่หายนอนรอวันดับก็น่าสงสาร เพื่อน ๆ วงคาราบาวก็ไปเยี่ยมพร้อมกัน นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงครับ https://youtu.be/U2jGXwBDClk
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ถามหน่อยค่ะถ้าเรามีเงินในบัญชีแต่ไม่มีแอปธนาคารในโทรศัพท์มันจะดูดเงินในบัญชีของเราได้มั้ยคะ⁉️
    ⚠️ ถามหน่อยค่ะถ้าเรามีเงินในบัญชีแต่ไม่มีแอปธนาคารในโทรศัพท์มันจะดูดเงินในบัญชีของเราได้มั้ยคะ⁉️ คำตอบ : โดนได้ครับ ถ้าบอกเลขบัญชี + เลขประชาชน + เลขโทรศัพท์มือถือ ให้เขาไป เขาจะไปเปิดบัญชี wallet หรือกระเป๋าเงิน ผูกกับบัญชีธนาคารเรา และโอนเงินออกไป เข้าบัญชี wallet ‼️ วิธีการคนร้าย 1. คนร้ายจะเข้ามาทำทีเป็นลูกค้าขอซื้อของออนไลน์ และขอเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ในบัตรประชาชนของผู้เสียหาย 2. คนร้ายจะนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น ไปเปิดบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ขึ้นมาใหม่ และตั้งค่าบัญชี E-Wallet ให้เชื่อมกับบัญชีธนาคารผู้เสียหาย 3. หลังจากนั้นผู้เสียหายจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือ ในทำนองว่า "คุณต้องการที่จะให้บัญชีธนาคารของคุณเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่" ซึ่งการแจ้งเตือนมีข้อความค่อนข้างยาว ทำให้ผู้เสียหายหลายรายไม่อยากอ่าน และมองว่าไม่น่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้น 4. เมื่อผู้เสียหายกด "ยอมรับ" หรือ "ตกลง" บน Mobile Banking การเชื่อมระหว่างบัญชี Mobile Banking ของผู้เสียหาย กับบัญชี E-Wallet ของคนร้ายก็จะสมบูรณ์ ดังนั้น จึงทำให้คนร้ายสามารถยักย้ายถ่ายโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ผ่านช่องทาง Mobile Banking ไปยังบัญชี E-Wallet ของคนร้ายจนหมดภายในเวลาไม่กี่นาทีนั่นเอง จึงขอเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง และพยายามอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับใคร หากมีการแจ้งเตือนเข้ามาในโทรศัพท์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน อย่าลืมอ่านข้อความที่แจ้งมาอย่างละเอียด หากอ่านแล้วไม่เข้าใจก็ยังไม่ต้องตอบตกลง เพราะไม่แน่ว่าการแตะหน้าจอเพียงครั้งเดียว อาจจะทำให้เงินในบัญชีถูกถอนออกจนหมดก็ได้ เครดิตข้อมูล และภาพ : เฟซบุ๊ก กองปราบปราม (กฎหมายตำรวจและพนักงานสอบสวน by ภูมิรพี ผลาภูมิ)✅
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด เห็ดมีอันตรายจริงหรือ
    คนชอบกินเห็ดต้องอ่านให้จบ คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด ? คนขายเห็ดไม่กินเห็ด ? เห็ดนานาชนิด ที่เรารู้จักและคนก็ชอบกิน เพราะรสชาติที่อร่อยกินง่าย และเรารู้แต่ประโยชน์ที่มีอยู่ในเห็ดมากมาย แต่เราไม่เคยรู้ถึง....ผลเสียของเห็ด หมายเหตุ เห็ดที่พูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึง ทุกโรงเพาะเห็ดหรือเห็ดทั้งหมด แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เห็ดชนิดใดที่ปลอดภัย จึงอยากให้ทุกคนโปรดใคร่ครวญพิจารณา ยังไม่มีนักวิชาการคนใด พูดถึงผลเสียของเห็ด เราจะรู้กันแต่ประโยชน์ของเห็ด โดยเฉพาะถ้าเรากินเห็ด 3 ชนิดจะช่วยป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อสุขภาพ แต่เราไม่เคยรู้ที่มาที่ไป จากผลเสียที่ติดมากับเห็ดเลย จนมาวันนี้ ได้คุยกับคนขายเห็ดโดยเฉพาะเห็ดนางฟ้า วันนี้เรื่องราวที่จะมาเล่า. คำพูดคือความจริงทุกคำ ถ้าผู้อ่านช่วยส่งต่อเอาบุญ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ขอให้ทุกคนที่ชอบกินเห็ด ได้ป้องกันที่ตัวเรา ว่าเราควรจะกินเห็ดต่อไปหรือจะเลิกกินเห็ด จะได้ป้องกันตนเองจากโรคร้ายที่จะตามมาจากรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง จากการได้คุยเปิดใจ กับคนขายเห็ดหรือคนเพาะเห็ดขาย คุณมนัสมีอาชีพขายเห็ด ขายส่งต่อกับพ่อค้าแม่ค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำมาจนเข้าปีที่ 20 สิ่งหนึ่งที่รู้ในใจคือ จะไม่ให้ลูกและครอบครัวตัวเองกินเห็ดที่ขายเลย จนกระทั่งผลที่สุด....