(2229 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยสธ.ชวนผู้หายป่วยและผู้ใกล้ชิดร่วมเป็นอาสาสมัคร "ฮีโร่โควิด 19" ในการศึกษาวิจัยภูมิคุ้มกัน จริงหรือคะนายแพทย์คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวโครงการ “ฮีโร่โควิด 19” โดยหน่วยไวรัสวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการศึกษาวิจัยภูมิคุ้มกันในผู้ที่หายจากโรคโควิด 19 โดยได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูลจาก กรมควบคุมโรคและกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสถาบันวิจัยระบบสุขภาพ (สวรส.) จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อศึกษาการสร้างภูมิคุ้มกัน, ป้องกันการติดเชื้อได้หรือไม่ ระยะเวลาที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเมื่อหายป่วย และภูมิคุ้มกันสามารถอยู่ในร่างกายได้นานเพียงใด โดยคุณสมบัติอาสาสมัครจะต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี เป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 และหายดีแล้ว และกลุ่มผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เคยติดเชื้อมาแล้ว จะมีการเจาะเลือดเพื่อนำไปศึกษา 3 ครั้ง คือระยะ 3 เดือน ,6 เดือนและ 9 เดือน ซึ่งจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของผู้ที่เข้าร่วมวิจัย จริงหรือคะโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเพิ่มวันหยุด ปี 68-69 กรณีพิเศษ 3 วันมีมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครม.เคาะวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ 3 วันข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยระเบิด 3 จังหวัด เป็นระเบิดงบประมาณจริงหรือไม่ระเบิด 3 จังหวัด เป็นระเบิดงบประมาณจริงหรือไม่ข่าวการเมืองภาคใต้ เสียดสีAbbas Dueramae• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัย'คมนาคม' ดึงรถไฟฟ้าเพิ่ม 3 สาย ร่วมโครงการ 'คนละครึ่งพลัส'ข่าวการเมืองการเงินไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยวันมาฆบูชา 2568 ขึ้นทางด่วนฟรี 3 สาย รวม 61 ด่านไม่ระบุชื่อ• 10 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยKarl Jacobs ถูกไล่ออกโดย MrBeastKarl ถูกไล่ออกโดย MrBeast เนื่องจากปัญหาเพศที่ 3ล้อเลียน เสียดสีแอคปลอมPatakorn Puttakerd• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://m.facebook.com/serithai.net/photos/a.173284956060275/609613945760705/?type=3&mibextid=qC1gEaข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทุเรียนหมอนทอง ที่ยะลา ขาย 3 โล 100 จริงหรือทุเรียนหมอนทอง ที่ยะลา ขาย 3 โล 100 จริงหรือไม่Sofia Idea• 4 เดือนที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้องทิวป.3/2หล่อจริงไหมน้องทิวป.3/2 โรงเรียนบ้านไคศรี หล่อจริงไหมความสวยความงามน้องทิวป.3/2• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยอย.เตือน ครีมขาวใสใน 3 วัน ส่วนผสมทองคำ โฆษณาเกินจริง ชี้โทษติดคุกถึง 1 ปีโพสต์ขาย หัวเชื้อผิวขาว โดยมีรูป เน็ตไอดอลสาวชื่อดังถือขวดผลิตภัณฑ์ พร้อมมีข้อความอวดอ้างสรรพคุณว่าผิวขาวขึ้นแน่นอนภายใน 3-7 วันในรูปเปลี่ยนผิวดำด้านเป็นผิวขาว ยิ่งใช้หลายขวดยิ่งขาวมากขึ้นคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่าหัวเชื้อผิวขาวตัวดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่ามีความผิดเข้าข่ายการโฆษณาเกินจริงและที่มีข้อความว่าสามารถขาวขึ้นได้ภายใน 3 วัน หรือ 7 วัน ถือว่าเป็นการโฆษณาเกินจริงอย่างแน่นอนเนื่องจากปกติแล้วไม่สามารถยับยั้งหรือเปลี่ยนแปลงการผลิต เม็ดสีเมลานิน จึงไม่สามารถทําให้สีผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงได้std46588• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนพ.อรรคพล ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เรียกร้องยุติการฉีดวัคซีน ที่โฆษณาชวนเชื่อ แต่ป้องกันอะไรไม่ได้เลย ก่อนไทยจะล้มละลายเป็นทาสวัคซีนโฆษณาชวนเชื่อจากต่างชาติ .....