อังกฤษ" เป็นประเทศแรกที่อนุมัติใช้วัคซีนรุ่นใหม่ของโมเดอร์นา ซึ่งพัฒนาให้ป้องกันไวรัสโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมและโอมิครอน
เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หน่วยงานด้านการกำกับดูแลยาของอังกฤษ อนุมัติวัคซีนของบริษัท โมเดอร์นา ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบในปี 2563 และโอมิครอน ที่พบเมื่อเดือน พ.ย.2564 ส่งผลให้อังกฤษกลายเป็นชาติแรกที่อนุมัติวัคซีนรุ่นใหม่ โดยแนะนำให้ผู้ใหญ่ทุกคนเข้ารับวัคซีนรุ่นใหม่เป็นเข็มกระตุ้นในช่วงเดือน ก.ย.-พ.ย.นี้
ด้านคณะกรรมการร่วมด้านการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน ระบุว่า กลุ่มคนที่ควรได้รับวัคซีนรุ่นใหม่เป็นเข็มกระตุ้น ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยที่มีอายุเกิน 16 ปี เด็กอายุมากกว่า 5 ปีที่มีปัญหาด้านสุขภาพ รวมถึงสตรีมีครรภ์ และเด็กอายุเกิน 5 ปีที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ผลการทดสอบวัคซีนรุ่นใหม่ในกลุ่มตัวอย่าง 437 คน พบว่า วัคซีนช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายต้านทานไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน BA.1 ได้ดีกว่าวัคซีนรุ่นเดิม 1.7 เท่า และสามารถต้านทานไวรัสสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ที่กำลังระบาดในอังกฤษได้ดีกว่าวัคซีนรุ่นเดิมเช่นกัน และไม่พบข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง
สำหรับวัคซีนที่ใช้กันอยู่ปัจจุบัน ยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเสียชีวิตและการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้เช่นกัน โดยวัคซีนรุ่นใหม่จะช่วยให้การป้องกันโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หน่วยงานด้านการกำกับดูแลยาของอังกฤษ อนุมัติวัคซีนของบริษัท โมเดอร์นา ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบในปี 2563 และโอมิครอน ที่พบเมื่อเดือน พ.ย.2564 ส่งผลให้อังกฤษกลายเป็นชาติแรกที่อนุมัติวัคซีนรุ่นใหม่ โดยแนะนำให้ผู้ใหญ่ทุกคนเข้ารับวัคซีนรุ่นใหม่เป็นเข็มกระตุ้นในช่วงเดือน ก.ย.-พ.ย.นี้
ด้านคณะกรรมการร่วมด้านการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน ระบุว่า กลุ่มคนที่ควรได้รับวัคซีนรุ่นใหม่เป็นเข็มกระตุ้น ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยที่มีอายุเกิน 16 ปี เด็กอายุมากกว่า 5 ปีที่มีปัญหาด้านสุขภาพ รวมถึงสตรีมีครรภ์ และเด็กอายุเกิน 5 ปีที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ผลการทดสอบวัคซีนรุ่นใหม่ในกลุ่มตัวอย่าง 437 คน พบว่า วัคซีนช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายต้านทานไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน BA.1 ได้ดีกว่าวัคซีนรุ่นเดิม 1.7 เท่า และสามารถต้านทานไวรัสสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ที่กำลังระบาดในอังกฤษได้ดีกว่าวัคซีนรุ่นเดิมเช่นกัน และไม่พบข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง
สำหรับวัคซีนที่ใช้กันอยู่ปัจจุบัน ยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเสียชีวิตและการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้เช่นกัน โดยวัคซีนรุ่นใหม่จะช่วยให้การป้องกันโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Log in to Facebook | Facebook
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02PC3MseJfFZQZ8FnevuVeQVgFRXK1G3HBUUg1SdTEnwdFhvm6hZ9dVZu64E69DB6sl&id=580530612022669You must log in first.Forgotten password?orCreate New AccountEnglish (UK)Bahasa IndonesiaEspañolFrançais (France)中文(简体)日本語Português (Brasil)Meta © 2022