1 คนสงสัย
เดือดชาดาค้านพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วแบบนี้14ล้านเสียงมีประโยชน์อะไร?
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายว่า แถลงการณ์ของพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 66 ประกาศจุดยืนของพรรค คือไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ พรรคภูมิใจไทยพร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างมีคุณภาพ และคัดคานการแก้ไขมาตรา 112 อย่างเต็มที่ พรรคไม่มีเจตนาจัดตั้งหรือสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยแข่งกับท่าน เพราะเราเคารพมติประชาชน และยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข “ท่านอ้าง 14 ล้านเสียงที่เห็นด้วยให้แก้ไขมาตรา 112 แต่ผมเชื่อว่าคนที่ลงคะแนนให้ท่าน เขาไม่คิดว่าท่านจะแก้กฎหมายไม่ให้เป็นสถาบันหลักของชาติอีกต่อไป ผมอยากฝากคนที่จะเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาล ว่าคนไทยไม่ได้มีแค่ 14 ล้านคน ท่านต้องเป็นนายกฯ ของคน ทุกคน เป็นนายกฯของประเทศ ไม่ได้เป็นนายกฯ ของพรรคใดพรรคหนึ่ง ท่านอย่าหลงระเริงกับ 14 ล้านเสียง เพราะไม่ถึง 20% ด้วยซ้ำ ไม่ใช่ตัวชี้ขาด ดังนั้น ท่านต้องดูแลทุกคน และต้องยึดความมั่นคงของชาติ” นายชาดา กล่าว
Naphat Damkham
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น

ข่าวการเมืองเลือกตั้ง

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    เลือกตั้งนายกคนที่ 30 พิธาลิ้มเจริญรัตน์
    วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินในรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม เวลา 09.30 น. เปิดประชุมสภาฯ นัดแรก เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทน ราษฎรและรองประธานสภาฯอีก 2 คน ถ้าการโหวตเลือกประธานสภาฯและรองประธานสภาฯไม่มีการหักหลังพวกเดียวกันเอง?? การจัดตั้งรัฐบาลผสม 8 พรรค จะผ่านด่านแรกได้อย่างสะดวกโยธิน!! จากนั้นอีก 10 วัน จะมีการประชุมร่วม 2 สภาฯ เพื่อโหวตเลือก “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หน.พรรคก้าวไกล เป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย ถ้าโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน เพราะเสียงสนับสนุนไม่ถึง 376 คะแนน จากเสียง ส.ส.บวก ส.ว.ทั้งหมด 750 คน ก็ต้องนัดประชุมครั้งที่ 2 หรือครั้งที่ 3 หรือครั้งที่ 4 หรือครั้งที่ 5... หรือจนกว่านายพิธาจะได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากการโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ต้องล่าช้าออกไป ส.ว.ลากตั้ง 250 คน ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ต้องยืดเยื้อเกินควร ส.ว.ลากตั้งต้องรับผิดชอบผลกระทบที่จะตามมา “แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่หักหลังพรรคก้าวไกล นายพิธา ต้องได้เป็นนายกฯคนใหม่แน่นอน!! แม้ว่า “นายพิธา” อาจโดน กกต.ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้หลุดจาก ส.ส.กรณีถือหุ้นไอทีวี?? ชะตากรรมนายพิธาอาจซ้ำรอยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ต้องหลุดจาก ส.ส.เพราะกรณีถือหุ้นสื่อเช่นเดียวกัน?? แต่ “แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า “เคสพิธา” จะไม่ซ้ำรอย “เคสธนาธร”
    eikq.exe
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กรณีพ่อหลวง ร.๙ ทรงนำเงินคืนกองทุน การเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF คราววิกฤติที่ นายจอร์จโซรอสซาตาน เข้าโจมตีค่าเงินบาท ใน สมัยพล.อ.ชวลิต ยงใจ ยุทธ เป็นนายกฯ ต้องนำ เงินสู้วิกฤติจนเงินเกลี้ยง คลังแตะที่ 55บาทต่อ 1 ดอล่าร์สะเทือนทั้งแผ่น ดินคนไทยจำได้ไหม? เพื่อไม่ให้เป็นภาระ คลังของประเทศ ที่ต้อง จ่ายอัตราดอกเบี้ยรวม ทั้งเงินต้น และมิให้เกิด ความเสื่อมเสีย เสียชื่อ ขาดความเชื่อมั่น ใน นานาอารยประเทศ ด้วยพระบารมีอันหา ที่สุดมิได้ จึงทรงพระกรุ ณาโปรดเกล้าฯมอบให้ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น คือพตท.ทักษิณ ชินวัตร นำไปคืนเงินกู้ 500,000 ล้านบาทแก่ IMF เป็น อันหมดหนี้กัน แต่ ..นายกฯกลับไม่ บอกคนไทยให้รู้ว่า เป็น เงินจากน้ำพระทัยของ ในหลวง ร.๙ กลับบอก ว่า เป็นการบริหารเงิน ของรัฐบาลของตน ! ช่างน่าละอายแก่ใจ ยิ่งนัก คนไทยบางคน ท่านอาจยังไม่รู้ หรือ "ไม่รู้เลย ! " เพราะถูก ปกปิดความจริง ที่คน ทั้งแผ่นดิน สมควรรู้ อย่างยิ่ง พระองค์ ..ผู้ทรงปิด ทองหลังพระโดยแท้ .. จะสถิตในดวงใจ ของปวงข้าพระพุทธเจ้า มิเสื่อมคลาย ..ตราบ นิรันดร์
    ไม่ระบุชื่อ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หลุมพรางสร้างความเกลียดชังทางศาสนาอิสลาม
    หลุมพราง บ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา By ประสาร มฤคพิทักษ์ | pmarukpitak@yahoo.com21 ก.พ. 2565 เวลา 11:49 น. หลุมพราง บ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา กระบวนการสร้างความเป็นอื่นให้กับบุคคลต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างผิวพรรณ จะใช้สองมือแบ่งกันทำหน้าที่ มือขวาสร้างโรงน้ำแข็ง เพื่อปั้นน้ำเป็นตัว ส่วนมือซ้าย ขุดหลุมพราง บ่มเพาะความจงเกลียดจงชังให้คนอื่นตกหลุมพรางนั้น ในบรรดาข่าวโกหก (Fake News) ที่อยู่บนหน้าจอไฟฟ้า หรือสื่อออนไลน์ ทั้งหลายนั้น ข่าวโกหกเรื่องศาสนาอิสลามมีพื้นที่ค่อนข้างมาก ส่งกันได้ทุกวัน ทั้งๆ ที่ 90% เป็นข่าวโกหก 1.โกหกว่า ศาสนาอิสลามกำลังยึดครองประเทศไทย โดยมีการออก พ.ร.บ. คุ้มครองศาสนาอิสลาม 10 ฉบับ ว่ามีมัสยิดใหม่เกิดขึ้นมาก ว่ามีการทำลายวัดในพุทธศาสนาหลายแห่ง ความจริง กรมการปกครอง ชี้แจงแล้วว่า มีกฎหมายเกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามเพียง 4 ฉบับ คือ (1) พ.ร.บ. ว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ. 2489 (2) พ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. 2524 (3) พ.ร.บ.การบริหารองค์การศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 (4) พ.ร.บ.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2545 ไม่ปรากฏว่ามีกฎหมายคุ้มครองศาสนาอิสลามแต่อย่างใดเลย 2.โกหกเรื่องศาสนาอิสลามจะตั้งศาลอิสลาม เพื่อคนมุสลิมไม่ต้องขึ้นศาลไทยปกติ โดยจะระดมรายชื่อ 10 ล้านคน เพื่อถวายฎีกา โดยอ้างว่า “เพื่อเอกราชทางอำนาจของศาลไทยไม่เสียไปอยู่ในมือมุสลิมที่กำลังจะกลืนไทยพุทธหมดแล้ว” ความจริง ไม่มีเรื่องดังกล่าวเลย จะมีก็แต่การนำหลักศาสนาอิสลามเรื่องครอบครัวและมรดกมาใช้สำหรับพิจารณาคดีที่คู่ความทั้งสองฝ่ายเป็นมุสลิม และอยู่ในเขตอำนาจศาลในพื้นที่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล เท่านั้น ตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว (พ.