1 คนสงสัย
มะพร้าวเพิ่มสมรรถภาพทางเพศจริงหรือไม่
เจอจากเว็บไซต์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
Jutarat Inma
 •  4 ปีที่แล้ว
meter: middle
2 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
Ad.tar เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

ผลการศึกษานี้คือการทดลองโดยใช้ ‘น้ำมะพร้าวอ่อนไม่ผ่านกระบวนการ’ และทำการทดลองโดย “ให้หนูกินน้ำมะพร้าว 50-100 CC ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อ

ที่มา

https://www.matichon.co.th/publicize/news_2591279
Natthawat Ntw เลือกให้ข้อความนี้✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด

เหตุผล

นายแพทย์ กัมปนาท พรยศไกร ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ น้ำมะพร้าวยังมีสรรพคุณเป็นเครื่องดื่มบำรุงกำลังทางเพศได้ด้วยนะครับ เนื่องจากในน้ำมะพร้า

ที่มา

https://www.prachachat.net/spinoff/health/news-611373

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    องค์การอาหารและยา ออกเตือนการขายยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศทางออนไลน์เป็นการหลอกลวง จริงหรือคะ
    การโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศโดยเฉพาะเพศชายที่มีขายมากมายในโลกออนไลน์ เป็นการโฆษณาขายที่เกินจริงและหลอกลวงแน่นอน เมื่อทาง อย.ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการลักลอบใส่ยา ซิลเดนาฟิล และ ยาทาดาลาฟิล ซึ่งยาสองตัวนี้มีผลข้างเคียงทำให้ความดันลดอย่างรวดเร็ว เสี่ยงชีวิตได้ จริงหรือคะ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อย่าทานผลไม้ที่ซื้อมาภายใน 48 ชั่วโมง หรือต้องลวกด้วยน้ำร้อนก่อน เพราะเสี่ยงทำให้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ จริงหรือไม่
    ข่าวด่วน ! จากแหล่งข่าวท่ีน่าเชื่อถือในห้องแล็ปของแพทย์ในฮ่องกงวันนี้ “ในห้องทดลองของเรา ได้พบร่องรอยจำนวนไวรัสบนผิวของผลไม้และผักหลังจากลูกค้าท่ีติดเชื้อโควิด-19 จับต้องท่ีผลไม้และผักดังกล่าวเมื่อ 12 ชั่วโมงมาแล้ว แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการทานสลัด ***** อย่าทานผลไม้ท่ีซื้อมาภายในเวลา 48 ชั่วโมง หรือต้องลวกผลไม้ด้วยน้ำร้อนก่อนปลอกหรือหั่น เบอรรี่ แอปเปิล แตงกวา และมะเขือเทศแย่ท่ีสุด เพราะคนเราจะทานทั้งเปลือก นี่เป็นสิ่งท่ีอธิบายว่าไวรัสระบาดได้รวดเร็วในประเทศตะวันตกมากกว่าในเอเชีย คนเอเชียส่วนมากไม่ทานสลัด และน้อยคนมากที่จะทานเปลือกผลไม้ พวกเราต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าทุกอย่างท่ีมาจากนอกบ้านของเราภายใน 48 ชั่วโมงติดเชื้อทั้งสิ้น เป็นต้นว่า รองเท้า เสื้อผ้า ผมของเรา และอาหารทั้งหมด
    ได้ข่าวมา
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขน เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมจริงหรือไม่
    ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาหรือฉีดใต้วงแขน เพื่อช่วยลดความเปียกชื้นหรือป้องกันกลิ่นตัวที่เกิดจากการทำงานของต่อมเหงื่อใต้วงแขน ซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยเข้าไปยับยั้งเหงื่อที่หลั่งจาก Eccrine sweat glands (ต่อมเหงื่อที่ทำหน้าที่หลั่งเหงื่อ เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย) เมื่อระงับเหงื่อได้กลิ่นกายก็จะลดลง (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://shorturl.asia/93IHs ) มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่เกิดเนื่องจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนมทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้องอก