รายการความเห็น
12572 ความเห็น
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
หลากคนมักนำอาหารที่กินไม่หมดเก็บไว้กินมื้อต่อไป บ้างก็นำไปแช่ตู้เย็น บ้างก็นำฝาชีครอบแล้วนำมาอุ่นร้อนก่อนกินอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็มีคนในโลกออนไลน์แชร์ข้อมูลว่า การที่กินอาหารอุ่นซ้ำบ่อยๆ มากว่า 1 ครั้ง จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เสี่ยงต่อโรคอาหารเป็นพิษ หากร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งเลยทีเดียว คุณญาณี พุ่มเจริญ นักกำหนดโภชนาการ โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน กล่าวว่า เรื่องการที่กินอาหารอุ่นซ้ำ เสี่ยงต่อโรคอาหารเป็นพิษและโรคมะเร็ง ที่แชร์กันนั้น ไม่เป็นความจริง อาหารที่อุ่นซ้ำไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่สิ่งที่ควรคำนึงคือการเก็บรักษาอาหารที่ทำสุกแล้วให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ดังนั้นเราสามารถกินอาหารที่อุ่นซ้ำได้ ไม่มีผลต่อร่ายกาย เพียงแต่การอุ่นซ้ำทำให้คุณค่าทางโภชนาการของอาหารลดลง ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญคือวิธีการเก็บรักษา หากจะเก็บอาหารมากินอีกรอบ ควรเก็บเข้าตู้เย็น แช่ไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม แล้วแบ่งอาหารออกมาอุ่นเท่าที่พอรับประทาน ไม่ควรนำมาอุ่นทั้งหมดแล้วเก็บเข้าไปใหม่
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
หลังจากกินอาหารเสร็จก็มักจะดื่มน้ำเย็นๆ เป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือบนโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อมูลว่า หากดื่มน้ำเย็นๆ หลังรับประทานอาหารทันที จะทำให้เกิดเป็นมะเร็งลำไส้ได้ เพราะไขมันจากอาหารที่เพิ่งกินเข้าไป เมื่อโดนความเย็นจะจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้อาหารย่อยยาก นพ.ธรณัส กระต่ายทอง ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย Personalized Rejuvenation Center โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน กล่าวว่า การดื่มน้ำเย็นไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นมะเร็งง่ายขึ้น การเป็นมะเร็งมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และพฤติกรรม ดังนั้นจึงสรุปว่าการดื่มน้ำเย็นไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นมะเร็ง เพราะมนุษย์เป็นสัตว์เลือดอุ่น มีระบบคุมอุณหภูมิร่างกายให้คงที่ ไม่ว่าจะดื่มน้ำร้อน น้ำเย็น น้ำเดือด น้ำแข็ง พอไปถึงกระเพาะ จะมีอุณหภูมิเดียว คือ 37 องศาเซลเซียส และการจะเป็นมะเร็งได้นั้นต้องมีสาเหตุ มีความผิดปกติของร่างกาย จนก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
“ระวัง!! การดื่มน้ำอัดลมกระป๋องจากตู้กดอัตโนมัติสาธารณะ แบบใช้ปากสัมผัสโดยตรงที่กระป๋อง เสี่ยงรับเชื้อ “ฉี่หนู” ไม่รู้ตัว” รองศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้คอนเฟิร์มแล้วว่า ข่าวนี้เป็นข่าว “แชร์มั่ว” ไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอน ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “โรคฉี่หนู” คืออะไร? โรคฉี่หนู หรือ โรคเล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) เป็นโรคที่มีการแพร่ระบาดอยู่ในหลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์นี้เป็นเชื้อที่อยู่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ไม่ใช่แค่เฉพาะหนูเท่านั้น อาจจะเป็นสุนัขหรือวัวก็เป็นไปได้ เพียงแต่พบมากที่สุดในหนูนั่นเอง ซึ่งเชื้อจะมาจากน้ำคัดหลั่ง เพราะฉะนั้นจึงมีโอกาสที่เชื้อดังกล่าวสามารถปนออกมากับฉี่หนูได้ทีนี้กลับมาสู่ข่าวแชร์ที่ว่า “การดื่มน้ำอัดลมกระป๋องจากตู้กดอัตโนมัติ แบบใช้ปากสัมผัสโดยตรงที่กระป๋อง เสี่ยงรับเชื้อฉี่หนู” นั้น ‘รศ.