ศ. 2489 ข้อ 3.1) 3.โกหกว่ารัฐบาลต้องเอาภาษีประชาชนสร้างมัสยิดให้ชาวมุสลิมทุกจังหวัด ความจริง มัสยิดเป็นศาสนสถานของอิสลาม ดังที่คาธอลิคมีโบสถ์ พุทธศาสนามีวัด ศาสนาอิสลามมีมัสยิดจำนวน 3,965 แห่ง ตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. ปี 2540 มัสยิดทุกแห่งที่สร้างขึ้นมาจากเงินศรัทธาของชาวไทยมุสลิม รัฐบาลไม่ได้จ่ายเงินสร้างแต่อย่างใด ยกเว้นบางจังหวัดเช่น ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนเงินบูรณะซ่อมแซม ส่วนมัสยิดนครศรีธรรมราชเป็นงบผูกพัน 3 ปี (2557 - 2559) ตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน 4.โกหกว่ารัฐบาลจ่ายเงินค่าเดินทาง ที่พัก อาหาร ให้ชาวมุสลิมไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ซาอุดิอาระเบีย ความจริง ไม่มีเรื่องดังกล่าวเลย ผู้แสวงบุญทุกคนจ่ายเงินเองทั้งสิ้น 5.โกหกว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีสมาชิกที่เป็น สนช. ถึง 63 คน (จากสมาชิกทั้งหมด 233 คน) ที่เป็นมุสลิม กล่าวหาว่า สนช. จำนวนนี้ผลักดัน “ให้มีกฎหมายจัดตั้งศาลซารีอะห์เพื่อให้คนไทยที่มีคดีความกับคนมุสลิมต้องขึ้นศาลนี้ โดยมีผู้พิพากษาเป็นคนมุสลิม” นี่เป็นข่าวเก่าที่แพร่กระจายกันมา ตั้งแต่ 5 ปีก่อน แต่ยังกระจายกันอยู่จนเดี๋ยวนี้ ความจริง สนช. ชุดนั้นมีมุสลิมเพียง 4 คน คือ นิพนธ์ นราพิทักษ์กุล วิทยา ฉายสุวรรณ อนุมัติ อาหมัด และ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ (ถืออิสลามตามคู่สมรส) เท่านั้น ไม่มีการร่างกฎหมาย ดังกล่าว ไม่มีการเสนอ ไม่มีการพิจารณาใดๆ ทั้งนั้น ยังมีข่าวโกหกอีกหลายอย่าง เช่น สัญลักษณ์ Green Industry ของ กท.อุตสาหกรรม สีเขียวบนสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็หาว่า “เป็นตราฮาลาลเพื่อเอาใจมุสลิม” ข่าวโกหกว่าชาวไทยมุสลิมกู้เงินธนาคารอิสลาม “โดยไม่ต้องใช้หนี้คืนได้” ข่าวโกหกว่า พ.ร.บ.ฮัจย์ “ทำให้อิสลามเข้าควบคุมการปกครอง” กระทรวงมหาดไทย ข่าวโกหกว่าผู้นำซาอุดิอาระเบียแต่งตั้ง “ให้นายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคนอิสลามเข้าไทยแบบผิดกฎหมายได้” ทั้งหมดนี้เป็นข่าวโกหกอย่างสิ้นเชิงที่นำมาเผยแพร่กันโดยเฉพาะในกลุ่มไลน์ที่แพร่กระจายอย่างเสรีและยากต่อการควบคุม บทเรียน 6 ตุลาคม 2519 ของขบวนการขวาพิฆาตซ้ายที่ปั้นข่าวเท็จกลายเป็นโศกนาฏกรรมล้อมปราบที่ ม. ธรรมศาสตร์ มีการเผานั่งยางนักศึกษา มีการฆ่าแขวนคอ ที่สนามหลวง แม้แต่การโฆษณาชวนเชื่อของ ฮิตเลอร์ และนาซีเยอรมันที่สร้างความรังเกียจทางเชื้อชาติ สังหารคนยิวไป 6 ล้านคน จะไม่เก็บรับบทเรียนกันบ้างหรือไร เมื่อ 16 ก.พ. 2565 ณ วัดราชบพิธฯ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระวโรกาสให้ ดร.มูฮัมหมัด บิน อับดุลการีม อัลอีซา เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก (OIC) เข้าเฝ้า ทรงรับสั่งว่า “คนไทยคุ้นเคยกับวัฒนธรรมประเพณีของศาสนาอิสลามมานานแล้ว อย่างน้อยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีชาวมุสลิมจากตะวันออกกลางเข้ามาค้าขายหรือรับราชการในเมืองไทย มีผู้สืบเชื้อสายมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นสกุลใหญ่ที่รู้จักกว้างขวาง..... .....ยามที่ชาวมุสลิมมีการงานประเพณีใด ชาวพุทธก็นำสิ่งของไปช่วยงาน ในขณะที่ ถ้าชาวพุทธมีการงานประเพณีใด ชาวมุสลิมก็นำสิ่งของมาช่วยงานเช่นเดียวกัน ทรงสามารถยืนยันได้ เพราะได้เคยทอดพระเนตรเห็นประจักษ์มาด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้ “พระมหากษัตริย์ไทย” ทุกพระองค์ มีพระบรมราชปณิธานที่จะพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์บำรุงทุกศาสนา พระบรมราโชบายเช่นนี้ จึงทำให้เมืองไทย มีความสงบร่มเย็นด้วยสามัคคีธรรมเสมอมา” เลขาธิการ OIC กราบทูลแสดงความปิติยิ่งในพระดำรัส และยังกราบทูลถวายคำยืนยันว่า “บุคคลใดผู้ยุยงให้ผู้คนในสังคมรู้สึกแตกแยกบาดหมางกัน โดนอ้างความแตกต่างกันทางศาสนา บุคคลนั้นไม่ได้ชื่อว่าเป็นมุสลิมที่แท้จริง....... ......เพราะการก่อให้เกิดความร้าวฉานนั้น เป็นความชั่วร้ายที่ไม่อาจกล่าวได้ว่า เป็นตัวแทนของศาสนาใดๆ ในโลก ผู้ที่กระทำการเช่นนั้น ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเขาเอง” สมเด็จพระสังฆราช และผู้นำองค์กรมุสลิมโลก ได้แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์แห่งความสมานฉันท์ที่มีมายาวนานตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และไม่ปรารถนาจะเห็นความขัดข้องหมองใจใดๆ เลย กลุ่มสร้างความเกลียดชังทางศาสนา ไม่เรียนรู้เลยหรือว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงทำให้ชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ ภาคภูมิใจที่ได้เป็นคนไทย ในแผ่นดินแห่งนี้ เมื่อปี 2511 พระองค์ท่านเสด็จไปงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติองค์ศาสดาพระมูฮัมหมัด โดยมีการเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน เป็นการเปิดงาน พระองค์ตรัสกับ นายต่วน สุวรรณศาสน์ อดีตจุฬาราชมนตรีว่า “พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่ถูกเชิญในวันนี้ เขาอ่านได้จับใจไพเราะเหลือเกิน แต่ทำอย่างไรที่จะให้พสกนิกรเรา ทั้งชาวไทยหรือไม่ใช่ก็ตามที และทุกหน่วยงานองค์กรของรัฐได้เข้าใจว่า อัลกุรอานซึ่งเป็นธรรมนูญชีวิต และเป็นคำบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ มีความหมายอย่างไร” แล้วพระองค์ท่าน ก็พระราชทานทุนทรัพย์ก้อนแรกให้กับอดีตจุฬาราชมนตรี เพื่อหาคนแปล จึงได้เกิด “พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน” ฉบับแปลเป็นภาษาไทยที่เป็นคุณูปการยิ่งต่อการศึกษาศาสนาอิสลามของชาวไทยมุสลิมทั้งปวง ต่อเนื่องมาถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่เสด็จงานเมาลิดกลาง และพระราชทานพระกรุณาให้กับชาวไทยมุสลิมโดยไม่ทรงแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนาใดๆ เลย การเอาเรื่องเท็จมาปั้นแต่งโฆษณาว่าเป็นเรื่องจริง การหยิบเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเป็นเรื่อง การเอาเรื่องเล็กมาขยายเป็นเรื่องใหญ่ การเอาเฉพาะส่วนมาแทนที่ส่วนทั้งหมดเป็นวิสัยของมนุษย์ จำพวกไหน กระบวนการด้อยค่าบุคคลต่างศาสนา ด้วยวิธีสร้างความเป็นอื่น ขุดหลุมพรางบ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา จะใจร้ายอำมหิตไปถึงไหน จึงโกหกมดเท็จรายวันไม่หยุดหย่อน เหมือนไม่เกรงนรกหมกไหม้ หรืออย่างไร.
