ข่าวจริงหรือข่าวลวง

ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเพจดังกล่าวในภาพกำลังพูดถึงเรื่องอะไร

1. เป็นข้อมูลที่ขัดแย้งกับสื่อกระแสหลักโดยสิ้นเชิง ที่มีหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์ 2. website ที่คุณ Ad.tar นำมานั้นเป็นแหล่งข่าวที่เลือกข้างขวาจัดอย่างชัดเจน จึงอาจมีความจริงเพียงด้านเดียวหรือบางส่วน บทความดังกล่าวอาจมีเจตนาเพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของไฟเซอร์ และอาจเป็นไปได้อีกว่าการนำเสนอนี้อาจเป็นไปเพื่อสนับสนุนการฉีดซิโนแวคและแอสตร้าฯของภาครัฐ 3. อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยว่า coronavirus คงจะไม่ได้สูญพันธุ์ไปโดยสิ้นเชิง เช่นเดียวกับไวรัสอื่น ๆ และการฉีดซ้ำเพื่อการเพิ่มหรือการรักษาระดับภูมิคุ้มกันก็จะยังสามารถทำได้อยู่ ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องเป็นยี่ห้อไฟเซอร์หรอก วัคซีนยี่ห้อไหนก็คงจะไม่ต่างกันมากนักในประเด็นนี้ อันนี้ฝ่ายขวาพูดถูก

ข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้คือน่าจะด้อยกว่าวัคซีนอื่นจริง และก็ดันเป็นวัคซีนหลักที่ประเทศเรามีอยู่เสียด้วย

ปลาไม่ได้ติดโควิด แต่คาดว่าเชื้ออาจจะปนเปื้อนได้ในขั้นตอนต่าง ๆ เช่นการแปรรูป(เช่นหั่น แล่) การบรรจุ หรือการขนส่ง ฯลฯ โดยมนุษย์(พนักงาน)

จริงทั้งหมด แต่ไม่ครบถ้วนคือ คิดค่าธรรมเนียม รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเพียง 1% และค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของมูลค่ารางวัล สำหรับสลากกินแบ่งรัฐบาล คิดค่าธรรมเนียม 1% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 1% ของมูลค่ารางวัล ในส่วนของสลากการกุศล มีข้อจำกัด ไม่สามารถขึ้นเงินในงวดก่อนหน้าต้องเป็นงวดล่าสุดเท่านึ้น

เป็นเรื่องที่แชร์กันมานานแล้ว มีเนื้อหาใส่ร้ายระบอบซีพีด้วยเรื่องที่เป็นเท็จ และยังไม่เคยได้ยินว่าเชื้อHIVจะสามารถติดไปยังสุกรหรือไก่ได้แต่อย่างใด

การที่ไม่มีวัคซีนแบรนด์อื่น อาจจะเกิดจากการกระทำของบางบุคคลที่มีอำนาจกำกับดูแล หรืออาจเป็นเพราะแบรนด์อื่นไม่สามารถส่งมอบมาได้ในขณะนี้ แต่ลำพังตัววัคซีนเอง(หรือบริษัทที่ถูกอ้างถึงนั้น)เพียงฝ่ายเดียวนั้นคงจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

น่าจะเป็นภาพจากปี 2558 นกโดนพายุลูกเห็บทางตอนเหนือของอินเดีย

คำแนะนำ ผู้ที่ทานยาคุมติดต่อกันเป็นเวลานาน ถ้ายาที่ทานเป็นยาที่ไม่ได้จำเป็นหรือถ้าหยุดทานแล้วไม่ได้มีอันตรายต่อชีวิต แนะนำควรหยุดยาก่อนเป็นเวลาเท่าไหร่ก็แจ้งไป ก่อนรับวัคซีน”

