ตรวจสอบข่าว

1 คนสงสัย
พระบิดา” ลัทธิประหลาด “รักษาโรค” ด้วยวิธีสุดแปลกให้กินปัสสาวะ อุจจาระ เสมหะ และขี้ไคล เก็บศพคนตาย “รอขึ้นสวรรค์”
เริ่มที่มาที่ไปจากมีหญิงคนหนึ่ง อายุ 53 ปี ร้องเรียนไปยัง นายจีรพันธ์ เพชรขาว อินฟลูเอนเซอร์ ฉายา “หมอปลา ปราบสัมภเวสี” ว่า แม่ของตนเองที่อายุ 80 ปี มีพฤติกรรมแปลกประหลาด หลังได้ไปรู้จักสำนัก (ฤาษี) แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ คล้ายศรัทธาชายแต่งตัวคล้ายฤาษี ชื่อ นายทวี อายุประมาณ 75 ปี อ้างมีความสามารถรักษาโรคภัย ด้วยการให้กินปัสสาวะ อุจจาระ น้ำลาย เสมหะ ขี้ไคล รวมทั้งก้นบุหรี่ของตนเอง ซึ่งสาวกกว่า 30 ชีวิตเรียกนายทวีว่า “พระบิดา”
std46389
 •  2 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือบทความนี้เขียนโดย Kobayashi Koichi มหาวิทยาลัยนาโกย่า
    Kobayashi Koichi ศาสตราจารย์ญี่ปุ่น วิเคราะห์อเมริกา น่าศึกษายิ่ง สื่อญี่ปุ่น: ภายใน 10 ปีสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะล่มสลาย เหมือนอดีตสหภาพโซเวียต! วารสารวิชาการชื่อ "Izu View the World" ตีพิมพ์บทความของ Kobayashi Koichi ศาสตราจารย์ด้านการเมืองระหว่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยนาโกย่า บทความนี้เชื่อว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้าสหรัฐฯมีแนวโน้ม ที่จะแตกแยกและล่มสลายอย่างกะทันหัน! เมื่อบทความนี้เผยแพร่ออกไป ก็ทำให้เกิดความฮือฮาไปทั่วโลกทันที บทความที่ลงหัวข้อนี้ "A Split United States and the Split of the United States" เชื่อว่ามีความขัดแย้งสามอย่าง ในสหรัฐอเมริกา ที่ไม่มีทางเอาชนะได้ และข้ามผ่านไม่ได้ โดยฝังรากลึก ซึ่งจะส่งเสริมสหรัฐอเมริกาให้มีอำนาจ อยู่ยงคงกระพัน เช่นเดียวกับอดีตสหภาพโซเวียต แต่ในที่สุดก็จะนำไปสู่การสลายตัว ที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ เป็นเพียงวิถีการสูญพันธุ์ของพวกมันเกิดขึ้น ในทิศทางตรงกันข้าม 1. ความขัดแย้งทั้งสามนี้ ได้แก่ 1) การเหยียดผิวที่ฝังรากลึกความขัดแย้งทางเชื้อชาติ 2); พลังของกลไกภายในของระบบประชาธิปไตยอเมริกัน กำลังอ่อนล้ามากขึ้นเรื่อย ๆ 3) การเรียกร้องเสรีภาพมากเกินไปของผู้คน และความขัดแย้งระหว่างความเป็นจริง และความสามารถที่จะให้ได้ ความขัดแย้งทั้งสามนี้ กลายเป็นโรคเรื้อรังที่สังคมอเมริกัน ไม่สามารถรักษาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความขัดแย้งทางเชื้อชาติ และความแตกแยกทางเชื้อชาติเป็นอุปสรรคของคนอเมริกัน? เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน เจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวยิงปืนถึงเจ็ดนัด เข้าที่ด้านหลังของชายผิวดำ เพราะเขาปฏิเสธที่จะให้สอบปากคำ ทำให้เกิดการจลาจลตามมา ต่อมามีวัยรุ่นผิวขาวอีกคน ยิงใส่ผู้ชุมนุมบริเวณ "สำนักงานคุ้มครอง" ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้เกิดการประท้วงระดับชาติอีกครั้ง ห่างจากคดีตำรวจปราบจลาจล "จอร์จ ฟลอยด์" ในรัฐมินนิโซตา เพียงสามเดือน มันเกิดอะไรขึ้นกับสหรัฐอเมริกา? การจลาจลทางเชื้อชาติเกิดขึ้นหลายครั้ง ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา แต่ความแตกต่างคือ ในอดีตส่วนใหญ่กระจุกตัว อยู่ในถิ่นฐานของคนผิวดำ แต่ขณะนี้ ด้วยความแพร่หลายของโทรศัพท์มือถือ การสื่อสารแบบใหม่ ความดึงดูดทางอารมณ์ร่วมของมวลชน และความสามารถในการระดมคนในสังคมอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจุดชนวนลุกลามทั่วสหรัฐอเมริกาในทันที ในทางกลับกัน กลุ่มคนผิวขาวหัวรุนแรง ได้เพิ่มความยึดโยงกันเหนียวแน่นขึ้น และมีการขยายตัวของพวกเขาด้วยเช่นกัน กองกำลังติดอาวุธ ได้โลดแล่นไปตามท้องถนน ด้วยปืนไรเฟิลอัตโนมัติ และบางครั้ง ตำรวจก็มองว่า พวกเขาเป็นตัวช่วย ในการรักษาระเบียบสังคม เป็นผลให้เกิดการจลาจลทางชาติพันธุ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น กองกำลังติดอาวุธผิวขาวหัวรุนแรง มีความหยิ่งผยองมากขึ้น และประธานาธิบดีทรัมป์ก็จุดฟืนโหมไฟตลอดทั้งวัน สร้างความแตกแยกทั้งภายในและภายนอก ปรากฏการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกัน เป็นเพียงอุบัติเหตุหรือไม่? หรือเป็นอาการของการเสื่อมถอย ในโครงสร้างของอเมริกา? เมื่อปี 2019 การสำรวจของสถาบัน Brookings ในสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยรายงาน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนทางชาติพันธุ์ ของประชากรในสหรัฐอเมริกา เห็นได้ชัดว่าเหมือนคำถามมากมาย ได้รับคำตอบ ในปี 1980 ชาวอเมริกันผิวขาว คิดเป็น 79.6% ของประชากร ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ รวมถึงชาวลาติน ชาวเอเชียและคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คนผิวขาว ในปี 2018 คนผิวขาวคิดเป็น 60.4% ส่วนคนที่ไม่ใช่คนผิวขาว คิดเป็นเกือบ 40% เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป40ปี ประชากรคนผิวขาวลดลง 20% ส่วนประชากรอายุต่ำกว่า 15 ปี ในปี 1980 คนผิวขาวคิดเป็น 73% แต่ในปี 2018 คนผิวขาวมีสัดส่วนเพียง 49.9% ลดลง เหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่ง จากแนวโน้มดังกล่าว อีกประมาณ 20 ปีข้างหน้า ประชากรผิวขาวจะเหลือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรในประเทศและคนผิวขาว อายุต่ำกว่า 30 ปีจะกลายเป็นชนกลุ่มน้อย ที่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงเชิงปริมาณ ในโครงสร้างทางประชากรนี้ จะเปลี่ยนการเมืองอเมริกันโดยพื้นฐาน มีประเด็นสำคัญสองประการ ประการหนึ่งคือจากรัฐบาลกลางไปจนถึงระดับท้องถิ่น คนที่ไม่ใช่คนผิวขาว จะควบคุมอำนาจ ได้มากขึ้น ประการที่สองคือ คนที่ไม่ใช่คนผิวขาว จะแก้ไขการแจกจ่ายทรัพยากรทางเศรษฐกิจและสังคม