ร่างกายตัวเองทรุด หมดเรี่ยวหมดแรง ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัว เป็นมาแบบนี้มาเป็นเดือน ๆ จนไปให้หมอตรวจร่างกาย หมอบอกว่ามีเชื้อมะเร็งในกระแสเลือด แต่หาจุดที่เป็นไม่เจอ แต่ฟังจากหมอพูดว่า มะเร็งถ้าเป็นระยะที่ 1 หรือที่ 2 คงไม่พบ นี่อาจจะเป็นระยะ 3 หรือ 4 แต่หมอก็ยังเช็คไม่ได้ว่าเป็นตรงไหน คุณมนัสก็กลับบ้านมาด้วยใจหดหู่หมดกำลังใจ แต่มีลูกที่น่ารักถึง 7 คน มีภรรยาที่น่ารัก แม่พ่อและญาติที่รักอีกหลายชีวิต ที่จะทำให้ต้องสู้กับโรคร้าย จนกระทั่งคุณมนัสได้เปิดใจ เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลยคือ สาเหตุที่ทำให้เป็นมะเร็ง คือน่าจะมาจากสาเหตุ จากการสูดดมสารในตัวเห็ดที่ตัวเองต้องทำขายทุกวันนั้นเอง เราถามว่าทำไมถึงทำให้คิดอย่างนั้น คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การปลูกเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเข็ม จะต้องใช้ยาฆ่าหนอนหรือยาฆ่าแมลง และต้องใช้เป็นจำนวนมากทุกรอบ ที่ต้องการผลผลิตที่มากและดี ต้องไม่ให้มีหนอนและแมลง แล้วคุณมนัสไม้รู้หรือถึงได้เอามาขาย คุณมนัสตอบรู้ครับ เลยไม่ให้คนในครอบครัวกินเลย รวมทั้งเพื่อนพ้องที่ตัวเองรักก็ไม่แนะนำให้กิน เพื่อนบางคนถามผมว่า ทำไมไม่เอาเห็ดมาฝากบ้าง ทั้งที่มีอาชีพขายส่งเห็ด ในใจผมรู้แต่ไม่รู้จะตอบเพื่อนว่าไง แต่ไม่เคยเอาเห็ดนางฟ้าไปฝากใครเลย จนมาวันนี้เหมือนกับว่า สิ่งที่เจอจะเป็นเวรกรรมที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ ที่มาทำให้เป็นมะแร็ง ทั้งที่ไม่ได้กินเห็ดนางฟ้า ครอบครัวก็ไม่เคยกินเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเลย แต่ส่งขายให้คนกินทั้งประเทศ เวรกรรมจะมาย้อนที่หรือไม่ จึงถามไปว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น คุณมนัสเล่าต่อว่า ก่อนที่จะเป็นแบบนี้ เขาได้เห็นเจ้าของโรงเพาะเห็ด ที่ส่งเห็ดมาให้เป็นประจำ เป็นมะแร็งเต้านมและตัดเต้านมไปแล้ว และก็ไม่รู้ว่าจะหายหรือไม่ และลูกน้องที่ทำงานกับโรงเพาะเห็ด ก็มีอาการเจ็บป่วยไปทีละคนสองคนอย่างต่อเนื่อง และทุกคนที่ทำงานโรงเพาะเห็ด แต่ละคนมีสุขภาพไม่ดีกันเกือบทุกคน คุณมนัสไม่ได้เพาะเห็ดเอง แต่ผมเป็นผู้รับมาจำหน่ายต่อ ซึ่งล่าสุดก็มาพบเชื้อมะเร็งในกระแสเลือด จากนั้นจึงตั้งคำถามไปว่า เพราะอะไรที่ทำให้ทุกคนที่ทำงานตรงจุดนี้ จึงมีร่างกายไม่แข็งแรง คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การเพาะเห็ดต้องใช้ยาสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหนอนอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะเจ้าของโรงงานเพาะเห็ดและลูกน้อง ต้องสูดดมสารเคมีเหล่านั้น ถึงแม้คนปลูกเห็ดจะไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด แต่การสูดดมสารพิษพวกนี้ทุก ๆ วัน. มันก็สะสมในร่างกาย พอสะสมมาก ๆ ทุกวัน ๆ เลยมาแสดงอาการตอนมันเต็มที่แล้ว เมื่อขายเห็ดให้คนกินทั้งประเทศ แล้วผลเสียที่มีต่อคนอื่นต่อประชาชนคนที่ไม่รู้ เราก็จะเป็นบาปโดยที่ไม่รู้ตัวไหม เลยย้อนถามคุณมนัสว่า คุณมนัสเชื่อเรื่องเวรกรรมไหม โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวร คุณมนัสตอบมาวันนี้เข้าใจและเชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรม หลังจากเจอด้วยตัวเอง และคุณมนัสฝากบอกมาว่า ให้ประชาชนทุกคนจงรู้ว่า เห็ดถึงมีประโยชน์มาก แต่ก็มีโทษที่แอบแฝงมามากเช่นกัน เพราะถ้าคนที่เพาะเห็ดขายเพื่อหาผลกำไรมาก หรือต้องการกำไรมาก ก็จะใช้ยาฉีดที่เป็นอันตรายมากต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินเห็ด เริ่มแรกอาจมีผลข้างเคียง แต่นานไปถ้าสะสมมาก ๆ ก็จะเป็นเหมือนเจ้าของโรงเพาะเห็ดและคุณมนัสผู้ขายส่งต่อ หรือคนใกล้ชิดที่ทำอาชีพนี้ ซึ่งแต่ละคนก็มีสุขภาพที่ย่ำแย่กันทุกคน เรื่องราวที่เล่าให้ฟังนี้ ขอให้ประชาชนผู้บริโภค ได้เตรียมพร้อมและรู้ทัน ว่าควรกินเห็ดต่อหรือควรหลีกเลี่ยงการกินเห็ด เนื่องจาก คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด เพราะแบบนี้นี่เองหรือ โปรดส่งต่อเป็นวิทยาทาน
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวบิดเบือน แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์
