14224 ข้อความ
- 1 คนสงสัยกัญชารักษาโรคมะเร็งได้!!กัญชาสามารถรักษาฌรคมะเร็งได้ มีผู้ป่วยมะเร็งตับท่านหนึ่งได้ออกมานยันว่ากัญชาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้จริงๆaunchitta169• 2 ปีที่แล้ว
- 6 คนสงสัยดื่มน้ำโซดาช่วยทำให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้นตามที่มีการแชร์ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ในประเด็นเรื่องดื่มน้ำโซดาช่วยทำให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีข้อความชวนเชื่อที่ระบุว่า ดื่มน้ำโซดาช่วยทำให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้นนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โซดา คือ น้ำ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งไม่มีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร อีกทั้งยังไม่มีการศึกษาใดยืนยันได้ว่า การดื่มโซดาช่วยย่อยอาหารได้ ซึ่งโซดามีฤทธิ์เป็นกรดเล็กน้อย ไม่มีฤทธิ์ในการย่อยอาหาร นอกจากนี้แล้วความเป็นกรดของโซดาเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งเสริมให้เกิดกรดไหลย้อนและฟันผุ ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน หรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารควรหลีกเลี่ยงการดื่มโซดาสุชญา ชูจันทร์• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เตือนข่าวปลอม“จิบน้ำขมิ้นชันป้องกันมะเร็ง”ข่าว “จิบน้ำขมิ้นชันป้องกันมะเร็ง” ที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ นั้น กรมการแพทย์ โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ตรวจสอบข้อมูลวิชาการพบว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าน้ำขมิ้นชันช่วยป้องกันมะเร็ง นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขมิ้นชัน (Curcuma longa L.) เป็นพืชสมุนไพรนิยมใช้เป็นเครื่องเทศสำหรับแต่งรสและสีผสมอาหาร ขมิ้นชันมีสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและอาจมีส่วนช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งผิวหนัง ซึ่งผลการศึกษานี้เป็นเพียงผลวิจัยในระดับเซลล์และสัตว์ทดลอง อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าสารนี้ช่วยป้องกันหรือรักษามะเร็ง นอกจากนี้การดื่มน้ำขมิ้นชันอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการป้องกันมะเร็ง หากประชาชนยังคงมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือรับประทานอาหารที่อาจปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง ด้านนพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ขมิ้นชันมีหลายรูปแบบ เช่น เหง้าสด เหง้าแห้ง ผง แคปซูล ยาเม็ด ยาทาผิวหนัง และเครื่องดื่มชาขมิ้นชัน แม้ว่าจะเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์แต่ไม่ควรรับประทานมากเกินไปเพราะอาจส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรปรึกษาและขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนรับประทานสุชญา ชูจันทร์• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยNo-fat กินวันละ 1 เม็ดผอมใน 7 วันผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนักตัวหนึ่งได้โฆษณาเอาไว้ว่า กินวันละ 1 เม็ดสามารถทำให้ลดน้ำหนัก 5-10 กิโลได้ภายใน 7 วันaunchitta169• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 3 คนสงสัยข่าวปลอม “สูตรน้ำพลาสม่า” เฟคนิวส์โควิด จาก ”นักต้มตุ๋น” อิหร่านไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 นอกจากจะเป็นโรคระบาดร้ายแรงที่อุบัติใหม่ขึ้นมาในยุคการสื่อสารออนไลน์ย่อโลกให้เล็กลงจนบางครั้งก็มีข่าวปลอม หรือ Fake news ถูกส่งต่อข้ามทวีปมาให้คนในอีกประเทศอย่างไม่ตั้งใจ ผู้ไม่รู้บางคนที่เห็นว่าเป็นความเคลื่อนไหวจากต่างประเทศก็อาจปักใจในทันทีโดยคิดว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นมีความน่าเชื่อถือ กรณี ข่าวนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ฟิสิกส์ระดับโลกชาวอิหร่าน เผยแพร่วิธีการทำน้ำพลาสมา เพื่อนำมาใช้ดื่มและอาบ สามารถขจัดเชื้อไวรัสโควิดได้ผล 100 เปอร์เซ็นต์ จนทำให้มีการตั้งคำถามว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ? ประเด็นแรกคือ “น้ำพลาสม่า” คืออะไร แล้วนำน้ำพลาสม่ามาดื่มหรืออาบได้ไหม ? พญ.