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ดังสนั่นโลก ไทยเข้าสู่กลียุค สามพลเอกแห่งกองทัพไทยถูกจับติดคุกอยู่ USA ฉลาดไหม ?? เอาลูกปืนและอาวุธ ที่ ทบ.ไทยผลิตไปขายพม่าแต่ไม่ขอรับเป็นเงินสด ขอรับเป็นยาเสพย์ติดแทน แล้วเอายาเสพย์ติดนี้ส่งออกไปขายใน USA ร่วมกับแกงค์ยากูซ่า เพิ่งโดน ยากูซ่ากลับใจ ร่วมมือกะ ตร สหรัฐฯ + FBI ลวงมาเที่ยว USA จับทันทีคาโรงแรมที่พัก ปัจจุบันติดคุกอยู่ใน USA ตั้งแต่ 5/เมษายน/2565 คนนึงคือ พลเอก สุขสันต์ จุลานนท์ อายุ 53 ปี ลูกชาย พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรีไทย พร้อมเพื่อน ยศ พลเอกอีกสองคน เตรียมรับพายุเศรษฐกิจโต้ตอบจาก USA จากการที่สามพลเอกไทยค้ายาเสพย์ติดให้ดีเถอะจ้า ทันควัน เริ่มจากห้ามกล้วยไม้ไทยไป USA ทันที ยอดส่งออกหายทันทีปีละหลายพันล้าน ปัจจุบันโรงเลี้ยงกล้วยไม้เริ่มปิดร้างเพียบ คนสวนกล้วยไม้ ตกงานระนาวนับพันคน ต่อมาก็ห้ามมะพร้าวน้ำหอมและผลไม้ไทยไป USA ตอนนี้มะพร้าวน้ำหอมเหลือราคาลูกละ 1-2 บาทจ้า ทั้งที่เข้าฤดูร้อน USA เคยผลิตไม่พอขาย ในราคาขายปลีกลูกละ 3-5 เหรียญสหรัฐ ล่าสุด สส.มะกันเสนอ สภาฯห้ามนำเข้าสินค้าไทยทั้งหมด อ้างกองทัพไทยเน่าสนิท ค้ามนุษย์ ค้ายาเสพย์ติด นายพลรวยอู้ฟู่ แถมโยงใยโรงเรียนเตรียมทหารจากรุ่นสู่รุ่น ทหารอยู่เหนือกฎหมาย แม้นายกฯก็เป็นทหาร แต่งตั้ง สว ขี้ข้ามาเลือกตนเองเป็นนายกฯหลังโค่นล้มรัฐบาลเลือกตั้ง ชักชวน EU แบนสินค้าไทย อ้างเยาวชนอเมริกัน ยุโรป ติดยาเสพย์ติดจากไทยเยอะมาก แถมทำไงก็แก้ไขไม่ได้เพราะนายพลไทยค้าเสียเอง ...................................... *..นายพลกะลานีเซียร่วมกับแก๊งค์​ยากู​ซ่า​ค้าอาวุธข้ามชาติ+ยาเสพติดข้ามชาติ..* *..3นายพลแห่งกองทัพ​ไทยค้าอาวุธ​และค้ายาเสพติด​ข้ามชาติร่วมกับแก๊งค์​ซากูซ่า ถูกตำรวจสหรัฐอเมริกา​จับติดคุก​ ซึ่งมีนายพลตระกูลจุลา​นนท์​ร่วมแก๊งค์​ด้วย(กองทัพไทยยอมรับแต่แถลงข่าวอย่างบิดเบือน.."นายพลกะลานีเซียค้ายา-ค้าอาวุธ-ค้ามนุษย์ รวมทั้งอาชีพสีเทาเป็นอาชีพหลักและไม่ใช่ครั้งแรก")​..* https://youtu.be/ah-YAe_IFLE
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    การเมืองเล่นงาน เรื่องของกัญชา ที่ พ.ร.บ. ต้องถูกถอดออกจากที่ประชุมสภา แบบหักปากกาเซียนนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องของการเมือง ที่พรรคการเมือง จะต้องมองถึงศึกเลือกตั้งที่กำลังใกล้เข้ามาทุกวินาที เป็นศึกที่จะยอมกันไม่ได้แน่นอน จำได้ไหม ตอนนำร่าง พ.ร.บ.กัญชาเข้าสภา ในขั้นตอนยกร่าง ปรากฏว่าทุกพรรคยกมือเห็นดี เห็นงาม วันนั้น ยังมองว่าเป็นโอกาสของประเทศไทย ทั้งในเรื่องของการแพทย์และเศรษฐกิจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ท่าที ที่เคยเป็นมิตรจากฝ่ายการเมืองเริ่มไม่เหมือนเดิม เพราะรู้กันดีว่าหากปล่อยนโยบายกัญชาเดินหน้าราบรื่น รับรองว่า พรรคภูมิใจไทย กับสโลแกน “พูดแล้วทำ” กระหื่มแน่ ดังนั้น เมื่อมาถึงวาระที่ 2 ของการพิจารณา พ.ร.บ.ดังกล่าว จึงต้องใช้โอกาสนี้ ซัดให้ล้มหงาย นำโดยพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่กลับมาจับมือกัน ทั้งที่เรื่องนี้ มีทางออก มากมายโดยไม่จำเป็นต้องถอนร่างกลับไปแก้ไขใหม่ให้เสียเวลา อาทิ การพิจารณารายมาตราต่อในที่ประชุมสภาได้เลย แต่การดึงดันที่จะให้ถอนร่างไปนั้น ก็ไม่ต่างจากการล้มนโยบายของพรรคภูมิใจไทยแล้ว เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากอายุของสภาจะหมดลง นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ.ร่าง พระราชบัญญัติฉบับนี้ พูดด้วยความท้อใจ “วันนี้ประเทศไทยต้องเดินหน้านับหนึ่งก่อน ถ้ามีข้อบกพร่องประการใดก็พร้อมที่จะแก้ แต่วันนี้ท่านยังไม่ได้ดูแต่ละมาตราเลย แต่บอกให้ผมเอากลับไปแก้ ผมเอามานำเสนอต่อที่ประชุมนี้ หากท่านเห็นว่ากฎหมายในแต่ละมาตราไม่ดี ก็เป็นเอกสิทธิ์ของท่าน แต่วันนี้อย่าเพิ่งติ หากท่านยังไม่เห็นรายละเอียด” นายศุภชัย กล่าว อันที่จริง กับท่าทีของพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกพิศดาร แต่เป็นพรรคประชาธิปัตย์ต่างหากที่น่าจับตามอง เพราะอย่าลืมว่า ก็เป็นพรรคร่วมมาด้วยกัน จึงถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย ที่อยู่ดีๆ เอามีดมาฟันเพื่อนหัวแบะ หรือโกรธเคืองที่ถูกพรรคภูมิใจไทย ไล่เจาะพื้นที่ภาคใต้ แต่ทุกพื้นที่นั้น ทุกพรรคก็มีสิทธิ์หาเสียง และประชาชนก็มีสิทธิ์เลือก ใช่หรือไม่ ? อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ พูดอยู่เสมอว่า กังวลการใช้กัญชาอย่างเลยเถิด แต่การบังคับให้ต้องถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เท่ากับการใช้กัญชาของไทย จะยังถูกควบคุมด้วยกฎหมายเดิม ที่ไม่ทันสมัย ไม่ทันสถานการณ์ การดูแลไม่ทั่วถึงครอบคลุม ช่างย้อนแย้งเสียนี่กระไร มีคำถามที่แหลมคมจากกลุ่ม “เขียนอนาคตกัญชาไทย” ต่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่บัดนี้ หมายรวมถึงพรรคเพื่อไทยด้วย 1.กัญชาเสรีนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 9 มิ.