ตอนนี้ คนฉีดวัคซีนเริ่มทยอยตายมากกว่าคนติดโควิด (question) หมอเกือบสองหมื่นคน ออกมาเตือนคนที่ฉีดแล้วอย่าฉีดเพิ่มอีก..คนที่ยังไม่ฉีดก็ไม่ต้องฉีด...ฟังเอา ผู้ที่ฉีดวัคซีน..โปรดเปิดดูคลิปนี้..แล้วหยุดการไปต่อ..เข็มที่ 2 - 3 - 4 - 5 - 6 ก่อนที่จะจบชีวิตในวัยอันควรด้วยตัวคุณเอง.!. https://rumble.com/v15flrb--.-3.htmlโควิด 2019วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 2 คนสงสัยเปิดไอเดียสุดเจ๋งของเยาวรุ่น ร่วมแก้ปัญหาข่าวลวง สร้างนวัตกรรมพร้อมข้อเสนอผลักสู่ระดับนโยบาย11 ก.พ. 2565 12:30 น. ข่าว ทั่วไทย ข่าวประชาสัมพันธ์ เปิดไอเดียสุดเจ๋งของเยาวรุ่น ร่วมแก้ปัญหาข่าวลวง สร้างนวัตกรรมพร้อมข้อเสนอผลักสู่ระดับนโยบาย สิ้นสุดแล้วโครงการ “FACTkathon” นักศึกษาร่วมระดมสมองส่งผลงานนวัตกรรมเข้าประกวด เพื่อแก้ปัญหาข่าวลวง ข่าวปลอม พร้อมผลักดัน 7 ข้อเสนอให้เกิดเป็นนโยบายแก้ปัญหาเฟกนิวส์เกลื่อนโลกออนไลน์ เปิดไอเดียสุดเจ๋งของเยาวรุ่น ร่วมแก้ปัญหาข่าวลวง สร้างนวัตกรรมพร้อมข้อเสนอผลักสู่ระดับนโยบาย ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับกิจกรรมการแข่งขันระดมสมอง “หักล้างมูลเท็จ แสวงหาความจริงร่วม” “FACTkathon : Fact-Collab to Debunk Dis-infodemic” ที่ได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) และเป็นความร่วมมือกับสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ มูลนิธิสภาการหนังสือพิมพ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิฟรีดริช เนามัน ประเทศไทย (Fnf Thailand) สถาบันเชนจ์ฟิวชั่น ChangeFusion Centre for Humanitarian Dialogue (HD) และ ภาคีโคแฟค (ประเทศไทย) งานนี้นอกจากจะเป็นการประชันไอเดียของคนรุ่นใหม่ระดับมหาวิทยาลัย ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมแก้ปัญหาข่าวลวงที่มากมายในโลกออนไลน์แล้ว ยังมีการระดมข้อเสนอแนะเชิงนโยบายถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแนวทางการหา “ความจริงร่วม” ที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ นำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมของผู้ที่มีความเห็นต่างได้อย่างปกติสุข จากการแข่งขันครั้งนี้ทีมที่ได้รับรางวัลที่ 1 ได้แก่ ทีมบอท เป็นการผสมผสานทีมจากนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีไอเดียสุดเจ๋ง “Check-on” หรือ “เช็กก่อน” โดยพัฒนาเครื่องมือ Extension เมื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอ่านข่าวในเว็บหรือเห็นภาพต่างๆ แล้วสงสัยว่าจริงหรือไม่ ให้คลุมดำที่ข้อความ คลิกขวา จะมีปุ่ม Check หน้าต่างของ Check-On ขึ้นมาแล้วประมวลผลความน่าเชื่อถือจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ อาทิ Cofact ชัวร์ก่อนแชร์ ศูนย์ต่อต้านข่าวลวง เป็นต้น ทีม TU Validator ซึ่งได้รับรางวัลที่ 2 รวมทีมจากคณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอแพลตฟอร์มเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ทุกคนเข้ามาร่วมค้นหาความจริงด้วยกัน พร้อมรับคะแนนและของรางวัล เพื่อสร้างชุมชนในสังคมออนไลน์ ให้ผู้ใช้งานได้มีการถกเถียง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อข้อมูลต่างๆ จัดกิจกรรม Debate ถกประเด็นกัน เชื่อว่าความจริงต้องเกิดขึ้นได้ สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลที่ 3 คือ ทีม New Gen Next FACTkathon เป็นการรวมตัวของนักศึกษาคณะต่างๆ จากมหาวิทยาลัยพายัพ ออกแบบการนำข้อมูลข่าวสาร มาถ่ายทอดในรูปแบบของการ์ตูน ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันด้วยการสร้างการ์ตูนลงแพลตฟอร์มหนังสือการ์ตูนออนไลน์ (Webtoon) เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านและได้สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบข่าวลวงไปด้วย พร้อมมีลูกเล่นด้วยการให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมไขปริศนา โหวตว่าจริงหรือไม่จริง โดยให้สิ่งตอบแทนเป็นเหรียญ สำหรับใช้เปิดอ่านตอนต่อไป นอกจากกิจกรรมการประกวดเสนอแนวคิดนวัตกรรมแล้ว