ลลิตา นรเศรษฐ์ธาดา หน่วยโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยแพร่ความรู้กรณี “พลาสม่า” ว่าเป็นส่วนของประกอบของเลือดที่ได้หลังจากแยกส่วนของเม็ดเลือดแดงออกไปแล้ว ในพลาสมานี้เองจะมีโปรตีนทุกชนิดในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีนที่เป็นปัจจัยการแข็งตัวของเลือด สรุปแล้ว พลาสม่าก็คือ “น้ำเหลือง” ที่ทางการแพทย์นำมาใช้รักษาผู้ป่วยจากสาเหตุเลือดไหลไม่หยุด หรือภาวะเลือดออกจากการขาดปัจจัยการแข็งตัวของเลือดหลายตัว รวมทั้งยังเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด ใช้ในการรักษาโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะนำน้ำเหลืองมาผ่านกรรมวิธีใดๆ ก็ตาม คนปกติก็คงไม่นำมาดื่มหรืออาบอย่างแน่นอน ข่าวนี้มีประเด็นที่น่าสนใจก็คือ นักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่านรายนี้ มีมูลนิธิและทำเว็บไซต์เปิดขายเหรียญและรับบริจาคในนามมูลนิธิ รวมถึงเป็นแหล่งในการกระจายข่าวบนโลกออนไลน์โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดคือเดือนสิงหาคม 2562 นักวิทยาศาสตร์รายนี้ยังเคยพูดถึงเรื่องพลาสม่าในเว็บไซต์มูลนิธิของตัวเองเมื่อปี 2559 และเป็นที่น่าแปลกว่าชื่อของคนๆ นี้ ไม่เคยปรากฏอยู่บนสื่อหลักต่างประเทศเลย มีแต่ในแพลตฟอร์ม Pinterest เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม พบเฟซบุ๊กเพจที่เกี่ยวกับผู้ตกเป็นเหยื่อของนักวิทยาศาสตร์รายนี้ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของผู้ที่ฟ้องร้อง หลังถูกหลอกให้ซื้อเหรียญหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ขายในเว็บไซต์มูลนิธิ โดยมี Wordpress เผยแพร่เมื่อปี 2560 เปิดเผยว่า นักวิทยาศาสตร์รายนี้ถูกศาลอาญา ประเทศเบลเยียม พิจารณาให้จำคุก 30 เดือน ส่วนภรรยาที่ชื่อแคโรลิน่าถูกตัดสินให้จำคุก 24 เดือน ในข้อหากระทำซึ่งด้านการเภสัชกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต หรือเข้าใจได้ง่ายๆว่าเป็น “หมอเถื่อน” หลังทำการผลิตยาเพื่อจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาต นั่นหมายความว่า ข่าวปลอมเรื่อง “น้ำพลาสม่า” รักษาโควิด มาจากนักต้มตุ๋นชาวอิหร่าน ซึ่งคาดว่าหากพ้นโทษจำคุก 30 เดือนแล้ว นี่คือการเคลื่อนไหวอีกครั้งของเขา และเขาก็ยังมารูปแบบเดิมคือ ผลิตน้ำพลาสม่าเพื่อดื่มและอาบ แม้คนไทยจะไม่ใช่เป้าหมายในการหลอกขายน้ำพลาสม่าของเขาก็ตาม ซึ่งในอนาคตการตรวจสอบต้นตอข่าว (Recheck) ที่เกี่ยวกับการรักษาไวรัสโควิด-19 แบบแปลกๆพิศดาร ซึ่งแม้จะมีมาจากต่างประเทศก็อาจเป็นไปได้ว่าเป็นข่าวปลอมที่ถูกปล่อยออกมาจากนักต้มตุ๋นที่ดักรอเหยื่อให้มีเหยื่อที่หลงเชื่อพลาดเข้าไปชมสุชญา ชูจันทร์• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยอย่าเชื่อข้อมูลเท็จ ยืนตากแดดไม่ฆ่าเชื้อโควิดหนึ่งในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการส่งมาให้ cofact.org ตรวจสอบ และพบว่าเป็นข่าวปลอมที่ถูกนำมาแชร์ซ้ำคือประเด็นการยืนตากแดดจะสามารถฆ่าเชื้อได้ 28 มี.ค.2563 เป็นครั้งแรกที่โซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูลว่าการยืนตากแดดสามารถช่วยฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ โดยมีคนแสดงความคิดเห็นว่า อยากให้มีการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาตากแดดตอนเช้า เพื่อให้แดดฆ่าเชื้อโรคเหมือนนักเรียนสมัยก่อน เพราะเชื่อว่าเชื้อโรคชอบความเย็นมากกว่าความร้อน ซึ่งครั้งนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมายืนยันว่า การยืนตากแดดไม่สามารถช่วยให้ต้านเชื้อโควิด-19 ได้จริง กระทั่ง 13 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา ประเด็นนี้ถูกนำมาแชร์ในโลกออนไลน์อีกครั้งหนึ่ง โดยระบุว่ายืนตากแดด วันละ 20 นาทีช่วยฆ่าเชื้อ โควิด-19 ได้ คราวนี้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกมายืนยันอีกรอบว่าประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลเท็จ กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า กรณีชวนเชื่อเคล็ดลับฆ่าเชื้อโควิด-19 โดยระบุว่าให้แสงแดดชโลมทั่วตัววันละ 20 นาทีทุกวัน (หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้) แสงแดดจะไปเสริมภูมิคุ้มกันฆ่าเชื้อโควิด-19 ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการยืนตากแดดนั้นสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ โดยเชื้อไวรัสตระกูลโควิด-19 นั้นสามารถทนทานต่อความร้อนได้ถึง 90 องศา ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความร้อนจากแสงแดดนั้น มีความร้อนไม่ถึง 90 องศาแน่นอน แม้จะมีการยืนยันจากกรมควบคุมโรคแล้ว แต่ในเวลาไม่ถึงเดือน วันที่ 5 ม.ค. 2564 ก็มีการนำประเด็นนี้มาแชร์ซ้ำอีกในสื่อโซเชียลมีเดีย ด้วยข้อความเดิมๆว่า ให้ยืนตากแดด วันละ 20 นาทีจะช่วยฆ่าโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้กรมควบคุมโรคให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการแชร์ต่อ โดยระบุว่ามีข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้า พบว่าไวรัสชนิดนี้จะตายเมื่อโดนความร้อนที่อุณหภูมิ 56 องศาเซลเซียส เป็นเวลานานต่อเนื่อง 30 นาที ซึ่งแสงแดดไม่สามารถทำให้เกิดความร้อนในระดับนี้ได้ อีกทั้งผิวหนังของมนุษย์ก็ไม่สามารถทนทานต่อความร้อนและแสงแดดได้นานเช่นกัน ดังนั้น การตากแดดหรืออาบแดดจึงไม่สามารถรักษาและฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ โดยความร้อนจากแสงแดดนั้น มีไม่ถึง 90 องศาแน่นอน สรุปการแชร์บนโลกออนไลน์ซ้ำๆ ในประเด็นยืนตากแดด เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เนื่องจาก ไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการยืนตากแดดนั้นสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ โดยเชื้อไวรัสตระกูลโควิด-19 นั้นสามารถทนทานต่อความร้อนได้ถึง 90 องศา แต่ความร้อนจากแสงแดดนั้นไม่ถึง 90 องศาสุชญา ชูจันทร์• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กระเทียมดำมีฤทธิ์ใช้ป้องกันโรคมะเร็งในคนได้ตามที่มีคำแนะนำเกี่ยวกับประเด็นเรื่องกระเทียมดำมีฤทธิ์ใช้ป้องกันโรคมะเร็งในคนได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความโดยระบุว่ากระเทียมดำมีฤทธิ์ใช้ป้องกันโรคมะเร็งในคนได้ ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันแน่ชัดจากการศึกษาวิจัยที่ระบุว่ากระเทียมดำสามารถป้องกันโรคหรือปริมาณรับประทานที่สามารถป้องกันมะเร็งในคนได้ โดยกระเทียมดำ หมายถึงกระเทียมสดที่ผ่านกระบวนการหมักบ่มเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ทำให้กระเทียมเปลี่ยนเป็นสีดำ มีเนื้อสัมผัส กลิ่นรส และสารสำคัญในกระเทียมเปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่ากระเทียมดำมีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง แต่งานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นการศึกษาในระดับห้องปฏิบัติการหรือในสัตว์ทดลองเท่านั้น ควรเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์กระเทียมดำที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันการได้รับสารปนเปื้อนอื่น ๆ การรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีรายงานหลักฐานที่ยืนยันแน่ชัดจากการศึกษาวิจัย ที่ระบุว่ากระเทียมดำสามารถป้องกันโรคมะเร็งในคนได้Mumimumi• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ดื่มน้ำอุ่นแช่มะนาวฝาน ช่วยรักษามะเร็งตามที่ได้มีข้อมูลปรากฏในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องดื่มน้ำอุ่นแช่มะนาวฝาน ช่วยรักษามะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ หลังจากที่มีการแนะนำโดยระบุว่าดื่มน้ำอุ่นแช่มะนาวฝาน ช่วยรักษามะเร็ง ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าดื่มน้ำอุ่นแช่มะนาวฝานไม่ได้มีคุณสมบัติในการที่จะไปยังยั้งหรือฆ่าเซลล์มะเร็งแต่อย่างใด และจากข่าวที่บอกว่าน้ำอุ่นแช่มะนาวฝานจะเป็นด่าง จากการทดลองโดยใช้เครื่องวัดความเป็นกรดด่าง พบว่าน้ำมะนาวในน้ำต้มสุก มีค่า PH 3.17 