1 คนสงสัย
ผงชูรส กับบัญชีดำ 8 อาหารก่อมะเร็ง
ไม่ระบุชื่อ
 •  9 เดือนที่แล้ว
1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
meter: false
1 ความเห็น

มะเร็ง

Joke Air เลือกให้ข้อความนี้💬 มีความเห็นส่วนตัว

เหตุผล

ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่นกินมากเกินไปส่งผลเสียต่อไตได้ แต่ประเด็นที่เกี่ยวกับมะเร็งนั้นยังไม่แน่ชัด

ความเห็นต่าง

.
thanathun เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

การเป็นมะเร็งมีปัจจัยหลายอย่างมาก และอาหารเป็นปัจจัยเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับปัจจัยอย่างอื่น “มะเร็ง” เกิดขึ้นอยู่แล้วโดยธรรมชาติ แต่อา

ที่มา

https://tna.mcot.net/sureandshare-1338134

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง!
    ผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง! ตอนนี้คนจีนเป็นโรคมะเร็งสูง! บัญชีดำอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 1. ผงชูรส (MSG) 2. หมากฝรั่ง 3. ตับหมู 4. ผักดอง หัวไชเท้าแห้ง 5. น้ำผลไม้บรรจุขวด 6. ไข่เยี่ยวม้า 7. เต้าหู้เหม็น 8. ปาท่องโก๋ ส่งต่อให้คนที่คุณห่วงใยมากที่สุดด้วยนะครับ
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง! ตอนนี้คนจีนเป็นโรคมะเร็งสูง! บัญชีดำอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 1. ผงชูรส (MSG) 2. หมากฝรั่ง 3. ตับหมู 4. ผักดอง หัวไชเท้าแห้ง 5. น้ำผลไม้บรรจุขวด 6. ไข่เยี่ยวม้า 7. เต้าหู้เหม็น 8. ปาท่องโก๋ เพื่อสุขภาพของคุณ ส่งต่อ WeChat นี้ให้คนที่คุณห่วงใยมากที่สุด!
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนรับประทาน2อาทิตย์กระจ่างใสขึ้นจริงหรือไม่?
    ผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนรับประทาน 2 อาทิตย์กระจ่างใส จริงหรือไม่? จากประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงกันบนโลกออนไลน์ว่า การรับประทานผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนสามารถทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นจริงหรือไม่ รศ. พญ.เพ็ญพรรณ วัฒนไกร แพทย์ประจําหน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนว่า กลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย (ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.rama.mahidol.ac.th ) ในทางการแพทย์พบว่ามีการนำกลูต้าไธโอนมาทดลองใช้ในการรักษาโรคต่างๆ แต่ยังไม่ได้รับการ อนุมัติข้อบ่งใช้จากองค์การอาหารและยา เช่น ภาวะเป็นหมันในเพศชาย ปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็ง กระเพาะอาหาร หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก วิธีการรักษามักทำโดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำหรือเข้าที่ กล้ามเนื้อ ผลข้างเคียงอย่างหนึ่ง คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดกลูต้าไธโอนนั้นมีสีผิวที่ขาวขึ้น เนื่องมาจากกลูต้าไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ได้ และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนัง เปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้พยายามนำผลข้างเคียงของยามาใช้ในการทำ ให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นการนำยามาใช้ในทางที่ผิดอีกรูปแบบหนึ่ง โดยในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่ น่าเชื่อถือยืนยันหรือรับรองประสิทธิภาพและประโยชน์ของกลูต้าไธโอนในการทำให้ผิวขาวได้อย่างแท้จริง (ข้อมูลจากเว็บไซต์https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/) ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผิวที่ขาวขึ้นจากกลูต้าไธโอนนั้นยังอยู่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หากต้องการให้ผลอยู่ในระยะยาวจำเป็นต้องทานซ้ำเป็นระยะๆ ทำให้ยาสะสมในร่างกายมากขึ้น และอาจมีความเป็นพิษต่อตับ รวมถึงอาจก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ กลูตาไธโอนชนิดฉีดหรือชนิดรับประทานเพื่อให้ผิวขาวใสนั้นยังไม่มีการพิสูจน์ผลที่ชัดเจน ความปลอดภัยในการใช้ยาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง และพึงระลึกไว้เสมอว่า “ ไม่มียาชนิดใดในโลกที่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์ ” ดังนั้นก่อนการใช้ยาใดๆ ก็ตามควรศึกษาข้อมูลปรึกษาเภสัชกร ก่อนรับประทานให้ละเอียดเสียก่อนเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://hdmall.co.th/  )
    satit1302
     •  3 เดือนที่แล้ว
    meter: false