1 คนสงสัย
จริงไหมที่ว่า ปอดของคนไข้ที่อักเสบจากเชื้อโคโรน่าไวรัสจะฟื้นสภาพดีขึ้นไม่ได้
มีกระแสข่าวจากเว็บที่มาจากจีนว่า หากเนื้อปอดถูกทำลายไปแล้วไม่สามารถซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ได้ และหมอหลายคนบ้านเราก็บอกว่าถ้าเชื้อไวรัสลงไปที่ปอดแล้วปอดจะฟื้นตัวไม่ได้ ก่อนได้ชื่อโควิด-19 ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวนี้เคยถูกเรียกว่า “โรคปอดติดเชื้อไวรัสลึกลับ” เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าติดเชื้อจากไวรัสชนิดใด ที่สำคัญแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าซาร์ส และเมอร์ส คนที่มีภาวะปอดอักเสบติดเชื้อ เนื้อปอดถูกจะทำลายมากกว่าร้อยละ 50 แม้หายจากโรค แต่ร่างกายอาจฟื้นตัวไม่ไหว บางรายถึงขั้นเสียชีวิต
naruemonjoy
 •  4 ปีที่แล้ว
meter: mostly-false--middle
3 ความเห็น

โควิด 2019

naruemonjoy เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้สร้างความเสียหายต่อร่างกายเราได้อย่างไร บทความจาก bbc.com

ที่มา

https://www.bbc.com/thai/51898463
naruemonjoy เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

ลักษณะของปอดที่ถูกทำลายมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกทำลายอย่างหนัก เฉพาะในผู้ป่วยที่ปอดถูกทำลายมากๆ หรือรุนแรงมากๆ เป