ดร.เจษฎา’ กล่าวว่า ถ้าหากมีหนูมาวิ่งแล้วฉี่ใส่กระป๋องน้ำอัดลมจริง สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือฉี่หนูจะแห้งไป และเชื้อที่มีอยู่ก็จะตายไปด้วยเช่นกัน เพราะเชื้อพวกนี้จะต้องอยู่ในของเหลวเท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอดอยู่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วตู้กดน้ำอัดลมอัตโนมัติมีโอกาสค่อนข้างน้อยมากที่จะมีหนู หรือสัตว์อื่นๆ เข้าไปในเครื่องได้ แต่สิ่งที่ไม่สามารถยืนยันความสะอาดได้คือกระบวนการขนส่ง เพราะฉะนั้นเมื่อเรากดน้ำอัดลมจากตู้กดอัตโนมัติมาแล้ว สิ่งที่ควรทำเพื่อความสบายใจก็คือ ใช้ผ้าสะอาดเช็ดบริเวณที่เปิดด้านบนก่อนดื่มแบบใช้ปากสัมผัสโดยตรงที่กระป๋อง หรือ ใช้หลอดเพื่อความปลอดภัยมากขึ้นนั่นเอง
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
งานเข้าคุณสาวๆ แล้วล่ะสิ เมื่อมีข่าวแชร์ต่อๆ กันมาว่า “การทาลิปบ่อยๆ ทำให้ปากดำ!!”นพ.สุทธิศักดิ์ สุรารักษ์ อายุรแพทย์แผนกผิวหนัง โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ได้คอนเฟิร์มกับนักสืบโซเชียลให้แล้วว่า ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอน โดยคุณหมอได้ให้ความรู้ว่า การใช้ลิปสติก ไม่ว่าจะเป็นลิปกลอส ลิปมัน ลิปทินท์ ลิปแมตต์ ลิปซาติน หรือลิปอะไรก็ตามแต่ ถ้าเราทาโดยที่ไม่มีอาการแพ้ เราก็สามารถทาลิปสติกนั้นได้เรื่อยๆ ถึงแม้จะใช้ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายๆ ปี ก็ไม่ได้ทำให้สีปากของเราคล้ำขึ้นอย่างแน่นอน
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
งดแป้ง แบบเด็ดขาดนั้นทำให้น้ำหนักตัวของเราลดลงอย่างแน่นอน แต่การ งดแป้ง ก็ทำให้ร่างกายของเราทรุดโทรมด้วยเช่นกัน ‘พญ.อยุทธินี สิงหโกวินท์’ อายุรแพทย์โรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าโดยปกติแล้วร่างกายของคนเราต้องการสารอาหารหลัก 5 หมู่ ง่ายๆ เหมือนที่เราเคยเรียนกันตอนเด็กๆ คือ ต้องมี แป้ง ไขมัน เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ฉะนั้นแล้ววิธีที่ควรทำเมื่อต้องการจะลดน้ำหนักก็คือ ทานแป้งให้น้อยลง แต่ไม่ควร งดแป้ง เพราะหากร่างกายเราไม่มีแป้งเลย ร่างกายจะผลาญไขมันที่อยู่ในรูปไตรกลีเซอไรด์ที่ปกติแล้วจะอยู่ตามผิวหนังของเรามาใช้เป็นพลังงาน ผลก็คือจะทำให้เลือดเป็นกรด ทำให้รู้สึกเพลีย ไม่มีแรง เหนื่อยง่าย เพราะฉะนั้นแล้ว “แป้ง” จึงเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญต่อร่างกายของเรา
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
คุณแม่หลายๆ ท่านน่าจะเคยได้ยิน หรือเคยเห็นข่าวแชร์เกี่ยวกับความเชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณว่าการ ดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้อง จะทำให้ลูกเกิดมามีผิวที่ขาวใส โดยเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญ คุณปัฐมาพร หงษ์สุวรรณ นักกำหนดอาหารวิชาชีพ โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้คอนเฟิร์มไว้ในรายการ ชัวร์นะแม่อย่าแชร์มั่ว ว่าเรื่องนี้เป็นข่าว “แชร์มั่ว X” ไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอน!! เพราะเรื่องของสีผิวนั้นเป็นลักษณะทางพันธุกรรม ฉะนั้นการดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้อง จึงไม่ได้ทำให้ลูกเกิดมามีผิวที่ขาวใสแต่อย่างใดจริงๆ แล้วน้ำมะพร้าวก็เปรียบเสมือนน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆ คือ มีโพแทสเซียม (Potassium) และกรดไขมัน ซึ่งตัวกรดไขมันในน้ำมะพร้าวจะทำให้ไขที่ห่อหุ้มเด็กใสขึ้น ฉะนั้นไขที่ห่อหุ้มตัวน้องตอนที่คุณแม่คลอดจึงดูเป็นลักษณะสีใสๆ สะอาดๆ จึงอาจเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า ลูกเกิดมามีผิวขาวใสจากการ ดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้อง ก็เป็นได้ทั้งนี้น้ำมะพร้าวมีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ หากคุณแม่ดื่มในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลทำให้น้ำหนักตัวเกินกว่าเกณฑ์ที่คุณหมอกำหนด โดยเฉพาะคุณแม่ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ จะต้องระมัดระวังเรื่องของปริมาณน้ำตาลเป็นพิเศษ
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
ผมหงอก ทิ้งไว้ไม่ดีนะ เพราะจะทำให้เส้นอื่นหงอกไปด้วย ผมหงอก ยิ่งถอน ยิ่งหงอกมากขึ้นผมหงอก ทำให้เกิดอาการคัน ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความเชื่อผิดๆ เป็นข่าวที่ “แช์มั่ว” ทั้งนั้น ซึ่งก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าสาเหตุการมี ผมหงอก เกิดจากอะไร? ‘นพ.สุทธิศักดิ์ สุรารักษ์’ ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าโดยปกติบริเวณรากขนของเส้นผมจะมีเซลล์ตัวสร้างเม็ดสี ซึ่งเมื่อคนเราอายุมากขึ้น เซลล์ตัวสร้างเม็ดสีนี้ก็จะเสียไปตามธรรมชาติ ลักษณะการเกิด ผมหงอก แบบนี้จึงเรียกว่าเป็นการหงอกแบบธรรมชาตินั่นเอง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธ์ุด้วย ส่วนลักษณะการเกิด ผมหงอกแบบไม่ธรรมชาติ คือ เกิดจากโรคบางโรคที่ทำให้เซลล์ตัวสร้างเม็ดสีเสียไปก่อนที่จะถึงเวลาอันควร จึงอาจทำให้เกิด ผมหงอก ตั้งแต่อายุน้อยๆ ได้ สำหรับวิธีการกำจัด ผมหงอก โดยการถอนออก ที่ใครหลายๆ คนชอบทำนั้น คุณหมอไม่แนะนำอย่างยิ่ง!! เพราะการดึงหรือถอน ผมหงอก แบบที่รากผมหลุดออกมาด้วย บริเวณโคนขนของเส้นผมตรงนั้นก็จะไม่มีการเกิดใหม่ของเส้นผมอีก นั่นหมายความว่าเราจะเสียผมเส้นนั้นไปเลย เพราะฉะนั้นใครที่ชอบถอน ผมหงอก ระวังให้ดี เพราะนอกจากปัญหา ผมหงอก ที่กวนใจแล้ว อาจจะเจอปัญหาศีรษะล้านตามมาด้วยก็เป็นได้
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
“พกมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงเสี่ยงเป็น หมัน” คงทำให้ตกใจกลัวไปตามๆ กัน เพราะนั่นคงจะ เป็นที่ประจำสำหรับเก็บโทรศัพท์มือถือของแทบทุก คนแน่นอน ซึ่งข่าวนี้จะเป็นความจริงหรือไม่? นายแพทย์ประพันธ์ ทรัพย์สนอง แพทย์ประจำสาขา สูตินารีเวชทั่วไป โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ได้ออกมาคำตอบเรื่องนี้ว่าไม่เป็นความแม้แต่อย่างใด เพราะการเป็นหมันแตกต่างจากการมีลูก ยาก คือ เป็นหมันจะไม่สามารถมีลูกได้เลย ซึ่งเกิดขึ้น ได้จากหลายสาเหตุที่ทำให้ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ ใน ฝ่ายชายจะมีปัญหาผลิตอสุจิไม่ถึงตามปริมาณปกติ หรือได้ปริมาณเหมาะสม แต่รูปร่างของอสุจิผิดปกติ หรือการทำงานผิดปกติ ส่วนทางเพศหญิงถ้าเกิด ความผิดปกติ ไม่มีไข่ตกก็ไม่สามารถมีลูกได้ เกิดจาก การที่อวัยวะสืบพันธุ์ผิดปกติ เช่น ท่อนำไข่ผิดปกติ
