คลิปข้างต้นเป็นคลิปที่นำหลายๆคลิปมาตัดต่อให้ดูเหมือนเป็นกระบวนการผลิตแก้วในโรงงานเดียวกัน แก้วกระดาษที่เราใช้ทั่วไปนั้น ไม่ได้ทำจากกระดาษที่ใช้แล้ว (รีไซเคิล) แต่ทำจากเยื่อไม้บริสุทธิ์ (virgin pulp) เพื่อความแข็งแรงและสะอาด และเคลือบด้วยพลาสติก (PE) เพื่อทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน (Barrier) ไม่ให้ของเหลว, ความชื้น, หรือไขมันซึมผ่านเข้าไปในเนื้อกระดาษได้

จังหวัดขอนแก่นมีปัญหาน้ำท่วมขังในเขตอำเภอเมืองมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดทำโครงการแก้ไขปัญหาด้วยการก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำใหม่จำนวน 14 เส้นทาง โครงการเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2566 โดยใช้งบประมาณเฟสแรก 300 ล้านบาท และคืบหน้าแล้วกว่า 55.25% ขณะนี้แม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมบางพื้นที่ได้แล้ว โครงการดังกล่าวจะครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงสำคัญ เช่น ถ.กสิกรทุ่งสร้าง – เขตประมงขอนแก่น, ถ.หลังศูนย์ราชการ, ถ.มิตรภาพ, ถ.บ้านไทรทอง และถ.สีหราชเดโชชัย ไปจนถึงบึงหนองโคตร แผนการนี้เป็นโครงการระยะยาวแบ่งออกเป็น 3 เฟส ๆ ละ 3 ปี รวมใช้งบประมาณทั้งหมด 1 พันล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองขอนแก่นอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 มีการเผยแพร่คลิปยิงจรวดความยาว 9 วินาที โดยเพจเฟซบุ๊ก “สิทธิ์ อภิสิทธิ์” อ้างว่าเป็นฐานยิง BM21 ของกัมพูชา ขณะที่ก่อนหน้านั้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 บัญชีติ๊กตอก “rt.news.tv” ก็เคยโพสต์คลิปเดียวกันพร้อมข้อความภาษาเขมรว่าเป็นการโจมตีจากฝั่งไทยไปยังกัมพูชา อย่างไรก็ตาม เมื่อโคแฟคตรวจสอบพบว่าคลิปนี้ถูกเผยแพร่ครั้งแรกในยูทูบช่อง @missionairforce-tw ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 โดยระบุว่าเป็นการซ้อมยิงจรวดในปี 2025 ต่อมาสื่อไต้หวันหลายแห่ง เช่น tcpttw.com และ TaiwanPlus News รายงานตรงกันว่าเป็นการทดสอบระบบยิงจรวด HIMARS ที่ฐานทัพอากาศจิ่วเผิง เมืองผิงตง ไต้หวัน ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 นับเป็นครั้งแรกที่กองทัพไต้หวันทดลองใช้งาน HIMARS ที่จัดซื้อจากสหรัฐอเมริกา ภาพในคลิปตรงกับเหตุการณ์ดังกล่าว และไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ตามชายแดนไทย–กัมพูชาเลย

จากกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลว่าโรคมะเร็งท่อน้ำดีเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนขอนแก่นนั้น ศูนย์ต่อต้านข่าวลวงจังหวัดขอนแก่นได้ตรวจสอบเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 พบว่าไม่เป็นความจริง โดยข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นยืนยันว่า สาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนขอนแก่นในปี 2567 คือโรคทางระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง 1,589 คน รองลงมาคือโรคหลอดเลือดสมอง 1,084 คน ติดเชื้อในกระแสเลือด 830 คน โรคไต 638 คน โรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อม 528 คน โรคหัวใจขาดเลือด 517 คน และมะเร็งตับ 478 คน ส่วนโรคมะเร็งท่อน้ำดี แม้จะพบมากในภาคอีสานจากการติดพยาธิใบไม้ตับ และทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมในภูมิภาคกว่า 6,500 คนต่อปี แต่ในจังหวัดขอนแก่นโดยตรงไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งตามที่แชร์กัน ข้อมูลที่เผยแพร่จึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และอาจทำให้ประชาชนตื่นตระหนกเกินจริง

