ข่าวจริงหรือข่าวลวง

โดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) กรมควบคุมมลพิษ ได้ออกประกาศ เรื่อง คุณภาพอากาศเกินมาตรฐานบริเวณภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) ฉบับที่ 2 ระบุว่า วันที่ 7 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน สถานการณ์คุณภาพอากาศ จากฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยพบปริมาณฝุ่น PM 2.5 ณ เวลา 09.00 น. มีค่าระหว่าง 43.1-199.0 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการดำเนินการ ดังนี้ 1. งดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในระบบไฟดี (FireD) ตั้งแต่วันที่ 7-11 มีนาคม 2567 และแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำร่องในการทดลองอนุมัติการบริหารจัดการเชื้อเพลิงระบบไฟดี (FireD) จำนวน 12 แห่ง งดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วย 2. แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพ โดยงดกิจกรรมกลางแจ้ง แต่หากจำเป็นควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน (PM 2.5) ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยโรค COPD เด็ก และคนชรา หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ และควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ (ห้องลดฝุ่น) และเตรียมยา อุปกรณ์จำเป็นให้พร้อม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด 3. สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) สั่งการให้หน่วยป้องกันรักษาป่าในสังกัด ประสานงานกับศูนย์บัญชาการฯ อำเภอ เพื่อทำการดับไฟป่า รวมทั้งควบคุม ระมัดระวัง การบริหารจัดการเชื้อเพลิงไม่ให้ข้ามคืน และการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดลักลอบเผาป่า ทั้งนี้ กรมป่าไม้ได้มอบหมายภารกิจให้ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟ จำนวน 2 ชุด มาร่วมปฏิบัติงานในพื้นที่ด้วย 4. ในกรณีมีเหตุเกิดไฟไหม้พื้นที่ป่าจำนวนมาก และเกินความสามารถของการดับไฟป่าในภาคพื้นดิน จังหวัดเชียงใหม่ได้ประสานอากาศยานปีกหมุนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติงานดับไฟ โดยที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ได้ทำการทิ้งน้ำดับไฟป่าในท้องที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ โดยประชาชนทั่วไปสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK

ปรากฏการณ์เอนโซยังอยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังแรง โดยอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเขตศูนย์สูตรในเดือนที่ผ่านมาสูงกว่าปกติเกือบทั่วทั้งบริเวณ สำหรับอุณหภูมิผิวน้ำทะเลเฉลี่ยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงกว่าค่าปกติประมาณ 1.0-1.8 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิน้ำทะเลที่อยู่ลึกจากผิวน้ำลงไปจนถึงระดับ 300 เมตร ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา พบว่า บริเวณอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงกว่าค่าปกติยังคงอยู่เกือบทั่วทั้งบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกแถบศูนย์สูตรในระดับลึกความลึกไม่ถึง 100 เมตร ส่วนที่ระดับลึกลงไปอุณหภูมิน้ำทะเลที่ต่ำกว่าค่าปกติได้มีกำลังแรงขึ้นและขยายพื้นที่ไปทางบริเวณตอนกลางและด้านตะวันออกของมหาสมุทรฯ มากขึ้น ลักษณะดังกล่าวส่งผลให้ระบบการหมุนเวียนบรรยากาศที่ระดับ 850 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสคาล : hPa หรือที่ความสูงประมาณ 1.5 กิโลเมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีลมที่มีกำลังใกล้เคียงค่าปกติพัดปกคลุมเกือบทั่วทั้งบริเวณมหาสมุทรฯ สำหรับลมที่ระดับ 200 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสคาล : hPa) หรือที่ความสูงประมาณ 11 กิโลเมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีลมตะวันออกที่มีกำลังแรงกว่าปกติพัดปกคลุมบริเวณตอนกลางและด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรและมีแอนติไซโคลนอยู่บริเวณเหนือ-ใต้แถบศูนย์สูตร การคาดหมายจากอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่มีค่าสูงกว่าค่าปกติ และระบบการหมุนเวียนบรรยากาศบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตร ประกอบกับเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติและแบบจำลองเชิงพลวัตแล้ว คาดว่า ปรากฎการณ์เอนโซที่อยู่ในสภาวะเอลโญกำลังแรงนี้จะอ่อนลง และต่อเนื่องถึงช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2567 จากนั้นจะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะเป็นกลางในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน และมีความน่าจะเป็นร้อยละ 68 ที่จะเข้าสู่สภาวะลานีญาในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2567