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
ใครเคยได้ยินข่าวแชร์นี้คงกลัวที่จะต้องสั่งน้ำมูกกันไปเลย กับกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อน หญิงสาวคนหนึ่งจากประเทศอังกฤษ สั่งน้ำมูกแรงจนตาบวมปูด มองอะไรไม่เห็น ถึงขั้นต้องทำการผ่าตัดรักษาก่อนที่จะถึงขั้นตาบอด!! ตกลงเรื่องนี้มันยังไงกันแน่ นักสืบโซเชียลจะไปถามคุณหมอให้กระจ่างกันไปเลย แพทย์หญิงมัทยา ขวัญอโนชา แพย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตา และเลเซอร์ โรงพยาบาลพญาไท 1 ได้อออกมากล่าวแล้วว่าข่าวนี้ แชร์มั่ว การสั่งน้ำมูกรุนแรงไม่มีผลกระทบขนาดที่จะทำให้ตาบอดได้ ส่วนข่าวที่สั่งน้ำมูกอย่างรุนแรงแล้วตาบวมเป่ง พบว่ามีลมอยู่ในกระดูกเบ้าตาและมีความดันตาสูงนั้น คุณหมอให้ความเห็นว่า ตามหลักการแพทย์แล้ว กรณีดังกล่าวแล้วเป็นไปแทบไม่ได้เลย นอกเสียจากว่าคนๆ นั้นจะเคยประสบอุบัติเหตุหรือสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้กระดูกเบ้าตาผิดปกติ เช่น กระดูกเบ้าตาร้าวอยู่แล้ว จึงทำให้เกิดภาวะเช่นนั้นขึ้น เพราะการสั่งน้ำมูกแรกจนทำให้มีลมเข้าไปอยู่ในกระดูกเบ้าตานั้นเป็นไปได้ยากมาก ต้องได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงระดับเบ้าตาแตกหรือร้าวลมจึงจะเข้าไปอยู่ได้
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
มาอีกแล้วกับข่าวเตือนภัยสาวๆ กับข่าวแชร์ที่ว่า “ใส่ยกทรงนอน เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม” ที่ก่อนจะเป็นกังวลกันไป ตามนักสืบโซเชียลไปสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ชัวร์ๆ ไปเลยดีกว่า นพ.โกมล ปรีชาสนองกิจ แพทย์หัวหน้าศูนย์รักษ์เต้านม รพ. พญาไท 2 ได้คอนเฟิร์มแล้ว ว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง การใส่ยกทรงนอนไม่มีผลต่อการเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมแต่อย่างใด หลายคนอาจเข้าใจว่าการใส่ยกทรงอาจเป็นการรัดหน้าอก ทำให้เลือดลมไปเลี้ยงได้ไม่ดี แต่แท้จริงแล้วไม่ได้ส่งผลอะไร แต่สาวๆ ควรเลือกยกทรงให้เหมาะกับขนาดของหน้าอกเพราะจะทำให้ใส่สบายมากขึ้น ส่วนความแตกต่างระหว่างยกทรงมีโครงเหล็ก หรือไม่มีโครงนั้น ก็ไม่ส่งผลต่อมะเร็งเต้านมเช่นเดียวกัน
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
แชร์กันมาอีกแล้ว กับข่าวที่ว่า “เป็นกรดไหลย้อน ห้ามนอนตะแคงขวา” ซึ่งเรื่องต้องห้ามกับเจ้าโรคกวน ใจใกล้ตัวเรานี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่?คุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญมีคำตอบให้กับทุกคนนพ.จีรวัส ศิลาสุวรรณ แพทย์เฉพาะทาง ทางเดิน อาหารและตับ โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้ออกมาพูดแล้วว่า ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง โรคกรดไหลย้อนนั้น เกิดจากการ ที่หูรูดรอยต่อของหลอดอาหารกับกระเพาะอาหารที่ อยู่บริเวณกลางหน้าอกเกิดหลวมชั่วคราวหรือถาวร ทำให้มีกรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปถึง หลอดอาหารหรือหลอดลมได้ ส่วนข่าวเรื่องห้ามนอน ตะแคงขวา อาจมีที่มาจากในอดีตมีการศึกษาว่าถ้า นอนตะแคงซ้ายอาจจะทำให้อาการกรดไหลย้อนน้อย ลงได้ แต่ในภายหลังพบว่าการนอนตะแคงซ้ายหรือ ขวาไม่ได้ส่งผลให้กรดไหลย้อนมีอาการมากขึ้น
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
