1 คนสงสัย
รสชาติน้ำลายบอกโรค?
ข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ รสชาติน้ำลายบอกโรคได้
.
ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์เรื่อง รสชาติน้ำลายบอกโรคได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบ โดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
.
จากกรณีที่มีผู้โพสต์ภาพให้ความรู้ว่า รสชาติน้ำลายสามารถบอกโรคได้ โดยถ้าน้ำลายมีรสเผ็ดเสี่ยงต่อโรคความดัน หากรสชาติเค็มบ่งบอกว่ามีการอักเสบภายในร่างกาย อาจจะเป็นคอหรือไต หากเป็นรสหวานจะบอกโรคเกี่ยวกับน้ำย่อยไม่ปกติ และเบาหวาน หากมีรสฝาดระบบประสาทผิดปกติ พักผ่อนน้อย และเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง และสุดท้ายถ้ารสชาติเป็นรสเปรี้ยวจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะและลำไส้ ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า รสชาติของน้ำลายไม่ได้บ่งบอกโรคต่าง ๆ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวตามข้อความไม่พบความสัมพันธ์ตามข้อมูลทางการแพทย์แต่อย่างใด
.
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากโรงพยาบาลราชวิถี สามารถติดตามได้ที่ www.rajavithi.go.th หรือ โทร. 02-206-2900
.
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : รสชาติของน้ำลายไม่ได้บ่งบอกโรคต่าง ๆ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวตามข้อความไม่พบความสัมพันธ์ตามข้อมูลทางการแพทย์แต่อย่างใด
.
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
.
📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม
.
LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG)
Website : https://www.antifakenewscenter.com/
Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand
Tiktok : @antifakenewscenter
สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87
.
#ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวสุขภาพ #รสชาติน้ำลาย #โรคจากน้ำลาย #น้ำลาย
std48130
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น

ยาสมุนไพร

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    สีเลือดของประจำเดือนสามารถบอกโรคได้
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! สีเลือดของประจำเดือนสามารถบอกโรคได้
    std48058
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กำมือ-แบมือ ข่าวปลอม! แก้โรคความดันโลหิตสูง แค่กำมือ – แบมือ
    มีคนบอกว่าสามารถแก้โรคความดันโลหิตสูงได้เพียงแค่ กำมือ-แบมือ ข่าวปลอม! แก้โรคความดันโลหิตสูง แค่กำมือ – แบมือ | Hfocus.org แก้โรคความดันโลหิตสูง แค่กำมือ – แบมือ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบเรื่อง ความดันโลหิตสูงแก้ได้โดยการกำมือ-แบมือ กับโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
    std47905
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! อาการขี้หนาวเป็นสัญญาณของไตขวาเสื่อม
    กรณีที่มีการโพสต์คำแนะนำในสื่อสังคมออนไลน์โดยระบุว่า อาการขี้หนาวเป็นสัญญาณบ่งบอกโรคไตขวาเสื่อม ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า อาการขี้หนาวไม่มีความเกี่ยวข้องหรือเป็นสาเหตุสัญญาณบ่งบอกโรคไต
    std47891
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! อาการขี้หนาวเป็นสัญญาณของไตขวาเสื่อม
    กรณีที่มีการโพสต์คำแนะนำในสื่อสังคมออนไลน์โดยระบุว่า อาการขี้หนาวเป็นสัญญาณบ่งบอกโรคไตขวาเสื่อม ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า อาการขี้หนาวไม่มีความเกี่ยวข้องหรือเป็นสาเหตุสัญญาณบ่งบอกโรคไตขวาเสื่อมแต่อย่างใด
    std47916
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 2 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ลักษณะพระจันทร์เสี้ยวในเล็บมือสามารถบอกโรคได้ . ตามที่มีการบอกต่อข้อความเกี่ยวกับเรื่องลักษณะพระจันทร์เสี้ยวในเล็บมือสามารถบอกโรคได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากที่มีการบอกต่อข้อมูลในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เล็บรอยขาวพระจันทร์เสี้ยวพบได้เป็นปกติของเล็บนิ้วมือ ในกรณีที่เป็นโรคไตวาย โรคตับแข็ง โรคหัวใจวาย อาจจะพบว่ามีเล็บขาวเป็นบางส่วนได้ แต่ไม่
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ลักษณะพระจันทร์เสี้ยวในเล็บมือสามารถบอกโรคได้ . ตามที่มีการบอกต่อข้อความเกี่ยวกับเรื่องลักษณะพระจันทร์เสี้ยวในเล็บมือสามารถบอกโรคได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากที่มีการบอกต่อข้อมูลในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เล็บรอยขาวพระจันทร์เสี้ยวพบได้เป็นปกติของเล็บนิ้วมือ ในกรณีที่เป็นโรคไตวาย โรคตับแข็ง โรคหัวใจวาย อาจจะพบว่ามีเล็บขาวเป็นบางส่วนได้ แต่ไม่ใช่ลักษณะพระจันทร์เสี้ยวแบบนี้ . เล็บที่เป็นสัญญาณบอกโรคคือ เล็บที่มีความหนาหรือบางผิดปกติ เล็บเปลี่ยนสี ผิวหนังรอบเล็บบวมแดง ปลายเล็บร่น และเล็บที่มีพื้นผิวขรุขระ ส่วนเล็บสุขภาพดี คือเล็บที่มีสีออกชมพูจาง ๆ จากสีผิวของเนื้อข้างใต้เล็บ มีพื้นผิวเรียบ ผิวหนังรอบเล็บมีความแข็งแรง และเล็บมีความหนาไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป . ทั้งนี้ ควรหมั่นสำรวจตัวเองบ่อย ๆ หากมีความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดเล็บอยู่เสมอ . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 590 6000 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ลักษณะรอยขาวพระจันทร์เสี้ยว เป็นปกติของเล็บนิ้วมือ ส่วนกรณีที่เป็นโรคไตวาย โรคตับแข็ง โรคหัวใจวาย อาจจะพบว่ามีเล็บขาวเป็นบางส่วนได้ แต่ไม่ใช่ลักษณะพระจันทร์เสี้ยว . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวสุขภาพ #เล็บมือ #โรค #นิ้วมือ
    std48123
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ปัสสาวะกลางคืนบ่อยทำให้ไขมันอุดตัน
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ หากกลางคืนปัสสาวะบ่อย สัญญาณบอกไขมันสะสมในช่องท้อง . ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์เรื่องหากกลางคืนปัสสาวะบ่อย สัญญาณบอกไขมันสะสมในช่องท้อง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบ โดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากกรณีที่มีผู้โพสต์ภาพให้ความรู้ว่า หากกลางคืนปัสสาวะบ่อย ท้องอืด นอนหลับยากแสดงว่า ไขมันเริ่มสะสมช่องท้องนั้น ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า บทความดังกล่าวไม่มีความสัมพันธ์กัน ที่อธิบายได้ตามความรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยการปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืนกับไขมันสะสมในช่องท้องไม่ได้สัมพันธ์กัน ทั้งทางทฤษฎี และจากการศึกษาวิจัยใด ๆ . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากโรงพยาบาลราชวิถี สามารถติดตามได้ที่ www.rajavithi.go.th หรือ โทร. 02-206-2900 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : บทความดังกล่าวไม่มีความสัมพันธ์กัน ที่สามารถอธิบายได้ตามความรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยการปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืนกับไขมันสะสมในช่องท้องไม่ได้สัมพันธ์กัน ทั้งทางทฤษฎี และจากการศึกษาวิจัยใด ๆ . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวสุขภาพ #ปัสสาวะตอนกลางคืน #ไขมันสะสม #โรคอ้วน
    papangpc150563
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวบิดเบือน กินนมวัวจะกระตุ้นทำให้ประจำเดือนมาเร็ว และร่างกายจะหยุดสูงทันที