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอรายละเอียดโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 ตุลาคม 2568 เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี รัฐจะสมทบเงิน 2,000 บาทต่อคน และเพิ่มเป็น 2,400 บาทสำหรับผู้ที่มีประวัติยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2567 โดยกำหนดวงเงินสมทบไม่เกิน 200 บาทต่อวัน โครงการจะเปิดลงทะเบียนร้านค้าตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2568 และเพิ่มกลุ่มร้านค้านิติบุคคลขนาดเล็ก (Micro SME) ที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี สำหรับประชาชนทั่วไปจะเปิดลงทะเบียน 20 ล้านสิทธิ ระหว่างวันที่ 20–26 ตุลาคม 2568 โดยระบบจะตรวจสอบสิทธิผ่านฐานข้อมูลภาษี และจะเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ผ่านแอป “เป๋าตัง”

มีการแชร์ข้อมูลเตือนว่า การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมกับน้ำอัดลมและมันเทศอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต แต่กรมอนามัยได้ออกมาชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง การรับประทานอาหารดังกล่าวไม่ทำให้กระเพาะอาหารระเบิดหรืออันตรายร้ายแรงถึงชีวิต เพียงแต่อาจทำให้ท้องอืด แน่นท้อง หรือมีแก๊สมากขึ้น เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปย่อยยาก ประกอบกับน้ำอัดลมมีแก๊สและมันเทศมีกากใยสูง จึงทำให้ต้องเรอหรือผายลม อย่างไรก็ตาม แม้ไม่อันตรายถึงชีวิต แต่การบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยครั้งก็ไม่ควร เพราะมีโซเดียมสูง เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคไต อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ หากกินบ่อย ๆ อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มีการเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อยกเลิกมติ ครม. เดิมเมื่อ 8 กรกฎาคม 2568 ที่กำหนดมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย (สายสีแดงและสีม่วง) ซึ่งสิ้นสุดในวันเดียวกันนั้น โดยมีการต่ออายุมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 2 เดือน ครอบคลุมเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 2568 การขยายเวลาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการ และช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางของประชาชนในช่วงที่ค่าครองชีพยังสูง ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องการให้ระบบขนส่งมวลชนมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2 ฉบับ ในวาระที่ 1 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงสิทธิและสวัสดิการของแรงงานไทย ร่างแรกเสนอให้ลดชั่วโมงทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (งานเสี่ยงอันตรายไม่เกิน 35 ชั่วโมง) เพิ่มวันหยุดประจำสัปดาห์เป็น 2 วัน และเพิ่มสิทธิการลาพักร้อนเป็น 10 วันต่อปีเมื่อทำงานครบ 120 วัน ส่วนร่างที่สองเน้นการสร้างความเท่าเทียมในสถานที่ทำงาน ไม่เลือกปฏิบัติเรื่องเพศ ศาสนา ความเชื่อ และทัศนคติทางการเมือง รวมถึงสิทธิลาหยุดมีประจำเดือนได้ 3 วันต่อเดือน การลาหยุดดูแลครอบครัว 15 วันต่อปี และการจัดพื้นที่ให้นมบุตรในที่ทำงาน การผ่านร่างทั้งสองฉบับสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่เน้นคุณภาพชีวิตแรงงานและลดต้นทุนทางสังคมจากความเหนื่อยล้าและการลาออก แม้กฎหมายยังต้องเข้าสู่การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการและการลงมติในวาระ 2 และ 3 ต่อไป แต่ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าทุกพรรคการเมืองเห็นความสำคัญของการปรับปรุงสิทธิแรงงาน