คนนอนดิ้นคงได้เฮกันใหญ่ กับข่าวแชร์ที่ว่า “การนอนดิ้นรักษาหมอนรองกระดูกเคลื่อนได้” แต่ก่อนที่คนนอนไม่ดิ้นจะกระโดดขึ้นเตียงแล้วรีบดิ้นกัน ตามนักสืบโซเชียลไปสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกันก่อนว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่?นพ. ธีรศักดิ์ พื้นงาม แพทย์เฉพาะทางด้านประสาทศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้กล่าวว่าการนอนดิ้นไม่ได้ช่วยรักษาโรคหมอนรองกระดูกแต่อย่างใด! ซึ่งการที่หมอนรองกระดูกจะเคลื่อนมากดทับเส้นประสาทได้นั้น ต้องเกิดจากสาเหตุที่หนักพอสมควร เช่น คนงานที่ต้องยกของหนัก หรือคนที่นั่งนานเกินไป เช่น พนักงานออฟฟิศ ที่นั่งตลอดทั้งวันโดยไม่ลุกไปไหนเลยตลอด 6-7 ชม.ต่อวัน
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
ในประเทศที่แดดแรงจัดอย่างเมืองไทยของเรานั้น การเกิด “ฝ้า” บนผิวหน้า คงเป็นปัญหาด้านความงาม ที่กวนใจและสร้างความกังวลให้สาวๆ มากมาย และข่าวแชร์ที่ว่า “ดื่มกาแฟดำ ช่วยลดฝ้าได้” จะเป็นอีกวิธีรักษาฝ้าได้จริงหรือไม่? พญ. อภิญญา โพธิพันธ์ แพทย์ประจำสาขาอายุรกรรมผิวหนัง โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ได้กล่าวไว้ว่าไม่เป็นความจริงเพราะในกาแฟดำ มีสารหลักๆ คือ คาเฟอีน ที่ปัจจุบันก็ยังไม่มีการวิจัยใดพิสูจน์ว่า สารคาเฟอีน สามารถช่วยลดฟ้าบนผิวหนังของมนุษย์ได้แต่ถ้าสาวๆ มีฝ้าบนผิวหนังและจะรักษาได้อย่างไรนั้น คุณหมอบอกว่า วิธีรักษามาตรฐานทั่วไปเลยก็คือ การทายา โดยยารักษาฝ้ามีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ที่แพร่หลายที่สุดคือ ไฮโดรควิโนน ซึ่งถือเป็นสารมาตรฐานในการรักษาฝ้า แต่อย่างไรก็ตามต้องให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์สั่งจ่ายให้เท่านั้น โดยรับจากโรงพยาบาลหรือคลินิก เพราะว่าในการรักษา ต้องจำกัดไฮโดรควิโนนให้มีปริมาณและความเข้มข้นที่เหมาะสม ไม่แนะนำให้ไปซื้อข้างนอกหรือผสมเอง เพราะจะมีอันตรายในระยะยาวได้ ส่วนการรักษาฝ้าแบบอื่นๆ นั้น อาจใช้กรดวิตามินต่างๆ หรือการทาครีมกันแดดเพื่อป้องกัน โดยพบว่าการทาครีมกันแดดอาจช่วยทำให้ฝ้าจางลงได้ด้วย แต่ถึงแม้ผิวจะมีหรือไม่มีปัญหา ก็ควรทาครีมกันแดดไว้เป็นประจำจะดีที่สุด เพื่อปกป้องผิวของเรา
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
แชร์กันมากันอีกแล้ว กับเรื่องราวเกี่ยวกับโรคยอดฮิต อย่าง “โรคมะเร็ง” คราวนี้เป็นเรื่องของ “หอยแครง” ที่ว่ากันว่ากินแล้วเสี่ยงเป็นมะเร็งคุณปัฐมาพร หงษ์สุวรรณ นักกำหนดอาหารวิชาชีพ โรงพญาบาลพญาไท 2 ได้คอนเฟิร์มว่าข่าวแชร์ไม่เป็นความจริง เพราะปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานทาง วิทยาศาสตร์แน่ชัด ที่ระบุว่าการทานหอยแครงส่งผล ต่อการเกิดมะเร็ง มีเพียงงานวิจัยเล็กๆ ชิ้นเดียว เท่านั้นที่พบว่า สารชนิดหนึ่งในตัวหอยแครงอาจส่ง ผลให้เกิดมะเร็งได้ แต่ก็เป็นเพียงการวิจัยเล็กๆ ที่ยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัด
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
ผู้หญิงแทบทุกคนคงทราบว่า ‘น้ำมะพร้าว’ เป็นของต้องห้ามสำหรับประจำเดือน เพราะว่ากันว่ามีฮอร์โมนเพศหญิงที่เมื่อดื่มแล้วจะทำให้ปวดท้องได้ แต่ถ้ามีฮอร์โมนที่ว่าอยู่จริง “การดื่มน้ำมะพร้าว จะช่วยให้หน้าอกใหญ่ขึ้น” ก็อาจจะจริงน่ะสิ!? นพ.ชูศักดิ์ งามไพบูลย์ สูตินารีแพทย์ โรงพยาบาลได้ออกมาคอนเฟิร์มว่าไม่จริง ถึงจะมีฮอร์โมนเพศหญิงอยู่ในน้ำมะพร้าวจริง แต่ไม่ช่วยทำให้หน้าอกของคนดื่มมีขนาดใหญ่ขึ้นแต่อย่างใด
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
