ข่าวจริงหรือข่าวลวง

ปัญหาเรื่องจุดซ่อนเร้นของผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญและไม่ควรมองข้าม ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านั้นมี มากมาย ทั้งด้านเรื่องของผิวพรรณบริเวณจุดซ่อนเร้น ความอับชื้นท กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือแม้กระทั่งเรื่อง ของตกขาวที่เป็นสาเหตุหลักทำให้ผู้หญิงหลายๆคนหมดความมั่นใจในตนเองได้ การดูแลบริเวณจุดซ่อนเร้น นั้นเป็นเรื่องที่อ่อนโยน ควรต้องระวังและตระหนักถึงวิธีการดูแลที่ถูกต้อง ซึ่งในปัจจุบันนี้ทุกคนนั้นสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มต่างๆในโซเชียลมีเดียได้ง่าย สามารถค้นหาวิธีการดูแลที่ถูกต้องได้ ซึ่งก็จะมีผู้มีประสบการณ์มาแบ่งปันความรู้ หรือมีงานวิจัยให้อ่านมากมาย เช่นในแพลตฟอร์มTiktok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดิโอที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันนี้ โดยมีผู้ใช้ Tiktok ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการดูแลผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นของผู้หญิงให้นุ่มชุ่มชื้นดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ และลดปัญหาตกขาว กำจัด เชื้อรา แบททีเรีย ด้วยวิธีจากธรรมชาติ โดยการนำวุ้นของว่านหางจระเข้สด ปลอกฝานเอาแต่วุ้นด้านในมาทา ผิวบริเวณน้องสาวอย่างสม่ำเสมอแล้วจะได้ผลดังกล่าวโดยมีผู้ใช้ส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นมาแชร์ประสบการณ์ ว่าเคยทำวิธีไหนแล้วดี หรือเคยทาว่านหางจระเข้แล้วรู้สึกดีขึ้นจริงๆดังที่เนื้อหาคลิปดังกล่าวได้ บอกไว้ แต่ก็มีผู้ใช้บางท่าน แสดงความคิดเห็นเชิงสงสัยว่า จะได้ผลจริงหรือ หรือจะคันไหมหากใช้แบบสดๆไม่ ผ่านกรรมวิธีต่างๆเสียก่อน นายแพทย์องอาจ บวรสกุลวงศ์ สูตินรีแพทย์เฉพาะด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ แพทย์ประจำศูนย์ รักษาการมีบุตรยาก โรงพยาบาล BNH (สีลม/สาทร) และโรงพยาบาลนครธน (บางขุนเทียน/พระรามสอง) จังหวัดกรุงเทพมหานครฯ ได้ให้ข้อเท็จจริงในเรื่องว่า " การที่นำวุ้นของว่านหางจระเข้สดนั้นมาทาบริเวณ ผิวจุดซ่อนเร้นนั้นไม่ได้มีสรรพคุณที่คลิปดังกล่าวว่า มีหลักฐานทางวิชาการจากวารสารการแพทย์ว่าสาร สกัดของว่านหางจระเข้ช่วยรักษาอาการตกขาวจากการติดเชื้อรได้จริง แต่ต้องเป็นสารสกัดจากทางห้อง เab เท่านั้น และ มีความเข้มข้นที่ชัดเจนไม่ใช่การใช้ว่านทางจระเข้สดแต่อย่างใดอีกทั้งยังไม่มีงานวิจัยใดๆ ที่พิสูจน์ได้ว่าว่านหางจระเข้ช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ของจุดซ่อนเร้น" นอกจากนี้นายแพทย์องอาจ ยังได้อธิบายถึงการดูแลบริเวณจุดซ่อนเร้นให้นุ่มชุ่มชื้นโดยใช้สารสกัด จากว่านหางจระเข้ไว้อีกด้วย โดยอธิบายว่า "พบงานวิจัยว่าสามารถนำเอาสารสกัดว่านหางจระเข้มาใช้ใน เพิ่มความชุ่มชื้นในหญิงวัยหมดประจำเดือนได้ เทียบกับ hormone estrogen แบบสอดทางช่องคลอด พบว่าช่วยให้ช่องคลอดชุ่มชื้นขึ้นจริง แต่ไม่ได้ดีกว่าใช้ยาฮอร์โมน และ การใช้นั้นต้องเป็นสารสกัดเท่านั้น ไม่ใช่ว่านหางจระเข้สด" การดูแลบริเวณจุดซ่อนเร้นนั้นควรได้รับการดูแลที่ถูกวิธี "ควรใช้สบู่อ่อนๆ และน้ำเปล่า ล้างทำ ความสะอาดเฉพาะภายนอก ไม่สวนล้างช่องคลอดและไม่ควรใช้น้ำยาล้างเฉพาะจุดซ่อนเร้น ไม่ทานของ หมักดอง และไม่กำจัดขนบริเวณนั้นทั้งหมด ซึ่งจะทำให้บริเวณจุดซ่อนเร้นเสียสมดุล มีเชื้อโรคซึ่งเป็น สาเหตุของกลิ่นและตกขาวที่ตามมาได้ ไม่ควรทาว่านหางจระเข้สดลงบนผิวซึ่งอาจตกค้างและทำให้คัน หรือเกิดปัญหาอื่นตามมาได้ ใช้ได้เฉพาะที่เป็นสารสกัดที่ผ่านการรับรองแล้วเท่านั้น" นางสาวเมษิยา มูรพันธุ์ สาขาวิชาการสื่อสารองค์กร ภาควิชานิเทศศาสตร์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และCofact ตะวันออก เป็นผู้จัดทำ #CCBUUXCofact #เปิดโลกความจริงสู่สังคม