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2 ฉบับ ในวาระที่ 1 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงสิทธิและสวัสดิการของแรงงานไทย ร่างแรกเสนอให้ลดชั่วโมงทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (งานเสี่ยงอันตรายไม่เกิน 35 ชั่วโมง) เพิ่มวันหยุดประจำสัปดาห์เป็น 2 วัน และเพิ่มสิทธิการลาพักร้อนเป็น 10 วันต่อปีเมื่อทำงานครบ 120 วัน ส่วนร่างที่สองเน้นการสร้างความเท่าเทียมในสถานที่ทำงาน ไม่เลือกปฏิบัติเรื่องเพศ ศาสนา ความเชื่อ และทัศนคติทางการเมือง รวมถึงสิทธิลาหยุดมีประจำเดือนได้ 3 วันต่อเดือน การลาหยุดดูแลครอบครัว 15 วันต่อปี และการจัดพื้นที่ให้นมบุตรในที่ทำงาน การผ่านร่างทั้งสองฉบับสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่เน้นคุณภาพชีวิตแรงงานและลดต้นทุนทางสังคมจากความเหนื่อยล้าและการลาออก แม้กฎหมายยังต้องเข้าสู่การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการและการลงมติในวาระ 2 และ 3 ต่อไป แต่ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าทุกพรรคการเมืองเห็นความสำคัญของการปรับปรุงสิทธิแรงงาน

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ออกประกาศฉบับที่ 7 ห้ามบินโดรนในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคง โดยเฉพาะชายแดนไทย–กัมพูชา และรอบสนามบิน มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2568 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุม 5 จังหวัดชายแดนตะวันออก ได้แก่ สระแก้ว บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี รวมถึงพื้นที่เฉพาะด้านความมั่นคง เช่น อำเภอสัตหีบ ระยอง พยุหะคีรี และเมืองราชบุรี อีกทั้งกำหนดเขตห้ามบินรัศมี 9 กิโลเมตรรอบสนามบินสำคัญ 14 แห่ง ผู้ใช้งานทั่วไปต้องขึ้นทะเบียนกับ CAAT และขออนุญาตผ่านระบบ UAS Portal ล่วงหน้า พร้อมแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การบินจำกัดช่วงเวลา 06.00–18.00 น. และห้ามบินช่วง 00.01–04.00 น. ยกเว้นหน่วยงานราชการด้านความมั่นคงที่สามารถปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ แต่ต้องแจ้ง CAAT ในบางกรณี ทั้งนี้ CAAT ย้ำว่ามาตรการดังกล่าวเพื่อรักษาความปลอดภัย และยังพัฒนาระบบขออนุญาตให้สะดวกขึ้น

โคแฟคตรวจสอบแล้วว่า จริงบางส่วน ไทยได้สิทธิ์จัดแข่งขันเปตอง ซีเกมส์ 2025 ตามแผนเดิม ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า สหพันธ์เปตองนานาชาติ (FIPJP) มีมติอนุญาตให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเปตองในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคม 2568 ได้ตามแผน หลังคณะผู้แทนไทยเดินทางไปชี้แจงและเจรจาที่ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนหน้าสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทยถูกลงโทษแบน ส่งผลให้การแข่งขันเสี่ยงถูกตัดออกจากซีเกมส์

โคแฟคตรวจสอบแล้วว่า จริง ประกาศกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข เรื่องกำหนดสถานที่ วิธีการ หรือลักษณะต้องห้ามในการขายใบกระท่อม พ.ศ. 2568 โดยมีสาระสำคัญ คือ 1. ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมและน้ำต้มใบกระท่อมในสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ในระยะห่างไม่เกิน 1,000 เมตร จากแนวรั้วหรือแนวเขตของสถานศึกษา ตามมาตรา 25 (1) 2. ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมและน้ำต้มใบกระท่อมโดยวิธีการหรือลักษณะการเร่ขาย หรือการจัดตั้งแผงลอย . ประกาศฉบับนี้ จะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 50,000 บาท ตามพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565