-

ทาง บริษัทAMATA ได้ออกมาเตือนภัย และชี้แจงว่า บริษัทไม่มีนโยบายชักชวนลงทุนกองทุนใดๆ ผ่านสื่อออนไลน์ หรือโทรศัพท์ใดๆ โปรดอย่าหลงเชื่อ อีกทั้งเพจเฟสบุ๊คที่แชร์วีดิโอดังกล่าว ยังเป็นเพจปลอมอีกด้วย

ทาง บริษัทAMATA ได้ออกมาเตือนภัย และชี้แจงว่า บริษัทไม่มีนโยบายชักชวนลงทุนกองทุนใดๆ ผ่านสื่อออนไลน์ หรือโทรศัพท์ใดๆ โปรดอย่าหลงเชื่อ

ไม่มีเนื้อหา

-

-

ไม่มีเนื้อหา

-

-

-

-

-

...

จากกรณีที่มีคำชี้แนะโดยระบุว่า นอนหนุนหมอนสูง เกิน 12 ซม.​ เสี่ยงโรคหลอดเลือดในสมอง ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เป็นคำชี้แนะที่ไม่เป็นความจริง ปัจจุบันยังไม่พบหลักฐานทางการแพทย์ที่ใช้ยืนยันว่า นอนหนุนหมอนสูง เกิน 12 ซม. จะเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง และหมอนที่นุ่มไป หรือหมอนที่แข็งก็ไม่มีผลทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองเช่นเดียวกัน

การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมนอกจากจะสร้างความมึนเมาและผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อร่างกายและน้ำหนักของเราด้วยโดยเฉพาะถ้าดื่มเป็นประจำ นอกจากนั้นแล้วเหตุผลเหล่านี้ตอบคำถามได้ดีว่าทำไมการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้อ้วนได้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นแหล่งพลังงานสูง โดยปริมาณแอลกอฮอร์ 1 กรัม ให้พลังงานมากถึง 7 กิโลแคลอรี่ นั่นหมายความว่าการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ๆ จะส่งผลให้คุณได้รับพลังงานเพิ่มขึ้นและเก็บสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจทำให้อ้วนได้ หากคุณไม่มีกิจกรรมการออกกำลังกายเพิ่มเติมเพื่อเผาผลาญพลังงานเหล่านี้ทิ้ง แอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกาย มันทำให้ร่างกายมีความจำเป็นต้องเผาผลาญแอลกอฮอล์ก่อนจึงจะเผาผลาญไขมัน หากไม่ได้รับการออกกำลังกายที่ดีอยู่เป็นประจำก็จะทำให้ร่างกายเผาผลาญแอลกอฮอล์ไม่หมดและสะสมเป็นไขมันทำให้น้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้น

ข้อควรระวังสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องหลีกเลี่ยงน้ำมะพร้าว เนื่องจากในน้ำมะพร้าวมีน้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตส และซูโครสในปริมาณสูง สำหรับผู้ป่วยเบาหวานควรเลือกกินน้ำมะพร้าวสดหรือเครื่องดื่มจากน้ำมะพร้าวชนิดหวานน้อยหรือไม่เติมน้ำตาล เพื่อป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น

รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข กำหนดอัตราการครอบครองยาเสพติดประเภทหนึ่ง โดยกำหนดให้ผู้ที่มียาบ้าในครอบครองไม่เกิน 5 เม็ดถือเป็นผู้เสพว่า กระทรวงมหาดไทย ต้องทำตามกฏหมาย และให้ความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ไม่ว่าประกาศกระทรวงฯ จะกำหนด จำนวนการครอบครองไว้แค่ไหนก็ต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ต้องบูรณาการทำงานกับหลายส่วน ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ที่วิจารณ์ว่าคุกไม่พอขังนั้นไม่ใช่ แล้วที่บอกว่าการกำหนดจำนวนเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายกับฝ่ายรัฐ ก็ไม่ใช่ ไม่ว่าจะกำหนดการครอบครองไว้กี่เม็ดก็ต้องถูกจำคุก เพราะคุกมีพอขังคนทำผิดกฎหมายแน่นอนไม่ต้องกังวล