การฉีด Filler เพื่อแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องบนใบหน้าและปรับรูปหน้าตามเทรนด์สมัยนิยม ได้รับการพูดถึงและเป็นที่นิยมจนเกิดเป็นกระแสสุด Hot แบบปรอทแตกในสังคมไทย เนื่องจากสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำหัตถการ สะดวกกว่าการทำศัลยกรรมที่ต้องใช้เวลานานในการพักฟื้น เห็นผลได้รวดเร็วกว่าการทา Skincare ที่ต้องใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จึงจะเห็นผลชัดเจน อีกทั้งยังตอบโจทย์คนที่กลัวการผ่าตัด แต่อยากปรับรูปหน้าอีกด้วย บริเวณยอดฮิตที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมฉีด Filler ไม่ว่าจะปี พ.ศ. ไหน ก็ยัง Hot อยู่ตลอด คือ บริเวณส่วนกลางของใบหน้า ได้แก่ หน้าผาก ตา ปาก และคาง โดยจะฉีดให้มีรูปทรงที่ตรงตามลักษณะความเชื่อในเรื่องของโหงวเฮ้งใบหน้าที่ดี ฉีดแล้วจะช่วยส่งเสริมราศี บารมี ดึงดูดทรัพย์และโชคลาภด้านต่าง ๆ ให้เข้ามาในชีวิต อีกหนึ่งความนิยมที่ Hot ไม่แพ้กัน นั่นก็คือ การฉีด Filler เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องและจุดที่เป็นกังวลบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นใต้ตาคล้ำ ร่องแก้มลึก คางตัด ริมฝีปากผิดรูปหรือรูปทรงปากไม่เท่ากัน แก้มตอบ ขมับบุ๋มก็สามารถใช้ Filler เข้าไปเติมเต็มและแก้ไขในส่วนที่ขาดได้ ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติและเสริมความมั่นใจมากขึ้น หากจะกล่าวว่า “Filler” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ครองใจผู้บริโภคทุกคนในตลาดความงาม ก็คงจะไม่ถูกต้อง เพราะอีกด้านหนึ่งก็ยังมีผู้บริโภคบางส่วน ที่มีความกังวลและเกิดความกลัวเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ตามมาหลังการทำหัตถการด้วย Filler เนื่องจากมีข่าวลือเกี่ยวกับ Filler ในด้านลบออกมาอย่างแพร่หลาย และถูกพูดถึงกันอย่างหนาหูว่า “เป็นสารอันตราย ฉีดแล้วไม่สามารถสลายได้หมด จะยังคงหลงเหลือสารตกค้างไว้ใต้ชั้นผิว จนทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ที่ตามมาหลังทำหัตถการ” ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังคงถกเถียงกันในกลุ่มผู้บริโภคมานานมากกว่า 10 ปีจนมาถึงปัจจุบันว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริงหรือเท็จกันแน่ เพราะมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย Filler คืออะไร ในต่างประเทศ Filler จะเหมารวมว่าคือ สารเติมเต็มทุกชนิด ทุกประเภท ส่วนในประเทศไทย Filler คือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า HA ซึ่งเป็น Filler เพียงชนิดเดียวที่ได้รับการรองรับความปลอดภัยจาก อย. มีคุณสมบัติในเรื่องของความคงตัว ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก ข้อบกพร่องตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า ซึ่งจะเข้าไปเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ช่วยให้ใบหน้าดูมีวอลลุ่มและมีมิติมากยิ่งขึ้น ประเภทของ Filler Temporary Filler (แบบชั่วคราว) อยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน ปลอดภัยสูง สามารถสลายเองได้หมดตามธรรมชาติ เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น Filler ประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) Semi-Permanent Filler (แบบกึ่งถาวร) อยู่ได้ประมาณ 24-48 เดือน ปลอดภัยปานกลางในต่างประเทศได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ แต่ในประเทศ ไทยยังไม่ได้รับอนุญาตให้นำมาใช้ เนื่องจากมีแนวโน้มเกิดผลข้างเคียงหลังทำหัตถการ ซึ่งแก้ไขได้ยาก Permanent Filler (แบบถาวร) เป็นสารเติมเต็มจำพวกซิลิโคนหรือพาราฟิน หลังฉีดผิวไม่สามารถดูดซึมได้ เป็นประเภทที่ใช้ในสมัยก่อน ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จะพบเป็นพังผืด ก้อนแข็ง รวมถึงอาจมีการติดเชื้อได้ ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว ตอนนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารอันตราย โดยทาง นพ.