ให้ยุติธรรมเสียใหม่ ผ่านการออกเป็นกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน ของอำนาจทางการเมือง และทรัพยากรทางสังคมและเศรษฐกิจ จะทำให้ความแตกแยกทางสังคมรุนแรงขึ้น และนำมาซึ่งความทุกข์ทรมาน การเติบโตอย่างรวดเร็ว ของกลุ่มคนผิวขาวที่ก้าวร้าวในปัจจุบัน รวมถึงการเกิดกระแสนิยมของทรัมป์ เป็นผลิตผลมาจากความกลัวกังวลของคนผิวขาว ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปัจจุบัน ไม่ว่าใครจะชนะ อีกฝ่ายจะตกอยู่ในความสิ้นหวัง และความโกรธที่ฉุนเฉียว ทางออกที่สหรัฐฯสามารถทำได้คือ การเมืองแบบตัวแทนของอเมริกาที่เกิดจากการผสมผสาน ระหว่างลัทธิเสรีนิยม ปัจเจกนิยม และทุนนิยมและปักใจเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่า นี่คือแนวทางการปกครอง ที่มีคุณธรรมสูงสุด และมีประสิทธิผลสูงสุด สำหรับมนุษยชาติในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม โรคไวรัสโควิด ที่ระบาดไปทั่วโลก ได้ทำลายภาพลวงตานี้ เผยให้เห็นความจริงว่า สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ มีผลการดำเนินงาน แย่ที่สุดในโลก การปกครองแบบอเมริกัน ไม่เพียงแต่ไม่ช่วย แต่ยังทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก นอกจากนี้ยังช่วยให้ความเจ็บป่วย ทางเชื้อชาติเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมดั้งเดิมสามารถเกิดขึ้นพร้อมกัน และไม่สามารถควบคุมได้ แม้จากมุมมองของการเมืองเชิงประชากร ที่เรียบง่าย ประเทศใดในโลกที่สามารถรักษาเอกภาพของการเมือง และดินแดนไว้ได้เป็นเวลานาน โดยไม่มีเชื้อชาติประชากร เป็นคนส่วนใหญ่ที่มั่นคง? ไม่มีเลย ด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ของอเมริกันผิวดำ ที่ถูกค้ามนุษย์กดขี่ และเลือกปฏิบัติ โดยคนผิวขาว ความแตกแยกครั้งใหญ่ในอนาคตในสหรัฐอเมริกา จะเต็มไปด้วยความเกลียดชังและการเสียเลือดเนื้อ และมีความเป็นไปได้มาก ที่จะระเบิดเป็นสงครามกลางเมือง ในทันที สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ มีอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก การแตกสลายของสหรัฐอเมริกานั้น ร้ายแรงกว่าอดีตสหภาพโซเวียตมาก มันจะเป็นความหายนะของมนุษยชาติซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาได้ เมื่อสามสิบปีที่แล้วระหว่างเรากับคนรุ่นนี้ ดูเหมือนว่าการอพยพไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นจุดหมายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในแผนที่เส้นทางสู่ความสำเร็จในชีวิต เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ในอีก 20 ปีข้างหน้าเส้นทางการอพยพจะถูกย้อนกลับ และชาวอเมริกันจำนวนมากอาจต้องการย้ายไปประเทศอื่น ภายใน 10 ปีสหรัฐอเมริกาจะล่มสลายหรือไม่? ゚ สิ่งนี้ฟังดูเหมือนนิทานอาหรับราตรี ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกเหลือเชื่อ เช่นเดียวกับการสลายตัวของสหภาพโซเวียต ในตอนนั้น มันเกินความคาดหมายของผู้คน อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ก็เป็นเช่นนี้ เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนเสมอ! คุณไม่มีทางรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นการล่มสลายและการสลายตัวของสหรัฐอเมริกาโดยเนื้อแท้ แล้วแต่สวรรค์จะเป็นอะไร? ภาพยนตร์เรื่อง "Loying Gorge" ที่ถ่ายทำในปี 1971 มีการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับสวรรค์และมนุษยชาติ "ความดีและความชั่วจะได้รับการตอบแทน "ชาติบ้านเมืองและหน่วยงานทางการเมืองก็เหมือนกับบุคคล หากทำสิ่งเลวร้ายไม่เลิกก็จะได้รับการแก้แค้นจากพระเจ้าด้วย สหรัฐอเมริกา? ตามคำพูดของคนทั่วไป มันไม่ได้ทำสิ่งที่ดีเลย ในช่วง 200 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้ง ประเทศ ที่ชอบกำหนดเจตจำนงของตนเองบังคับต่อชาติอื่น ชาติที่ชอบที่จะทำลายชาติอื่น องค์กรทางการเมืองที่ขยายไปทุกหนทุกแห่ง ครอบงำผู้คนและอวดความแข็งแกร่งไปทุกหนทุกแห่ง ในที่สุดก็จะมีวันแห่งความเหนื่อยล้า บางทีนี่อาจเป็นกฎแห่งประวัติศาสตร์มากกว่า! ด้วยวิธีนี้ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ความเป็นจริงหรือตรรกะ สหรัฐฯดูเหมือนจะ "รุดหน้าสู่ความหายนะ" โดย: Kobayashi Koichi มหาวิทยาลัยนาโกย่า
    naydoitall
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เตรียมตัวรับมือกับสงครามใหญ่ ประเทศในแถบยุโรปเช่นฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และอีกหลายประเทศ เริ่มมองเห็นเค้าลางว่าจะเกิดสงครามใหญ่ในอีกไม่กี่ปีนี้ หลายๆประเทศจึงเตรียมตัวรับมือกับสงครามใหญ่ที่จะเกิดขึ้น คาดว่าแต่ละประเทศต่างคงเร่งผลิตอาวุธ ผลิตโดรนที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ผลิตจรวดความเร็วสูง ผลิตรถถัง ผลิตเครื่องบินรบ รวมทั้งเรือรบด้วย ถ้ามองอย่างเป็นกลางในตอนนี้ อาวุธทางฝั่งประเทศยุโรปและอเมริกามีความทันสมัยมากกว่า สงครามใหญ่จะลุกลามไปหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในตะวันออกกลาง จะขยายวงกว้างมากขึ้น มากขึ้น ประเทศอิสราเอลคือสารตั้งต้น ที่ทำให้เกิดสงครามใหญ่ในแถบตะวันออกกลาง อีกไม่นานเกินรอ พี่น้องชาวมุสลิมหลายประเทศจะรวมตัวกันต่อสู้กับอิสราเอล...ผู้นำอิสราเอลโนสน โนแคร์ คำเตือนของผู้นำอเมริกา ที่แนะนำอิสราเอลว่าอย่าโจมตีเมืองราฟาร์ เพราะพลเมืองผู้บริสุทธิ์จะล้มตายจำนวนมาก...อิสราเอลไม่ยินยอมให้ UN ส่งเสบียงอาหาร น้ำดื่มให้ชาวปาเลสไตร์ ทางอเมริกาและชาติอื่นๆต้องส่งเสบียงอาหารทางเครื่องบิน และทางเรือ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรชาวปาเลสไตร์ที่หิวโหยอดอยากอยู่ในขณะนี้...อิสราเอลเหมือนจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตร์...คอยจับตาดูเมื่อไหร่ที่สงครามในประเทศตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น มันจะเป็นสัญญาณว่า...”สงครามศาสนา”...ได้เริ่มขึ้นแล้ว บรรดาชาติอาหรับจะจับมือกันอย่างเหนียวแน่น การสู้รบจะแผ่ขยายไปทั่ว จากสงครามใหญ่ จะพัฒนามาเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศอิสราเอลมีสิทธิที่จะถูกลบออกจากแผนที่โลก หรืออย่างน้อยพื้นที่ประเทศอิสราเอลก็จะเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ................................................ ประเทศรัสเซียถูกก่อวินาศกรรม พลเมืองชาวรัสเซียตายไป 139 คน บาดเจ็บอีกนับร้อยคน งานนี้ปูตินผู้นำประเทศรัสเซียคงไม่ยอมจบง่ายๆ พลเมืองชาวรัสเซียต้องไม่ตายฟรี กลุ่มผู้ก่อการร้ายถูกจับกุม 11 คน คาดว่าคนเหล่านี้คงจะถูกจัดหนักจัดเต็มตามสไตร์ โหด สัส รัสเซีย ถูกทรมานไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ให้ตายง่ายๆ กลุ่มนักรบ ISIS-K (กลุ่มรัฐอิสลามแห่งโคราซาน) ออกมารับผิดชอบ แต่ผู้นำรัสเซียปูติน ไม่ฟังแถมยังพุ่งเป้าไปที่ยูเครนเพราะกลุ่มผู้ก่อการร้ายขับรถมุ่งหน้าจะเข้าประเทศยูเครน...หวยจึงไปออกที่ประเทศยูเครน ถูกรัสเซียถล่มโจมตีอย่างหนักต่อเนื่องติดๆกัน รัสเซียระบายความแค้นกับยูเครนอย่างหูดับตับไหม้ และคาดว่าเบื้องหลังทางรัสเซียคงหาวิธีสางแค้นกลุ่ม ISIS-K ที่เป็นผู้ก่อวินาศกรรม...รัสเซียคงจะรีบเผด็จศึกยูเครนให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้เตรียมตัว ผลิตอาวุธ ธุทโธปกรณ์เพิ่มให้มากที่สุด ทางรัสเซียเองก็คงรู้ว่าอีกไม่นานนี้...”สงครามใหญ่ สงครามโลกครั้งที่ 3 จะต้องเกิดขึ้น”...อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องมีอาวุธสำรองให้มากที่สุด สงครามโลกครั้งที่ 3 ที่ใกล้จะเกิดขึ้น ประเทศแถบยุโรปและประเทศตะวันตก แต่ละประเทศต่างมีอาวุธที่ล้ำสมัย รวมทั้งเรือดำน้ำ เรือรบ และอื่นๆที่ล้ำหน้าและมีอานุภาพรุนแรงมาก ตอนนี้รัสเซียไม่ใช่สู้กับยูเครนเพียงประเทศเดียว แต่กำลังสู้กับบรรดาชาตินาโต้ที่สนับสนุนอาวุธให้กับยูเครน ต้องนับถือรัสเซียที่สามารถทำลายอาวุธของชาติยุโรปและชาติตะวันตกที่ส่งมาให้ยูเครน จนพังเสียหายไปมากมาย .....................................................กองทัพเรือของรัสเซียมีจุดอ่อนอยู่มากมาย ถูกยูเครนใช้โดรนและจรวดผิวน้ำจมเรือรบไปแล้วหลายลำ ทางกองทัพเรือรัสเซียต้องรีบหาวิธีป้องกันให้เร็วที่สุด แม้แต่เครื่องบินรบของรัสเซียที่ว่าเจ๋งๆ ยังถูกยูเครนสอยร่วงไปแล้วหลายลำ...