(2461 ข้อความ)
- 2 คนสงสัยผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงมีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงManeewan Rotmala• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอมอย่าแชร์! ผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฝีดาษลิงแต่อย่างใด โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae จัดอยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เชื้อไวรัสฝีดาษลิงพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า เป็นต้นketsuda070449• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันกรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริงความสวยความงามstd48012• 2 ปีที่แล้ว
- 6 คนสงสัยผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงกรณีที่มีการแชร์ข้อความว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิง ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฝีดาษลิงแต่อย่างใด โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae จัดอยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เชื้อไวรัสฝีดาษลิงพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า เป็นต้นวัคซีนโควิดstd48064• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงstd46620• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเซรั่มที่ทำให้ดั้งโด่งภายใน7วันใช้แล้วทำให้ดั้งโด่งภายใน7วันความสวยความงามstd48135• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://today.line.me/th/v2/article/nXYkjRqไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 10 คนสงสัยข่าวปลอมอย่าแชร์! ผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงตามที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จวัคซีนโควิดชุมพล ศรีสมบัติ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโฆษกรัฐบาล" เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพ อ้าง "คนละครึ่ง" เฟส4 ล้วงข้อมูล ดูดเงินจากบัญชี ย้ำ อย่าให้ข้อมูลสำคัญ กับบุคคลอื่น หรือในออนไลน์"โฆษกรัฐบาล" เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพ อ้าง "คนละครึ่ง" เฟส4 ล้วงข้อมูล ดูดเงินจากบัญชี ย้ำ อย่าให้ข้อมูลสำคัญ กับบุคคลอื่น หรือในออนไลน์ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยลดน้ำหนักโดยการกินแต่ไข่ต้ม ดีจริงมั้ยกินไข่ต้ม สามารถช่วยเรื่องการลลดน้ำหนักได้ โดยผลการวิจัยจากศูนย์ Rochester Centre for Obesity in America และมหาวิทยาลัยลุยเซียนา ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้ออกมาทำการวิจัยพร้อมเผยว่า กินไข่เป็นอาหารเช้าสามารถช่วย จำกัด ปริมาณแคลอรี่ของคุณตลอดทั้งวัน ได้มากกว่า 400 กิโลแคลอรีลดความอ้วนkana.p93• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://twitter.com/pnvich/status/1427235960207462402?s=21ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโชว์บิลค่าไฟลงโลกโซเชี่ยล เสี่ยงมิจฉาชีพนำข้อมูลไปใช้จริงหรือจากประเด็นดราม่าค่าไฟแพง ประชาชนตั้งข้อสงสัยบิลค่าไฟรอบเดือนเมษายนว่าแพงกว่าปกติ ทำให้ผู้ใช้ไฟหลายรายได้เปรียบเทียบความต่างของบิลค่าไฟเดือนก่อนกับบิลค่าไฟเดือนล่าสุด อาจเป็นเพราะมาตรการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทำให้มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตจำนวนมากโพสต์รูปภาพบิลค่าไฟสู่โลกออนไลน์ ต่อมา เมื่อวันที่ 21 เม.