ข่าวจริงหรือข่าวลวง

มื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 เมษายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุขในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นายแพทย์อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การดำเนินการทางระบาดวิทยาเพื่อค้นหาผู้ติดโควิด-19นั้นจะมีการดำเนินการ 3 มาตรการ ได้แก่ 1. การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย (Close contact tracing)ซึ่งดำเนินการทันทีเมื่อพบผู้ป่วยยืนยันทุกราย 2.การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก(Active case finding) ทั้งในกลุ่มคนที่สัมผัสใกล้ชิดมากและใกล้ชิดน้อย และ3.การค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน

ตามที่มีข้อความปรากฏ เกี่ยวกับประเด็น อ้างวิจัยข้าวโพดต้ม ช่วยล้างพิษ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านเซลล์มะเร็งได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน จากกรณีที่มีข้อความปรากฏเรื่อง “อ้างวิจัยจากสหรัฐอเมริกาว่าข้าวโพดต้ม ช่วยล้างพิษ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านเซลล์มะเร็งได้” ทางสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า ข้อมูลดังกล่าวนั้นมีส่วนจริงเพียงบางส่วน โดยจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ พบว่าในฝักข้าวโพดที่ต้มพร้อมเปลือกด้วยอุณหภูมิ 115 องศาเชลเชียส จะมีกรดเฟรุลิก (ferulic acid) ออกมา ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แต่พบในข้าวโพดปริมาณหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ใช่สารที่นำไปล้างพิษหรือต้านมะเร็งได้โดยตรง เพราะการกินผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเพียงอย่างเดียวเพื่อต้านมะเร็งนั้น ยังไม่มีงานวิจัยที่ระบุแน่ชัด ฉะนั้นการกินข้าวโพดต้มสุกเพียงอย่างเดียวในปริมาณมาก จึงไม่ใช่วิธีการล้างสารพิษหรือต้านมะเร็งที่ถูกต้อง การกินข้าวโพดที่ต้มทั้งฝักถือเป็นเรื่องดี เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิต เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 ไนอะซิน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก รวมถึงกรดเฟรุลิก และใยอาหาร ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมเพราะอาจจะได้รับพลังงานมากเกินความต้องการของร่างกายได้ โดยข้าวโพดเหลืองต้มสุก 100 กรัม ประมาณ 1 ฝัก ให้พลังงาน 117 กิโลแคลอรี หรือเทียบเท่าข้าวสวยครึ่งทัพพี นอกจากนั้นสารต้านอนุมูลอิสระมีหลายประเภท จึงควรกินผักผลไม้ให้หลากหลาย ปริมาณวันละ 400 กรัม หรือ ผักมื้อละ 2 ทัพพี และผลไม้มื้อละ 1 ส่วน ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่ nutrition.anamai.moph.go.th หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

ใส่หน้ากากอนามัยนานๆ ทำให้เลือดเป็นกรดได้จริงหรือ? . เลือดเป็นกรด (Acidosis) คือ ภาวะความผิดปกติของเลือดในร่างกาย ที่มีค่า pH ต่ำกว่าปกติ ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อปอดไม่สามารถแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างเพียงพอ จึงเกิดการสะสมของก๊าซเป็นจำนวนมากจนทำให้เลือดมีความเป็นกรดมากกว่าปกติ และอาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆได้ . ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด เพราะการใส่หน้ากากอนามัยธรรมดาไม่ได้ทำให้เลือดเป็นกรด แต่อาจมีผลกระทบอย่างอื่น วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกันดีกว่าว่า ผลเสียจากการใส่หน้ากากเป็นเวลานานนั้นมีอะไรบ้างและมีข้อควรระวังในการใส่อย่างไร . การใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ควรถอดออกในระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย และที่สำคัญควรหมั่นล้างมือและรักษาความสะอาดอยู่เสมอ . ขอบคุณข้อมูลจาก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ https://www.pobpad.com/เลือดเป็นกรด https://www.megawecare.co.th/…/รู้หรือยัง-ใส่หน้ากากอนามัย-… . #InfographicThailand #TheCovidWar #ฝ่ามหันตภัยวิบัติไวรัสล้างโลก #LifeMediaGroup . Special Thanks : The Covid-19 War Volunteer From Home

