14077 ข้อความ
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมีกาแฟผสมยาอี กำลังระบาดในกลุ่มวัยรุ่นมีกาแฟผสมยาอี กำลังระบาดในกลุ่มวัยรุ่นMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการฉีดวัคซีนกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA ครึ่งโดส หรือ 50 ไมโครกรัม ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ภูมิคุ้มกันจะอยู่ได้นานเท่าใด จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนเต็มโดส คือ 100 ไมโครกรัม จริงหรือไม่การฉีดวัคซีนกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA ครึ่งโดส หรือ 50 ไมโครกรัม ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ภูมิคุ้มกันจะอยู่ได้นานเท่าใด จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนเต็มโดส คือ 100 ไมโครกรัมวัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ที่มีข่าวว่า ปิดตลาดหนองบัว อ.เมือง จ.อุบลฯ เป็นเวลา 3 วันจริงหรือไม่ที่มีข่าวว่า ปิดตลาดหนองบัว อ.เมือง จ.อุบลฯ เป็นเวลา 3 วัน จริง ตรวจพบผู้ติดเชื้อ จึงต้องขอความร่วมมือ ให้ได้ทำความสะอาด พ่นยา แล้วล้าง 29-31 รวม 3 วัน 28-10-64โควิด 2019ภาคอีสานสุชัย เจริญมุขยนันท• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโรงเรียนบ้านเหนือ อ.เขมราฐ จ.อุบลฯ และ หน่วยงานประปา โทรศัพท์ ที่เขมราฐ มีคนติดโควิดจริงหรือไม่มีข่าวออกมาว่า โรงเรียนบ้านเหนือ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี นักเรียนที่เข้าค่าย วิทย์ คณิต อังกฤษ และ หน่วยงานราชการ ประปา ไปรษณีย์ มีการติดเชื้อโควิด จริงหรือไม่โควิด 2019ภาคอีสานสุชัย เจริญมุขยนันท• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเรื่องนี้น่าสนใจมาก...หากประสบผลสำเร็จ คนที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดคงจะสบายสักที...... --------‐--‐-----//------------------ มนุษย์จะมีอายุขัยเพิ่มขึ้น! ทำความรู้จัก “อนุภาคนาโน” ที่ถูกค้นพบเมื่อปีที่แล้ว และอาจทำให้ “โรคหัวใจ” กลายเป็นแค่ประวัติศาสตร์ ทุกวันนี้ เวลาได้ยินข่าวคนดังเสียชีวิต มักมีสาเหตุมาจาก “มะเร็ง” และพานคิดว่ามะเร็งน่าจะเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมนุษย์ แต่นั่นคือความเข้าใจผิด เพราะสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมนุษย์ปัจจุบันคือ “โรคหัวใจ” หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ “โรคหัวใจและหลอดเลือด” มนุษย์ที่เสียชีวิตเพราะโรคกลุ่มนี้ในแต่ละปีมากถึง 30% และเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 แซงหน้ามะเร็ง 1.