เรือรบของประเทศอังกฤษก็อ่อนแอ สามวันดี สี่วันไข้ ต้องเข็นเข้าอู่ซ่อมหลายลำเช่นกัน คิดว่าทางรัสเซียคงจะมีการปรับปรุงกองทัพเรือให้มีประสิทธิภาพดีมากขึ้น ทางรัสเซียมีโคตรจรวดที่มีอนุภาพการทำลายล้างสูงจำนวนมาก ถ้าเกิดสงครามโลกขึ้น แรกๆจะไม่มีการใช้จรวดนิวเคลียร์ยิงถล่มกัน แต่ใช้น้องๆจรวดนิวเคลียร์เข้าถล่มกัน การยิงนิวเคลียร์จะยิงออกจากเรือดำน้ำก่อนเป็นอันดับแรก แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนจะเริ่มใช้นิวเคลียร์ก่อนเท่านั้น หลังจากยิงนิวเคลียร์จากเรือดำน้ำแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะยิงนิวเคลียร์ออกจากฐานที่ตั้งอยู่นอกประเทศของแต่ละฝ่ายเข้าใส่กัน ถ้ายังย่อยยับกันไม่พอก็จะใช้เครื่องบินบรรทุกจรวดนิวเคลียร์ไปหย่อนใส่ประเทศฝ่ายตรงกันข้าม คิดว่าการยิงจรวดนิวเคลียร์ออกจากฐานที่ตั้งอยู่ในประเทศของตนเอง จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายเหมือนเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายถ้าประเทศตัวเองเริ่มเสียเปรียบในการทำสงคราม...คนหนุ่มคนสาวยุคนี้จะได้ชมและได้ดมพิษสงของนิวเคลียร์ (ยกเว้นประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมทำสงคราม) คนจะตายกันหลายสิบล้านคน อาจจะตายถึงนับร้อยล้านคนก็เป็นไปได้เช่นกัน ..................................................ประเทศจีน คงซุ่มผลิตอาวุธ และพัฒนาอาวุธอยู่ตลอด ประเทศจีนจะมีทหารมากที่สุด คิดว่าจะมีทหารอย่างน้อยก็ 30-50 ล้านนาย...ประเทศจีนทุ่มเงินซื้อตัวนักบินทหารที่เกษียณอายุราชการจากประเทศอังกฤษหลายนายมาเป็นครูสอนเด็กหนุ่มชาวจีนที่มีอายุ 18 ปี ให้เป็นนักบิน ควบคุมเครื่องบินรบ รุ่นหนึ่งรับเด็ก 200-300 คน ต้องเรียนต้องฝึกให้ชำนาญใช้เวลาประมาณ 4 ปี ต่อหนึ่งรุ่น พอฝึกรุ่นนี้เสร็จก็จะรับเด็กหนุ่มรุ่นต่อๆไปให้เข้ามาฝึกบิน เมื่อถึงเวลาเกิดสงครามคาดว่าประเทศจีน จะมีนักบินทหารมากที่สุดในโลก และคิดว่าประเทศจีนจะมีอาวุธบางชนิดที่ล้ำสมัยที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ถ้าเกิดสงครามขึ้น ดาวเทียมของสหรัฐจะถูกรบกวนหรือถูกทำลายไปบางส่วน แต่ไม่รู้ว่าประเทศจีนหรือรัสเซียเป็นผู้ลงมือทำลายหรือรบกวนดาวเทียมของสหรัฐ คาดว่าสหรัฐคงรู้เรื่องนี้และคงหาทางป้องกันดาวเทียมของตนเองอยู่เช่นกัน ดาวเทียมของสหรัฐมีหลายดวง ไม่ใช่แค่ดวงเดียว เพราะฉะนั้นฝ่ายผู้ที่คิดจะทำลายดาวเทียมของสหรัฐต้องหาวิธีปิดตาดาวเทียมของสหรัฐให้มากที่สุด หลายๆประเทศต่างก็มีดาวเทียมของตนเอง ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นอินเตอร์เน็ตคงใช้ไม่ได้ การติดต่อสื่อสารจะเป็นอัมพาต ใช้บัตรถอนเงินจากตู้ ATM ไม่ได้ ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของไม่ได้ และกดถอนเงินสดออกจากตู้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนควรสำรองเงินสดเอาไว้ เตรียมซื้อข้าวสาร อาหาร น้ำดื่ม และยา โดยเฉพาะคนที่ต้องกินยารักษาโรคประจำตัวทุกวัน ............................................