ททท.ประกาศเริ่มแผน Phuket Sandbox 1 ก.ค.นี้ หลังศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (CESA) เห็นชอบแผนเปิดภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และต้องอยู่ในภูเก็ต 7 วัน ก่อนเดินทางออกนอกพื้นที่ . เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แจ้งความคืบหน้าการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตามแผน “Phuket Sandbox” ว่า เมื่อวันที่26 มีนาคม2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ.โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบข้อเสนอของ ททท.ในหลักการให้เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบแล้ว และมีผลตรวจเป็นลบ เดินทางเข้าประเทศไทยในพื้นที่นำร่องจังหวัดภูเก็ต โดยไม่มีการกักตัว และอยู่ในภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน ก่อนที่จะเดินทางออกนอกพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม2564 โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ

จากกรณีประชาชนได้รับ SMS ทางโทรศัพท์มือถือ ที่มีข้อความว่าได้รับสินเชื่อเพื่อการลงทุนจาก ธปท. โดยหากสนใจรับให้แอดไลน์เพื่อรับบริการนั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจาก ธปท. ไม่ได้มีการทำธุรกรรมทางการเงินโดยตรงกับประชาชนทั่วไป วันนี้ (28 พ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ธปท. ส่ง SMS แจ้งสินเชื่อ หากสนใจให้แอดไลน์เพื่อรับบริการ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีประชาชนได้รับ SMS ทางโทรศัพท์มือถือ ที่มีข้อความว่าได้รับสินเชื่อเพื่อการลงทุนจาก ธปท. โดยหากสนใจรับให้แอดไลน์เพื่อรับบริการนั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจาก ธปท. ไม่ได้มีการทำธุรกรรมทางการเงินโดยตรงกับประชาชนทั่วไป โดยหากได้รับ SMS หรืออีเมลจากธนาคารที่แนบลิงก์ เพื่อให้กดทำรายการ ต้องตรวจสอบก่อนกดลิงก์ทำรายการให้ดี หรือโทรสอบถามธนาคารนั้น ๆ ก่อนทำธุรกรรม เพื่อความปลอดภัย ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.bot.or.th หรือโทร. 02-283-5353

ตามที่ได้มีข่าวปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง ธปท. ปล่อยคลิปเสียง แจงแหล่งที่มาของเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่าข้อมูลที่ปรากฏดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ จากที่มีการแชร์คลิปเสียง โดยระบุว่าธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาแจงรายละเอียดที่มาของเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้ปล่อยคลิปเสียง และไม่เคยมีการกล่าวถึงหรือให้ข้อมูลเรื่องของแหล่งที่มาของเงิน 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อใช้ในการฟื้นฟู และดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจ แต่อย่างใด

มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ถูกตรวจพบปนเปื้อนในอุจจาระของผู้ป่วยที่ติดโรคโควิด 19 บางคน จึงมีความเสี่ยงในการปนเปื้อนในน้ำเสีย • ไวรัสชนิดนี้เป็นไวรัสที่มีสารพันธุกรรมแบบอาร์เอ็นเอสายเดี่ยว และมีเปลือกหุ้ม (enveloped) ซึ่งมีความคล้ายคลึงมากที่สุดกับไวรัสโคโรนาชนิด SARS-CoV-1 ที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรงซาร์ (severe acute respiratory syndrome: SARS) เนื่องจากไวรัสทั้งสองชนิดนี้มีเปลือกหุ้มที่เป็นไขมันด้านนอก จึงทำให้ถูกทำลายได้ง่ายและไม่คงทนในสิ่งแวดล้อม ตามข้อมูลขององค์การด้านน้ำนานาชาติ (International Water Association) [1] ให้ความเห็นว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 มีความเสี่ยงต่ำในการแพร่กระจายทางน้ำเสียและน้ำประปา เนื่องจากเชื้อไวรัสไม่คงทนในสิ่งแวดล้อม และเชื้อถูกทำลายได้ง่ายด้วยคลอรีนหรือสารฆ่าเชื้อทั่วไปอื่น ๆ • ข้อมูลดังกล่าวตรงกับเอกสารคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและองค์การยูนิเซฟ [2] ที่ระบุว่า ยังไม่มีรายงานว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ติดต่อผ่านทางอุจจาระ และจากการศึกษาการคงอยู่ของไวรัสโรคซาร์ซึ่งใช้เป็นโมเดลในการจำลองการปนเปื้อนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 พบว่าเชื้อไวรัสมีชีวิตอยู่ในน้ำประปาที่ปราศจากคลอรีน และน้ำเสียของโรงพยาบาลได้เพียง 2 วันเท่านั้น อย่างไรก็ตามการศึกษานี้ทดสอบที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิของน้ำในประเทศไทยอาจสูงถึง 33 องศาเซลเซียส [3] ทำให้ไวรัสถูกทำลายได้อย่างรวดเร็วมากกว่านั้น • ถึงแม้ข้อมูลของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังมีค่อนข้างจำกัด แต่จากการศึกษาของโรคซาร์ในฮ่องกงพบว่าเชื้อไวรัสโรคซาร์สามารถแพร่จากระบบท่อระบายน้ำเสียในอาคาร โดยฟุ้งกระจายจากห้องด้านล่างผ่านระบบท่อน้ำเสียไปยังห้องด้านบน [4] แต่โอกาสที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จะแพร่กระจายในลักษณะดังกล่าวได้หรือไม่ ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป • ยังไม่มีข้อมูลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในน้ำใต้ดิน รวมถึงน้ำผิวดิน และผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำจากหลายประเทศได้ลงความเห็นว่ามีความเป็นไปได้น้อยมากในการติดต่อของไวรัสผ่านทางน้ำไปสู่ห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ เช่น การปนเปื้อนจากการนำน้ำที่มีโอกาสปนเปื้อน ไปรดพืชผักผลไม้ที่นำไปทำเป็นอาหาร

ตามที่มีการกล่าวถึงข้อมูลในประเด็นเรื่อง หากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ครบ 2 เข็ม ไม่มีสิทธิ์สอบใบประกอบวิชาชีพครู ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลว่า หากนักศึกษาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ครบ 2 เข็ม จะส่งผลให้ไม่มีสิทธิ์สอบใบประกอบวิชาชีพครูนั้น ทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ชี้แจงว่า ในการกำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบฯ ไม่มีข้อใดระบุว่าจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครบ 2 เข็ม

เตือน อย่าหลงเชื่อ ‼️ เว็บ “ไทยร่วมใจ” ปลอม ✅✅ ของจริง ต้อง www.ไทยร่วมใจ .com เท่านั้น 🔴 จากกรณีการเผยแพร่ลิงก์เว็บไซต์โครงการไทยร่วมใจ เพื่อการลงทะเบียนแสดงความประสงค์เข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชนอายุ 18-59 ปี ในพื้นที่ กทม. นั้น ❌ ไม่จริง 📣 สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานครได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า เว็บไซต์ที่ลงท้ายด้วย .co.in เป็นลิงก์ปลอมจากต่างประเทศ ❌❌ ไม่ใช่เว็บไซต์ของ “ไทยร่วมใจ

เตือน อย่าหลงเชื่อ ‼️ เว็บ “ไทยร่วมใจ” ปลอม ✅✅ ของจริง ต้อง www.ไทยร่วมใจ .com เท่านั้น 🔴 จากกรณีการเผยแพร่ลิงก์เว็บไซต์โครงการไทยร่วมใจ เพื่อการลงทะเบียนแสดงความประสงค์เข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชนอายุ 18-59 ปี ในพื้นที่ กทม. นั้น ❌ ไม่จริง 📣 สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานครได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า เว็บไซต์ที่ลงท้ายด้วย .co.in เป็นลิงก์ปลอมจากต่างประเทศ ❌❌ ไม่ใช่เว็บไซต์ของ “ไทยร่วมใจ