ย.จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการปล่อยให้กัญชาเสรีที่สุดเพราะไม่มีกฎหมายมากำกับ และในช่วงที่เสรีที่สุดนี้ กัญชาได้ก่อให้เกิดความวิบัติใดกับสังคมบ้าง เช่น คนติดกัญชาเพิ่มขึ้น คนติดกัญชาไปทำร้ายคนอื่น เหตุการณ์ใดที่ถูกนำมาเป็นปัจจัยชี้วัดว่ากัญชาควรกลับไปเป็นยาเสพติด โดยต้องตอบคำถามนี้เพราะในคำแถลงระบุชัดเจนว่านี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง ฉะนั้นหากยืนยันว่ากระทำบนหลักการ จึงต้องชี้แจงต่อสาธารณะว่ามีข้อมูลใดที่แสดงให้เห็นว่ากัญชาควรต้องกลับไปเป็นยาเสพติด 2.ท่านไม่เห็นด้วยที่อนุญาตให้ครัวเรือนปลูกกัญชาได้ เพราะมองว่าจะเอาไปสูบแทนที่จะนำไปทำประโยชน์ทางการแพทย์ คำถามที่สำคัญคือท่านมีความรู้แค่ไหนในเรื่องกัญชา และนำหลักเกณฑ์ใดมาตัดสินว่าหากชาวบ้านมีสิทธิในการปลูกกัญชาได้แล้วจะก่อให้เกิดภาวะคนสูบกัญชาทั้งประเทศ หากท่านคิดว่าการที่คนเข้าถึงกัญชาแล้วจะทำให้คนสูบกัญชามากขึ้นนั้น เป็นความไร้เดียงสานำความไม่รู้มาตัดสินพืชพื้นเมืองที่อยู่คู่กับครัวเรือนของประเทศนี้มานานก่อนที่รัฐบาลจะประกาศให้ผิดกฎหมาย “ความตายและการเจ็บป่วยของชาวบ้านซึ่งไม่มีเงินรักษา ไม่ได้มีเงินแบบท่าน พวกเขาเหล่านั้นใช้น้ำมันกัญชาในการรักษาชีวิต อย่างที่ ท่านไม่เคยใส่ใจ และอย่าไร้เดียงสาพูดเรื่องกัญชาทางการแพทย์ หากประชาชนไม่สามารถปลูกได้ กัญชาจะกลับไปอยู่ในมือของกลุ่มทุนและผู้เชี่ยวชาญ ทั้งที่มันอยู่ในตำรายาแพทย์แผนไทยและหมอพื้นบ้านเมื่อครั้งสมัยอยุธยาและชาวบ้านสามารถผลิตยารักษา นำไปใส่อาหารแทนผงชูรส และอย่าดูถูกประชาชนว่าไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรถูกอะไรผิดต่อการใช้พืชพื้นเมืองชนิดนี้ ชาวบ้านปลูกกัญชาผิด เวลาพวกคุณเทเหล้าใส่ปากขวดละหลายหมื่น มึนเมากันกลับเป็นวัฒนธรรมอันดีงาม” น่าเสียดายที่พรรคนี้กีดขวางประชาชนในการเข้าถึงการผลิตยาสมุนไพรจากพืชพื้นเมืองที่ชื่อว่ากัญชา สังคมต้องตัดสินพรรคนี้ว่า ควรที่จะให้โอกาสพรรคนี้มาทำงานในสภาอีกหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เชื่อว่าคำถามเหล่านี้ จะไม่มีคำตอบ เพราะพวกเขาได้บรรลุเป้าหมายแล้ว เป้าหมายทางการเมืองในการตัดขาคู่แข่ง เขาคิดแค่นี้ และทำมันได้แล้ว #Ringsideการเมือง
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ผลโพลต์แพ้ขาด..ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง ผมเชื่อว่า หลายคนได้รับรู้ข่าวสารผลโพลต์ ส่วนตัวก็เรียนสถิติ เชื่อเรื่องการทำโพลต์ซึ่งมีระบบและขั้นตอน โอกาสผิดเพี้ยนแค่ 3-5 % เอง ผลโพลต์ล่าสุดผู้นำโพลต์คือ แดง แต่นำแบบถดถอย ส้ม มาแรงกำลังเบียดแซงโค้งสุดท้าย คู่นี้เขาตีกันแย่งฐานคะแนนเดียวกัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ นิวโวตเตอร์ เด็กรุ่นใหม่สมัยนี้ความคิดเขาไปไกล มองความก้าวหน้า ส่วนของลุง ยิ่งนานวันผลสำรวจ คะแนนนิยมยิ่งลดน้อยถอยลง หากเป็นเรา คงถอดใจ ไม่เดินหาเสียงแล้ว ยังไงก็ชนะยากมาในรูปนี้ จริง ๆ ผลงานลุง 8 ปีผ่านมาถ้าใจเป็นธรรม ต้องบอกว่าลุงทำได้ดีมาก เข้ามาแก้ปัญหา หนี้สินจำนำข้าวชาวนาที่ค้างจ่ายเป็นปี มาแก้ปัญหาระบบการบิน ที่ก่อนหน้าอนุมัติกันแบบขาดมาตราฐานจนโดนใบเตือน แก้ปัญหาการประมง ให้ถูกกฏสากล และที่สำคัญ ลุงเข้ามาเพื่อปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานประเทศ เราต้องยอมรับ รัฐบาลผ่านมาหลายรัฐบาลก่อนหน้าลุง ลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานน้อยมาก ไปเสียเงินกับการประชานิยมทิ้งขว้างซะมาก แทนที่จะเอาเงินมาพัฒนาประเทศ เมืองไทยรายได้หลักคือ อุสหกรรมการท่องเที่ยว ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมให้ดี ลุงก็ทำได้เกือบสมบรูณ์ ทั้งทางบก ระบบราง ทางอากาศ พัฒนาสนามบินในภูมิภาคทุกสนามบินอย่างได้มาตราฐานสวยงาม เรื่องโครงสร้างพื้นฐานต้องยกนิ้วให้ลุง ลงทุนใหญ่ให้เป็นอนาคตถึงลุกหลานเลย ในด้านเศรษฐกิจ ถ้าไม่มีการโกง ไม่ทุจริต ประเทศเราเจริญ วาทะกรรมว่า 8 ปีที่ถดถอย เสียโอกาส เป็นวาทะกรรมบิดเบือนหลอกลวงคนไม่รู้ข้อมูล ปี 62 หลังลุงรับตำแหน่งนายกฯ จากการเลือกตั้ง การท่องเที่ยวไทยบูมมาก นักท่องเที่ยวเข้าไทยสูงสุดกว่า 40 ล้านคน ด้านการเงินการคลัง ต้องยอมรับว่า ยุคลุงได้สะสมทุนสำรองระหว่าประเทศไว้มากที่สุด ติดอันดับ 12 ของโลกที่ทุนสำรองมาก ส่งผลเงินบาทมีเสถียรภาพ แข็งค่าขึ้นมามากที่สุดนับแต่ต้มยำกุ้ง ขึ้นมาถึง 29 กว่า ต่อดอลล่า ต่างชาติเข้าถือเงินบาท ถือว่าเป็นสกุลเงินที่เสถียรมากที่สุด ในช่วงก่อนโควิด แม้หลังโควิดมา รวมถึงวิกฤติพลังงาน ทำให้เกิดเงินเฟ้อทั้งโลก ค่าเงินบาทไทยก็ยังทรงตัวได้อย่างเสถียร ผลจากเศรษฐกิจ และ ทุนสำรองที่เรามีคุ้มครองเงินบาทไทย ทั้งหมดเป็นผลมาจากการบริหารของลุงในช่วง 8 ปีผ่านมา มาถึงวันนี้โพลต์ก็ส่วนโพลต์ เลือกตั้งจริง 14 พ.