คมิก กุลมโนชญ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Leduma Clinic ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของข่าวลือดังกล่าวนี้ว่า “Filler เป็นสารเติมเต็มบริเวณใบหน้า ในสมัยก่อน Filler จะทำมาจากซิลิโคนเหลว ซึ่งเป็นสารที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จะพบเป็นพังผืดหรือเกิดการติดเชื้อได้ ต่อมาในปัจจุบัน Filler ในประเทศไทย จะเป็นประเภท Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในผิวหนังตามธรรมชาติของเราอยู่แล้ว นอกจากนี้บริเวณผิวหนังจะมีเอนไซม์ตัวหนึ่งที่เรียกว่า Hyaluronidase เป็นเอนไซม์ที่ช่วยให้ Filler สลายไปเองตามธรรมชาติและไม่ทิ้งสารตกค้างไว้บนใบหน้าแน่นอน จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละยี่ห้อ ในปัจจุบันมีคลินิกเสริมความงามเกิดขึ้นมากมายหลายแห่ง แต่ไม่ใช่ว่าทุกคลินิกจะฉีดออกมาแล้วสวยสมใจหวัง ดังนั้นก่อนจะเลือกคลินิกในการฉีด ต้องพิจารณาองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างเพื่อความปลอดภัย โดยจะต้องคำนึงถึงข้อสำคัญต่าง ๆ ดังนี้ 🔘ต้องเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข 🔘แพทย์ผู้ฉีดจะต้องมีความเชี่ยวชาญ ชำนาญและรู้เทคนิคเฉพาะในการฉีดแต่ละจุด ใบประกอบวิชาชีพจะต้องตั้งโชว์ภายในคลินิกเสมอ เพื่อยืนยันว่าแพทย์ได้จบเฉพาะทางมาจริง โดยสามารถเช็คใบประกอบวิชาชีพว่าเป็นของจริงหรือปลอมแปลงได้ทางเว็บไซต์แพทย์สภา เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการ 🔘ก่อนทำหัตถการ แพทย์จะต้องแกะกล่อง Filler ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง และข้างกล่องผลิตภัณฑ์จะต้องมีฉลาก อย. ไทยรับรอง เนื่องจากคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบการถูกต้อง บางแห่งก็ยังแอบลักลอบนำ Filler ปลอมหรือยาหิ้วมาใช้กับลูกค้าที่เข้ามารับบริการ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบอยู่บ่อยครั้ง 🔘รีวิวจากลูกค้าที่ใช้บริการ โดยดูจาก Feedback ลูกค้า มาใช้บริการซ้ำบ่อยแค่ไหน แต่ละคนใบหน้าเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด รวมถึงมี Feedback ที่ไม่ดีหรือไม่ 🔘ราคาไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป ต้องอยู่ในราคามาตรฐานที่ควรจะเป็น 🔘จะต้องติดตามผลหลังลูกค้าทำหัตถการทุกครั้ง” ปัจจุบันอุตสาหกรรมด้านความงามมีการเติบโตมากขึ้น เนื่องจากผู้คนต่างก็นิยมหันมาดูแลตัวเอง เพราะอยากภาพลักษณ์ที่ดูดีมากขึ้น ทำให้ในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์ Filler ออกมาหลากหลายยี่ห้อ หลายคนเจอโปรโมชั่นราคาถูกมาล่อตาล่อใจ ถูกดึงดูดจนเกิดความหลงเชื่อ ผลลัพธ์ที่ได้คือ Filler ไม่ได้มาตรฐานหรือเป็นยาหิ้วลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งบ่อยครั้ง แพทย์ที่ทำหัตถการก็ไม่ได้จบแพทย์เฉพาะทางมาโดยตรง แต่เป็นผู้ช่วยพยาบาลที่แอบอ้างเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือที่เราเรียกกันว่า “หมอกระเป๋า” นั่นเอง ทำให้หลังฉีด Filler บริเวณที่ฉีดจะกลายเป็นก้อนแข็ง หากแพ้ก็จะเกิดการอักเสบ บวมแดง มีหนอง ต้องใช้วิธีการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ในบางรายอาการหนักก็ทำให้เกิดเนื้อตายในบริเวณดังกล่าวได้ ดังนั้นผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการฉีดและการเลือกคลินิกให้ดีก่อนเข้าใช้บริการ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง ข้อมูลจาก นพ.คมิก กุลมโนชญ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Leduma Clinic ศุภรดา สายสร้อย สาขาวิชาสื่อสารองค์กร ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาบูรพา และ Cofact ภาคตะวันออก เป็นผู้จัดทำ #CCBUUXCofact #เปิดโลกความจริงสู่สังคม