เราอาจสังเกตว่า “คนสมัยก่อน” มักจะไม่ได้ตายเพราะ “โรคมะเร็ง” หรือ “โรคหัวใจ” . เหตุที่ช่วงหลังมานี้ “โรคมะเร็ง” และ “โรคหัวใจ” ขึ้นอันดับ 1 และ 2 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ามนุษย์ปัจจุบันอายุยืนขึ้น เราไม่ค่อยตายจากสงครามและโรคติดเชื้อต่างๆ แบบในอดีต พออยู่มาจนแก่ . เราจึงเผชิญหน้ากับโรคที่โดยทั่วไปใช้เวลาพัฒนาหลายสิบปีกว่าจะพัฒนาจนคร่าชีวิตผู้คนได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด โรคไต ฯลฯ 2.ก่อนหน้านี้ โรคที่ฆ่ามนุษย์เป็นอันดับ 1 คือ “มะเร็ง” เหตุที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะคำว่า “มะเร็ง” นั้นกินความกว้างมากๆ เพราะเกิดจากการที่เซลล์ของอวัยวะร่างกายกลายพันธุ์เป็นเนื้อร้าย เรียกได้ว่าเกิดเนื้อร้ายส่วนไหนก็นับเป็นมะเร็งหมด พอแก่ตัวไป แนวโน้มที่เซลล์จะกลายพันธุ์ก็ยิ่งเยอะมากขึ้น . ผลในทางสถิติคนก็เลยเป็นมะเร็งกันเยอะ และในอดีตเป็นโรคที่ “ไม่มีทางรักษา” . แต่ยุคหลังๆ เริ่มมีแนวทางการรักษาใหม่ๆ เริ่มมีเทคนิคการคัดกรองที่ดีขึ้น คนก็เลย “จัดการ” กับมะเร็งได้ดีกว่าก่อนมาก ส่งผลให้ “โรคหัวใจ” เป็นโรคที่กลายเป็นภัยต่อชีวิตอันดับ 1 ของมนุษย์ 3.คำว่า “โรคหัวใจ” ในความหมายของโรคหัวใจและหลอดเลือดก็เป็นคำที่กินความกว้างมากคือ กินความตั้งแต่ภาวะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ตีบทำให้อวัยวะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไปจนถึงภาวะผิดปกติทางกายภาพของหัวใจที่ส่งผลต่อการสูบฉีดเลือด . อย่างไรก็ดี สิ่งที่ใกล้ชิดกับโรคหัวใจที่สุดก็คือภาวะอย่าง ‘หลอดเลือดแข็งตัว’ (atherosclerosis) หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ไขมันเกาะผนังหลอดเลือด” ในระดับที่เรียกได้ว่า เป็นภาวะยอดฮิตที่คนจะป่วย และพัฒนาไปเป็นโรคหัวใจในที่สุด . แม้ว่าคนจะนิยมเรียกกันแบบนี้ แต่สิ่งที่ไปพอกผนังหลอดเลือดนั้นไม่ใช่ “ไขมัน” แต่คือซากเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายขณะที่มันพยายามจะทำลายคอเลสเตอรอลที่หลุดเข้ามาในผนังหลอดเลือด . (ซึ่งคอเลสเตรอลไม่ใช่ไขมัน ร่างกายใช้คอเลสเตอรอลเป็นพลังงานไม่ได้ ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดๆ ว่าเวลาเรา “เบิร์น” ตอนออกกำลังกาย แล้วจะเอาคอเลสเตอรอลมาใช้ ร่างกายเราไม่ได้ทำงานอย่างนั้น) . พอซากเซลล์เม็ดเลือดขาวตายสะสมกันในผนังหลอดเลือดมากๆ หลอดเลือดก็จะหนาขึ้นและยืดหยุ่นน้อยลง เราเลยเรียกภาวะนี้ว่า “หลอดเลือดแข็งตัว” 4.ถ้าที่ว่ามาฟังเข้าใจยากไป ก็คิดซะว่าหลอดเลือดเราเป็น “ท่อ” ก็ได้ . ภาวะที่ว่ามาคือภาวะ “ท่อตัน” และพอ “ท่อตัน” เลือดก็จะไปต่อไม่ได้ ซึ่งถ้านั่นเป็นอวัยวะสำคัญอย่างหัวใจหรือสมอง เราก็จะเสียชีวิต (ทั้งนี้เวลาเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้จะเรียก Heart Attack ส่วนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ จะเรียก Stroke สองภาวะนี้มีสาเหตุพื้นฐานคือ “ท่อตัน” นั่นเอง) . ดังนั้นปัญหาที่คร่าชีวิตมนุษย์แบบนับไม่ถ้วน ก็คือเรื่องง่ายๆ อย่าง “ท่อตัน” นี่เอง เพียงแต่ท่อที่ว่าคือเส้นเลือดแดงในร่างกายที่คอยส่งออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงอวัยวะ 5.