ค. ผมเชื่อว่าพวกเราสามารถสร้างพลังเงียบ พลังบริสุทธ์ พลังแห่งความรักชาติ บ้านเมือง สถาบันฯ อยากให้สังคมไทยเจริญอย่างยั่งยืนถาวร พลังของเราทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงผลโพลต์ได้ "มดแดงยังล้มช้างได้" ฉันใดฉันนั้น เราก็ออกไปล้มโพลต์ได้เช่นกัน ยังมีเวลาที่เราจะไปชวนเพื่อนฝูงใกล้ชิด ญาติพี่น้อง ให้ร่วมกันออกมาล้มโพลต์ครั้งนี้ให้สำเร็จ โดยต้องเลือกแบบยุทธศาสตร์ รวมไทยสร้างชาติ ทั้ง สส.เขต ทั้งพรรค เพื่อให้ลุงได้ สส.เข้าสภาไปโหวตนายกฯ ให้ลุงเป็นนายกต่ออีกสมัย เพื่อให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการล้มละลาย และช่วยเหลือ ปชช. ทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะคนชั่นล่างในระยะยาว เรามาร่วมแรงร่วมใจพิจารณาเลือก รวมไทยสร้างชาติ เบอร์พรรค ๒๒ กันนะครับ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จากดร.อาทิตย์. อุไรรัตน์ ถึงคนไทยทั้งประเทศ ท่านรู้หรือไม่? มีเรื่องพวกนี้ เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ ฟังแล้วอย่าเมินเฉย. หนึ่งคะแนนเสี่ยงของท่านช่วยกันแก้วิบัติของชาติได้ " 5 ปีแห่งความทุกข์ระทมของประชาชน 5 ปีแห่งความหายนะของชาติบ้านเมือง บอกได้คำเดียวว่า หนักกว่านักการเมืองอาชีพ ชาตินี้คงจะหาผู้นำที่สร้างความบรรลัยให้ชาติบ้านเมืองมากเท่าลุงคนนี้ไม่มีอีกแล้ว โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ให้เจ้าสัว/นายทุน น่าเกลียดจริงๆ > ที่ดินรถไฟมักกะสันปอดของกรุงเทพฯที่ ร.5 ท่านประทานไว้เป็นสาธารณะประโยชน์กับคนไทย ก็ใส่พานประเคนให้เจ้าสัวซี.พี. > ยกที่ดินยาสูบให้นายทุนไปทำอหังสาฯ และยังปรับภาษีสรรพสามิตบุหรี่ไทย ทำให้บุหรี่ไทยแพงขึ้นเทียบเท่าบุหรี่นอก คนก็เลยหันไปสูบบุหรี่นอก ทำให้โรงงานยาสูบที่เคยกำไรหมื่นล้าน กลายเป็นขาดทุนหลายพันล้าน > ให้เจ้าสัวเจริญต่อสัญญาเช่าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยไม่ต้องประมูลแข่งขัน และแก้ไขสัญญาเช่าจาก 25 ปี เป็น 50 ปี > ให้ต่างชาติ+นายทุน เช่าที่รัฐ 99 ปี ปชช.ไม่เห็นด้วยก็เปลี่ยนเป็นให้เช่า 50 ปี ต่อสัญญาได้อีก 49 ปี สรุปคือให้เช่า 99 ปี > เดินหน้าโครงการเศรษฐกิจพิเศษ 10 จังหวัด(นิคมอุตสาหกรรม) บางพื้นที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม บางพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นิคมอุตสาหกรรมสกปรก อันตรายแค่ไหนก็ดูมาบตาพุดเป็นตัวอย่าง > ยกที่สาธารณะ ที่ป่า รวมถึงไล่ยึดที่ดินทำกินชาวบ้านไปยกให้นายทุนทำเศรษฐกิจพิเศษ > ให้ต่างชาติซื้อที่ดินใน 13 จังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ไม่อั้น > โครงการ EEC เอื้อประโยชน์สุดๆให้ต่างชาติและนายทุน ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 13 ปี / อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17% ต่ำสุดในอาเซียน / ยกเว้นภาษีนำเข้า เครื่องจักร วัตถุดิบ / สนับสนุนค่าใช้จ่าย ในการลงทุน การวิจัย / อนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ ที่ดิน / ให้สิทธิ์การเช่าที่ดินรัฐ ถึง 50 ปี และสามารถพิจารณา ต่ออายุอีก 49 ปี / วีซ่าทำงาน 5 ปี > มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช และ บางใหญ่-กาญจนบุรี ใช้เงินภาษีประชาชนสร้าง 1.4 แสนล้าน แต่ไม่มีปัญญาทำด่านเก็บเงิน ต้องให้เอกชนมาสัมปทานเป็นผู้ทำด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง โดยรัฐจ่ายค่าจ้างให้เอกชนปีละ 2,000 ล้าน สัญญา 30 ปี รวยแบบง่ายๆไม่ต้องมีความเสี่ยงใดๆ > ดึงโครงการทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และบางนา-ชลบุรี เข้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์เอื้อประโยชน์ให้นายทุนรวย > ค่าโง่คลองด่านคดียังไม่สิ้นสุด แต่รีบจ่ายงวดแรกไป สุดท้ายศาลตัดสินว่าไม่ต้องจ่ายค่าโง่ แต่ค่าโง่งวดแรกที่จ่ายไปก็ไม่ยอมทวงคืน > ส่อแววล้มมวยเรื่องค่าโง่เหมืองทองคำ ที่ถูกบริษัทคิงส์เกตจากออสเตรเลียฟ้องร้อง เพราะคิงส์เกตเคยติดสินบนรัฐมนตรีอุตสาหกรรมไทย และข้าราชการระดับสูงของไทย ในสมัย คสช. 3,000 ล้าน โดยทางตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียส่งหลักฐานการโอนเงินมาให้กลต.ไทย และได้ส่งต่อมาให้ปปช.อีกทีในปี 2558 แทนที่รัฐบาลจะเร่งรีบตรวจสอบเอาผิด เพื่อนำมาใช้ต่อสู้คดีถูกฟ้องเรียกค่าโง่ ซึ่งก็จะทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ ก็กลับดองเรื่องเงียบ ไม่เคยพูดถึงสักแอะ ส่อเจตนาจริงๆ > เบื้องหน้าสั่งปิดเหมืองทอง แต่เบื้องหลังยังเดินหน้า มีการไล่ยึดที่ดินชาวบ้านไปยกให้นายทุนทำเหมืองทอง > เอาเงินสำรองระหว่างประเทศไปเล่นหุ้น > ข้าวดี ตีเป็นข้าวเสื่อมราคาแล้วขายถูกเอื้อประโยชน์นายทุน > ขายเหมาเข่ง 11 รัฐวิสาหกิจสมบัติของชาติ โดยใช้แผนตบตาคนไทยด้วยการตั้งบรรษัทรัฐวิสาหกิจ อ้างให้รัฐดูแล แต่เปิดทางให้นายทุนเข้ามาถือครอง > ปลดล็อคผังเมืองเอื้อนายทุน โครงการที่ทำลายสิ่งแวดล้อม-ชุมชน ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป > ผ่านพรบ.