บทความนี้พูดถึงกรณีที่มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่า การบินไทยได้ยกระดับบริการบนเครื่องบินด้วยการจัดการแสดงแสง สี เสียงสุดอลังการภายในห้องโดยสาร รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบบริการของพนักงานต้อนรับ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตรวจสอบพบว่าคลิปดังกล่าวไม่ใช่ภาพจริงของการบินไทย แต่เป็นเนื้อหาที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี AI สร้างภาพและวิดีโอปลอม ซึ่งมีการใส่รายละเอียดเกินจริง ไม่ตรงกับอัตลักษณ์และมาตรฐานการบริการของสายการบิน และอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ กรณีนี้จึงสะท้อนถึงความเสี่ยงจากการใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อสร้างข่าวปลอมที่น่าเชื่อถือ แต่ไร้ข้อเท็จจริงรองรับ

กระแสข่าวที่อ้างว่า กัมพูชาจะตัดความช่วยเหลือไทยอย่างเด็ดขาด หากไทยยังไม่เปิดด่าน แต่เมื่อมีการตรวจสอบโดยกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กลับไม่พบว่ารัฐบาลกัมพูชาได้แสดงท่าทีหรือออกแถลงการณ์ในลักษณะดังกล่าว อีกทั้งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า “ความช่วยเหลือ” ที่ถูกกล่าวถึงนั้นหมายถึงความช่วยเหลือในด้านใด ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การค้า หรือด้านมนุษยธรรม เนื่องจากไม่มีหลักฐานหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสนับสนุน ข่าวนี้จึงเป็นเพียงการสร้างความเข้าใจผิด โดยขาดที่มาที่ไปชัดเจน และอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศโดยไม่จำเป็น

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสัญญาณสื่อสารบริเวณโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ถนนสามเสน เขตดุสิต หลังเกิดเหตุถนนทรุดและเสาไฟฟ้าล้มจนกระทบต่อโครงข่ายโทรคมนาคม กสทช. ได้สั่งการให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เร่งแก้ไขและขยายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว พร้อมกำชับให้ทรูและเอไอเอสออกมาตรการเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ยกเว้นค่าอินเทอร์เน็ตบ้าน 3 วัน มอบดาต้ามือถือฟรี 10GB ใช้งานได้ 3 วัน และจัดจุดบริการ Wi-Fi ฟรี สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ กสทช. ยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์และประสานงานต่อเนื่องเพื่อให้การสื่อสารของประชาชนกลับสู่ภาวะปกติ

รายงานว่าเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ปศุสัตว์อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ได้ออกประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว 1 เดือน หลังพบสัตว์ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลลาดสวาย โดยเขตเฝ้าระวังครอบคลุมรัศมี 5 กิโลเมตร รวมทั้งบางพื้นที่ในอำเภอธัญบุรี อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และเขตสายไหม กรุงเทพมหานคร มาตรการหลักคือห้ามเคลื่อนย้ายสุนัขและแมวที่ป่วย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์จรจัด หากถูกกัดหรือข่วนให้รีบล้างแผลและไปพบแพทย์เพื่อรับวัคซีนทันที รวมถึงเฝ้าสังเกตอาการสัตว์ต้องสงสัย เช่น ก้าวร้าว กัดไม่เลือก ตัวแข็ง น้ำลายไหลผิดปกติ เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่