คำถามต่อมาคือ แล้วภาวะ “ท่อตัน” นี่จัดการแค่ใส่ “น้ำยาล้างท่อ” ลงไปไม่ได้หรือ? . คำตอบคือ “ไม่ได้” เพราะฉะนั้นวิธีการรักษาจึงต้อง “ผ่าตัด” “ทำบอลลูน” และ “ทำบายพาส” กันให้วุ่นวาย . วิธีการรักษาปัจจุบันคือ ถ้า “ท่อตัน” ทำได้แต่ผ่าตัด (ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่) ซึ่งก่อนผ่าตัด เราก็ต้องระบุให้ได้ว่า “ท่อ” ตรงส่วนไหนตัน โดยการ “ฉีดสี” และทำ MRI . ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ บอกเลยว่า “แพงมาก” แม้ว่าประกันสังคมจะครอบคลุมค่ารักษา แต่ไม่ว่าจะเป็นในประเทศยุโรปหรือไทย คุณต้องผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างละเอียด ถึงจะได้ทำการวินิจฉัยว่าคุณกำลังจะ “ท่อตัน” ตรงส่วนไหนของร่างกาย เรียกว่าผู้ป่วยจะได้ทำเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น . ปัญหาคือทุกวันนี้ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าร่างกายของเรา “กำลังจะท่อตัน” ตรงไหน เพราะมันไม่มีทางจะมองเห็นเส้นเลือดในร่างกายของเราด้วยการวินิจฉัยทั่วๆ ไป การไป “ตรวจสุขภาพประจำปี” ซึ่งตรวจด้วยวิธีทั่วไป ก็ไม่มีทางรู้ได้ 6.ปกติเราจะรู้ได้ว่า ตัวเรามีความเสี่ยงต่อโรคกลุ่มนี้ก็ต่อเมื่อไปตรวจสุขภาพแล้วพบว่า ค่าความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลสูง และวิธีการ “พยุงอาการ” ของกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดหลักๆ คือเขาจะให้กิน “ยาลดความดัน” กับ “ยาลดคอเลสเตอรอล” ซึ่งต้องกินไปตลอดชีวิต . และผลหลักๆ คือการชะลอภาวะ “หลอดเลือดแข็งตัว” หรือลดความเสี่ยงของการที่คุณจะ “ท่อตัน” จนเลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่พอ จนพิการหรือถึงแก่ความตายในที่สุด . นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งก็เน้นว่าคือการ “ชะลอ” เท่านั้น ยังไม่ใช่การ “รักษา” และที่เป็นแบบนี้ เพราะระบบสาธารณสุขไม่ว่าที่ใดในโลก ยังไม่มีต้นทุนพอที่จะจับคนทุกคนมาฉีดสีและทำ MRI เพื่อหาว่าคนๆ นั้นกำลังจะ “ท่อตัน” ตรงไหนของร่างกาย . ผลก็คือ วิธีชะลอดังกล่าวก็เลยให้กินยาไปเรื่อยๆ แทน เพราะนั่นสมเหตุสมผลในเชิงงบประมาณมากกว่า ถ้าต้องจัดการกับ “กลุ่มเสี่ยง” จำนวนมากหลักล้านคน 7.ประเด็นคือ ภาวะหลอดเลือดแข็งตัวเป็นภาวะที่แทบทุกคนที่อยู่ในสังคมสมัยใหม่แก่ตัวไปยังไงก็เป็น ไม่ว่าจะด้วยอาหาร ด้วยวิถีชีวิต และด้วยอายุที่ยืนขึ้น . เรียกได้ว่าถ้า “ท่อยังไม่ตัน” เมื่อแก่ตัวไป ทุกคนกำลังก้าวเดินไปสู่ภาวะ “ท่อกำลังจะตัน” . ดังนั้น ถ้าจะว่ากันในแง่หนึ่งแล้ว นี่คือ “โรคของทุกคน” ที่ในทางเทคนิค ในปัจจุบันยังไม่มี “ยารักษา” ใดๆ ที่จะแจกจ่ายให้ทุกๆ คนกินทีเดียวแล้วหายได้ 8.