1 คนสงสัย
อาหารอุ่นไมโครเวฟ อันตรายแถมเสี่ยงมะเร็ง
การใช้ไมโครเวฟจะทำให้สูญเสียสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินบี วิตามินซี โฟเลตนั้น ตามข้อเท็จจริงแล้วการปรุงหรืออุ่นอาหารทุกกรรมวิธีที่ใช้ความร้อนอาจเป็นผลให้เกิดการสูญเสียสารอาหารได้เช่นเดียวกัน
std47637
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    กินผักกูด อันตราย เสี่ยงมะเร็งจริงหรือ
    จากการวิจัยพบว่าผักกูดมีคุณค่าสารอาหารค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับผักชนิดอื่นๆ คือมีลูทีนสูง ลูทีนคือสารแคโรทีนอยด์ตัวหนึ่ง เป็นอนุพันธ์คาโรทีนอยตัวหนึ่ง สารตัวนี้ช่วยบำรุงสายตา เหมือนกับบีตาแคโรคทีนที่บำรุงสายตา ทำให้ชะลอความเสื่อมของตาช้าลง นอกจากนี้ ผักกูดมีโพแทสเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระ กรณี กินผักกูด อันตราย เสี่ยงมะเร็ง มีการส่งต่อกันบนโลกออนไลน์ข้าม พ.ศ. กันอย่างต่อเนื่อง สรุปกินผักกูดเสี่ยงมะเร็งจริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หัวไชเท้า ❤ เมื่อทานผักผลไม้และสมุนไพรได้ อาหารเสริมจึงไม่ได้มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะอาหารเสริมก็สกัดมาจากพืชผัก ผลไม้และสมุนไพรเช่นเดียวกัน ตามคำนิยามที่ว่า ทานอาหารเป็นยานั่นเอง สำหรับหัวไชเท้านี้เป็นอาหารทางการแพทย์ที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก เป็นผักตระกูลกระหล่ำ ความพิเศษและแตกต่างจากไม้ตระกูลกะหล่ำที่เหลือคือ หัวไชเท้ามีองค์ประกอบสองส่วน คือมีรากและหัวไชเท้าช่วยเติมเต็มระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อเราทานเข้าไป กำมะถันที่มีอยู่ในหัวไชเท้าจะขับไล่เชื้อโรคทุกชนิดและทำหน้าที่เป็นมูลไส้เดือน มันจะช่วยฆ่าหนอนพยาธิในลำไส้และปรสิตอื่น ๆ ทั้งหมดได้อีกด้วย หัวไชเท้ามีส่วนประกอบของ ออร์กาโนซัลเฟอร์ช่วยให้หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำสะอาดและสร้างเกราะป้องกันในตัวเพื่อป้องกันไม่ให้คราบจุลินทรีย์เกาะติดกับเยื่อบุ หัวไชเท้าช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและปัญหาหลอดเลือดหัวใจอื่น ๆ ได้ดี เพราะหัวไชเท้าช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล ชนิดที่ดี และลดคอเลสเตอรอล ชนิดที่ไม่ดี หัวไชเท้าช่วยขับไล่มะเร็งได้เกือบทุกชนิด เพราะสามารถฟื้นฟูไต ตับ ตับอ่อน และม้ามได้เป็นอย่างดี ใบของหัวไชเท้าไม่ต้องทิ้งเพราะเป็นหนึ่งในอาหารรักษาร่างกาย ที่ดีมาก เช่นกัน เพราะใบไม้หัวไชเท้าเป็นพรีไบโอติกที่มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับสองรองจาก บลูเบอร์รี่ป่า เลยทีเดียว ทั้งหัวไชเท้าและใบและมีสารอาหารจำนวนมาก เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟโตเคมิคอล และอัลคาลอยด์ ต้านมะเร็ง และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยซ่อมแซมลำไส้ใหญ่ และส่วนอื่น ๆ ของลำไส้ที่สูญเสียความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร สารอาหารของมันนั้นถูกดูดซึมโดยระบบย่อยอาหารที่ทำงานผิดปกติมากที่สุด และดูดซึมได้ดีกว่าอาหารอื่น ๆ เนื่องจากมีเอนไซม์สูง จริง ๆ แล้ว ใบหัวไชเท้าเป็นอาหารป่า แม้ว่าจะปลูกในสวนหรือในฟาร์มก็ตาม ใบไม้เหล่านี้ช่วยกำจัดสารพิษทั้ง 4 อย่างออกจากร่างกาย คือ กำจัดดีดีที รังสี โลหะหนัก ไวรัส ทานได้ทั้งสดและต้มใส่ซุบน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มจืดหรือแกงส้ม ส่วนทานสดโดยจิ้มน้ำพริกหรือทานกับชูชิ ปั่นดื่มจะดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำความสะอาดโลหะหนักในระดับที่รุนแรง และกำจัดสารปรอท ตะกั่ว สารหนู และอะลูมิเนียมออกจากร่างกาย มีพลังเกือบเท่าผักชี ใบและหัวไชเท้าช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทรวมถึงโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เอแอลเอส ( ALS ) และโรคไลม์ ( Lyme ) ทางระบบประสาท หัวไชเท้าจึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผักใบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับสุขภาพของผู้คนนั่นเอง โดย Boos Day ❤