    ข่าวบิดเบือน กินนมวัวจะกระตุ้นทำให้ประจำเดือนมาเร็ว และร่างกายจะหยุดสูงทันที . ตามที่มีการแชร์ข้อมูลในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกินนมวัวจะกระตุ้นทำให้ประจำเดือนมาเร็ว และร่างกายจะหยุดสูงทันที ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน . จากที่มีการแชร์ข้อมูลโดยระบุว่ากินนมวัวจะกระตุ้นทำให้ประจำเดือนมาเร็ว และร่างกายจะหยุดสูงทันที ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่ามีข้อมูลพบว่าระดับเอสโตรเจนในนมวัวเพิ่มสูงขึ้นกว่าแต่ก่อน ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในเด็กที่มักดื่มนมปริมาณมาก แต่พบว่าฮอร์โมนที่ได้รับนั้นมีปริมาณน้อยมาก เมื่อเทียบกับฮอร์โมนที่สร้างในร่างกายปกติ ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนจากนมวัว ไม่มีปริมาณมากเพียงพอที่จะทำให้ประจำเดือนมาเร็ว หลังประจำเดือนมาครั้งแรก เด็กจะสูงต่ออีก 1 - 2 ปี เด็กจะหยุดสูงทันที . ดังนั้นข้อมูลและภาพที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน จึงขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.rajavithi.go.th หรือโทร 02 206 2900 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ฮอร์โมนเอสโตรเจนจากนมวัว ไม่มีปริมาณมากเพียงพอที่จะทำให้ประจำเดือนมาเร็ว หลังประจำเดือนมาครั้งแรกเด็กจะสูงต่ออีก 1 - 2 ปี และเด็กจะหยุดสูงทันที . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวบิดเบือน #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #นมวัว #ประจำเดือน #ส่วนสูง
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! พฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บของเด็กป้องกันโรคภูมิแพ้ตอนโต
    กรณีที่มีข่าวสารถูกส่งต่อในสื่อออนไลน์เรื่องพฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บของเด็กป้องกันโรคภูมิแพ้ตอนโต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บของเด็กช่วยให้รอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้นได้ ทางสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า พฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บเป็นพฤติกรรมที่พบได้ในเด็กปกติโดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก และจะค่อย ๆ หายไปหลังอายุ 4 ขวบ และไม่ได้ช่วยให้เด็กรอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้น และควรมีการแก้ไขหากยังมีการดูดนิ้ว กัดเล็บในเด็กอายุเกิน 4 ขวบขึ้นไป เพราะจะส่งผลกระทบกับการผิดรูปของฟัน การเกิดบาดแผลที่นิ้ว และเป็นช่องทางในการทำให้เกิดโรคติดเชื้อที่แพร่กระจายผ่านน้ำลายและสารคัดหลั่งต่าง ๆ ทั้งยังส่งผลกับด้านอารมณ์จิตใจ รวมถึงบุคลิกภาพของเด็กด้วย ทั้งนี้เด็กเล็กควรได้รับการแก้ไขโดยการปรับพฤติกรรม ได้แก่ งดการให้ความสนใจการดูดนิ้ว กัดเล็บ และเบี่ยงเบนความสนใจโดยใช้กิจกรรมการเล่นที่ใช้มือ เช่น วาดภาพ ระบายสี พับกระดาษ เป็นต้น หากได้รับการแก้ไขดังกล่าวแล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบกุมารแพทย์หรือกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก
    std46661
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 2 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! หายใจให้ถูกวิธีจะช่วยลดอาการข้อเท้าบวม
    ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์เรื่องหายใจให้ถูกวิธีจะช่วยลดอาการข้อเท้าบวม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบ โดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปให้ความรู้ว่า การหายใจโดยนั่งตัวตรงหรือยืนตรง และเริ่มหายใจออกก่อนโดยโน้มตัวไปข้างหน้า แล้วหายใจเข้าโน้มตัวกลับขึ้นมา ทำแบบนี้ไป 20 – 30 ครั้ง จะช่วยลดอาการข้อเท้าบวม ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า อาการที่คลิปกล่าวถึงเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงทางการแพทย์ หรือก็คือ วิธีการหายใจตามคลิปนั้น ไม่มีความสัมพันธ์ทั้งทางทฤษฎี หรือทางรายงานการวิจัยกับการลดการบวมของข้อเท้า ทั้งจากการบวมน้ำ การอุดกั้นของหลอดเลือดดำที่ขา หรือจากการอักเสบของข้อเท้าแต่อย่างใด