แต่ก็อย่างที่บอกไว้ในชื่อเรื่อง ต่อไปนี้โรคหัวใจอาจเป็นแค่อดีต . เพราะเมื่อต้นปี 2020 ในขณะที่ชาวโลกกำลังตื่นตระหนกกับโรคระบาดใหม่อย่างโควิด-19 นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้ตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาหลักๆ คือพวกเขาค้นพบอนุภาคนาโนที่จะ “คืนชีพ” ให้พวกเซลล์ภูมิคุ้มกันที่กินคอเลสเตอรอลแล้วตายในผนังหลอดเลือด ให้ฟื้นขึ้นมากินพวกคอเลสเตอรอลและซากเซลล์ที่ตายไปแล้วในผนังหลอดเลือด . ผลก็คือ สิ่งที่ไปพอกผนังหลอดเลือดจน “แข็งตัว” ก็จะค่อยๆ ลดลงไป และผนังหลอดเลือดก็จะเป็นปกติในที่สุด . หรือพูดให้มันง่ายกว่านั้น “อนุภาคนาโน” ก็คือ “น้ำยาล้างท่อ” ของ “ภาวะท่อตัน” ในหลอดเลือดนั่นเอง . เรียกได้ว่ามีอนุภาคนี้คือจบเลย เราไม่ต้องรู้ด้วยซ้ำว่า “ท่อตัน” ตรงไหน ฉีดเข้าไปในเลือด อนุภาคนี้จะค่อยๆ จัดการท่อที่ตันเอง ไม่ต่างจากที่คุณเทน้ำยาล้างท่อตอนต่อตัน คุณไม่ต้องรู้หรอกว่ามันตันตรงส่วนไหน น้ำยาจัดการให้หมด . และนี่ก็ไม่ใช่แค่คอนเซปต์ลอยๆ เพราะขณะนี้ อนุภาคนี้ทดลองในหนูสำเร็จแล้ว และก็ไม่แปลกเลยที่อีกไม่นานก็น่าจะได้ทดลองในมนุษย์แน่ๆ . ถ้าสำเร็จ ถึงตอนนั้น คนที่ต้องกินยาทุกวันไปตลอดชีวิตก็อาจไม่ต้องกินกันอีกแล้ว . และถ้ามากไปกว่านั้น นี่อาจเป็นการบอกลาโรคหัวใจและหลอดเลือดสำหรับคนแทบทั้งหมดในโลกก็เป็นได้ อ้างอิง: ScienceDaily. Nanoparticle chomps away plaques that cause heart attacks. https://bit.ly/3dzPx9V NHI. Plaque-eating nanoparticles may help prevent heart attacks. https://bit.ly/3iTUNX2 #Nanoparticle Cr.BrandThinkไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยฉีดวัคซีนแล้วกระตุ้นให้เกิดโรคประจำตัวเช่นมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยบริษัทจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้มีการคิดค้นเก้าอี้ซ่อนรูป(Chairless Chair)ที่ทำให้คนสามารถนั่งบนอากาศได้อย่างมั่นคงโดยไม่ต้องใช้เก้าอี้เหมือนกับมีพลังยุทธอันสูงส่ง เก้าอี้ซ่อนรูปนี้สามารถปรับให้เหมาะสมกับส่วนสูงและน้ำหนักของแต่ละคน มีนำหนักเบา(ไม่ถึง2กิโลกรัม) ใช้งานง่ายสะดวก ใส่แล้วไม่เป็นอุปสรรคในการเดิน ผู้ที่คิดค้นเก้าอี้ซ่อนรูปนี้ได้แรงบันดาลใจจากตอนที่เขาอายุ18ปีที่ต้องยืนข้างไลน์ผลิตในโรงงานถึงวันละ8ชั่วโมง เก้าอี้ซ่อนรูปนี้ไม่เพียงใช้ในชีวิตประจำวันแต่ยังสามารถใช่ในโรงงานได้อีกด้วย เก้าอี้ซ่อนรูปนี้จะสามารถลดพลังงานที่ใช้จากการยืนของพนักงานส่งทำให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น โดยที่ไม่ต้องจัดเตรียมเก้าอี้ที่เหมาะสมกับพนักงานแต่ละคนในโรงงาน เก้าอี้ซ่อนรูปนี้อยู่ในช่วงทดลอง ซึ่งได้รับการต้อนรับจาก BMW และ AUDI