ย. เพจ “กองปราบปราม” ออกมาโพสต์ข้อความเตือนประชาชนสำหรับผู้ที่โพสต์รูปภาพบิลค่าไฟ อาจถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายได้anonymous• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข้อควรระวัง! วิธีเช็ค 'เจลแอลกอฮอล์ปลอม' ต้องทำอย่างถูกวิธีคณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล ชี้แจงกรณีทดสอบเจลแอลกอฮอล์ด้วยด่างทับทิม ที่แม้สะดวกและรวดเร็ว แต่ยังมีข้อควรระวัง!โควิด 2019Ad.tar• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกรมควบคุมโรคแนะวิธีใช้สารเคมีทำความสะอาดให้เหมาะกับพื้นผิวเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19กรมควบคุมโรคบอกวิธีใช้สารเคมีทำความสะอาดให้เหมาะกับพื้นผิว เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 - ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (3% H202) 1 ส่วน ต่อน้ำ 5 ส่วน แต่ต้องระวังการกัดกร่อนพื้นผิว และการสัมผัสของร่างกาย - แอลกอฮอล์ 70% เหมาะสำหรับพื้นผิวโลหะ - ซักฟอกผสมน้ำร้อน 70 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับผ้า น้ำยาฟอกขาว หรือสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ 1 ส่วน ต่อน้ำ 10 ส่วน เหมาะสำหรับพื้นผิวที่มีละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย สารเคมีบางชนิดไม่แนะนำให้ใช้กับผิวสัมผัสร่างกาย เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเข้าดวงตา และการซักเสื้อผ้าด้วยผงซักฟอก ชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ แชมพู ก็เป็นการป้องกันแล้ว.โควิด 2019naruemonjoy• 6 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://theactive.thaipbs.or.th/read/disaster-data-provinceมีมไม่ระบุชื่อ• 8 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแอคปลอมFake Social Media Account หรือแอคเคาท์ที่พยายามเลียนแบบ หรือสวมรอยเป็นแบรนด์ค่ะ จะมีวิธีจัดการอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้แบรนด์เกิดความเสียหายได้บ้างผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมStd48567• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเมื่อวงการวิทยาศาสตร์ผลิตข้อมูลผิดๆ จนทำให้เสียรังวัดเวลาที่มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับโควิด-19 ตามแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ มักจะมีผู้ที่มาแสดงความเห็นว่าโควิด-19 ไม่มีอยู่จริง หรือบอกว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลหรือสื่อกุขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนกลัว ความเชื่อผิดๆ แบบนี้ไม่ได้มีเฉพาะคนทั่วไป แต่ยังลามไปถึงระดับปัญญาชนstd48063• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเลือดเป็นด่างมีโอกาสติดโควิด-19 