นอนห้อยหัว วันละ 10 นาที ช่วยให้สมองดี แก่ช้า หน้าใส ไกลอัมพาตพญ.ฤทัยชนก สมปอง’ แพทย์เฉพาะทางผิวหนังและความงาม ได้คอนเฟิร์มไว้ในรายการ ชัวร์นะแม่อย่าแชร์มั่ว แล้วว่าข่าวนี้ “แชร์มั่ว การนอนห้อยหัวต่ำๆ เป็นสิ่งไม่ควรทำ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ค่อนข้างมีอายุ หรือ เป็นโรคความดันต่ำ ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะคนกลุ่มนี้เลือดจะไหลเวียนได้ค่อนข้างช้าอยู่แล้ว หากห้อยหัวตามข่าวแชร์อาจจะทำให้ความดันตก หน้ามืด วิงเวียนศีรษะได้
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
ในประเทศที่อากาศร้อนมากอย่างประเทศไทย การทานน้ำเย็นๆ คงเป็นเรื่องปกติที่ห้ามกันไม่ได้ แล้วข่าวแชร์ที่ว่า ‘น้ำแข็งยูนิตมีการผสมฟอร์มาลีนเป็นอันตรายต่อร่างกายได้’ นี่จะชัวร์หรือมั่วนิ่ม ตามไปถามความจริงจากผู้เชี่ยวชาญกันดีกว่าปัฐมาพร หงษ์สุวรรณ นักกำหนดอาหารวิชาชีพ ได้คอนเฟิร์มกับทางรายการ “ชัวร์นะแม่ อย่างแชร์มั่ว” แล้ว ว่าเรื่องนี้ “แชร์มั่ว X” น้ำแข็งยูนิตไม่ได้มีการผสมฟอร์มาลีนเพื่อรักษาความเย็นแต่อย่างใด
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
“คีโตเจนิค” เป็นเทรนด์ลดน้ำหนักจากการจำกัดอาหารที่กินที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ในเมืองไทยก็มีคนที่ศึกษาวิธีการกินคีโตเจนิคอย่างจริงจนกลายเป็นกลุ่มกินคีโตที่นับวันจะยิ่งเพิ่มจำนวนสมาชิกมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะเป็นวิธีกินเพื่อลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การกินคีโตเจนิคก็มีข้อจำกัดที่ควรระวังอยู่บ้างเช่นกัน อาหารคีโตอาจเป็นประโยชน์กับบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน และเบาหวานชนิดที่ 2 แต่งานวิจัยเกี่ยวกับอาหารคีโตส่วนใหญ่เป็นระยะสั้น ยังขาดการศึกษาติดตามในระยะยาวถึงผลกระทบต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ จึงควรปรึกษาแพทย์ หรือทีมผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการ ในการให้คำแนะนำ คำปรึกษา และตรวจติดตามสุขภาพในระยะยาว เพื่อป้องกันอันตราย หรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
รางจืด สมุนไพรล้างพิษ ติดยา-ติดเหล้า ก็เอาอยู่ ! รางจืดเป็นสมุนไพรที่มีชื่อเสียงไม่เบา โดยเฉพาะสรรพคุณของรางจืดในเรื่องล้างพิษ หรือแก้เมา แต่นอกจากประโยชน์เหล่านี้แล้ว รางจืดยังมีดีอีกหลายอย่างเนื่องจากสมุนไพรรางจืดมีฤทธิ์ถอนพิษผิดสำแดงหรือพิษอื่น ๆ จึงสามารถใช้รางจืดแก้อาการท้องร่วง ท้องเสียได้ ถึงแม้สรรพคุณจะดีขนาดนี้ แต่ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา หรือ อย. ประกาศว่า ไม่อนุญาตให้ใช้รางจืดเป็นอาหารหรือส่วนประกอบในอาหาร รวมทั้งเครื่องดื่ม เพราะ อย. ระบุว่ามีงานวิจัยบางชิ้นพบว่า หากกินเป็นเวลานานอาจทำให้ระบบเลือด ตับ ไตทำงานผิดปกติได้
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
แม่ค้าทำยาดองเหล้าคางคกมาแจกให้ชาวบ้านดื่ม คนขายอวดสรรพคุณโด่ไม่รู้ล้ม นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวว่าหากมีการนำสุราไปดองกับสัตว์มีพิษต่างๆ เช่น ตะขาบ แมงป่อง คางคก แล้วนำมาดื่ม ตามคำกล่าวอ้างในเรื่องสรรพคุณทางการรักษาโรคหรือเพื่อบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง อันตรายมาก ร่างกายจะได้รับพิษจากสัตว์เหล่านั้น เกิดอาการพิษทางร่างกายอย่างรุนแรงและอาจทำให้เสียชีวิตได้
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