เป็นอย่างดีไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยห้องคลอดทุกห้องต้องมีนาฬิกา อย่างน้อยหนึ่งเรือน ถ้ามีโอกาสเข้าไปสังเกตการณ์การคลอด คุณจะเห็นพยาบาลคนหนึ่งคอยเหลียวมองนาฬิกาเรือนนั้นทันทีที่ทารกคลอดออกมา เธอจะขานเวลาบนหน้าปัดตัวเลขชั่วโมง-นาทีจะไปปรากฏบนสูติบัตร ในช่องว่างหลังคำว่าเวลาคลอด และวันที่บนปฏิทินวันนั้นก็จะไปปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวอีกหลายใบในฐานะวันเกิด วันที่ชีวิตหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมา ขณะพยาบาลขานเวลา แพทย์จะใช้ลูกยางสีแดง ดูดน้ำคร่ำ-ที่อาจค้างอยู่-ออกจากปากและจมูกของทารก หลังแน่ใจว่าทารกหายใจเองได้ แพทย์จะใช้แคลมป์สองตัวหนีบสายสะดือไว้ รับกรรไกรที่พยาบาลยื่นส่งให้ จากนั้นจึงใช้มันตัดลงไประหว่างแคลมป์ทั้งสองตัว ฉับ! เลือด 2-3 หยดกระเซ็นอาบคมกรรไกร เลือดไม่กี่หยดนั้นเอง คือหลักฐานที่ช่วยยืนยันว่า ชีวิตก่อนการเกิดของพวกเรา มีอยู่จริง คนทั่วไปมักสับสนระหว่าง รก และสายสะดือ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น จนกระทั่งมาเป็นแพทย์ ผมจึงได้รู้ และได้เห็นว่า รกและสายสะดือนั้น มีรูปร่าง และหน้าที่ไม่เหมือนกันเลยสักนิด รกเป็นก้อนกลมๆ นุ่มๆ แบนๆ ดูคล้ายแผ่นพิซซ่า ขณะที่สายสะดือมีลักษณะเป็นเส้นยาวๆ คล้ายสปาเก็ตตี้ รกแปะอยู่ที่ด้านในผนังมดลูกของแม่ โดยมีสายสะดือ ทำหน้าที่เชื่อมต่อ ระหว่างรกและทารก ถ้ายังไม่เห็นภาพ ลองนึกถึงสารคดีวิทยาศาสตร์สักเรื่อง ที่นักบินอวกาศต้องลอยเคว้งคว้างอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก สภาพนั้นไม่ต่างกันนัก กับสภาพของทารกในครรภ์มารดา ขณะทารกน้อยลอยคว้างท่ามกลางน้ำคร่ำในโพรงมดลูก สายสะดือ คือสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวเขาไว้กับยาน "แม่" ภายในสายสะดือคือ เส้นเลือดหลายเส้น ทารกจะได้รับสารอาหารจากแม่ผ่านเลือดที่ไหลเวียนในเส้นเลือดเหล่านี้ ขณะเดียวกันของเสียที่ทารกมี ก็จะถูกส่งผ่านเส้นเลือดเหล่านี้กลับไปยังแม่ของเขา และเข้าสู่ระบบกำจัดของเสียของแม่ต่อไป อาจพูดได้ว่า ช่วงหนึ่งในชีวิต เราทุกคนเคยดื่ม กิน ขับถ่าย และหายใจผ่านร่างกายแม่ของเรา คนทั่วไปอาจเรียกมันว่า สายสะดือ แต่สำหรับผมมันคือ "สายสัมพันธ์" สายสะดือคือ สิ่งยืนยันว่าชีวิตได้เริ่มต้นขึ้นแล้วก่อนหน้าวันเกิดของเรา เป็นชีวิตที่แตกต่างจากที่เราเคยเข้าใจ เป็นชีวิตที่ประกอบด้วยสองหัวใจ กับหนึ่งสายสัมพันธ์ ในห้องคลอด ผมคือชายที่ถือกรรไกร คุณอาจรู้สึกว่า ผมคิดมากเกินไป แต่คุณรู้อะไรมั้ย กรรไกรในมือของผมกำลังจะเปลี่ยนชีวิตที่ปลายทั้งสองของสายสะดือ วินาทีที่ผมกดคมกรรไกร นั่นคือวินาทีแรกที่สองชีวิตต้องแยกจากกัน หลังจากนั้น ทารกน้อยจะค่อยๆ เรียนรู้ที่จะหายใจด้วยปอดของเขาเอง เรียนรู้ที่จะกินได้เองด้วยปากของเขา