โดยหากไม่ได้รับการรักษา มะเร็งจะโตขึ้นและกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ก่อนที่จะกระจายไปอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก จนเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.gj.mahidol.ac.th/main/knowledge-2/breast-cancer/ ) จากการสัมภาษณ์ เภสัชกร ณภัทร นวลสกุลกฤป เภสัชกรปฏิบัติการประจำร้านขายยาเภสัชกรอิ่ม ได้ให้ข้อมูลว่า “การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนเป็นประจำ อาจเสี่ยงที่จะได้รับสารที่มีชื่อว่า อลูมิเนียมคลอไฮเดรต ซึ่งมีการศึกษาที่ระบุว่าสารชนิดนี้สามารถเปลี่ยนเป็น เอสโตรเจน คือฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งอาจจะมีความสัมพันธ์กับมะเร็งเต้านมได้ แต่สารนี้มีการใช้กันมาอย่างยาวนานในทางการแพทย์ จุดประสงค์หลักที่ใช้คือเพื่อทำให้ต่อมเหงื่อมีขนาดเล็กลง จะช่วยลดปริมาณเหงื่อ ช่วยลดการอับชื้น และลดโอกาสเกิดกลิ่นกายได้ ซึ่งสารชนิดนี้เมื่อโดนกับเหงื่อจะกลายเป็นของแข็ง และมีโอกาสน้อยมากที่ร่างกายจะดูดซึมเข้าไป ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานที่ชัดเจนว่าสารตัวนี้มีความสัมพันธุ์กับมะเร็งเต้านมอย่างไร ดังนั้นจึงสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนได้ตามปกติ แต่ควรเลือกแบรนด์ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนที่เป็นที่นิยมในตลาดและมีความน่าเชื่อถือ” ทั้งนี้ เภสัชกร ณภัทร นวลสกุลกฤป ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดมะเร็งเต้านมอีกด้วยว่า “สิ่งที่สัมพันธ์กับมะเร็งเต้านม สาเหตุหลักเกิดจากคุณพ่อ คุณแม่ หรือคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งคือการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนั้นเอง และอีกสาเหตุที่มีความเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งเต้านมคือกิจวัตรประจำวันบางอย่าง เช่น การกินอาหารที่มีไขมันสูง การมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด หรือแม้กระทั่งการกินยาคุมต่อเนื่องนานเกิน 5ปี และไม่มีการเว้นพัก ซึ่งถ้าเกิดว่ามีความกังวลในเรื่องของมะเร็งเต้านม ก็ควรที่จะตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม และตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ” (ข้อมูลเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567) ดังนั้น การใช้ผลิตระงับกลิ่นกายใต้วงแขนไม่ได้ทำให้มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนที่เป็นที่รู้จัก และมีความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัย ทั้งนี้หากมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงเรื่องมะเร็งเต้านม ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเป็นประจำทุกปี
    Amy Onanong
     •  2 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กระชายดำแคปซูลเพิ่มสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายได้ จริงหรือ
    กระชายดำเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีการใช้ในประเทศไทยมาอย่างช้านาน โดยทั่วไปแล้วมักนำกระชายมาประกอบอาหาร และยังใช้เป็นยาสมุนไพรเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น ช่วยขับลม บรรเทาอาการจุกเสียด ใช้บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย แต่ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกระชายดำแคปซูลออกมาขายตามท้องตลาดมากมายอ้างสรรพคุณว่าเสริมสมรรถภาพทางเพศให้ผู้ชายได้ด้วย จริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    นักช้อปออนไลน์รู้ไว้ วิธีสังเกตร้านค้าว่าน่าเชื่อถือได้หรือไม่ ?