    std46688
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เลิกเชื่อข่าวเท็จ "ฟอกเลือด" ไม่ช่วยรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบ
    สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ ยืนยันหลอดเลือดสมองตีบไม่สามารถรักษาด้วยการฟอกเลือด การกระตุ้นการไหลเวียนจะลดการเกิดโรคจะลดการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ จากกรณีการแชร์ข้อมูลหลอดเลือดสมองตีบรักษาด้วยการฟอกเลือด และกระตุ้นการไหลเวียน ช่วยลดการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ เพราะไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่บอกว่าการฟอกเลือด และการกระตุ้นการไหลเวียนจะลดการเกิดโรคได้ นายแพทย์ธนบูรณ์ วรกิจธำรงค์ชัย นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ อายุรกรรมประสาท เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมองและการรักษาโรคหลอดเลือดสมองอุดตันด้วยสายสวนหลอดเลือดสมอง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับ Hfocus ว่า โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือขาดเลือด คนทั่วไปจะเข้าใจอยู่ 2 โรค คือ อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นภาวะที่หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน จะเป็นหลอดเลือดเส้นใหญ่หรือเส้นเล็กก็ได้ ส่วนหลอดเลือดสมองแตกจะมีเลือดออกในเนื้อสมองหรือฉาบในผิวของสมองก็ได้ ปัจจุบัน พบผู้ป่วยหลอดเลือดสมองตีบหรือขาดเลือดประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนหลอดเลือดสมองแตก จะพบประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่หลอดเลือดสมองแตกที่เจอ มักจะมาจากโรคความดันโลหิตสูงเป็นหลัก หากผู้ป่วยคุมความดันโลหิตไม่ได้ ความดันโลหิตสูงมาก ๆ จะเกิดหลอดเลือดในสมองแตกได้ ทำให้มีเลือดออกในสมอง ซึ่งโรคหลอดเลือดสมองตีบจะมีอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกข้างใดข้างหนึ่ง พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว มองเห็นไม่ชัด โดยเป็นทันทีทันใด เช่น หลอดเลือดสมองตีบทางด้านซ้าย คนไข้จะอ่อนแรงด้านขวา ร่วมกับอาการปากเบี้ยวทางด้านขวา อาจมีเรื่องความรู้สึกลดลง เกิดความชา ฝั่งตรงข้ามของรอยโรคในสมอง บางคนมองเห็นภาพซ้อน สายตาแคบลง มองไม่เห็นฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ถ้าเป็นมากจะหมดสติร่วมด้วย บางรายจะสื่อสารไม่ได้ พูดไม่ออก ฟังคำถามแล้วไม่เข้าใจ ทำตามสั่งไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีหลอดเลือดสมองด้านหลังบริเวณท้ายทอยจะเป็นแกนกลาง เรียกว่า ก้านสมอง บางครั้งก็มีหลอดเลือดเส้นเล็กอุดตันได้เช่นกัน แต่หากเป็นหลอดเลือดเส้นใหญ่จะอ่อนแรงทั้งสองข้าง และอาจหมดสติได้" นายแพทย์ธนบูรณ์ กล่าว ส่วนการฟอกเลือดนั้น นายแพทย์ธนบูรณ์ ยืนยันว่า วิธีที่อยู่บ้านฟอกเลือดนั้น ไม่สามารถช่วยได้ อีกทั้งโรงพยาบาลจะไม่มีการฟอกเลือดเพื่อรักษาโรคนี้ การไปฟอกเลือดกันเองเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง หากมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองตีบให้ไปโรงพยาบาลเร็วที่สุด เพราะมีการรักษาที่ให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำภายใน 4 ชั่วโมงครึ่งหลังมีอาการหากไม่มีข้อห้าม สามารถทำให้อาการของโรคหลอดเลือดสมองตีบดีขึ้นมาได้ และหากเป็นโรคหลอดเลือดสมองเส้นใหญ่อุดตัน ปัจจุบันมีการรักษาโดยการใส่สายสวนหลอดเลือดสมองเพื่อนำลิ่มเลือดที่อุดตันออกได้หากไม่มีข้อห้าม
    Jittiphatsa8416
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false