ข่าวจริงหรือข่าวลวง

วันนี้( 18 เม.ย.63) สำนักข่าวเอสทีเอที (STAT NEWS) รายงานหลังได้รับคลิปวิดีโอการสนทนาเกี่ยวกับผลการทดสอบการใช้ยาของแพทย์ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้รับยาทดลองที่เรียกว่า “เรมเดซิเวียร์” (Remdesivir) ยาต้านไวรัส อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วและส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้เพียงไม่กี่วัน

กระทรวงพาณิชย์จับมือผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ ลดราคาสินค้าจำเป็น 72 รายการ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิ.ย. เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ ช่วงโควิด-19

.17 เม.ย.-อย.สั่งระงับใช้ยา Ranitidine ยารักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ส่วนต้น ในรูปแบบยาเม็ดสำหรับรับประทานทุกทะเบียนตำรับยาและยาฉีดทั้งหมด ยกเว้นบางทะเบียน เนื่องจากพบสาร NDMA ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งเกินเกณฑ์ที่ยอมรับได้ แต่ไม่ต้องวิตกว่าการได้รับยา Ranitidine จะก่อให้เกิดมะเร็ง เพราะเวลาในการใช้ยาเพื่อรักษาเป็นเพียงระยะสั้น

เว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ปัจจุบันแพทย์ในสหรัฐฯและในบางประเทศ เริ่มหันมาใช้วิธีจัดท่าให้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 นอนคว่ำหน้ากันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนไข้ที่เกิดกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่เข้าสู่ปอดให้สูงขึ้น

ไวรัสโคโรนา : เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับเซ็กส์ระหว่างโควิด-19 ระบาด อ้างอิง: bbc.com

เป็นไอเดียที่ไม่ปลอดภัยเลย

นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า "การสูบบุหรี่ธรรมดาหรือแม้แต่บุหรี่ไฟฟ้า เมื่อมีการพ่นควันหรือละอองไอของบุหรี่ออกมาเท่ากับเป็นการแพร่เชื้อใส่กัน เพระาในควันและละอองมีสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย เสมหะ และแบคทีเรีย ปนอยู่ หากผู้สูบบุหรี่คนดังกล่าวเป็นผู้ที่ติดเชื้อ COVID 19 ก็จะสามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้"

http://www.ashthailand.or.th/smartnews/post/detail/467/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%A2%21-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%94-19-%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89

ไวรัสโคโรนาสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลานาน 2 ชั่วโมง - 9 วัน เพื่อป้องกัน การแพร่กระจายเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ในสภาพแวดล้อม จึงควรใช้สารที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อได้ใน ระยะเวลาสั้น องค์การอนามัยโลกให้คำแนะนำสาร 3 ชนิดที่ทำลายเชื้อไวรัสได้ภายในระยะเวลา 1 นาที ได้แก่ - สารประกอบโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% (เช่น น้ำยาฟอกขาวความเข้มข้น 1000 ppm) - ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์ 0.5% (5000 ppm) - และ แอลกอฮอล์ 62%-70% กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

วิธีทดสอบเจลแอลกอฮอล์ด้วยวิธีง่ายๆ จาก ม.มหิดล โดยใช้ด่างทับทิม 1 เกล็ด ผสมกับน้ำส้มสายชูครึ่งช้อนชา ให้ออกสีชมพูบานเย็น ไม่ต้องถึงกับม่วงเข้ม แล้วนำไปผสมกับแอลกอฮอล์ที่สงสัย จะเป็นเจล หรือสารละลายก็ได้ ในอัตราส่วน 1 : 3 ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น เอทิลแอลกอฮอล์ หรือ ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ จะเปลี่ยนสีภายใน 5 นาที แต่ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ที่เป็นอันตรายหรือ เมทิลแอลกอฮอล์ สีจะไม่เปลี่ยนแม้ทิ้งไว้นาน 15 นาที