ยังได้จัดการประชุมเพื่อร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและข้อเสนอแนะที่จะแก้ปัญหาข่าวลวงอย่างยั่งยืน ซึ่งเห็นตรงกันว่าต้องผลักดันให้เกิดนโยบายที่แก้ปัญหาข่าวลวงที่เกลื่อนโลกออนไลน์ร่วมกันด้วย ดังนี้ 1) ทวงถามความรับผิดชอบกับผู้ผลิตและส่งต่อข่าวลวง : มีข้อเสนอแนะให้มีวิธีการป้องกันและแก้ไขข้อความผู้ผลิตและผู้ส่งต่อข่าวลวง ที่จะช่วยลดการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นลงได้ 2) ให้ความสำคัญกับทักษะ “รู้เท่าทันสื่อ” : การรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) ไม่ใช่วิชาที่เกิดขึ้นใหม่ในยุคดิจิทัล แต่ถูกพูดถึงเรื่องนี้นับตั้งแต่มีการเกิดขึ้นของสื่อมวลชนยุคอนาล็อก (วิทยุ โทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์) เช่น กลยุทธ์หรือเทคนิคที่ใช้ผลิตเนื้อหาผ่านสื่อแต่ละประเภทใช้ส่งสารถึงปัจเจกชนหรือกลุ่มคนซึ่งเป็นผู้รับสาร บทบาทของสื่อต่อการสร้างกระแสค่านิยม หรือวัฒนธรรมต่างๆ ในสังคม เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล การผลิตและส่งต่อข้อมูลข่าวสารเพิ่มมากขึ้นทั้งกว้างขวางและรวดเร็ว การรู้เท่าทันสื่อจึงยิ่งมีความสำคัญเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อข่าวลวงหรือข้อมูลบิดเบือน ความเข้าใจในแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ Facebook, Twitter, Instagram, Line ฯลฯ ถูกออกแบบมาให้ทำงานอย่างไร และผู้ผลิตเนื้อหา (Content) ใช้วิธีการอย่างไรในการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้รับสาร ซึ่งจะซับซ้อนกว่าสื่อดั้งเดิม เช่น แพลตฟอร์มบางชนิดสามารถใช้วิธีการบางอย่างเพื่อให้สาร (ข้อความ ภาพ คลิปวิดีโอ คลิปเสียง) ถูกมองเห็นอย่างกว้างขวางและในความถี่ต่อเนื่อง หรือมีสถิติการส่งต่อจำนวนมาก ผู้ที่ไม่รู้เท่าทันวิธีการเหล่านี้อาจเชื่อไปก่อนแล้วว่าเป็นเรื่องจริงโดยไม่ได้ตรวจสอบ 3) ลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล : แม้เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่จะถูกมองว่าเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Native) จึงใช้งานได้คล่องกว่าคนวัยอื่นๆ ที่อาจจะเพิ่งรู้จักเทคโนโลยีดิจิทัลในวัยกลางคนหรือวัยเกษียณ แต่ในความเป็นจริงก็ยังพบช่องว่าง กล่าวคือ เด็กและเยาวชนในครัวเรือนที่ไม่มีทุนทรัพย์จัดหาเครื่องมือเชื่อมต่อ (Device) อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน และเข้าไม่ถึงโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ด้านดิจิทัล อาทิ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่สัญญาณมีความเสถียร ย่อมมีข้อจำกัดในการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลเมื่อเทียบกับเด็กและเยาวชนในครัวเรือนที่มีความพร้อม 4) สนับสนุนบทบาทขององค์กรที่ทำงานต่อต้านข่าวลวงที่มีอยู่แล้ว ให้สามารถนำข้อมูลไปถึงผู้คนได้ง่าย : ปัจจุบันมีความพยายามจากหลายฝ่ายในการต่อสู้กับปัญหาข่าวลวง ทั้งภาครัฐที่มีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ภาคสื่อมวลชนที่มีศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ของ อสมท. และภาควิชาการ-ประชาชน ที่รวมตัวกันในนามโคแฟค ซึ่งนอกจากจะสนับสนุนให้องค์กรเหล่านี้ทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วแล้ว ควรพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลที่เมื่อผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไปพบข้อมูลบางอย่างแล้วสงสัย สามารถส่งไปประมวลผลกับระบบขององค์กรข้างต้นได้ทันทีว่าเคยมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วหรือไม่ เนื่องจากพบว่าข่าวลวงหลายข่าวมักมีลักษณะ “แชร์วนซ้ำ” บางเรื่องพิสูจน์กันไปแล้วหลายปีว่าไม่จริงแต่ก็ยังมีการส่งต่อวนกลับมาอีก 5) ขยายแนวร่วมตรวจสอบข่าวลวงสู่ระดับท้องถิ่น : ในความเป็นจริงที่การสื่อสารรวดเร็ว ข้อมูลถูกผลิตและส่งต่ออย่างมหาศาล ข่าวลวงหรือข้อมูลบิดเบือนจึงมีความหลากหลายซึ่งบางเรื่องอาจจะไม่ได้เป็นกระแสมากพอที่องค์กรจากส่วนกลางจะมองเห็นและเข้าไปตรวจสอบ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างแนวร่วมในระดับชุมชน ซึ่งอาจเป็นสื่อมวลชนท้องถิ่น หรือแกนนำชุมชน (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ฯลฯ) โดยให้ผู้ที่สนใจประเด็นข่าวลวงมาฝึกฝนทักษะการตรวจสอบ รวมถึงพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะว่าจะส่งเสริมเรื่องนี้ในระดับท้องถิ่นของตนเองอย่างไร เพราะแต่ละพื้นที่นั้นมีบริบททางสังคมไม่เหมือนกันผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48026• 2 ปีที่แล้ว