เป็นข่าวปลอมในอดีตที่ถูกนำมาส่งต่ออีกครั้งอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ปัจจุบันตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยได้ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการคัดลอกข้อมูลบัตรแล้วทุกตู้ ส่วนไฟกะพริบที่กล่าวถึงในข้อความดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับระบบอุปกรณ์ป้องกันการคัดลอกข้อมูลบัตรที่ติดตั้งบนเครื่องเอทีเอ็มแต่อย่างใด

-

-

ตามที่มีข้อมูลออกมาเรื่องงดใช้ตู้เอทีเอ็มกสิกรที่ไม่มีไฟกะพริบตรงที่เสียบบัตร เนื่องจากโดนแฮกข้อมูลไปที่ประเทศยูเครน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับธนาคารกสิกรไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับการงดใช้ตู้เอทีเอ็มกสิกรที่ไม่มีไฟกะพริบตรงที่เสียบบัตร เนื่องจากโดนแฮกข้อมูลไปที่ประเทศยูเครน ทางธนาคารกสิกรไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เป็นข่าวปลอมในอดีตมีการแพร่กระจายในช่วงปี 2557 และถูกนำมาส่งต่ออีกครั้งอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ธนาคารขอยืนยันว่า ปัจจุบันตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยได้ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการคัดลอกข้อมูลบัตรแล้วทุกตู้ ส่วนไฟกะพริบที่กล่าวถึงในข้อความดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับระบบอุปกรณ์ป้องกันการคัดลอกข้อมูลบัตรที่ติดตั้งบนเครื่องเอทีเอ็มแต่อย่างใด เป็นสัญลักษณ์เพียงเพื่อบอกตำแหน่งในการใส่บัตรให้ผู้ใช้งานทราบเท่านั้น

ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การสอดไม้เข้าไปในจมูกมีโอกาสขึ้นไปที่ตำแหน่งของเส้นประสาทรับกลิ่นได้จริงแต่ไม่สร้างความเสียหายต่อเส้นประสาทมากอย่างที่กังวล และในปัจจุบันก็ยังไม่พบหลักฐานว่า การ Swab ทำให้เส้นประสาทรับกลิ่นเสียหายจนสูญเสียการรับกลิ่น ดังนั้นการ Swab ควรทำให้ถูกวิธีโดยการแหย่เข้าไปตามแนวของพื้นจมูกเพื่อให้เข้าไปยังบริเวณโพรงหลังจมูกซึ่งมีโอกาสเจอเชื้อโรคได้มาก และจะไม่โดนตำแหน่งของเส้นประสาทนี้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังที่สำคัญคือ ในกรณีที่คนไข้เคยได้รับการผ่าตัดเกี่ยวกับฐานสมอง หรือเคยผ่าตัดซ่อมฐานสมองมาก่อน อาจจะไม่มีกระดูกคอยป้องกันเหมือนกับคนที่ยังไม่เคยผ่าตัด ควรให้แพทย์หูคอจมูกหรือแพทย์ที่ชำนาญเป็นผู้ทำการ Swab เอง

ามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า อุณหภูมิปีนี้จะสูงขึ้นกว่าปีก่อน อาจถึง 44.5 องศาเซลเซียส ซึ่งมีความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยดูได้จากค่าดัชนีความร้อน ซึ่งเป็นค่าที่สะท้อนความรู้สึกร้อนของร่างกาย จากการนำอุณหภูมิของอากาศมาคิดร่วมกับความชื้นสัมพัทธ์ เนื่องจากเมื่อความชื้นสัมพัทธ์สูงจะทำให้เหงื่อระเหยยาก และส่งผลให้รู้สึกร้อนกว่าอุณหภูมิจริงของอากาศ หากค่าดัชนีความร้อนเกิน 40 องศาเซลเซียส จะมีความเสี่ยงเกิดโรคลมแดด หรือโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย และเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้