รายการความเห็น


12578 ความเห็น

❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
แชร์มั่วล่าสุดเกี่ยวกับ "วิธีป้องกันเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019" โดยบอกว่า หมอจีนที่เมืองอู่ฮั่น ดื่มน้ำต้มกระเทียมรักษาโรคได้?ไม่จริงนะครับ ตอนนี้สถานการณ์ในเมืองอู่ฮั่นยังวุ่นวายกับการแพร่ระบาดของเชื้ออยู่เลย (ถ้าได้ผลจริง คงประกาศกันไปทั่วแล้ว) และไม่มีใครแนะนำวิธีนี้ด้วย วิธีการป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุด คือ ห่างไกลจากการใกล้ชิดสัมผัสผู้ที่อาจจะติดเชื้อมา และใช้สูตร "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" เหมือนเดิมครับ
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
ระวัง อย่าหลงเชื่อ สร้อยคอต้านไวรัสนอกจากเรื่อง สร้อยคอประจุไฟฟ้าลบ ที่อ้างว่าใช้ต้านฝุ่น PM 2.5 ได้แล้ว (ซึ่งไม่เวิร์คอย่างที่อวดอ้างให้หรอกครับ) ตอนนี้ก็มีกระแสใหม่เป็น "สร้อยคอต้านเชื้อไวรัส" ออกมาขายกันด้วย มาในหลายรูปแบบ หลายยี่ห้อ นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยไม่ได้มี อ.ย. ไทย หรือ FDA อเมริกา หรือหน่วยงานใดๆ รับรอง พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนถามผมว่า ควรซื้อให้ลูกคล้องคอไหม ? ผมบอกว่า ก็คงไม่เวิร์คเช่นกันครับ เพราะไม่ใช่เครื่องมือทางการแพทย์ที่แพทย์แนะนำให้ใช้แต่อย่างไร ออกแนวอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงเสียมากกว่า ... ซื้อไปก็เปลืองเงินเปล่าๆ ถ้าถามว่า "ก็มีเงินจะซื้อน่ะ เพื่อความสบายใจ" ... ก็ขอบอกว่า "ยังไงก็อย่าไปเชื่อถือมันมาก จนไม่ใส่หน้ากากอนามัย เมื่อต้องใกล้ชิดผู้ที่มีโอกาสติดเชื้อไวรัสมา" แล้ว ขอให้ปฏิบัติตัวตามหลักสุขภาพคือ "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" เหมือนเดิมแล้วกัน ที่นี้ ในส่วนหลักการทำงานของสร้อยพวกนี้ จะอ้างว่ามันมีสาร "คลอรีนไดออกไซด์" อยู่ ซึ่งเมื่อสร้อยปลดปล่อยก๊าซคลอรีนไดออกไซด์ออกมา จะฆ่าเชื้อโรค เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ที่อยู่รอบตัวคนนั้นได้ความจริงแล้ว สารคลอรีนไดออกไซด์ เป็นสารเคมีที่ทำปฏิกิริยาออกซิไดซ์ได้รุนแรง ปกติจะนิยมเอาไปใช้ในการใส่ลงไปในน้ำเพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ไปจนถึงใช้เป็นน้ำยาในการทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่คลอรีนไดออกไซด์ในรูปของก๊าซนั้น มีความเป็นพิษ ทำให้เกิดอาการระคายเคือง อันตรายต่อระบบหายใจ และห้ามสูดดมในปริมาณมาก ... ก๊าซคลอรีนไดออกไซด์ ยังจะแตกตัวเป็นก๊าซคลอรีนและออกซิเจน ซึ่งคลอรีนก็เป็นก๊าซที่อันตรายต่อสุขภาพเช่นกัน เมื่อสูดดมเข้าไปแล้ว ปกติ ในต่างประเทศ คลอรีนไดออกไซด์ จะเป็นหนึ่งในสารที่มีการเตือนให้ผู้ปกครองระวัง ไม่ให้ลูกหลานได้รับมากเกินไปด้วยซ้ำ เช่น จากน้ำบริโภคที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคด้วยสารนี้ ดังนั้นเมื่อย้อนกลับมาที่ "สร้อยคลอรีนไดออกไซด์ต้านไวรัส" ก็จะเกิดความย้อนแย้งขึ้นว่า ถ้าสร้อยมันสร้างก๊าซได้ในปริมาณที่น้อย และไม่เป็นอันตรายต่อผู้สูดดมเข้าไป ก็ไม่น่าจะฆ่าเชื้อโรคได้เพียงพอ ... ขณะที่ ถ้าสร้างได้เยอะถึงขนาดที่ทำให้เชื้อโรคตายได้ เด็กที่สวมใส่สร้อยคอนี้ ก็อาจจะเป็นอันตรายไปด้วย สรุปคือ อย่าไปเปลืองเงินซื้อสร้อยพวกนี้เลยครับ กลับไปใช้วิธีตามมาตรฐานในการดูแลสุขภาพดีกว่า
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
น้ำมะนาวร้อน รักษามะเร็ง ไม่ใช่เรื่องจริง กระแสน้ำมะนาวโซดารักษามะเร็งเริ่มซาไป คราวนี้เปลี่ยนมาเป็น "น้ำมะนาวร้อน" เลยครับ แบบเดียวกันเป๊ะเลยอ้างว่ารักษามะเร็งได้ ... ซึ่งไม่จริงเลยนะครับ !! เนื้อความที่แชร์กัน ใช้สำนวนภาษาแบบดหมายลูกโซ่เลยนะ อ้างว่า ให้ช่วยส่งต่อให้ได้ถึง 10 คนเพื่อเป็นบุญกุศลในการช่วยเหลือชีวิตคน ตามที่ศาสตราจารย์จีนท่านหนึ่งขอไว้ (555) เขาอ้างว่า เอามะนาวมาฝาน แช่น้ำร้อน จะทำให้น้ำมะนาวกลายเป็น "ด่าง" ได้ และยังได้วิตามินซีด้วย ดื่มทุกวัน จะไปทำลายซีสและเนื้องอกต่างๆ รักษาโรคมะเร็งได้ทุกชนิด มั่วแล้วครับ เอาที่ไหนมาเนี่ย น้ำมะนาวเป็นด่างได้ยังไง ถึงจะแช่น้ำร้อนก็ยังมีฤทธิ์เป็นกรดตามปกติอยู่ดี เนื่องจากมีกรดซิตริกเป็นองค์ประกอบสำคัญในน้ำมะนาว แถมวิตามินซีนั้น สลายตัวง่ายเมื่อถูกความร้อน การเอาไปทำเป็นน้ำมะนาวร้อน ก็ยิ่งเสียคุณค่าทางอาหารลงไปอีก สรุปว่าก็เป็นเรื่องมั่วๆแชร์กันอีกเรื่องนึงครับ ใครจะดื่มเอาอร่อยก็ตามใจชอบ .. แต่อย่าไปจริงจัง ทิ้งกันรักษาโรคมะเร็ง แล้วมาดื่มพวกนี้เพื่อหวังจะหายนะครับ ไม่ได้ผลหรอก
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
ซีม่าโลชั่น มาลอกหนังด้านๆ คล้ำๆ ที่หัวเข่า หรือข้อศอก กระทั่งมีกระแสสงสัยและข้อครหาถึงสรรพคุณ เพราะมีการตั้งกระทู้เตือนใจคนข้อเข่า และข้อศอกดำหลังได้รับบทเรียนราคาแพงจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากข้อเข่าไหม้ดำ และทรมานจากอาการแสบผิวหนัง เป็นเหตุให้ต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนหลักแสนรศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ได้คำตอบว่า ซีม่าโลชั่น มีส่วนผสมของกรดเอาไว้ใช้รักษาโรคผิวหนังอย่างกลาก เกลื้อน เชื้อรา โดยจะทำการลอกผิวหนังชั้นนอกออกมา ส่วนเวลาทาจะเกิดอาการระคายเคืองอย่างมาก อาจทำให้แสบ หรือไหม้ได้ โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังอ่อนๆ เช่น ข้อพับ ขาอ่อน ใบหน้า นอกจากนี้ไม่แนะนำให้เอามาใช้ทาผิว ลอกผิว ตามสูตร "สวย เด้ง ขาว" เพราะจะส่งผลให้เกิดอาการแสบ ซึ่งแทนที่จะขาวอาจทำให้ดำจนไหม้ได้
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
น้ำยาลอกผิว ซึ่งสามารถพบเห็นการโฆษณาในอินเทอร์เน็ต โดยจะบรรยายสรรพคุณสารพัด แถมมีราคาถูก และมักจะขายในรูปตลับ หรือเป็นลิตร และเป็นแกลลอน เพื่อนำมาอาบหรือทา พอก 2 ชั้น 3 ชั้น เพื่อเปลี่ยนผิวที่เสื่อมสภาพ หยาบกร้าน และดำคล้ำให้หลุดลอกออกเป็นแผ่นๆ แบ่งเร่งด่วน ทำให้เกิดประเด็นเกิดการตั้งข้อสงสัยตามมาว่า มีส่วนผสมของอะไร และปลอดภัยหรือไม่ ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานประชาสัมพันธ์ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ก็เคยออกมาเตือน "น้ำยาลอกผิว" เพื่อความขาวอันตรายสู่ความตายที่มีมากกว่าผลดี นอกจากจะไม่สามารถทำให้ผิวขาวได้ถาวรแล้ว ยังเป็นอันตราย และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และตาบอดด้วย