ได้น้อยลงยังมีการแชร์ข้อมูลน้ำมะนาวผสมโซดา แต่คราวนี้ผสมน้ำส้มสายชูไปด้วยโดยอ้างว่าสูตรนี้ฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้แน่นอน เพราะจะไปทำลายไวรัสที่พบในลำคอโควิด 2019std46448• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเลือดเป็นด่างมีโอกาสติดโควิด-19 ได้น้อยลงเป็นเรื่องที่แชร์กันมากตั้งแต่ ไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดใหม่ ๆ เลยทีเดียว โดยมีการอ้างว่า คนที่กินเจ กินแต่ผักผลไม้ จะทำให้เลือดเป็นด่าง และเชื้อโควิด-19 จะไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ได้sg242728.no• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาจีนเหลียนฮัวชงเหวินแคปซูลรักษาโควิด-19เหลียนฮัวชิงเวินแคปซูล” ประกอบด้วยตัวยามีทั้งหมด 13 ชนิด โดยมีพื้นฐานเป็นการใช้ยาฤทธิ์เย็นผสมรสเผ็ดและรสขม เพื่อช่วยในการระบายความร้อนและขับพิษออกจากร่างกาย โดยมี เหลียนเชี่ยว 连翘、จินอิ๋นฮวา 金银花 เป็นตัวยาหลักที่ใช้ในการลดไข้ซึ่งเกิดจากพิษร้อน และใช้ร่วมกับ จื้อหมาหวง 炙麻黄、เฉ่าขู่ซิ่งเหริน 炒苦杏仁、สือเกา 石膏 เป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนชี่ของปอด เพื่อเสริมการระบายความร้อนออกสู่ร่างกาย ส่วนยาตัวอื่นๆจะทำหน้าที่เป็นตัวเสริมกลไกดังกล่าวร่วมกับการระบายความชื้นออกจากร่างกายบางส่วนโควิด 2019ยาสมุนไพรstd46640• 2 ปีที่แล้ว
- 7 คนสงสัยยืนตากแดด ฆ่าโควิด-19 ได้หนึ่งในหลายเรื่องเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการนำมาแชร์ซ้ำก็คือ การยืนตากแดดจะสามารถฆ่าเชื้อได้ ซึ่งทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการยืนตากแดดนั้นสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ เพราะเชื้อไวรัสตระกูลโควิด-19 นั้นสามารถทนทานต่อความร้อนได้ถึง 90 องศา ซึ่งความร้อนจากแสงแดดนั้นมีความร้อนไม่ถึงระดับนี้แน่นอน ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไวรัสชนิดนี้จะตายเมื่อโดนความร้อนที่อุณหภูมิ 56 องศาเซลเซียส เป็นเวลานานต่อเนื่อง 30 นาที ซึ่งแสงแดดก็ไม่สามารถทำให้เกิดความร้อนในระดับนี้ได้เช่นกันโควิด 2019Surayuth Chaiyo• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยต่อไปนี้ ทุกวันหยุด ขึ้นทางด่วนฟรี นาน 15 ปี จนถึงปี 2578ต่อไปนี้ ทุกวันหยุด ขึ้นทางด่วนฟรี นาน 15 ปี จนถึงปี 2578Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยด่วน: สวิตเซอร์แลนด์ห้ามทำแมมโมแกรม — และได้เปิดโปงกลุ่มมาเฟียทางการแพทย์! เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประเทศหนึ่งประกาศสงครามกับคำโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมมะเร็ง ซึ่งสวิตเซอร์แลนด์เพิ่งห้ามทำแมมโมแกรม โดยเปิดโปงปฏิบัติการทั่วโลกที่ทำให้ผู้หญิงหลายล้านคนได้รับบาดแผลทางจิตใจ ทำร้ายร่างกาย และถูกหลอกลวงให้ทำแมมโมแกรมในนามของผลกำไรของหมอและอุตสาหกรรมของบริษัทยา เพราะว่า การทำแมมโม แกรมนี่ไม่ใช่การแพทย์ นี่คือการจู่โจมที่เป็นระบบ เปิดโปงกลลวงที่ให้ข้อมูลการตรวจเป็นผลบวกปลอม สูงถึง 