ข่าวจริงหรือข่าวลวง

ตามที่มีการแชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง พบถังสารเคมี 5 แสนลิตรใต้ดิน ณ โรงงานผลิตโฟม ที่เกิดไฟไหม้ ย่านกิ่งแก้ว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

เด็กทารกแรกเกิด-1 ปี ไม่ควรสวมหน้ากาก เพราะเด็กเล็กระบบการหายใจยังไม่แข็งแรงพอ เสี่ยงภาวะคาร์บอนไดออกไซด์คั่งได้ เนื่องจากทารกแรกเกิดหายใจทางจมูกเป็นหลัก ยังไม่มีความสามารถในการหายใจชดเชยด้วยการอ้าปากหายใจได้ เมื่อมีการขาดอากาศ หรือออกซิเจน จะมีโอกาสเกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เกิดอันตรายต่อระบบประสาทของทารกได้

เหตุระเบิดโรงงานกิ่งแก้ว 21 หมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทำไฟลุกโหมไหม้นานกว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งในพื้นที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก ชื่อ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซึ่งมีถังเคมีขนาดใหญ่อยู่ภายใน แรงระเบิดส่งผลให้เกิดไฟลุกท่วม มีผู้บาดเจ็บนับสิบ ล่าสุดมีรายงานเข้ามาว่า ได้มีคำสั่งให้เร่งอพยพผู้คนในพื้นที่โดยเร็วที่สุด ในรัศมี 5 กิโลเมตร เนื่องจากมีสารเคมี กว่า 10 ชนิด และตอนนี้ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ถอนกำลังหวั่นระเบิดซ้ำ

ผมยังsearchไม่เจอข่าวนี้ครับ แต่พบข่าวของเดือนเม.ย.64 ว่ามีผู้นอนเสียชีวิตบนรถไฟสุไหงโกลก-กทม. แต่ตรวจไม่พบโควิดแต่อย่างใด

มีการกล่าวหาว่าโครงการแพทย์แผนไทยรับมือภัยพิบัติ เป็นกลุ่มของมิจฉาชีพ โดยพิมพ์คำว่ามิจฉาชีพทับลงไป และผมขอสันนิษฐานดังนี้ 1. อาจจะมีคนที่คิดว่าโครงการนี้เป็นมิจฉาชีพ หลอกถามข้อมูลส่วนตัว เพราะว่าระบบต้องการทราบเลขบัตรประชาชนของผู้รับบริการ ซึ่งจากการสืบค้น ทางเพจได้กล่าวว่า "กรณีการขอสำเนาบัตรประชาชน ตามจริงเราอนุญาติให้ท่านปิดเลขบัตร หรือเซนกำกับ ได้นะครับ แต่จำเป็นต้องขอ เพื่อลงทะเบียน เวชระเบียน ตามกฏหมายการแพทย์ เราต้องทราบว่าจ่ายยาให้ไครจำนวนเท่าไหร ชื่อในใบผลตรวจตรงกับผู้รับยาตรงกันมั้ย เปรียนกับท่านไปหาหมอที่คลีนิคหรือ รพ. ท่านก็ต้อง ให้ข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้กับทาง รพ. เช่นกัน แต่ที่ไม่ได้แจ้งไว้ในป้ายประกาศ เพราะการลงมือทำโครงการของเราครั้งนี้เร่งด่วนมาก และมีบุคลากรจำกัด ด้วยสถาณการโควิดหมอไม่สามารรวมตัวกันช่วยงานได้ จึงเกิดความผิดพลาด ที่ไม่ได้แจ้งไว้ในป้าย ว่าท่านสามารถปิดเลขบัตรประชาชนได้ ขอทุกท่านอย่าได้กังวล พวกเราทำเพื่อสาธารณประโยช โดยไม่คิดเปิดเผยตัวเพราะเราทุกคนไม่ได้หวังชื่อเสียงหรือผลประโยชใดๆจากโครงการนี้ แต่เนื่องจากมีกรณีข่าวปลอมโจมตีต่างๆ จึงจำเป็นต้องเปิดเผยตัวเพื่อความโปรงใส ข้าพเจ้า พท. วรธัช แสงแก้ว ขอให้คำรับรองว่าจะเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นความลับ ตามระเบียบจรรยา และกฏหมายการแพทย์ทุกประการ" 2. มีบุคคลที่ไม่เชื่อถือแพทย์แผนไทย หรือมองว่าแพทย์แผนไทยเป็นเรื่องหลอกลวงเหลวไหล อยู่อีกไม่น้อย โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ (ไม่รวมถึงการที่นักเคลื่อนไหวด้านสมุนไพรหรือคนที่พูดสนับสนุนสมุนไพร มักจะอยู่ฝ่ายอนุรักษนิยม บางคนก็มีหรือเคยมีพฤติกรรมสนับสนุนอำนาจนิยมอีกด้วย อันนี้ก็มีส่วน ที่ฝ่ายเสรีนิยมบางคนจะไม่เชื่อถือในเรื่องนี้) 3. ขณะที่ผมเขียนอยู่นี้ทางเพจแจ้งว่าขณะนี้ยามีไม่พอแจกจ่ายอาจจะต้องรอการผลิต รวมถึงขณะนี้มีนโยบายว่าจะแจกจ่ายยาให้เฉพาะผู้ที่มีอาการจริง ๆ ผมก็คิดว่าหากเป็นการการส่งพัสดุยา บางทีก็อาจจะส่งได้ล่าช้า เช่นพัสดุข้ามภาคมักใช้เวลาส่ง2-3วัน ก็คงไม่ทันต่อสถานการณ์อาการป่วย

4ก.ค.64 เพจสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตโพสต์เตือน ผู้โดยสาร ThaiSmile flight WE201 1ก.ค.64 7.40น. สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต พบมีผู้ติดCOVIDเดินทางมาด้วย

จากการที่สืบค้นทางเพจเฟสบุ๊ค แพทย์แผนไทยรับมือภัยพิบัติ ได้แจ้งว่า มีผู้ไม่หวังดี ทำตัวหนังสือคำว่า "มิจฉาชีพ" (สีแดง) มาทับบนป้ายของเราแล้วเผยแพร่เป็นการสร้างความเข้าใจผิดกับประชาชน

แพทย์แผนไทยหลายท่านกล่าวในทำนองเดียวกัน คือยาสมุนไพรไทย เช่น ยาฟ้าทะลายโจร ยาจันทลีลา ยาห้าราก ฯลฯ สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิดที่มีอาการน้อยได้

แม้ยังไม่มีผลการศึกษาวิจัยที่แน่ชัดก็ตาม แต่แพทย์แผนไทยหลายท่านก็กล่าวในทำนองเดียวกัน คือยาสมุนไพรไทยสามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิดที่มีอาการน้อยได้

ไปรษณีย์ไทยได้ออกมาปฏิเสธคลิปเสียง35วินาทีดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง แต่ก็ควรระมัดระวังเพราะพบว่าเชื้อโควิดอาจติดมากับวัตถุได้แม้ยังไม่มีรายงานที่แน่ชัดเกี่ยวกับผู้ที่ติดเชื้อจากการรับสิ่งของ

มีให้จองได้จริง (แต่ก็มีหลายท่านโพสคอมเมนต์ว่าโทรไปจองก็โทรไม่ติด แสดงถึงความต้องการในการจองที่สูงมาก)

ในคอลัมน์ New Cases นั้นขาดข้อมูลของหลายประเทศเช่นอินเดียหรือสหรัฐ ดังนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่หกพันคนจึงขึ้นเป็นที่หนึ่งได้

เป็นภาพที่มาจากเพจจริงของทางจังหวัด

เป็นโดเมนเนมที่ถูกต้อง วันที่4ก.ค.64 เข้าไปในเว็บนี้จะขึ้นภาพว่าให้จองได้วันที่ 5ก.ค.เวลา8.30นเป็นต้นไป

มีข่าวนี้รายงานแล้วในบางสื่อ แต่กลับไม่พบการประกาศข่าวนี้ในเพจของ กสทช แต่อย่างใดจึงคาดว่าอาจจะยกเลิกหรือระงับการประกาศไปก่อน

เป็นเพจจริง แต่ก็พึงระมัดระวัง เนื่องจากประชาชนยังสามารถเดินทางออกจากกรุงเทพและปริมณฑลได้ ทำให้ส่งออกโควิดได้ดังกล่าว

ยังไม่มีเครื่องดื่มหรือสมุนไพรอะไรที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 หรือรักษาโควิด-19 ได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำขิงหรือน้ำมะนาวอุ่นๆ สามารถดื่มได้ถ้าเพื่อประโยนช์ทางสุขภาพอื่น แต่ในแง่การช่วยรักษาโควิด-19 ยังไม่เป็นผล ขิงที่มีรสเผ็ดจะมีฤทธิ์ในการกัดกร่อน ฆ่าเชื้อ ไปจนถึงสามารถช่วยทำให้อาการท้องเสียบรรเทาลงได้

