13481 ข้อความ
- 1 คนสงสัยโรงพยาบาลสงฆ์ กำลังขาดแคลนสิ่งของจำเป็นวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 เพจเฟสบุ๊ค "โรงพยาบาลสงฆ์ PriestHospital" ขอประชาสัมพันธ์ จากกรณีที่มีข้อความ โพสและส่งต่อแชร์ข้อความตามสื่อออนไลน์ต่างๆ ขอรับบริจาคของโรงพยาบาลสงฆ์ ว่ากำลังขาดแคลนสิ่งของจำเป็นโรงพยาบาลสงฆ์ ขอชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลสงฆ์ ไม่ได้ขาดแคลนสิ่งของตามที่ต้นทางระบุ เนื่องจากยังมีข่าวปลอมเรื่อง รพ.สงฆ์ ขาดแคลน เครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับพระอาพาธออกมาอยู่อย่างต่อเนื่องขอได้โปรด อย่าหลงเชื่อและติดตามข้อมูลสิ่งที่ควรบริจาคและเว้นการบริจาคให้ website ของ รพ.สงฆ์เองเท่านั้นstd48066• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมการจัดหางาน เปิดโครงการ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ให้คนไทยมีรายได้เสริมกรณีที่มีการโฆษณาว่า กรมการจัดหางาน เปิดโครงการ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ให้คนไทยมีรายได้เสริม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จstd48074• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอมตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000บาท/เดือนstd48090• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมพัฒนาธุรกิจฯ รับสมัครพนักงานนำเที่ยว รายได้ 1,500 บาท/วันกรณีที่มีการโฆษณาข้อมูลว่า กรมพัฒนาธุรกิจฯ รับสมัครพนักงานนำเที่ยว รายได้ 1,500 บาท/วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ตามที่มีข่าวสารเผยแพร่เกี่ยวกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับสมัครพนักงานแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว รายได้ 430 – 1,500 บาทต่อวัน ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นหน่วยงานราชการ ไม่มีนโยบายเปิดรับสมัครงานในลักษณะดังกล่าว และ กรมฯ ไม่เคยสนับสนุน หรืออนุญาตให้นำโลโก้ กรมฯ ไปใช้เป็นการอ้างอิงในเชิงพาณิชย์ เพื่อเปิดรับสมัครงานในลักษณะดังกล่าวstd48089• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการหลงเชื่อข่าวปลอมเกี่ยวกับอายุหรือไม่ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ข่าวปลอมกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหนึ่งแต่ด้วยประเด็นที่แตกต่างออกไปจากช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาซึ่งข่าวปลอมส่วนใหญ่โฟกัสอยู่ที่เรื่องการระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนในระหว่างการเลือกตั้งที่สหรัฐอเมริกาข่าวปลอมโฟกัสที่เรื่องการเมืองเป็นหลัก แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า การเมืองมีผลต่อการควบคุมการระบาดของโรคและการระบาดของโรคก็มีผลต่อการเมืองเช่นกันstd48064• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงกรณีที่มีการแชร์ข้อความว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิง ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฝีดาษลิงแต่อย่างใด โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae จัดอยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เชื้อไวรัสฝีดาษลิงพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า เป็นต้น รวมทั้งคนก็สามารถติดโรคได้ จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน การประกอบอาหารจากเนื้อสัตว์ป่า หรือกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ หรืออาจติดทางอ้อมจากการสัมผัสที่นอนของสัตว์ป่วย การแพร่เชื้อจากคนสู่คนแม้มีโอกาสน้อย แต่อาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ผิวหนังที่เป็นตุ่ม หรืออุปกรณ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อstd48066• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็งตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากที่มีการแชร์ข้อความบนสื่อออนไลน์ว่า เม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้นมีสารสไตรีน และสารกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ; PCBs) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งได้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง จากที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไต้หวันได้มีการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีสารสไตรีน (Styrene) แต่พบสารอะซิโตฟีโนน (Acetophenone) และสารประกอบกลุ่มโพลีโบรมีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polybrominated Biphenyl ; PBBs) ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก แต่ไม่ใช่สารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ; PCBs) จึงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งอย่างที่ได้มีการแชร์ โดยเม็ดชานมไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง การกินเม็ดชานมไข่มุกก็เหมือนการกินแป้ง จึงยังสามารถกินชานมไข่มุกได้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่ากลัว คือการกินชานมไข่มุกในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจได้ เพราะนอกจากในเม็ดไข่มุกจะประกอบไปด้วยแป้งมันสำปะหลังแล้วนั้น ในน้ำชานมยังประกอบไปด้วยน้ำตาล น้ำเชื่อม ครีมเทียม นมข้นหวาน ซึ่งจัดได้ว่าชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูง และมีคุณค่าทางสารอาหารน้อย จึงควรกินชานมไข่มุกนาน ๆ ครั้งเท่านั้น หรือหากต้องการกินอาจลดปริมาณน้ำตาล หลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมในชานมไข่มุกดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หรือหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1556std48089• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวเท็จกรมการจัดหางาน เปิดโครงการ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ให้คนไทยมีรายได้เสริมstd48090• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็งตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขtanchanuk2551• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอมหลอกขายผู้สูงวัย เฟคนิวส์ซ้ำๆ “โรคความจำเสื่อมปี 2563 มีข่าวปลอมที่เกี่ยวกับสุขภาพแบบเฉพาะด้านหลายประเด็นน่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือการแชร์เกี่ยวกับวิธีรักษาอาการความจำเสื่อม เช่น ตรวจสมองเสื่อมด้วยการกดนิ้ว การงีบหลับระหว่างวันสามารถป้องกันความจำเสื่อม หรือแม้แต่การใช้อลูมิเนียมฟอยล์ปิ้งย่างเมื่อโดนความร้อนแคลเซียมจะถูกทำลายส่งผลให้สมองเสื่อม ฯลฯstd48064• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำข้าวผสมไข่ขาวดิบ ช่วยบำรุงและรักษาไตเสื่อมตามที่มีคลิปวิดีโอแนะนำเกี่ยวกับประเด็นเรื่องดื่มน้ำข้าวผสมไข่ขาวดิบ ช่วยบำรุงและรักษาไตเสื่อม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จstd48076• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกาละเเมร์โฆษณาอาหารเสริมเกินจริงเห็นผลได้เร็วคั้งเเต่1กล่องโดยบอกว่ากรอบหน้าชัด เหนียงหาย หน้ายก ตาไม่เคยตก เป็นตา2ชั้นรอยขมวดคิวหายstd48094• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือนจากที่มีข้อมูลด้านการเงินเกี่ยวกับเรื่องตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าเพจดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จstd48074• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กฟผ. ชวนลงทุนกองทุนพลังงานหมุนเวียน ผ่าน LINE OAตามที่มีการส่งต่อข้อความเกี่ยวกับเรื่อง กฟผ. ชวนลงทุนกองทุนพลังงานหมุนเวียน ผ่าน LINE OA ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงพลังงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จtanchanuk2551• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโรคมะเร็ง” ที่สุดแห่งข่าวปลอม การหลอกลวงที่เล่นกับความหวัง9 เดือนที่ผ่านมา กับการตรวจสอบข้อมูลข่าวปลอมที่ถูกนำมาแชร์บนโลกออนไลน์ของเว็บไซต์ “ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง” หรือ Anti Fake Cancer News (AFCN) ซึ่งสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ตั้งขึ้นมาเพื่อทำงานเชิงรุกบนโซเชียลมีเดีย ประสานกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม Anti Fake News Center (AFNC) ประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้รับการตอบรับจากสังคมเป็นอย่างมาก มีประสิทธิผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะในหลายๆประเด็นเมื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งออกมาให้ความชัดเจน