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
สารไฮโดรควิโนน ปรอท"ครีมผิวขาวมรณะระบาดตลาด ชายแดนไทย-เขมร ลูกสาวนายตำรวจกัมพูชาตกเป็นเหยื่อใช้แล้ว ถึงช็อกตาย หลังเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเลยซื้อครีมเวียดนามในฝั่งปอยเปตมาพอกตัว พอทาได้ 2 ชั่วโมง เกิดแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ญาติต้องพาส่งโรงพยาบาล แต่อาการหนักเกิดหมดสติ ผิวลอกเป็นแผ่น พ่อติดต่อเจ้าหน้าที่ไทยข้ามมารักษาที่โรงพยาบาลใน จ.สระแก้ว แต่หมอไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ระบุสาเหตุเกิดจากพิษสารปรอท ทำให้ตับวายเฉียบพลัน" ช็อกไหมล่ะคะ ทาได้เพียง 2 ชม.เท่านั้นเองก็สิ้นชีวิตไฮโดรควิโนน(Hydroquinone) เคยเป็นสารที่นิยมใช้กันมากในครีม หรือ โลชั่นป้องกันฝ้า ความเข้มข้นไม่เกินร้อยละ 2 สารนี้ออกฤทธิ์ลดการสร้างเมลานิน ในขั้นตอนแรกของการสร้างเมลานิน ผลคือลดการสร้างเมลานินของไฮโดรควิโนนเป็นเพียงชั่วคราว หากหยุดใช้จะกลับเป็นอย่างเดิมหรือเป็นมากกว่าเดิม ข้อดีคือ ไม่ทำลายเซลล์สร้างสี ไฮโดรควิโนนมักทำให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับกรดวิตามินเอ และหากใช้ไฮโดรควิโนนติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 6 เดือน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อภายในผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นฝ้าถาวรสีน้ำเงินอมดำ ดังนั้นไฮโดรควิโนนจึงถูกกำหนดเป็นสารห้ามใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เพราะ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี่สวนผสมของปรอทแอมโมเนียติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้มีการสะสมปรอทในผิวหนัง และดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้ตับและไตพิการ โรคโลหิตจาง
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
กลูต้าไธโอนส่วนในปัจจุบันที่คนบ้านเราฮิตกัน คือการไปฉีดหรือกินสารที่เป็นอันตราย อย่างการฉีดสารกลูต้าไธโอน ซึ่งมีฤทธิ์ในการเปลี่ยนชนิดเม็ดสีของเรา ทีนี้ เมื่อเม็ดสีเราเป็นแบบ “ยูเมลานิน” คือสีผิวคล้ำ การที่เราไปฉีดตัวกลูต้าไธโอน มันจะเปลี่ยนชนิดของเมลานินเราให้เป็น“ฟีโอเมลานิน” เหมือนฝรั่งผิวขาว ซึ่งกันแดดได้ไม่ดี"นอกจากนั้น เมื่อฉีดไประยะหนึ่ง ถ้าเราหยุดฉีด มันก็จะทำให้ผิวกระดำกระด่าง แล้วกลูต้าไธโอนตัวนี้จริงๆ มันเป็นยาที่เราใช้รักษาในกรณีที่คนไข้ต้องได้รับเคมีบำบัดบ่อยๆ เพราะเป็นมะเร็ง แต่เนื่องจากว่ามีคนเอาตัวยาตัวนี้ไปใช้ผิดข้อบ่งชี้จำนวนมาก บริษัทที่ผลิตกลูต้าไธโอนเขาก็เลยเลิกผลิตยาชนิดนี้ ในท้องตลาดทั้งหมดขณะนี้ก็เป็นยาเถื่อน ไม่มีใครขึ้นทะเบียนกับคณะกรรมการอาหารและยาแม้แต่รายเดียว