ตรวจสอบข่าว

1 คนสงสัย
ข่าวไม่จริง “อลงกรณ์” ยันไม่มีดีล “เฉลิมชัย” ขน 16 ส.ส. ร่วมรัฐบาลก้าวไกล
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า “ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง เป็นการปล่อยข่าวเพื่อดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์” โดยขอให้สื่อมวลชนตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนนำเสนอโดยเฉพาะการอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุตัวตนเพราะอาจตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์โดยไม่รู้ตัว
นายอลงกรณ์ยังบอกด้วยว่า ทันทีที่เห็นข่าวดังกล่าวได้สอบถามไปยังนายเฉลิมชัย ได้รับการยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และตนยังยืนยันข้อเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์โหวตหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อสนับสนุนหลักการเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรต้องได้เป็นรัฐบาล

ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องพร้อมเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลพรรคก้าวไกล และยืนยันจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งว่า ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 1 หมวด 2 และประมวลกฎหมายอาญา ม.112
std46517
 •  2 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    เปิดที่มา “ตั๋วช้าง” คืออะไร ปมแฉเดือดกลางสภา สะเทือนวงการสีกากี
    เปิดที่มา "ตั๋วช้าง" บัตรซื้อ - ขายตำแหน่งมูลค่าหลักล้าน ตั๋วใบใหญ่สุด อำนาจมากสุด ขอแล้วได้เลยไม่เคยโดนปฏิเสธ หลัง รังสิมันต์ โรม อภิปราย แฉเดือดกลางสภา สะเทือนวงการสีกากี เรียกได้ว่าเป็นศัพท์ที่ร้อนแรงในขณะนี้สำหรับคำว่า "ตั๋วช้าง" ที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติและฝ่ายความมั่นคง ประเด็นเรื่องการซื้อขายตำแหน่งแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โรม อภิปรายซัด ประยุทธ์-ประวิตร รู้เห็นซื้อ-ขายตำแหน่ง ตร. เปิดทางล้วงลูกแต่งตั้ง โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 มีการยกตัวอย่างนายพลตำรวจ นายหนึ่งอักษรย่อ ต. ว่าได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งระดับสูงอย่างรวดเร็ว ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์พิจารณา ไม่เป็นไปตามลำดับความเหมาะสมอาวุโส อีกทั้งยังมีการทำหนังสือโยกย้ายนายตำรวจข้ามหน่วยงานในสังกัดอย่างไม่เป็นไปตามขั้นตอนการ จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเปิดช่องให้มีการซื้อ-ขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ตั๋วช้าง ภาพจาก สำนักข่าว INN โรม ชี้ การอภิปรายครั้งนี้เป็นการทำหน้าที่ที่อันตรายที่สุดในชีวิต ในระหว่างอภิปรายนั้น นายรังสิมันต์ ได้เผยเอกสารที่เรียกว่า "ตั๋วช้าง" ขึ้นมา ทำให้นายสุชาติ ตันเจริญ ประธานในที่ประชุม ต้องสั่งให้สรุปจบ ขณะที่นายรังสิมันต์ บอกว่า การที่ตนออกมาอภิปรายครั้งนี้นับว่าเป็นการทำหน้าที่ที่อันตรายที่สุดในชีวิต ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรหลังจากนี้ ตนก็ไม่เสียใจที่ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง ตั๋วช้าง ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจง ยืนยันการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจเป็นไปตามลำดับขั้นตอน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจมีการพิจารณาตามคัดกรองอย่างเป็นขั้นตอนตามลำดับชั้น โดยยึดหลักความเหมาะสมความรู้ความสามารถ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา และหากนายตำรวจ คนใดที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถยื่นเรื่องมายังคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือก.ตร. ได้ ที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีตำรวจนายใดมาร้องเรียนว่าเสียเงินซื้อขายตำแหน่ง และไม่ได้รับตำแหน่ง โดยยืนยันว่าตนและพลเอก ประวิตร ไม่เคยรับผลประโยชน์ใด ๆ จากการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ และหากใครที่มีหลักฐานก็ขอให้นำมาแสดงอย่ากล่าวหาลอย ๆ ขณะที่พลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ มีคณะกรรมการกลั่นกรองตามลำดับขั้นพร้อมทั้งยืนยันการแต่งตั้ง เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของ ก.ตร. ตั๋วช้าง ภาพจาก รัฐบาลไทย เปิดตัว "ตั๋วช้าง" ศัพท์ที่รู้กันเฉพาะวงการตำรวจ บัตรผ่านซื้อ-ขาย ตำแหน่ง หลังจากนั้น นายรังสิมันต์ โรม ได้ออกมาอภิปรายนอกสภา และเปิดเผยข้อมูลของตั๋วช้างผ่านเฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม หลายคนสรุปคร่าว ๆ ได้ว่า ตั๋วช้าง ใช้ในการซื้อ-ขาย ตำแหน่งทางตำรวจ หากมีตั๋วนี้ราคาตำแหน่งจะราคาถูกลง 50% นายรังสิมันต์ ระบุถึงการมีอยู่ของตั๋วช้างว่า อาจจะทำให้เกิดความสมยอมในการกระทำผิด เพราะจากที่ตนได้ข้อมูลมาราคาของตำแหน่งต่าง ๆ มีตั้งแต่ 1.5 ล้านบาท ในตำแหน่งสารวัตร ไปจนถึง 50 ล้านบาท ในตำแหน่งผู้บัญชาการ จริงเท็จอย่างไรเชื่อว่าพี่น้องตำรวจคงรู้กันดี อย่างไรก็ตาม วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 นายรังสิมันต์ ได้ออกมาชี้แจงกรณี "ตั๋วช้าง" อีกครั้งผ่านเฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม หลังจากโลกออนไลน์พูดถึงกันอย่างมาก และอาจมีความคลาดเคลื่อนไปจากสิ่งที่ตนจะสื่อว่า ตั๋วช้าง เป็นคำเรียกตั๋วตำรวจ เป็นการวิ่งเต้นของตำรวจ มีหลายระดับ หลายเลเวล มีคำเรียกหลายแบบ มีหลายใบ ซึ่งตั๋วช้าง คือตั๋วที่ใหญ่ที่สุด เป็นคำที่ถูกอ้างถึงจากสกู๊ปข่าวหนึ่งเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ ระบุว่าเป็นจดหมายฝากตำแหน่งที่ดีที่สุดและไม่เคยได้รับการปฏิเสธไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งอะไร นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า ตนเองไม่มีข้อมูลว่า "ตั๋วช้าง" นั้นช่วยให้ได้ลดราคาเก้าอี้หรือไม่ หรือลดได้เท่าไร เนื่องจากเรื่องการซื้อขายตำแหน่งนั้น เราต้องยอมรับว่าการจะหา "ใบเสร็จ" ที่ระบุตัวเงินนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ขั้นตอนการจ่ายจริง ๆ อาจไม่ได้มีหลักฐานบันทึกไว้ก็ได้ ข้อสรุปว่า "ตั๋วช้าง" ช่วยให้ซื้อตำแหน่งในราคาที่ถูกลงครึ่งหนึ่งจึงอาจไม่ตรงกับสิ่งที่ตนต้องการจะสื่อเสียทีเดียว คำตอบ ณ ตอนนี้คือเรายังไม่อาจทราบได้ว่าเป็นเท่าไรกันแน่ บางทีตัวเลขที่ถูกต้องอาจเป็นลด 100% เลยก็เป็นได้ สำหรับคำนิยาม ที่ชัดเจนที่สุดของตั๋วช้าง คือ ตั๋วตำรวจที่ใหญ่ที่สุด มีอำนาจมากที่สุด ขอแล้วได้เลย เว้นหลักเกณฑ์ได้ทุกแบบ ไม่ต้องพิจารณาประวัติคนที่ขอว่าเคยมีมลทินไหม ตั๋วช้าง ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม การมีอยู่ของตั๋วช้าง อาจทำให้สุดท้าย ตำรวจต้องหาลำไพ่พิเศษ ลงเอยด้วยการหากินกับธุรกิจผิดกฎหมาย นายรังสิมันต์ ระบุว่า กรณีตั๋วช้าง หรือตั๋วพิเศษอื่น ๆ สิ่งที่ต้องจ่ายบางทีอาจไม่ได้เป็นเงินเสมอไปก็ได้ บางทีอาจมาในรูปของบุญคุณ ในรูปของความภักดี ในรูปของการรับใช้ต่อเนื่องยาวนานเสมือนข้าทาสบริวาร ก็เป็นได้ "แค่คิดว่าราคาตั๋วพวกนี้ ต้องไปเบียดเบียนเอาจากเงินเดือนนายตำรวจแต่ละคน ก็ผิดมากแล้ว แต่ถ้ายิ่งคิดไปว่าราคาตั๋วมากขนาดนั้น ตำรวจจะไปจ่ายอย่างไรไหวถ้าไม่หาลำไพ่พิเศษ หรือถ้าราคาตั๋วมันคือการต้องไปคอยช่วยรักษาคุ้มครองผลประโยชน์ให้กับคนที่ออกตั๋วแล้ว นั่นเท่ากับว่าสุดท้ายตำรวจก็ต้องไปลงเอยกับการเก็บกินจากบ่อน จากพ่อค้ายา จากขบวนการค้ามนุษย์ จากธุรกิจผิดกฎหมายต่าง ๆ แทนที่จะกำจัดให้สิ้นซาก ก็กลายเป็นมาหล่อเลี้ยงให้มันดำรงอยู่ต่อไป อย่างนั้นใช่หรือไม่ ?" ตั๋วช้าง ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม ตั๋วช้าง ภาพจาก เฟซบุ
