ข้อความดั้งเดิม

ไปดูหน้ารวมข้อความ >
ผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนรับประทาน 2 อาทิตย์กระจ่างใส จริงหรือไม่?

จากประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงกันบนโลกออนไลน์ว่า การรับประทานผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนสามารถทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นจริงหรือไม่ รศ. พญ.เพ็ญพรรณ วัฒนไกร แพทย์ประจําหน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนว่า กลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

(ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.rama.mahidol.ac.th )

ในทางการแพทย์พบว่ามีการนำกลูต้าไธโอนมาทดลองใช้ในการรักษาโรคต่างๆ แต่ยังไม่ได้รับการ

อนุมัติข้อบ่งใช้จากองค์การอาหารและยา เช่น ภาวะเป็นหมันในเพศชาย ปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็ง

กระเพาะอาหาร หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก วิธีการรักษามักทำโดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำหรือเข้าที่

กล้ามเนื้อ ผลข้างเคียงอย่างหนึ่ง คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดกลูต้าไธโอนนั้นมีสีผิวที่ขาวขึ้น

เนื่องมาจากกลูต้าไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ได้ และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนัง

เปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้พยายามนำผลข้างเคียงของยามาใช้ในการทำ

ให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นการนำยามาใช้ในทางที่ผิดอีกรูปแบบหนึ่ง โดยในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่

น่าเชื่อถือยืนยันหรือรับรองประสิทธิภาพและประโยชน์ของกลูต้าไธโอนในการทำให้ผิวขาวได้อย่างแท้จริง

(ข้อมูลจากเว็บไซต์https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/)

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผิวที่ขาวขึ้นจากกลูต้าไธโอนนั้นยังอยู่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หากต้องการให้ผลอยู่ในระยะยาวจำเป็นต้องทานซ้ำเป็นระยะๆ ทำให้ยาสะสมในร่างกายมากขึ้น และอาจมีความเป็นพิษต่อตับ รวมถึงอาจก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ กลูตาไธโอนชนิดฉีดหรือชนิดรับประทานเพื่อให้ผิวขาวใสนั้นยังไม่มีการพิสูจน์ผลที่ชัดเจน ความปลอดภัยในการใช้ยาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง และพึงระลึกไว้เสมอว่า “ ไม่มียาชนิดใดในโลกที่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์ ” ดังนั้นก่อนการใช้ยาใดๆ ก็ตามควรศึกษาข้อมูลปรึกษาเภสัชกร ก่อนรับประทานให้ละเอียดเสียก่อนเพื่อความปลอดภัยของตนเอง

( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://hdmall.co.th/  )

ความเห็นนี้