    ข่าวบิดเบือน แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ . ตามที่มีการโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องแพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน . กรณีการโพสต์ให้ข้อมูลโดยระบุว่าพบกรดเบนโซอิกในก๋วยเตี๋ยวประเภทต่างๆ โดยแพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า จากที่มีการแชร์ข้อมูลผลตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเมื่อปี 2550 ซึ่งสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในฐานะห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านการตรวจวิเคราะห์อาหารของประเทศ ได้มีการตรวจวิเคราะห์เฝ้าระวังการใช้วัตถุกันเสีย (กรดเบนโซอิคและกรดซอร์บิค) ในอาหารประเภทเส้นมาอย่างต่อเนื่อง . นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งการผลิตอาหารประเภทเส้น บางชนิดมีการใช้วัตถุกันเสีย เพื่อช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต หรือทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุให้อาหารเน่าเสีย หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกรดเบนโซอิกทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย แต่หากได้รับในปริมาณน้อยร่างกายสามารถขับออกไปได้ ซึ่งข้อมูลของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยวัตถุเจือปนอาหารขององค์การอาหารและเกษตรและองค์การอนามัยโลกแห่งสหประชาชาติ (The joint FAO/WHO Expert Committee on Food Additives, JECFA) ได้ประเมินและกำหนดค่าความปลอดภัย (ADI) พบว่า มีความเป็นพิษต่อคนและสัตว์น้อย . อย่างไรก็ตามวัตถุกันเสียทั้งสองชนิดมีข้อกำหนดการใช้ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 418) พ.ศ.2563 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการใช้ และอัตราส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 2) สำหรับกรดเบนโซอิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในอาหารประเภทเส้นที่ผ่านกระบวนการต้ม การนึ่ง การปรุงให้สุกการพรีเจลาทิไนซ์ (Pre-gelatinized) หรือแช่เยือกแข็ง และเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป ส่วนกรดซอร์บิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เฉพาะอาหารประเภทเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป . เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเส้นที่ทำจากแป้งอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพัฒนาผู้ผลิตให้มีความรู้ความเข้าใจการใช้วัตถุกันเสียอย่างถูกต้อง ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ อย.กำหนด ซึ่งผู้ผลิตจะต้องควบคุมกระบวนการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน GMP สำหรับผู้บริโภคควรเลือกซื้อและบริโภคอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ สะอาด ถูกสุขอนามัย และไม่ควรรับประทานอาหารซ้ำๆ กันเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ . ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www3.dmsc.moph.go.th หรือโทร. 02 9510000 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลที่มีการบอกต่อดังกล่าวเป็นข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์เมื่อปี 2550 แต่ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ประเภทเส้นที่ทำจากแป้งให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน GMP . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . Website : https://www.antifakenewscenter.com/
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    @All เรียนเพื่อนๆทุกท่าน ด้วยทาง BOT ขอความร่วมมือจาก ปชช.ที่จะตั้งองค์กฐิน เพื่อนำไปทอดฯตามวัดต่างๆ ตามศรัทธา โดยขอความร่วมมืองดการพับธนบัตรเป็นดอกไม้, นก หรืออื่นๆ และใช้ลวเย็บ (Max) ทุกชนิดราคา (โดยเฉพาะ ธนบัตรใหม่) เนื่องจะทำให้ธนบัตรเป็นรอยพับ และเป็นรู เมื่อถูกนำส่งเข้า BOT เพื่อคัดแยก จะทำให้มีสถานะเป็นตัวเสียและ จะถูกนำไปทำลาย ไม่สามารถนำเข้าไปหมุนเวียนในท้องตลาดได้ จำเป็นต้องพิมพ์ธนบัตรออกมาใหม่ เท่ากับจำนวนที่ถูกทำลาย ทำให้เกิดต้นทุนในการจัดพิมพ์ ทาง BOT จึงขอความร่วมมือ ปชช.มาด้วยครับ ขอขอบคุณ จิรวัฒน์ ทวีวัฒน์ ผบ.ศูนย์บริหารและจัดการธนบัตร KTB