ในปัจจุบันโลกของเรามีเทคโนโลยีที่ก้าวไกลมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การใช้ชีวิตต่าง ๆ สะดวกสบาย ง่าย และรวดเร็ว ยิ่งเป็นเรื่องธุรกรรมทางการเงินที่ปัจจุบันสามารถโอน เติม จ่าย หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ ทางธนาคารได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วผ่านทางโทรศัพท์ จึงอาจก่อให้เกิดการโจรกรรมทางการเงินได้ง่ายเช่นกัน ผู้ใช้จึงต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และสติในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน Mobile Banking เพื่อที่จะเป็นการลดความเสี่ยงในการโจรกรรมทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยคุณอนันต์ชัย มั่นคง Software Engineer จากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยี ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ Mobile Banking ในปัจจุบันเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงหรือมีความเสี่ยงน้อยที่สุดที่จะโดนโกง ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าการใช้ Mobile Banking ถือว่าปลอดภัยในระดับหนึ่ง เพราะแต่ละธนาคารมีการปกป้องซอฟต์แวร์ และโปรแกรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการให้บริการทางการเงินกับลูกค้า รวมถึงระบบความปลอดภัยในธุรกรรมที่มีการเข้มงวดเป็นไปตามมาตรฐานสากล ตามกฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย และมีการทดสอบตรวจสอบทุกช่องโหว่อยู่เสมอโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้ลดความผิดพลาดที่จะเข้าถึงหรือสามารถเกิดขึ้นได้ ยิ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจสอบก็ยิ่งง่ายขึ้น การเข้มงวดก็เข้มข้นขึ้นตาม ยิ่งเป็นเรื่องธุรกรรมการเงินยิ่งต้องเข้มงวดกวดขันมากยิ่งขึ้น เงินทุกบาททุกสตางค์ของลูกค้าจะต้องปลอดภัยอยู่ครบทุกจำนวน ไม่ว่าจะเป็นโอน เติม จ่าย หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ ทางธนาคารสามารถตรวจสอบได้ทุกความเคลื่อนไหวผ่าน Statement ที่สามารถขอได้ง่าย ๆ ผ่านทาง Mobile Banking Application ในแต่ละธนาคาร และในเรื่องของการให้บริการการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ถ้า Mobile Banking มีการเชื่อมต่อจากแหล่งอื่น เช่น การผูกบัญชีจ่ายเงินกับGrab, True Money, Line Man หรือขุนทอง เป็นต้น ทาง Mobile Banking จะมีหน้ารายละเอียดและเงื่อนไขการขอสิทธิ์และขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลจากลูกค้าในครั้งแรกของการใช้งานก่อนเสมอ หรือมีการแจ้งเตือนผ่านทาง OTP และ E-mail และยังสามารถกดยกเลิกได้ตลอดเวลาหากไม่ได้ใช้บริการอีกต่อไป ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ว่าการเชื่อมต่อกับแหล่งอื่นสามารถตรวจสอบได้และปลอดภัยอย่างแน่นอน ซึ่งผู้ใช้งานต้องอ่านให้ละเอียดรอบคอบก่อนทำการกดยืนยันอยู่เสมอ นอกจากนี้การใช้บริการ Mobile Banking ก็ต้องระมัดระวังในการ Log in เข้าใช้บริการ โดยหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อด้วยคลื่น Wi-fi สาธารณะที่ไม่ได้มีการ Log in ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูลได้ง่าย ส่วนในเรื่องของการผูกเบอร์โทรศัพท์กับบัญชีธนาคารนั้น หากมองว่ายิ่งสะดวกเท่ากับยิ่งเสี่ยง ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเมื่อนำเบอร์โทรมาผูกกับบัญชีเพื่อทำการเปิดบัญชีหรือการยืนยันตัวตนเพื่อใช้งาน การทำธุรกรรมต่าง ๆ จำเป็นต้องมีรายละเอียดและเงื่อนไขการขออนุญาตและสิทธิ์ในการเข้าถึง และมีการยืนยันตัวตนก่อนการใช้งานเสมอ และโทรศัพท์จะเป็นตัวรับรหัส OTP หรือใส่รหัส Pin ตามที่เรากำหนดไว้ ปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพก็มักจะมีกลยุทธ์ในการหลอกล่อเพื่อขอข้อมูลสำคัญ หากเราหลงเชื่อและให้ข้อมูลส่วนตัวไปก็มีความเสี่ยงในการทำธุรกรรมได้ ซึ่งก็มีเคสตัวอย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการผูกเบอร์โทรกับบัญชีธนาคาร อย่างเช่น มิจฉาชีพแฮกบัญชี Social Media และสวมตัวตนเป็นเจ้าของบัญชี สร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ให้เพื่อนของผู้ถูกแฮกบัญชีโอนเงินให้ หรือมิจฉาชีพสร้างโปรไฟล์ปลอมใน Social Media หลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าได้แชทกับบุคคลในรูปจริง และสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ ซึ่งสามารถป้องกันได้ โดยการไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลสำคัญต่าง ๆ, หลีกเลี่ยงการแชทคุยกับบุคคลที่ไม่รู้จัก, ก่อนทำธุรกรรมทางการเงินควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเสมอ นอกจากนี้ยังมีแนวทางการรับมือและแก้ปัญหา 10 ข้อ ถ้าสามารถปฏิบัติตามได้จะลดความเสี่ยงในการถูกโกงทางธุรกรรมทางการเงินได้อย่างแน่นอน 1. อย่าให้ใครมาแตะหรือเปิดมือถือเราโดยไม่จำเป็น 2. อัพเดท Mobile Banking Application ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ 3. อย่าใช้สัญญาณ Wi-fi สาธารณะที่ไม่ได้มีการ Log in ในการเข้าใช้บริการ 4. ตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือนทุกครั้งในการเข้าใช้บริการ โดยอาจให้แจ้งเตือนผ่าน SMS หรือ E-mail 5. การทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ต้องตรวจสอบชื่อบัญชีกับหมายเลขบัญชีว่าถูกต้องหรือไม่ กับข้อมูลที่เรามีไว้ใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน 6. เมื่อได้รับแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชี ให้รีบตรวจสอบทุกครั้งว่ามีรายการหรือไม่ ตรงตามยอดที่ได้รับแจ้งหรือไม่ 7. หากเกิดข้อผิดพลาดในการใช้บริการ ให้รีบติดต่อธนาคารที่เป็นผู้ให้บริการทันที 8. พึงระลึกเสมอว่ารหัสต่าง ๆ ไม่ควรเปิดเผยต่อผู้อื่น เพื่อความปลอดภัยในทุก ๆ ด้าน 9. ไม่รับสายโทรศัพท์ที่เป็นเบอร์แปลกที่ไม่มีในรายชื่อของโทรศัพท์เรา อาจมีการใช้ Application เสริม อย่างเช่น Whoscall ในการเช็คเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่รู้จัก เพราะ Application สามารถบอกได้ว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ของมิจฉาชีพหรือไม่ 10. กำหนดวงเงินในการใช้ทำธุรกรรมทางการเงินขาออกให้เหลือน้อย เท่าที่มีความจำเป็นต้องใช้ในแต่ละครั้ง หากคราวใดต้องโอนออกเป็นจำนวนมากค่อยแก้ไขวงเงิน และเมื่อทำธุรกรรมทางการเงิน เสร็จสิ้นให้แก้ไขกลับให้เหมือนเดิม ในกรณีที่ผู้ใช้โดนโกงแล้ว สามารถดำเนินเรื่องกับธนาคารได้ โดยการรีบไปดำเนินการแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ และนำหลักฐานการแจ้งความไปให้ธนาคารเพื่อตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ที่เกิดความเสียหายขึ้น ส่วนที่เหลือก็จะเป็นหน้าที่ของธนาคารและตำรวจที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนกรณีที่มีการแฮกบัญชี Social Media ผู้เสียหายควรรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดแล้วนำไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ และรายงานศูนย์ช่วยเหลือของโปรแกรม Social Media นั้น ๆ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในการรับมือและป้องกันการเกิดโจรกรรมทางการเงิน ซึ่งผู้ใช้งานต้องมีสติและปฏิบัติตามแนวทางการรับมือ 10 ข้อดังกล่าว รวมไปถึงการอ่านรายละเอียดให้รอบคอบก่อนทำธุรกรรมทางการเงินในทุกครั้ง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการโดนโกงให้ได้มากที่สุด นางสาวนิษฐ์สิริ วัฒนเหมรัตน์ นิสิตสาขาวิชาการสื่อสารองค์กร ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และ Cofact ภาคตะวันออก เป็นผู้จัดทำ #CCBUUXCofact #เปิดโลกความจริงสู่สังคม

การบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า ขณะนี้บริษัท จัดโปรโมชั่น “Hottest Sale” บัตรโดยสารราคาพิเศษสุดฮอต จอง จ่าย จบ ครบทุกบริการ ต้อนรับเดือนเมษายน เส้นทางไป-กลับ จากกรุงเทพฯ หรือภูเก็ต ในเส้นทางยอดนิยม ทั้งเอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย ราคาชั้นประหยัดต่อท่านเริ่มต้นที่ 5,485 บาท สำรองที่นั่ง และออกบัตรโดยสารตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2565 เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน – 31 ธันวาคม 2565

การดื่มน้ำมะนาวไม่ว่าจะในปริมาณมากหรือน้อยก็ไม่สามารถส่งผลให้ประจำเดือนหยุดได้เพราะว่าในน้ำมะนาวไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งฮอร์โมนเอสโตรเจนคือฮอร์โมนที่สร้างมาจากรังไข่ของเพศหญิงในช่วงที่เรายังเป็นประจำเดือนหรือสามารถหาได้จากอาหารบางชนิดเช่น น้ำมะพร้าว น้ำเต้าหู้

ประสิทธิภาพของมะนาวในการรักษาสิวนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิว วิธีใช้ และสภาพแวดล้อมของแต่ละคนด้วยเช่นกัน เช่นถ้าผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย มีอาการระคายเคือง การใช้วิธีนี้ในการรักษาสิวนั้นก็ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ แต่ถ้าหากผู้ที่ผิวที่แข็งแรงอยู่แล้ว และใช้ถูกวิธีก็อาจได้ผลจริง อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันก็ยังไม่มีการศึกษายืนยันที่มากพอเกี่ยวกับประเด็นนี้ ดังนั้นควรใช้ด้วยความระมัดระวัง และควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังทุกครั้งก่อนใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาผิวที่รุนแรง