บทความนี้พูดถึงคอร์สออนไลน์ที่โฆษณา “Reiki Therapist” โดยอ้างว่าสามารถส่งพลังบำบัดได้จากระยะไกล โดยไม่ต้องสัมผัสตัวผู้รับ ช่วยทำให้ร่างกายเบาสบาย ลดความวิตกกังวล และคุณภาพการนอนดีขึ้น พร้อมยกคำอธิบายทาง “วิทยาศาสตร์ควอนตัมและทฤษฎีสนาม” มาเป็นเหตุผลสนับสนุน แต่เนื้อหาต่อมาได้อธิบายว่า “เรกิ” เป็นวิทยาศาสตร์เทียม (pseudoscience) ไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และถูกระบุว่าไม่มีหลักฐานยืนยันว่ามีประสิทธิภาพจริง ทั้งในด้านการรักษาโรคหรือการบำบัดอาการทางกายและใจ การวิจัยที่เคยมีส่วนใหญ่มีข้อบกพร่องเชิงระเบียบวิธี และไม่สามารถทำซ้ำผลลัพธ์ที่ดีได้ หลายองค์กรวิชาชีพแพทย์ในสหรัฐฯ ยังระบุว่าไม่ควรใช้เรกิในการรักษาโรค เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยละเลยการรักษาที่ได้ผลจริง ทางฝั่งนักวิชาการและแพทย์จึงวิจารณ์เรกิว่าเป็นวิธีการที่ไม่มีเหตุผลและไร้คุณค่าทางสุขภาพที่พิสูจน์ได้

นักวิชาการจาก ว.ส.ท. อธิบายว่าเหตุการณ์หลุมยุบใจกลางเมืองไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติ แต่มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดจากข้อผิดพลาดในการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้า โดยเฉพาะการรั่วซึมของดินทรายจากรอยต่อระหว่างอุโมงค์กับผนังสถานี จนทำให้เกิดโพรงใต้ดินขนาดใหญ่และนำไปสู่การยุบตัวของพื้นผิวด้านบน สาเหตุท่อประปาแตกที่หลายคนสงสัย ไม่ใช่ต้นเหตุ แต่เป็นผลกระทบจากดินทรุดตัวที่ทำให้ท่อขาดและกลายเป็นปัจจัยเร่งให้การยุบตัวเกิดขึ้นเร็วขึ้น นักวิชาการยังย้ำว่าโครงการใหญ่เช่นนี้มีมาตรการตรวจสอบเข้มงวด แต่ก็อาจเกิด “Human Error” ได้ นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 4–5 ชั่วโมง เช่น การทรุดตัวและน้ำท่วมขังก่อนเกิดเหตุรุนแรง ซึ่งควรถูกนำมาใช้เป็นเกณฑ์เตือนภัยล่วงหน้า ในอนาคตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเพิ่มมาตรการเข้มงวดและการแจ้งเตือนให้รวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

มีการนำข่าวปลอมกลับมาแชร์ซ้ำอีกครั้ง โดยอ้างว่าคอไก่เป็นจุดสะสมเชื้อโรคและสารพิษจากอาหารที่ผสมสารเคมี รวมถึงหัวไก่เมื่อโตขึ้นจะมีสารพิษสะสมมากขึ้น ทำให้ไม่ควรกินคอและหัวไก่ ข่าวลักษณะนี้เคยถูกแชร์มาแล้วตั้งแต่ 3 ปีก่อน และเคยสร้างความสับสนเพราะตอนแรกมีการตรวจสอบผิดพลาด จนกรมปศุสัตว์ต้องออกมาชี้แจงยืนยันชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริง ไก่ที่ผ่านมาตรฐานการเลี้ยงและโรงฆ่าสัตว์ที่ถูกกฎหมายในไทย ไม่มีการสะสมเชื้อโรค สารพิษ หรือฮอร์โมนตามที่กล่าวอ้าง อีกทั้งไก่ไม่มีต่อมน้ำเหลืองที่คอซึ่งจะเป็นที่สะสมเชื้ออย่างที่ข่าวแชร์ ระบบกำจัดสารพิษของไก่ก็ทำงานเหมือนมนุษย์ และมีการสุ่มตรวจสอบสารตกค้างอย่างต่อเนื่องไม่เคยพบสิ่งผิดปกติ ดังนั้นคอไก่ ปีกไก่ และหัวไก่ที่จำหน่ายในไทยสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย แต่ควรปรุงสุกทุกครั้งเพื่อสุขอนามัย