    ไม่ระบุชื่อ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    "ศาลโลก" รับฟ้อง "พญาอินทรีย์" ปล่อยโควิด-19 สงครามชีวภาพ ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด-19 คือพญาอินทรีย์เอง... ************** โควิด-19 มาจากฝีมือมนุษย์ สั่งทำโดย โดนัล ทรัมป์ มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3 ในมลรัฐคาโรไลน่าเหนือ ของสหรัฐอเมริกา!!! นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของสหรัฐอเมริกาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทีวีที่ 1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้ นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด-19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ หรือสงครามเชื้อโรค:- - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 ในมลรัฐคาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ราล์ฟ บาร์ริก - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือ ทดลองในทหารส่งไปแพร่ระบาดในการแข่งขันกีฬาในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ลุกลามไปอิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม 2564 นายเกรก ก็ได้ ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่าตัวไวรัสเองแท้จริงแล้วคืออาวุธชีวภาพ? **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวี (HIV) ได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า - โควิด-19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัดที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจาก ค้างคาวเข้าไปเพิ่มความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก! ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด-19 เป็นอาวุธชีวภาพที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มีมาโดยตลอด ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่าวัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆกับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่ามีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ (เกิดก่อนการระบาดที่อู่ฮั่น) - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าว ลี่เจียง ได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาว่า ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมากที่ทหารอเมริกาที่มาแข่งกีฬาทหาร นำเชื้อมาแพร่ที่เมืองอู่ฮั่น ในจีน >>>>สหรัฐอเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่เมืองอู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi" >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK *** คนในครอบครัวก็มีหลายคนที่ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อ เขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 มีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลป ที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด-19 ว่า เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา" ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของสหรัฐอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด-19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาดเท่านั้น แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ กรืออาวุธเชื้อโรค เหมือนไวรัสโรคไข้หวัดเสปน เมื่อ 100 ปีก่อนที่ทหารอเมริกานำไปแพร่ในเสปน >>>ความไร้ยางอายนี้ ทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่าสหรัฐอเมริกา เป็นฆาตกรผู้วางยาพิษคนทั้งโลก เพียงเพื่อจะขายวัคซีนป้องกันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า” >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิต กล่าวหาให้จีนรับเคราะห์แทนอย่าง น่ารังเกลียดที่สุด ***เชื้อโควิด-19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไป แล้วโทษคนอื่น ***ยังมีข้อน่าสงสัยที่นาย เกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร *** นาย