เป็นเพจจริงครับ แต่ผมก็ตั้งข้อสังเกตว่าการตรวจคัดกรองที่ใช้เวลานาน เข้าแถวยาว คิวยาว ก็น่าจะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิดเช่นกัน

ผู้เสียชีวิต นายวันชัย บุลกุล เป็นเจ้าของโรงแรมมโนราห์ ถ.สุรวงศ์ กทม. หลังจากป่วยเป็นโควิด-19 เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ เป็นเวลา 10 วัน และ เสียชีวิตดัวยโรคโควิด-19

เพิ่มเติมค่ะมีข่าวล่าสุดว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้มีคำสั่งให้หน่วยข่าวกรองไปสืบหาต้นตอ โควิด-19 และแจ้งWHO ให้ช่วยหาต้นตอการระบาดโควิดอีกครั้ง ตั้งแต่ในช่วงพค.64ที่เพิ่งผ่านมา โดยระบุให้พบคำตอบหรือข้อสรุปให้ได้ ภายในเวลา90วันค่ะ สามารถอ่านข่าวจาก2ลิงค์นี้ค่ะ

อัปเดต ณ ปัจจุบันนี้ ยังไม่มีผลสรุปต้นตอการระบาดของโควิด-19 ค่ะ ที่ผ่านมาเป็นเพียงการตอบโต้ระหว่าง2ประเทศมหาอำนาจเท่านั้น ไม่มีหลักฐานจริงที่ยืนยันแน่ชัดแต่อย่างใดค่ะ ล่าสุดWHO ได้เข้าไปที่จีนที่เมืองอู่ฮั่นเพื่อไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมค่ะ ชาวโลกคงต้องรอคอยกันต่อไปค่ะ ลองอ่านข่าวได้จากทั้ง2ลิงค์ดูค่ะ

หลังจากที่ องค์การเภสัชกรรม (GPO) ได้กำหนดราคาขายวัคซีน “โมเดอร์นา” ให้กับโรงพยาบาลเอกชน โดยขายโดสละ 1,100 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าขนส่ง และค่าประกันภัยรายบุคคล หลังจากนี้สมาคมโรงพยาบาลเอกชนจะไปกำหนดราคากลาง ค่าบริการฉีดที่เป็นอัตราเดียวกันทุกโรงพยาบาลต่อไป

ข้อความดังกล่าวเป็นจริงทั้งหมด

ยังไม่มีงานศึกษาวิจัยว่าสมุนไพรไทย ช่วยรักษาอาการป่วยจากโควิดหรือไม่ แต่มีงานวิจัยหลายชิ้นบอกว่าสมุนไพรไทย กลุ่มที่มีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรที่ใช้ในเครื่องต้มยำ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ดีขึ้น บางคนนำหอมแดงมาต้ม เพื่อสูดดม แล้วไอของน้ำมันหอมระเหยจะช่วยให้จมูกโล่ง ระบบทางเดินหายใจ เหมือนถูกทำความสะอาด เชื้อที่ติดอยู่ ก็ถูกกำจัดออกมา ตามระบบเสมหะ ตามระบบทางเดินหายใจ ซึ่งสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือผู้ป่วยโควิด 80 เปอร์เซ็นต์ มีอาการน้อย และสามารถหายเองได้ โดยร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา ซึ่งการใช้สมุนไพร ก็เหมือนกับการดูแลตัวเองเป็นการนำมา เสริมภูมิคุ้มกันตัวเอง แต่อาจจะไม่สามารถฆ่าเชื้อโควิดได้

เปิดเผยว่า โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า แพร่เชื้อได้รวดเร็ว โดยการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่า ประชาชนรายหนึ่งติดเชื้อเพียงแค่เดินผ่านคนแปลกหน้า ที่ป่วยโควิดไม่กี่วินาที การสัมผัสผู้ป่วยเพียงแค่ระยะเวลาแค่ 5-10 วินาทีก็ทำให้ติดเชื้อได้ ถือเป็นเรื่องน่ากังวล เพราะอนุภาคไวรัสสามารถคงอยู่ในอากาศในรูปแบบละอองได้นานถึง 16 ชั่วโมง มีโอกาสที่ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะสูดหายใจเข้าไป ก็จะทำให้ติดเชื้อได้