ข่าวจริงหรือข่าวลวง

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย แจงจากกรณีที่มีการแชร์รูปภาพของนายกฯ พร้อมข้อความว่า “ค่าไฟแพง เพราะประเทศขาดรายได้ ถ้าคิดว่าค่าไฟแพงก็ไปจุดเทียนไขใช้แทนเอา” อีกทั้งยังมีข้อความเรื่องการแจกเงิน 5,000 บาท ที่ระบุว่า “ไม่รู้จะมีเงินจ่ายพอไหม ต้องไปขอความช่วยเหลือจากท่านเศรษฐี” ทางกรมประชาสัมพันธ์ ได้ชี้แจงว่า เป็นการนำภาพ และข้อความที่ต่างกรรมต่างวาระที่นายกฯ เคยพูดไว้มารวมกัน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด วันนี้ (22 เม.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ค่าไฟแพง เพราะประเทศขาดรายได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น มีข้อมูลบิดเบือน จากกรณีที่มีการแชร์รูปภาพของนายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความว่า “ค่าไฟแพง เพราะประเทศขาดรายได้ ถ้าคิดว่าค่าไฟแพงก็ไปจุดเทียนไขใช้แทนเอา” อีกทั้งยังมีข้อความเรื่องการแจกเงิน 5,000 บาท ที่ระบุว่า “ไม่รู้จะมีเงินจ่ายพอไหม ต้องไปขอความช่วยเหลือจากท่านเศรษฐี” ทางกรมประชาสัมพันธ์ ได้ออกมาชี้แจงว่า เป็นข้อมูลบิดเบือน เนื่องจาก เป็นการนำภาพ และข้อความต่างกรรมต่างวาระที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้มารวมกัน โดยได้แจง เป็น 4 ประเด็นดังนี้ 1. กรณีข้อความ “ค่าไฟแพงพวกคุณก็จุดเทียนไขใช้เเทนชิ” เป็นคำตอบ ของนายกรัฐมนตรี ที่เคยพูดตอนตอบสื่อ เมื่อ 30 เมษายน 2562 และเคยเป็นประเด็นทางการเมืองมาแล้ว 2. รูปที่นำมาใช้ และมีข้อความดังกล่าว เป็นรูปเก่าที่ใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีก 3. ประเด็นเรื่องเงินเยียวยา 5,000 บาท นายกรัฐมนตรีได้ออกมาขอโทษประชาชนแล้ว ว่าหากทำให้เข้าใจผิด เพราะเพียงอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า รัฐบาลจะใช้เงินอย่างไร ไม่ได้หมายความว่าการจ่ายเงิน 5,000 บาท จะไม่แน่นอน ยืนยันให้ครบทั้ง 3 เดือน ขอให้มั่นใจในรัฐบาล กระทรวงการคลัง และทุกหน่วยงานที่กำลังพยายามอย่างเต็มที่อาจไม่ทันใจไปบ้าง แต่เพราะเป็นเรื่องการใช้เงินของรัฐฯจึงต้องระมัดระวัง 4. ประเด็นเรื่องมหาเศรษฐี ข้อเท็จจริงคือ การเตรียมส่งจดหมายถึงเพื่อให้ร่วมระดมความคิดเห็น ในการแก้ปัญหาโควิด-19 ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามที่เว็บเฟซบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า หรือโทร. 02 2884000

กองปราบปรามขอให้คำแนะนำว่า การนำภาพบิลค่าไฟฟ้ามาโพสต์ลงโลกออนไลน์นั้นมีความเสี่ยง เนื่องจากในบิลค่าไฟฟ้ามีข้อมูลชื่อและนามสกุลจริง รวมถึงที่อยู่ด้วย จึงอาจถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่ชอบได้

เพราะสำนักข่าวไทย อสมท. รายงานว่า อย. แจงว่าอนุมัติสรรพคุณ ยาจีนเหลียนฮัวชิงเหวินแคปซูล เฉพาะช่วยขจัดพิษ ลดไข้ บรรเทาอาการหวัด ไข้หวัดใหญ่ อีกทั้งพบลักลอบขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่มีทะเบียนทางออนไลน์ เตือนอย่าซื้อ เสี่ยงได้ยาปลอม

เป็นไปตามข้อมูลที่แจ้งในเพจของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ให้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน เป็นต้นไป แต่ถัาจ่ายไปก่อนแล้ว จะคืนเงินให้ภายหลัง https://mobile.facebook.com/photo?fbid=3527100803986034&set=a.220381807991300&_rdc=1&_rdr