ก็สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับชาวบ้านได้ในทันทีstd48064• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! สรรพสามิตเตรียมแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับเรื่องสรรพสามิตเตรียมแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลที่ปรากฏนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีผู้โพสต์เฟซบุ๊กโดยระบุว่า สรรพสามิตเตรียมแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ ทางกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า กรมฯ ไม่มีนโยบายในการปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่แต่อย่างใด ซึ่งนโยบายการจัดเก็บภาษีนั้น กรมฯ จะมุ่งเน้นการจัดทำนโยบายสำหรับสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับ ESG/BCG โดยจะมีการกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตให้ชัดเจน จากนั้นจึงจะกำหนดอัตราภาษี ทั้งนี้ หากสินค้า หรือบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีผลกระทบต่อสังคม และมีธรรมาภิบาล จะถูกจัดเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำ หรืออาจจะไม่ถูกจัดเก็บภาษีเลย แต่ถ้าเป็นสินค้าที่ทำลายสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จะมีหลักการในการจัดเก็บภาษีให้สูงขึ้น ซึ่งกรมสรรพสามิตได้ดำเนินการศึกษาเพื่อพัฒนาปรับปรุงนโยบายภาษีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อบรรลุเป้าหมายองค์กรstd48089• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโควิด-19 : นมตราหมี ยาฆ่าพยาธิ และน้ำมันหอมระเหย กับข่าวปลอมการรักษาไวรัสในอินโดนีเซียในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตากำลังพุ่งสูงในอินโดนีเซีย ข้อมูลเท็จเกี่ยวการรักษาและป้องกันการติดเชื้อแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เพิ่มสูงเป็นเงาตามตัวstd48081• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์อาการเสริมผลิตภัณฑ์อาหารเสริม "เซ็กซ์ อิท อัพ" อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงและรหัส อย. เป็นเลขปลอมอย. เพิกถอนstd48076• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือนจากที่มีข้อมูลด้านการเงินเกี่ยวกับเรื่องตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าเพจดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีผู้โพสต์เชิญชวนโดยระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือน ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้เชิญชวนลงทุนหุ้นโดยให้รับเงินปันผล 30,000 บาทต่อเดือนแต่อย่างใด และเพจดังกล่าวที่ลงโฆษณานั้นมีการแอบอ้างชื่อ โลโก้ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วยstd48089• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็งในอเมริกาShi S และคณะได้ตีพิมพ์งานวิจัยเพื่อประเมินแนวโน้มการแพร่กระจายข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็ง ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ Cureus เดือนมกราคม 2019มะเร็งยาสมุนไพรstd48081• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเทคนิคการทำ IF ให้ถูกวิธี ลดจริง ไม่ทรมาน และไม่เสียสุขภาพการทำ IF เป็นเทคนิคการลดน้ำหนัก และลดไขมันที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน แต่หลายครั้งที่อ่านรีวิวพบว่าบางคนทำแล้วเห็นผลไว บางคนทำแล้วไม่เห็นผล แถมยังโยโย่ นั่นเป็นเพราะการทำ IF ไม่ดีหรือเปล่า? สำหรับมือใหม่หัดทำ IF และคนที่ทำ IF มาพักได้ใหญ่ๆ แต่รู้สึกทรมานกับการอดอาหาร เครียด วิตกกังวล หรือมีอาการโยโย่ นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังทำ IF ผิดวิธี วันนี้ OfficeMate จะพาไปขจัดความเชื่อผิดๆ ของการทำ IF พร้อมเทคนิคการทำ IF แบบถูกต้อง ทำแล้วเห็นผล ลดจริง แถมไม่ทรมาน ไปดูกันเลย! IF คืออะไร? IF เรียกเต็มๆ ว่า Intermittent Fasting การทำ IF เป็นเทคนิคการลดน้ำหนัก และลดไขมันโดยจำกัดเวลาการกินอาหาร ช่วงที่กิน เราเรียกว่า Feeding และช่วงอดอาหารจะเรียกว่า Fasting ในช่วง Fasting หรือช่วงที่อดอาหารนั้น ตามหลักการแล้วจะสามารถดื่มได้แต่น้ำเปล่า หรือกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาล เมื่อเราอดอาหาร ร่างกายจะได้หยุดพักจากการย่อย ระดับอินซูลินในร่างกายจะลดลง ส่งผลให้ระดับโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เพิ่มสูงขึ้น (ฮอร์โมน 2 ตัวนี้ ทำงานคนละเวลากัน) ซึ่งโกรทฮอร์โมนนี้ มีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย ช่วยเบิร์นไขมัน