ที่มา

  • มี 1 ความเห็น เจ้าของลบไปแล้ว.
  • เพิ่มความเห็นใหม่

    กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

    คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    โควิด ติดแล้ว ปอดจะทำงานไม่เหมือนเดิมตลอดไป จริงหรือไม่
    Don't mean to scare you, folks, but be very cautious, be protective & be safe to you all. ********************************************************** บอย วรพล สิงห์เขียวพงษ์ December 29, 2020 at 4:55 PM โควิด-19 เป็นแล้วโอกาสตายน้อยกว่าห้าเปอร์เซ็นต์ จริงครับ > แต่หายแล้ว ปอดอาจพังตลอดชีวิต > ลิเดีย-แข็งแรง เหลือปอดทำงาน หกสิบเปอร์เซ็นต์ > ล่าสุด...31 ธันวาคม 2563 ผู้ว่าจังหวัดสมุทรสาครน่าจะเป็นเคสนี้ครับ บทความนี้ถูกส่งต่อกันมา ผมพอทราบว่ามีส่วนจริง แต่ให้แน่ใจ จึงส่งไปถามเพื่อนที่เป็น...’หมอ’ ! เขาตอบว่า...จริง !!! > โควิด-19 เป็นแล้วตายก็จบไป แต่ถ้าไม่ตายก็ต้องลุ้น ! > คุยกันครั้งใด เขาบอกผม...พี่อย่าให้เป็นนะ อายุเยอะแล้ว ตายก็ลำบากก่อนตาย ไม่ตายก็แย่ไปตลอดชีวิต ยกมา > "ผมกลัว" ที่จะติดเชื้อ Covid-l9 ผมจึงทำตามที่รัฐบาลบอก คือ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" และจะออกจากบ้าน เมื่อจำเป็นจริง ๆ ผมบอกว่า ผมเชื่อว่าใครที่ติดเชื้อ Covid-l9 จะไม่มีวันกลับไป "ปกติ" เพราะปอดจะไม่ทำงานเต็มร้อยอีกแล้ว > แต่...แต่ก่อนที่จะเสียชีวิต หากคุณติดเชื้อ รู้ไหมว่ามันทรมานแค่ไหน > คุณรู้ไหมว่า การรักษาโรคปอดติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2ol9 หรือ Covid-19 มันไม่ใช่แค่ใส่หน้ากากออกซิเจน แล้วนอนอ่านหนังสือ หรือเล่นโทรศัพท์ อยู่บนเตียงสบาย ๆ ในโรงพยาบาล > เพราะเครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วย Covid-19 (บางคน-ไม่ทุกคน) มันสร้างความเจ็บปวด ต้องสอดท่อลงไปในลำคอและคาไว้ จนกว่าจะหาย หรือตายภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยแทบไม่สามารถขยับตัว > การรักษานี้ คนไข้จะถูกจับให้นอนคว่ำกลับหัว มีท่อหายใจต่อจากปากขึ้นไปที่เครื่องช่วยหายใจ ไม่สามารถพูด กิน หรือขับถ่ายได้ตามปกติ แถมเจ็บปวดตลอดเวลา > สิ่งที่แพทย์ช่วยได้ก็คือ ให้ยานอนหลับและยาแก้ปวด เพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้สามารถทนต่อความเจ็บจากการใส่ท่อช่วยหายใจ เหมือนอยู่ในอาการโคม่าเทียม > ผ่านไป 20 วัน ผู้ป่วยจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ สี่สิบเปอร์เซนต์ และมีแผลในปากหรือหลอดลม เช่นเดียวกับปอด เกิดภาวะแทรกซ้อนของหัวใจ > นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้คนแก่ หรือผู้ป่วยโรคอื่น เช่น ความดัน หัวใจ ไม่สามารถทนการรักษาได้ และอาจตายในที่สุด >>> ย้ำ..นี่ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่ ! การให้อาหารเหลวใส่หลอดเข้าไปในท้องของคุณ ไม่ว่าจะผ่านจมูกหรือเส้นเลือด การที่ต้องมีพยาบาลมาช่วยขยับแขนขาทุกสoงชั่วโมง เพื่อป้องกันแผลกดทับ และต้องนอนบนเตียงน้ำที่เย็น เพื่อช่วยลดอุณหภูมิ 40 องศาของคุณ "มันไม่ใช่เรื่องสนุก" และคนที่บ้านเป็นทุกข์แน่ ๆ นี่คือหนึ่งในเหตุผล ที่ชาติตะวันตก ปล่อยให้ตาย ไม่รับรักษา เพราะสิ้นเปลือง > ผมกลัว...ผมจึงอยู่บ้าน ถ้าคุณไม่กลัว ก็ตามสบายนะครับ ไม่สวมหน้ากากตอนออกจากบ้าน ไม่รักษาระยะห่าง ไปในที่สุ่มเสี่ยง เป็นเรื่องความรับผิดชอบที่คุณมีต่อครอบครัวของคุณเอง > ที่เล่ามาทั้งหมด ก็เพื่อคนที่คุณรัก เพื่อคนที่รักคุณ และ เพื่อตัวคุณเอง #เรียบเรียงบางส่วนจาก LIND ใครจะหาว่าผมตื่นตูม ก็ตามสะดวก แต่ผมว่าเราต้อง ‘ตื่นตัว’ แม้คนที่เป็น ไม่ทุกคนที่จะมีสภาพนี้ แต่ก็มีไม่น้อยที่หายแล้วปอดไม่เต็มร้อย > ผมว่าปอดพังเร็วมาก ยิ่งกว่าสูบบุหรี่ซะอีก > แชร์ได้ ไม่ต้องขอครับ > รักใคร ห่วงใคร ก็แชร์กันไป ถ้าคุณได้รับแชร์นี้มาแสดงว่ามีคนรักคุณ