สูตร สมุนไพรใหม่ที่กำลังฮิตคือ เอาบอระเพ็ดมาดองกับ น้ำอัดลม อย่างโค้กหรือโค้กซีโร่ อ้างว่าดื่มรักษา เกาท์ได้ ไปจนถึงรักษาเบาหวานได้นั้น ไม่จริงและยัง อันตราย หากกินมากไปอีกด้วย
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
นมผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ ที่ช่วยบำรุงร่างกายให้มีชีวิตยืนยาว ป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง สดใส สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพิ่มความแข็งแกร่งของระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยต้านทานโรคของร่างกาย ตามปกติแล้วยิ่งอายุมากขึ้นร่างกายก็จะยิ่งมีการสร้างเซลล์ลดลง นมผึ้งจะช่วยเสริมสร้างการเกิดใหม่ของเซลล์ จึงช่วยชะลอความแก่ก่อนวัย แค่เปลี่ยนจากการทานวิตามินสังเคราะห์ ลองหันทานนมผึ้งทุกวันก็เป็นยาอายุวัฒนะแห่งธรรมชาติ!! นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า อย. ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการโฆษณาผลิตภัณฑ์ Royal Jelly 2018 หรือนมผึ้ง ทางเว็บไซต์ชื่อ http://www.auswelllife-awl.com/ อย.จึงตรวจสอบและพบข้อความโอ้อวดสรรพคุณ เช่น ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดคอเลสเทอรอลในเส้นเลือด ลดความดันโลหิต ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ซึ่งข้อความเหล่านี้เป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นการโฆษณาหลอกลวงโอ้อวดเกินจริง จากการตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวมีลักษณะ รกร้าง ไม่แสดงป้ายเลขที่บ้าน อย.อยู่ระหว่าง การรวบรวมหลักฐานเพื่อประกอบการดำเนินคดีลงโทษตามกฎหมายต่อไป.
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
ล่าสุด สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยออกโรงเตือน จากกรณีเด็กนักเรียนได้หันมาใช้ครีมทาผิวขาวที่มีส่วนผสมของสารโคเบตาซอล (สเตียรอยด์) และเกิดอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะผิวหนังเกิดอาการไหม้ แตกลายสีขาว มีรอยแดง มีลักษณะเหมือนคนอ้วนหรือคนตั้งครรภ์นั้น ขอให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ควรระมัดระวังในการเลือกใช้ครีมทาผิวขาวเหล่านี้ ทั้งในส่วนที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไป หรือตามเว็บไซต์ต่างๆ ขอให้หยุดการใช้ครีมเหล่านี้ทันที เนื่องจากสารโคเบตาซอล เป็นสเตียรอยด์ชนิดที่แรงที่สุด เอาไว้รักษาโรคผิวหนังอักเสบที่เป็นเรื้อรัง หรือเป็นผื่นหนา และมีคำเตือนเลยว่าห้ามใช้ติดต่อกันเกิน 4 สัปดาห์ สารนี้จัดเป็นยาและไม่สามารถอยู่ในเครื่องสำอางได้ สารชนิดนี้ออกฤทธิ์ที่ผิวหนังถึงชั้นแท้และอาจเป็นผลถาวร ซึ่งผลของมันนอกเหนือจากการไปยับยั้งเม็ดสียังไปรบกวนเรื่องของการสร้างอิลาสตินคอลเจนของผิวหนังแล้ว ยังทำให้เกิดการแตกลายงาของผิวหนัง ทำให้ผิวบางและเส้นเลือดขยาย ถ้าไปทาที่หน้า หรือบริเวณที่มีต่อมไขมันเยอะจะทำให้เกิดสิวได้ ซึ่งรักษายากกว่าสิวทั่วไปด้วย และเมื่อผิวบางโดนอะไรจะแพ้ง่ายและมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ด้วย ครีมสเตียรอยด์มีประโยชน์ คือ แก้แพ้ แก้คัน แก้ผื่นผิวหนังอักเสบ บางคนพอใช้แล้วหน้าเรียบ ก็เลยใช้ต่อเนื่อง ถ้าใช้ช่วงสั้นๆ ไม่เป็นไร แต่ถ้าใช้นานๆ จะติด ไม่ใช้ไม่ได้ และเพิ่มความแรงของยาขึ้นเรื่อยๆ ตรงนี้เองที่ทำให้เกิดปัญหาหยุดไม่ได้ พอหยุดผิวหนังจะอักเสบเห่อขึ้นมา รักษายาก
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