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 27 พฤษภาคม นายกรกฤษณ์ กิติสิน ในฐานะเป็นผู้ประสานงานจาก TELLUS AGROTECH PTE. LTD. เป็นผู้ดำเนินการติดต่อและเสนอขายวัคซีนต้านโควิด-19 ยี่ห้อซิโนฟาร์ม ให้สัมภาณ์ มติชนออนไลน์ ถึงกรณีเอกสารที่ส่งถึงราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เผยแพร่ในในโซเชียลว่า ยอมรับเอกสารที่มีการเผยแพร่เป็นเอกสารจริง ที่ส่งถึง ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ได้ส่งเมื่อเช้าของวันนี้ (27 พ.ค.) “เหตุผลที่ได้ส่งเอกสารเนื่องจาก 1 เดือนที่ผ่านมาแม้ว่าบริษัทจะพยายามดำเนินการติดต่อกับ พล.อ.ประยุทธ์และนายอนุทินแล้ว แต่บริษัทก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงหรือเข้าพบเพื่อนำส่งเอกสารพร้อมนำเสนอวัคชีนยี่ห้อซิโนฟาร์ม” นายกรกฤษณ์กล่าว

สธ. ยันโควิดสายพันธุ์ C.36.3 ไม่ใช่สายพันธุ์ไทย เพราะตรวจพบครั้งแรกในคนสัญชาติอียิปต์ที่เดินทางเข้ามาและกักตัวอยู่ใน ASQ หลังรักษาหาย ตรวจไม่พบเชื้อ เดินทางกลับอียิปต์ทันที ตามหลักการไม่ควรเรียก สายพันธุ์ไทย เพราะเป็นผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ

ซีพีขอแจ้งให้ทราบว่า ข้อมูลดังกล่าว ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้ การจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค เป็นแบบรัฐบาล ต่อรัฐบาล (G2G) เท่านั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ CP ทั้งทางตรง และทางอ้อม CP ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น บริษัทซิโนแวค 15% ตามที่เป็นข่าว – ข้อเท็จจริง ผู้ลงทุน คือ ซิโน ไบโอฟาร์มาซูติคัล (Sino Biopharmaceutical) ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของจีน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยซีพีเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายย่อยในบริษัทนี้เท่านั้น – ข้อเท็จจริง ผู้ขายหุ้น คือ ซิโนแวค ไลฟ์ ไซแอนเซส (Sinovac Life Sciences) เป็นบริษัทลูกของบริษัท ซิโนแวค ต้องการระดมทุน เพื่อต้องการขยายกำลังการผลิตวัคซีนซิโนแวค – ข้อเท็จจริง ซิโน ไบโอฟาร์มาซูติคัล เข้าไปถือหุ้นใน ซิโนแวค ไลฟ์ ไซแอนเซส จำนวน 515 ล้านดอลลาร์ หรือ 15.03% ถือเป็นการดำเนินธุรกิจของบริษัทดังกล่าวเอง โดยซีพี ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้มีหุ้นใด ๆ และไม่ได้มีสิทธิการเป็นเจ้าของ ในบริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ ไซแอนเซส ใด ๆ ทั้งสิ้น

เนื้อหาดังกล่าวเป็นการแสดงความคิดเห็น จาก สื่อออนไลน์ซีบีเอสนิวส์และสื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติให้ขึ้นทะเบียนวัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) เป็นที่เรียบร้อย ในวันเดียวกันกับที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ตั้งโต๊ะแถลง "แนวทางการจัดสรรและนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ทางเลือก ซิโนฟาร์ม" ซึ่งจะนำเข้ามาในไทย 1ล้านโดส ในเดือน มิ.ย.

นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์ชี้แจงว่า เห็นหนังสือนี้ร่อนไปทั่วบนระบบออนไลน์โดยที่ คนที่หนังสือนี้ส่งถึง ยังไม่ได้เห็นหนังสือตัวเป็นๆเลย อย่างไรก็ดีถึงจะมาพบก็คิดว่าคงไม่ได้พบเหมือนกัน เพราะจากที่พยายามช่วยหาวัคซีน”ตัวเลือก”มาเพิ่มเติมระยะหนึ่งนั้น มีบริษัทหรือกลุ่มคนมากมายที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของวัคซีนโน้นวัคซีนนี้ มากกว่า10กลุ่ม "ขอเรียนให้คนที่เห็นหนังสือนี้เข้าใจกันตามนี้ 1)กลุ่มหรือบริษัทแบบนี้ที่ว่าเป็นตัวแทนนั้นเป็นไปได้ยาก 2)การเป็นตัวแทนใครในการนำยาหรือวัคซีนจริงต้องได้รับ dossier(รายละเอียดรายการประกอบยาและการผลิต)จากบริษัทเจ้าของเพื่อมาใช้ขอใบอนุญาตจาก อย. 3)บริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิดขณะนี้ จะติดต่อกับรัฐบาลหรือตัวแทนรัฐบาลก่อนเท่านั้น เป็นเหมือนกันทุกบริษัททั่วโลกเพราะเป็นการใช้ในภาวะฉุกเฉิน จะไม่ติดต่อกับเอกชนเป็นรายๆหรือติดต่อคุยด้วยก็จะไม่ให้ dossier เพื่อยื่นขอใบอนุญาต 4)รัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐบาลเมื่อติดต่อแล้วจึงอาจมอบหมายให้บริษัทที่ทำโลจิสติกเรื่องการขนส่งและเก็บวัคซีนที่มีมาตรฐานเฉพาะเป็นผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนและทำการขนส่งแทนหน่วยงานรัฐได้ 5)บริษัทหรือกลุ่มตัวแทนใดที่ว่าเป็นตัวแทนหรือมีวัคซีนเป็นล้านๆโดสโดยไม่มี dossier ที่ต้นทางจัดให้ ไม่ใช่ตัวแทนที่สมบูรณ์ครับ…..คงไม่ได้พบผมเช่นกัน

ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่รับประทานยาบางชนิด 1)กลุ่มยาไมเกรน cafergot / avamigran /tofago แนะนำงดยา 5 วันก่อนฉีดวัคซีน tripan เช่น relpax แนะนำงดยา 24 ชั่วโมงก่อนฉีดวัคซีน 2)กลุ่มยาต้านอาการซึมเศร้า SSRI เช่น fluoxetin, sertralin, escitalopram SNRI เช่น venlafaxine, duloxetine Tricyclic antidepressant เช่น amitriptyline, nortriptyline, imipramine แนะนำงดยา 24 ชั่วโมงก่อนฉีดวัคซีน 3)กลุ่มยาลดน้ำมูก เช่น pseudoephedrine แนะนำงดยา 24 ชั่วโมงก่อนฉีดวัคซัน 4)กลุ่มยาอื่นๆ แนะนำงดยา 3-5 วันก่อนฉีดวัคซีน

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ได้รายงานว่า องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมของวัคซีนซิโนแวค ไบโอเทค เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้ฉีดวัคซีน โควิดของจีนชนิดนี้ ภายใต้แรงกดดันจากนานาชาติ ที่จะช่วยกระจายวัคซีนไปยังประเทศยากจนได้มากขึ้น ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา WHO ได้ขอรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งเรื่องความปลอดภัยของการฉีดวัคซีน และขอข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผลิตของซิโนแวค เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ WHO ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของ WHO คาดการณ์การพิจารณาตัดสินใจดังกล่าว จะเลื่อนออกไปถึงเดือนมิถุนายน

ข้อความนี้สั้นเกินไป อาจจะเกิดจากผู้ใช้งานพิมพ์ข้อความเข้ามาเอง