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เมื่อติดเชื้อโคโรนาไวรัสแล้ว ไม่ได้ทำให้เสียชีวิตทุกราย
    จากข่าวลือในโลกออนไลน์ที่ว่า หากติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้วจะทำให้เสียชีวิตทุกรายในเวลาอันสั้นนั้น ในเอกสารเผยแพร่ หมอชวนรู้ ของแพทย์สภา บอกว่า ข้อมูลของผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ ส่วนมากเป็นผู้ป่วยสูงอายุ เลยสร้างภูมิต้านทานช้าจนมาสู้เชื้อไม่ทัน และเป็นผู้ที่มีโรคปอดเรื้อรังอยู่แล้ว ทำให้ปอดอักเสบที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อรุนแรงและรวดเร็ว ทำห้เกิดภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่วนผู้ที่มีปอดแข็งแรง ก็สามารถทนต่อการก่อโรคของเชื้อที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึงเวลาที่ภูมิต้านทานของผู้ป่วยเกิดมามากพอ จนต่อสู้ทำลายเชื้อก่อโรคได้ทันก่อนที่เนื้อปอดจะเสียหายจนแก้ไขไม่ทัน ผู้ป่วยที่แข็งแรงกว่าจึงป่วยและฟื้นตัวได้ทันจากภูมิต้านทานของตนเอง
    naruemonjoy
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 เอง โควิด19 มาจากฝีมือมนุษย์ จริงหรือไม่
    ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 เอง... ************** โควิด19 มาจากฝีมือมนุษย์ มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3รัฐคาโรไลน่าเหนือของอเมริกา!!! นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของอเมริกาให้สัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวช่องข่าวทีวีที่1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้ นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 รัฐ คาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ราล์ฟ บาร์ริก - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือส่งไปแพร่ระบาดในประเทศจีน อิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม นายเกรก ก็ได้ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่าตัวไวรัสเองแท้จริงแล้วคืออาวุธชีวภาพ? **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวีได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า - โควิด19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัดที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจากค้างคาวเข้าไปเพิ่มความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด19 เป็นอาวุธชีวภาพที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มาโดยตลอด ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด19จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่าวัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆกับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่ามีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด19 นี้ - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าวลี่เจียงได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ว่า ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมากที่ทหารอเมริกานำเชื้อมาแพร่ที่อู่ฮั่น. >>>>อเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่อู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi" >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK *** คนในครอบครัวก็มีหลายคนที่ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อเขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด19 