    NO AR
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    “ ชลน่าน” โต้ข่าวเพื่อไทยยกประธานสภาให้ก้าวไกล ซัดปล่อยข่าวทำพรรคตกเป็นจำเลย ยืนยันหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ ไม่มีแผน 2-3
    “ชลน่าน” โต้ข่าวเพื่อไทยยกประธานสภาให้ก้าวไกล ซัดปล่อยข่าวทำพรรคตกเป็นจำเลย ยืนยันหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ ไม่มีแผน 2-3 จากกรณีมีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยยอมยกเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้พรรคก้าวไกล โดยพรรคเพื่อไทยจะนั่งรองประธานสภาฯ 2 ตำแหน่ง มีเงื่อนไขว่าทั้ง 8 พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมจะชู นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี หาก นายพิธา ไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ได้ พรรคเพื่อไทย จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลจะอยู่ช่วยพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลไม่แยกตัวออกไปไหนนั้น ล่าสุด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ไม่รู้ที่มาที่ไปของข่าวดังกล่าว โดย นพ.ชลน่าน บอกว่า เมื่อวานนี้ยังอยู่กับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ก็ยังมีการพูดคุยถึงแนวทางต่างๆ ที่เราจะไปพูดคุย เจรจากับพรรคก้าวไกล รวมถึงกระบวนการเพื่อขอมติพรรค 3 ก.ค. ก่อนที่จะมีการโหวตประธานสภา 4 ก.ค. นพ.ชลน่าน ย้ำว่า คำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก บางคนไปตีความ สิ่งที่สื่อสารออกไปผิด ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า เปรียบประชาชนเป็นพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ให้เขามาอย่างไรเราก็ต้องทำ แม้เราไม่เห็นด้วยในเรื่องนั้นตนก็เลยเปรียบเทียบ ให้ฟังกลับไปตีความผิด กลายเป็นว่าไม่รักกัน มันไม่ใช่ไม่รักกัน การคลุมถุงชนมันไม่ใช่ว่ารักหรือไม่รัก จริงอยู่ส่วนหนึ่งที่อาจมีไม่รักแต่ถูกจับมาแต่ง บางครอบครัวเขาไม่เคยเจอกันเลยแต่ถูกจับมาแต่งเขาก็รักกัน เป็นคู่ชีวิตที่ยั่งยืน อย่างเช่นคนจีนที่มีครอบครัวเข้มแข็ง ความหมาย คือ เพียงแค่จะต้องการให้เห็นความสำคัญของประชาชน ว่าเขามอบอำนาจมาให้เราเหมือนพ่อเหมือนแม่ ดังนั้นเราเองไม่มีสิทธิ์ที่จะไปคิดอย่างอื่นเลย ต้องการจะเปรียบเทียบเท่านี้ แต่อาจจะสื่อสาร ไขว้เขวก็ต้องขออภัย เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งรองประธานสภา 2 คน และเป็นเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลแทนหากก้าวไกลทำไม่สำเร็จนั้น นพ.ชลน่าน ยืนยัน เป็นการปล่อยข่าว ระดับแกนนำเองก็ยังงง ว่ามายังไง เพราะไม่ใช่ผลดีกับพรรคแน่นอน และคนที่ปล่อยข่าวมาอ้างตัวว่าเป็นแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย อย่างนี้ยิ่งส่งผลไม่ดี ยิ่งทำให้เราตกเป็นจำเลยเข้าไปอีก ดังนั้นตนขอย้ำอีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทยยึดมั่นในฉันทามติของประชาชน สนับสนุนนายพิธาเป็นนายก และก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยที่เพื่อไทยจะไม่เป็นเงื่อนไขในการที่จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ
    std46218
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false