บาร์ริค มาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015 - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไปอย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียมผลิตยาแก้ยาพิษนั้นๆไว้ก่อนเสมอ!!!! - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆกับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก ***สหรัฐอเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขาคือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งมลรัฐนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 !! >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อโรคไวรัสโควิด-19 อย่างตั้งใจเพื่อทำลายล้างจีนและประชาชนทั่วโลก*** >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่า จะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัว และให้ความสาคัญในระดับสูง แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!! https://youtu.be/Y04Qm8QVQXE ขอบคุณข้อมูลจาก นพ.ขวัญชัย เสธนันท์
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    โควิด ติดแล้ว ปอดจะทำงานไม่เหมือนเดิมตลอดไป จริงหรือไม่
    Don't mean to scare you, folks, but be very cautious, be protective & be safe to you all. ********************************************************** บอย วรพล สิงห์เขียวพงษ์ December 29, 2020 at 4:55 PM โควิด-19 เป็นแล้วโอกาสตายน้อยกว่าห้าเปอร์เซ็นต์ จริงครับ > แต่หายแล้ว ปอดอาจพังตลอดชีวิต > ลิเดีย-แข็งแรง เหลือปอดทำงาน หกสิบเปอร์เซ็นต์ > ล่าสุด...31 ธันวาคม 2563 ผู้ว่าจังหวัดสมุทรสาครน่าจะเป็นเคสนี้ครับ บทความนี้ถูกส่งต่อกันมา ผมพอทราบว่ามีส่วนจริง แต่ให้แน่ใจ จึงส่งไปถามเพื่อนที่เป็น...’หมอ’ ! เขาตอบว่า...จริง !!! > โควิด-19 เป็นแล้วตายก็จบไป แต่ถ้าไม่ตายก็ต้องลุ้น ! > คุยกันครั้งใด เขาบอกผม...พี่อย่าให้เป็นนะ อายุเยอะแล้ว ตายก็ลำบากก่อนตาย ไม่ตายก็แย่ไปตลอดชีวิต ยกมา > "ผมกลัว" ที่จะติดเชื้อ Covid-l9 ผมจึงทำตามที่รัฐบาลบอก คือ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" และจะออกจากบ้าน เมื่อจำเป็นจริง ๆ ผมบอกว่า ผมเชื่อว่าใครที่ติดเชื้อ Covid-l9 จะไม่มีวันกลับไป "ปกติ" เพราะปอดจะไม่ทำงานเต็มร้อยอีกแล้ว > แต่...แต่ก่อนที่จะเสียชีวิต หากคุณติดเชื้อ รู้ไหมว่ามันทรมานแค่ไหน > คุณรู้ไหมว่า การรักษาโรคปอดติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2ol9 หรือ Covid-19 มันไม่ใช่แค่ใส่หน้ากากออกซิเจน แล้วนอนอ่านหนังสือ หรือเล่นโทรศัพท์ อยู่บนเตียงสบาย ๆ ในโรงพยาบาล > เพราะเครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วย Covid-19 (บางคน-ไม่ทุกคน) มันสร้างความเจ็บปวด ต้องสอดท่อลงไปในลำคอและคาไว้ จนกว่าจะหาย หรือตายภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยแทบไม่สามารถขยับตัว > การรักษานี้ คนไข้จะถูกจับให้นอนคว่ำกลับหัว มีท่อหายใจต่อจากปากขึ้นไปที่เครื่องช่วยหายใจ ไม่สามารถพูด กิน หรือขับถ่ายได้ตามปกติ แถมเจ็บปวดตลอดเวลา > สิ่งที่แพทย์ช่วยได้ก็คือ ให้ยานอนหลับและยาแก้ปวด เพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้สามารถทนต่อความเจ็บจากการใส่ท่อช่วยหายใจ เหมือนอยู่ในอาการโคม่าเทียม > ผ่านไป 20 วัน ผู้ป่วยจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ สี่สิบเปอร์เซนต์ และมีแผลในปากหรือหลอดลม เช่นเดียวกับปอด เกิดภาวะแทรกซ้อนของหัวใจ > นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้คนแก่ หรือผู้ป่วยโรคอื่น เช่น ความดัน หัวใจ ไม่สามารถทนการรักษาได้ และอาจตายในที่สุด >>> ย้ำ..นี่ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่ ! การให้อาหารเหลวใส่หลอดเข้าไปในท้องของคุณ ไม่ว่าจะผ่านจมูกหรือเส้นเลือด การที่ต้องมีพยาบาลมาช่วยขยับแขนขาทุกสoงชั่วโมง เพื่อป้องกันแผลกดทับ และต้องนอนบนเตียงน้ำที่เย็น เพื่อช่วยลดอุณหภูมิ 40 องศาของคุณ "มันไม่ใช่เรื่องสนุก" และคนที่บ้านเป็นทุกข์แน่ ๆ นี่คือหนึ่งในเหตุผล ที่ชาติตะวันตก ปล่อยให้ตาย ไม่รับรักษา เพราะสิ้นเปลือง > ผมกลัว...ผมจึงอยู่บ้าน ถ้าคุณไม่กลัว ก็ตามสบายนะครับ ไม่สวมหน้ากากตอนออกจากบ้าน ไม่รักษาระยะห่าง ไปในที่สุ่มเสี่ยง เป็นเรื่องความรับผิดชอบที่คุณมีต่อครอบครัวของคุณเอง > ที่เล่ามาทั้งหมด ก็เพื่อคนที่คุณรัก เพื่อคนที่รักคุณ และ เพื่อตัวคุณเอง #เรียบเรียงบางส่วนจาก LIND ใครจะหาว่าผมตื่นตูม ก็ตามสะดวก แต่ผมว่าเราต้อง ‘ตื่นตัว’ แม้คนที่เป็น ไม่ทุกคนที่จะมีสภาพนี้ แต่ก็มีไม่น้อยที่หายแล้วปอดไม่เต็มร้อย > ผมว่าปอดพังเร็วมาก ยิ่งกว่าสูบบุหรี่ซะอีก > แชร์ได้ ไม่ต้องขอครับ > รักใคร ห่วงใคร ก็แชร์กันไป ถ้าคุณได้รับแชร์นี้มาแสดงว่ามีคนรักคุณ