ทีนี้พอเป็นยาเถื่อน เราไม่รู้ว่าข้างในที่จริงมันเป็นอะไร มันอาจจะเป็นกลูต้าไธโอนจริงหรือมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ วิธีเตรียมเราก็ไม่รู้ว่ามันได้มาตรฐานแค่ไหน ก็มีข่าวว่าคนไข้เสียชีวิตจากการฉีดกลูต้าไธโอน ซึ่งอาจจะเกิดจาหกสารปนเปื้อนที่อยู่ข้างในกลูต้าไธโอนเองหรือว่ากระบวนการเตรียมไม่ดี สกปรก มีเชื้อโรคต่างๆ สารพัดสาเหตุ ทุกวันนี้ก็ไปฉีดยาเถื่อนกัน ก็เกิดอันตรายกับคนไข้จำนวนมาก" "คือต้องเข้าใจก่อนว่ากลูต้าไธโอน เมื่อเข้าไปในกระเพาะ มันจะถูกย่อยหมด มันไม่ได้ถูกดูดซึมในรูปของกลูต้าไธโอน มันต้องไปย่อยแล้วก็กลายเป็นกรดอะมิโน เพราะฉะนั้น การกินกลูต้าไธโอนเข้าไปก็ไม่เกิดประโยชน์กับคนกิน นอกจากจะเสียสตางค์ฟรีๆ ปกติ กลูต้าไธโอนเขาจะต้องใช่ฉีดกัน แต่ทีนี้วิธีฉีดเป็นวิธีที่อันตรายที่สุด ถ้าตายก็ตายเร็วที่สุด
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
admin
อาหารใส่กลิตเตอร์ กินได้หรือไม่? เมื่อคืนนักข่าวช่อง 3 โทรมาขอให้อัดคลิปความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง กลิตเตอร์" ที่มีคนแชร์กันว่า กำลังนิยมเอามาใส่ในอาหารให้สวยงาม น่ากิน น่าถ่ายรูป ลามไปจนถึงกิน "แคปซูลกลิตเตอร์" เล่นๆ ให้อึออกมาเป็นประกายมุก เต็มโถส้วม (คิดได้ไงเนี่ย) ว่ามีอันตรายอะไรหรือไม่ ? .... เลยเอาอธิบายบนเฟซต่อแล้วกันครับ สำหรับการโรยกลิตเตอร์ลงตกแต่งบนอาหารนั้น ทาง FDA (องค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา) ได้เคยออกแถลงการณ์ว่า ให้ใช้เฉพาะกลิตเตอร์ ที่ติดฉลากว่า "edible กินได้" เท่านั้น ซึ่งจะผลิตจากน้ำตาล แป้งข้าวโพด และสีผสมอาหารที่มีประกายมุก ถึงจะปลอดภัยต่อการบริโภค แต่ถ้ากลิตเตอร์ที่เอามาโรยนั้น เขียนว่า "for decorative purposes only สำหรับไว้ตกแต่งเท่านั้น" หรือแม้แต่เขียนว่า "nontoxic ไม่เป็นพิษ" อันนั้นจะไม่ใช่กลิตเตอร์ชนิดที่กินได้จริงๆ เพราะมันจะทำจากพลาสติกขนาดเล็กจิ๋ว !! ซึ่งแม้ว่า มันจะทำจากพลาสติกชนิดที่ไม่เป็นพิษ แต่ก็อาจจะมีการปนเปื้อนโลหะหนักหรือสารอื่นๆ ที่อันตรายต่อร่างกายในระยะยาวได้ .. จึงไม่ควรที่จะกินกลิตเตอร์ชนิดนี้เข้าไป ยิ่งกว่านั้น การที่กลิตเตอร์มีขนาดเล็กและเบามาก คุณอาจจะเผลอหายใจเอาพวกมันเข้าไปได้ และจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจและปอด เกิดอาการไอ ไปจนถึงหายใจติดขัด ถ้าเป็นในสหรัฐอเมริกา FDA จะเข้มงวดมากเรื่องการใช้กลิตเตอร์ที่จะต้องเป็นชนิดที่ "กินได้" เท่านั้น (ไม่รู้ว่าในไทย อ.ย. จะเข้มงวดเรื่องนี้หรือเปล่า) แต่ถ้าบังเอิญเรากินกลิตเตอร์ชนิดอื่นเข้าไป เช่น พวกกลิตเตอร์ที่ไม่เป็นพิษ หรือแคปซูลกลิตเตอร์ มันก็ควรจะเพียงแค่อึออกมาเป็นประกายวิบวับ โดยไม่ได้จะเป็นอันตรายเฉียบพลันอะไร (แต่มันแปลกประหลาดไปมั้ย ที่อยากจะอึเป็นสีประกายมุกกันเนี่ย) อย่างไรก็ตาม ในทางการแพทย์แล้ว ไม่แนะนำให้เราตั้งใจกินกลิตเตอร์สำหรับการตกแต่ง (ที่ไม่ใช่ชนิดกินได้) เข้าไป และถ้าบังเอิญกินเข้าไปหรือหายใจเข้าไป แล้วเกิดอาการผิดปรกติขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วครับ