เป็นไปตามข้อมูลที่แจ้งในเพจของการไฟฟ้านครหลวงที่ให้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน เป็นต้นไป แต่ถัาจ่ายไปก่อนแล้ว จะคืนเงินให้ภายหลัง https://mobile.facebook.com/photo?fbid=3527100803986034&set=a.220381807991300&_rdc=1&_rdr

จากกรณีที่มีข้อความชวนเชื่อเรื่อง น้ำมันกัญชาสามารถป้องกันไวรัส COVID-19 โดยระบุว่า การป้ายทาน้ำมันกัญชาเข้าไปในจมูกทั้ง 2 ข้าง นั้นสามารถป้องกันจากการติดเชื้อไวรัสที่ผ่านทางการหายใจนอกเหนือจากใช้ผ้าปิดจมูกได้ ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์ที่ยืนยันชัดเจนว่ากัญชาสามารถช่วยป้องกันการติดไวรัสโควิด-19 ผ่านทางการหายใจได้ และกัญชายังจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ยกเว้นกรณีนำไปใช้ทางการแพทย์ ไม่ควรใช้ในกรณีอื่นที่ไม่อยู่ในความดูแลของแพทย์ เพื่อประสิทธิผลที่ดีและความปลอดภัยจากการใช้ของตนเอง

เรื่องนี้ตรวจสอบกับ รศ.ดร.ชลัท ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล สรุป : แหล่งที่มาไม่ชัดเจน และยังไม่มีข้อมูลว่ามีการติดโควิด-19 จากการกินอาหาร แต่พฤติกรรมการบริโภคยังคงต้องปฏิบัติตามสุขอนามัย เพราะยังมีไวรัสตัวอื่นซึ่งสามารถติดผ่านอาหาร เช่น ไวรัสตับอักเสบเอ หรือ พวกโนโรไวรัส หากซื้อผักมาทำสลัดเอง ก็ยังสามารถทำได้ตามปกติ พยายามล้างผักให้สะอาด

จากกรณีที่มีข้อความกล่าวอ้างเรื่อง คณะสงฆ์เจ้าอาวาสทั่วราชอาณาจักร ขอความร่วมมือให้งดหรือเลื่อนการตาย ทางสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า ทางมหาเถรสมาคม คณะสงฆ์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่ได้มีการออกหนังสือหรือเอกสารที่ปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์นั้น และข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการแอบอ้างโดยใช้โลโก้เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด

บทความนี้เป็นจริง เพราะศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เตือนอย่าแชร์! เพจกรมศุลกากร ขายเครื่องวัดอุณหภูมิ ข้อมูลข่าวนี้ ไม่เป็นจริง

อย. ยกเลิกใบอนุญาต จริง ข้อมูลจากระบบค้นหาเลขที่ ใบอนุญาต โดยตรง

อย. ยกเลิกใบอนุญาต จริง ข้อมูลจากระบบค้นหาเลขที่ ใบอนุญาต โดยตรง

อย. ยกเลิกใบอนุญาต จริง ข้อมูลจากระบบค้นหาเลขที่ ใบอนุญาต โดยตรง

อย. ยกเลิกใบอนุญาต จริง ข้อมูลจากระบบค้นหาเลขที่ ใบอนุญาต โดยตรง

"มีคนอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ติดเชื้อโควิดจากภูเก็ต มาที่อุบลราชธานี บ้านอยู่แถวเทศบาล 1 อ.วารินฯ จ.อุบลฯ กู้ภัยนำส่ง โรงพยาบาลวารินชำราบ และส่งต่อโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์" ตรวจสอบกับสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลวารินชำราบ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์แล้วไม่มีการรายงานข้อมูลดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขอำเภอวารินชำราบก็ยืนยันว่าเป็นข่าวเท็จ