การเพิ่มศักยภาพในการควบคุมโรค นอกจากการศึกษาจากงานวิจัยต่างๆในการป้องกันโรคASFแล้ว ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการเตรียม ความพร้อมในกรณีที่มีการระบาดของโรคเกิดขึ้น เพื่อเพิ่มความ ปลอดภัยทางด้านอาหารที่ได้มาจากสัตว์ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

การรับประทานยาถ่ายทำให้อ้วนไม่เป็นความจริง เพราะยาถ่ายพยาธิมีผลต่อการกำจัดพยาธิแต่ไม่ได้มีผลต่อน้ำหนักตัว และจะเห็นได้ว่าอันตรายของโรคพยาธิมีมากมาย ตั้งแต่ผลกระทบเล็กน้อยจนถึงผลกระทบรุนแรงด้านสุขภาพ ดังนั้นการถ่ายพยาธิและการป้องกันพยาธิจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ

แปะแผ่นกอเอี๊ยะสิวหายไม่จริง เป็นเพียงแต่การช่วยบรรเทาอาการอักเสบในบริเวณที่แปะแผ่นกอเอี๊ยะชนิดแก้อักเสบเท่านั้น ถ้าต้องการให้สิวหายสนิท ควรดูที่ต้นตอของปัญหาว่าสาเหตุเกิดจากอะไรและรักษาให้ถูกจุด ควรศึกษาสรรพคุณของตัวยาที่เราจะใช้ให้อย่างถี่ถ้วน ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อผิวหนังได้

การโรยมะนาวรอบบ้านรอบเต็นท์ก็ไม่ช่วยให้งูไม่กล้าเข้าบ้าน และที่สำคัญมะนาวไม่สามารถป้องกันพิษงูได้ ถ้าถูกงูกัดให้รีบไปหาหมอจะชัวร์ที่สุด

ความวุ่นวายสาธารณะปะทุขึ้นในเซี่ยงไฮ้เมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อจำกัดที่เข้มงวดของระบอบคอมมิวนิสต์จีนในการกำจัดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้ประชาชนขาดแคลนอาหาร ในขณะที่ผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้น เมืองใหญ่และศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของจีนถูกล็อกดาวน์มา 22 วันแล้ว แม้ว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะเตือนว่าไวรัส Omicron Covid แพร่ระบาดอย่างมากจนไม่สามารถกำจัดได้โดยการล็อกดาวน์