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
admin
สรรพคุณล้น! "มะระขี้นก" หวานเป็นลมขมเป็นยา พืชจำกัดเซลล์มะเร็งได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะสารชาแรนตินในผลมะระขี้นก นอกจากสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็วและมันมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างได้ผลดีเยี่ยม ในเมื่อมันสามารถลดน้ำตาลได้เร็วมันก็มีผลคืออาหารสำคัญของเซลล์มะเร็ง เป็นตัวที่ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตและแพร่กระจายได้เร็ว แต่เมื่ออาหารของมันถูกกำจัดออกไปก็เป็นอุปสรรคต่อการเจริญของมันไปด้วย การลดปริมาณน้ำตาลในร่างกายลงก็เท่ากับทำให้เซลล์มะเร็งขาดอาหารการรับประทานผลสดของมะระขี้นกหรือน้ำสกัดเข้มข้นของมันเป็นประจำก็จะทำให้เซลล์มะเร็งค่อยๆตายลง โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงต่อเซลล์ปกติ
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
admin
ด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้ "ไส้ติ่งป่วย" เกิดอาการปวดท้องงอแงขึ้นมาจากเม็ดฝรั่งไประราน จากตำนานนี้ทำให้สงสารมนุษย์กินฝรั่งมาก เพราะผู้ร้ายหลักที่ทำให้เกิดติ่งไส้อักเสบไม่ใช่เม็ดฝรั่งแต่อย่างใด ซึ่งในเรื่องนี้มีการศึกษาชัดจากงานวิจัยว่าเมล็ดผลไม้นั้น พบเป็นส่วนน้อยมากที่สุดของการทำให้เกิดไส้ติ่งอักเสบ (Asian Pac J Trop Biomed.2011 Apr;1(2):99-101) ด้วยที่จริงส่วนไส้ของมันก็เป็นของมีประโยชน์อุดมไปด้วยวิตามินซีและอื่นๆ ยกตัวอย่างฝรั่งขี้นกที่แกนสีแดงสวยนั้นมีสาร "ไลโคปีน" ชนิดเดียวกับที่มีในมะเขือเทศอยู่มาก
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
admin
การดื่มน้ำเย็นแบบผิดที่ผิดโอกาสนั้นไม่ดีแน่ แต่การดื่มน้ำเย็นในห้วงเวลาที่เสียเหงื่อ, ออกกำลังมาหรือว่าหน้าร้อนนี้มีส่วนช่วยร่างกายได้มาก เพราะน้ำที่อุณหภูมิต่ำจะช่วยร่างกายในการลดความร้อนที่ใจกลาางร่างกาย (Core temperature)ได้มากกว่าน้ำอุณหภูมิห้อง หรือพูดง่ายๆว่าดื่มน้ำเย็นเป็นการ "ติดแอร์เล็กๆ" ให้กับตัวเรา นอกจากนั้นการดื่มน้ำเย็นยังกระตุ้นให้ร่างกายเราต้อง "ดึงความร้อน" มาช่วยอุ่นน้ำนั้นในท้องของเรา ทำให้เป็นการ "เบิร์น" แคลอรีแบบทางอ้อมด้วยครับ ถึงอย่างไรก็ดีเราควรดื่มน้ำให้พอต่อวันไม่ว่าน้ำนั้นจะเย็นหรืออุ่นก็ตามโดยเฉพาะใครที่ชอบดื่มกาแฟ
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
admin
กินไก่มากเป็นโรคเกาต์
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
admin