วันที่ 22–23 ก.ย. 2568 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกคำสั่งเพิกถอนใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับผลิตภัณฑ์สมุนไพร “จิ่วเจิ้งปู่เซินเจียวหนัง” เลขทะเบียน G298/49 หลังผลการตรวจวิเคราะห์พบการปนเปื้อนของสารทาดาลาฟิล (tadalafil) ซึ่งเป็นตัวยาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศและไม่ใช่ส่วนหนึ่งของตำรับสมุนไพรตามที่จดแจ้งไว้ เหตุผลการเพิกถอนระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอมและไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตามมาตราในพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 ผู้เกี่ยวข้องเตือนว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีทาดาลาฟิลโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์อาจเสี่ยงเกิดภาวะความดันเลือดตกอย่างรุนแรง ร่วมกับยากลุ่มไนเตรทได้ ทำให้เกิดหัวใจวาย หมดสติหรืออันตรายถึงชีวิตได้ จึงมีคำเตือนผู้ขายให้ตรวจสอบเลขทะเบียนและห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิกถอน ส่วนผู้บริโภคถูกแนะนำให้เช็กเลขทะเบียนก่อนซื้อและแจ้งหน่วยงานหากพบการจำหน่าย ผลข่าวนี้ได้รับการเผยแพร่จากหน่วยงานวิชาการและสำนักข่าวต่าง ๆ และมีคำสั่งเพิกถอนลงในเอกสารราชการที่เกี่ยวข้อง.

เมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดกระแสกังวลเกี่ยวกับการใช้ยาอะเซตามิโนเฟน (พาราเซตามอล/ไทลินอล) ในหญิงตั้งครรภ์ หลังมีงานวิจัยบางชิ้นพบความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ยานี้กับความเสี่ยงที่เด็กอาจมีออทิซึมหรือภาวะสมาธิสั้น (ADHD) แม้ผลการศึกษาเหล่านี้ไม่ได้ยืนยันความเป็นเหตุและผลโดยตรงก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ และ FDA จึงออกมาเตือนว่ามี “ความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้” และเตรียมพิจารณาเปลี่ยนฉลากยาเพื่อเพิ่มคำเตือน ขณะเดียวกันนักวิชาการหลายฝ่ายชี้ว่าหลักฐานยังไม่ชัดเจน และความแตกต่างที่พบในงานวิจัยอาจเกิดจากปัจจัยรบกวน เช่น อาการไข้หรือปัญหาสุขภาพของมารดาเอง อีกทั้งการไม่ให้สตรีมีครรภ์ใช้พาราเซตามอลเลยอาจเป็นอันตราย เพราะยาทางเลือกอื่นมักไม่ปลอดภัยกว่า ดังนั้นข้อสรุปในปัจจุบันคือข่าวนี้ “จริงบางส่วน” มีการศึกษาที่พบความสัมพันธ์เชิงสถิติ แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นสาเหตุโดยตรง คำแนะนำคือหากจำเป็นควรใช้ในขนาดต่ำที่สุดและในระยะเวลาสั้นที่สุด ภายใต้การดูแลของแพทย์.

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 68 เฟซบุ๊กชื่อ “เดชา นฤนารท” โพสต์ภาพอ้างว่าเป็น “กองทัพเขมรหลายพันนายเคลื่อนพลเข้าสู่เขตชายแดนไทย” พร้อมบอกว่ากองทัพภาคที่ 2 เตรียมอพยพประชาชน ภาพดังกล่าวถูกแชร์กว่าพันครั้ง ต่อมาทีมโคแฟคตรวจสอบพบว่าเป็นภาพแคปจากคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ตั้งแต่ 25 ก.ค. 68 โดยมีการบิดเบือนข้อมูล ทั้งอ้างว่าเป็นทหารกัมพูชาและทหารพม่า เมื่อวิเคราะห์เชิงลึกพบว่าภาพถ่ายในเมืองชเวโก๊กโก่ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ไม่ใช่กัมพูชา ป้ายถนนและทะเบียนรถในคลิปก็ยืนยันว่าเป็นของเมียนมา ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 ของไทยยืนยันว่าไม่ได้สั่งอพยพประชาชน สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงมีกำลังตรึงกำลังตามแนวเดิม มีเพียงเหตุการณ์ยิงปืนเล็กยาวจากฝั่งกัมพูชา 3 นัด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