ยืนยันจากทุกสำนักข่าว

ในส่วนของ กปน. เปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 1 พฤษภาคม ส่วนของ กปภ. ให้ลงทะเบียนได้ 15 เมษายน

จริงในส่วนที่รัฐบาลรออนุมัติเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทเพื่อมาเยียวยาให้ครบสามเดือน ไม่จริงในส่วนที่ว่า รัฐบาลมีเงินจ่ายเยียวยาแค่เพียงเดือนเดียว ขณะนี้ ทางรัฐบาลได้ออกมาแถลงเพิ่มเติมว่ากรณีที่นายกออกมาแถลงว่ามีเงินจ่ายโครงการเยียวยานี้แค่เดือนเดียวนั้นเข้าใจว่าเป็นงบประมาณที่กันไว้จากปี 63 แต่เมื่อมีการกู้เงินตาม พ.ร.ก. เงินกู้ 1ล้านล้านบาท ก็จะใช้เงินส่วนนี้เติมเข้าไปจนครบสามเดือนคือเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนนี้

ทาง WHO ยังไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ และไม่แนะนำให้ฉีดวีคซีนวัณโรคเพื่อป้องกัน โควิด

ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานชัดเจนแบบ 100% เพื่อที่จะยืนยันเรื่องการติดโควิดจากการรับสิ่งของพัสดุ และในกรณีหญิงอเมริกันรายนี้อาจจะให้ข้อมูลไม่ครบ หรืออาจจะตกหล่นเรื่องการพบปะหรือสัมผัสกับเชื้อในรูปแบบอื่น ทั้งนี้ทั้งนั้น เชื้อโควิดสามารถอยู่บนวัตถุได้นานเป็นชั่วโมง เป็นวัน เป็นสัปดาห์ได้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นวัสดุอะไรและที่เงื่อนไขทางอากาศแบบไหน สามารถดูข้อมูลสัมพันธ์กับบทความนี้ได้ที่ LINK ด้านล่าง

ารดื่มน้ำตะไคร้ใบเตย มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดได้ เนื่องจากตะไคร้มีสรรพคุณในการขับปัสสาวะ ขับสารพิษและกรดยูริกที่มีอยู่ในปัสสาวะให้ออกมาจากร่างกายทำให้การสะสมของกรดยูริกลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปวดเข่าของผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ แต่ไม่สามารถรักษาโรคเก๊าท์ให้หายได้ อีกทั้งยังไม่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันแน่ชัดถึงเรื่องนี้ ส่วนใบเตยช่วยลดการกระหายน้ำทำให้รู้สึกชื่นใจและชุ่มคอ ทั้งนี้การดื่มน้ำตะไคร้ไบเตยแทนการดื่มน้ำเปล่า จำนวน 7 วัน นั้นไม่แนะนำ เนื่องจากร่างกายต้องการน้ำเปล่าเพื่อช่วยให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากน้ำชาตะไคร้ใบเตยมีการปนเปื้อนจะยิ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

จากกรณีที่มีข้อความปรากฏตามสื่อต่างๆ เรื่อง อันตรายจากคลอรีนในน้ำประปามีส่วนผสมสารอินทรีย์ เมื่อได้รับความร้อนจะเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็ง ทางการประปานครหลวง กระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า การประปานครหลวงมีการควบคุมระบบเติมคลอรีอย่างเหมาะสม และตรวจสอบสารไตรฮาโลมีเทนเป็นประจำตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกแนะนำ ส่วนประเด็นที่ว่าเมื่อโดนความร้อนจะเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งนั้น สารกลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มที่ระเหยง่าย ทั้งนี้จากการทดลองนำน้ำประปาไปต้มแล้วตรวจสอบการปนเปื้อน พบว่าสารชนิดนี้ลดลงจากเดิมได้ โดยคลอรีนในน้ำประปามีความปลอดภัย สามารถนำมาหุง ต้มได้ ไม่ก่อให้เกิดสารมะเร็งแน่นอน