"มะขามแขก"ทานต่อเนื่องทำให้ลำไส้ขี้เกียจ การใช้สมุนไพรจากธรรมชาติเพื่อรักษาโรคและอาการต่างๆ เป็นภูมิปัญหาและความภูมิใจที่อยู่กับคนไทยมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เราทราบกันดีว่า “มะขามแขก” เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายชั้นดี มะขามแขกมีสรรพคุณเป็นยาระบาย ปัจจุบันมีงานวิจัยระบุว่ามะขามแขกมีฤทธิ์เป็น “ยาถ่าย” โดยมีสาร Sennoside A และ Sennoside B ที่กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ จากผลการทดลองกับอาสาสมัครโดยให้ทานมะขามแขกและทำการถ่ายภาพลำไส้ใหญ่ด้วย MRI พบว่าลำไส้ใหญ่มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น การทานมะขามแขกส่งผลให้ขับถ่ายได้มากขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทานเหมือนยาระบาย แต่ไม่ใช่แค่ประโยชน์ของมะขามแขกที่เหมือนยาระบายเท่านั้น แม้แต่ผลข้างเคียงก็เช่นเดียวกัน เพราะมะขามแขกออกฤทธิ์กระตุ้นเซลล์ในลำไส้โดยตรง โดย “คล้ายกับการฝืนบังคับลำไส้” ให้ทำงานแบบผิดธรรมชาติ เกิดการบีบตัวจากสารกระตุ้นที่รับจากภายนอกร่างกาย ทำให้ถ่ายได้ทันที แต่ผลข้างเคียงคือ ส่งผลให้ลำไส้ติดสารกระตุ้น หากทานต่อเนื่องเป็นเวลานานลำไส้จะจดจำตัวเองให้ทำงานเฉพาะเวลาที่ได้รับสารกระตุ้นเท่านั้น หากไม่ทานก็ไม่ทาน แต่ถ้าทานต่อเนื่องก็ดื้อสารกระตุ้น ต้องทานมากขึ้นๆ ในอาการนี้เราเรียกว่า “ลำไส้ติดยาระบาย” หรืออีกชื่อคือ “ลำไส้ขี้เกียจ”ลำไส้ติดยาระบายหรือลำไส้ขี้เกียจ ถือเป็นโรคเรื้อรังที่อันตรายมาก เพราะหากยังฝืนกินยาระบายต่อ เมื่อลำไส้ดื้อยาจนยาระบายใช้ไม่ได้ผล ผู้ป่วยก็จะเป็นโรคท้องผูกเรื้อรังโดยสมบูรณ์ดังนั้นปัจจุบันจึงมีการให้ความรู้กันมากขึ้นในการรับมือกับโรคท้องผูก แทนที่จะพึ่งพาสารกระตุ้นต่างๆ อย่างมะขามแขกหรือยาระบาย ควรปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต รับประทานผัก-ผลไม้ ออกกำลังกาย รับประทานอาหาร,อาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยเพิ่มไฟเบอร์ จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และส่งผลดีต่อสมดุลของลำไส้ในระยะยาวมากกว่าสำหรับผู้มีปัญหาท้องผูกเรื้อรัง ลำไส้ติดยาระบาย Interpharma ขอแนะนำ Probac7 และ InuFOS ชุดฟื้นฟูลำไส้จากอาการท้องผูกเรื้อรัง ช่วยฟื้นฟูการทำงานของลำไส้ ให้ลำไส้บีบตัวตามธรรมชาติ ขับถ่ายได้เป็นปกติในทุกๆวัน
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
admin
บอระเพ็ดมีรสขมเย็น ใช้แก้ไข้ทุกชนิด แก้ร้อนใน แก้พิษฝีดาษ ช่วยเจริญอาหาร บำรุงไฟธาตุ รักษาโรคกระเพาะ บำรุงร่างกาย ลดน้ำตาลในเลือด และเป็นยาอายุวัฒนะนอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้าน AChE ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคสมองเสื่อม ดังนั้น บอระเพ็ดจึงช่วยป้องกันความชราของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้สรรพคุณที่น่าทึ่งอีกประการคือ การควบคุมเบาหวาน เช่นเดียวกับของ "ขม" หลายๆ ชนิดที่สามารถลดน้ำตาลในเลือดได้ เนื่องจากบอระเพ็ดจะไปดูแลตับให้ทำหน้าที่ตามปกติ อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ฝากเตือนมาว่า ในบรรดาสมุนไพรที่มีรสขมจัด อย่าง บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี ย่านาง หากรับประทานในปริมาณมาก ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดความผิดปกติของตับได้ ที่สำคัญ หากใช้แล้วเกิดอาการมือเท้าเย็น แขนขาหมดเรี่ยวแรง ตาเหลือง ให้หยุดรับประทานทันที รวมทั้งผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับและไตผิดปกติ หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร ไม่ควรใช้