“ดื่มแล้วผิวเนียนกระจ่างใส ช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ลองดูก่อน 7 วัน” บวกกับดาราหน้าใสกิ๊กถือกล่องคอลลาเจนผงถ่ายลงอินสตราแกรม ดาราหน้าสวยผิวใสการันตีขนาดนี้ใครจะไม่เชื่อบ้างล่ะ การกินคอลลาเจนไม่ได้ช่วยเรื่องผิวพรรณเลย เว้นแต่ว่าคุณต้องได้รับคอลลาเจนผ่านการฉีด หรือใช้เครื่องมือพิเศษผลักไออนนำคอลลาเจนเข้าไป หรือร้อยไหม, ยิงเลเซอร์บางตัวเข้าไป เพื่อกระตุ้นให้คอลลาเจนตื่น เมื่อก่อนมีมาคอลลาเจนจากญี่ปุ่นที่มาใส่ในหม้อไฟ เรียกกันว่า กินคอลลาเจนสดๆ แต่พอแปรรูปเป็นผง ซึ่งพวกเราไม่มีทางรู้เลย ผสมแป้งไหม มีสารปนเปื้อนอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ส่วนใหญ่เน้นชูธงว่า เป็นคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก ดังนั้นข้อเสียอย่างแรกคือ แพ้ หากกินแล้วรู้สึกคลื่นไส้ ถือว่าเป็นระดับอนุบาล แต่ถ้าแพ้รุนแรง จะบวมเป็นผื่นขึ้น ถึงขั้นแน่นหน้าอก หลอดลมตีบ หายใจไม่ออกได้เลย ยิ่งคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก คนที่แพ้อาหารทะเล กินคอลลาเจนชนิดนี้ไม่ได้นะ เพราะจะเกิดอาการแพ้รุนแรง เตือนคนที่แพ้อาหารทะเล ต้องดูที่มาของคอลลาเจนด้วย ข้อเสียที่สองเป็นของแถม ได้แก่ สารปนเปื้อน อย่างที่บอกถ้าเป็นคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก มักจะมีพวกโลหะหนักที่ติดมาจากทะเลน้ำลึก ได้แก่ พวกตะกั่ว ปรอท หรือพวกสารปนเปื้อนอื่นๆ”ข้อเสียที่สาม ถ้ากินทุกวัน ไตทำงานหนักแน่นอนเลยครับ เพราะคอลลาเจนผ่านทางไต มันจะทำให้ไตทำงานเหนื่อยมาก นอกจากข้าวประจำวัน ยังต้องมาทำงานล่วงเวลาขับคอลลาเจนอีก ดังนั้นใครที่มีปัญหาเรื่องไต เป็นโรคไต ไม่ควรกิน รวมทั้งคนที่อยากสวยแต่อายุเยอะแล้ว ต้องระวังมากๆ “ถามว่าทำไมคอลลาเจนผงถึงกำลังเป็นที่โด่งดัง คงจะเป็นเรื่องของการมาร์เก็ตติ้งมากกว่าครับ” นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าว”
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ฮิตกันมานานแล้วในการฉีดวิตามินซีเข้าเส้นเลือด แม้แต่เพื่อนผู้เขียนยังเคยฉีดกันหลายคน พวกนางล้วนบอกว่า ผิวดูใสขึ้น ทั้งที่ในความเป็นจริง ผิวเหมือนเดิมเป๊ะ! มีคลินิกเสริมความงามดังๆ ให้บริการฉีดวิตามินซีเป็นคอร์สราคาเป็นหมื่น สาวๆ ที่เชื่อและไม่มีเงินไปซื้อคอร์สแพงๆ ก็ใช้วิธีสั่งซื้อทางเน็ต ไปฉีดกันเอง เพราะมีประกาศขายวิตามินซี ราคาถูกมาก ใครก็เข้าไปสั่งซื้อไปฉีดเองได้ เหมือนโฆษณาขายอาหารเสริมหลอกลวงที่ขายกันอย่างเปิดเผย เด็กสาววัยรุ่นมากมายมาที่คลินิกความงาม ซื้อวิตามินซีจากร้านทางอินเตอร์เน็ตให้หมอหรือพยาบาลฉีด เป็นวิตามินซีบรรจุหลอดในแผง 10 หลอด เธอเล่าว่า เพื่อนไปฉีดที่คลินิกครั้งละ 2 หลอด เข้าเส้นเลือดดำ เสียค่าฉีดให้หมอครั้งละ 50 บาทเท่านั้น การใช้วิตามินซีที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์รองรับมีเพียงอย่างเดียว คือ รักษา และป้องกันการขาดวิตามินซี รวมทั้งภาวะ ลักปิดลักเปิด หรือ เลือดออกตามไรฟัน ไมได้ช่วยเรื่องผิวขาว ดังนั้นต้องเข้าใจกันเสียก่อนว่า การฉีดอะไรก็ตามเข้าเส้นเลือดดำ มันเสี่ยงมากกับชีวิต! เพราะฉีดยาในอัตราที่เร็วเกินไป การติดเชื้อในกระแสเลือดจากเครื่องมือที่ไม่สะอาดเ การเกิดฟองอากาศอุดตันหลอดเลือดเนื่องจากผู้ฉีดยาไล่ฟองอากาศในเข็มฉีดยาไม่หมด เป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อผู้ที่ได้รับยาจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
ใช้ใน 1 ข้อความ・5 ปีที่แล้ว