- เซเว่น-อีเลฟเว่น ในประเทศไทย (บริหารโดย เครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี) ไม่มีโปรโมชั่นนี้ - จำนวนคูปองอยู่คงที่ที่เหลือ จะลดลงแบบเวลานับถอยหลัง - หลังตอบแบบสอบถามเสร็จ ระบบสร้างคอมเม้นท์หลอกๆ ที่มีแต่ชาวต่างชาติมาบอกว่าได้รับคูปองแล้ว - เว็บไซต์ที่ใช้ ไม่ใช่ของทางเซเว่นอีเลเว่น (7-eleven-th.club/)

ข้อมูลดังกล่าวอยู่นอกเหนือการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ข้อมูลดังกล่าวอยู่นอกเหนือการตรวจสอบข้อเท็จจริง

องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ภาพรวมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในยุโรปยังคงไม่ชัดเจน โดยมีบางประเทศ เช่น อิตาลีและสเปน มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง ขณะที่บางประเทศนั้นมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้น

สเปนจะเข้าสู่เดือนที่ 2 ของการใช้มาตรการล็อกดาวน์ แต่เริ่มผ่อนคลายมาตรการโดยให้บางภาคธุรกิจเปิดได้เมื่อวันจันทร์ และมีแรงงานราว 3 แสนคนกลับเข้าทำงาน และรัฐบาลได้แจกหน้ากากอนามัย 10 ล้านชิ้นแก่ผู้โดยสารตามระบบขนส่งสาธารณะ

สัญญาณดีผู้ป่วยใหม่ลด แต่พบติดเชื้อในครอบครัว-ติดจากคนกลับจากนอก 8% เพิ่มเป็น 23% ทั้งเว้นระยะห่าง -สวมหน้ากาก-ล้างมือ เริ่มย่อหย่อน ย้ำเรื่องสำคัญต้องทำเพื่อป้องกันติดเชื้อเพิ่มอีก

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกาศแนวทางการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 นอกสถานพยาบาล ปลดล็อคสถานพยาบาลสามารถออกหน่วยให้บริการประชาชนถึงที่พัก ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ป้องกันการแพร่กระจายของโรคระหว่างเดินทา

วันนี้ (15 เม.ย) เว็บไซต์เวิลโดมิเตอร์ส (WorldoMeters) รายงานว่า ณ เวลา 13.20 น.ตามเวลาไทย ยอดผู้ป่วยโควิดทั่วโลกอยู่ที่ 2,000,231 คน และเสียชีวิต 126,758 คน ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายรวม 484,729 คน

เนื้อหานี้มีข้อมูลจริง

สำหรับช่วงเวลาที่มีฝนตกในระยะนี้ ส่งผลให้มีความชื้นและอากาศเย็นขึ้น ทำให้เชื้ออยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น สิ่งที่ประชาชนควรทำเหมือนเดิมคือ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ กินร้อน และใช้ช้อนกลางส่วนตัว แต่มีคำแนะนำเพิ่มเติมคือให้สำรองหน้ากากผ้าไว้หลายๆชิ้น ก้าโดนฝน ละอองฝนทำให้หน้ากากชื้น ขอให้เปลี่ยนใหม่ อย่าใช้หน้ากากที่มีความชื้น

ด้วยเหตุผลและความจำเป็นในการคงความต่อเนื่องของมาตรการดังกล่าวต่อไปอีกเพื่อประสิทธิผลในการป้องกันและควบคุมโรค