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
admin
สารสกัดแปะก๊วย 40 มิลลิกรัม ที่มีสารออกฤทธิ์ทางด้านเภสัชวิทยาครบตามมาตรฐานสากลและควบคุมสารที่เป็นพิษได้จริง โดยกระบวนการผลิตและควบคุมคุณภาพตาม GMP&ISO9001;Version2000 ของบริษัท ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย จำกัด ในเครือองค์การเภสัชกรรม กระทรวงสาธารณสุข ผู้บริโภคและผู้ป่วยที่ต้องการให้เลือดนำสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองมากขึ้นช่วยยับยั้งการเสื่อมของสมอง รวมทั้งฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระสารพิษในร่างกายช่วยชะลอความแก่ จึงได้รับประโยชน์โดยไม่มีผลข้างเคียง แต่ถึงแม้แปะก๊วยให้คุณอนันต์ แต่ก็มีโทษมหันต์ อาจจะหาไม่ได้ง่ายนัก สำหรับสมุนไพรธรรมชาติที่มีสรรพคุณครอบจักรวาลอย่าง "แปะก๊วย" ที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีน และใช้กันมานานกว่า 4,000 ปี มีการทดลอง ศึกษา และวิจัยถึงการออกฤทธิ์มาแล้วหลายครั้ง จนเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์ทั่วโลกว่ามีสรรพคุณมากมาย แต่ขณะเดียวกันก็มีโทษมหันต์หากใช้ไม่ถูกวิธี เพราะในสารกลุ่มเดียวกันก็มีความเป็นพิษอยู่ ในตัวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะสารกิโกลิก แอซิด (ginkgolic acid) ในกลุ่ม ฟลาวานอยด์ ถ้ามากเกินกว่า 5 ส่วนในล้านส่วน (5PPM) จะมีผลข้างเคียงต่อร่างกาย ทำให้ชีพจรเต้นเร็ว เนื่องจากสารในแปะก๊วย บางตัวต้านฤทธิ์กันเอง เช่น ออกฤทธิ์ทั้งขยายและหดตัวหลอดเลือด ดังนั้น ผู้บริโภค ที่ไม่ระมัดระวังอาจได้รับผลข้างเคียงทางระบบประสาท (ปวดหัว มึนงง) ทางระบบ ทางเดินอาหาร (ท้องอืด ท้องเฟ้อ) การแพ้ทางผิวหนัง (ผื่นคัน) และอาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้อีกด้วย
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
naruemonjoy
รศ.นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการควบคุมโรคติิดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นเชื้อไวรัสคนละกลุ่มที่ไม่สามารถผสมกันได้
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
naruemonjoy
รศ.นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการควบคุมโรคติิดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นเชื้อไวรัสคนละกลุ่มที่ไม่สามารถผสมกันได้
ใช้ใน 0 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
⚠️️ ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
naruemonjoy
วารสารทางการแพทย์เดอะ แลนเซต (The Lancet) ได้เผยแพร่ว่า คณะนักวิทยาศาสตร์จากหลายประเทศได้วิเคราะห์พันธุกรรมขงอเชื้อไวรัสโคโรนาสสายพันธ์ใหม่และสรุปว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุนี้มีต้นกำเนิดในสัตว์ป่า เหมือนกับจุลชีพก่อโรคเกิดใหม่จำนวนมากอื่นๆ https://www.xinhuathai.com/high/3-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A_20200309