มีต้นกำเนิดจากอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลปที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด19 เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา" ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาด แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ >>>#”ความไร้ยางอายทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่าอเมริกาเป็นผู้วางยาพิษคนทั้งโลก. เพื่อขายวัคซีนป้องกันมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า” >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิตให้จีนรับเคราะห์แทนอย่าง น่ารังเกลียดที่สุด ***เชื้อโควิด19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไปแล้วโทษคนอื่น ***ยังมีข้อน่าสงสัยที่นายเกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร *** นาย บาร์ริคมาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015 - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไป อย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียม# ยาแก้พิษไว้ก่อนเสมอ!!!! - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆกับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก ***อเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขาคือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด19 >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างตั้งใจเพื่อทำลายล้างจีนและ ปชช ทั่วโลก*** >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่าจะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัวและให้ความสาคัญในระดับสูง #แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!! **Ny Ny*
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    *** สมุนไพร 3 แม่ทัพต้านไวรัสโควิด-19 *** . เมื่อสาย ๆของวันนี้ ดิฉันได้คุยกับพี่ชายที่รัก คนทำงานด้วยกันที่มูลนิธิข้าวขวัญ . ประโยคแรกที่พี่ชายพูดกับดิฉันก็คือ "เอียด พี่กับเพื่อนพี่ คนไทยในอเมริกา ต้องขอบคุณเอียดมากนะ สูตรน้ำสมุนไพร 3 แม่ทัพ ที่เอียดบอกมา ช่วยคนไทยในอเมริกาได้มาก เพื่อนพี่อยู่ที่เท็กซัส กับแคลิฟอร์เนีย ศูนย์กลางการระบาดหนักของไวรัสโควิด-19 เขากินน้ำสมุนไพร 3 แม่ทัพแล้วได้ผลดีมาก เพื่อนที่ป่วยติดไวรัสโควิด-19 ไปโรงพยาบาล หมอให้กลับมาอยู่บ้าน เขาป่วยหนัก ก่อนนี้พี่ส่งขมิ้นชันผง หอมแดง กระเทียมไปให้เขาทาง DHL เขาเอาต้มน้ำสมุนไพร 3 แม่ทัพกิน 4-5 วันเขาดีขึ้น ชุ่มคอ หายใจสะดวก เขาดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่กี่วันก็หายป่วย ตอนนี้หายสนิทแล้ว ส่วนอีกคน พี่ส่งขมิ้นชัน หอมแดง กระเทียม จากเมืองไทยไปให้เขาทาง DHL เพื่อนใช้กินป้องกัน ใช้กันทั้งครอบครัว แล้วเขาก็ใช้แมสก์ด้วยนะ เพื่อนๆคนไทยเราแข็งแรงดี เมื่อเช้าคุยวิดีโอคอลกัน เสียดายไม่ได้อัดเทปไว้ แต่ตอนนี้สูตรน้ำมัน 3 แม่ทัพที่เอียดให้มา กลุ่มเพื่อนคนไทยในเท็กซัส แคลิฟอร์เนีย ใช้กันมาก แล้วได้ผลดีจริงๆ หายป่วยจากไวรัสโควิด ได้จริงๆ ตอนแรกพี่ก็ไม่ค่อยเชื่อหรอก พวกเรื่องต่างๆที่เทพบอกมา แต่ตอนนี้พี่เชื่อแล้ว เพราะเพื่อนๆใช้ได้จริง หายป่วยได้จริง ขอบคุณเอียดมากๆเลยนะ” . ดิฉันฟังพี่ชายพูดแล้วน้ำตาจะไหล ดิฉันมั่นใจ สูตรชาสมุนไพร 3 แม่ทัพ ต้องใช้ได้ผลแน่ เทพบอกมาเอง ถามท่านปุ๊บ ก็มีเสียงบอกมาเลย และดิฉันก็มอบสูตรนี้ให้ทีมพี่เดชา ไปเผยแพร่ต่อ บัดนี้ชาสมุนไพร 3 แม่ทัพสามารถช่วยชีวิตคนไทยที่เผชิญโรคระบาดไวรัสโควิดในเท็กซัสและแคลิฟอร์เนียได้จริงๆ ข่าวที่รับทราบมาเมื่อเช้านี้ ทำให้ดิฉันไปค้นข้อมูลเก่าเรื่องชาสมุนไพร 3 แม่ทัพ ที่เคยเผยแพร่ไว้เมื่อปลายเดือน มีนาคม 2563 ในช่วงไวรัสโควิด19 ระบาดหนักครั้งก่อน เพื่อมาฝากเพื่อนๆและพี่น้องคนไทย ไว้ใช้ป้องกันตัวเอง รักษาอาการป่วยไข้ โดยมีเนื้อหารายละเอียดของสูตรยาสมุนไพร 3 แม่ทัพ ดังนี้ . . “ในขณะที่ครุ่นคิดพิจารณาหนทางที่จะช่วยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดให้ลดลง อาจารย์เดชา ศิริภัทร ได้รับข้อมูลว่าให้นำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด คือ ขมิ้นชัน หอมแดง กระเทียม มาปรุงเป็นยา เพื่อช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ที่มาจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ จากการค้นคว้าสรรพคุณของสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดพบว่า มีความเป็นไปได้สูงในการใช้บำรุงสุขภาพเพื่อต้านไวรัส จึงทดลองปรุงสมุนไพรตามสูตร แล้วรับประทานเองก่อนแจกจ่ายให้คนใกล้ชิดได้ทดลอง โดยหวังว่าจะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้ต่อสู้กับเชื้อไวรัสนี้ สำหรับสรรพคุณของสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดนี้คือ ขมิ้นชัน เสมอด้วยแม่ทัพใหญ่ มีฤทธิ์ช่วยสร้างลิมโฟไซท์ ซึ่งเป็นเม็ดโลหิตขาวสำคัญในระบบน้ำเหลืองที่ต้านเชื้อไวรัส และช่วยบำรุงปอดให้แข็งแรง ช่วยรักษาอาการอักเสบของปอดไม่อันตรายต่อตับ เนื่องจากขมิ้นชันเป็นเครื่องเทศที่ถูกใช้เป็นอาหารของคนเอเชียมาหลายพันปี มีสารเคอร์คูมินมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ฤทธิ์ดังกล่าวมีความเป็นไปได้ในการป้องกันการถูกทำลายจากปอดจากกระบวนการอักเสบที่เกิดจากหลอดลม เนื้อปอดและหลอดเลือดปอด นอกจากนี้มีข้อมูลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคแกงที่มีขมันชันเป็นส่วนประกอบกับการทำงานของปอดในประชากรผู้สูงวัยชาวจีนจำนวน 2,478 คนอายุ 55 ปีขึ้นไป ผลการศึกษาพบว่า การบริโภคแกงที่มีขมิ้นชัน อย่างน้อยเดือนละครั้ง ทำให้สมรรถภาพปอดดีขี้น กระเทียม เสมอขุนพลหลักด้านขวา น้ำมันหอมระเหยในกระเทียมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อช่วยขยายทางเดินหายใจ และเพิ่มภูมิต้านทาน ส่วนหอมแดง เสมอขุนพลหลักด้านซ้าย ในการแก้อักเสบ รักษาหวัด และระบบทางเดินหายใจ เมื่อนำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดนี้มารวมกัน จะช่วยหนุนเสริมพลังของแต่ละตัวให้แข็งแรงขึ้นมาก โดยมีสูตรการปรุง 2 สูตรคือ สูตรที่ 1 น้ำมัน 3 แม่ทัพต้านไวรัส 1.ขมิ้นชัน 2 ขีด 2.หอมแดง 2 ขีด 3.กระเทียม 2 ขีด 4.น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1 ลิตร วิธีทำ 1.หั่นวัตถุดิบเป็นชิ้นบางๆ 2.ทอดในน้ำมันมะพร้าวที่เตรียมไว้ในอุณหภูมิประมาณ120 องศาเซลเซียส จนน้ำในวัตถุดิบแห้ง 3.กรองด้วยผ้าขาวบาง 4.บรรจุแคปซูล ๆละ 15 หยด วิธีใช้ กินมื้อเช้า 2 แคปซูลและ มื้อเย็น 2 แคปซูล สูตรที่ 2 'ชาสมุนไพร' 3 แม่ทัพต้านไวรัส 1.ขมิ้นชัน ครึ่งขีด 2.หอมแดง ครึ่งขีด 3.กระเทียม ครึ่งขีด 4.น้ำ 1.5 ลิตร วิธิทำ 1. ต้มน้ำให้เดือด 2. ทุบวัตถุดิบสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดพอแตก ลงไปในหม้อ 3. หรี่ไฟให้อ่อนๆต้มไว้นานประมาณ 30 นาที วิธีใช้ กินวันละประมาณ 2 แก้วขณะน้ำยังร้อนๆ หรืออุ่นมาก จิบได้เรื่อยๆ หรือจะดื่มทีเดียวหมดก็ได้ (ถ้าดื่มมากกว่า 2 แก้วจะปัสสาวะมาก) รสชา 3 แม่ทัพจะหอมนุ่มนวล ถ้าไม่คุ้นลิ้น เติมน้ำผึ้งลงไป จะดื่มได้สดชื่นมาก ดื่มชาสมุนไพร 3 แม่ทัพ แล้ว เพียงไม่กี่นาที จะรู้สึกโล่งจมูก หายใจได้ลึกสุด และสบายท้อง ดีกับระบบลมในร่างกาย . "ดื่มชาและกินน้ำมัน 3 แม่ทัพสมุนไพรต้านไวรัสนี้แล้ว ขอให้อุทิศกุศลและภาวนาเมตตาธรรมให้กับไวรัสโควิด 19 และเจ้ากรรมนายเวรของคุณด้วยนะ"
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false