เหตุผลที่ให้น้ำหนักข้อมูลนี้จริงเป็นบางส่วนเนื่องจากว่า มีรายงานจากหลายที่ที่เหมือนจะยืนยันว่า การที่ผู้เคยติดเชื้อกลับมามีผลบวกอีกรอบนั้นเกิดจากการที่เชื้อเก่ายังคงอยู่ หรือการกลับมามีฤทธิ์ใหม่อีกรอบ และโดยมากกลับมาไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการ แต่ไม่ใช่จากการที่ติดเชื้อใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นทาง นายปีเตอร์ โดเฮอร์ที (Peter Doherty) นักภูมิคุ้มกันวิทยา เจ้าของรางวัลโนเบลชาวออสเตรเลีย กล่าวว่าการที่ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่หายดีแล้วจะกลับมาติดเชื้อซ้ำนั้นเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะเกิดขึ้น หรือหากเกิดกรณีเช่นนั้นขึ้นจริง อาการของการติดเชื้อซ้ำ (secondary infection) จะไม่รุนแรงหรือไม่ปรากฏอาการและยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “แน่นอนว่าเรารู้จักไวรัสตัวนี้เพียงช่วงสั้นๆ และเป็นไปได้ว่าเราจะได้เจอกับเรื่องที่น่าประหลาดใจที่เราไม่ค่อยอยากเจออีกหลายประการ” Link : https://mgronline.com/china/detail/9630000032804

ข้อมูลจากหลายสถาบันการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศรวมถึง WHO ได้ออกมาแถลงว่า การสูบบุหรี่มีโอกาสแพร่กระจายได้มากกว่าการไม่สูบ เนื่องจากการพ่นควันจะมีละอองฝอยออกมาทางน้ำลายได้ และการสูบบุหรี่ทำให้ปอดไม่แข็งแรงมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าปกติ รวมถึงมือที่คีบบุหรี่อาจปนเปื้อนเชื้อโควิด เมื่อเอาบุหรี่เข้าปากมีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น ทางชัวร์ก่อนแชร์ได้รวบรวมคำตอบในข้อสงสัยเรื่องการสูบบุหรี่กับโควิดได้ครอบคลุม หากสนใจสามารถติดตาม Link ด้านล่างเพื่อข้อมูลที่ละเอียดเพิ่มเติม

คลิปดังกล่าวเป็นข่าวปลอมที่ถูกทำขึ้น โดยช่วงต้นของคลิปนั้นเป็นข่าวจากสำนักข่าว ABC News ประเทศออสเตรเลียจริง ซึ่งในข่าวกล่าวถึงการพัฒนาวัคซีนเพื่อต่อต้านไวรัสโคโรนาของนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย แต่ในข่าวจริงมิได้มีการกล่าวถึงกล้วยที่จะช่วยป้องกันโรคโควิด-19 แต่อย่างใด ส่วนภาพของกล้วย นักวิจัยและข้อความที่ระบุว่ากล้วยช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ได้นั้นเป็นการตัดต่อคลิปเพิ่ม โดยไม่มีหลักฐานหรืองานวิจัยใดๆ ที่สามารถพิสูจน์ความจริงดังกล่าว ทั้งนี้ทั้งนั้นกล้วยนั้นเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอมหรือกล้วยน้ำว้าก็มีวิตามินมากมาย รวมถึงมีกากใยทำให้ท้องไม่ผูก ในกล้วยหอมยังมีโพแทสเซียม ซึ่งผลวิจัยยืนยันว่าโพแทสเซียมในผลไม้ช่วยลดความดันโลหิตได้ รวมถึงลดการเกิดตะคริวเนื่องจากการขาดโพแทสเซียมในร่างกายด้วย แต่สำหรับการป้องกันโรคโควิด-19 นั้น ยังไม่มีผลงานวิจัยใดๆ รองรับหรือยืนยัน

ความจริงคือแค่ที่จังหวัดพิษณุโลกเท่านั้นที่ออกประกาศฉบับนี้ หากไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกไปที่สาธารณะจะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามมติจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัดพิษณุโลกเท่านั้น