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
naruemonjoy
ปัจจุบันยังไม่มีผลิตภัณฑ์ในลักษณะนี้ขึ้นทะเบียนกับ อย. จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ เพราะจะทำให้ขาดความระมัดระวัง ละเลยการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง เช่น คิดว่าคล้องแผ่นป้ายนี้แล้วไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย ไม่ต้องล้างมือ ไม่ต้องกินร้อนช้อนกลาง
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
naruemonjoy
อย.เตือนอย่าเชื่อ ดื่มน้ำต้มกระเทียมรักษาโรคโควิด-19 เผยน้ำกระเทียมใช้บรรเทาอาการกลาก เกลื้อน ย้ำยังไม่มียารักษาโดยตรง
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
naruemonjoy
ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้สร้างความเสียหายต่อร่างกายเราได้อย่างไร บทความจาก bbc.com
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
naruemonjoy
ลักษณะของปอดที่ถูกทำลายมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกทำลายอย่างหนัก เฉพาะในผู้ป่วยที่ปอดถูกทำลายมากๆ หรือรุนแรงมากๆ เป็นกลุ่มผู้ป่วยส่วนน้อย หรือก็คือ ร้อยละ 2 ที่เสียชีวิต เนื่องจากเมื่อปอดถูกทำลาย อวัยวะหลายอย่างในร่างกายก็ถูกทำลายด้วย
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
naruemonjoy
เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับเซ็กส์ระหว่างโควิด-19 ระบาด จากบีบีซีไทย
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
naruemonjoy
ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลว่า มีการติดเชื้อผ่านสารคัดหลั่งในช่องคลอด หรืออสุจิได้ แต่!!! เวลามีเพศสัมพันธ์ ยังไงมันก็มีการกอดจูบนัวเนียแลกเปลี่ยนของเหลวกัน ซึ่งการทำแบบนั้นถ้ามี covid-19 ก็สามารถติดได้ผ่านน้ำลาย
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
naruemonjoy
อาจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่าวัสดุที่ใช้ทำหน้ากาอนามัยคือผ้าสปันบอนด์ เป็นเส้นใยสังเคราะห์โพลิเมอร์ ที่เป็น Polypropylene หรือ PP ซึ่งจะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มี 2 ลักษณะ คือ 1. หน้ากากอนามัยได้มาตรฐาน ทำจากผ้าสปันบอนด์เกรดทางการแพทย์ ต้องมีขดลวดด้านบนสอดไว้ด้านในหน้ากาก ผ้าทั้ง 3 ชั้นจะมีความแตกต่างกัน ชั้นแรกด้านนอกสุดจะมีสารลดแรงตึงผิวเคลือบอยู่ ทดสอบได้โดยเมื่อมีน้ำหยดลงไปจะไม่ดูดซึม 2. หน้ากากอนามัยที่ไม่ได้มาตรฐาน จะทำมาจากผ้าสปันบอนด์เกรดต่ำ อาจมีสิ่งเจือปน ทำให้มีกลิ่นฉุน แตกยุ่ยได้ง่าย ซึ่งจะก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เรียกว่า "ไมโครพลาสติก" หากสูดดมเข้าไปเสี่ยงเป็นมะเร็ง แม้มี 3 ชั้น แต่บางมากทั้ง 3 ชั้น และเป็นโพลิเมอร์ชนิดเดียวกัน เส้นใยสีฟ้าเป็นการย้อมสีเพื่อให้ดูรู้สึกดี สรุปว่า ถ้าใช้หน้ากากไม่ได้มาตรฐาน ก็เสี่ยงเป็นมะเร็งจริง
ใช้ใน 1 ข้อความ5 ปีที่แล้ว