กรุงเทพมหานคร แจ้งปิดสะพานข้ามแยกลำสาลี ฝั่งขาออกและขาเข้า ตั้วแต่วันนี้ 22 กันยายน – 31 ธันวาคม 2568 ปิดถนนยาวกว่า 4 เดือน คนกรุงเทพเลี่ยงรถติดด่วน กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานวิศวกรรรมทาง สำนักการโยธา แจ้ง ปิดสะพานข้ามแยกลำสาลี ฝั่งขาออกและขาเข้า โดยจะสลับปิดทีละฝั่ง เพื่อดำเนินงานจัดซ่อมรอยต่อ พื้นผิวถนน ด้านบนสะพาน โครงการงานจัดซ่อมสะพานข้ามแยกลำสาลี พื้นที่เขตบางกะปิ ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน – 31 ธันวาคม 2568 เฉพาะช่วงเวลา 22.00 – 05.00 น. ของวันถัดไป

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 68 มีการเผยแพร่วิดีโอในอินสตาแกรม อ้างว่าสเต็มเซลล์จากฟันคุดสามารถเก็บไว้เพื่อรักษาโรคได้หลายชนิด เช่น เบาหวาน หัวใจ อัลไซเมอร์ พาร์คินสัน รวมถึงทำให้มนุษย์เป็นอมตะได้ ข้อมูลนี้ถูกแชร์ต่ออย่างกว้างขวาง แต่หน่วยงานตรวจสอบชี้ว่าเป็น “ข่าวเท็จ” ที่ถูกเผยแพร่มานานแล้ว ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยใดยืนยันว่าสเต็มเซลล์จากฟันคุดหรือจากอวัยวะใด ๆ สามารถรักษาสารพัดโรคในมนุษย์ได้จริง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ ชี้ว่าฟันคุดมี Dental Pulp Stem Cells (DPSCs) จริง และมีศักยภาพทางการวิจัย แต่ยังไม่สามารถนำมาใช้รักษาคนได้ ขณะที่ข้อมูลจากศิริราชยืนยันว่าการรักษามาตรฐานที่ใช้สเต็มเซลล์มีเพียงการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เม็ดเลือดจากไขกระดูกเพื่อโรคโลหิตบางชนิดเท่านั้น การใช้สเต็มเซลล์อื่น ๆ ยังอยู่ในขั้นทดลองและวิจัย ไม่ใช่การรักษาที่ทำได้จริงในปัจจุบัน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศจะเร่งเดินหน้าโครงการ “คนละครึ่ง” ภายใน 1–2 เดือน เพื่อช่วยให้การจับจ่ายของประชาชนคล่องตัวขึ้น โดยเบื้องต้นจะมีทั้งแบบ 50:50 และ 60:40 แบ่งตามกลุ่มประชาชน และอาจเพิ่มวงเงินสิทธิ์จาก 1,000 บาทเป็น 1,200 บาท รวมถึงเตรียม top up ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการรัฐเพื่อไม่ให้น้อยกว่าประชาชนทั่วไป กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ได้เร็วสุดกลางถึงปลายเดือนตุลาคมนี้ ใช้งบประมาณมากกว่า 25,000 ล้านบาท มีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 25–26 ล้านคน ผู้ค้าและผู้บริโภคส่วนใหญ่ตอบรับในเชิงบวก มองว่าจะช่วยให้การจับจ่ายในช่วงเศรษฐกิจซบเซาดีขึ้น