ไม่ได้เป็นด่างอย่างที่กล่าว บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การดื่มน้ำอุ่นแช่มะนาวฝานไม่ได้มีคุณสมบัติในการที่จะไปยังยั้งหรือฆ่าเซลล์มะเร็งแต่อย่างใดมะเร็งMumimumi• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ริดสีดวงเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับประเด็นเรื่องริดสีดวงเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีคำเตือนที่ระบุว่า เป็นริดสีดวงจะทำให้มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โรคริดสีดวงไม่ได้เป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งริดสีดวง เป็นโรคที่เกิดจากเส้นเลือดดำทวารหนัก หรือส่วนปลายสุดของลำไส้ใหญ่มีการบวมพองยื่นนูนเป็นติ่งออกมาจากทวารหนัก สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ริดสีดวงภายใน เกิดบริเวณเนื้อเยื่อทวารหนักที่อยู่สูงกว่าระดับหูรูดทวารหนัก และริดสีดวงภายนอก เกิดบริเวณทวารหนักส่วนล่าง มีอาการนูนเป็นติ่งออกจากทวารหนัก โดยปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้แก่ การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานเนื้อแดง เนื้อแปรรูป เป็นประจำ อาหารกากใยน้อย อาหารปิ้งย่างรมควัน ตลอดจนขาดการออกกำลังกาย เป็นต้น และอาการของโรคที่พบบ่อย ได้แก่ การถ่ายอุจจาระมีมูกปนเลือดหรืออาจถ่ายเป็นเลือดสด ๆ มีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง / ถ่ายไม่สุด ขนาดของลำอุจจาระเล็กลง และมีอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด จุกเสียด เป็นต้น บทสรุปของเรื่องนี้คือ : โรคริดสีดวงไม่ได้เป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ คือ การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานเนื้อแดง เนื้อแปรรูป อาหารกากใยน้อย เป็นประจำ เป็นต้นมะเร็งMumimumi• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! น้ำตาลเทียมทำให้เกิดการก่อตัวของโรคมะเร็งตามที่มีข่าวสารเผยแพร่เรื่องน้ำตาลเทียมทำให้เกิดการก่อตัวของโรคมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีผู้โพสต์ให้ข้อมูลว่า น้ำตาลเทียมทำให้เกิดการก่อตัวของโรคมะเร็ง ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การบริโภคน้ำตาลเทียมไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งในมนุษย์ ซึ่งน้ำตาลเทียม หรือสารให้ความหวาน (Artificial Sweeteners) เป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ผลิตขึ้นมาเพื่อแต่งเติมรสชาติหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่มแทนน้ำตาลธรรมชาติ โดยตัวอย่างน้ำตาลเทียมที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรด้านอาหารและยาในหลายประเทศว่า มีความปลอดภัยสามารถใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลได้ เช่น แอสปาร์แตม ขัณฑสกร หรือแซคคาริน , น้ำตาลหญ้าหวาน หรือสตีเวีย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคน้ำตาลเทียมในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US – FDA) ได้กำหนดปริมาณสูงสุดต่อวันที่สามารถบริโภคน้ำตาลเทียมได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เกิดอันตรายใด ๆ (Acceptable Daily Intake; ADI) ซึ่งน้ำตาลเทียมแต่ละชนิดจะมีค่า ADI ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น แอสปาร์แตมสามารถบริโภคได้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน เป็นต้น สำหรับผู้ที่ต้องการลดบริโภคน้ำตาล ควรจำกัด หรือค่อย ๆ ลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลลงให้เป็นความเคยชิน เนื่องจากการบริโภคน้ำตาลเทียมเป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งในการควบคุมปริมาณน้ำตาลของร่างกายเท่านั้น นอกจากนี้ผู้บริโภคควรศึกษาถึงข้อควรระวัง หรือข้อจำกัดในการบริโภคน้ำตาลเทียมแต่ละชนิดอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนการบริโภคน้ำตาลเทียม บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การบริโภคน้ำตาลเทียมไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งในมนุษย์ ซึ่งน้ำตาลเทียมหรือสารให้ความหวาน (Artificial Sweeteners) เป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ผลิตขึ้นมาเพื่อแต่งเติมรสชาติหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่มแทนน้ำตาลธรรมชาติมะเร็งMumimumi• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็งตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากที่มีการแชร์ข้อความบนสื่อออนไลน์ว่า เม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้นมีสารสไตรีน และสารกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ; PCBs) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งได้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง จากที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไต้หวันได้มีการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีสารสไตรีน (Styrene) แต่พบสารอะซิโตฟีโนน (Acetophenone) และสารประกอบกลุ่มโพลีโบรมีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polybrominated Biphenyl ; PBBs) ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก แต่ไม่ใช่สารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ; PCBs) จึงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งอย่างที่ได้มีการแชร์ โดยเม็ดชานมไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง การกินเม็ดชานมไข่มุกก็เหมือนการกินแป้ง จึงยังสามารถกินชานมไข่มุกได้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่ากลัว คือการกินชานมไข่มุกในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจได้ เพราะนอกจากในเม็ดไข่มุกจะประกอบไปด้วยแป้งมันสำปะหลังแล้วนั้น ในน้ำชานมยังประกอบไปด้วยน้ำตาล น้ำเชื่อม ครีมเทียม นมข้นหวาน ซึ่งจัดได้ว่าชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูง และมีคุณค่าทางสารอาหารน้อย จึงควรกินชานมไข่มุกนาน ๆ ครั้งเท่านั้น หรือหากต้องการกินอาจลดปริมาณน้ำตาล หลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมในชานมไข่มุก บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เม็ดชานมไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง หากกินเม็ดชานมไข่มุกก็เหมือนการกินแป้ง อีกทั้งไม่พบว่ามีสารสไตรีน และสารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล จึงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งตามที่มีการแชร์ข้อมูลแต่อย่างใดมะเร็งMumimumi• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเหยื่อร้อง ตร.เชียงใหม่ ถูกหลอกขาย "ที่ดินทิพย์" สูญเงินกว่า 100 ล้าน12 มิถุนายน 2566 ที่ จ.เชียงใหม่ ผู้เสียหายจากการถูกหลอก ซื้อที่ดินทิพย์ ในจังหวัดเชียงใหม่ กว่า 200 คน เข้าร้องเรียน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่ จากกรณีที่ เจ้เปิล นางพิชามญชุ์ และ สามีได้ ขายที่ดินจัดสรร ในราคาถูกภาคเหนือผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48187• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยบ.อาหารเสริมผิวขาว อ้างเป็นของปลอม หลังหญิง 19 ปีกินตรวจเจอสารเสพติดเด็กหญิงวัย 19 ปี ไปตรวจสุขภาพ เพื่อเตรียมก่อนเข้าเรียนคณะเภสัช แต่ผลตรวจกลับพบสาร ”เมทแอมเฟตามีน” (สารในยาบ้า) ในปัสสาวะ ไม่ผ่านการตรวจโรคเข้าเรียน คาดผสมมาในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อผิวขาวที่ซื้อมากินจากอินเตอร์เน็ตความสวยความงามภาคอีสานผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48187• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยที่ประชุมทีมโฆษกทุกสังกัดเห็นชอบ โต้ข่าวปลอม ด้วยความจริงให้เร็วที่สุดโฆษกรัฐบาล ประชุมคณะกรรมการโฆษกกระทรวง กรมประชาสัมพันธ์ และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย รับทราบข้อสั่งการนายกฯ จัดการข่าวปลอม ให้ตอบโต้ด้วยข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุดข่าวการเมืองpotter17652• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยธนกร ป้อง นายกฯ ยันโบกมือในงานเอเปค 2017 ขอ ปชช.