แร่เอื้อนายทุน ทีนี้ประทานบัตรเหมืองแร่ไปทับที่ดินชาวบ้านคนไหน เจ้าของที่ดินก็จะกลายเป็นผู้บุกรุกที่ดินตนเอง > ไล่ยึดที่ดินทำกินชาวบ้านที่อยู่ทำกินมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ เพื่อไปยกให้นายทุนทำเหมืองแร่ ชาวบ้านคนไหนไม่ยอม ก็ฟ้องเอาติดคุก มีติดคุกไปหลายราย ผู้สูงวัยทั้งนั้น > เดินหน้ายัดเยียดเหมืองโปรแตซทำลายเกษตรกรรมที่ภาคอีสาน เอื้อนายทุน >ยัดเยียดการสร้างเขื่อนวังหีบ จ.นครศรีธรรมราช และแอบอ้างว่าเป็นโครงการพระราชดำริในหลวง ร.9 เพื่อให้ปชช.ยอมรับ ทั้งที่ในหลวงท่านไม่เคยยัดเยียดโครงการใดๆถ้าหากปชช.ไม่ต้องการ(โครงการนี้มีปชช.ทูลขอพระราชทาน ในหลวงท่านจึงได้ให้หน่วยงานรับผิดชอบไปศึกษาโครงการ แต่สรุปแล้วไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์ และยังไปทำลายป่าลุ่มน้ำชั้น 1 โครงการจึงล้มเลิกไป แต่ถูกดันโครงการอีกครั้งในรัฐบาลนี้และยังมีการแอบอ้างว่าเป็นโครงการของในหลวง สารเลวจริงๆ) > เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินสกปรกหลายจังหวัดเอื้อประโยชน์นายทุนเหมืองถ่านหิน ทั้งที่ทั่วโลกทยอยยกเลิก เพราะมันสกปรกมีมลพิษอันตราย > ยัดเยียดการขุดเจาะปิโตรเลียมที่บ้านนามูล ดูนสาด จ.ขอนแก่น เอื้อนายทุนบริษัทน้ำมัน มีชาวบ้านคัดค้าน ก็ส่งฝ่ายปกครองไปข่มขู่ให้ยินยอม > เชฟรอนโกงภาษี 3,000 ล้าน แทนที่จะไล่กลับอเมริกา กลับใจดีต่อสัมปทานให้แหล่งทานตะวันในอ่าวไทยของเชฟรอนไปอีก 10 ปี ที่สุดอุบาทว์คือ คิดค่าลงนามต่ออายุสัมปทานแค่ 15 ล้านบาท และส่วนแบ่งจากการขายเพียง 1% จากมูลค่าปิโตรเลียมของแหล่งนี้ 3-5 แสนล้านบาท(แหล่งนี้ขุดน้ำมันดิบมูลค่า 40 ล้านบาท/วัน ขุดวันเดียวก็ได้เงินมากกว่าที่จ่ายค่าลงนามต่อสัญญากับรัฐกว่าเท่าตัวแล้ว และแหล่งนี้ยังมีก๊าซธรรมชาติอีกมาก) > เชฟรอนเจตนาสำแดงใบขนน้ำมันปลอดภาษีเท็จซ้ำซาก ผิดกฏหมายอาญาแผ่นดิน ก็อุ้ม ไม่เอาผิด และยังให้ร่วมประมูลสัมปทาน > ส่วนกรณีนี้ยิ่งหนัก 7 บริษัทน้ำมันทำผิดกฏหมาย ลักลอบขุดน้ำมันในที่ส.ป.ก. ศาลปกครองจึงมีคำสั่งให้เลิกขุด แต่นอกจากคสช.จะไม่เอาผิดแล้ว ยังใช้ ม.44 ล้างผิดให้ และแก้กฏหมายส.ป.ก.อนุญาตให้เอกชนขุดน้ำมันในที่ส.ป.ก.ต่อไปได้ ขนาดคำสั่งศาลยังไร้ความหมาย แล้วบ้านนี้เมืองนี้จะอยู่กันอย่างไร > มีก๊าซ มีน้ำมันเต็มแผ่นดิน แทนที่จะขุดเอง เพื่อให้รายได้เข้ารัฐเต็มๆ ไม่ต้องไปแบ่งให้ใคร ก็ไปแจกสัมปทานให้ต่างชาติรวย > แจกสัมปทานปิโตรเลียมโดยเลือกระบบที่รัฐเสียประโยชน์ ระบบจ้างผลิตที่รัฐได้ประโยชน์ 80-90% ไม่เอา แต่เลือกระบบ PSC(จำแลง) ที่ได้ส่วนแบ่งแค่ 30% > แก้ไขพรบ.ปิโตรเลียมให้ไทยตกเป็นทาสบริษัทน้ำมันต่างชาติหนักข้อขึ้นกว่าเดิม > แก้ไขพรบ.ปิโตรเลียม ลดการจัดเก็บภาษีรายได้จากบริษัทน้ำมันผู้สัมปทาน จากเดิมเก็บอยู่ 50% ก็ลดเหลือ 20% > ก่อนคสช.เข้ามา เก็บภาษีรายได้จากผู้สัมปทานปิโตรเลียมได้ราว 1 แสนล้านบาท/ปี ปัจจุบันเก็บแค่ไม่ถึง 4 หมื่นล้านบาท/ปี > ขูดรีดภาษีน้ำมันปชช. อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตกว่าทุกรัฐบาล > ก่อนคสช.เข้ามา เก็บภาษีน้ำมันปชช.อยู่ราว 6 หมื่นล้านบาท/ปี ปัจจุบันเก็บ 2.2 แสนล้านบาท/ปี ขึ้นราคาก๊าซ LPG อย่างบ้าคลั่ง ขึ้นมากที่สุดกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านๆมาชนิดทิ้งไม่เห็นฝุ่น > ขึ้นลงราคาน้ำมันไม่เป็นธรรมกับปชช. ตลาดโลกขึ้น น้ำมันไทยรีบขึ้นราคาตาม ตลาดโลกลดลง น้ำมันไทยไม่ค่อยจะลงตาม และหลายครั้งขึ้นราคาสวนทางตลาดโลกแบบหน้าด้านๆ และตอนขึ้น 50 สตางค์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนตอนลง 20-40 สตางค์เป็นส่วนใหญ่ ขึ้นลงลักษณะนี้จนปชช.ด่าจนหมดคำด่าไปแล้ว > แยกธุรกิจค้าน้ำมันออกจากปตท.ไปยกให้นายทุน > ขายหุ้นโรงกลั่นบางจากที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ให้กลุ่มทุน > ขายหุ้นโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม(SPRC)ที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ให้นายทุน > ปตท.โกงท่อก๊าซ ก็ไม่ยอมทวงคืน > แยกท่อก๊าซออกจากปตท.ไปให้นายทุน > อุ้มธุรกิจปิโตรเคมีของปตท. ด้วยการยกเลิกเก็บเงินภาคปิโตรเคมีเข้ากองทุนน้ำมัน ทั้งที่เดิมเขาก็จ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันน้อยกว่าประชาชนอยู่แล้ว ทำให้ทุกวันนี้ภาคปิโตรเคมีไม่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันสักบาท ทั้งที่ใช้ก๊าซ LPG มากกว่าใคร ใช้มากกว่าภาคครัวเรือนที่คนไทยใช้หุงต้มกันทั้งประเทศอีก > เขมรบุกยึดที่นาคนไทยที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ก็ไม่ขับไล่ออกไป แถมให้คนของรัฐไปกล่อมชาวบ้านให้แบ่งที่ให้เขมร อ้างเพื่อความสัมพันธ์(น่าจับไปตัดคอทิ้งจริงๆ) > ปล่อยเขมรสร้างอนุสาวรีย์บนพื้นที่ทับซ้อนที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ละเมิดข้อตกลงไทย-เขมร ที่ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ทับซ้อน > ปล่อยเขมรเอาหลักเขตมาปักบนปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ คนไทยรักชาติจะถอนออก ก็สั่งทหารใหญ่ที่ดูแลให้ล้อมลวดหนามเอาไว้ไม่ให้ถอนออก(ระยำจริงๆ) > ปล่อยเขมรสร้างกาสิโนล้ำแดนที่ด่านช่องสายตะกู บุรีรัมย์ คุณวีระ สมความคิดจะไปตรวจสอบ ก็ถูกข่มขู่ > MOU43 เขียนสมัย ชวน หลีกภัย รองรับแผนที่เขมร จะทำให้ไทยเสียดินแดนบนบกในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-เขมร และ MOU44 ที่เขียนสมัย ทักษิณ ชินวัตร ไปรองรับไหล่ทวีปเขมร จะทำให้ไทยเสียพื้นที่ทางทะเลในบริเวณเกาะกูดที่มีน้ำมัน คสช.