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ รายงานว่า ทุกคนมีสิทธิเป็นมะเร็งได้ เกิดจากความผิดปกติที่สะสมในร่างกาย ไม่ได้เกิดตามธรรมชาติ โดยการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสมทำให้ผู้ป่วยบางคนอาการดีขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคน เพราะบางรายไม่สามารถรับการรักษาวิธีนี้ได้ การหายใจ กินของมีประโยชน์ ไม่เครียด แม้จะไม่ช่วยรักษามะเร็งโดยตรง แต่หากผู้ป่วยอยากปฏิบัติตามก็สามารถทำได้ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ดร.ชนิสา อรรถจินดา พบว่าเป็นสถาปนิกและครูสอนสมาธิ ไม่ได้เป็นผู้เขียน แต่แปลจากบทความต่างประเทศ

มอเตอร์เวย์ฟรี M6 บางปะอิน-นครราชสีมา ขาออก ช่วง กม.ที่ 65 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง นครราชสีมา เพื่อระบายการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่มีประชาชนเดินทาง ถนนมิตรภาพ ไปท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาในจังหวัดทางภาคอีสาน เป็นจำนวนมาก​​

สารพอลิฟีนอลส์ในชาเขียวช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียถึง 30% และลดการผลิตของสารประกอบที่เป็นสาเหตุทำให้ลมหายใจเหม็นบูด ชาเขียวมีสรรพคุณช่วยป้องกันฟันผุ โดยช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ชื่อ Streptococcus mutans ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดหินปูนที่มาเกาะฟัน คนส่วนใหญ่จะดื่มชาเขียวหลังอาหาร เพื่อช่วยให้ลมหายใจและกลิ่นปากสะอาดสดชื่น แต่ชาเขียวในท้องตลาดมักมีสารให้ความหวาน สารปรุงแต่ง ผสมอยู่ น่าจะทำให้ฟันผุง่ายขึ้นมากกว่า

ตามข้อมูลทางการแพทย์ ไม่เคยแนะนำให้จุ่มน้องในน้ำเกลือเพื่อลดตกขาวเพราะอาจเสี่ยงอันตรายได้ ทั้งในเรื่องของความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้นั่งแช่ และหากมีการเข้าใจผิดนำน้ำเกลือเข้าล้างภายในช่องคลอดก็จะทำให้เสียสมดุล อาจเกิดการติดเชื้อต่างๆ ได้

ปัจจุบัน ความเสี่ยงจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดนั้นเกิดขึ้นได้น้อยมาก เพราะการใช้ผ้าอนามัยชนิดนี้ถือว่าค่อนข้างปลอดภัย แต่หากรู้วิธีใช้ที่ถูกต้องก็จะยิ่งช่วยให้เกิดความอุ่นใจและห่างไกลจากการติดเชื้อ

งานวิจัยมากมาย ระบุว่า ไม่มียาลดการเมาใดๆ หรือยาสูตรสำเร็จแก้อาการเมาค้างได้ผล 100% ดีที่สุดคือดื่มแต่น้อย และดื่มอย่างมีสติ

กิจกรรมที่ควรงด เล่นสาดน้ำ ประแป้ง ปาร์ตี้โฟมพื้นที่จัดงานและพื้นที่สาธารณะ งดจำหน่าย และงดดื่มแอลกอฮอล์สถานที่สาธารณะ ต้องปฏิบัติตาม COVID Free Setting มาตรการแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) และมาตรการ DMHTA อย่างเคร่งครัด

เนื้อหาของข้อความนี้มักจะถูกเปลี่ยนชื่อประเทศไปเป็นชื่ออื่น ๆ จึงทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นความเท็จ

.

ไม่เป็นความจริงและไม่สามารถแก้อาการเมาค้างได้

.

สรุปแล้วการแช่น้ำเกลือนั้นไม่ได้ช่วยลดอาการตกขาวแต่อย่างใด

.

เป็นความเชื่อส่วนบุคคล และในข้อความมีเบอร์โทรศัพท์ให้โทรสอบถามได้หากสนใจ สำหรับเลขที่บัญชีดังกล่าวมีปรากฏในผลการค้นกูเกิลด้วย