ขับถ่ายได้เองด้วยระบบขับถ่ายของเขา เขาจะค่อยๆ เติบใหญ่ มีความคิด มีการรับรู้ และมีการสร้างความเข้าใจโลกของตัวเองขึ้นมา เขาจะเริ่มงอแงเมื่อบางอย่างไม่ได้อย่างใจ เขาจะเริ่มหงุดหงิด เมื่อคิดว่าไม่มีใครเข้าใจเขา เขาจะเริ่มพูดว่า แม่ไม่เคยเข้าใจผมหรอก เขาจะเริ่มบอกว่า แม่ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน และวันหนึ่งเมื่อเติบโตจนถึงวัย เขาก็จะจากแม่ของเขาไป ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมอยากมีชีวิตของตัวเอง มาคิดๆ ดู ทั้งหมดนี้อาจเริ่มมาจากวินาทีที่คมกรรไกร ถูกกดลงไปบนสายสะดือ จากกรรไกร สองชีวิตจึงจากกันไกล เมื่อชีวิตหนึ่งสามารถดำรงชีวิตด้วยตนเองได้ สายสัมพันธ์ก็ไม่ใช่สายสำคัญอีกต่อไป มันกลายเป็นสายที่ไร้ประโยชน์ กลายเป็นสาย ที่ไร้ความหมาย กลายเป็นสายที่เกินไป กลายเป็นสายเกินไป สิ่งที่ผมทำไม่ใช่แค่การตัดสายสะดือ คุณอาจรู้สึกว่าผมโทษตัวเองเกินไป แต่คุณรู้อะไรมั้ย หมออย่างผมนี่แหละที่เป็นคนทำลายหลักฐานว่าแม่และทารกเคยเป็นหนึ่งชีวิตเดียวกัน แน่นอน ผมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น แต่โลกภายนอกไม่ได้ต้องการสายสะดือเหมือนโลกในครรภ์ และด้วยเหตุนั้น แพทย์อย่างผมจึงมีหน้าที่ต้องกำจัดมันไป โดยทั่วไปผมจะตัดสายสะดือให้เหลือตอสั้น ๆ ประมาณ 2 เซนติเมตรจากหน้าท้องของทารก ตอนี้จะค่อยๆ แห้งและหลุดไปไม่กี่วันหลังจากนั้น สายสะดือส่วนที่เหลือจะถูกส่งไปกำจัดพร้อมกับเศษเนื้อเยื่อและชิ้นเนื้ออื่น ๆ ของโรงพยาบาล นับจากวันนั้น เรื่องราวของชีวิตก่อนการเกิด ก็กลายเป็นเพียงอดีตที่สูญหาย เป็นเพียงตำนานที่ไม่มีใครรู้ว่าเคยมีอยู่จริง สายสะดือก็เลยกลายเป็นเหมือนสายลับ สายลับที่คอยลักลอบส่งอากาศและอาหาร สายลับที่ทำงานโดยไม่เคยเรียกร้อง ต้องการอะไร สายลับที่ไม่เคยมีใครเห็นหน้าค่าตา เป็นสายเลือดที่น้อยคนนักจะตระหนักว่ามันเคยมีอยู่จริงๆ การคิดว่า อยู่ๆ ชีวิตก็เกิดขึ้นมาในวันเกิด อาจทำให้คุณพลาดความหมายบางอย่างของชีวิต เพราะความจริงแล้ว ชีวิตที่ไม่เคยถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต อาจเป็นช่วงชีวิตที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ ไม่มีช่วงเวลานั้น ไหนเลยจะมีคุณมานั่งอ่านบทความนี้ ผมเขียนบทความนี้เพื่อไถ่โทษให้กับการกระทำของตัวเอง ผมคือชายถือกรรไกร ผมทำลายหลักฐานทุกอย่างของชีวิตก่อนการเกิด ของใครหลายคน แน่นอน ผมไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันที่จะพิสูจน์สิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ อย่างไรก็ดี ผมอยากให้คุณได้เห็นอะไรบางอย่าง ผมหวังว่ามันคงช่วยยืนยันสิ่งที่ผมเขียนมาได้บ้าง ขอเพียงคุณเปิดใจมากพอ เลิกชายเสื้อขึ้นดูสิครับ สิ่งที่ผมพูดถึงคือสิ่งที่อยู่กลางท้องของคุณ มองผ่านคราบขี้ไคลลงไป ลองใช้มือสัมผัสมันดูก็ได้ รู้สึกมั้ย