ก็กอดไว้เหนียวแน่น ไม่ยอมยกเลิก > ปล่อยเขมรบุกยึดดินแดนอย่างง่ายดายในหลายพื้นที่ ไม่คิดปกป้องอธิปไตย แต่ช็อปอาวุธกระจาย ทั้งรถถัง เครื่องบินรบ เรือดำน้ำ > ในหลวงเคยรับสั่งว่าทะเลบ้านเราตื้น ไม่เหมาะกับการมีเรือดำน้ำ แต่ลุงซื้อเรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล้านหน้าตาเฉย >อ้างศาสตร์พระราชา อ้างเศรษฐกิจพอเพียง แอบอ้างในหลวง โหนพระองค์ท่านเรียกคะแนนนิยมให้ตัวเอง แต่ทำตรงข้าม ทั้งอุ้มทุน ทั้งใช้จ่ายเกินตัว ฟาดแต่เมกกะโปรเจ็ควงเงินสูงๆ สร้างหนี้มากมายมหาศาล > เขียนรัฐธรรมนูญเปิดทางขายชาติให้ทางสะดวก ม.190 เดิม เรื่องหนังสือสัญญา การค้า การลงทุนระหว่างประเทศ ที่ทั้งประชาธิปัตย์ และเพื่อไทยพยายามแก้ไข เพื่อให้ผ่านสภาง่ายๆ โดยเรื่องที่จ้องกันตาเป็นมัน ก็คือเรื่องของการตกลงแบ่งผลประโยชน์พลังงานบนพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยกับเขมร แต่ประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยแก้ไม่สำเร็จ เพราะถูกปชช.รู้ทันคัดค้าน แต่สุดท้ายก็มาสำเร็จด้วยฝีมือลุงตู่ เพราะไปหลอกคนไทยว่าเป็นรธน.ปราบโกง และห้ามวิพากษ์วิจารณ์รธน.ก่อนลงประมามติ โดยโยกไปแก้ที่ ม.178 เพื่อหลบหลีกสายตาคนไทย > เขียนรธน.ม.146 ริดรอนอำนาจพระมหากษัตริย์ จากเดิมที่ร่างพระราชบัญญัติใดๆ ถ้าพระมหากษัตริย์ทรงไม่เห็นชอบด้วย และพระราชทานคืนมายังรัฐสภา หรือเมื่อครบ 90 วันแล้วยังไม่พระราชทานคืนมา รัฐสภาจะต้องปรึกษาร่างพระราชบัญญัตินั้นใหม่ ก็แก้ไขเป็นว่า ถ้าเสียง 2 ใน 3 ของสภาเห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัตินั้น ให้นายกฯนำร่างพระราชบัญญัติทูลเกล้าอีกครั้ง ถ้าพระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงปรมาภิไธย หรือไม่พระราชทานคืนมาภายใน 30 วัน ก็ให้นายกฯนำพระราชบัญญัตินั้นประกาศใช้ได้ เสมือนว่าพระมหากษัตริย์ได้ลงปรมาภิธัยแล้ว(หลังรธน.ผ่านการลงประชามติ และได้นำทูลเกล้า ก็ได้มีการตีกลับให้ไปแก้ไขในหมวดอำนาจพระมหากษัตริย์ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับมาตรานี้หรือเปล่า เพราะนายกฯปิดปากเงียบ) ฯลฯ ทุกเรื่องที่ว่าไป มาจากสื่อหลักๆ ผมเคยทำโพสต์และแชร์ออกไปแล้วทั้งนั้น นี่แค่เท่าที่จำได้นะ หรือถ้าใครมีข้อมูลเพิ่มเติม ก็มาบอกไว้ในคอมเม้นต์ได้ ผมจะนำมาใส่เพิ่มเติม อาทิตย์ อุไรรัตน์ ช่วยกันส่งต่อให้ประชนคนไทยทุกคนทราบทั่วกันอย่าได้เลือกมันกลับมาทำลายชาติบ้านเมืองของเราอีกเลย
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    คนไทยอึ้ง 'กัมพูชา' งัดหลักฐาน ‘ทิม - พิธา’ เป็นคนเขมร
    หัวจะปวด นักเคลมในตำนาน ‘กัมพูชา’ งัดหลักฐานประวัติ พร้อมรูปถ่าย ‘ทิม พิธา’ เป็นคนเขมร ลูกหลานเมืองพระตะบอง งานนี้คนไทยถึงกับอึ้ง แน่นอนว่าสิ่งที่กำลังเป็นสนใจมากที่สุดในเวลานี้ คือ เรื่องการเมือง และผู้ถูกจับตามอง คงหนีไม่พ้น “ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้แถลงชัยชนะผลการเลือกตั้ง 2566 พร้อมส่งให้เขา เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ล่าสุดกลายเป็นประเด็นร้อนระอุในโลกโซเชียลฯ เมื่อมีคนตาดีเห็นว่าชาวเน็ตกัมพูชา ได้โพสต์รูปที่เจ้าตัวแคปมาจากอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมโพสต์ข้อความในเชิงอ้างว่า ว่าที่นายกฯ คนใหม่ของไทย มีเชื่อสายเขมร การกระทำของดังกล่าว ถือเป็นการขายชาติ “ในการเมืองไทย มีการเลือกตั้งไปเมื่อวานนี้ ทิม พิธา แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล ที่ได้รับเลือกมาเป็นอันดับ 1 อาจจะมีเชื้อสายเขมรอยู่” “จากภาพที่ทิม พิธา ได้โพสต์ เป็นภาพของโรงเรียนในเขมรปี 2019 บอกว่าคุณย่าของเขาเคยอยู่ที่นี่เมื่อเกือบ 100 ปีก่อน” “เป็นหลานของบุคคลสำคัญของจังหวัดพระตะบอง เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน” งานนี้ทำให้โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากโซเชียลฯ เป็นจำนวนมาก อีกทั้งตั้งคำถามกับเจ้าของโพสต์ว่า นี่เป็นเพียงแค่การปั่นกระแส หรือมีความคิดเช่นนั้นจริง ๆ ขณะที่อีกฟากมองสิ่งดี ๆ เป็นกระแสของชาวไทย มักถูกเคลมเสมอ
    Arin Arinchaya