อย่าเชื่อ! อย่าแชร์ข่าวนี้ปลอม .❎ จากที่มีการแชร์ข้อความ "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน..ปิด 10 จังหวัด...เพิ่ม 1 เดือน จนถึง 31 พฤษภาคม" ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ✅ กราฟิกที่ใช้ประกอบข่าวนี้เป็นการจัดโซนนิ่งพื้นที่เฝ้าระวังของ ศบค.ในการพิจารณาผ่อนปรนข้อกำหนดปิดห้างสรรพสินค้า ตลาด ขนส่ง บางกิจการร้านค้า ไม่เกี่ยวข้องกับการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพิ่ม 1 เดือน จนถึง 31 พฤษภาคม ✅ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าว 📌 ข้อมูลรายงานข่าวในรายการ #ข่าวเจาะย่อโลก - วันออกอากาศ: 18 เม.ย. 63 - ชื่อรายงาน : แบ่งโซนพื้นที่เสี่ยง ควบคุมโควิด-19 - ลิงก์ข่าว : https://youtu.be/YQ8liaGwI2w?t=111 - เนื้อหาในรายงาน : มีบทวิเคราะห์ การประชุมสถานการณ์โควิด-19 ของายกฯ และ ศบค. ที่คาดการณ์ว่า "การประชุม ศบค.สัปดาห์หน้า (20 - 24 เม.ย. 63) นายกฯ จะพิจารณาต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน หรือขยายประกาศบังคับใช้ถึง 31 พ.ค. 63 เพื่อตอบรับข้อเสนอฝ่ายบุคคลกรทางการแพทย์เพื่อเฝ้าระวังโรค แต่ก็ไม่ปฏิเสธข้อเสนอของฝ่ายเศรษฐกิจ ด้วยการผ่อนปรนข้อกำหนดปิดห้างสรรพสินค้า ตลาด ขนส่ง บางกิจการร้านค้า แต่ให้ยึดมั่นมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มข้นต่อไป และมีรายงานว่า ศบค.เตรียมจัดโซนนิ่ง เพื่อพิจารณาผ่อนปรนมาตรการ 1. พื้นที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเลย และผู้ติดเชื้อลดลง และต้องมีมาตรการคุมเข้มที่ดีด้วย 2. พื้นที่ปลอดเชื้อในระยะ 14 วัน 3. พื้นที่สีแดง มี 10 จังหวัด ที่ต้องคุมเข้มเคร่งครัดต่อไป ทั้งนี้การพิจารณาผ่อนปรนมาตรการ ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย ได้แก่ สุขภาพของประชาชนเป็นหลัก แต่ต้องพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจ รวมถึงสภาพความเป็นจริงของสังคม ที่ต้องนำมาประกอบกัน ซึ่งจากตัวเลขการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ จึงมีความเป็นไปได้ว่า ศบค.ปลายสัปดาห์หน้า (20 - 24 เม.ย. 63) นายกฯ จะเลือกขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วยการผ่อนปรนบางพื้นที่บางจังหวัดเพื่อลดผลกระทบเท่านั้น #ThaiPBS

อย. ยกเลิกใบอนุญาต จริง ข้อมูลจากระบบค้นหาเลขที่ ใบอนุญาต โดยตรง

อย. ยกเลิกใบอนุญาต จริง ข้อมูลจากระบบค้นหาเลขที่ ใบอนุญาต โดยตรง

อย. ยกเลิกใบอนุญาต จริง ข้อมูลจากระบบค้นหาเลขที่ ใบอนุญาต โดยตรง

อย. ยกเลิกใบอนุญาต จริง ข้อมูลจากระบบค้นหาเลขที่ ใบอนุญาต โดยตรง

อย. ยกเลิกใบอนุญาต จริง ข้อมูลจากระบบค้นหาเลขที่ ใบอนุญาต โดยตรง

อย. ยกเลิกใบอนุญาต จริง ข้อมูลจากระบบค้นหาเลขที่ ใบอนุญาต โดยตรง

7 กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนป้องกัน "โรคไข้หวัดใหญ่" ฟรี! ในระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม 2563 จำนวน 4.11 ล้านโด๊ส

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากกรณีผู้มีจิตศรัทธานำอาหารหรือสิ่งของมาแจกจ่ายให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นจำนวนมากนั้น การแจกอาหารหรือสิ่งของให้กับประชาชนในช่วงวิกฤตดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ดี แต่การรวมตัวและสัมผัสของประชาชนเป็นจำนวนมาก อาจเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยที่ทุกคนไม่ตั้งใจ

สธ. เตรียมปลดล็อกดาวน์ 32 จังหวัดนำร่องก่อน ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย แจงประเด็นข้างต้น ทอท.แจ้งว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีการปรับลดหรือยกเว้นการเก็บค่าผลประโยชน์ ตอบแทนในอัตราร้อยละแต่อย่างใด และประเด็นที่กล่าวว่าทำไมออกมาตรการช่วยเหลือได้รวดเร็วทั้งที่ไม่มีสัญญาณการชะลอตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งทาง ทอท.แจ้งว่าได้มีการติดตามข้อมูลทางการบินอย่างต่อเนื่อง จึงออกมาตรการได้อย่างรวดเร็ว