- 3 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ตำรับยาสมุนไพร ดื่มรักษาโรคมะเร็งปอดตามที่ได้มีบทความชวนเชื่อเรื่องตำรับยาสมุนไพร ดื่มรักษาโรคมะเร็งปอด ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีคำแนะนำสุขภาพให้ดื่มน้ำต้มทองพันชั่ง ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ ตังกุยจี้ รากชะเอม พลูคาว และกะเม็งตัวเมีย เพื่อรักษามะเร็งปอด ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่า สมุนไพรตามที่กล่าวอ้างช่วยรักษาโรคมะเร็งปอดในมนุษย์ได้ โดยจากผลการศึกษาวิจัยระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติการพบว่าอาหารในกลุ่มพืชผักสมุนไพรอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารไตรเทอร์ปีนอยด์ สารฟีนอลิกส์ สารฟลาโวนอยด์ และสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ สารต้านอนุมูลอิสระอาจมีส่วนในการยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง แต่ผลดังกล่าวเป็นเพียงงานวิจัยเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ผู้ป่วยควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์มีมstd47661• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมอเตอร์เวย์ M81 บางใหญ่ - กาญจนบุรี เปิดวิ่งฟรีตลอดสาย เริ่ม 3 พฤษภาคมนี้ไม่ระบุชื่อ• 7 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกรมควบคุมโรคเตือนโรคไอกรนระบาด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สุขภาพภาคใต้ไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนายกฯ เตรียมเปิดท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จริงหรือไม่คะนายกฯ เตรียมเปิดท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จริงหรือไม่คะภาคตะวันออกWatcharakorn Saensee• 4 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัย5สาเหตทำไห้คันบั้นท้ายข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ 5 สาเหตุทำให้เกิดอาการคันบั้นท้าย . ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์เรื่อง 5 สาเหตุทำให้เกิดอาการคันบั้นท้าย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบ โดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปบทความให้ความรู้ว่า อาการคันบั้นท้ายเกิดจาก 5 สาเหตุ ได้แก่ 1. กินอาหารเครื่องเทศเยอะ 2. การทำความสะอาดไม่ดีพอ 3. โรคผิวหนังบางชนิด 4. อาการท้องเสีย และ 5. ความเครียด ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า อาการที่บทความกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องทั้งหมดตามข้อเท็จจริงทางการแพทย์ กล่าวคืออาการคันมีสาเหตุได้หลายประการ และความเครียดอาจทำให้อาการคันจากโรคต่าง ๆ แย่ลง แต่อาการคันจากความเครียดเองนั้นพบได้น้อยกว่าจากสาเหตุอื่นมาก . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากโรงพยาบาลราชวิถี สามารถติดตามได้ที่ www.rajavithi.go.th หรือ โทร. 02-206-2900 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อาการดังกล่าวไม่ถูกต้องทั้งหมด กล่าวคืออาการคันมีสาเหตุได้หลายประการ และความเครียดอาจทำให้อาการคันจากโรคต่าง ๆ แย่ลง แต่อาการคันจากความเครียด พบได้น้อยกว่าจากสาเหตุอื่นมาก . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวสุขภาพ #บั้นท้าย #อาการคัน #คันstd48133• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอัยการสั่งฟ้อง 2 ทหารยิงชาวบ้านตัดไม้ดับ 3 ศพเขาตะเว จริงหรือไม่ ?