    📦นักช้อปออนไลน์รู้ไว้ ❗ วิธีสังเกตร้านค้าว่าน่าเชื่อถือได้หรือไม่❓ 👉เหล่ามิจฉาชีพแฝงตัวมาในช่องทางที่หลากหลาย ไม่เว้นแม้แต่ร้านค้าออนไลน์ ดังนั้นเราจึงต้องป้องกันตัวเองและรู้จักวิธีสังเกตร้านก่อนช้อปปิ้งออนไลน์ ✅วิธีสังเกตเบื้องต้น คือ 1. มีเพจ หรือหน้าร้านชัดเจน ตรวจสอบได้ - ร้านค้าที่ได้มาตรฐาน ขายสินค้าที่มีคุณภาพ มักมีลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อสินค้าอยู่เป็นประจำ และมีจำนวนผู้ติดตามเพจค่อนข้างมาก 2. มีช่องทางการชำระเงินหลากหลาย - ให้ลูกค้าได้เลือกวิธีชำระเงินตามที่ลูกค้าสะดวก เช่น โอนเงินเข้าบัญชี ให้ชำระเงินปลายทาง และการจ่ายผ่านบัตรเครดิต 3. มีเจ้าหน้าที่คอยตอบข้อซักถาม - ควรมีเจ้าหน้าที่แอดมินของทางร้านเข้ามาดูแลให้คำตอบโดยเร็ว โดยสามารถให้ข้อมูลอย่างละเอียดกับลูกค้าได้ 4. สินค้ามีราคาสมเหตุสมผล - ของที่ราคาถูกมาก ๆ จนผิดปกติ แนะนำให้เปรียบเทียบราคาของสินค้าในลักษณะเดียวกันกับร้านอื่น ๆ ด้วย 5. มีนโยบายคืนเงิน คืนสินค้า - ร้านที่มีนโยบายคืนเงิน คืนสินค้า ผู้ซื้อควรอ่านรายละเอียดให้เข้าใจ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง 6. มีการรีวิวที่น่าเชื่อถือจากลูกค้าอื่นๆ - ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า ลองมองหารีวิวจากลูกค้าคนอื่นๆ ด้วย ว่ามีการพูดถึงสินค้าอย่างไร รีวิวที่ดีควรมีภาพประกอบ และอธิบายความรู้สึกที่มีต่อสินค้านั้น ๆ ========================== ข้อมูลจาก PCT POLICE เพื่อรู้ทันความคิดของโจรออนไลน์ โทรปรึกษาสอบถาม 1441 หรือ 081-866-3000 แจ้งความออนไลน์ ได้ที่ https://www.thaipoliceonline.com/
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สปสช.แจ้งเตือนมิจฉาชีพแอบอ้างส่ง SMS ให้อัปเดทข้อมูลบัตรทอง มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ ย้ำอย่าหลงเชื่อ ระวังโดนแฮกข้อมูลหรือถูกหลอกให้โอนเงิน ยันบัตรทองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำหรับคนไทยทุกคน ไม่มีการตัดสิทธิแน่นอน หากสงสัยอะไรให้โทรสอบถามที่สายด่วน 1330 ก่อน
    วันที่ 31 มีนาคม 2566 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในระยะนี้พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพได้แอบอ้างชื่อ สปสช. ส่ง SMS ไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชน โดยอ้างว่า สปสช.มีนโยบายให้อัปเดทข้อมูลบัตรบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิทันที พร้อมแนบลิงก์สำหรับให้คลิกเข้าไปอัปเดทข้อมูล ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สปสช. ไม่มีนโยบายโทรหรือส่ง SMS สอบถามข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด SMS เหล่านี้ไม่ได้ส่งจาก สปสช. แต่เป็นการแอบอ้างชื่อเพื่อหลอกให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่กลุ่มมิจฉาชีพ ดังนั้น โปรดอย่าได้หลงเชื่อคลิกลิงก์ที่แนบมาด้วย เพราะมีความเสี่ยงที่อาจจะถูกแฮกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงิน หรืออาจถูกหลอกล่อด้วยวิธีการต่างๆ จนผู้เสียหายหลงโอนเงินไปให้ดังที่มักปรากฎเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้งในระยะนี้ ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สิทธิบัตรทองนั้น เป็นสิทธิที่ติดตัวตั้งแต่เกิดจนตายสำหรับคนไทยทุกคน ไม่มีการตัดสิทธิใด ๆ ทั้งสิ้น มีแต่การเปลี่ยนไปใช้สิทธิอื่น เช่น หากเข้ารับราชการก็จะเปลี่ยนมาใช้สิทธิสวัสดิการของราชการ หรือหากเข้าทำงานในบริษัทเอกชน ก็จะเปลี่ยนสิทธิมาใช้ระบบประกันสังคม และหากมีการเปลี่ยนสถานะ เช่น ลาออกจากราชการหรือลาออกจากบริษัท ก็จะเปลี่ยนกลับมาเป็นสิทธิบัตรทองโดยอัตโนมัติ แต่ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม คนไทยทุกคนจะต้องมีสิทธิการรักษาพยาบาลอย่างน้อย 1 สิทธิเสมอ ไม่มีการตัดสิทธิ/ยกเลิกสิทธิ จนกลายเป็นคนที่ไม่มีสิทธิในการรักษาพยาบาลใดๆ เลยแน่นอน “ระบบบัตรทองเป็น Social safety net หมายความว่า ถ้าคุณใช้สิทธิอะไรในการรักษาพยาบาลแล้วหลุดจากสิทธินั้น ก็จะมีระบบบัตรทองรองรับเสมอ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่มีการหมดสิทธิหรือยกเลิกสิทธิแน่นอน” ทพ.