    ไม่ระบุชื่อ
     •  10 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ไข่เป็นอาหารที่ดี สำหรับดวงตา
    ไข่เป็นอาหารที่ดี สำหรับดวงตา ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า การรับประทานไข่วันละฟอง อาจจะช่วยป้องกัน โรคจอประสาทตาเสื่อม จากสารคาโรทีนอยด์ที่อยู่ในไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่พบบริเวณตา โดยฉาบอยู่บนผิวของ เรตินา เพราะร่างกายจะได้รับ สารอาหารทั้งสองอย่างนี้โดยตรงจากไข่มากกว่าอาหารชนิดอื่น
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อาหารอุ่นไมโครเวฟ อันตรายแถมเสี่ยงมะเร็ง
    กรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวิดีโอให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพว่า อันตรายจากการทานอาหารที่อุ่นไมโครเวฟ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งนั้น ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) ที่ใช้ปรุงอาหาร คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเช่นเดียวกับคลื่นวิทยุ มีหลักการทำงานโดยการปล่อยรังสีเป็นคลื่นไปกระทบอาหาร ทำให้โมเลกุลน้ำทั้งภายใน และนอกอาหารสั่น และเสียดสีกันจนเกิดเป็นความร้อนสะสม จากนั้นพลังงานดังกล่าวจะสลายตัวไป จากข้อมูลที่ระบุว่า การใช้ไมโครเวฟจะทำให้สูญเสียสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินบี วิตามินซี โฟเลตนั้น ตามข้อเท็จจริงแล้วการปรุงหรืออุ่นอาหารทุกกรรมวิธีที่ใช้ความร้อนอาจเป็นผลให้เกิดการสูญเสียสารอาหารได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่าคลื่นไมโครเวฟไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ และไม่ตกค้างในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันแน่ชัดว่าการอุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟจะเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตามผู้บริโภคควรระมัดระวังอันตรายจากการใช้เตาอบไมโครเวฟในด้านอื่น ๆ เช่น การใช้ความร้อนและระยะเวลาให้เหมาะสมกับชนิดของอาหาร ตลอดจนเลือกใช้ภาชนะชนิดที่ออกแบบมาสำหรับใช้กับเตาไมโครเวฟได้เป็นต้น
    yusufmassour1
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กินฟักทองป้องกันสารพัดโรค
    กินฟักทองป้องกันสารพัดโรค . ลดน้ำตาลป้องกันเบาหวาน เปลือกฟักทองที่มีฤทธิ์ทางยา ซึ่งจะไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ก็จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวานได้ งานวิจัยในญี่ปุ่นที่ทำการทดลองกับผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 133 คน พบว่า ผู้ที่กินฟักทองเป็นประจำจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้กินฟักทอง . ลดเสี่ยงมะเร็ง 4 ชนิด งานวิจัยอีกเรื่องหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นเช่นกันพบว่า ผู้ที่กินฟักทองเป็นประจำจะลดโอกาสเสี่ยงการเกิดโรค มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก . ป้องกันสิวและจอประสาทตาเสื่อม เพราะฟักทองมีเบต้าแคโรทีนสูง จึงช่วยป้องกันการเกิดสิว และอาการจอประสาทตาเสื่อม . ลดอาการภูมิแพ้ หอบหืด โรคหัวใจ และภาวะซึมเศร้า ฟักทองยังมีแมกนีเซียมสูง จึงช่วยลดอาการภูมิแพ้ หอบหืดและยังมีวิตามินบี 6 ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและอาจช่วยแก้ภาวะซึมเศร้าได้ . ลดไขมัน เพื่อหุ่นเพรียว สำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการลดความอ้วน ฟักทองมีใยอาหารที่ละลายน้ำในปริมาณสูง ใยอาหารจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดแอลดีแอลที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังมีแคลอรีต่ำไขมันน้อย เมื่อกินแล้วจึงไม่ทำให้อ้วน และมีวิตามินซีสูง จึงช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณดี มีน้ำมีนวล . กินฟักทองอย่างไรให้คงคุณค่าสารอาหาร การต้ม นึ่ง อบ หรือผัด ไม่สามารถทำลายเบต้าแคโรทีนในฟักทองได้ แต่หากต้มฟักทองในน้ำ จะสูญเสียวิตามินบี