อัยการสั่งฟ้อง 2 ทหารยิงชาวบ้านตัดไม้ดับ 3 ศพเขาตะเวภาคใต้AZ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนภัยสภาพอากาศเลวร้าย มรสุม 3 ชุดใหญ่ เข้าไทยต่อเนื่องจากกรณีที่มีผู้โพสต์เตือนภัยเรื่องเตือนภัยสภาพอากาศเลวร้าย มรสุม 3 ชุดใหญ่เข้าไทยต่อเนื่อง เตรียมรับมือพื้นที่สีแดง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า คลิปเตือนภัยข้างต้นเป็นข้อมูลที่มิได้มีที่มาจากกรมอุตุนิยมวิทยา โดยพยากรณ์อากาศ ในช่วงวันที่ 6 – 11 มี.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับจะมีความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ดังนั้นขอประชาชนอย่าแชร์หรือส่งต่อข่าวลือนี้ และให้ติดตามข่าว พยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาเท่านั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกขึ้นในสังคม และหากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพื่อเติม สามารถสอบถามได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th, Facebook กรมอุตุนิยมวิทยา Application Thai weatherสายด่วน 1182 (ตลอด 24 ชั่วโมง) บทสรุปของเรื่องนี้คือ : คลิปเตือนภัยในข่าวมิได้มาจากกรมอุตุฯ ประเทศไทยจะไม่มีมรสุมเข้าแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศพบว่า ไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคสภาพอากาศstd46432• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ เทคฮอร์โมนในปริมาณที่มากทำให้ใบหน้าสวยขึ้นในปัจจุบันมีผู้คนหลากหลายที่มีความสนใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองให้ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศ การเทค ฮอร์โมนจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมมาก แต่มีผู้คนไม่น้อยที่ไม่ทราบการเทคฮอร์โมนอย่างถูกต้อง และอาจไปซื้อยา มาเทคฮอร์โมนเองจนเกิดอันตรายต่อร่างกาย ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ) จากการสืบค้นข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิง ข้ามเพศเป็นการเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงเข้าสู่ร่างกาย พร้อมกับให้ยากดฮอร์โมนเพศชายที่มีตามเพศสภาพให้ ลดลง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการเทคฮอร์โมนในกลุ่มนี้จะทำให้สรีระร่างกายใกล้เคียงเพศหญิงมากขึ้น เช่น มี หน้าอก เสียงเล็กแหลมขึ้นหนวดเคราน้อยลง กล้ามเนื้อเล็กลง เป็นต้น (ข้อมูลเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ) ข้อแนะนำในการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงข้ามเพศ • ร่างกายของคนข้ามเพศแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยาที่เหมาะสมกับแต่ละคนจึงต่างกัน ควรที่จะเข้ารับการปรึกษา จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนเริ่มให้ฮอร์โมน • หาความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาฮอร์โมนที่ถูกต้อง รวมทั้งอันตรายของการใช้ยาเกินขนาด • วัดระดับฮอร์โมน testosterone และ estradiol ทุก 3-6 เดือน เพื่อตรวจหาภาวะแทรกซ้อนที่จะ ตามมา ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ) ดังนั้นการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงข้ามเพศ เป็นการเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงเข้าสู่ร่างกาย และกดฮอร์โมนเพศชาย ให้ลดลง ซึ่งนั่นจะทำให้สรีระร่างกายใกล้เคียงเพศหญิงมากขึ้น แต่ไม่สามารถเปลี่นรูปลักษณ์ของใบหน้าได้ ปรับเปลี่ยนได้แค่สรีระร่างกายสุขภาพความสวยความงามChittakon Pawakho• 1 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคลิกลิงก์ เพื่อแก้ไขแอปฯ ทางรัฐค้างอยู่ขั้นตอนที่ 3 และ 4การเงินแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอาหาร 3 ชนิด ช่วยให้หลับสบายไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอาหาร 3 ชนิดช่วยให้หลับสบายไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยขึ้นทางด่วน ฟรี 5 วันรวด ดีเดย์ 30 ธ.ค. 64 - 3 ม.ค. 65ขึ้นทางด่วน ฟรี 5 วันรวด ดีเดย์ 30 ธ.ค. 64 - 3 ม.ค. 65Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