อรรถพร กล่าว ทพ.อรรถพร กล่าวย้ำว่า ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพได้พัฒนารูปแบบการหลอกลวงให้แนบเนียนมากขึ้นเรื่อยๆ มีการแอบอ้างชื่อหน่วยงานราชการเพื่อความน่าเชื่อถือ รวมทั้ง สปสช. ก็เป็นอีกหน่วยงานที่ระยะนี้ถูกแอบอ้างชื่อบ่อยครั้งมากขึ้น ทั้งการโทรมาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ สปสช. หรือการส่ง SMS อ้างชื่อ สปสช. รวมทั้งในอนาคตอาจมีการแอบอ้างในช่องทางอื่นๆอีก ดังนั้น หากประชาชนมีข้อสงสัยใดๆ ขอให้โทรตรวจสอบมาที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือสอบถามทางไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso ก่อน เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อจนสูญเสียเงิน
    std48333
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือไม่เพจธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อออนไลน์ผ่านเพจชื่อ mymo saving
    เพจ "mymo saving" มีการประกาศการปล่อยสินเชื่อออนไลน์ให้วงเงินสูงสุด 500,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,080 บาท/เดือน จากการสัมภาษณ์ คุณสุรีรัตน์ ไชยศิลา ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จังหวัดมหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อดังกล่าวว่า ธนาคารออมสินเคยมีโครงการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน mymo เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยเน้นสนับสนุนด้านการเงินให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ แต่โครงการดังกล่าวได้สิ้นสุดลงและวงเงินเต็มเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันธนาคารไม่มีการให้บริการสินเชื่อผ่านช่องทางอื่นๆ นอกจากแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่เป็นทางการของธนาคารเท่านั้น ธนาคารยืนยันว่าไม่มีการปล่อยสินเชื่อผ่านเพจดังกล่าว และโครงการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน mymo ได้ยุติลงแล้วหลังจากช่วงโควิด-19 อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ให้คำแนะนำในการป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ไว้ดังนี้ 1. ธนาคารออมสินไม่มีการส่งข้อความหรือส่งลิงก์การกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันใดๆ 2. หากได้รับข้อความหรือพบเพจที่น่าสงสัย อย่าคลิกลิงก์และไม่แอดไลน์สมัครใช้บริการ ไม่กรอกข้อมูลส่วนบุคคลและไม่แชร์ต่อเด็ดขาด 3. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์ โทร. 1115 หรือ ธนาคารสาขาใกล้บ้าน 4. ติดตามข่าวสารจากช่องทางที่เชื่อถือได้ของธนาคารเพื่อป้องกันการถูกหลอก 5. ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน แหล่งข้อมูล (https://www.gsb.or.th/services/ธนาคารออมสิน-ขอแจ้งเตือ/)
    mintsiri02
     •  17 ชั่วโมงที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    บ้านปู ร่วมกับ ก.ล.ต. เปิดโอกาสฝากหุ้นระยะยาว ปันผลกำไรมากกว่า 3%