รับข่าวสารอย่างมีสติโฆษกรัฐบาลวอนประชาชนรับข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ แจงนายกฯ ร่วมโบกมือพร้อมกับผู้นำประเทศอื่นๆ ด้วย แต่ลดมือลงก่อน ทำให้ถูกมือดีหยิบไปบิดเบือน ยันบิ๊กตู่ ไม่ได้มีปัญหากับภาษาอังกฤษข่าวการเมืองpotter17652• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยครม. ไฟเขียวตั้งศูนย์ปราบข่าวปลอมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ป้องยั่วยุทำแตกแยกครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ตั้งศูนย์ปราบปรามและแก้ไขปัญหาข่าวปลอม ทั้งส่วนกลาง, กระทรวง และจังหวัด ป้องกันการยั่วยุ สร้างความแตกแยกในสังคม ทำลายภาพลักษณ์ประเทศข่าวการเมืองpotter17652• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยศาลสูงในบราซิล ปลดคำสั่งแบนการเข้าถึงแอปพลิเคชัน Telegramหลังจากเทเลแกรม (Telegram) มีปัญหากับศาลสูงในประเทศบราซิล ส่งผลให้ศาลระงับการเข้าถึงแอปเทเลแกรมในประเทศ ผ่านไป 2 วัน เทเลแกรมยอมปรับปรุงตามคำสั่งของศาล ก่อนที่การแบนจะถูกยกเลิกในที่สุดข่าวการเมืองpotter17652• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอาหารอุ่นไมโครเวฟ อันตรายแถมเสี่ยงมะเร็งมีหลักการทำงานโดยการปล่อยรังสีเป็นคลื่นไปกระทบอาหาร ทำให้โมเลกุลน้ำทั้งภายใน และนอกอาหารสั่น และเสียดสีกันจนเกิดเป็นความร้อนสะสม จากนั้นพลังงานดังกล่าวจะสลายตัวไปมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47904• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็งเม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้นมีสารสไตรีน และสารกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีลซึ่งทำให้เกิดมะเร็งได้มะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47904• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยช่วงประจำเดือนมีอาการปวดศีรษะ ตึงผิว ตัวร้อน เนื่องจากสารเคมีสะสมที่ตับ ตกค้างที่เอ็นช่วงมีประจำเดือนมีอาการปวดศีรษะ ตึงผิว และตัวร้อน เนื่องจากมีสารเคมีสะสมที่ตับ ตกค้างที่เอ็นจำเพาะต่อโรค หรือมีความสัมพันธ์ไปตับณัฏฐวรีย์ ไชยวัตร• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์เพิ่มความสูงSuper Height ที่ใช้ข้อความโฆษณาแสดงสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่าสามารถช่วยเพิ่มความสูง บำรุงกระดูก และเสริมภูมิคุ้มกันได้นั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบสืบค้นข้อมูลผลิตภัณฑ์ ไม่พบข้อมูลการอนุญาตผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยโฆษณาผลิตภัณฑ์ดังกล่าว แสดงสรรพคุณของผลิตภัณฑ์มีการใช้ข้อความเป็นข้อมูลเท็จ โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47904• 2 ปีที่แล้ว
- 10 คนสงสัยดื่มน้ำโซดาช่วยทำให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้นดื่มน้ำโซดาช่วยทำให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้นนั้น น้ำ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร อีกทั้งการดื่มโซดาช่วยย่อยอาหารได้ ซึ่งโซดามีฤทธิ์เป็นกรดเล็กน้อยลดความอ้วนณัฏฐวรีย์ ไชยวัตร• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมหน้าขาวภายใน7วัยผลิตภัณฑ์ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ช่วยบำรุงให้หน้าขาวใส และลดจุดด่างดำ ขาวภายใน7วันความสวยความงามภาคใต้std47904• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยกินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็งเม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้นมีสารสไตรีน และสารกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ; PCBs) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งได้มะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังณัฏฐวรีย์ ไชยวัตร• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยน้ำกระท่อมถูกกฏหมายในกรณีที่กระท่อมถูกปลดล็อคเป็นพืชเสรีจึงมีการซื้อขายกันมากขึ้นโดยจะมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกระท่อมมากขึ้นหนึ่งในนั้นคือน้ำกระท่อมยาสมุนไพรมีมณัฏฐวรีย์ ไชยวัตร• 2 ปีที่แล้ว