และร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ การทำ IF จึงช่วยลดน้ำหนัก และลดไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายลงได้ ประโยชน์ของการทำ IF ช่วยลดน้ำหนัก และลดไขมันสะสม ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ช่วยลดการอักเสบของร่างกาย เนื่องจากร่างกายมีเวลาซ่อมแซมตัวเองเพิ่มขึ้น ในช่วง Fasting ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจ เบาหวาน ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำให้สุขภาพดีขึ้น ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินได้ดีขึ้น (ร่างกายดื้ออินซูลิน เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยน้ำตาล เป็นสาเหตุทำให้มะเร็งโตหรือไม่ความคิดที่ว่าเซลล์มะเร็งเจริญเติบโตใน น้ำตาล มีมาตั้งแต่ปี 1924 ของ ดร. Otto Warburg’s ในชื่อเรื่องว่า “On Metabolism of Tumors” Warburg ซึ่งได้รับรางวัลโนเบล ในสาขานักชีววิทยาด้านเซลล์ ในงานวิจัยที่มหาวิทยาลัย Duke เซลล์มะเร็งจะใช้น้ำตาลในอัตราที่สูงเพื่อที่จะไม่ทำตามคำสั่งของเซลล์เพื่อที่จะถูกทำลาย ตามวงจรเหมือนเซลล์ทั่วไป ที่จะตายลงเมื่อถึงเวลา ทำให้มีความเชื่อว่าการงดกินน้ำตาลจะทำให้เซลล์มะเร็งไม่เติบโต อันที่จริงแล้วการงดน้ำตาลโดยเด็ดขาด จะทำให้เซลล์ปกติเองก็อ่อนแอไปด้วย เพราะเซลล์ปกติก็ต้องการน้ำตาลในมื้ออาหารเช่นกัน การทำให้เซลล์ทั้งหมดขาดน้ำตาลจะไม่ฆ่าหรือป้องกันมะเร็งอย่างที่คิด แต่อาจจะทำให้เราขาดภาวะสมดุลทางโภชนาการของ ร่างกายอ่อนแอ และอาจเป็นสาเหตุการลุกลามของมะเร็งมากกว่า สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือเราควรรับประทานน้ำตาลธรรมชาติบ้างในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำผลไม้ธรรมชาติ แต่ควรลดการเติมแต่งจากน้ำตาลเสริม เช่น ขนมหวาน การทานกาแฟเติมน้ำตาลมากๆ กล่าวง่ายๆ การทานน้ำตาลเกินความจำเป็นของร่างกาย จะเป็นการไปเสริมการเติบโตของมะเร็ง แต่หากเราทานน้ำตาลธรรมชาติเพียงพอแก่ร่างกายไปใช้ ย่อมทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอและแข็งแรงขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้นผู้ป่วยมะเร็งไม่ควรทานอาหารรสหวานจัด และรวมถึงผู้ที่ยังไม่ป่วย จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงมะเร็ง และโรคอื่น ๆ อีกมากมายเช่นกันน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเล่นมือถือจนหน้าเบี้ยวที่ 6 มี.ค.66 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย | Anti-Fake News Center Thailand แจ้งว่า ตามที่มีข้อมูลในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องเล่นมือถือนาน ๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูป ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีข้อมูลเตือนว่าการเล่นมือถือเป็นระยะเวลานาน จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ หน้าผิดรูป ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน โดยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เมื่อมีความผิดปกติของเส้นประสาทจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือมีลักษณะขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น มักเป็นใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย เช่น เกิดตามหลังอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทโดยตรง, การติดเชื้อบริเวณต่อมน้ำลายใกล้ๆเส้นประสาท, การพบเนื้องอกกดเบียดเส้นประสาท หรือเกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาทเอง (Bell’s palsy) เป็นต้น สำหรับภาวะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือ Bell’s palsy นั้น การอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าวเกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีสาเหตุที่สรุปได้ชัดเจน แต่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดขึ้นเร็วระยะเวลาภายใน 48 ชั่วโมง เช่น กล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก รับประทานอาหารและดื่มน้ำลำบาก ร่วมกับอาจมีอาการหูข้างนั้นได้ยินเสียงก้องกว่าปกติ รับรสผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยภาวะดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ โดยการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการรักษาด้วยยาหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงแรกที่มีอาการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าในระยะยาว ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ การพักผ่อนน้อย ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขแอคปลอมNutt Tahom• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็งจากที่มีการแชร์ข้อความบนสื่อออนไลน์ว่าเม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้นมีสารสไตรีน และสารกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ;PCBs) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งได้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง จากที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไต้หวันได้มีการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีสารสไตรีน (Styrene) แต่พบสารอะซิโตฟีโนน (Acetophenone) และสารประกอบกลุ่มโพลีโบรมีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polybrominated Biphenyl;PBBs) ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก แต่ไม่ใช่สารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ;PCBs) จึงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งอย่างที่ได้มีการแชร์ โดยเม็ดชานมไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง การกินเม็ดชานมไข่มุกก็เหมือนการกินแป้ง จึงยังสามารถกินชานมไข่มุกได้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่ากลัว คือการกินชานมไข่มุกในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจได้ เพราะนอกจากในเม็ดไข่มุกจะประกอบไปด้วยแป้งมันสำปะหลังแล้วนั้น ในน้ำชานมยังประกอบไปด้วยน้ำตาล น้ำเชื่อม ครีมเทียม นมข้นหวาน ซึ่งจัดได้ว่าชานมไข่มุก เป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่สูง และมีคุณค่าทางสารอาหารน้อย จึงควรกินชานมไข่มุกนาน ๆ ครั้งเท่านั้น หรือหากต้องการกินอาจลดปริมาณน้ำตาล หลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมในชานมไข่มุกมีมน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม! เล่นมือถือนานๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูปวันที่ 6 มี.ค.66 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย | Anti-Fake News Center Thailand แจ้งว่า ตามที่มีข้อมูลในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องเล่นมือถือนาน ๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูป ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีข้อมูลเตือนว่าการเล่นมือถือเป็นระยะเวลานาน จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ หน้าผิดรูป ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน โดยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เมื่อมีความผิดปกติของเส้นประสาทจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือมีลักษณะขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น มักเป็นใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย เช่น เกิดตามหลังอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทโดยตรง, การติดเชื้อบริเวณต่อมน้ำลายใกล้ๆเส้นประสาท, การพบเนื้องอกกดเบียดเส้นประสาท หรือเกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาทเอง (Bell’s palsy) เป็นต้น สำหรับภาวะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือ Bell’s palsy นั้น การอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าวเกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีสาเหตุที่สรุปได้ชัดเจน แต่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดขึ้นเร็วระยะเวลาภายใน 48 ชั่วโมง เช่น กล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก รับประทานอาหารและดื่มน้ำลำบาก ร่วมกับอาจมีอาการหูข้างนั้นได้ยินเสียงก้องกว่าปกติ รับรสผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยภาวะดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ โดยการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการรักษาด้วยยาหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงแรกที่มีอาการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าในระยะยาว ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ การพักผ่อนน้อย ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารล้อเลียนน้อย• 2 ปีที่แล้ว