นั่นแหละชีวิตก่อนการเกิดของคุณ ฉับ! สำหรับคนทั่วไปเสียงกรรไกรครั้งนั้น เปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่าง แต่สำหรับใครคนหนึ่ง เสียงนั้นไม่ทำให้เกิดความแตกต่างอะไรเลย เพราะหลังจากสายสัมพันธ์เส้นนั้นถูกตัดไป ใครคนนั้นก็ยังคงทำหน้าที่ส่งอาหาร จัดการเรื่องการขับถ่าย แม้กระทั่งดูแลเรื่องการหายใจให้กับใครอีกคนอย่างที่เธอเคยทำ เพียงแต่ครั้งนี้ เธอทำมันผ่านสายสัมพันธ์ทางใจ และเท่าที่ผมเห็นมา สายสัมพันธ์นี้ กรรไกรคมแค่ไหนก็ไม่สามารถตัดมันให้ขาดจากกันได้เลย ขอขอบคุณ นพ. คุณากร วรวรรณธนะชัย เจ้าของบทความ Dharma practices...ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจริงไหม เพื่อนฝากให้แชร์ฝากให้แชร์ บัดซบจริงๆๆๆ "นามบัตร" ก็มีภัย โปรดอ่านให้จบ ภัยจากนามบัตร หญิงคนหนึ่ง ไปเติมแก็สที่ปั้มแก็ส มีชายมาเสนอบริการทาสี โดยยื่นนามบัตรให้ หญิงคนนั้นก็รับมาอ่าน แล้วถือเข้ามาในรถด้วย สักครู่เมื่อขับรถออกมาจาก ปั๊มแก็ส ก็สังเกตว่าชายคนนั้นขับรถตามมา และเธอก็ รู้สึกว่า หายใจไม่ค่อยออก เธอรีบเปิดหน้าต่าง และตระหนักว่ากลิ่นนั้นมาจากมือของเธอเอง ซึ่งเป็นมือข้างที่เธอรับนามบัตรมาจากชายคนนั้น เธอตัดสินใจขับรถและกดแตรไปตลอดทางเพื่อขอความช่วยเหลือ ชายคนนั้นจึงขับรถหนีไป ยาที่ป้ายบนนามบัตร คือ ยา BURUNDANGA เพิ่อให้เราหมดสติ ควบคุมตนเองไม่ได้ แล้วไอ้ตัวร้ายก็จะขโมยของและ/หรือข่มขืนเรา โดยยานี้มีประสิทธิภาพแรงกว่ายาที่ใช้ข่มขืนสาวๆ ถึง 4 เท่า ดังนั้น อย่ารับกระดาษ นามบัตร แผ่นพับ จากคนแปลกหน้า หรือแม้แต่คนที่แจกโฆษณา ฝากส่งต่อเยอะ ๆ เลยนะสุขภาพMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโควิดระบาดหนักในสิงคโปร์ จริงหรือโควิดระบาดหนักในสิงคโปร์ จริงหรือMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนั่นก็หมายถึงว่า สำหรับ "กทม./ กระบี่ / พังงา / ภูเก็ต" ตั้งแต่ 1 พย. 64 เป็นต้นไป - ไม่มีเคอร์ฟิวแล้ว - เปิดขาย,ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ - จัดกิจกรรมรวมกลุ่มได้ตามเหมาะสม - เปิดเรียนได้ตามปกติ - โรงหนัง, ห้าง, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านนวด, สปา เปิดได้ตามปกติไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยLisa Blackpink มาแสดงดนตรีที่เมืองไทยช่วงปีไหมจริงไหมไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยคนสมัคร !!! พร้อมเพย์ !!! เจอปัญหานี้ แล้วค่ะ ธนาคารไม่รับผิดชอบด่วนๆๆๆๆๆ คนสมัคร !!! พร้อมเพย์ !!! เจอปัญหานี้ แล้วค่ะ ธนาคารไม่รับผิดชอบ ...