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    บางตอนจากfb ของชัย ราชวัตรที่เขียนโต้ตอบนายเกษียร เตชะพีระ...... .....คนที่ชื่นชอบนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่จำเป็นต้องนิยมเผด็จการ ผมก็เหมือนประชาชนคนไทยที่โพลทุกสำนักต่างรายงานว่า มีมากถึงร้อยละกว่า 80 ที่ชื่นชมพลเอกประยุทธ์ฯ กล้าตัดสินใจยุติความรุนแรงจนถึงจุดวิกฤติในสังคม พาชาติรอดพ้นจากสถานการณ์เลือดไทยไหลนองแผ่นดิน จนคนไทยสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขกันอีกครั้ง ผมเห็นอย่างนี้ ผมคิดของผมอย่างนี้ ผมผิดด้วยหรือ อาจารย์ชิงชังทหารถึงขั้นคุ้มคลั่ง จะด้วยเหตุผลกลใด ก็เรื่องของอาจารย์ ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยว ไม่เคยจิกตีอาจารย์มาก่อนเพราะความคิดต่าง เลิกพูดให้ผมได้ยินอีกนะว่าอาจารย์เป็นนักประชาธิปไตย ประชาธิปไตยลวงโลกที่ปฏิเสธคำพิพากษาของสถาบันตุลาการ วันดีคืนดี ก็มีมือดียิงอาร์พีจีใส่ศาล เอาระเบิดไปปาบ้านผู้พิพากษา ประชาธิปไตยลวงโลก ที่วันดีคืนดี ก็ยกโขยงอันธพาลไปบุกบ้านประธานองคมนตรี อ้างเป็นเชิงสัญลักษณ์ ประชาธิปไตยลวงโลก ที่นึกสนุก ก็กะเกณฑ์อันธพาลการเมืองบุกเข้ายึดโรงพยาบาลจุฬาฯ จนหมอและพยาบาลต้องเข็นเตียงทารกแรกเกิดและคนไข้ห้องผ่าตัดหนีตาย ประชาธิปไตยลวงโลก ที่พรรคกูไม่ได้เป็นรัฐบาล กูต้องเผากรุงเทพฯ เป็นทะเลเพลิง เพื่อไล่รัฐบาล ประชาธิปไตยลวงโลก ที่ใช้โจรไพร่ ใจอำมหิต ยิงอาวุธใส่ผู้ชุมนุมทางการเมืองโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่ไว้ชีวิตแม้กระทั่งสตรีและเด็ก ประชาธิปไตยลวงโลก ที่บุกเข้าศูนย์การค้า ทุบตู้โชว์ คว้ากระเป๋าแบรนด์เนมจนถึงเครื่องเพชร อ้างเพราะตกใจ ฯลฯ ปฏิเสธมาซิว่า ประชาธิปไตยลวงโลกที่ผมเอ่ยมา ไม่มีอยู่จริงในรัฐบาลที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าผมต้องเลือกระหว่างเผด็จการทหารกับประชาธิปไตยลวงโลก ผมพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ผมเลือกเผด็จการทหาร .....
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    “ ชลน่าน” โต้ข่าวเพื่อไทยยกประธานสภาให้ก้าวไกล ซัดปล่อยข่าวทำพรรคตกเป็นจำเลย ยืนยันหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ ไม่มีแผน 2-3
    “ชลน่าน” โต้ข่าวเพื่อไทยยกประธานสภาให้ก้าวไกล ซัดปล่อยข่าวทำพรรคตกเป็นจำเลย ยืนยันหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ ไม่มีแผน 2-3 จากกรณีมีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยยอมยกเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้พรรคก้าวไกล โดยพรรคเพื่อไทยจะนั่งรองประธานสภาฯ 2 ตำแหน่ง มีเงื่อนไขว่าทั้ง 8 พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมจะชู นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี หาก นายพิธา ไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ได้ พรรคเพื่อไทย จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลจะอยู่ช่วยพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลไม่แยกตัวออกไปไหนนั้น ล่าสุด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ไม่รู้ที่มาที่ไปของข่าวดังกล่าว โดย นพ.ชลน่าน บอกว่า เมื่อวานนี้ยังอยู่กับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ก็ยังมีการพูดคุยถึงแนวทางต่างๆ ที่เราจะไปพูดคุย เจรจากับพรรคก้าวไกล รวมถึงกระบวนการเพื่อขอมติพรรค 3 ก.ค. ก่อนที่จะมีการโหวตประธานสภา 4 ก.ค. นพ.ชลน่าน ย้ำว่า คำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก บางคนไปตีความ สิ่งที่สื่อสารออกไปผิด ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า เปรียบประชาชนเป็นพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ให้เขามาอย่างไรเราก็ต้องทำ แม้เราไม่เห็นด้วยในเรื่องนั้นตนก็เลยเปรียบเทียบ ให้ฟังกลับไปตีความผิด กลายเป็นว่าไม่รักกัน มันไม่ใช่ไม่รักกัน การคลุมถุงชนมันไม่ใช่ว่ารักหรือไม่รัก จริงอยู่ส่วนหนึ่งที่อาจมีไม่รักแต่ถูกจับมาแต่ง บางครอบครัวเขาไม่เคยเจอกันเลยแต่ถูกจับมาแต่งเขาก็รักกัน เป็นคู่ชีวิตที่ยั่งยืน อย่างเช่นคนจีนที่มีครอบครัวเข้มแข็ง ความหมาย คือ เพียงแค่จะต้องการให้เห็นความสำคัญของประชาชน ว่าเขามอบอำนาจมาให้เราเหมือนพ่อเหมือนแม่ ดังนั้นเราเองไม่มีสิทธิ์ที่จะไปคิดอย่างอื่นเลย ต้องการจะเปรียบเทียบเท่านี้ แต่อาจจะสื่อสาร ไขว้เขวก็ต้องขออภัย เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งรองประธานสภา 2 คน และเป็นเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลแทนหากก้าวไกลทำไม่สำเร็จนั้น นพ.ชลน่าน ยืนยัน เป็นการปล่อยข่าว ระดับแกนนำเองก็ยังงง ว่ามายังไง เพราะไม่ใช่ผลดีกับพรรคแน่นอน และคนที่ปล่อยข่าวมาอ้างตัวว่าเป็นแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย อย่างนี้ยิ่งส่งผลไม่ดี ยิ่งทำให้เราตกเป็นจำเลยเข้าไปอีก ดังนั้นตนขอย้ำอีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทยยึดมั่นในฉันทามติของประชาชน สนับสนุนนายพิธาเป็นนายก และก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยที่เพื่อไทยจะไม่เป็นเงื่อนไขในการที่จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ
    std46218
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false