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แก้ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับ covid vaccine
    อันนี้แชร์มาจากในห้องไลน์ศิริราช เชื่อถือได้สูงนะครับ เพิ่งจบLive webinar "Demystifying covid vaccine' แก้ความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับcovid vaccineโดยProf.John McConnell, Editor-in-Chief of The Lancet Infectious Diseases บรรณาธิการวารสารLancet ที่ปัจจุบันเป็นแหล่งอ้างอิงทางวิชาการเรื่องcovid ที่น่าเชื่อถือที่สุด ขอสรุปให้เราฟังสั้นๆที่เกี่ยวกับ vaccine ในส่วนที่เกี่ยวกับเมืองไทย 1.vaccine ทุกชนิดมีผลดีคุ้มค่ามากกว่าภาวะแทรกซ้อนที่ต้องมีบ้างเป็นปกติ 2 ยังไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่าvaccine ชนิดไหนได้ผลดีหรือปลอดภัยมากกว่ากัน เพราะผลการทดลองphase 3 ของแต่ละบริษัททำในกลุ่มประชากรที่ต่างกันสิ่งแวดล้อมก็ต่างกัน 3.หลังฉีดcovid vaccineทุกชนิด ป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ทั้งหมด แต่ สามารถลดอาการรุนแรงและอัตราการตายได้แน่นอน(>80-90%) 4.Astrazenica มีผลการทดลองยืนยันแล้ว่าภาวะแทรกซ้อนด้านลิ่มเลือดน้อยมากเทียบกับปริมาณที่ฉีดและอาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วยไม่ใช่จากvaccine อย่างเดียว ความคุ้มค่าในการฉีดมากกว่าความเสี่ยงจากcovid โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่อายุเกิน30 ปีขึ้นไป 5. Chinese vaccine (Sinovax or Sinopharm)ได้ผ่านการพิสูจน์ในปะเทศชิลี แล้วว่าได้ผลดี ในการป้องกันโรค และลดอัตราตายได้ดีแม้ในกลุ่มสายพันธํBrazil ที่เรากังวลว่าvaccineจะไม่ได้ผล สรุป ถ้าได้โอกาสฉีดvaccine ที่รัฐบาลจัดหามาให้เมื่อใดควรฉีดได้เลยไม่ต้องกังวลตาม social / fake news ทั้งหลายนอกจากเพื่อความปลอดภัยตนเอง และครอบครัวแล้ว ยังเป็นการช่วยสังคมและประเทศชาติในการลดการติดเชื้อด้วย #covid vaccine#ฉีดวัคซีนโควิด
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร 10 พฤษภาคม 2566 คงไม่มีข้อสงสัยอีกแล้วว่า พรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ว่ากำลังมาแรง กับกลุ่มคนหนุ่มสาวที่พยายามกัดเซาะสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เสื่อมลง มีความเชื่อมโยงกันอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน และยังคงพยายามอย่างแข็งขันต่อเนื่องที่จะกัดเซาะต่อไปจนน่าแปลกใจ ไม่มีใครเลยในกลุ่มนี้ที่สำนึกว่าพระมหากษัตริย์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อบรรพบุรุษและครอบครัวตัวเอง ถึงตรงนี้อยากจะเล่าเรื่องที่ผมเคยเล่ามาครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้จะขอนำกลับมาเล่าอีกครั้ง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อผมยังเด็กๆ คุณยายผมซื้อบ้านพักตากอากาศที่หาดชะอำ ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างในยุคเดียวกันกับ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ชื่อ "บ้านปลุกปรีดี" เมื่อครั้งกระโน้น ผมและพี่ๆในช่วงเวลาปิดภาคเรียน จะใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้โดยมีคุณยายเป็นผู้ดูแล หาอาหารการกินให้ทุกมื้อ พวกเราตื่นแต่เช้าก็ไปหาน้ำตาลสดกัน ไปรอซื้อจากใต้ต้นตาล น้ำตาลสดจะบรรจุอยู่ในกระบอกไม้ไผ่ เป็นน้ำตาลสดที่ยังไม่ผ่านความร้อน หวานหอมยิ่งนัก หลังอาหารเช้าก็ลงทะเล เล่นน้ำทะเล หาหอยเสียบ กลับเข้าบ้านทานอาหารกลางวัน บ่ายลงทะเล เย็นทานอาหารเย็น หลังอาหารเย็นลงทะเลไล่จับปูลม ชีวิตช่วงนั้น