ประเทศเกาหลีเหนือ ไม่รู้ว่าจะมีอาวุธที่ทันสมัยจริงหรือไม่? เพราะเป็นประเทศที่ถูกปิด ถูกบอยคอตจากชาติตะวันตกและชาติยุโรปมานานแล้ว แต่หลายๆประเทศต่างก็รู้สึกหวั่นเกรงอาวุธของเกาหลีเหนือเหมือนกัน เพราะเห็นเกาหลีเหนือทดลองการยิงจรวดอยู่เสมอ แถมยังขู่ว่ามีอาวุธนิวเคลียร์สามารถยิงได้ไกล จนประเทศเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่นต่างก็หวั่นเกรงเกาหลีเหนือไม่น้อย ถ้าเกิดสงครามใหญ่ขึ้นเกาหลีเหนือก็มีทหารมากเหมือนกัน แต่จะรบเก่งแค่ไหนไม่รู้ คงต้องฟังแผนการรบจากประเทศจีนเป็นหลัก...ประเทศอิหร่าน ประเทศรัสเซีย ประเทศจีน ประเทศเกาหลีเหนือก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน สี่ประเทศนี้รวมตัวกันจะเป็นพี่ใหญ่ของประเทศตะวันออกกลางทั้งหมด...เพียงแต่ให้ประเทศอิหร่านคุมกำลังนักรบประเทศตะวันออกกลาง...ส่วนประเทศรัสเซีย ประเทศจีน ประเทศเกาหลีเหนือ จะเป็นผู้ปะทะกับกองกำลังของชาตินาโต้เป็นหลัก...สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดแน่นอน อาจจะเกิดเร็วกว่าที่คาดไว้...หลายคนกังวลว่าประเทศไทยจะถูกถล่มจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วย แต่เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เข้าร่วมรบกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าเข้าร่วมรบก็โง่บรรลัย...ประเทศไทยจะเป็น “ครัวโลก” ส่งออกอาหาร ข้าวสาร และแป้งสำหรับทำขนมปัง และพืชผักนานาชนิดจำนวนมาก รวมทั้งอาหารทะเลด้วย ราคาข้าวสารและอาหารอื่นๆจะแพงมาก การขนส่งก็ลำบากเพราะภัยสงครามเกิดขึ้นไปทั่วโลก...ประเทศลาว ประเทศเขมร ประเทศพม่า ประเทศเวียดนาม ก็พลอยได้อานิสงส์จากราคาข้าวสารและอาหารอื่นๆไปด้วย เกษตรกรจะร่ำรวยก็คราวนี้แหละ...บางคนคิดว่าสถานทูตอเมริกาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการขุดลึกลงไปหลายร้อยเมตร ทำเป็นสถานที่เจาะล้วงความลับความมั่นคงของชาติตรงกันข้าม จะถูกถล่มไปด้วย แต่ผมมั่นใจว่าสถานฑูตแห่งนี้มีสิทธิ์ที่จะถูกปิดตายจากวิธีใดวิธีหนึ่ง และท้ายที่สุดสถานฑูตแห่งนี้จะไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ จ.เชียงใหม่จะไม่ถูกถล่มด้วยระเบิดอานุภาพแรงสูงอย่างแน่นอน แต่สถานฑูตอาจจะถูกก่อวินาศกรรม...หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 3 สงบลง จังหวัดตราด จะมีพื้นที่ใหญ่ขึ้น มากขึ้น หรืออาจจะมีอำเภอ / จังหวัดใหม่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย เพราะประเทศเขมรจะต้องคืนพื้นที่ๆติดกับจังหวัดตราดให้กับประเทศไทย ในขณะนี้ไทยกับเขมรกำลังหาทางลงเรื่องเขตแดนทางทะเลที่ทับซ้อนกันอยู่ ในอดีตมีนักการเมืองบางคนที่ชั่วช้าเลวทราม ไปทำ MOU กับฮุนเซน แต่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย มีสองทางที่ไทยจะได้พื้นที่คืนจากเขมรคือจะได้ด้วยการเจรจา หรือได้มาจากการทำสงครามรบกับเขมร ซึ่งผลลัพธ์สุดท้าย ไทยจะได้พื้นที่คืนมาอย่างแน่นอน / ด้วยความเคารพ หมอนิด กิจจา ทวีกุลกิจ 28 มี.ค. 2567 ...
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false