    จากกรณีที่มีการตรวจพบข่าวสารเกี่ยวกับบริษัท บ้านปู จำกัด ร่วมกับ ก.ล.ต. เปิดโอกาสฝากหุ้นระยะยาว เริ่มต้นลงทุน 1,000 หน่วย ปันผลกำไรมากกว่า 3% ต่อสัปดาห์ ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า เป็นการให้ข้อมูลลงทุนโดยแอบอ้างใช้ชื่อบริษัทจดทะเบียนและโลโก้ ก.ล.ต. โดยไม่ได้รับอนุญาต ก.ล.ต. มีคำแนะนำเกี่ยวกับจุดสังเกตที่ต้องระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ 6 ข้อดังนี้ 1. เสนอผลตอบแทนสูงเกินจริง เร่งรัดให้ตัดสินใจลงทุน 2. คำโฆษณา ชักชวนว่า ไม่มีความรู้ก็ลงทุนได้ 3. อ้างสัญลักษณ์ ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือสมาคมที่เกี่ยวกับการลงทุน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ 4. แอบอ้างรูปดารา คนดัง หรือผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ 5. ชื่อผู้รับโอนใช้ชื่อบัญชีส่วนตัว 6. ปลอมแปลงใบอนุญาต/อ้างชื่อ/ตั้งชื่อให้ใกล้เคียงบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ
    bhoonbhoon743
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 2 คนสงสัย
    จริงหรือไม่? เว็บไซต์พนันออนไลน์ในประเทศไทยยังคงผิดกฎหมาย
    เว็บไซต์การพนันเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการเดิมพันเกมการพนันต่าง ๆ ในรูปแบบออนไลน์ที่เข้าถึงง่าย หากแต่ในประเทศไทย การพนันทุกประเภทยังถือว่าผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 (ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.royalthaipolice.go.th/ ) จากการสัมภาษณ์ ผศ.ศักดิ์ชาย สุนทรธนาภิรมย์ อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลว่า "การพนันออนไลน์ในประเทศไทยนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมายและในปัจจุบันยังไม่มีช่องทางใดที่จะสามารถจดทะเบียนหรือดำเนินการใด ๆ ให้ถูกกฎหมายได้ ไม่ว่าจะแอบอ้างว่าจดทะเบียนถูกลิขสิทธิ์จากในประเทศหรือต่างประเทศก็ยังคงผิดกฎหมาย เนื่องจากประเทศไทยไม่มีการอนุญาตให้เล่นการพนันใด ๆ ดังนั้นการที่เว็บไซต์พนันออนไลน์แอบอ้างว่ามีการจดลิขสิทธิ์หรือจดแจ้งอย่างถูกกฎหมายจึงไม่เป็นความจริง" ทั้งนี้ ผศ.ศักดิ์ชาย ยังให้คำแนะนำว่า "อย่าหลงเชื่อโฆษณาที่มาจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ เนื่องจากเว็บไซต์พนันออนไลน์มักจะมีการโฆษณาเกินจริงเพื่อดึงดูดความน่าสนใจ และหลีกเลี่ยงการเล่นพนัน เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ข้อมูลต่าง ๆ บนเว็บไซต์การพนันเหล่านั้นอาจไม่ถูกต้องหรือเป็นความจริง เนื่องจากหวังหลอกลวงเงินจากผู้ใช้ และหากพบเห็นเว็บพนันออนไลน์ สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ สายด่วน 1212 ได้ทันที" (ข้อมูลเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567) ดังนั้นแล้วเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ให้บริการในประเทศไทยยังคงผิดกฎหมาย มีโทษทั้งผู้เล่นและผู้ให้บริการ ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้ นอกจากนี้ การพนันออนไลน์ยังเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาทางการเงินและสุขภาพจิต การระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมการพนันออนไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญ (ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.mdes.go.th/home )
    thippwanlohasan.g
     •  13 วันที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    การตรวจโควิด19 ทางน้ำลาย ไม่น่าเชื่อถือ จริงหรือไม่
    การตรวจโควิด19 ด้วยน้ำลาย ไม่น่าเชื่อถือ เพราะถ้าจะตรวจทางน้ำลาย จะต้องกระแอมเอาเสมหะที่คอออกมาด้วย ไม่เช่นนั้นที่ออกมาจะคลาดเคลื่อนได้
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false