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 3 คนสงสัย
    อาหารอุ่นไมโครเวฟ อันตรายแถมเสี่ยงมะเร็ง
    กรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวิดีโอให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพว่า อันตรายจากการทานอาหารที่อุ่นไมโครเวฟ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งนั้น ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) ที่ใช้ปรุงอาหาร คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเช่นเดียวกับคลื่นวิทยุ มีหลักการทำงานโดยการปล่อยรังสีเป็นคลื่นไปกระทบอาหาร ทำให้โมเลกุลน้ำทั้งภายใน และนอกอาหารสั่น และเสียดสีกันจนเกิดเป็นความร้อนสะสม จากนั้นพลังงานดังกล่าวจะสลายตัวไป จากข้อมูลที่ระบุว่า การใช้ไมโครเวฟจะทำให้สูญเสียสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินบี วิตามินซี โฟเลตนั้น ตามข้อเท็จจริงแล้วการปรุงหรืออุ่นอาหารทุกกรรมวิธีที่ใช้ความร้อนอาจเป็นผลให้เกิดการสูญเสียสารอาหารได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่าคลื่นไมโครเวฟไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ และไม่ตกค้างในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันแน่ชัดว่าการอุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟจะเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง
    std47915
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! ผู้ป่วยมะเร็งควรงดปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชัง
    ตามที่มีการแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผู้ป่วยมะเร็งควรงดปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชัง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีผู้โพสต์เตือนว่า ผู้ป่วยมะเร็งควรงดปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชัง ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลหรือข้อแนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งงดอาหารดังกล่าว ซึ่งแม้ว่าโปรตีนจะเป็นสารสำคัญและมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรเลือกรับประทานโปรตีนจากแหล่งอาหารที่หลากหลาย เช่น ปลา ไก่ ไข่ และนม เป็นต้น รวมถึงควรรับประทานในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม เช่น จำกัดการบริโภคอาหารทะเลบางชนิดที่อาจมีคอเลสเตอรอลสูง ตลอดจนเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด นอกจากนี้ ควรรับประทานอาหารอย่างถูกหลักโภชนาการ โดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งจำเป็นต้องได้รับพลังงานและสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอโดยคำนึงถึงความต้องการของพลังงานตามอายุ กิจกรรม และระดับความรุนแรงของโรค เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร น้ำหนักลด การสูญเสียกล้ามเนื้อ และช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาโรค ทั้งนี้ อาหารในกลุ่มปลาหมึก หอย และปลา เป็นอาหารที่ให้สารอาหารในกลุ่มโปรตีน ซึ่งโปรตีนถือเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อร่างกายมีส่วนในการช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพออาจส่งผลให้กล้ามเนื้อถูกสลายไปใช้เป็นพลังงานส่งผลเสียต่อร่างกาย
    santatchai2551
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false