เป็นชีวิตที่สนุกและมีความสุขจนจำได้ไม่เคยลืมจนถึงทุกวันนี้ ที่บ้านชะอำแห่งนี้ คุณยายอนุญาตให้คนท้องถิ่นคนหนึ่งชื่อ นายอ๋วย มาปลูกกระต๊อบอยู่ฟรีๆทางด้านปลายสุดของที่ ดูเหมือนนายอ๋วยจะเป็นช่างที่มาช่วยซ่อมบ้านให้ นายอ๋วยมีลูกชายหลายคน ลูกของนายอ๋วยบางคนก็มีความสนิทสนมกับเรา หลังจากที่คุณยายจากไป คุนพ่อคุณแม่และพวกเราก็ยังมาพักตากอากาศที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ หลังจากนายอ๋วยเสียชีวิต ลูกคนโต และคนกลาง ย้ายออกไปใช้ชีวิตอยู่ที่อื่น ลูกคนเล็กที่ยังคงอาศัยอยู่ในที่แปลงนี้ วันหนึ่ง ตัวเขาร่วมกับเพื่อนๆของเขากับทนายความคนหนึ่งถือโอกาสใช้ช่องกฎหมาย แอบไปยื่นศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอครอบครองปรปักษ์ที่ดินครี่งหนึ่ง คือด้านหลังที่เขาปลูกกระต๊อบอยู่ ความจริงเราไม่น่าจะมีโอกาสที่จะรู้เรื่องนี้เลย แต่บังเอิญเพื่อนของเขาคนหนึ่งเกิดความขัดแย้งกับเขา จึงนำเรื่องนี้มาบอกเรา เราจึงไปยื่นฟ้องค้านได้ทันก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา ต่อสู้คดีกันกว่าจะชนะก็ใช้เวลาเป็นปี ซึ่งเหนื่อยและต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่าเรื่องจะจบ สุดท้ายเรายังให้เงินผู้ที่พยายามยึดครองที่ของเราไปจำนวนไม่น้อยเป็นค่ารื้อถอน กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ก่อตั้งพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง พยายามจะเปลี่ยนประเทศ ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ อ้างตลอดเวลาว่า ประเทศไทยเป็นของประชาชน หาใช่เป็นของพระมหากษัตริย์ไม่ คนกลุ่มนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับลูกชายคนเล็กของนายอ๋วยที่บ้านชะอำของครอบครัวผม ที่ได้อาศัยอยู่อย่างสุขสบาย สุดท้ายพยายามยึดเป็นที่ของตัวเอง ปฐมกษัตริย์ตั้งแต่สมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุทธยา กรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์ ล้วนเป็นพระมหากษัตริย์ที่นำทัพออกรบ รวบรวมดินแดนก่อตั้งประเทศ พระองค์ต่อๆมาก็มีทั้งต้องทำสงครามเพื่อป้องกันประเทศเมื่อถูกรุกราน เมื่อประเทศชาติต้องเสียเอกราชถูกยึดครอง ก็มีพระมหากษัตริย์ทรงทำสงครามเพื่อกู้ชาติจนได้รับเอกราชอีกครั้ง หากไม่มีพระมหากษัตริย์ เราอาจไม่มีประเทศอย่างทุกวันนี้ ในราชวงศ์จักรี หากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และกรมพระราชวังบวรสุรสิงหนาท ทรงนำทัพรบกับทัพพ่ายแพ้พม่าในสงครามเก้าทัพ เราก็อาจไม่มีประเทศไทย อาจเป็นแบบเดียวกับมอญ กระเหรี่ยง หรือกระทั่งโรฮิงญา ด้วยเหตุนี้สำหรับประเทศเรา หากจะถือว่าพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ทรงเป็นเจ้าของประะเทศ ก็เป็นการถูกต้องแล้ว เมื่อพระมหากษัตริย์ปกครองประเทศ มีคนต่างถิ่นอพยพมาพี่งพระบรมโภธิสมภาร ได้รับพระบรมราชานุญาตให้มีที่ดินทำกินจนมีเงินมีทอง พวกเขาเหล่านั้นก็ยังคงตระหนักว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเจ้าของประเทศ และยังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ แต่ต่อมามีลูก ลูกๆก็ยังมีความสำนึกเช่นเดียวกับรุ่นพ่อ รุ่นแม่ และคงสืบทอดกันต่อๆมา แต่มาวันนี้ รุ่นหลาน รุ่นเหลน ของผู้ที่เคยขอเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารจำนวนหนึ่ง ละเลยเรื่องพระมหากรุณาธิคุณที่พระมหากษัติริย์มีให้รุ่นปู่ รุ่นทวด เสียสิ้น กลับตั้งหน้าตั้งตาหาเรื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ป้อนข้อมูลผ่านสื่อยุคใหม่ สร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เกิดขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้เติบโตมาในยุคของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สนับสนุนให้เกิดขบวนการกล่าวหา หมิ่นแคลน ย่ำยี จาบจ้วงองค์พระมหากษัตริย์ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งเกิดแนวร่วมที่หลงเชื่อเป็นจำนวนไม่น้อย ทำเช่นนี้กันอย่างไม่กลัวบาปกลัวกรรม ลองคิดกันดูว่า องค์พระมหากษัตริย์จะทรงรู้สึกอย่างไร และพระเจ้าอยู้หัวรัชกาลที่ 9 หากยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่จะทรงรู้สึกอย่างไร