แนะนำบทความเกี่ยวกับน้ำยาฆ่าเชื้อกับโควิด 10 โคโรน่าไวรัส ม.มหิดล

นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก แนะนำผักผลไม้สมุนไพร 3 กลุ่ม เพื่อเสริมภูมิต้านทานของร่างกายช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ ได้แก่ - กลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น พลูคาวหรือผักคาวตอง, เห็ดต่างๆ, ตรีผลา(สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม) - กลุ่มที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ดอกขี้เหล็ก, ยอดมะยม, ใบเหลียง, ยอดสะเดา, มะระขี้นก, ฟักข้าว, ผักเชียงดา, คะน้า, มะรุม, ผักแพว มะขามป้อม, ลูกหม่อน และผักผลไม้หลากสี - กลุ่มที่มีสารสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 เช่น พลูคาวหรือผักคาวตอง กะเพรา หอมแดง หอมหัวใหญ่ มะรุม ใบหม่อน แอปเปิล เปลือกผลของพืชตระกูลส้ม (ส้ม มะนาว มะกรูด ส้มซ่า) ต้มยำ เมนูอาหารไทยเมนูถัดมาคือ "ต้มยำ" มีส่วนประกอบหลักคือ หอมใหญ่ หอมแดง ซึ่งมีสารสำคัญอย่าง สารเคอร์ซีทิน (quercetin) ที่มีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ อีกทั้งยังมีเห็ดที่มีสารเบต้ากลูแคน ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่ป่วยง่าย และมะนาวที่ใส่ในต้มยำมีวิตามินซีที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ต้มโคล้ง ส่วนเมนูอาหารไทยอีกจานที่มีรสชาติแซ่บจัดจ้านไม่แพ้กัน นั่นคือ "ต้มโคล้ง" (รวมถึงเมนูแกงเลียงและยำชนิดต่างๆ) มีส่วนผสมของสมุนไพรจำพวกหอมใหญ่ หอมแดง เห็ดชนิดต่างๆ และมะนาว ซึ่งมีสารสำคัญ เช่น สารเคอร์ซีทิน เบต้ากลูแคน และวิตามินซี ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่ป่วยง่าย มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก แนะนำผักผลไม้สมุนไพร 3 กลุ่ม เพื่อเสริมภูมิต้านทานของร่างกายช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ ได้แก่ - กลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น พลูคาวหรือผักคาวตอง, เห็ดต่างๆ, ตรีผลา(สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม) - กลุ่มที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ดอกขี้เหล็ก, ยอดมะยม, ใบเหลียง, ยอดสะเดา, มะระขี้นก, ฟักข้าว, ผักเชียงดา, คะน้า, มะรุม, ผักแพว มะขามป้อม, ลูกหม่อน และผักผลไม้หลากสี - กลุ่มที่มีสารสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 เช่น พลูคาวหรือผักคาวตอง กะเพรา หอมแดง หอมหัวใหญ่ มะรุม ใบหม่อน แอปเปิล เปลือกผลของพืชตระกูลส้ม (ส้ม มะนาว มะกรูด ส้มซ่า) ต้มยำ เมนูอาหารไทยเมนูถัดมาคือ "ต้มยำ" มีส่วนประกอบหลักคือ หอมใหญ่ หอมแดง ซึ่งมีสารสำคัญอย่าง สารเคอร์ซีทิน (quercetin) ที่มีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ อีกทั้งยังมีเห็ดที่มีสารเบต้ากลูแคน ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่ป่วยง่าย และมะนาวที่ใส่ในต้มยำมีวิตามินซีที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ต้มโคล้ง ส่วนเมนูอาหารไทยอีกจานที่มีรสชาติแซ่บจัดจ้านไม่แพ้กัน นั่นคือ "ต้มโคล้ง" (รวมถึงเมนูแกงเลียงและยำชนิดต่างๆ) มีส่วนผสมของสมุนไพรจำพวกหอมใหญ่ หอมแดง เห็ดชนิดต่างๆ และมะนาว ซึ่งมีสารสำคัญ เช่น สารเคอร์ซีทิน เบต้ากลูแคน และวิตามินซี ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่ป่วยง่าย มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำการรับประทานอาหารที่มีสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันและมีศักยภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสเพื่อเป็นเกราะป้องกันตนเองลดโอกาสติดเชื้อไวรัสได้หรือหากติดเชื้อก็อาจช่วยลดความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงได้ ผัก ผลไม้ สมุนไพรช่วยเสริมการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่ ผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ดอกขี้เหล็ก ยอดมะยมใบเหลือง ยอดสะเดา มะระขี้นก ฟักข้าว ผักเชียงดา คะน้า มะรุม ผักแพ้ว มะขามป้อม หรือผักผลไม้ที่มีสารกลุ่ม แอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสาร เฟลโวนอยด์ ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ลูกหม่อน รวมถึงผักผลไม้หลากสี ผักผลไม้และสมุนไพรของไทยที่มีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ช่วยลดโอกาสติดเชื้อ ได้แก่ ผัก ผลไม้ ที่มีสารเคอร์ซิตินสูงได้แก่ พลูคาวหรือผักคาวตอง หอมแดง หอมหัวใหญ่ มะรุม ใบหม่อน แอปเปิ้ล ผักผลไม้ที่มีสารเฮสเพอริดิน และรูติน สูง ได้แก่ ผิวและเยื่อหุ้มด้านในเปลือกผลของพืชตระกูลส้ม กระเพรา มีโอเรียนทิน เป็นสารสำคัญที่มีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์เปลือกส้มและใบหม่อน เป็นสมุนไพร 2 ในจำนวน 6 ชนิดของตำรับยาจีนที่ใช้ชงดื่มแทนน้ำชาป้องกันปอดบวมอักเสบ จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามแนวทางของมณฑลหูเป่ย

นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำการรับประทานอาหารที่มีสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันและมีศักยภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสเพื่อเป็นเกราะป้องกันตนเองลดโอกาสติดเชื้อไวรัสได้หรือหากติดเชื้อก็อาจช่วยลดความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงได้ ผัก ผลไม้ สมุนไพรช่วยเสริมการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่ ผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ดอกขี้เหล็ก ยอดมะยมใบเหลือง ยอดสะเดา มะระขี้นก ฟักข้าว ผักเชียงดา คะน้า มะรุม ผักแพ้ว มะขามป้อม หรือผักผลไม้ที่มีสารกลุ่ม แอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสาร เฟลโวนอยด์ ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ลูกหม่อน รวมถึงผักผลไม้หลากสี ผักผลไม้และสมุนไพรของไทยที่มีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ช่วยลดโอกาสติดเชื้อ ได้แก่ ผัก ผลไม้ ที่มีสารเคอร์ซิตินสูงได้แก่ พลูคาวหรือผักคาวตอง หอมแดง หอมหัวใหญ่ มะรุม ใบหม่อน แอปเปิ้ล ผักผลไม้ที่มีสารเฮสเพอริดิน และรูติน สูง ได้แก่ ผิวและเยื่อหุ้มด้านในเปลือกผลของพืชตระกูลส้ม กระเพรา มีโอเรียนทิน เป็นสารสำคัญที่มีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์เปลือกส้มและใบหม่อน เป็นสมุนไพร 2 ในจำนวน 6 ชนิดของตำรับยาจีนที่ใช้ชงดื่มแทนน้ำชาป้องกันปอดบวมอักเสบ จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามแนวทางของมณฑลหูเป่ย

ไม่จริงนะครับ!! ไม่มีงานวิจัยไหนที่ออกมาบอกว่า มีความแตกต่างกันในการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์นี้ ระหว่างกลุ่มคนที่เป็นคนกินมังสวิรัติกับคนที่กินเนื้อสัตว์

ข้อมูลดังกล่าว เป็นความจริงตามระบบ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ข้อมูลดังกล่าว เป็นความจริงตามระบบ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ข้อมูลดังกล่าว เป็นความจริงตามระบบ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ข้อมูลดังกล่าว เป็นความจริงตามระบบ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ข้อมูลดังกล่าว เป็นความจริงตามระบบ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ข้อมูลดังกล่าว เป็นความจริงตามระบบ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ข้อมูลดังกล่าว เป็นความจริงตามระบบ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ข้อมูลดังกล่าว เป็นความจริงตามระบบ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ศูนย์ความปลอดภัยด้านอาหาร (Centre for Food Safety - CFS) กรมการอาหารและสุขอนามัยสิ่งแวดล้อมของฮ่องกง (Food and Environmental Hygiene Department -FEHD) เรียกร้องให้ประชาชนอย่าดื่มน้ำโซดาบรรจุขวดยี่ห้อหนึ่ง ที่นำเข้าจากประเทศไทย ซึ่งต้องสงสัยว่าปนเปื้อนสาร “โบรเมต”สารก่อกลายพันธุ์และอาจก่อมะเร็งในคน ร้านค้าควรจะหยุดใช้ หรือขายผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาสร้างความวิตกกังวลทันที หากร้านค้าใดครอบครองผลิตภัณฑ์นี้ โฆษกของซีเอฟเอส แถลงว่า ซีเอฟเอส ซึ่งใช้ระบบตรวจสอบความปลอดภัยในอาหาร ได้รับแจ้งเตือนจากรัฐบาลมาเก๊า แสดงความกังวลว่า น้ำโซดาบรรจุขวดดังกล่าวข้างต้น นำเข้ามาจากฮ่องกง ปนเปื้อนสาร “โบรเมต” ในระดับที่เกินมาตรฐานความปลอดภัยของมาเก๊า และต้องหยุดขายสินค้าดังกล่าวทันที “โบรเมต” เป็นสารก่อกลายพันธุ์และอาจก่อมะเร็งในคน เนื่องจากน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติที่จะนำมาผลิตเป็นน้ำดื่มจะมีสารชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “โบรไมด์” ซึ่งการใช้โอโซนฆ่าเชื้อในน้ำดื่มอาจไปทำปฏิกิริยากับสารโบรไมด์ ที่มีอยู่จนกลายเป็นโบรเมต โดยองค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้มีโบรเมตในน้ำดื่มได้ไม่เกิน 10 ไมโครกรัมต่อลิตร แต่ประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดใช้ค่ามาตรฐานดังกล่า