60% นั่นหมายความว่าผู้หญิงครึ่งหนึ่งที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมไม่เคยเป็นมะเร็งเต้านม พวกเธอถูกฉีดเคมีบำบัดครีโม ผ่าตัดเปิดอวัยวะ หรือฉายรังสี… โดยไม่จำเป็นและไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากความกลัว ขั้นตอนนี้รุนแรงมาก เต้านมถูกกดทับภายใต้แรงกดสูง และฉายรังสี สารก่อมะเร็งที่รู้จักกันดี แม้จะอ้างว่า "ป้องกัน" แต่กลับทำให้สิ่งที่แสร้งทำนั้นเป็นปัญหาได้ ยิ่งแย่ลงไปอีก: แมมโมแกรมอาจทำให้เนื้องอก(ถ้ามี)แพร่กระจายได้ การศึกษาวิจัยใหม่ยืนยันว่าการกดทับเนื้อเยื่อที่บอบบางอาจกระตุ้นให้เกิดการแพร่กระจาย และการทดสอบอาจเพิ่มโรคก็ได้ มีการวินิจฉัยเกินจริงถึง 690,000 กรณี ไม่ใช่โดยบังเอิญ แต่เป็นการออกแบบของระบบการตรวจ นั่นคือผู้หญิงหลายแสนคนที่กลายเป็นวัวนมที่สร้างความร่ำรวยให้กับบริษัทยาขนาดใหญ่ในขณะที่พวกผู้หญิงเหล่านั้นยังมีสุขภาพแข็งแรงดี เครื่องจักรระดับโลกของบริษัทยา แมมโมแกรมไม่ใช่ระบบดูแลสุขภาพ แต่เป็นการสร้างความกลัวที่เกิดจากอุตสาหกรรมนี้ผู้หญิงถูกหลอกล่อด้วยโฆษณาชวนเชื่อ และ ถูกบังคับให้เข้ารับการตรวจคัดกรองทุกปี และถูกรีดไถจนหมดตัวโดยกลุ่มอาชญากรหลายพันล้านดอลลาร์ของระบบนี้ สวิตเซอร์แลนด์เพิ่งทำลายภาพลวงตานี้ โดย รัฐบาลของพวกเขาได้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์และประกาศว่า "ไม่มีอีกแล้ว" ไม่มีการโกหกอีกต่อไป ไม่มีการสังหารที่ปกปิดไว้เพื่อความปลอดภัยอีกต่อไป ไม่มีผู้หญิงที่ต้องเสียสละเพื่อผลกำไรอีกต่อไป กลุ่มมาเฟียทางการแพทย์กำลังเสียรายได้ การห้ามนี้เป็นการโจมตีอาณาจักรของพวกเขาโดยตรง สื่อจะไม่รายงานเรื่องนี้ โรงพยาบาลจะตื่นตระหนก เจ้าของและผู้บริหารของบริษัทยาจะดิ้นรน เพราะถ้าประเทศหนึ่งสามารถเป็นอิสระได้ ประเทศ อื่นๆ ก็จะทำตาม ถึงเวลาเลือกข้างแล้วในการต่อสู้กับการหลอกลวง โดย เราเรียกร้องให้ 1) ห้ามการตรวจเต้านมทั่วโลก 2) ให้มีการสอบสวนทางอาญาเกี่ยวกับการฉ้อโกงการวินิจฉัยทางการแพทย์ที่ผิดพลาดแบบนี้ 3) ให้เงินทุนเผยแพร่สนับสนุนการแพทย์ทางเลือกที่ไม่รุกราน เช่น การเปลี่ยนอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง การออกกำลังกาย เป็นต้น 4) เปิดโปงระบบอาชญากรรมของอุตสาหกรรมการแพทย์อย่างเต็มรูปแบบ เราต้องต่อสู้เพราะได้เสียเลือด และอวัยวะมามากเกิน พอแล้ว นี่ไม่ใช่แค่ข่าว แต่จะเป็นจุดเปลี่ยนของการหลอกลวงเพื่อให้ใช้การตรวจแมมโมแกรม ของระบบการแพทย์ที่ฉ้อฉล และเครือข่ายของบริษัทยา สวิตเซอร์แลนด์ได้เริ่มการต่อสู้กับระบบการใช้แมมโมแกรม มันเป็น สงครามเพื่อเรียกร้องการรักษาสุขภาพของผู้หญิงให้กลับคืนมา และการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว 📡☀️✨ สำนักข่าว ✨☀️📡 🇹🇭 Director Thailand 🇹🇭 🕊️🕊️🕊️🕊️🕊️🕊️มะเร็ง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 7 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้สูงอายุต้องมีน้ำ เตรียมไว้ข้างเตียง ให้พอดื่มทั้งคืน ต้องลุกขึ้นมา เข้าห้องน้ำบ่อย ยังดีกว่าตาย จากอาการที่เกิด เพราะเลือดข้น จากร่างกายที่ขาดน้ำ เช่น หัวใจวาย หรือเส้นเลือด ในสมองตีบ เป็นต้น ทำไมผู้สูงอายุต้องการน้ำ มากกว่าคนหนุ่มสาว เพราะคุณภาพ และประสิทธิภาพ การทำงาน ของไตลดลง การดึงน้ำกลับไปหมุนเวียน ในร่างกายน้อยลง ทำให้ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ร่างกาย จึงขาดน้ำง่ายกว่า จึงต้องคอยเติมน้ำ ให้พอกับน้ำ ที่ขับถ่ายออกไป ********* ทำไมผู้สูงอายุ จึงนอนหลับแล้วไม่ตื่น ในช่วงเวลาใกล้รุ่ง สิ้นใจตาย แบบไม่ต้องทรมาร เหมือนกับสมบัติ เมทะนี และพี่เขยของผม รองผู้การศรศักดิ์ แก้วรักษา ที่ทุกคนยังจำกันได้ ที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 ได้เงิน 180 ล้านบาท แล้วได้เสียชีวิตลง เมื่อ 9 ก.ย. 2564 และผู้สูงอายุคนอื่นๆ อีกมากมาย ตัวผมเองก็เกือบเสียชีวิต ในลักษณะนี้ เหมือนกันหลายครั้ง ตอนใกล้ๆรุ่งเช้าตรู่ สาเหตุมาจาก ร่างกายขาดน้ำ คือแต่ละวันๆ เราควรดื่มน้ำเปล่า ให้ได้ปริมาณ ที่เพียงพอ ต่อร่างกาย คือประมาณ 2 ลิตร หรือ 8 - 9 แก้วต่อวัน และก่อนนอน ก็ควรจะดื่มสัก 1 แก้ว เมื่อตกกลางดึก ผู้สูงอายุมักจะลุก ขึ้นมาปัสสาวะ หลายครั้ง ก็ถ่ายออกไปเรื่อยๆ จนน้ำในร่างกาย ขาดน้ำลง ทำให้เลือดเหนียว หนืดข้น ทำให้ไหลเวียนยาก ในการที่เลือด จะเข้าไปเลี้ยงหัวใจ ทำให้หัวใจ ขาดเลือด จึงบีบตัวแรงๆ ไม่สามารถนำเลือด ส่งต่อไปเลี้ยงร่างกาย เช่นสมอง และอวัยวะ ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หัวใจจึงต้องบีบตัวหนัก จนเกิดหัวใจวาย และมักจะเป็น ในช่วงเช้าตรู่ แล้วก็ตายไป ปลุกไม่ตื่นนั่นเอง ตัวผมเองก็เกือบๆ ไปหลายครั้ง ในช่วงเช้ามืด หลังจากเมื่อกลางดึก ที่ได้ลุกขึ้นมาฉี่ แล้วก็หลับต่อ พอรู้สึกตัวใกล้สว่าง เช้าตรู่ ผมรู้สึกมีอาการไม่ดี เวียนหัว เหมือนกับถูกจับโยน กลางอากาศ ใจสั่นหวิวๆ รู้สึกแน่นที่หน้าอก จึงได้รีบลุกขึ้น ไปดื่มน้ำแก้วหนึ่ง แล้วล้มตัว ลงนอนต่อ เวลาผ่านไป รู้สึกดีขึ้น หายเหมือนปลิดทิ้ง ผมจึงแน่ใจเลยว่า ต้องเป็นที่ระบบของ ร่างกายขาดน้ำแน่ๆ หลังจากตื่นนอนแล้ว ร่างกายก็ปกติดี ตลอดทั้งวัน นี่คือประสบการณ์จริง ของผมที่เกือยตาย ที่หลายๆคน ไม่เคยรู้มาก่อน ผมว่า สมบัติ เมทานี ก็อาจจะเป็น อย่างผมก็ได้ การศึกษาหาความรู้ จากหมอในยูทูป ก็มีประโยชน์นะครับ อย่าลืมนะครับ เพื่อนๆของผมทุกคน ถ้าตื่นนอนกลางดึก ลุกขึ้นฉี่แล้ว อย่าลืมดื่ม น้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง นี่แหละ จะทำให้เลือด ไม่ข้นเหนียวหนืด ก็จะทำให้เลือดไหลเข้าสู่ หัวใจได้สะดวก แล้วตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็ดื่มน้ำอีกสักแก้ว เพื่อจะทำให้ การเริ่มต้น ของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ทำงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และจะได้มีชีวิต ยืนยาวต่อไป ในงานเลี้ยงรุ่น แล้วผมจะได้ร้องเพลง เล่นดนตรีให้ฟัง ขอขอบคุณนายแพทย์ หมอทั้งหลาย ที่ได้แนะนำ อธิบายเรื่องนี้ จนทำให้ผมรอดตาย มาได้หลายครั้ง ขอบคุณอีกครั้งนะครับ (..) คัดลอกมา เพื่อบอกต่อครับ. (..) ขอบคุณผู้เขียนข้อความ อันเป็นประโยชน์สุขภาพไม่ระบุชื่อ• 9 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอันตรายกว่าอยู่สนามรบอีกครับ ข้อควรระวัง : 20 ข้อคำเตือนจากคุณวิกรม " สำหรับผู้ใช้ชีวิตในประเทศไทยเท่านั้นครับ" 1. ข้ามทางม้าลาย ดูรถเสมอ : ห้ามเชื่อสัญญาณไฟ เพราะต่อให้ไฟเขียวคนเดิน ไฟแดงสำหรับรถ ก็อาจเจอรถชนได้ 2. ขึ้นสะพานลอย : อย่าจับราวบันได ยกเว้นคนก่อนหน้าจับไปแล้ว โดยเฉพาะวันฝนตก อาจโดนไฟดูด 3. เดินฟุตบาทระวังรถ : อย่ามัวเล่นมือถือ อาจมีจักรยานยนต์ย้อนศร 4. อย่าสัมผัสโลหะโดยไม่จำเป็น : ตู้โทรศัพท์ เสาไฟ เสาโทรศัพท์ ป้ายรถเมล์ ป้ายไฟโฆษณา หรือโลหะทุกชนิดที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นแม้แต่ใกล้ทุ่งนา ไฟอาจจะดูดตายได้ 5. ถ้าฝนตก ให้อยู่ห่างจากเสาไฟ : ไฟรั่วมีได้ทุกที่ 6. ให้จอดรถในที่แจ้ง ใกล้ยาม และเข้ารถต้องล็อคทันที : โดยเฉพาะผู้หญิง ถ้าไม่อยากโดนจี้ 7. อย่าเดินคนเดียวในที่มืดและที่เปลี่ยวเพราะคือที่อยู่ของมิจฉาชีพ และอย่าใส่ทอง / อย่าถ่ายรูปใคร : ถ้าไม่อยากโดนจี้ 8. อย่ามองหน้าใคร และอย่าหลบตาใคร : เพราะบางกรณีถือเป็นการท้าทาย และเป็นข้ออ้างของพวกปล้นทรัพย์ ซึ่งถ้าเราตาย อีกฝ่ายจะบอกว่า เราไปหาเรื่องเค้าก่อน 9. นั่งรถคาด Safety Belt เสมอ ไม่ว่าจะนั่งที่จุดไหน เพราะว่าคุณไม่รู้หรอกว่า จะมีใครเมาแล้วขับมาชน (อุบัติเหตุแบบนี้เจอมากในไทยมากกว่าประเทศอื่น) 10. แต่ต้องพร้อมถอด Safety Belt วิ่งออกนอกรถเสมอ : โดยเฉพาะ เวลามีรถคอนเทนเนอร์วิ่งข้างๆแบบไม่มีสลักนิรภัย 11. เวลาขับรถ ควรขับตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด แม้มันจะช้า เพราะว่าคุณไม่รู้หรอกว่า เมื่อไหร่คุณจะเจอ คนขับย้อนศรมา แบบไม่เปิดไฟ คนขับปาดหน้า ลูกแมวกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ หรือรถเครนล้มลงมา 12. และอย่าขับช้าไป เพราะอาจจะเจอชนท้าย หรือโดนส่องไฟสูง 13. ขับรถต้องใจเย็น หนักนิดเบาหน่อยปล่อยผ่านไป เพราะเราไม่รู้ว่าใครบ้างที่มีปืน แต่คนที่จ้องจะหาเรื่องมันมีปืนแน่นอน 14. ติดกล้องหน้า (และหลังรถ) เพราะเป็นที่รู้กันดีนานมาแล้วว่า ประเทศไทยไม่มีพยานเท็จและไม่มีแพะ...(555) 15. ถ้ามีเหตุยิงกันตามท้องถนน : ให้ล็อครถ เปิดไฟฉุกเฉิน และหมอบลงต่ำๆ หรือถ้าอยู่นอกรถ ให้หาที่กำบังและหมอบลงต่ำ ส่วนมากความแม่นยำของพวกนี้ต่ำ มักยิงโดนทุกอย่างยกเว้นคนที่มันอยากยิง... 16. ทุกช่วงเทศกาล ควรอาศัยในอาคารชั้นล่าง เพราะวันดีคืนดี อาจมีกระสุนตกลงมาจากฟ้า มาหัวเรา 17. ทุกครั้งที่ยืนใกล้ถนน ให้ระวังคนผลักเสมอ มีทั้งที่ไม่ตั้งใจ และผลักให้รถชนแบบตั้งใจ เพราะหวังทรัพย์สินเรา คนอยู่ใกล้ได้ลงมือก่อน 18. ทุกครั้งที่ยืนเดินหรือนั่งกินอาหารอยู่ข้างถนน ให้ระวังรถพุ่งขึ้นมาชน ให้มองต้นไม้ขนาดใหญ่ เสาไฟฟ้า หรือตู้โทรศัพท์ที่จะลดแรงปะทะได้ มองหาร้านค้าที่จะกระโดดหลบเข้าไปได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมา ป้ายบอกทาง ป้ายโฆษณา เสาไฟกล้องดำ... น่าจะลดแรงปะทะไม่ได้ โปรดหลีกเลี่ยง 19. ให้ทำประกัน : เพราะทุกสิ่งอาจเกิดได้จริงๆ และหลายครั้งหาคนรับผิดชอบไม่ได้... บางครั้งหาได้ แต่ฝั่งนั้นไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย 20. ให้บอกคนในครอบครัวไว้ด้วย ว่าหากตายไปกระทันหัน เอกสารประกัน/สมุดบัญชีเก็บไว้ที่ใด เพราะลูกหลานไม่รู้มากมาย เงินประกันหายฟรีไปกับประกัน Cr:คุณวิกรม กรมดิษฐ์การเงินผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