จริงอยู่หากจะกล่าวว่า ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศก็คงไม่ผิด แต่การเป็นเจ้าของประเทศหมายถึงการมีสิทธิอาศัยอยู่ในประเทศ มีสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ มีสิทธิทุกประการตามที่กฎหมายกำหนด หาได้มีสิทธิจะทำอะไรกับประเทศก็ได้เหมือนกับทำอะไรก็ได้กับที่ดินหรือบ้านที่ตัวเองเป็นเจ้าของไม่ ความเป็นเจ้าของประเทศต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างฯของบ้านเมือง ไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ ยิ่งไม่อาจขายประเทศของตัวเองได้ คนกลุ่มนี้ได้ดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะถึงขั้นตอนสำคัญ เป็นขั้นตอนที่พวกเขาพยายามจะยึดการปกครองของประเทศผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย หากทำสำเร็จเขาก็คงจะดำเนินการในขั้นต่อๆไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของเขา กรณีที่คนกลุ่มนี้พยายามที่จะยกเลิกมาตาม 112 เมื่อไม่สำเร็จ เปลี่ยนเป็นมาเป็นขอแก้ไข ลดโทษ ให้มีโทษปรับได ที่สำคัญคือ เอามาตรา 112 ออกจากหมวดความมั่นคง แสดงว่าพวกเขาเห็นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ และต้องการทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์อ่อนแอลง กรณีที่ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภาของไทย เชิญเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยมาชี้แจง เรื่องการที่มีคนไทยส่งหนังสือร้องเรียนไปยังวุฒิสภาว่า สถาบันพระมหากษัตริย์และทหารแทรกแซงการเลือกตั้ง และวุฒิสมาชิกสหรัฐกลุ่มหนึ่งขานรับ และกำลังจะเสนอวุฒิสภาให้มีมติ 114 กล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยว่าแทรกแซงการเลือกตั้ง ทั้ง 2 กรณีเป็นการบ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้มากที่กลุ่มการเมืองกลุ่มนี้มีการติดต่อกับต่างชาติ นี่อาจเป็นความจริงที่น่ากลัวที่สุด จากที่ได้ฟังพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ตอบคำถามของคุณ สันติสุข มะโรงศรี ทาง Top News ทำให้ทราบว่า ทั้งสองท่านตระหนักและเห็นว่าเรื่องข้างต้นเป็นเรื่องจริงและจะกระทบต่อความมั่นคงของชาติ อีกพรรคหนึ่งที่ตระหนักเรื่องนี้คือพรรคไทยภักดี พรรคอื่นๆหากไม่ได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเสียเองก็คงเห็นว่าเป็นเรื่องเหลวไหล จึงไม่มีพรรคใดให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้แม้แต่พรรคเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้ หากเรายังให้ความสำคัญต่อความเป็นชาติ ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คงไม่ต้องบอกว่า เราควรเลือกเบอร์อะไร พรรคใด ให้เข้ามาบริหารประเทศ ขอย้ำอีกครั้ง พวกเขาทำกันเป็นขั้นเป็นตอน เป็นขบวนการ หากทุกท่านอยากทราบว่าขั้นตอนทั้งหมดมีขั้นตอนใดบ้าง กรุณาดูคลิปตอนที่ 2 ของพลเรือเอก ชาตร์ นาวาวิจิต อดีตเจ้ากรมยุทธการ และอดีตผู้บัญชาการสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง ที่วิเคราะห์ไว้ ตาม link ด้านล่างได้เลย https://www.youtube.com/watch?v=w2L99EeQjPI&feature=youtu.be
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ภัย sms ใกล้ตัว sms การส่งข้อมูลผ่านมือถือ แค่กดดูก็เสียตังค์แล้ว ภัยซ้ำ ๆ ที่พวกเราอาจละเลย
    ภัย SMS วันนี้เพิ่งไปศูนย์ DTAC แจ้งบล๊อค SMS ที่ส่งมาวันละ 3-4 รอบทุกวันจนรำคาญ เคยเปิดอ่านครั้งแรกที่ได้รับ SMS มีแนบ ลิงค์มาด้วยแต่ไม่ได้กดลิงค์ ข้อความเหมือนเชิญชวนเข้าไปดูแอ๊ป แต่ไม่สนใจเลยลบทิ้ง หลังจากนั้นมีมาทุกวัน แล้วก็ถี่ขึ้นวันละหลายรอบจะบล็อคก็ไม่ได้เพราะไม่มีที่ให้บล็อคลบได้อย่างเดียว วันนี้เพิ่งรู้จาก DTAC ว่าSMS ที่ส่งมาเราต้องเสียเงินทุกครั้งที่ได้รับ แต่บริษัทจะลดในส่วนนี้ให้และจะระงับ SMS รายนี้ชื่อ MIXCLUB ผมถาม คชจ.ในส่วนนี้ได้ความว่ารวมแล้วประมาณ 180 บาท โชคดีที่รำคาญไปแจ้งบล็อคที่ดีแทคก่อน ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าจะต้องเสียเงินโดยไม่รู้อีโหน่อรเหน่ยอีกเท่าไหร่ อันตรายมากถ้าเจอ SMS ลักษณะนี้ให้ระวัง
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false