สมัครพร้อมเพย์ แค่รู้เบอร์โทร.. ก็รู้ยอดเงินในธนาคารแล้วค่ะ... *** ห้ามรับสาย !!! *** อย่าโทรกลับ !!! @ ช่วยกันส่งต่อ-บอกต่อ ด้วย ! ผู้ที่รับสายจากเลขหมายต่อไปนี้ +37560260528 +37127913091 +37178565072 +56322553736 +37052529259 +255901130460 หรือเลขหมายใดก็ตามที่ขึ้นต้นด้วยหมายเลขต่อไปนี้ +375, +371, +381, มันจะดังเรียกเพียงครั้งเดียว ถ้าคุณโทรกลับไปยังเลขหมายข้างต้นมันจะคิดค่าโทรศัพท์คุณ 15-30 เหรียญสหรัฐ มันจะก็อปปี้หมายเลขโทรศัพท์ในโทรศัพท์ของคุณภายใน 30 วินาที ถ้าคุณมีรายละเอียดของบัญชีธนาคารและเครดิตการ์ดมันก็จะก็อปปี้ไปด้วย รหัส +375 จากเบลารุส อาฟกานิสถาน รหัส +371 จากลัตเวีย, รหัส +381 จากเซอร์เบีย รหัส +563 จากวาปาไรโซ รหัส +370 จากวินิรุส รหัส +255 จากแทนซาเนีย เลขหมายพวกนี้มาจาก อิสลาม มุสลิม หัวรุนแรง หรือ IS (ไอเอส). อย่าต่อโทรศัพท์กลับ ช่วยส่งต่อให้เพื่อน ๆ และคนในครอบครัวด้วย อันตรายมาก...สภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดูจิตเดิมต้องการความสงบ หาให้พบยากนักจากวิถี โลกเจริญพัฒนามานานปี อ้างว่ามีความเจริญเดินหลงทาง อันที่จริงความเจริญหรือเสื่อมเล่า เอาแต่เฝ้ากอดทุกข์ว่าสุขหวัง วันเวลาเมื่อมาหมดกายเริ่มพัง สิ่งที่หวังไข่วคว้าไม่มาคืน วิญญานออกจากร่างหวังพบสุข ยังมีทุกข์เก็บไว้ไม่ต้องฝืน จิตเสวยผลกรรมทุกค่ำคืน รู้ตัวต้องรีบฝืนสร้างกรรมดีภาวนาเท่านั้นท่านเห็นโลก ถึงทุกข์อยู่เหนือได้ในวิถี ทานศีลภาวนาคือกรรมดี เพื่อนน้องพี่มีครบจบกังวลไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ทำให้หัวใจวายได้ จริงหรือน้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ทำให้หัวใจวายได้ จริงหรือMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเทศบาลเชียงใหม่ เตรียมพร้อม 7 จุด ตั้งกระทงใหญ่ 21 กระทง งานยี่เป็ง เชียงใหม่ 2564เทศบาลเชียงใหม่ เตรียมพร้อม 7 จุด ตั้งกระทงใหญ่ 21 กระทง งานยี่เป็ง เชียงใหม่ 2564 1. ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ 2. ลานท่าแพ 3. ประตูเชียงใหม่ 4. ประตูสวนดอก 5. ประตูช้างเผือก 6. แยกสมเพชร 7. หน้าเทศบาลนครเชียงใหม่Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเตือนให้ระวัง !!! ที่เมืองจีนโดนแล้ว เรื่องนี้ จริงหรือไม่เตือนให้ระวัง !!! ที่เมืองจีนโดนแล้ว จะมีข้อความถามว่า คุณได้รับการฉีดวัคซีน"โควิด19"หรือยัง ได้รับแล้วโปรดกด "1" ยังไม่ได้ฉีดโปรดกด "2" เกือบทุกคนก็จะกด "1" ก็จะโดนดูดเงินออกจากบัญชี เมืองไทยกำลังจะมา..หากมีข้อความทำนองนี้ส่งเข้าไปในโทรศัพท์ของท่าน ก็ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น..ลบทิ้งลูกเดียว ผู้ที่ลบเองไม่เป็น..รีบให้ลูกหลานลบให้โควิด 2019วัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยครม. อนุมัติงบ 2.7 หมื่นล้าน ประกันรายได้และรักษาเสถียรภาพ ราคาข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ครม. อนุมัติงบ 2.7 หมื่นล้าน ประกันรายได้และรักษาเสถียรภาพ ราคาข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น